โฮโมแฮบิลิส (อังกฤษ: Homo habilis) เป็นมนุษย์เผ่า Hominini มีชีวิตอยู่ในระหว่างช่วงอายุหิน Gelasian และ Calabrian คือครึ่งแรกของสมัยไพลสโตซีนประมาณ 2.3–1.65 ล้านปีก่อน โดยอาจวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษสาย australopithecine ตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ที่เป็นแบบก็คือซากศพหมายเลข OH 7 ที่พบในปี 2503 (ค.ศ. 1960) ณ โบราณสถาน Olduvai Gorge ในประเทศแทนซาเนีย ต่อมาในปี 2507 จึงได้จัดเป็นสปีชีส์ต่างหากคือ H. habilis (แปลว่า มือชำนาญหรือคล่องแคล่ว อังกฤษ: handy man) เพราะซากดึกดำบรรพ์มักจะพบพร้อมกับเครื่องมือหินแบบ Oldowan และเชื่อว่า มนุษย์พวกนี้สามารถแปลงหินธรรมชาติให้เป็นเครื่องมือหินได้ เป็นมนุษย์สกุล Homo ที่รูปร่างสัณฐานคล้ายกับมนุษย์ปัจจุบันน้อยที่สุด (คือลักษณะบางอย่างคล้ายกับ australopithecine มากกว่า) โดยยกเว้นสปีชีส์ที่มีปัญหาจัดเข้าในสกุลมนุษย์เช่นกันคือ H. rudolfensis ตั้งแต่นั้นมา การจัดอยู่ในสกุลก็ได้สร้างข้อถกเถียงกันอย่างไม่มีที่ยุติ ขนาดที่เล็กและลักษณะล้าหลังทำให้ผู้ชำนาญการ (รวมทั้ง ริชาร์ด ลีกคีเอง) เสนอว่าควรกัน H. habilis ออกจากสกุล Homo แล้วใส่ไว้ใน Australopithecus โดยจัดเป็น Australopithecus habilis
โฮโมแฮบิลิส ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 2.3–1.65Ma | |
---|---|
Reconstruction of at the , Germany | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม |
อันดับ: | อันดับวานร |
อันดับย่อย: | |
อันดับฐาน: | |
วงศ์: | ลิงใหญ่ |
สกุล: | โฮโม Leakey et al., 1964 |
สปีชีส์: | †Homo habilis |
ชื่อทวินาม | |
†Homo habilis Leakey et al., 1964 | |
ชื่อพ้อง | |
|
มีการพบส่วนหนึ่งของกระดูกขากรรไกร (หมายเลข LD 350-1) ในปี 2556 ซึ่งหาอายุได้ 2.8 ล้านปีก่อน และอ้างว่า เป็นซากดึกดำบรรพ์ในระหว่างสกุล Australopithecus และสปีชีส์ H. habilis
การจัดเข้าในสกุล Homo
−10 — – −9 — – −8 — – −7 — – −6 — – −5 — – −4 — – −3 — – −2 — – −1 — – 0 — | (เอปคล้ายมนุษย์) Nakalipithecus Ouranopithecus Sahelanthropus Orrorin |
| ||||||||||||||||||
ขนาดที่เล็กและลักษณะล้าหลังของมนุษย์กลุ่มนี้สร้างความขัดแย้งระหว่างนักวิชาการว่า ควรจะจัดเข้าในสกุล Homo หรือ ได้เหมาะสมกว่า โดยนักวิชาการบางท่าน (รวมทั้ง ริชาร์ด ลีกคีเอง) เสนอว่าควรกัน H. habilis ออกจากสกุล Homo แล้วใส่ไว้ในกลุ่ม Australopithecus โดยเป็น Australopithecus habilis
นักบรรพมานุษยวิทยาชาวอังกฤษ-เคนยา หลุยส์ ลีกคี เป็นบุคคลแรกที่เสนอว่ามีมนุษย์จำพวกนี้ โดยภรรยาคือ แมรี ลีกคี เป็นผู้พบฟันสองซี่แรกของ H. habilis ในปี 2498 ซึ่งต่อมาระบุว่าเป็น ฟันน้ำนม ซึ่งพิจารณาว่าเป็นตัวระบุชนิดสัตว์ได้ยากโดยไม่เหมือนกับฟันแท้ ต่อมาในปี 2502 แมรีจึงได้ค้นพบกะโหลกศีรษะของเด็กชายที่มีสมองเล็ก ใบหน้าใหญ่ ฟันเขี้ยวเล็ก และฟันเคี้ยวขนาดใหญ่ ทำให้สปีชีส์นี้ได้ชื่อเล่นอีกอย่างว่า นายกะเทาะเปลือกถั่ว (อังกฤษ: The Nutcracker man)
H. habilis เตี้ยและมีแขนยาวอย่างไม่สมส่วนโดยเทียบกับมนุษย์ปัจจุบัน แต่ก็ยังมีใบหน้าที่ยื่นออกน้อยกว่า australopithecine ที่เชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษ มีปริมาตรกะโหลกศีรษะที่น้อยกว่าครึ่งของมนุษย์ปัจจุบันเล็กน้อย และแม้ว่าจะมีสัณฐานและกายที่คล้ายเอป แต่ซากของ H. habilis บ่อยครั้งอยู่ร่วมกับเครื่องมือหินแบบง่าย ๆ เช่นที่ โบราณสถาน Olduvai Gorge ประเทศแทนซาเนีย และโบราณสถาน Lake Turkana ประเทศเคนยา
H. habilis มักพิจารณาว่าเป็นบรรพบุรุษของ H. ergaster ที่ผอมงามกว่า (gracile) และฉลาดซับซ้อนมากกว่า ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของสปีชีส์ที่เหมือนมนุษย์ยิ่งขึ้น คือ H. erectus ข้อถกเถียงว่า ซากดึกดำบรรพ์ที่พบแล้วทั้งหมดได้จัดเข้ากับสปีชีส์นี้อย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ ก็ยังดำเนินต่อไป โดยมีนักบรรพมานุษยวิทยาที่มองหน่วยอนุกรมวิธานนี้ว่า เป็นโมฆะ เพราะประกอบด้วยตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ของทั้งสกุล Australopithecus และ Homo งานศึกษาปี 2550 ก็ดูจะยืนยันมุมมองว่า H. habilis และ H. erectus มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเป็นสายพันธุ์ที่สืบต่อจากบรรพบุรุษเดียวกัน แทนที่ H. erectus จะสืบสายพันธุ์มาจาก H. habilis แต่คำอธิบายที่เป็นไปได้อีกอย่างก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง H. habilis กับ H. erectus เป็นแบบแยกสาย (cladogenetic) ไม่ใช่แบบสายตรง (anagenetic) คือ กลุ่มย่อยของ H. habilis เป็นบรรพบุรุษของ H. erectus และดังนั้น กลุ่มอื่น ๆ ก็ยังดำรงเป็น H. habilis จนกระทั่งสูญพันธุ์
ขนาดสมองเฉลี่ยของมนุษย์กลุ่มนี้อยู่ที่ 610 ซม3 โดยมีขนาดระหว่าง 550-687 ซม3 ส่วนงานสร้างใหม่เสมือนที่ตีพิมพ์ในปี 2558 ประมาณปริมาตรของภายในกะโหลกระหว่าง 729-824 มล ซึ่งใหญ่กว่าขนาดที่เคยรายงานมาทั้งหมด
ขนาดสมองของ H. habilis ที่ 640 ซม³ จะใหญ่กว่าของ australopithecine ประมาณ 50% โดยเฉลี่ย แต่ก็ยังเล็กกว่าสมองมนุษย์ปัจจุบันที่ 1,330 ซม³ พอสมควร และตัวเตี้ยกว่ามนุษยปัจจุบัน โดยผู้ชายสูงเฉลี่ยที่ 1.3 เมตร
งานปี 2556 รายงานส่วนหนึ่งของกระดูกขากรรไกรที่มีอายุราว 2.8 ล้านปีก่อน พบในโบราณสถาน Ledi-Geraru ในบริเวณอะฟาร์ของเอธิโอเปีย โดยพิจารณาว่า เป็นหลักฐานเก่าแก่ที่สุดของสกุล Homo ที่พบจนถึงปีนั้น และดูเหมือนจะเป็นซากดึกดำบรรพ์ในระหว่าง Australopithecus และ H. habilis เป็นมนุษย์ที่มีชีวิตหลังจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบฉับพลัน ที่สิ่งแวดล้อมแบบป่าและทางน้ำ ได้กลายเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาอย่างรวดเร็ว
ซากดึกดำบรรพ์
OH 62
ชุดซากดึกดำบรรพ์ชุดหนึ่ง คือ OH 62 หรือ "Olduvai Hominid specimen 62" ที่ขุดพบใน Olduvai Gorge ในปี 2529 มีทั้งร่างส่วนบนส่วนล่างที่สำคัญ โดยเฉพาะ กระดูกต้นแขนและกระดูกต้นขา ซึ่งเป็นการค้นพบที่สร้างความขัดแย้งพอสมควรในช่วงนั้น การเคลื่อนที่ของ OH 62 ประเมินอาศัยสัดส่วนของแขนขา ซึ่งสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของไพรเมตที่ยังมีอยู่ โดยงานวิเคราะห์แรก ๆ มุ่งเปรียบเทียบกับ Australopithecus afarensis หมายเลข A.L. 288-1 (ที่รู้จักว่า ลูซี่) และในค่าโดยมาก ไม่ว่าจะวัดหรือประเมิน แขนของ OH 62 จะเท่าหรือเกินของ A.L. 288-1 ในขณะที่ขา (หลัก ๆ ก็คือกระดูกต้นขา) ดูเหมือนจะเล็ก/สั้นกว่า โดยเฉพาะก็คือ เมื่อประมาณความยาวของกระดูกต้นแขนว่าอยู่ที่ 264 มม. และของกระดูกต้นขาซึ่งสมบูรณ์น้อยกว่าว่า "ไม่มากกว่าของ A.L. 288-1 คือ 280 มม." ดัชนีกระดูกต้นแขน-กระดูกต้นขาก็จะอยู่ที่ 95% ซึ่งเหมือนกับชิมแปนซีปัจจุบัน (โดยมีดัชนีเฉลี่ยที่ 1.00) มากกว่ามนุษย์ปัจจุบัน (ดัชนีเฉลี่ยที่ 0.72) ในด้านนี้ กระดูกจึง "ดั้งเดิม (primitive)" กว่า A.L. 288-1 ซึ่งมีดัชนีที่ 0.85
KNM ER 1813
KNM ER 1813 เป็นกระดูกหุ้มสมองค่อนข้างสมบูรณ์ มีอายุ 1.9 ล้านปีก่อน ค้นพบที่ Koobi Fora ในเคนยาปี 2516 มีขนาดสมองที่ 510 ซม³ ซึ่งไม่น่าทึ่งเท่ากับตัวอย่าง H. habilis อื่น ๆ ที่พบ
OH 24
OH 24 (Twiggy) เป็นกระดูกหุ้มสมองที่พิกลพิการมาก มีอายุประมาณ 1.8 ล้านปีก่อน พบในปี 2511 ที่ Olduvai Gorge แทนซาเนีย ปริมาตรสมองน้อยกว่า 600 ซม³ เล็กน้อย อนึ่ง หน้ายื่นออกไปน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสมาชิกของ australopithecine ที่เก่าแก่กว่า
OH 7
OH 7 มีอายุ 1.75 ล้านปีก่อน พบโดยแมรี่และหลุยส์ ลีกคีในปี 2503 ที่ Olduvai Gorge แทนซาเนีย เป็นกระดูกขากรรไกรส่วนล่างพร้อมกับฟัน เนื่องจากขนาดฟันเล็ก นักวิจัยประมาณว่า เด็กชายผู้นี้มีปริมาตรสมองที่ 363 ซม³ ขากรรไกรนี้พร้อมกับชิ้นส่วนกว่า 20 ชิ้นจากมือซ้ายที่พบด้วยกัน ต่อมาได้ใช้เป็นซากดึกดำบรรพ์ต้นแบบ
มือของ OH 7 บวกกับลักษณะต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับการจับที่แม่นยำ และกับการปรับตัวเนื่องกับการปีน เข้ากันได้ดีกับสัดส่วนขาคล้ายมนุษย์ที่ค่อนข้างยาว และอัตราแขน-ขาที่คล้ายกับชิมแปนซีมากกว่า
KNM ER 1805
KNM ER 1805 เป็นตัวอย่างของ H. habilis ผู้หใญ่ประกอบด้วยชิ้นส่วนกระดูกหุ้มสมอง 3 ชิ้นมีอายุ 1.74 ล้านปีก่อน พบที่ Koobi Fora เคนยา ข้อสมมุติอื่น ๆ ที่เคยมีกับตัวอย่างนี้ก็คือมันเป็นของ H. erectus อาศัยความยื่นของคางและรูปร่างกระดูกหุ้มสมองโดยทั่วไป
อาหาร
ตามการวิเคราะห์การสึกหรอของเนื้อฟันระดับไมโคร (microwear-texture analysis) Homo habilis (รวมมนุษย์สกุล Homo ต้น ๆ ทั้งหมด) ไม่น่าจะเจาะจงทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งมาก ความสึกหรอที่พบโดยเฉลี่ยอยู่ระหว่างสัตว์ที่กินอาหารเหนียวแข็งและที่กินใบพืชเป็นอาหาร ค่าเหล่านี้มาจากการวิเคราะห์เปอร์เซ็นต์ของผิวฟันที่มีหลุมรูเล็ก ๆ (คือความถี่และความลึกจากความเสียหายต่อฟันเพราะทานอาหารบางอย่าง) เป็นวิธีการที่ใช้บ่อย และดังนั้นจึงได้การยอมรับอย่างกว้างขวางว่า เป็นตัวบ่งชี้การทานอาหารบางชนิด ค่าชี้ว่า Homo habilis เป็นมนุษย์ที่ทานอาหารทั่วไปเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปเป็นอาหารของสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์
การตีความ
H. habilis เชื่อว่าเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีเครื่องมือหินแบบ Olduwan เพื่อฆ่าและแล่หนังสัตว์ เป็นเครื่องมือที่ล้ำหน้ากว่าเครื่องมืออื่น ๆ ที่เคยใช้มาทั้งหมด ทำให้ได้เปรียบในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ก่อนหน้านี้ยากเกินสำหรับสัตว์อันดับวานร H. habilis จะเป็นสายพันธุ์มนุษย์แรกที่สามารถใช้เครื่องมือหินหรือไม่ ยังเป็นเรื่องไม่ชัดเจนเพราะแม้แต่ Australopithecus garhi ซึ่งมีอายุประมาณ 2.6 ล้านปีก่อน ก็ยังพบพร้อมกับเครื่องมือหินด้วย
ขนาดข้อต่อของแขนขาของมนุษย์จำพวกนี้คล้ายกับ A. afarensis มากกว่ามนุษย์พวกอื่น ๆ ซึ่งอาจแสดงนัยว่า บางที H. sapiens อาจไม่คล้ายกับมนุษย์พวกนี้จริง ๆ ตามที่เสนอ สัดส่วนร่างกายของมนุษย์พวกนี้สมกับกะโหลกศีรษะและฟัน และแสดงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ H. erectus
ผู้ชำนาญการโดยมากสมมุติว่า ทั้งเชาว์ปัญญาและโครงสร้างทางสังคมของมนุษย์กลุ่มนี้ ซับซ้อนกว่าของ australopithecine หรือลิงชิมแปนซีโดยทั่วไป H. habilis ใช้เครื่องมือโดยหลักเพื่อหากินซากสัตว์ เช่น ตัดเนื้อออกจากซากสัตว์ ไม่ใช่เพื่อป้องกันตัวหรือล่าสัตว์ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะใช้เครื่องมือ มนุษย์กลุ่มนี้ก็ยังไม่ชำนาญการล่าสัตว์เหมือนกับมนุษย์กลุ่มอื่น ๆ เพราะหลักฐานดึกดำบรรพ์จำนวนมากแสดงว่า มนุษย์กลุ่มนี้เป็นอาหารของสัตว์ล่าเหยื่อขนาดใหญ่ เช่น เสือเขี้ยวดาบสกุล Dinofelis ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับเสือจากัวร์ (ใหญ่ที่สุด 135 กก. ยาวจากจมูกถึงปลายหาง 2.7 เมตร)
มนุษย์กลุ่มนี้อยู่กับไพรเมตคล้ายมนุษย์อื่น ๆ รวมทั้ง Paranthropus boisei ที่บางกลุ่มอยู่ได้เป็นพัน ๆ ปี แต่อาจเป็นเพราะนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการทานอาหารที่เฉพาะเจาะจงน้อยกว่า H. habilis จึงได้กลายเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์สปีชีส์ต่าง ๆ จำนวนหนึ่ง เทียบกับ P. boisei และ robust australopithecine ที่หายไปจากบันทึกซากดึกดำบรรพ์ และยังอาจอยู่ร่วมกัน H. erectus ในแอฟริกาเป็นเวลากว่า 500,000 ปี
ดูเพิ่ม
- รายการซากดึกดำบรรพ์สายพันธุ์มนุษย์ พร้อมรูป
เชิงอรรถและอ้างอิง
- Antón, S. C. (2012). "Early Homo: Who, When, and Where". Current Anthropology. 53 (6): 279. doi:10.1086/667695.
- Schrenk, Friedemann; Kullmer, Ottmar; Bromage, Timothy (2007). Henke, Winfried; Tattersall, Ian (บ.ก.). The Earliest Putative Homo Fossils. Handbook of Paleoanthropology. pp. 1611–1631. doi:10.1007/978-3-540-33761-4_52. พิสัยอายุเหลื่อมล้ำกับของ Homo erectus ดู "Fossils in Kenya Challenge Linear Evolution". New York Times. 9 August 2007.
- Wood, Bernard (3 April 2014). "Fifty Years After Homo habilis". Nature: 31–33.
- Collard, Mark; Wood, Bernard (2015). "Defining the Genus Homo". p. 2137.
Wood and Collard’s (1999) proposal to remove H. habilis and H. rudolfensis from Homo and assign them to a different genus or pair of genera remains valid.
- Miller, J.M.A. (2000). "Craniofacial variation in Homo habilis: an analysis of the evidence for multiple species". American Journal of Physical Anthropology. 112 (1): 103–128. doi:10.1002/(SICI)1096-8644(200005)112:1<103::AID-AJPA10>3.0.CO;2-6. PMID 10766947.
- doi:10.1126/science.aaa1343
This citation will be automatically completed in the next few minutes. You can jump the queue or expand by hand See also- "Oldest known member of human family found in Ethiopia". New Scientist. 4 March 2015. สืบค้นเมื่อ 7 March 2015.,
- Ghosh, Pallab (4 March 2015). "'First human' discovered in Ethiopia". bbc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 7 March 2015.
- Wood, Bernard; Richmond, Brian G; Richmond, BG (2000). "Human evolution: taxonomy and paleobiology". Journal of Anatomy. 197 (Pt 1): 19–60. doi:10.1046/j.1469-7580.2000.19710019.x. PMC 1468107. PMID 10999270.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () p. 41: "A recent reassessment of cladistic and functional evidence concluded that there are few, if any, grounds for retaining H. habilis in Homo, and recommended that the material be transferred (or, for some, returned) to Australopithecus (Wood & Collard, 1999)." - "Homo habilis". Australian Museum. 16 September 2013. สืบค้นเมื่อ 9 September 2014.
- Tattersall, I; Schwartz, JH (2001). Extinct Humans. New York: Westview Press. p. 111.
- Spoor, F; Leakey, MG; Gathogo, PN; Brown, FH; Antón, SC; McDougall, I; Kiarie, C; Manthi, FK; Leakey, LN (9 August 2007). "Implications of new early Homo fossils from Ileret, east of Lake Turkana, Kenya". Nature. 448 (7154): 688–691. doi:10.1038/nature05986. PMID 17687323.
- Spoor, F; Leakey, MG; Gathogo, PN; Brown, FH; Antón, SC; McDougall, I; Kiarie, C; Manthi, FK; Leakey, LN (9 August 2007). "Implications of new early Homo fossils from Ileret, east of Lake Turkana, Kenya". Nature. 448 (7154): 688–691. doi:10.1038/nature05986. PMID 17687323. "A partial maxilla assigned to H. habilis reliably demonstrates that this species survived until later than previously recognized, making an anagenetic relationship with H. erectus unlikely" (Emphasis added).
- Brown, Graham; Fairfax, Stephanie; Sarao, Nidhi (2006). . Tree of Life Web Project: Human Evolution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2020. สืบค้นเมื่อ 8 September 2014.
- Spoor, F; Gunz, P; Neubauer, S; Stelzer, S; Scott, N; Kwekason, A; Dean, MC (2015). "Reconstructed Homo habilis type OH 7 suggests deep-rooted species diversity in early Homo". Nature. 519 (7541): 83–86. doi:10.1038/nature14224. PMID 25739632.
- "Vertebrate fossils record a faunal turnover indicative of more open and probable arid habitats than those reconstructed earlier in this region, in broad agreement with hypotheses addressing the role of environmental forcing in hominin evolution at this time." EN, Erin N DiMaggio; Campisano, CJ; Rowan, J; Dupont-Nivet, G; Deino, AL (2015). "Late Pliocene fossiliferous sedimentary record and the environmental context of early Homo from Afar, Ethiopia". Science. 347: 1355–9. doi:10.1126/science.aaa1415. PMID 25739409.
- Johanson, Donald C; Masao, Fidelis T; Eck, Gerald G; White, Tim D; Walter, Robert C; Kimbel, William H; Asfaw, Berhane; Manega, Paul; Ndessokia, Prosper; Suwa, Gen (21 May 1987). "New partial skeleton of Homo habilis from Olduvai Gorge, Tanzania". Nature. 327 (6119): 205–209. doi:10.1038/327205a0. PMID 3106831.
- Wood, Bernard (21 May 1987). "Who is the 'real' Homo habilis?". Nature. 327 (6119): 187–188. doi:10.1038/327187a0. PMID 3106828.
- Ruff, Christopher (2009). "Relative Limb Strength and Locomotion in Homo habilis". American Journal of Physical Anthropology. 138: 90–100.
- Ungar, Peter (9 February 2012). "Dental Evidence for the Reconstruction of Diet in African Early Homo". Current Anthropology. 53: S318–S329. doi:10.1086/666700.
- Ungar, Peter; Grine, Frederick; Teaford, Mark; Zaatari, Sireen (2006-01-01). "Dental Microwear and Diets of African Early Homo". Journal of Human Evolution. 50: 78–95. doi:10.1016/j.jhevol.2005.08.007.
- Pollard, Elizabeth. Worlds Together, Worlds Apart. New York. p. 11. ISBN .
- Haeusler, Martin (April 2004). "Body Proportions of Homo Habilis Reviewed". Journal of Human Evolution. 46 (4): 433–465.
- Mayell, Hillary. "Killer Cats Hunted Human Ancestors". National Geographic News. สืบค้นเมื่อ 15 February 2008.
- Urquhart, James (8 August 2007). "Finds test human origins theory". BBC News. สืบค้นเมื่อ 27 July 2007.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Early Humans (Roy A. Gallant) /Copyright 2000
- The Making of Mankind, Richard E. Leakey, Elsevier-Dutton Publishing Company, Inc., Copyright 1981, , LC Catalog Number 81-664544.
- A New Species of Genus Homo from Olduvai Gorge (PDF), L.S.B. Leakey; P.V. Tobias; J.R. Napier, Current Anthropology, Vol.6, No.4, (Oct 1965)
- Fifty Years After Homo habilis (PDF), Bernard Wood, Nature, Vol. 508, (3 April 2014)
- Relative Limb Strength and Locomotion in Homo habilis (PDF), Christopher Ruff, American Journal of Physical Anthropology 138:90-100 (2009)
- Archaeology Info 26 พฤษภาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- MNSU[]
- Homo habilis - The Smithsonian Institution's Human Origins Program
- BBC:Food for thought
- Human Timeline (Interactive) - Smithsonian, National Museum of Natural History (August 2016).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ohomaehbilis xngkvs Homo habilis epnmnusyepha Hominini michiwitxyuinrahwangchwngxayuhin Gelasian aela Calabrian khuxkhrungaerkkhxngsmyiphlsotsinpraman 2 3 1 65 lanpikxn odyxacwiwthnakarmacakbrrphburussay australopithecine twxyangsakdukdabrrphthiepnaebbkkhuxsaksphhmayelkh OH 7 thiphbinpi 2503 kh s 1960 n obransthan Olduvai Gorge inpraethsaethnsaeniy txmainpi 2507 cungidcdepnspichistanghakkhux H habilis aeplwa muxchanayhruxkhlxngaekhlw xngkvs handy man ephraasakdukdabrrphmkcaphbphrxmkbekhruxngmuxhinaebb Oldowan aelaechuxwa mnusyphwknisamarthaeplnghinthrrmchatiihepnekhruxngmuxhinid epnmnusyskul Homo thiruprangsnthankhlaykbmnusypccubnnxythisud khuxlksnabangxyangkhlaykb australopithecine makkwa odyykewnspichisthimipyhacdekhainskulmnusyechnknkhux H rudolfensis tngaetnnma karcdxyuinskulkidsrangkhxthkethiyngknxyangimmithiyuti khnadthielkaelalksnalahlngthaihphuchanaykar rwmthng richard likkhiexng esnxwakhwrkn H habilis xxkcakskul Homo aelwisiwin Australopithecus odycdepn Australopithecus habilisohomaehbilis chwngewlathimichiwitxyu 2 3 1 65Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N Reconstruction of at the Germanykarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stweliynglukdwynmxndb xndbwanrxndbyxy chbbrang Haplorhinixndbthan Simiiformeswngs lingihyskul ohom Leakey et al 1964spichis Homo habilischuxthwinam Homo habilis Leakey et al 1964chuxphxngAustralopithecus habilis Wood and Collard 1999 1995 Curnoe 2010 Alexeev 1986 mikarphbswnhnungkhxngkradukkhakrrikr hmayelkh LD 350 1 inpi 2556 sunghaxayuid 2 8 lanpikxn aelaxangwa epnsakdukdabrrphinrahwangskul Australopithecus aelaspichis H habiliskarcdekhainskul Homokalanukrmmnusyklxngni duaek 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 expkhlaymnusyNakalipithecusOuranopithecusSahelanthropusOrrorinArdipithecusHomo habilisHomo erectusNeanderthalHomo sapiens expkxn xacedinsxngetha edinsxngetha aerksud ekhruxngmuxhin aerksud xxkcak aexfrikaaerksud ichifaerksud hungxaharaerksud esuxphaaerksud mnusypccubnP l e i s t o c e n eP l i o c e n eM i o c e n eH o m i n i d smatraswn lanpi khnadthielkaelalksnalahlngkhxngmnusyklumnisrangkhwamkhdaeyngrahwangnkwichakarwa khwrcacdekhainskul Homo hrux idehmaasmkwa odynkwichakarbangthan rwmthng richard likkhiexng esnxwakhwrkn H habilis xxkcakskul Homo aelwisiwinklum Australopithecus odyepn Australopithecus habilis nkbrrphmanusywithyachawxngkvs ekhnya hluys likkhi epnbukhkhlaerkthiesnxwamimnusycaphwkni odyphrryakhux aemri likkhi epnphuphbfnsxngsiaerkkhxng H habilis inpi 2498 sungtxmarabuwaepn fnnanm sungphicarnawaepntwrabuchnidstwidyakodyimehmuxnkbfnaeth txmainpi 2502 aemricungidkhnphbkaohlksirsakhxngedkchaythimismxngelk ibhnaihy fnekhiywelk aelafnekhiywkhnadihy thaihspichisniidchuxelnxikxyangwa naykaethaaepluxkthw xngkvs The Nutcracker man H habilis etiyaelamiaekhnyawxyangimsmswnodyethiybkbmnusypccubn aetkyngmiibhnathiyunxxknxykwa australopithecine thiechuxwaepnbrrphburus miprimatrkaohlksirsathinxykwakhrungkhxngmnusypccubnelknxy aelaaemwacamisnthanaelakaythikhlayexp aetsakkhxng H habilis bxykhrngxyurwmkbekhruxngmuxhinaebbngay echnthi obransthan Olduvai Gorge praethsaethnsaeniy aelaobransthan Lake Turkana praethsekhnya H habilis mkphicarnawaepnbrrphburuskhxng H ergaster thiphxmngamkwa gracile aelachladsbsxnmakkwa sungepnbrrphburuskhxngspichisthiehmuxnmnusyyingkhun khux H erectus khxthkethiyngwa sakdukdabrrphthiphbaelwthnghmdidcdekhakbspichisnixyangthuktxngaelwhruxim kyngdaenintxip odyminkbrrphmanusywithyathimxnghnwyxnukrmwithanniwa epnomkha ephraaprakxbdwytwxyangsakdukdabrrphkhxngthngskul Australopithecus aela Homo ngansuksapi 2550 kducayunynmummxngwa H habilis aela H erectus michiwitxyuinchwngewlaediywkn odyepnsayphnthuthisubtxcakbrrphburusediywkn aethnthi H erectus casubsayphnthumacak H habilis aetkhaxthibaythiepnipidxikxyangkkhux khwamsmphnthrahwang H habilis kb H erectus epnaebbaeyksay cladogenetic imichaebbsaytrng anagenetic khux klumyxykhxng H habilis epnbrrphburuskhxng H erectus aeladngnn klumxun kyngdarngepn H habilis cnkrathngsuyphnthu khnadsmxngechliykhxngmnusyklumnixyuthi 610 sm3 odymikhnadrahwang 550 687 sm3 swnngansrangihmesmuxnthitiphimphinpi 2558 pramanprimatrkhxngphayinkaohlkrahwang 729 824 ml sungihykwakhnadthiekhyraynganmathnghmd khnadsmxngkhxng H habilis thi 640 sm caihykwakhxng australopithecine praman 50 odyechliy aetkyngelkkwasmxngmnusypccubnthi 1 330 sm phxsmkhwr aelatwetiykwamnusypccubn odyphuchaysungechliythi 1 3 emtr nganpi 2556 raynganswnhnungkhxngkradukkhakrrikrthimixayuraw 2 8 lanpikxn phbinobransthan Ledi Geraru inbriewnxafarkhxngexthioxepiy odyphicarnawa epnhlkthanekaaekthisudkhxngskul Homo thiphbcnthungpinn aeladuehmuxncaepnsakdukdabrrphinrahwang Australopithecus aela H habilis epnmnusythimichiwithlngcakkarepliynaeplngsphaphxakasaebbchbphln thisingaewdlxmaebbpaaelathangna idklayepnthunghyasawnnaxyangrwderw aebbthxdkaohlksirsakhxng Homo habilis khwasudepnkhxng Paranthropus boisei n phiphiththphnthsthanxinediysakdukdabrrphOH 62 chudsakdukdabrrphchudhnung khux OH 62 hrux Olduvai Hominid specimen 62 thikhudphbin Olduvai Gorge inpi 2529 mithngrangswnbnswnlangthisakhy odyechphaa kraduktnaekhnaelakraduktnkha sungepnkarkhnphbthisrangkhwamkhdaeyngphxsmkhwrinchwngnn karekhluxnthikhxng OH 62 praeminxasysdswnkhxngaekhnkha sungsmphnthkbkarekhluxnthikhxngiphremtthiyngmixyu odynganwiekhraahaerk mungepriybethiybkb Australopithecus afarensis hmayelkh A L 288 1 thiruckwa lusi aelainkhaodymak imwacawdhruxpraemin aekhnkhxng OH 62 caethahruxekinkhxng A L 288 1 inkhnathikha hlk kkhuxkraduktnkha duehmuxncaelk snkwa odyechphaakkhux emuxpramankhwamyawkhxngkraduktnaekhnwaxyuthi 264 mm aelakhxngkraduktnkhasungsmburnnxykwawa immakkwakhxng A L 288 1 khux 280 mm dchnikraduktnaekhn kraduktnkhakcaxyuthi 95 sungehmuxnkbchimaepnsipccubn odymidchniechliythi 1 00 makkwamnusypccubn dchniechliythi 0 72 indanni kradukcung dngedim primitive kwa A L 288 1 sungmidchnithi 0 85 KNM ER 1813KNM ER 1813 KNM ER 1813 epnkradukhumsmxngkhxnkhangsmburn mixayu 1 9 lanpikxn khnphbthi Koobi Fora inekhnyapi 2516 mikhnadsmxngthi 510 sm sungimnathungethakbtwxyang H habilis xun thiphb OH 24 OH 24 Twiggy epnkradukhumsmxngthiphiklphikarmak mixayupraman 1 8 lanpikxn phbinpi 2511 thi Olduvai Gorge aethnsaeniy primatrsmxngnxykwa 600 sm elknxy xnung hnayunxxkipnxykwaemuxethiybkbsmachikkhxng australopithecine thiekaaekkwa OH 7 OH 7 mixayu 1 75 lanpikxn phbodyaemriaelahluys likkhiinpi 2503 thi Olduvai Gorge aethnsaeniy epnkradukkhakrrikrswnlangphrxmkbfn enuxngcakkhnadfnelk nkwicypramanwa edkchayphunimiprimatrsmxngthi 363 sm khakrrikrniphrxmkbchinswnkwa 20 chincakmuxsaythiphbdwykn txmaidichepnsakdukdabrrphtnaebb muxkhxng OH 7 bwkkblksnatang thismphnthkbkarcbthiaemnya aelakbkarprbtwenuxngkbkarpin ekhakniddikbsdswnkhakhlaymnusythikhxnkhangyaw aelaxtraaekhn khathikhlaykbchimaepnsimakkwa KNM ER 1805 KNM ER 1805 epntwxyangkhxng H habilis phuhiyprakxbdwychinswnkradukhumsmxng 3 chinmixayu 1 74 lanpikxn phbthi Koobi Fora ekhnya khxsmmutixun thiekhymikbtwxyangnikkhuxmnepnkhxng H erectus xasykhwamyunkhxngkhangaelaruprangkradukhumsmxngodythwipxahartamkarwiekhraahkarsukhrxkhxngenuxfnradbimokhr microwear texture analysis Homo habilis rwmmnusyskul Homo tn thnghmd imnacaecaacngthanxaharthiehniywhruxaekhngmak khwamsukhrxthiphbodyechliyxyurahwangstwthikinxaharehniywaekhngaelathikinibphuchepnxahar khaehlanimacakkarwiekhraahepxresntkhxngphiwfnthimihlumruelk khuxkhwamthiaelakhwamlukcakkhwamesiyhaytxfnephraathanxaharbangxyang epnwithikarthiichbxy aeladngnncungidkaryxmrbxyangkwangkhwangwa epntwbngchikarthanxaharbangchnid khachiwa Homo habilis epnmnusythithanxaharthwipephimkhun odythwipepnxaharkhxngstwkinthngphuchaelastwkartikhwamH habilis echuxwaepnphuichethkhonolyiekhruxngmuxhinaebb Olduwan ephuxkhaaelaaelhnngstw epnekhruxngmuxthilahnakwaekhruxngmuxxun thiekhyichmathnghmd thaihidepriybinkarxyuinsingaewdlxmthikxnhnaniyakekinsahrbstwxndbwanr H habilis caepnsayphnthumnusyaerkthisamarthichekhruxngmuxhinhruxim yngepneruxngimchdecnephraaaemaet Australopithecus garhi sungmixayupraman 2 6 lanpikxn kyngphbphrxmkbekhruxngmuxhindwy khnadkhxtxkhxngaekhnkhakhxngmnusycaphwknikhlaykb A afarensis makkwamnusyphwkxun sungxacaesdngnywa bangthi H sapiens xacimkhlaykbmnusyphwknicring tamthiesnx sdswnrangkaykhxngmnusyphwknismkbkaohlksirsaaelafn aelaaesdngkhwamsmphnthxyangiklchidkb H erectus ibhnaodypramankhxng Homo habilis phuchanaykarodymaksmmutiwa thngechawpyyaaelaokhrngsrangthangsngkhmkhxngmnusyklumni sbsxnkwakhxng australopithecine hruxlingchimaepnsiodythwip H habilis ichekhruxngmuxodyhlkephuxhakinsakstw echn tdenuxxxkcaksakstw imichephuxpxngkntwhruxlastw xyangirkdi aemwacaichekhruxngmux mnusyklumnikyngimchanaykarlastwehmuxnkbmnusyklumxun ephraahlkthandukdabrrphcanwnmakaesdngwa mnusyklumniepnxaharkhxngstwlaehyuxkhnadihy echn esuxekhiywdabskul Dinofelis sungmikhnadphx kbesuxcakwr ihythisud 135 kk yawcakcmukthungplayhang 2 7 emtr mnusyklumnixyukbiphremtkhlaymnusyxun rwmthng Paranthropus boisei thibangklumxyuidepnphn pi aetxacepnephraanwtkrrmthangethkhonolyiaelakarthanxaharthiechphaaecaacngnxykwa H habilis cungidklayepnbrrphburuskhxngmnusyspichistang canwnhnung ethiybkb P boisei aela robust australopithecine thihayipcakbnthuksakdukdabrrph aelayngxacxyurwmkn H erectus inaexfrikaepnewlakwa 500 000 piduephimraykarsakdukdabrrphsayphnthumnusy phrxmrupechingxrrthaelaxangxingAnton S C 2012 Early Homo Who When and Where Current Anthropology 53 6 279 doi 10 1086 667695 Schrenk Friedemann Kullmer Ottmar Bromage Timothy 2007 Henke Winfried Tattersall Ian b k The Earliest PutativeHomoFossils Handbook of Paleoanthropology pp 1611 1631 doi 10 1007 978 3 540 33761 4 52 phisyxayuehluxmlakbkhxng Homo erectus du Fossils in Kenya Challenge Linear Evolution New York Times 9 August 2007 Wood Bernard 3 April 2014 Fifty Years After Homo habilis Nature 31 33 Collard Mark Wood Bernard 2015 Defining the Genus Homo p 2137 Wood and Collard s 1999 proposal to remove H habilis and H rudolfensis from Homo and assign them to a different genus or pair of genera remains valid Miller J M A 2000 Craniofacial variation in Homo habilis an analysis of the evidence for multiple species American Journal of Physical Anthropology 112 1 103 128 doi 10 1002 SICI 1096 8644 200005 112 1 lt 103 AID AJPA10 gt 3 0 CO 2 6 PMID 10766947 doi 10 1126 science aaa1343 This citation will be automatically completed in the next few minutes You can jump the queue or expand by hand See also Oldest known member of human family found in Ethiopia New Scientist 4 March 2015 subkhnemux 7 March 2015 Ghosh Pallab 4 March 2015 First human discovered in Ethiopia bbc co uk subkhnemux 7 March 2015 Wood Bernard Richmond Brian G Richmond BG 2000 Human evolution taxonomy and paleobiology Journal of Anatomy 197 Pt 1 19 60 doi 10 1046 j 1469 7580 2000 19710019 x PMC 1468107 PMID 10999270 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk p 41 A recent reassessment of cladistic and functional evidence concluded that there are few if any grounds for retaining H habilis in Homo and recommended that the material be transferred or for some returned to Australopithecus Wood amp Collard 1999 Homo habilis Australian Museum 16 September 2013 subkhnemux 9 September 2014 Tattersall I Schwartz JH 2001 Extinct Humans New York Westview Press p 111 Spoor F Leakey MG Gathogo PN Brown FH Anton SC McDougall I Kiarie C Manthi FK Leakey LN 9 August 2007 Implications of new early Homo fossils from Ileret east of Lake Turkana Kenya Nature 448 7154 688 691 doi 10 1038 nature05986 PMID 17687323 Spoor F Leakey MG Gathogo PN Brown FH Anton SC McDougall I Kiarie C Manthi FK Leakey LN 9 August 2007 Implications of new early Homo fossils from Ileret east of Lake Turkana Kenya Nature 448 7154 688 691 doi 10 1038 nature05986 PMID 17687323 A partial maxilla assigned to H habilis reliably demonstrates that this species survived until later than previously recognized making an anagenetic relationship with H erectus unlikely Emphasis added Brown Graham Fairfax Stephanie Sarao Nidhi 2006 Tree of Life Web Project Human Evolution khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 June 2020 subkhnemux 8 September 2014 Spoor F Gunz P Neubauer S Stelzer S Scott N Kwekason A Dean MC 2015 Reconstructed Homo habilis type OH 7 suggests deep rooted species diversity in early Homo Nature 519 7541 83 86 doi 10 1038 nature14224 PMID 25739632 Vertebrate fossils record a faunal turnover indicative of more open and probable arid habitats than those reconstructed earlier in this region in broad agreement with hypotheses addressing the role of environmental forcing in hominin evolution at this time EN Erin N DiMaggio Campisano CJ Rowan J Dupont Nivet G Deino AL 2015 Late Pliocene fossiliferous sedimentary record and the environmental context of early Homo from Afar Ethiopia Science 347 1355 9 doi 10 1126 science aaa1415 PMID 25739409 Johanson Donald C Masao Fidelis T Eck Gerald G White Tim D Walter Robert C Kimbel William H Asfaw Berhane Manega Paul Ndessokia Prosper Suwa Gen 21 May 1987 New partial skeleton of Homo habilis from Olduvai Gorge Tanzania Nature 327 6119 205 209 doi 10 1038 327205a0 PMID 3106831 Wood Bernard 21 May 1987 Who is the real Homo habilis Nature 327 6119 187 188 doi 10 1038 327187a0 PMID 3106828 Ruff Christopher 2009 Relative Limb Strength and Locomotion in Homo habilis American Journal of Physical Anthropology 138 90 100 Ungar Peter 9 February 2012 Dental Evidence for the Reconstruction of Diet in African Early Homo Current Anthropology 53 S318 S329 doi 10 1086 666700 Ungar Peter Grine Frederick Teaford Mark Zaatari Sireen 2006 01 01 Dental Microwear and Diets of African Early Homo Journal of Human Evolution 50 78 95 doi 10 1016 j jhevol 2005 08 007 Pollard Elizabeth Worlds Together Worlds Apart New York p 11 ISBN 978 0 393 91847 2 Haeusler Martin April 2004 Body Proportions of Homo Habilis Reviewed Journal of Human Evolution 46 4 433 465 Mayell Hillary Killer Cats Hunted Human Ancestors National Geographic News subkhnemux 15 February 2008 Urquhart James 8 August 2007 Finds test human origins theory BBC News subkhnemux 27 July 2007 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ohomaehbilis wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Homo habilis Early Humans Roy A Gallant Copyright 2000 ISBN 0 7614 0960 2 The Making of Mankind Richard E Leakey Elsevier Dutton Publishing Company Inc Copyright 1981 ISBN 0 525 15055 2 LC Catalog Number 81 664544 A New Species of Genus Homo from Olduvai Gorge PDF L S B Leakey P V Tobias J R Napier Current Anthropology Vol 6 No 4 Oct 1965 Fifty Years After Homo habilis PDF Bernard Wood Nature Vol 508 3 April 2014 Relative Limb Strength and Locomotion in Homo habilis PDF Christopher Ruff American Journal of Physical Anthropology 138 90 100 2009 Archaeology Info 26 phvsphakhm 2011 thi ewyaebkaemchchin MNSU lingkesiy Homo habilis The Smithsonian Institution s Human Origins Program BBC Food for thought Human Timeline Interactive Smithsonian National Museum of Natural History August 2016 sthaniyxy withyasastr