แฮร์มัน วิลเฮ็ล์ม เกอริง (เยอรมัน: Hermann Wilhelm Göring) เป็นผู้นำทางทหารของไรช์ที่สามที่ตำแหน่งจอมพลไรช์ และยังเป็นผู้นำระดับสูงของพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน (พรรคนาซี) เขามีบทบาทสำคัญในการขยายระบบเผด็จการของพรรคนาซีให้ครอบคลุมทั่วเยอรมนี รวมทั้งสร้างเสริมแสนยานุภาพทางทหารของเยอรมนีโดยเฉพาะกองทัพอากาศให้มีความแข็งแกร่ง ภายหลังนาซีล่มสลาย เขาถูกตัดสินประหารชีวิตในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ค แต่เขาก็จบชีวิตตนเองด้วยการกลืนไซยาไนด์ก่อนหน้าการประหารชีวิตไม่กี่ชั่วโมง และก่อนกลืนไซยาไนด์เขาได้ตระโกนว่า "ไฮล์ ฮิตเลอร์"
แฮร์มัน เกอริง Hermann Göring | |
---|---|
ประธานไรชส์ทาค | |
ดำรงตำแหน่ง 30 สิงหาคม ค.ศ. 1932 – 23 เมษายน ค.ศ. 1945 | |
ประธานาธิบดี |
|
หัวหน้ารัฐบาล |
|
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | ไม่มี; ตำแหน่งถูกยุบเลิก |
มุขมนตรีเสรีรัฐปรัสเซีย | |
ดำรงตำแหน่ง 10 เมษายน ค.ศ. 1933 – 23 เมษายน ค.ศ. 1945 | |
ผู้ว่าการ |
|
ก่อนหน้า | ฟรันทซ์ ฟ็อน พาเพิน |
ถัดไป | ไม่มี; ปรัสเซียถูกยุบ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี | |
ดำรงตำแหน่ง 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1937 – 15 มกราคม ค.ศ. 1938 | |
หัวหน้ารัฐบาล | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
ก่อนหน้า | ฮยัลมาร์ ชัคท์ |
ถัดไป | วัลเทอร์ ฟุงค์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเดินอากาศเยอรมนี | |
ดำรงตำแหน่ง 27 เมษายน ค.ศ. 1933 – 23 เมษายน ค.ศ. 1945 | |
ประธานาธิบดี | |
หัวหน้ารัฐบาล | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ถัดไป | โรแบร์ท ริทเทอร์ ฟอน ไกรม์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป่าไม้เยอรมนี | |
ดำรงตำแหน่ง กรกฎาคม ค.ศ. 1934 – 23 เมษายน ค.ศ. 1945 | |
ประธานาธิบดี | |
หัวหน้ารัฐบาล | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ถัดไป | ไม่มี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | แฮร์มัน วิลเฮ็ล์ม เกอริง 12 มกราคม ค.ศ. 1893 โรเซินไฮม์ ราชอาณาจักรบาวาเรีย เยอรมนี |
เสียชีวิต | 15 ตุลาคม ค.ศ. 1946 เนือร์นแบร์ค, เยอรมนี | (53 ปี)
สาเหตุการเสียชีวิต | ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษไซยาไนด์ |
พรรคการเมือง | พรรคนาซี (1922–45) |
คู่สมรส |
|
บุตร | |
อาชีพ |
|
รัฐบาล | |
รางวัล | |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ |
|
สังกัด | |
ประจำการ |
|
ยศ | |
บังคับบัญชา | ลุฟท์วัฟเฟอ (1935–45) |
สงคราม/การสู้รบ |
|
ชีวิตช่วงเยาว์วัย
เกอริงเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 1893 ที่เมืองโรเซินไฮม์ ราชอาณาจักรบาวาเรีย จักรวรรดิเยอรมัน เป็นบุตรคนที่ 2 ของภรรยาคนที่ 2 ของไฮม์ริช เกอริง ซึ่งเป็นกงสุลใหญ่เยอรมันประจำเกาะเฮติ ขณะเป็นเด็กเขาไม่ได้อยู่กับบิดาแต่ได้รับเลี้ยงดูในปราสาทเล็กๆ ชื่อเฟลเดนชไตน์ (Veldenstein) ของ ริทเทอร์ ฟอน เอเพนชไตน์ แฮร์มัน ชาวยิว ซึ่งเป็นชู้รักของมารดาและเป็นพ่อทูนหัวของเขา ต่อมาในปี 1896 ขณะอายุ 3 ปี บิดาปลดเกษียณ ครอบครัวเกอริงจึงอยู่ร่วมกันอีกครั้งในเยอรมนี
การศึกษา
เขาเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยการทหารในเมืองคาลส์รูเออ และเข้ารับราชการในปี 1912 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เขามียศเป็นร้อยโทในอาลซัส-ลอแรน ก่อนที่จะย้ายไปสังกัดกองทัพอากาศ เขาเป็นนักบินที่มีความสามารถและได้รับเหรียญ และกางเขนเหล็กชั้น 1
เกอริง, พระยาพหลพลพยุหเสนา และฮิเดะกิ โทโจ ต่างรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่สถาบันนายร้อยส่วนกลาง (Hauptkadettenanstalt) ในกรุงเบอร์ลิน โดยกลุ่มของเกอริง, กลุ่มของพระยาพหลฯ และกลุ่มของโทโจ มักประลองดาบกันเสมอ เกอริงเป็นคนตัวใหญ่ชอบเล่นแรง จนครั้งหนึ่งเขาถูกน.น.ร.น้อม (พลตรีพระศักดาพลรักษ์) ชกจนฟันหัก
ชีวิตและบทบาทในกองทัพนาซีเยอรมัน
ในช่วงความวุ่นวายภายหลังจากความพ่ายแพ้ของเยอรมนี เขารู้สึกขัดเคืองใจต่อการที่นายทหารถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายจากพลเรือน เขาจึงไปทำงานเป็นนักบินพานิชย์ในเดนมาร์กและสวีเดน ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินสวีเดน และมีโอกาสได้พบกับบารอนเนสคาริน ฟอน โรเชิน (Baroness Carin von Rosen) สตรีผู้สูงศักดิ์ชาวสวีเดนซึ่งหย่าขาดจากสามี เขาได้แต่งงานกับบารอนเนสคารินที่นครมิวนิกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1922 ในปีเดียวกัน เขาได้ร่วมกับพรรคนาซี และเนื่องจากมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษในสงคราม ฮิตเลอร์จึงมอบหมายให้เขาบังคับบัญชาหน่วยชตวร์มอัพไทลุง (SA) ซึ่งเป็นกองกำลังของพรรคนาซี
ในเดือนพฤศจิกายน 1923 พวกนาซีได้ก่อเหตุกบฏโรงเบียร์ ซึ่งฮิตเลอร์พยายามยึดอำนาจทั้งที่ยังไม่พร้อม การกบฏจึงล้มเหลว เขาจึงได้รับบาดเจ็บและถูกทางการสั่งจับ แต่เขาและภรรยาหนีไปออสเตรีย เขาต้องใช้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผล เป็นผลให้เขากลายเป็นคนติดมอร์ฟีนอย่างรุนแรง จนต้องเข้ารับการบำบัดในช่วง 1925 – 1926 ที่โรงพยาบาลจิตเวชในสวีเดน ในช่วงนี้เขาไม่มีการติดต่อที่ใกล้ชิดกับฮิตเลอร์
ชีวิตทางการเมือง
เมื่อได้รับอภัยโทษใน 1926 เขาได้เดินทางกลับเยอรมนีใน 1927 ฮิตเลอร์เสนอให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไรชส์ทาค (Reichstag) ในเขตที่พรรคนาซีมีฐานเสียงมั่นคง ทำให้เขาเป็น 1 ในสมาชิกไรชส์ทาคจำนวน 12 คนสังกัดพรรคนาซี เขาได้กระชับความสัมพันธ์กับนักอุตสาหกรรมและนักการเมืองอื่น ๆ
ใน 1930 เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง และเป็นผู้นำในสภาล่าง ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 1932 เมื่อพรรคนาซีชนะการเลือกตั้งถึง 230 ที่นั่ง เขาได้รับเลือกเป็นประธานไรชส์ทาค ความตั้งใจของเขาคือล้มล้างระบบประชาธิปไตย เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมและตำแหน่งหน้าที่เอาชนะนายกรัฐมนตรี ควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์ และฟรันทซ์ ฟ็อน พาเพิน พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีเพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค เชิญฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933
เมื่อพรรคนาซีเถลิงอำนาจ เขาได้รับแต่งตั้งเป็นทั้งมุขมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของปรัสเซีย เป็นผู้นำอันดับสองของพรรคนาซี และคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากฮิตเลอร์ เขาทำงานหนักเพื่อผลักดันให้บทกฎหมายที่ให้อำนาจ (Enabling Acts) ผ่านการพิจารณาของไรชส์ทาค เขามุ่งสร้างเสริมอำนาจเผด็จการด้วยทำให้ปรัสเซียเป็นรัฐนาซีจัดตั้งตำรวจลับหรือเกสตาโพ และให้สร้างค่ายกักกันสำหรับคุมขังศัตรู นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2476 เขายังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบิน ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่และเป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศ หน้าที่ของเขาคือสร้างเสริมกำลังทางอากาศซึ่งเป็นการขัดต่อสนธิสัญญาแวร์ซายส์ เขาได้สร้างเครื่องบินและฝึกนักบินอย่างลับ ๆ
บทบาทในกองทัพอากาศ
ในปี 1938 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลแห่งกองทัพอากาศเยอรมนีและก่อนบุกโปแลนด์เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภาเศรษฐกิจสงคราม และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก้เป็นผู้อำนวยการนโยบายเศรษฐกิจสงครามของประเทศ
กองทัพอากาศภายใต้การบังคับบัญชาของเขาก็ทำสงครามสายฟ้าแลบ ซึ่งสามารถทำลายการต่อต้านของโปแลนด์ และขยายการโจมตีไปยังประเทศต่างๆในยุโรป หลังจากชัยชนะในยุทธการที่ฝรั่งเศส ใน 1940 ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นจอมพลไรช์ และเป็นผู้สืบตำแหน่งของฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ
ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสถานการณ์ของฝ่ายเยอรมันอยู่ในขั้นวิกฤติ ในเดือนเมษายน 1945 เกอริงซึ่งอยู่ในออสเตรียพยายามรวบอำนาจขึ้นเป็นผู้นำเยอรมัน เพราะเขาเชื่อว่าฮิตเลอร์ถูกปิดล้อมอยู่ที่กรุงเบอร์ลินและหมดหนทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เขาเสนอให้มีการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายพันธมิตร แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ฮิตเลอร์ออกคำสั่งจับเขาในฐานะผู้ทรยศ ขี้ขลาดและยอมแพ้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1945 เขาก็ยอมจำนนต่อกองทัพที่ 7 ของสหรัฐอเมริกาในอีก 2 วันต่อมา
การจบชีวิต
ในการไต่สวนคดีอาชญากรสงครามของศาลพิเศษพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแห่งนูเนมเบิร์ก เขาได้รับการบำบัดการติดยาเสพติดและสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนพัวพันใดๆ กับการกระทำที่เหี้ยมโหดของระบอบนาซี โดยอ้างว่าเป็นงานลับของฮิมม์เลอร์ อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่ 15 ตุลาคม 1946 แต่เขาก็กินยาพิษตายในห้องขังไม่กี่ชั่วโมงก่อนกำหนดการประหาร เกอริงถึงแก่กรรมขณะอายุ 53 ปี
เกียรติยศ
อิสริยาภรณ์เยอรมัน
- กางเขนเหล็ก 1914 ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
- พัวร์เลอเมรีท
- ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
- กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก
- มหากางเขนแห่งกางเขนเหล็ก 1939
- ชั้นกางเขนอัศวินคาดดาบ
- ชั้นกางเขนอัศวิน
ยศทหาร
- มีนาคม 1912 : นักเรียนทำการนายร้อย (Fähnrich)
- มกราคม 1914 : ร้อยตรี (Leutnant)
- สิงหาคม 1917 : ร้อยโท (Oberleutnant)
- มิถุนายน 1920 : ร้อยเอก (Hauptman)
- สิงหาคม 1933 : พลเอกทหารราบ กิตติมศักดิ์ (General der Infanterie)
- มีนาคม 1935 : กิตติมศักดิ์ (General der Flieger)
- เมษายน 1936 : พลเอกอาวุโส (Generaloberst)
- กุมภาพันธ์ 1938 : จอมพล (Generalfeldmarschall)
- กรกฎาคม 1940 : จอมพลไรช์ (Reichsmarschall)
อ้างอิง
- Manvell 2011, p. 110.
- Manvell 2011, p. 21.
- Kershaw 2008, p. 964.
- เพื่อนเกลอ[] กันยายน 2548
- ชาคริต ชุ่มวัฒนะ สารานุกรมประวัติศาสตร์ยุโรปฉบับราชบัณฑิตยสถานเล่ม G-H
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ แฮร์มัน เกอริง
- TRIAL: Göring trial
- "The Iron Knight" 2009-04-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Germany Reborn by Hermann Göring
- Hermann Göring ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- Nuremberg Trial Proceedings Vol. 9 Transcript of Goering's testimony at the trial
- Göring's last prison interview he gave to US Army Intelligence before the Nuremberg Trials 2008-11-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน published by World War II Magazine
- การให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายในเรือนจำของเกอริงแกหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ก่อนการสอบสวนที่เนือร์นแบร์ค 2008-11-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aehrmn wilehlm ekxring eyxrmn Hermann Wilhelm Goring epnphunathangthharkhxngirchthisamthitaaehnngcxmphlirch aelayngepnphunaradbsungkhxngphrrkhkrrmkrchatisngkhmniymeyxrmn phrrkhnasi ekhamibthbathsakhyinkarkhyayrabbephdckarkhxngphrrkhnasiihkhrxbkhlumthweyxrmni rwmthngsrangesrimaesnyanuphaphthangthharkhxngeyxrmniodyechphaakxngthphxakasihmikhwamaekhngaekrng phayhlngnasilmslay ekhathuktdsinpraharchiwitinkarphicarnakhdienuxrnaebrkh aetekhakcbchiwittnexngdwykarklunisyaindkxnhnakarpraharchiwitimkichwomng aelakxnklunisyaindekhaidtraoknwa ihl hitelxr cxmphlirchaehrmn ekxring Hermann Goringprathanirchsthakhdarngtaaehnng 30 singhakhm kh s 1932 23 emsayn kh s 1945prathanathibdiephal fxn hinedinbwrkh 1932 1934 xdxlf hitelxr 1934 1945 inthanafuxerxr hwhnarthbalihnrich bruxningfrnths fxn phaephinkhwrth fxn chilechxrxdxlf hitelxrkxnhnathdipimmi taaehnngthukyubelikmukhmntriesrirthprsesiydarngtaaehnng 10 emsayn kh s 1933 23 emsayn kh s 1945phuwakarxdxlf hitelxrtwekhaexngepnirchschtththhlaethrkxnhnafrnths fxn phaephinthdipimmi prsesiythukyubrthmntriwakarkrathrwngkarkhlngeyxrmnidarngtaaehnng 26 phvscikayn kh s 1937 15 mkrakhm kh s 1938hwhnarthbalxdxlf hitelxrkxnhnahylmar chkhththdipwlethxr fungkhrthmntriwakarkrathrwngedinxakaseyxrmnidarngtaaehnng 27 emsayn kh s 1933 23 emsayn kh s 1945prathanathibdiephal fxn hinedinbwrkhxdxlf hitelxr inthanafuxerxr hwhnarthbalxdxlf hitelxrkxnhnaimmithdiporaebrth rithethxr fxn ikrmrthmntriwakarkrathrwngpaimeyxrmnidarngtaaehnng krkdakhm kh s 1934 23 emsayn kh s 1945prathanathibdiephal fxn hinedinbwrkhxdxlf hitelxr inthanafuxerxr hwhnarthbalxdxlf hitelxrkxnhnaimmithdipimmikhxmulswnbukhkhlekidaehrmn wilehlm ekxring 12 mkrakhm kh s 1893 1893 01 12 oresinihm rachxanackrbawaeriy eyxrmniesiychiwit15 tulakhm kh s 1946 1946 10 15 53 pi enuxrnaebrkh eyxrmnisaehtukaresiychiwitkhatwtaydwyyaphisisyaindphrrkhkaremuxngphrrkhnasi 1922 45 khusmrs 1923 31 ethxesiychiwit 1935 46 ekxring esiychiwit butrxachiphnkbinnkkaremuxngrthbalrangwlkangekhnehlk chn 1kangekhnehlkkangekhnxswinlaymuxchuxysthiidrbkaraetngtngrbich eyxrmni 1912 18 eyxrmni 1923 33 ircheyxrmn 1933 45 sngkd kxngthphbkeyxrmn lufthwfefxpracakar1912 19181923 1945ysSA to 1945 1938 40 cxmphlirch 1940 45 bngkhbbychalufthwfefx 1935 45 sngkhram karsurbsngkhramolkkhrngthihnungsngkhramolkkhrngthisxngchiwitchwngeyawwyekxringinwy 14 pi ekxringekidemuxwnthi 12 mkrakhm 1893 thiemuxngoresinihm rachxanackrbawaeriy ckrwrrdieyxrmn epnbutrkhnthi 2 khxngphrryakhnthi 2 khxngihmrich ekxring sungepnkngsulihyeyxrmnpracaekaaehti khnaepnedkekhaimidxyukbbidaaetidrbeliyngduinprasathelk chuxeflednchitn Veldenstein khxng rithethxr fxn exephnchitn aehrmn chawyiw sungepnchurkkhxngmardaaelaepnphxthunhwkhxngekha txmainpi 1896 khnaxayu 3 pi bidapldeksiyn khrxbkhrwekxringcungxyurwmknxikkhrngineyxrmnikarsuksaekhaekhasuksatxinwithyalykarthharinemuxngkhalsruexx aelaekharbrachkarinpi 1912 rahwangsngkhramolkkhrngthi 1 ekhamiysepnrxyothinxalss lxaern kxnthicayayipsngkdkxngthphxakas ekhaepnnkbinthimikhwamsamarthaelaidrbehriyy aelakangekhnehlkchn 1 ekxring phrayaphhlphlphyuhesna aelahiedaki othoc tangruckkntngaetsmyeriynxyuthisthabnnayrxyswnklang Hauptkadettenanstalt inkrungebxrlin odyklumkhxngekxring klumkhxngphrayaphhl aelaklumkhxngothoc mkpralxngdabknesmx ekxringepnkhntwihychxbelnaerng cnkhrnghnungekhathukn n r nxm phltriphraskdaphlrks chkcnfnhkchiwitaelabthbathinkxngthphnasieyxrmninchwngkhwamwunwayphayhlngcakkhwamphayaephkhxngeyxrmni ekharusukkhdekhuxngictxkarthinaythharthukptibtixyangelwraycakphleruxn ekhacungipthanganepnnkbinphanichyinednmarkaelaswiedn txmaekhaidrbaetngtngihepnecahnathikhxngsaykarbinswiedn aelamioxkasidphbkbbarxnenskharin fxn orechin Baroness Carin von Rosen striphusungskdichawswiednsunghyakhadcaksami ekhaidaetngngankbbarxnenskharinthinkhrmiwnikemuxwnthi 3 kumphaphnth 1922 inpiediywkn ekhaidrwmkbphrrkhnasi aelaenuxngcakmichuxesiynginthanawirburusinsngkhram hitelxrcungmxbhmayihekhabngkhbbychahnwychtwrmxphithlung SA sungepnkxngkalngkhxngphrrkhnasi ineduxnphvscikayn 1923 phwknasiidkxehtukbtorngebiyr sunghitelxrphyayamyudxanacthngthiyngimphrxm karkbtcunglmehlw ekhacungidrbbadecbaelathukthangkarsngcb aetekhaaelaphrryahniipxxsetriy ekhatxngichmxrfinephuxbrrethaxakarecbpwdcakbadaephl epnphlihekhaklayepnkhntidmxrfinxyangrunaerng cntxngekharbkarbabdinchwng 1925 1926 thiorngphyabalcitewchinswiedn inchwngniekhaimmikartidtxthiiklchidkbhitelxr chiwitthangkaremuxng emuxidrbxphyothsin 1926 ekhaidedinthangklbeyxrmniin 1927 hitelxresnxihekhalngsmkhrrbeluxktngepnsmachikirchsthakh Reichstag inekhtthiphrrkhnasimithanesiyngmnkhng thaihekhaepn 1 insmachikirchsthakhcanwn 12 khnsngkdphrrkhnasi ekhaidkrachbkhwamsmphnthkbnkxutsahkrrmaelankkaremuxngxun in 1930 ekhaidrbeluxktngxikkhrnghnung aelaepnphunainsphalang txmaineduxnkrkdakhm 1932 emuxphrrkhnasichnakareluxktngthung 230 thinng ekhaidrbeluxkepnprathanirchsthakh khwamtngickhxngekhakhuxlmlangrabbprachathipity ekhaichelhehliymaelataaehnnghnathiexachnanaykrthmntri khwrth fxn chilechxr aelafrnths fxn phaephin phrxmthngonmnawihprathanathibdiephal fxn hinedinbwrkh echiyhitelxrepnnaykrthmntriemuxwnthi 30 mkrakhm 1933 emuxphrrkhnasiethlingxanac ekhaidrbaetngtngepnthngmukhmntriaelarthmntriwakarkrathrwngmhadithykhxngprsesiy epnphunaxndbsxngkhxngphrrkhnasi aelakhadhmaywacaepnphusubthxdtaaehnngtxcakhitelxr ekhathanganhnkephuxphlkdnihbthkdhmaythiihxanac Enabling Acts phankarphicarnakhxngirchsthakh ekhamungsrangesrimxanacephdckardwythaihprsesiyepnrthnasicdtngtarwclbhruxekstaoph aelaihsrangkhaykkknsahrbkhumkhngstru nxkcakniinpi ph s 2476 ekhayngidrbtaaehnngrthmntriwakarkrathrwngkarbin sungcdtngkhunihmaelaepnphubychakarkxngthphxakas hnathikhxngekhakhuxsrangesrimkalngthangxakassungepnkarkhdtxsnthisyyaaewrsays ekhaidsrangekhruxngbinaelafuknkbinxyanglb bthbathinkxngthphxakas inpi 1938 ekhaidrbaetngtngepncxmphlaehngkxngthphxakaseyxrmniaelakxnbukopaelndekhaidrbaetngtngepnprathansphaesrsthkicsngkhram aelaemuxekidsngkhramolkkhrngthi 2 ekhakepnphuxanwykarnoybayesrsthkicsngkhramkhxngpraeths kxngthphxakasphayitkarbngkhbbychakhxngekhakthasngkhramsayfaaelb sungsamarththalaykartxtankhxngopaelnd aelakhyaykarocmtiipyngpraethstanginyuorp hlngcakchychnainyuththkarthifrngess in 1940 hitelxrkaetngtngihekhaepncxmphlirch aelaepnphusubtaaehnngkhxnghitelxrxyangepnthangkar inchwngthaykhxngsngkhramolkkhrngthi 2 emuxsthankarnkhxngfayeyxrmnxyuinkhnwikvti ineduxnemsayn 1945 ekxringsungxyuinxxsetriyphyayamrwbxanackhunepnphunaeyxrmn ephraaekhaechuxwahitelxrthukpidlxmxyuthikrungebxrlinaelahmdhnthangthicaekhaipchwyehlux ekhaesnxihmikarecrcasngbsukkbfayphnthmitr aetkarkrathadngklawthaihhitelxrxxkkhasngcbekhainthanaphuthrys khikhladaelayxmaeph xyangirktam emuxeyxrmniaephsngkhramemuxwnthi 7 phvsphakhm 1945 ekhakyxmcanntxkxngthphthi 7 khxngshrthxemrikainxik 2 wntxmakarcbchiwitekxring aethwhnasaysud inrahwangkaritswnkhxngsalphiess inkaritswnkhdixachyakrsngkhramkhxngsalphiessphicarnakhdixachyakrrmsngkhramaehngnuenmebirk ekhaidrbkarbabdkartidyaesphtidaelasamarthotaeyngkhxklawhaidxyangmiprasiththiphaph ekhaptiesthwaimmiswnphwphnid kbkarkrathathiehiymohdkhxngrabxbnasi odyxangwaepnnganlbkhxnghimmelxr xyangirktamekhakthuktdsinpraharchiwitinwnthi 15 tulakhm 1946 aetekhakkinyaphistayinhxngkhngimkichwomngkxnkahndkarprahar ekxringthungaekkrrmkhnaxayu 53 piekiyrtiysxisriyaphrneyxrmn kangekhnehlk 1914 chnsxng aelachnhnung phwrelxemrith chnsxng aelachnhnung kangekhnxswinaehngkangekhnehlk mhakangekhnaehngkangekhnehlk 1939 chnkangekhnxswinkhaddab chnkangekhnxswinysthhar minakhm 1912 nkeriynthakarnayrxy Fahnrich mkrakhm 1914 rxytri Leutnant singhakhm 1917 rxyoth Oberleutnant mithunayn 1920 rxyexk Hauptman singhakhm 1933 phlexkthharrab kittimskdi General der Infanterie minakhm 1935 kittimskdi General der Flieger emsayn 1936 phlexkxawuos Generaloberst kumphaphnth 1938 cxmphl Generalfeldmarschall krkdakhm 1940 cxmphlirch Reichsmarschall xangxingManvell 2011 p 110 sfn error no target CITEREFManvell2011 Manvell 2011 p 21 sfn error no target CITEREFManvell2011 Kershaw 2008 p 964 sfn error no target CITEREFKershaw2008 ephuxneklx lingkesiy knyayn 2548 chakhrit chumwthna saranukrmprawtisastryuorpchbbrachbnthitysthanelm G Haehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb aehrmn ekxring TRIAL Goring trial The Iron Knight 2009 04 20 thi ewyaebkaemchchin Germany Reborn by Hermann Goring Hermann Goring thixinethxrentmuwiedtaebs Nuremberg Trial Proceedings Vol 9 Transcript of Goering s testimony at the trial Goring s last prison interview he gave to US Army Intelligence before the Nuremberg Trials 2008 11 22 thi ewyaebkaemchchin published by World War II Magazine karihsmphasnkhrngsudthayineruxncakhxngekxringaekhnwykhawkrxngshrth kxnkarsxbswnthienuxrnaebrkh 2008 11 22 thi ewyaebkaemchchin