นี่คือซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถ โปรดตรวจสอบว่าเนื้อหามีลักษณะและก่อนที่จะลงในวิกิพีเดีย กรุณาอดทนรอผู้เขียนคนอื่นมาช่วยตรวจให้ อย่าย้ายหน้าไปเป็นบทความเองโดยพลการ ค้นหาข้อมูล: Google (books · news · newspapers · scholar · free images · WP refs) · FENS · JSTOR · NYT · TWL สำคัญ: ถ้าลบป้ายนี้ออกจะทำให้บันทึกหน้าไม่ได้ ผู้แก้ไขหน้านี้คนล่าสุด คือ ( | ) เมื่อ 58 วันก่อน (ล้างแคช) |
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่ |
Haplorhini ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยพาลีโอซีน-สมัยโฮโลซีน | |
---|---|
(Papio hamadryas) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม |
อันดับ: | อันดับวานร |
อันดับย่อย: | ฉบับร่าง:Haplorhini , 1918 |
อันดับฐาน | |
| |
ชื่อพ้อง | |
|
Haplorhini ( /hæpləˈraɪnaɪ/ ), haplorhine ( ภาษากรีก แปลว่า "จมูกธรรมดา") หรือไพรเมต "จมูกแห้ง" เป็นลำดับย่อยของไพรเมตที่มี และ Simian (Simiiformes หรือแอนโธรพอยด์) ) ในฐานะน้องสาวของ ("จมูกชื้น") บางครั้งสะกดชื่อ Haplorrhini Simiiformes ได้แก่ (ลิงโลกเก่าและ เอป รวมถึง มนุษย์ ) และ Platyrrhines (ลิงโลกใหม่)
Haplorhini ได้รับการเสนอโดย ในปี พ.ศ.2461 เมื่อเขาตระหนักว่าทาร์เซียร์เป็นพี่น้องกับลิงมากกว่าค่าง นอกจากนี้หลังจากการค้นพบของ เมื่อ 80 ปีก่อนและ เมื่อ 160 ปีก่อนหน้านี้ สำหรับ ลินเนีย อันดับไพรเมตทั้งมวลนี้ประกอบขึ้นเป็นสกุล " " ด้วยเหตุผลทางศาสนา โฮโมจึงสร้างสกุลของตัวเองขึ้นมา (ซึ่งยังคงอยู่)[ ]
ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งถือเป็น Haplohini มากที่สุด เชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องกับ ทาร์เซียร์ อย่างใกล้ชิดมากกว่า Haplorhini ชนิดอื่นๆ ความสัมพันธ์ที่แท้จริงยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์ – Williams, Kay และ Kirk (พ.ศ.2553) ชอบมุมมองที่ว่าทาร์เซียร์และ Simiiformes มี บรรพบุรุษ ร่วมกัน และบรรพบุรุษร่วมกันนั้นมีบรรพบุรุษร่วมกันกับ โดยอ้างอิงหลักฐานจากการวิเคราะห์โดย Bajpal และคณะ ในปี พ.ศ.2551 ; แต่พวกเขายังสังเกตความเป็นไปได้อีกสองประการด้วย คือ ทาร์เซียร์สืบเชื้อสายมาจากโอมอยิดโดยตรง โดยที่ซิเมียนเป็นสายที่แยกจากกัน หรือทั้ง Simiiformes และทาร์เซียร์สืบเชื้อสายมาจาก
Haplorhini มีคุณลักษณะที่ได้รับมาหลายอย่างเหมือนกันซึ่งทำให้พวกมันแตกต่างจาก (ซึ่งมีชื่อในภาษากรีกแปลว่า "จมูกโค้ง") ซึ่งเป็นอันดับย่อยอื่นๆ ของไพรเมตที่ แยกออก จากกันประมาณ 63 ตัว ล้านปีก่อน . ฮาโพโลฮีน รวมถึงทาร์เซียร์ ต่างก็สูญเสียการทำงานของ เอนไซม์ ปลายทางที่ผลิต วิตามินซี ในขณะที่ ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่ที่ยังคงรักษาเอนไซม์นี้ไว้ ตามหลักพันธุกรรมแล้ว (SINE) ห้าชนิดนั้นพบได้ทั่วไปใน Haplorhini ทั้งหมด แต่ไม่มีสเตรปเซอร์ไรน์ ริมฝีปากบนของ haplorhine ซึ่งเข้ามาแทนที่ ของบรรพบุรุษที่พบใน strepsirrhines ไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับจมูกหรือเหงือก ทำให้สามารถ ได้หลากหลาย มากกว่าสเตรปซิไรน์อย่างมีนัยสำคัญ และประสาทสัมผัสหลักของพวกมันคือการมองเห็น Haplorhines มีแผ่น ซึ่งแตกต่างจาก ที่พบในสเตรปเซอร์ไรน์ สายพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ (ยกเว้นทาร์เซียร์และ )
Anthropoid ทั้งหมดมี มดลูก ห้องเดียว ทาร์เซียร์มีภาวะมดลูกรูปหัวใจ เหมือน strepsirrhini โดยทั่วไปแล้วสปีชีส์ส่วนใหญ่จะมีการเกิดเดี่ยว แม้ว่าแฝดและแฝดสามจะพบได้ทั่วไปใน และ แม้จะ ใกล้เคียงกัน แต่ทารกแรกเกิดที่มีเชื้อ Haplorhine จะมีขนาดใหญ่กว่าทารกแรกเกิดที่มีสเตรปซีร์ไรน์ค่อนข้างมาก แต่จะมีระยะเวลาพึ่งพาแม่นานกว่า ขนาดและการพึ่งพาอาศัยกันนี้เป็นผลมาจากความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของพฤติกรรมและประวัติศาสตร์ธรรมชาติ[][ <span title="The text near this tag may need clarification or removal of jargon. (December 2023)">ต้องการคำชี้แจง</span> ]
นิรุกติศาสตร์
ชื่อ อนุกรมวิธาน Haplorhini มาจากคำ กรีกโบราณ haploûs ( ἁπλούς , 'พับเดียว', 'เดี่ยว', 'เรียบง่าย') และ rhinos ( ῥις ( ก ῥινός), 'จมูก'). หมายถึงการขาด หรือ "จมูกเปียก" ซึ่งพบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงไพรเมต
การจำแนกประเภทและวิวัฒนาการ
การประมาณระดับโมเลกุลโดยอิงจากจีโนมของไมโตคอนเดรีย แนะนำว่า Haplorhini และเคลดน้องสาวของมัน แยกตัวออกไปเมื่อ 74 ล้านปีก่อน (mya) แต่ไม่มีการค้นพบฟอสซิลไพรเมตมงกุฎก่อนการเริ่มต้นของ Eocene หรือ 56 ล้านปีก่อน การวิเคราะห์ทางโมเลกุลแบบเดียวกันนี้บ่งชี้ว่าวงศ์ ในลำดับชั้นในอินฟาเรด ซึ่งมีวงศ์เดียวที่เหลืออยู่คือตระกูล Tarsier (Tarsiidae) ซึ่งแยกตัวออกจากวงศ์ Haplorhine อื่นๆ 70 ล้านปีก่อน ฟอสซิล อาจจะคล้ายคลึงกับบรรพบุรุษร่วมกันล่าสุดในเวลานี้
เคลดหลักอื่นๆ ภายใน Haplorhini คือ (หรือแอนโธรพอยด์) แบ่งออกเป็น 2 พาร์วอร์เดอร์: Platyrrhini ( ลิงโลกใหม่ ) และ Catarrhini (ลิงและ ลิง โลกเก่า ) ลิงโลกใหม่แยกจากโรคหวัดประมาณ 35 - 40 mya และมีต้นกำเนิดจากแอฟริกา ในขณะที่ลิง ( Hominoidea ) แยกตัวจากลิงโลกเก่า ( Cercopithecoidea ) ประมาณ 25 ตัว เมีย หลักฐานฟอสซิลที่มีอยู่บ่งชี้ว่าทั้ง clades ของ hominoid และ cercopithecoid มีต้นกำเนิดในแอฟริกา
ต่อไปนี้คือรายชื่อครอบครัวแฮโพโลไรน์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และตำแหน่งในลำดับไพรเมต:
- สั่งซื้อ ไพรเมต
- อันดับย่อย : ลีเมอร์ ลอริส กาลาโกส เป็นต้น
- อันดับย่อย Haplorhini : ทาร์เซียร์ + ลิงและลิง
- อันดับฐาน
- วงศ์ Tarsiidae : tarsiers
- อันดับฐาน Simiiformes : ลิงและลิง
- อนุอันดับ Platyrrhini : ลิงโลกใหม่
- วงศ์ : มาร์โมเซต, ทามาริน
- วงศ์ : คาปูชิน, ลิงกระรอก
- วงศ์ : ลิงกลางคืนหรือนกฮูก (douroucoulis)
- วงศ์ : titis, sakis, uakaris
- วงศ์ : ฮาวเลอร์ แมงมุม และลิงขน
- อนุอันดับ มนุษย์โลกเก่า
- ซูเปอร์แฟมิลี Cercopithecoidea
- วงศ์ Cercopithecidae : ลิงโลกเก่า
- วงศ์ใหญ่ Hominoidea : ลิง
- วงศ์ Hylobatidae : ลิงน้อย (ชะนี)
- วงศ์ Hominidae : ลิงใหญ่
- ซูเปอร์แฟมิลี Cercopithecoidea
- อนุอันดับ Platyrrhini : ลิงโลกใหม่
- อันดับฐาน
ตำแหน่งที่ไม่แน่นอนของ haplorhine ยุคแรกที่สูญพันธุ์
ตำแหน่งที่แน่นอนของครอบครัวแฮโพโลไรน์ในยุคแรกๆ นั้นไม่แน่นอนเนื่องจากมีหลักฐานที่จำกัด ต่อไปนี้เป็นการกำหนดลำดับที่เป็นไปได้ที่รวบรวมโดย Williams, Kay และ Kirk ในปี 2010 โดยอิงจาก cladograms ที่รวบรวมโดย Seiffert และคณะ (2005), Marivaux (2006) และ Bajpai และคณะ (2008) และไม่ควรถือเป็นที่แน่ชัด ไม่รวม เนื่องจากจัดว่าเป็นโรคหวัดระยะแรก รวมทั้ง Archicebidae ซึ่งการค้นพบนี้ได้ประกาศโดย Ni และคณะ ในปี 2556 (แต่ดูหมายเหตุด้านล่างเกี่ยวกับตำแหน่ง)
- Order อันดับวานร
- †
- :สัตว์จำพวกลีเมอร์ ลิงลม กาลาโก และบรรพบุรุษของพวกมัน
- Haplorhini
- เป็นไปได้ - ดูคำอธิบายด้านล่าง
- / Tarsiers และบรรพบุรุษของพวกเขา
- /Simiiformes
- † แอนโทรพอยด์ยุคแรก (หรือสิเมียน)
- †
- †
- †
- †
- แอนโทรพอยด์โลกเก่า
- Platyrrhini ลิงโลกใหม่
Sigé และคณะ (1990) อธิบายว่า อยู่ในรูปแบบโอโมไมฟอร์ม แต่ยังระบุด้วยว่ามันอาจเป็นแอนโธรพอยด์ยุคแรก โดยมุมมองหลังได้รับการสนับสนุนจาก Godinot (1994) และ Bajpai et al. (2551).
เคย์และคณะ (2004) ชี้ให้เห็นว่ากรณีของ Amphipithecidae สามารถจัดอยู่ในรูป แบบ adapiformes (เช่น strepsirrhines ในยุคแรก ๆ ) หรือในรูปแบบแอนโทรพอยด์ในยุคแรก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าพวกมันมีวิวัฒนาการที่ยาวนานแยกจากกลุ่มอื่น และส่วนสำคัญของกายวิภาคของพวกมันคือ ที่หายไปจากบันทึกฟอสซิล พวกเขาสรุปว่าความเป็นไปได้อย่างใดอย่างหนึ่งมีความเป็นไปได้เท่าเทียมกัน
Kay และ Williams (2013 แก้ไขโดย Feagle และ Kay) ดูสมมติฐานที่เป็นไปได้ว่า oligopiths, parapiths และ propliopiths เกี่ยวข้องกันอย่างไร และ catarrhines และ platyrrhines:- parapiths และ propliopiths มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด โดยบรรพบุรุษร่วมกันของพวกมันเกี่ยวข้องกับ oligopiths และบรรพบุรุษร่วมของทั้งสามนั้นเกี่ยวข้องกับ platyrrhines ที่มีโรคหวัดที่ยังหลงเหลืออยู่ (เช่น cercopithecoidea และ hominoidea ) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก propliopiths - หรือ และ มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด แต่บรรพบุรุษร่วมกันของพวกมันมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ platyrrhines และบรรพบุรุษร่วมกันของทั้งสามนั้นเกี่ยวข้องกับ oligopiths โดยที่โรคหวัดที่ยังหลงเหลืออยู่นั้นสืบเชื้อสายมาจาก propliopiths อีกครั้ง</br> - หรือ propliopiths และ oligopiths มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และ parapiths เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษร่วมกันของทั้งสอง และบรรพบุรุษร่วมของทั้งสามเกี่ยวข้องกับ platyrrhines โดย Cercopithecoidea สืบเชื้อสายมาจาก parapiths และ hominoidea สืบเชื้อสายมาจาก propliopiths</br> - ในที่สุด พวกเขายังพิจารณาสมมติฐานที่ว่า oligopiths เป็น adapiformes (เช่น สเตรปเซอร์ไรน์ในยุคแรก มากกว่า haplorhine ในยุคแรก ๆ)
Ni et al. ในการประกาศให้ ในปี 2013 เป็นสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็นไพรเมตรุ่นแรกสุดที่มีซากรายละเอียดดังกล่าว ให้วางมันแตกต่างไปจากข้างบนเล็กน้อยเมื่อพวกมันวาง Omomyids ไว้ใน Tarsiiformes โดยมี Omomyids และ Tarsiidae มีบรรพบุรุษร่วมกัน และ บรรพบุรุษร่วมกันซึ่งมีบรรพบุรุษร่วมกันแบบทาร์ซิอิฟอร์มกับอาร์คิเซบีดี
ต้นกำเนิดที่เป็นไปได้คือ Haplorrhini บางชนิดซึ่งโดยปกติจะถือว่าเป็น เช่น และ Darwinius
อ้างอิง
- Pocock, R. I. (1918-03-05). "On the External Characters of the Lemurs and of Tarsius". Proceedings of the Zoological Society of London (ภาษาอังกฤษ). 88 (1–2): 19–53. doi:10.1111/j.1096-3642.1918.tb02076.x. ISSN 0370-2774. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Pocock 19–53" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - Society (London), Zoological (1838). Proceedings of the Zoological Society of London (ภาษาอังกฤษ). p. 67.
- Williams, B. A; Kay, R. F; Kirk, E. C (2010). "New perspectives on anthropoid origins". Proceedings of the National Academy of Sciences. 107 (11): 4797–804. Bibcode:2010PNAS..107.4797W. doi:10.1073/pnas.0908320107. PMC 2841917. PMID 20212104.
- Pollock, J. I; Mullin, R. J (1987). "Vitamin C biosynthesis in prosimians: Evidence for the anthropoid affinity of Tarsius". American Journal of Physical Anthropology. 73 (1): 65–70. doi:10.1002/ajpa.1330730106. PMID 3113259.
- Rossie, James B; Smith, Timothy D; Beard, K Christopher; Godinot, Marc; Rowe, Timothy B (2018). "Nasolacrimal anatomy and haplorhine origins". Journal of Human Evolution. 114: 176–183. doi:10.1016/j.jhevol.2017.11.004. PMID 29447758.
- Ankel-Simons 2007.
- Pozzi, Luca; Hdgson, Jason A.; Burrell, Andrew S.; Sterner, Kirstin N.; Raaum, Ryan L.; Disotell, Todd R. (28 February 2014). "Primate phylogenetic relationships and divergence dates inferred from complete mitochondrial genomes". Molecular Phylogenetics and Evolution. 75: 165–183. doi:10.1016/j.ympev.2014.02.023. PMC 4059600. PMID 24583291.
- Schrago, C. G. (2003-06-27). "Timing the Origin of New World Monkeys". Molecular Biology and Evolution. 20 (10): 1620–1625. doi:10.1093/molbev/msg172. ISSN 0737-4038. PMID 12832653.
- Bond, Mariano; Tejedor, Marcelo F.; Campbell, Kenneth E.; Chornogubsky, Laura; Novo, Nelson; Goin, Francisco (April 2015). "Eocene primates of South America and the African origins of New World monkeys". Nature (ภาษาอังกฤษ). 520 (7548): 538–541. Bibcode:2015Natur.520..538B. doi:10.1038/nature14120. ISSN 1476-4687. PMID 25652825.
{{}}
:|hdl-access=
ต้องการ|hdl=
((help)) - Palmer, Chris (2013-05-15). "Fossils indicate common ancestor for two primate groups". Nature (ภาษาอังกฤษ): nature.2013.12997. doi:10.1038/nature.2013.12997. ISSN 0028-0836.
- Rylands AB, Mittermeier RA (2009). "The Diversity of the New World Primates (Platyrrhini)". ใน Garber PA, Estrada A, Bicca-Marques JC, Heymann EW, (บ.ก.). South American Primates: Comparative Perspectives in the Study of Behavior, Ecology, and Conservation. Springer. ISBN .
- Ni, Xijun; Gebo, Daniel L; Dagosto, Marian; Meng, Jin; Tafforeau, Paul; Flynn, John J; Beard, K. Christopher (2013). "The oldest known primate skeleton and early haplorhine evolution". Nature. 498 (7452): 60–4. Bibcode:2013Natur.498...60N. doi:10.1038/nature12200. PMID 23739424.
- Callum F Ross, Richard F. Kay Anthropoid Origins: New Visions , Springer, 2004, ISBN p. 114
- Richard F. Kay, Blythe A Williams Anthropoid Origins: New Visions (Developments in Primatology: Progress and Prospects), Springer, 2013, ISBN p. 365
- Jaeger, J.-J.; Sein, C.; Gebo, D. L.; Chaimanee, Y.; Nyein, M. T.; Oo, T. Z.; Aung, M. M.; Suraprasit, K.; Rugbumrung, M.; Lazzari, V.; Soe, A. N. (2020-11-11). "Amphipithecine primates are stem anthropoids: cranial and postcranial evidence". Proceedings of the Royal Society B: Biological Sciences (ภาษาอังกฤษ). 287 (1938): 20202129. doi:10.1098/rspb.2020.2129. ISSN 0962-8452. PMC 7735260. PMID 33171091.
- Gingerich, Philip D. (2012-06-28). "Primates in the Eocene". Palaeobiodiversity and Palaeoenvironments (ภาษาอังกฤษ). 92 (4): 649–663. doi:10.1007/s12549-012-0093-5. ISSN 1867-1594.
วรรณกรรมที่อ้างถึง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nikhuxbthkhwamchbbrangsungepidoxkasihthukkhnsamarthaekikhid oprdtrwcsxbwaenuxhamilksnaepnsaranukrmaelamikhwamoddednkhwraekkarruckkxnthicaephyaephrepnbthkhwamlnginwikiphiediy krunaxdthnrxphuekhiynkhnxunmachwytrwcih xyayayhnaipepnbthkhwamexngodyphlkarkhnhakhxmul Google books news newspapers scholar free images WP refs FENS JSTOR NYT TWL ekhruxngmuxxyangngay Citation bot withiich khnsung Fix ambiguous links Fix bare URLs Fix broken links pumbthkhwam pumchbbrang sakhy thalbpaynixxkcathaihbnthukhnaimidphuaekikhhnanikhnlasud khux wruth himsaic phudkhuy eruxngthiekhiyn emux 58 wnkxn langaekhch ekhiynesrcaelwhruxim sngchbbrangihtrwcthanthipumni bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathi Haplorhini chwngewlathimichiwitxyu smyphalioxsin smyoholsin PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N Papio hamadryas karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stweliynglukdwynmxndb xndbwanrxndbyxy chbbrang Haplorhini 1918xndbthanSimiiformes lingaelaexp tharesiyr sister chuxphxng Haplorhini h ae p l e ˈ r aɪ n aɪ haplorhine phasakrik aeplwa cmukthrrmda hruxiphremt cmukaehng epnladbyxykhxngiphremtthimi aela Simian Simiiformes hruxaexnothrphxyd inthananxngsawkhxng cmukchun bangkhrngsakdchux Haplorrhini Simiiformes idaek lingolkekaaela exp rwmthung mnusy aela Platyrrhines lingolkihm Haplorhini idrbkaresnxody inpi ph s 2461 emuxekhatrahnkwatharesiyrepnphinxngkblingmakkwakhang nxkcaknihlngcakkarkhnphbkhxng emux 80 pikxnaela emux 160 pikxnhnani sahrb lineniy xndbiphremtthngmwlniprakxbkhunepnskul dwyehtuphlthangsasna ohomcungsrangskulkhxngtwexngkhunma sungyngkhngxyu caepntxngxangxing thisuyphnthuipaelw sungthuxepn Haplohini makthisud echuxknwamikhwamekiywkhxngkb tharesiyr xyangiklchidmakkwa Haplorhini chnidxun khwamsmphnththiaethcringyngimepnthiyxmrbxyangsmburn Williams Kay aela Kirk ph s 2553 chxbmummxngthiwatharesiyraela Simiiformes mi brrphburus rwmkn aelabrrphburusrwmknnnmibrrphburusrwmknkb odyxangxinghlkthancakkarwiekhraahody Bajpal aelakhna inpi ph s 2551 aetphwkekhayngsngektkhwamepnipidxiksxngprakardwy khux tharesiyrsubechuxsaymacakoxmxyidodytrng odythisiemiynepnsaythiaeykcakkn hruxthng Simiiformes aelatharesiyrsubechuxsaymacak Haplorhini mikhunlksnathiidrbmahlayxyangehmuxnknsungthaihphwkmnaetktangcak sungmichuxinphasakrikaeplwa cmukokhng sungepnxndbyxyxun khxngiphremtthi aeykxxk cakknpraman 63 tw lanpikxn haopholhin rwmthungtharesiyr tangksuyesiykarthangankhxng exnism playthangthiphlit witaminsi inkhnathi kehmuxnkbstweliynglukdwynmpraephthxun swnihythiyngkhngrksaexnismniiw tamhlkphnthukrrmaelw SINE hachnidnnphbidthwipin Haplorhini thnghmd aetimmisetrpesxrirn rimfipakbnkhxng haplorhine sungekhamaaethnthi khxngbrrphburusthiphbin strepsirrhines imidechuxmtxodytrngkbcmukhruxehnguxk thaihsamarth idhlakhlay makkwasetrpsiirnxyangminysakhy aelaprasathsmphshlkkhxngphwkmnkhuxkarmxngehn Haplorhines miaephn sungaetktangcak thiphbinsetrpesxrirn sayphnthuswnihyepnstw ykewntharesiyraela Anthropoid thnghmdmi mdluk hxngediyw tharesiyrmiphawamdlukruphwic ehmuxn strepsirrhini odythwipaelwspichisswnihycamikarekidediyw aemwaaefdaelaaefdsamcaphbidthwipin aela aemca iklekhiyngkn aettharkaerkekidthimiechux Haplorhine camikhnadihykwatharkaerkekidthimisetrpsirirnkhxnkhangmak aetcamirayaewlaphungphaaemnankwa khnadaelakarphungphaxasyknniepnphlmacakkhwamsbsxnthiephimkhunkhxngphvtikrrmaelaprawtisastrthrrmchati lt span title The text near this tag may need clarification or removal of jargon December 2023 gt txngkarkhachiaecng lt span gt niruktisastrchux xnukrmwithan Haplorhini macakkha krikobran haplous ἁploys phbediyw ediyw eriybngay aela rhinos ῥis k ῥinos cmuk hmaythungkarkhad hrux cmukepiyk sungphbinstweliynglukdwynmhlaychnid rwmthungiphremtkarcaaenkpraephthaelawiwthnakarkarpramanradbomelkulodyxingcakcionmkhxngimotkhxnedriy aenanawa Haplorhini aelaekhldnxngsawkhxngmn aeyktwxxkipemux 74 lanpikxn mya aetimmikarkhnphbfxssiliphremtmngkudkxnkarerimtnkhxng Eocene hrux 56 lanpikxn karwiekhraahthangomelkulaebbediywknnibngchiwawngs inladbchninxinfaerd sungmiwngsediywthiehluxxyukhuxtrakul Tarsier Tarsiidae sungaeyktwxxkcakwngs Haplorhine xun 70 lanpikxn fxssil xaccakhlaykhlungkbbrrphburusrwmknlasudinewlani ekhldhlkxun phayin Haplorhini khux hruxaexnothrphxyd aebngxxkepn 2 pharwxredxr Platyrrhini lingolkihm aela Catarrhini lingaela ling olkeka lingolkihmaeykcakorkhhwdpraman 35 40 mya aelamitnkaenidcakaexfrika inkhnathiling Hominoidea aeyktwcaklingolkeka Cercopithecoidea praman 25 tw emiy hlkthanfxssilthimixyubngchiwathng clades khxng hominoid aela cercopithecoid mitnkaenidinaexfrika txipnikhuxraychuxkhrxbkhrwaehopholirnthiyngmichiwitxyu aelataaehnnginladbiphremt sngsux iphremt xndbyxy liemxr lxris kalaoks epntn xndbyxy Haplorhini tharesiyr lingaelaling xndbthan wngs Tarsiidae tarsiers xndbthan Simiiformes lingaelaling xnuxndb Platyrrhini lingolkihm wngs maromest thamarin wngs khapuchin lingkrarxk wngs lingklangkhunhruxnkhuk douroucoulis wngs titis sakis uakaris wngs hawelxr aemngmum aelalingkhn xnuxndb mnusyolkeka suepxraefmili Cercopithecoidea wngs Cercopithecidae lingolkeka wngsihy Hominoidea ling wngs Hylobatidae lingnxy chani wngs Hominidae lingihytaaehnngthiimaennxnkhxng haplorhine yukhaerkthisuyphnthutaaehnngthiaennxnkhxngkhrxbkhrwaehopholirninyukhaerk nnimaennxnenuxngcakmihlkthanthicakd txipniepnkarkahndladbthiepnipidthirwbrwmody Williams Kay aela Kirk inpi 2010 odyxingcak cladograms thirwbrwmody Seiffert aelakhna 2005 Marivaux 2006 aela Bajpai aelakhna 2008 aelaimkhwrthuxepnthiaenchd imrwm enuxngcakcdwaepnorkhhwdrayaaerk rwmthng Archicebidae sungkarkhnphbniidprakasody Ni aelakhna inpi 2556 aetduhmayehtudanlangekiywkbtaaehnng Order xndbwanr stwcaphwkliemxr linglm kalaok aelabrrphburuskhxngphwkmn Haplorhini epnipid dukhaxthibaydanlang Tarsiers aelabrrphburuskhxngphwkekha Tarsiidae Simiiformes aexnothrphxydyukhaerk hruxsiemiyn aexnothrphxydolkeka Platyrrhini lingolkihm Sige aelakhna 1990 xthibaywa xyuinrupaebboxomimfxrm aetyngrabudwywamnxacepnaexnothrphxydyukhaerk odymummxnghlngidrbkarsnbsnuncak Godinot 1994 aela Bajpai et al 2551 ekhyaelakhna 2004 chiihehnwakrnikhxng Amphipithecidae samarthcdxyuinrup aebb adapiformes echn strepsirrhines inyukhaerk hruxinrupaebbaexnothrphxydinyukhaerk odyechphaaxyangyingwaphwkmnmiwiwthnakarthiyawnanaeykcakklumxun aelaswnsakhykhxngkaywiphakhkhxngphwkmnkhux thihayipcakbnthukfxssil phwkekhasrupwakhwamepnipidxyangidxyanghnungmikhwamepnipidethaethiymkn Kay aela Williams 2013 aekikhody Feagle aela Kay dusmmtithanthiepnipidwa oligopiths parapiths aela propliopiths ekiywkhxngknxyangir aela catarrhines aela platyrrhines parapiths aela propliopiths mikhwamsmphnthknxyangiklchid odybrrphburusrwmknkhxngphwkmnekiywkhxngkb oligopiths aelabrrphburusrwmkhxngthngsamnnekiywkhxngkb platyrrhines thimiorkhhwdthiynghlngehluxxyu echn cercopithecoidea aela hominoidea sungsubechuxsaymacak propliopiths hrux aela mikhwamsmphnthknxyangiklchid aetbrrphburusrwmknkhxngphwkmnmikhwamsmphnthxyangiklchidkb platyrrhines aelabrrphburusrwmknkhxngthngsamnnekiywkhxngkb oligopiths odythiorkhhwdthiynghlngehluxxyunnsubechuxsaymacak propliopiths xikkhrng lt br gt hrux propliopiths aela oligopiths mikhwamsmphnthknxyangiklchid aela parapiths ekiywkhxngkbbrrphburusrwmknkhxngthngsxng aelabrrphburusrwmkhxngthngsamekiywkhxngkb platyrrhines ody Cercopithecoidea subechuxsaymacak parapiths aela hominoidea subechuxsaymacak propliopiths lt br gt inthisud phwkekhayngphicarnasmmtithanthiwa oligopiths epn adapiformes echn setrpesxrirninyukhaerk makkwa haplorhine inyukhaerk Ni et al inkarprakasih inpi 2013 epnsingthiphwkekhaxthibaywaepniphremtrunaerksudthimisakraylaexiyddngklaw ihwangmnaetktangipcakkhangbnelknxyemuxphwkmnwang Omomyids iwin Tarsiiformes odymi Omomyids aela Tarsiidae mibrrphburusrwmkn aela brrphburusrwmknsungmibrrphburusrwmknaebbtharsixifxrmkbxarkhiesbidi tnkaenidthiepnipidkhux Haplorrhini bangchnidsungodypkticathuxwaepn echn aela DarwiniusxangxingPocock R I 1918 03 05 On the External Characters of the Lemurs and of Tarsius Proceedings of the Zoological Society of London phasaxngkvs 88 1 2 19 53 doi 10 1111 j 1096 3642 1918 tb02076 x ISSN 0370 2774 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imsmehtusmphl miniyamchux Pocock 19 53 hlaykhrngdwyenuxhatangkn Society London Zoological 1838 Proceedings of the Zoological Society of London phasaxngkvs p 67 Williams B A Kay R F Kirk E C 2010 New perspectives on anthropoid origins Proceedings of the National Academy of Sciences 107 11 4797 804 Bibcode 2010PNAS 107 4797W doi 10 1073 pnas 0908320107 PMC 2841917 PMID 20212104 Pollock J I Mullin R J 1987 Vitamin C biosynthesis in prosimians Evidence for the anthropoid affinity of Tarsius American Journal of Physical Anthropology 73 1 65 70 doi 10 1002 ajpa 1330730106 PMID 3113259 Rossie James B Smith Timothy D Beard K Christopher Godinot Marc Rowe Timothy B 2018 Nasolacrimal anatomy and haplorhine origins Journal of Human Evolution 114 176 183 doi 10 1016 j jhevol 2017 11 004 PMID 29447758 Ankel Simons 2007 Pozzi Luca Hdgson Jason A Burrell Andrew S Sterner Kirstin N Raaum Ryan L Disotell Todd R 28 February 2014 Primate phylogenetic relationships and divergence dates inferred from complete mitochondrial genomes Molecular Phylogenetics and Evolution 75 165 183 doi 10 1016 j ympev 2014 02 023 PMC 4059600 PMID 24583291 Schrago C G 2003 06 27 Timing the Origin of New World Monkeys Molecular Biology and Evolution 20 10 1620 1625 doi 10 1093 molbev msg172 ISSN 0737 4038 PMID 12832653 Bond Mariano Tejedor Marcelo F Campbell Kenneth E Chornogubsky Laura Novo Nelson Goin Francisco April 2015 Eocene primates of South America and the African origins of New World monkeys Nature phasaxngkvs 520 7548 538 541 Bibcode 2015Natur 520 538B doi 10 1038 nature14120 ISSN 1476 4687 PMID 25652825 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a hdl access txngkar hdl help Palmer Chris 2013 05 15 Fossils indicate common ancestor for two primate groups Nature phasaxngkvs nature 2013 12997 doi 10 1038 nature 2013 12997 ISSN 0028 0836 Rylands AB Mittermeier RA 2009 The Diversity of the New World Primates Platyrrhini in Garber PA Estrada A Bicca Marques JC Heymann EW b k South American Primates Comparative Perspectives in the Study of Behavior Ecology and Conservation Springer ISBN 978 0 387 78704 6 Ni Xijun Gebo Daniel L Dagosto Marian Meng Jin Tafforeau Paul Flynn John J Beard K Christopher 2013 The oldest known primate skeleton and early haplorhine evolution Nature 498 7452 60 4 Bibcode 2013Natur 498 60N doi 10 1038 nature12200 PMID 23739424 Callum F Ross Richard F Kay Anthropoid Origins New Visions Springer 2004 ISBN 978 1 4419 8873 7 p 114 Richard F Kay Blythe A Williams Anthropoid Origins New Visions Developments in Primatology Progress and Prospects Springer 2013 ISBN 978 1461347002 p 365 Jaeger J J Sein C Gebo D L Chaimanee Y Nyein M T Oo T Z Aung M M Suraprasit K Rugbumrung M Lazzari V Soe A N 2020 11 11 Amphipithecine primates are stem anthropoids cranial and postcranial evidence Proceedings of the Royal Society B Biological Sciences phasaxngkvs 287 1938 20202129 doi 10 1098 rspb 2020 2129 ISSN 0962 8452 PMC 7735260 PMID 33171091 Gingerich Philip D 2012 06 28 Primates in the Eocene Palaeobiodiversity and Palaeoenvironments phasaxngkvs 92 4 649 663 doi 10 1007 s12549 012 0093 5 ISSN 1867 1594 wrrnkrrmthixangthung Ankel Simons F 2007 Primate Anatomy 3rd ed Academic Press ISBN 978 0 12 372576 9 Primate Taxonomy Smithsonian Institution Press 2001 ISBN 1 56098 872 X Primates in Question Smithsonian Institution Press 2003 Robert W Shumaker amp Benjamin B Beck ISBN 1 58834 176 3