ซีลาแคนท์ (อังกฤษ: Coelacanth, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈsiːləkænθ/ ดัดแปลงมาจากคำละตินสมัยใหม่ Cœlacanthus เมื่อ cœl-us + acanth-us จากภาษากรีกโบราณ κοῖλ-ος [โพรง] + ἄκανθ-α [กระดูกสันหลัง]) เป็นชื่อสามัญของอันดับปลาที่รวมถึงสายพันธุ์ของปลาที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักในปัจจุบันพวก นักวิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่าปลาซีลาแคนท์มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับปลาปอดและเตตราพอดที่เคยเชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อครั้งสิ้นสุดยุคครีเทเชียส จนกระทั่งมีการพบปลา แลติเมอเรีย ครั้งแรกที่นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของแอฟริกาใต้เลยออกมาในปี ค.ศ. 1938 และปลาเหล่านั้นจึงเป็นพวก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 เป็นต้นมา ปลาซีลาแคนท์ Latimeria chalumnae ก็มีการถูกค้นพบในคอโมโรส เคนยา แทนซาเนีย โมซัมบิก มาดากัสการ์ และใน ในแอฟริกาใต้ สายพันธุ์ที่สอง Latimeria menadoensis พบที่เกาะซูลาเวซี อินโดนีเซีย ในปี ค.ศ. 1999 ทำให้ทราบว่าปลาซีลาแคนท์ไม่มีปอดและมีโครงสร้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเตตราพอดแต่อย่างใด ปลาซีลาแคนท์ไม่มีคุณค่าทางการค้าอย่างแท้จริงนอกเสียจากจะแปรสภาพเป็นวัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และการเก็บสะสมส่วนตัว ในแง่ของการเป็นอาหารแล้ว ปลาซีลาแคนท์เกือบไม่มีค่าเอาเสียเลยด้วยเนื้อเยื่อของมันมีน้ำมันไหลซึมออกมาแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม และเนื้อของมันทั้งเหนียวและมีกลิ่นเหม็นด้วย
ปลาซีลาแคนท์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: – ปัจจุบัน,409–0Ma | |
---|---|
ตัวอย่างปลาซีลาแคนท์มหาสมุทรอินเดียตะวันตกที่จับขึ้นมาใน ค.ศ. 1974 ที่ หมู่เกาะคอโมโร | |
ปลาซีลาแคนท์ที่มีชีวิตอยู่ที่ ริม , แอฟริกาใต้, ค.ศ. 2019 | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
เคลด: | |
เคลด: | ปลาที่มีครีบเป็นพู่ |
อันดับ: | Actinistia Cope, 1871 |
ชนิดต้นแบบ | |
† , 1839 | |
วงศ์และสกุล | |
อื่น ๆ ดูข้อความ |
ประวัติธรรมชาติ
ปลาซีลาแคนท์พบเป็นฟอสซิลครั้งแรกในยุคดีโวเนียนตอนกลาง ปลาซีลาแคนท์ดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ในน้ำในช่วงปลายของมหายุคพาลีโอโซอิกและมีโซโซอิก
ซีลาแคนท์เป็นปลาที่มีครีบมีลักษณะเป็นพูอยู่ที่ทรวงอกและก้นอยู่บนแท่งก้านเนื้อเยื่อที่รองรับโดยกระดูกและมีครีบหางที่แตกออกแยกเป็น 3 พู โดยที่พูตรงกลางจะรวมถึงชุดของโนโตคอร์ด ปลาซีลาแคนท์มีเกล็ดที่บางกว่าเกล็ดของปลาพวกคอสมอยด์จริง ๆ ปลาซีลาแคนท์มีอวัยวะพิเศษสำหรับตอบรับทางไฟฟ้าที่เรียกกันว่าอวัยวะคล้ายตะขออยู่ทางด้านหน้าของกะโหลกที่อาจจะใช้ช่วยในการตรวจจับเหยื่อ อวัยวะเล็ก ๆ นี้อาจช่วยรักษาสมดุลของตัวปลาได้ด้วย การค้นหาตำแหน่งด้วยคลื่นเสียงสะท้อนก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในวิถีทางการเคลื่อนที่ของตัวปลา
ซากดึกดำบรรพ์
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการค้นพบรู้จักปลาซีลาแคนท์ที่มีชีวิตอยู่เพียง 2 ชนิดเท่านั้น แต่พบว่าครั้งหนึ่งพวกมันกลับเคยประสบความสำเร็จด้วยการพบเป็นฟอสซิลที่หลากหลายสกุลและหลากหลายชนิดจากยุคดีโวเนียนจนถึงสิ้นสุดยุคครีเทเชียสซึ่งเป็นจุดช่วงเวลาที่พวกมันต้องเผชิญกับความยากลำบากจนเกือบต้องสูญพันธุ์ไปทั้งหมด มักจะมีความเข้าใจกันว่าปลาซีลาแคนท์แทบจะไม่มีลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ตลอดช่วงระยะเวลาหลายล้านปีมานี้ แต่ที่แท้จริงแล้วชนิดที่มีชีวิตทั้งสองชนิดหรือแม้แต่สกุลก็ตามไม่เคยพบในรูปของฟอสซิลเลย อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ฟอสซิลบางชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสซิลยุคครีเทเชียสสกุล ที่มีลักษณะใกล้ชิดกันกับสกุลมีชีวิตในปัจจุบันมาก เหตุผลในเรื่องนี้เป็นไปได้ว่าพวกที่สูญพันธุ์ไปนั้นเป็นพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำตื้น ขณะที่สายพันธุ์ฟอสซิลชนิดที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกพบว่าเป็นการยากที่จะถูกยกตัวขึ้นมาให้นักบรรพชีวินวิทยาให้สามารถค้นพบเพื่อทำการศึกษาได้ ทำให้พวกที่เป็นปลาน้ำลึกไม่พบบันทึกเป็นฟอสซิลให้เห็น สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้การสำรวจและศึกษาต่อไปโดยนักวิทยาศาสตร์
อนุกรมวิธาน
บางทีชั้นย่อย Coelacanthimorpha (Actinistia) ก็ถูกจัดให้เป็นกลุ่มของปลา Sarcopterygian ด้วยที่รวมถึง Coelacanthiformes ด้านล่างนี้เป็นการจำแนกวงศ์และสกุลของปลาซีลาแคนท์
- ชั้น Sarcopterygii
- ชั้นย่อย Coelacanthimorpha
- อันดับ COELACANTHIFORMES
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Latimeriidae
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- Latimeria (James Leonard Brierley Smith, 1939)
- L. chalumnae (Comorese coelacanth) (James Leonard Brierley Smith, 1939)
- L. menadoensis (Indonesian coelacanth) (Pouyaud, Wirjoatmodjo, Rachmatika, Tjakrawidjaja, et al., 1999)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
- (สูญพันธุ์)
- วงศ์ (สูญพันธุ์)
ความสำคัญทางวัฒนธรรม
เนื่องด้วยธรรมชาติอันน่าประหลาดในการค้นพบซีลาแคนท์ ทำให้มีผลงานสมัยใหม่ หัตถศิลป์ และวรรณกรรมได้แรงบันดาลใจจากสิ่งนี้มาก มีอย่างน้อย 22 ประเทศที่มีมันบนแสตมป์ โดยเฉพาะคอโมโรสที่มีแสตมป์ซีลาแคนท์ถึง 12 ชุด ปลานี้ยังปรากฏในธนบัตร 1000 และเหรียญ 5 ฟรังก์คอโมโรส
เชิงอรรถ
- ฟอสซิลกรามปลาซีลาแคนท์พบในชั้นหินอายุ 410 ล้านปีมาแล้ว ถูกค้นพบใกล้ ๆ กับบูจันในวิกตอเรียกิปป์แลนด์ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งจนถึงปัจจุบันถือว่าเป็นปลาซีลาแคนท์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ได้รับการตั้งชื่อว่า Eoactinistia foreyi ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2006
อ้างอิง
- Johanson, Z.; Long, J. A; Talent, J. A; Janvier, P.; Warren, J. W (2006). "Oldest coelacanth, from the Early Devonian of Australia". Biology Letters. 2 (3): 443–6. doi:10.1098/rsbl.2006.0470. PMC 1686207. PMID 17148426.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-27. สืบค้นเมื่อ 2009-05-14.
- Erdmann, Mark V. (April 1999). . Environmental Biology of Fishes. Springer Netherlands. 54 (4): 439–443. doi:10.1023/A:1007584227315. 0378-1909 (Print) 1573-5133 (Online). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-11. สืบค้นเมื่อ 2007-05-18.
{{}}
: ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)) - (2007), Extraordinary Animals: An Encyclopedia of Curious and Unusual Animals, .
- Palmer, D., บ.ก. (1999). The Marshall Illustrated Encyclopedia of Dinosaurs and Prehistoric Animals. London: Marshall Editions. p. 44. ISBN .
- Nelson, Joseph S. (2006). Fishes of the World. . ISBN .
- Smith, J. L. B. (2017). The Annotated Old Four legs. Cape Town: Struik Travel & Heritage. pp. 322–327. ISBN . OCLC 1100871937.
อ่านเพิ่มเติม
- Smith, J. L. B. (1956). Old Fourlegs: the Story of the Coelacanth. Longmans Green.
- Fricke, Hans (June 1988). "Coelacanths – The Fish That Time Forgot". National Geographic. Vol. 173 no. 6. pp. 824–838. ISSN 0027-9358. OCLC 643483454.
- Wade, Nicholas (18 April 2013). "Fish's DNA May Explain How Fins Turned to Feet". The New York Times. pp. A3.
- Thomson, Keith S. (1991). Living Fossil: the Story of the Coelacanth. W. W. Norton.
- Sepkoski, Jack (2002). . Bulletins of American Paleontology. 364: 560. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2009. สืบค้นเมื่อ 2011-05-17.
- Weinberg, Samantha (1999). A Fish Caught in Time: The Search for the Coelacanth. Fourth Estate.
- Bruton, Mike (2015). When I Was a Fish: Tales of an Ichthyologist. Jacana Media(Pty)Ltd.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Anatomy of the coelacanth โดย PBS (ต้องการ Adobe Flash)
- Dinofish.com (ต้องการ )
- Butler, Carolyn (August 2012). [The Coelacanth: A fossil turns up]. National Geographic Deutschland (ภาษาเยอรมัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-03. สืบค้นเมื่อ 2021-09-25.
- Amemiya, Chris T.; Alföldi, Jessica; Lee, Alison P.; Fan, Shaohua; Philippe, Hervé; MacCallum, Iain; Braasch, Ingo; Manousaki, Tereza; Schneider, Igor; และคณะ (2013). "The African coelacanth genome provides insights into tetrapod evolution". Nature. 496 (7445): 311–6. Bibcode:2013Natur.496..311A. doi:10.1038/nature12027. PMC 3633110. PMID 23598338.
- BBC News Science & Environment (17 เมษายน 2013). 'Living fossil' coelacanth genome sequenced.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
silaaekhnth xngkvs Coelacanth esiyngxanphasaxngkvs ˈsiːlekaen8 ddaeplngmacakkhalatinsmyihm Cœlacanthus emux cœl us acanth us cakphasakrikobran koῖl os ophrng ἄkan8 a kraduksnhlng epnchuxsamykhxngxndbplathirwmthungsayphnthukhxngplathiekaaekthisudethathiruckinpccubnphwk nkwithyasastrekhyechuxwaplasilaaekhnthmikhwamekiywkhxngsmphnthkbplapxdaelaettraphxdthiekhyechuxknwasuyphnthuipemuxkhrngsinsudyukhkhriethechiys cnkrathngmikarphbpla aeltiemxeriy khrngaerkthinxkchayfngdantawnxxkkhxngaexfrikaitelyxxkmainpi kh s 1938 aelaplaehlanncungepnphwk tngaetpi kh s 1938 epntnma plasilaaekhnth Latimeria chalumnae kmikarthukkhnphbinkhxomors ekhnya aethnsaeniy omsmbik madakskar aelain inaexfrikait sayphnthuthisxng Latimeria menadoensis phbthiekaasulaewsi xinodniesiy inpi kh s 1999 thaihthrabwaplasilaaekhnthimmipxdaelamiokhrngsrangthiimekiywkhxngkbettraphxdaetxyangid plasilaaekhnthimmikhunkhathangkarkhaxyangaethcringnxkesiycakcaaeprsphaphepnwtthucdaesdnginphiphithphnthaelakarekbsasmswntw inaengkhxngkarepnxaharaelw plasilaaekhnthekuxbimmikhaexaesiyelydwyenuxeyuxkhxngmnminamnihlsumxxkmaaemwacatayipaelwktam aelaenuxkhxngmnthngehniywaelamiklinehmndwyplasilaaekhnth chwngewlathimichiwitxyu pccubn 409 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Ntwxyangplasilaaekhnthmhasmuthrxinediytawntkthicbkhunmain kh s 1974 thi hmuekaakhxomorplasilaaekhnththimichiwitxyuthi rim aexfrikait kh s 2019karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngekhld ekhld plathimikhribepnphuxndb Actinistia Cope 1871chnidtnaebb 1839wngsaelaskulLatimeriidae xun dukhxkhwamprawtithrrmchatiplasilaaekhnthphbepnfxssilkhrngaerkinyukhdioweniyntxnklang plasilaaekhnthdukdabrrphxasyxyuinnainchwngplaykhxngmhayukhphalioxosxikaelamiososxik silaaekhnthepnplathimikhribmilksnaepnphuxyuthithrwngxkaelaknxyubnaethngkanenuxeyuxthirxngrbodykradukaelamikhribhangthiaetkxxkaeykepn 3 phu odythiphutrngklangcarwmthungchudkhxngonotkhxrd plasilaaekhnthmiekldthibangkwaekldkhxngplaphwkkhxsmxydcring plasilaaekhnthmixwywaphiesssahrbtxbrbthangiffathieriykknwaxwywakhlaytakhxxyuthangdanhnakhxngkaohlkthixaccaichchwyinkartrwccbehyux xwywaelk nixacchwyrksasmdulkhxngtwplaiddwy karkhnhataaehnngdwykhlunesiyngsathxnkxacepnpccyhnunginwithithangkarekhluxnthikhxngtwpla sakdukdabrrph aemwainpccubncamikarkhnphbruckplasilaaekhnththimichiwitxyuephiyng 2 chnidethann aetphbwakhrnghnungphwkmnklbekhyprasbkhwamsaercdwykarphbepnfxssilthihlakhlayskulaelahlakhlaychnidcakyukhdioweniyncnthungsinsudyukhkhriethechiyssungepncudchwngewlathiphwkmntxngephchiykbkhwamyaklabakcnekuxbtxngsuyphnthuipthnghmd mkcamikhwamekhaicknwaplasilaaekhnthaethbcaimmilksnathimikarepliynaeplngid tlxdchwngrayaewlahlaylanpimani aetthiaethcringaelwchnidthimichiwitthngsxngchnidhruxaemaetskulktamimekhyphbinrupkhxngfxssilely xyangirktamsayphnthufxssilbangchnidodyechphaaxyangyingfxssilyukhkhriethechiysskul thimilksnaiklchidknkbskulmichiwitinpccubnmak ehtuphlineruxngniepnipidwaphwkthisuyphnthuipnnepnphwkthixasyxyuinnatun khnathisayphnthufxssilchnidthixasyxyuinnalukphbwaepnkaryakthicathukyktwkhunmaihnkbrrphchiwinwithyaihsamarthkhnphbephuxthakarsuksaid thaihphwkthiepnplanalukimphbbnthukepnfxssilihehn singehlaniyngkhngxyuphayitkarsarwcaelasuksatxipodynkwithyasastrxnukrmwithantwxyangplasilaaekhnththithukekbrksaininkrunglxndxninstwmikraduksnhlngsayphnthuihminchwngtxnplaykhxngyukhdioweniyn lukhlanchwngplaythimikhribepnphuxyang aesdngthungkarprbtwepnladb ehmaakbokhlntun mirayangkhkhlaykhribthisamarthnamnkhunmabnbkid xyuinhnxngnathietmipdwywchphuch xyangechn miethathimi 8 niw mirayangkh phusubthxdyngrwmthungphwkplathimikhribepnphudwyxyangechn phwkplasilaaekhnth bangthichnyxy Coelacanthimorpha Actinistia kthukcdihepnklumkhxngpla Sarcopterygian dwythirwmthung Coelacanthiformes danlangniepnkarcaaenkwngsaelaskulkhxngplasilaaekhnth chn Sarcopterygii chnyxy Coelacanthimorphaxndb COELACANTHIFORMES wngs suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu wngs Latimeriidae suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu suyphnthu Latimeria James Leonard Brierley Smith 1939 L chalumnae Comorese coelacanth James Leonard Brierley Smith 1939 L menadoensis Indonesian coelacanth Pouyaud Wirjoatmodjo Rachmatika Tjakrawidjaja et al 1999 suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu suyphnthu wngs suyphnthu suyphnthu khwamsakhythangwthnthrrmenuxngdwythrrmchatixnnaprahladinkarkhnphbsilaaekhnth thaihmiphlngansmyihm htthsilp aelawrrnkrrmidaerngbndaliccaksingnimak mixyangnxy 22 praethsthimimnbnaestmp odyechphaakhxomorsthimiaestmpsilaaekhnththung 12 chud planiyngpraktinthnbtr 1000 aelaehriyy 5 frngkkhxomorsechingxrrthfxssilkramplasilaaekhnthphbinchnhinxayu 410 lanpimaaelw thukkhnphbikl kbbucninwiktxeriykippaelndthangtawnxxkkhxngxxsetreliy sungcnthungpccubnthuxwaepnplasilaaekhnththimixayuekaaekthisud idrbkartngchuxwa Eoactinistia foreyi thiidrbkartiphimphephyaephrineduxnphvscikayn kh s 2006xangxingJohanson Z Long J A Talent J A Janvier P Warren J W 2006 Oldest coelacanth from the Early Devonian of Australia Biology Letters 2 3 443 6 doi 10 1098 rsbl 2006 0470 PMC 1686207 PMID 17148426 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 27 subkhnemux 2009 05 14 Erdmann Mark V April 1999 Environmental Biology of Fishes Springer Netherlands 54 4 439 443 doi 10 1023 A 1007584227315 0378 1909 Print 1573 5133 Online khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 09 11 subkhnemux 2007 05 18 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help 2007 Extraordinary Animals An Encyclopedia of Curious and Unusual Animals Palmer D b k 1999 The Marshall Illustrated Encyclopedia of Dinosaurs and Prehistoric Animals London Marshall Editions p 44 ISBN 1 84028 152 9 Nelson Joseph S 2006 Fishes of the World ISBN 0 471 25031 7 Smith J L B 2017 The Annotated Old Four legs Cape Town Struik Travel amp Heritage pp 322 327 ISBN 978 1 77584 501 0 OCLC 1100871937 xanephimetimSmith J L B 1956 Old Fourlegs the Story of the Coelacanth Longmans Green Fricke Hans June 1988 Coelacanths The Fish That Time Forgot National Geographic Vol 173 no 6 pp 824 838 ISSN 0027 9358 OCLC 643483454 Wade Nicholas 18 April 2013 Fish s DNA May Explain How Fins Turned to Feet The New York Times pp A3 Thomson Keith S 1991 Living Fossil the Story of the Coelacanth W W Norton Sepkoski Jack 2002 Bulletins of American Paleontology 364 560 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 February 2009 subkhnemux 2011 05 17 Weinberg Samantha 1999 A Fish Caught in Time The Search for the Coelacanth Fourth Estate Bruton Mike 2015 When I Was a Fish Tales of an Ichthyologist Jacana Media Pty Ltd aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb plasilaaekhnth wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Latimeria Anatomy of the coelacanth ody PBS txngkar Adobe Flash Dinofish com txngkar Butler Carolyn August 2012 The Coelacanth A fossil turns up National Geographic Deutschland phasaeyxrmn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 02 03 subkhnemux 2021 09 25 Amemiya Chris T Alfoldi Jessica Lee Alison P Fan Shaohua Philippe Herve MacCallum Iain Braasch Ingo Manousaki Tereza Schneider Igor aelakhna 2013 The African coelacanth genome provides insights into tetrapod evolution Nature 496 7445 311 6 Bibcode 2013Natur 496 311A doi 10 1038 nature12027 PMC 3633110 PMID 23598338 BBC News Science amp Environment 17 emsayn 2013 Living fossil coelacanth genome sequenced