บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่
|
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้นชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปาล์ม (Arecaceae) และเป็นสปีชีส์เดียวของสกุล Cocos ที่ยังมีชีวิตอยู่ มะพร้าว เป็นพืชซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายทาง เช่น น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อนใช้รับประทาน เนื้อในผลแก่นำไปขูดและคั้นทำกะทิ กะลานำไปประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ ฯลฯ นอกจากนี้มะพร้าวจัดเป็นพรรณไม้มงคลชนิดหนึ่ง ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง ได้กำหนดให้ปลูกมะพร้าวไว้ทางทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อความสิริมงคล
มะพร้าว ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 55–0Ma สมัยอีโอซีนตอนต้น – ปัจจุบัน | |
---|---|
ต้นปาล์มมะพร้าว (Cocos nucifera) | |
ลูกมะพร้าว | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | พืช Plantae |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง Tracheophytes |
เคลด: | พืชดอก Angiosperms |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงเดี่ยว Monocots |
เคลด: | Commelinids |
อันดับ: | Arecales |
วงศ์: | ปาล์ม (พืช) Arecaceae |
วงศ์ย่อย: | วงศ์ย่อยหมาก Arecoideae |
เผ่า: | Cocoseae L. |
สกุล: | Cocos Cocos L. |
สปีชีส์: | Cocos nucifera |
ชื่อทวินาม | |
Cocos nucifera L. | |
บริเวณพื้นถิ่นที่เป็นไปได้ของ Cocos nucifera ก่อนการทำการเพาะปลูกบริเวณอื่น |
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 1,480 กิโลจูล (350 กิโลแคลอรี) |
15.23 g | |
น้ำตาล | 6.23 g |
ใยอาหาร | 9.0 g |
33.49 g | |
อิ่มตัว | 29.698 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว | 1.425 g |
ไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ | 0.366 g |
3.33 g | |
ทริปโตเฟน | 0.039 g |
ทรีโอนีน | 0.121 g |
0.131 g | |
ลิวซีน | 0.247 g |
ไลซีน | 0.147 g |
เมไธโอนีน | 0.062 g |
0.066 g | |
ฟีนิลอะลานีน | 0.169 g |
ไทโรซีน | 0.103 g |
วาลีน | 0.202 g |
อาร์จินีน | 0.546 g |
0.077 g | |
อะลานีน | 0.170 g |
กรดแอสปาร์ติก | 0.325 g |
กลูตาเมต | 0.761 g |
ไกลซีน | 0.158 g |
0.138 g | |
0.172 g | |
วิตามิน | |
ไทอามีน (บี1) | (6%) 0.066 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (2%) 0.020 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (4%) 0.540 มก. |
(6%) 0.300 มก. | |
วิตามินบี6 | (4%) 0.054 มก. |
โฟเลต (บี9) | (7%) 26 μg |
วิตามินซี | (4%) 3.3 มก. |
วิตามินอี | (2%) 0.24 มก. |
วิตามินเค | (0%) 0.2 μg |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (1%) 14 มก. |
เหล็ก | (19%) 2.43 มก. |
แมกนีเซียม | (9%) 32 มก. |
แมงกานีส | (71%) 1.500 มก. |
ฟอสฟอรัส | (16%) 113 มก. |
โพแทสเซียม | (8%) 356 มก. |
โซเดียม | (1%) 20 มก. |
สังกะสี | (12%) 1.10 มก. |
องค์ประกอบอื่น | |
น้ำ | 47 g |
Link to USDA Database entry | |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: USDA FoodData Central |
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 19 กิโลแคลอรี (79 กิโลจูล) |
3.71 | |
น้ำตาล | 2.61 |
ใยอาหาร | 1.1 |
0.2 | |
0.72 | |
วิตามิน | |
ไทอามีน (บี1) | (3%) 0.03 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (5%) 0.057 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (1%) 0.08 มก. |
วิตามินบี6 | (2%) 0.032 มก. |
วิตามินซี | (3%) 2.4 มก. |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (2%) 24 มก. |
เหล็ก | (2%) 0.29 มก. |
แมกนีเซียม | (7%) 25 มก. |
ฟอสฟอรัส | (3%) 20 มก. |
โพแทสเซียม | (5%) 250 มก. |
สังกะสี | (1%) 0.1 มก. |
องค์ประกอบอื่น | |
น้ำ | 95 |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ |
ลักษณะทั่วไป
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้น ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก ผลประกอบด้วย (epicarp) คือเปลือกนอก ถัดไปข้างในจะเป็น (mesocarp) หรือใยมะพร้าว ถัดไปข้างในเป็นส่วน (endocarp) หรือกะลามะพร้าว ซึ่งจะมีรูสีคล้ำอยู่ 3 รู สำหรับงอก ถัดจากส่วนเอนโดคาร์ปเข้าไปจะเป็นส่วนเอนโดสเปิร์ม หรือที่เรียกว่าเนื้อมะพร้าว ภายในมะพร้าวจะมีน้ำมะพร้าวซึ่งน้ำมะพร้าวเกิดจากเอนโดสเปิร์มของมะพร้าวซึ่งจะมีเอนโดสเปิร์มทั้งของแข็งและของเหลว คือ เอนโดสเปิร์มของแข็งจะเป็นเนื้อมะพร้าว และเอนโดสเปิร์มทั้งของเหลวจะเป็นน้ำมะพร้าว ซึ่งเมื่อมะพร้าวแก่ เอนโดสเปิร์มก็จะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมด ขณะที่มะพร้าวยังอ่อน ชั้นเอนโดสเปิร์ม (เนื้อมะพร้าว) ภายในผลมีลักษณะบางและอ่อนนุ่ม ภายในมีน้ำมะพร้าว ซึ่งในระยะนี้เรามักสอยเอามะพร้าวลงมารับประทานน้ำและเนื้อ เมื่อมะพร้าวแก่ ซึ่งสังเกตได้จากการที่เปลือกนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ชั้นเอนโดสเปิร์มก็จะหนาและแข็งขึ้น จนในที่สุดมะพร้าวก็หล่นลงจากต้น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะพร้าว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cocos nucifera L. อยู่ในตระกูล Palmae มีระบบรากเป็นรากฝอยมีขนาดเท่า ๆ กัน แผ่กระจายออกรอบต้น
ลำต้น มีลำต้นเดียว ไม่แตกแขนง มีรอยแผลจากการหลุดร่วงของใบตลอดลำต้น สามารถคำนวณอายุของต้นมะพร้าวได้จากรอยแผลนี้ คือ ในปีหนึ่งมะพร้าวจะสร้างใบประมาณ 12- 14 ใบ ดังนั้นใน 1 ปี จะมีรอยแผลที่ลำต้น 12 – 14 รอยแผล
ใบ เป็นใบประกอบ ออกอยู่ตามส่วนของลำต้น ประกอบด้วยก้านทาง ( rechis ) มีขนาดใหญ่และยาว และมีใบย่อย (leaflet) บนก้านทางประมาณ 200 – 250 ใบ
ดอก ออกเป็นช่อชนิดพานิเคิล มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย อยู่ในช่อเดียวกัน ดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ สีครีมหรือสีเหลืองนวล ไม่มีก้านดอกย่อยดอกตัวเมียจะมีกลีบดอกหนาและแข็งกว่ากลีบดอกตัวผู้
ผล มะพร้าวเป็นชนิดไฟบรัสดรุป (fibrous drupe) เรียกว่า นัท (nut) มีเปลือก 3 ชั้นคือ
- เปลือกชั้นนอก (exocarp) เป็นเส้นใยที่เหนียวและแข็ง เมื่อแก่อาจมีสีเขียว แดง เหลืองหรือน้ำตาล
- เปลือกชั้นกลาง (mesocarp) มีลักษณะเป็นเส้นใย มีความหนาพอประมาณ
- เปลือกชั้นใน (endocarp) มีลักษณะแข็งหรือที่เรียกกันว่า กะลา (shell)
เมล็ด (seed of kernel) คือ เนื้อมะพร้าว ภายในเมล็ดเป็นช่อกลวงขณะผลอ่อนจะมีน้ำอยู่เต็ม ผลแก่น้ำมะพร้าวจะแห้งไปบางส่วน
พันธุ์ มะพร้าวเป็นพืชผสมข้ามพันธุ์ แต่ละต้นจึงไม่เป็นพันธุ์แท้ อาศัยหลักทางการผสมพันธุ์ที่เป็นไปโดยธรรมชาติ อาจแบ่งมะพร้าวออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทต้นเตี้ยและประเภทต้นสูง
ประเภทต้นเตี้ย มะพร้าวประเภทนี้ มีการผสมตัวเองค่อนข้างสูง จึงมักให้ผลดกและไม่ค่อยกลายพันธุ์ ส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อรับประทานผลอ่อน เพราะในขณะที่ผลยังไม่แก่ อายุประมาณ 4 เดือน เนื้อมีลักษณะอ่อนนุ่ม และน้ำมีรสหวาน บางพันธุ์น้ำมีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม
ลักษณะทั่วไปของประเภทต้นเตี้ย ลำต้นเล็ก โคนต้นไม่มีสะโพก ต้นเตี้ย โตเต็มที่สูงประมาณ 12 เมตร ทางใบสั้น ถ้ามีการดูแลปานกลางจะเริ่มให้ผลเมื่ออายุ 3-4 ปี ให้ผลผลิตประมาณ 35-40 ปี มะพร้าวประเภทต้นเตี้ยมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เปลือกสีเขียวเหลือง นวล (สีงาช้าง) น้ำตาลแดง หรือสีส้ม น้ำมีรสหวาน มีกลิ่นหอม มะพร้าวต้นเตี้ยทุกพันธุ์จะมีผลขนาดเล็ก เมื่อผลแก่มีเนื้อบางและน้อย ซึ่งได้แก่พันธุ์ นกคุ่ม หมูสีเขียว หมู่สีเหลือง หรือนาฬิกา มะพร้าวเตี้ย น้ำหอม และมะพร้าวไฟ แต่ปัจจุบันมะพร้าวน้ำหอมกำลังเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมใช้ในการบริโภคสดและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ประเภทต้นสูง ตามปกติมะพร้าวต้นสูงจะผสมข้ามพันธุ์ คือ ในแต่ละช่อดอก (จั่น) หนึ่ง ๆ ดอกตัวผู้จะค่อย ๆ ทยอยบาน และร่วงหล่นไปหมดก่อนที่ดอกตัวเมียในจั่นนั้นจะเริ่มบาน จึงไม่มีโอกาสผสมตัวเอง มะพร้าวประเภทนี้เป็นมะพร้าวเศรษฐกิจส่วนใหญ่ปลูกเป็นสวนอาชีพ เพื่อใช้เนื้อจากผลแก่ไปประกอบอาหาร หรือเพื่อทำมะพร้าวแห้งใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันพืช
ลักษณะทั่วไปของประเภทต้นสูง ลำต้นใหญ่ โคนต้นมีสะโพกใหญ่ ต้นสูง โตเต็มที่สูงประมาณ 18 เมตร ทางใบใหญ่และยาว ถ้ามีการดูแลปานกลางจะเริ่มให้ผลเมื่ออายุ 5-6 ปี อายุยืนให้ผลผลิตนานประมาณ 80 ปี มะพร้าวต้นสูงมีผลโตเนื้อหนาปริมาณเนื้อมาก มีลักษณะภายนอกหลายอย่างที่แตกต่างกัน เช่น ผลขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รูปผลกลม ผลรี บางพันธุ์เปลือกมีลักษณะพิเศษ คือ ในขณะที่ผลยังไม่แก่ เปลือกตอนส่วนหัวจะมีรสหวานใช้รับประทานได้ จึงมีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน ได้แก่พันธุ์กะโหลก มะพร้าวใหญ่ มะพร้าวกลาง ปากจก ทะลายร้อย เปลือกหวานและมะแพร้ว มะพร้าวพันธุ์ลูกผสมแม้ว่ามะพร้าวพื้นเมืองที่เกษตรกรปลูกกันมาแต่ดั้งเดิม จะมีลักษณะดีหลายอย่าง เช่น มีขนาดผลค่อนข้างโต และทนทานต่อสภาพอากาศแล้งได้ดี แต่ในวงการอุตสาหกรรมมะพร้าวในปัจจุบันได้พัฒนาทางด้านคุณภาพมะพร้าวมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตรมีหน้าที่รับผิดชอบด้านวิจัยและพัฒนามะพร้าวได้ผลิตมะพร้าวพันธุ์ลูกผสม ซึ่งได้ผ่านการรับรองพันธุ์ออกมาแล้ว 2 พันธุ์ ดังนี้
พันธุ์สวีลูกผสม 1 (Sawi Hybrid No.1) เป็นมะพร้าวพันธุ์ลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหว่างมะพร้าวพันธุ์มลายูสีเหลืองต้นเตี้ย x เวสท์อัฟริกันต้นสูง (MYD x WAT) ลักษณะเด่นของมะพร้าวพันธุ์นี้คือมีอายุการตกผลเร็ว สามารถเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 5 ผลผลิตเฉลี่ย 2,781 ผลต่อไร่ หรือคิดเป็นน้ำหนักแห้ง 566 กก.ต่อไร่ จากจำนวนมะพร้าว 22 ต้นต่อไร่ เนื้อมะพร้าวแห้งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงถึง 64 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นมะพร้าวที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าวมาก
พันธุ์ชุมพรลูกผสม 60-1 (Chumphon Hybrid 60-1) เป็นมะพร้าวลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์เวสท์อัฟริกันต้นสูง x ไทยต้นสูง สามารถเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 5 หลังจากปลูก ขนาดผลมีตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลผลิตเฉลี่ย 2,257 ผลต่อไร่ หรือคิดเป็นน้ำหนักมะพร้าวแห้งสูงถึง 628 กก.ต่อไร่ เนื้อมะพร้าวแห้งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง 63 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากขนาดผลของมะพร้าวพันธุ์นี้ค่อนข้างโตกว่าพันธุ์สวีลูกผสม 1 จึงสามารถจำหน่ายได้ทั้งผลสดและในรูปมะพร้าวแห้งส่งโรงงานสกัดน้ำมัน มะพร้าวลูกผสมทั้ง 2 พันธุ์ ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองเกือบ 2 เท่า กล่าวคือ พันธุ์ไทยให้ผลผลิต 1,084 ผลต่อไร่ คิดเป็นผลผลิตเนื้อมะพร้าวแห้ง 374 กก.ต่อไร่ และมีปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 59-60 เปอร์เซ็นต์
โรคและแมลงในมะพร้าว
แมลงที่เป็นศัตรูพืชกับมะพร้าวคือ เป็นแมลงปีกแข็งตัวใหญ่มีสีน้ำตาลเข้ม บนหัวมีนอ เหมือนแรด ตัวแก่กัดกินยอดและใบอ่อนทำให้ด้วงงวงมาวางไข่
สามารถจะป้องกันและกำจัดได้ทั้งในระยะที่เป็นตัวหนอนและตัวเต็มวัย โดยปฏิบัติดังนี้
รักษาสวนให้สะอาด เป็นการทำลายแหล่งวางไข่ เพราะด้วงแรดชอบวางไข่ในกองขยะ กองปุ๋ยหมัก กองเศษไม้ ตอไม้ผุ ฯลฯ ถ้าเห็นใบยอดขาดเป็นริ้วๆแสดงว่าถูกด้วงแรดกัดให้ใช้ตะขอหรือเหล็กแหลมแทง ดึงเอาตัวออกมาทำลาย ใช้สารเคมี เช่น
- ออลดริน ชนิดน้ำ 5 ช้อนแกง ผสมน้ำ 1 ปี๊บ ราดที่คอมะพร้าวทุก 2 เดือน
- อโซดริน 3 ช้อนแกง ผสมน้ำ 1 ปี๊บ ราดที่คอมะพร้าวเดือนละครั้ง
- ออลดริน ชนิดผงคลุกกับขี้เลื่อยในอัตรา 1 ช้อนแกง ต่อขี้เลื่อย 8 กระป๋องนม โรยที่คอมะพร้าวต้นละ 1 กระป๋องนม ทุก 2 เดือน
- สำหรับต้นมะพร้าวที่มีลำต้นสูงมาก ใช้พวก นูวาครอนหรืออโซดรินฉีดเข้าลำต้น โดยเอาสว่านเจาะลำต้นให้เป็นรูจำนวน 2 รู อยู่ตรงข้ามกัน ใช้เข็มฉีดยาดูดสารเคมี 10 ซีซี ฉีดใส่ในรูที่เจาะไว้ข้างละ 5 ซีซี จะมีฤทธิ์อยู่นานประมาณ 30 วัน วิธีนี้ห้ามเก็บผลมะพร้าวก่อนครบกำหนดหลังจากฉีดสารเคมีแล้ว อย่างน้อย 30 วัน
ใช้วิธีชีวอินทรีย์โดยธรรมชาติจะมีเชื้อราและเชื้อไวรัสที่สามารถทำลายด้วงแรดได้ทั้งที่เป็นตัวหนอนและตัวเต็มวัย คือ
- เชื้อราเขียว Metarhizium anisophiae จะเข้าทำลายตัวหนอนมองเห็นเป็นเส้นใยสีขาวจับกันเป็นก้อนอยู่ที่ผิวภายนอกตัวหนอนต่อไปจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถ้าตัวหนอนของด้วงแรดมีลักษณะดังกล่าวควรนำไปใส่ให้กระจายตามกองขยะ กองปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ตอหรือท่อนมะพร้าวผุๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์ของด้วงแรด จะช่วยลดปริมาณด้วงแรดลงได้มาก
- เชื้อไวรัส Rhabdiomvirus oryctes หรือที่เรียกกันว่าแบคคูลาไวรัส (Baculavirus) จะเข้าทำลายตัวหนอนมีลักษณะที่สังเกตได้ง่ายคือ ส่วนท้ายของตัวหนอน (rectum) จะพองโตยื่นออกมาเห็นได้ชัด เมื่อพบหนอนที่มีลักษณะนี้ควรเก็บใส่ไว้ตามแหล่งขยายพันธุ์ของด้วงแรด จะทำให้ด้วงแรดเป็นโรคแพร่กระจายมากขึ้นปริมาณของด้วงแรดจะลดลง
แมลงอีกชนิดคือ ด้วงงวง มีขนาดเล็กกว่าด้วงแรด เข้าทำลายต้นมะพร้าวโดยการวางไข่ ตามรอยแผลที่มีอยู่แล้ว เช่น แผลที่เกิดจากด้วงแรดกัดทำลายเมื่อไข่ฟักตัวแล้วหนอนก็จะกัดกินส่วนที่อ่อนแล้วเจาะไชเข้าในลำต้น ทำให้ต้นมะพร้าวเหี่ยวเฉาและตายได้
การป้องกันและกำจัด
ป้องกันกำจัดด้วงแรดอย่าให้เกิดระบาดทำลายต้นมะพร้าวเพราะแผลที่ด้วงแรดกัดเป็นช่องทางให้ด้วงงวงเข้าไปวางไข่ ระวังอย่าให้ต้นมะพร้าวเกิดบาดแผล เช่น การใช้มีดฟันต้น เพราะด้วงงวงจะเข้าไปวางไข่ตามรอยแผล อย่าปลูกมะพร้าวตื้น เพราะรากจะลอย ด้วงงวงสามารถเข้าไปในรอยเปิดของเปลือกตรงส่วนของโคนต้นที่ติดกับพื้นดินได้ ถ้าพบต้นที่ถูกด้วงงวงทำลาย และต้นยังแข็งแรงอยู่ ให้ใช้ยาคาร์โบฟูราน (ฟูราดาน หรือ คูราแทร์ 3% G) โรยบริเวณโคนต้น เกลี่ยดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม สารเคมีจะซึมผ่านขึ้นไปจนถึงยอด ฆ่าหนอนที่กินอยู่ภายในได้ และอย่าเก็บผลไปรับประทานภายใน 30 วัน หลังจากใส่สารเคมีแล้ว ต้นที่ถูกด้วงงวงทำลายจนตาย ควรโค่นทิ้งแล้วเผาทำลาย
รายชื่อพันธุ์มะพร้าว
ส่วนนี้ไม่มีจาก โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่ม เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประโยชน์
มะพร้าวสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
- นํ้ามะพร้าว ใช้เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยโพแทสเซียม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค และเป็นสารละลายไอโซโทนิก ซึ่งด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำน้ำมะพร้าวไปใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดเวน ในผู้ป่วยที่มีอาการขาดน้ำหรือปริมาณเลือดลดผิดปกติได้ น้ำมะพร้าวสามารถนำไปทำ วุ้นมะพร้าว ได้ โดยการเจือกรดอ่อนเล็กน้อยลงในน้ำมะพร้าว
- เนื้อมะพร้าวแก่ นำไปทำกะทิได้ โดยการขูดเนื้อในเป็นเศษเล็ก ๆ แล้วบีบเอาน้ำกะทิออกมาจากมะพร้าว
- กากมะพร้าว ที่เหลือจากการคั้นกะทิ ยังสามารถนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ได้
- ยอดอ่อนของมะพร้าว หรือเรียกอีกชื่อว่า หัวใจมะพร้าว (coconut’s heart) สามารถนำไปใช้ทำอาหารได้ ซึ่งยอดอ่อนมีราคาแพงมาก เพราะการเก็บยอดอ่อนทำให้ต้นมะพร้าวตาย ด้วยเหตุนี้จึงมักเรียกยำยอดอ่อนมะพร้าวว่า “สลัดเจ้าสัว“ (millionaire's salad)
- ใยมะพร้าว นำไปใช้ยัดฟูก ทำเสื่อ หรือนำไปใช้ในการเกษตร และนำไปทำเป็นสครับขัดผิวกายได้
- น้ำมันมะพร้าว ได้จากการบีบหรือต้มกากมะพร้าวบด นำไปใช้ในการปรุงอาหารหรือนำไปทำเครื่องสำอางก็ได้ และในปัจจุบันยังมีการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันมะพร้าวอีกด้วย
- กะลามะพร้าว นำไปใช้ทำสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ กระดุม ซออู้ ฯลฯ
- ก้านใบ หรือ ทางมะพร้าว ใช้ทำไม้กวาดทางมะพร้าว ใบนำไปสารทำหมวก ฯลฯ
- จาวมะพร้าว ใช้นำมาเป็นอาหารได้ ในจาวมะพร้าวมีฮอร์โมนออกซิน และฮอร์โมนอื่นๆแต่ มี ฮอร์โมนออกซินปริมาณมากที่สุด ซึ่งเมื่อนำไปคั้น และนำน้ำที่ได้จากจาวมะพร้าว ไปรดต้นพืช จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้
มะพร้าวในประเทศไทย
มะพร้าว เป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจพืชหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากคนไทยรู้จักใช้เนื้อมะพร้าวในการบริโภคเป็นอาหารทั้งคาวและหวานในชีวิตประจำวัน
สำนักงานสถิติแห่งชาติได้เคยสำรวจพบว่า ประชากรไทย 1 คน จะบริโภคเนื้อมะพร้าวประมาณปีละ 8,273.2 กรัม หรือประมาณ 18 ผล/คน/ปี ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีพลเมืองประมาณ 55 ล้านคน จะใช้ผลมะพร้าวประมาณ 990 ล้านผล หรือประมาณ 65% ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนที่เหลือประมาณ 35% ของผลผลิตทั้งหมด หรือ 489 ล้านผล ใช้ในรูปของอุตสาหกรรมหรือส่งออกต่อไป
อุตสาหกรรมมะพร้าวสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- ผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อการบริโภค เช่น อุตสาหกรรมมะพร้าวแห้งอุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าว อุตสาหกรรมกะทิเข้มข้น อุตสาหกรรมมะพร้าวขูดแห้ง อุตสาหกรรมน้ำตาลมะพร้าว
- ผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรมและอุปโภค เช่น อุตสาหกรรมเส้นใยมะพร้าว อุตสาหกรรมแท่งเพาะชำ อุตสาหกรรมเผาถ่านจากกะลามะพร้าว อุตสาหกรรมแปรรูปมะพร้าว
ผลผลิตมะพร้าวแต่ละปีจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 2,700 ล้านบาท คิดแล้วมูลค่ามหาศาล ซึ่งเราไม่ควรที่จะละเลยและ ควรเร่งหาทางในการส่งเสริมและพัฒนามะพร้าวอีกต่อไป
มะพร้าวสามารถขึ้นได้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ขึ้นได้ดีในดินที่มีสภาพเป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อยคือ (pH ระหว่าง 6-7 ) ลักษณะดินร่วน หรือร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี มีฝนตกกระจายสม่ำเสมอแทบทุกเดือน อากาศอบอุ่น หรือค่อนข้างร้อน และมีแสงแดดมาก
ภาคที่มีการปลูกมะพร้าวมากและปลูกเป็นอาชีพ คือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก
พื้นที่ปลูก
- ภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง
- ภาคกลาง ได้แก่ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร
- ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด ฉะเชิงเทรา
ความสามารถในการแข่งขันในตลาดมะพร้าวโลก
มะพร้าวอ่อน มะพร้าวอ่อนเป็นที่นิยมในตลาดฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ กอปรกับมีงานวิจัยที่สนับสนุนคุณประโยชน์ของมะพร้าวที่มีมากมายต่อพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งมีสารให้ความสดชื่น (สารเหล่านี้มีมากในมะพร้าวอ่อนอายุไม่เกิน 8 เดือน แต่มีอยู่น้อยในมะพร้าวแก่) ทำให้มะพร้าวอ่อนไทยเป็นสินค้าส่งออกที่นิยมแพร่หลาย ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ไทยส่งออกมะพร้าวอ่อนตามพิกัด 0801.190.007 ในปี 2546 รวม 266.4 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการส่งออก 26.55 พันตัน ขยายตัวร้อยละ 7.0 จากปี 2545 โดยตลาดมะพร้าวน้ำหอมของไทยที่สำคัญ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา บาร์เรน บรูไน และซาอุดิอาระเบีย
คู่แข่งมะพร้าวอ่อนของไทย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย โดยไทยเสียเปรียบในแง่ต้นทุนการขนส่งในบางตลาด เช่น ตลาดฮ่องกง ไทยไกลกว่าฟิลิปปินส์ ตลาดสิงคโปร์ ไทยไกลกว่ามาเลเซีย แต่ในเรื่องรสชาติแล้ว มะพร้าวอ่อนของไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากมะพร้าวอ่อนของประเทศอื่น ๆ ไม่มีพันธุ์เฉพาะอย่าง เช่น มะพร้าวน้ำหอมของไทยแต่เป็นมะพร้าวแกงซึ่งเก็บผลอ่อนมาขายกัน นอกจากนี้ ไทยยังมีการแปรรูปเป็นมะพร้าวน้ำหอมแช่แข็ง และน้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋องขาย
มะพร้าวแกง ในการเปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขันมะพร้าวแกงและผลิตภัณฑ์ของไทย กับประเทศผู้ส่งออกมะพร้าวและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะเน้นที่รายการมะพร้าวและผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในข้อผูกพันและ การนำเข้ารายการสินค้าเกษตร 23 รายการของไทยกับ WTO ซึ่งมี 3 รายการดังนี้
1.มะพร้าวฝอยทำให้แห้ง มะพร้าวฝอยทำให้แห้งอยู่ในพิกัด 0801.110.000 ตามงานศึกษาของ สุภาวดี ภัทรโกศล (2540) พบว่า ต้นทุนการผลิตมะพร้าวของเกษตรกรไทยอยู่ที่ผลละ 3.08 บาท และหากตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ประเทศไทยเปิดเสรีในกรอบ AFTA ซึ่งทำให้มะพร้าวไม่สามารถตั้งกำแพงภาษีนำเข้าได้ ไทยจะเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่มีราคามะพร้าวถูกกว่าของไทยมาก โดยราคาขายอยู่ที่ประมาณผลละ 1 บาท ขณะที่ตามรายงานในพิกัดสินค้าของกรมศุลกากร ไทยเก็บอัตราภาษีนำเข้ามะพร้าวที่ร้อยละ 5.0 ในกรอบ AFTA แต่ความจริงแล้ว ไทยไม่เคยเปิดตลาดมะพร้าวตามกรอบ AFTA แต่อย่างไร โดยสำหรับพิกัด 0801.110.000 ไทยเก็บอัตราภาษีที่ร้อยละ 54.6 ตามกรอบ WTO
จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมะพร้าวจากกรมวิชาการเกษตร เห็นด้วยว่ามะพร้าวฝอยทำให้แห้งของไทยต้นทุนสูงกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนของไทยจะสูงกว่า แต่เชื่อว่าราคามะพร้าวฝอยทำให้แห้ง เมื่อบวกค่าขนส่งของฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาไทยจะไม่ถูกกว่าของไทย แต่อาจจะมีการนำเข้ามะพร้าวจากเวียดนามและพม่าเข้ามาได้ เนื่องจากต้นทุนขนส่งไม่สูงนัก
2. เนื้อมะพร้าวแห้ง เนื้อมะพร้าวแห้งอยู่ในพิกัด 1203.000.005 ไม่มีการนำเข้ามาในไทย แต่มีการส่งออก โดยในปี 2546 มูลค่ารวม 840.9 แสนบาท ปริมาณส่งออก 108.5 ตัน
จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมะพร้าวชี้ว่า เนื้อมะพร้าวแห้งในประเทศแข่งขันกับเนื้อมะพร้าวแห้งนำเข้าได้ แต่การพิจารณาในเชิงตัวเลขนำเข้า เพื่อเปรียบเทียบราคานำเข้ากับราคาในประเทศไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีการนำเข้า
ขณะที่การตรวจสอบตัวเลขการส่งออกเนื้อมะพร้าวแห้ง พบว่า ปริมาณการส่งออกมีน้อย และตัวเลขไม่ได้แสดงนัยการเติบโตที่น่าสนใจ จึงดูไม่มีความสามารถ ในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ
3. น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวอยู่ในพิกัด 1513.110.008 ไม่มีการนำเข้ามาในไทย แต่มีการส่งออก โดยในปี 2546 มูลค่ารวม 43.28 ล้านบาท ปริมาณส่งออก 3,646.9 ตัน
จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมะพร้าวชี้ว่าน้ำมันมะพร้าวในประเทศแข่งขันกับน้ำมันมะพร้าวนำเข้าได้ แต่การพิจารณาในเชิงตัวเลขนำเข้า เพื่อเปรียบเทียบราคานำเข้ากับราคาในประเทศไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีการนำเข้า
เมื่อตรวจดูความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดต่างประเทศพบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยไทยสามารถส่งออกน้ำมันมะพร้าวได้ในมูลค่าสูง
การผลิตและเพาะปลูก
ประเทศ | จำนวนที่ผลิต (ล้านตัน) |
---|---|
อินโดนีเซีย | 17.1 |
ฟิลิปปินส์ | 14.8 |
อินเดีย | 14.7 |
ศรีลังกา | 2.5 |
บราซิล | 2.3 |
เม็กซิโก | 1.3 |
ทั่วโลก | 62.5 |
ข้อมูล: ของสหประชาชาติ |
ใน ค.ศ. 2019 จำนวนการผลิตมะพร้าวของโลกอยู่ที่ 62 ล้านตัน ซึ่งประเทศที่ผลิตมากที่สุดคืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย
วัฒนธรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ความเชื่อและตำนาน
ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง ได้กำหนดให้ปลูกมะพร้าวบริเวณทิศตะวันออกของบ้านเพื่อให้เป็นสิริมงคล คนที่เกิดปีชวด ปีเถาะ ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง ก็จัดให้มะพร้าวเป็นมิ่งขวัญของคนที่เกิดในปีดังกล่าว นอกจากนี้ การล้างหน้าศพด้วยน้ำมะพร้าว ก็เพราะมีความเชื่อว่าน้ำมะพร้าวเป็นน้ำบริสุทธิ์ ในพิธีกรรมทั้งทางพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ จะจัดให้มีมะพร้าวอ่อนเป็นเครื่องสังเวย เพราะมีความเชื่อว่ามะพร้าวเป็นตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์ และน้ำมะพร้าวเป็นน้ำที่บริสุทธิ์เหมาะแก่การชำระล้างและการดื่มเพื่อเป็นสิริมงคล[]
วัฒนธรรมเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิกบางส่วนมี (origin myth) ที่มะพร้าวมีบทบาทหลัก ในเรื่องราวจากหมู่เกาะมาลูกู มีหญิงสาวที่เติบโตจากดอกของต้นมะพร้าว ใน หนึ่งในตำนานต้นกำเนิดหลักสะท้อนถึงการพึ่งพาต้นมะพร้าวของ ในเรื่องราว ต้นกำเนิดของมะพร้าวมีส่วนเกี่ยวโยงถึงหญิงสาวสวยงามที่ชื่อซีนาฝังปลาไหล ซึ่งภายหลังกลายเป็นมะพร้าวต้นแรก
ตามรายงานจากตำนานพื้นบ้าน ทุก ๆ ปีจะมี
อ้างอิง
- Royal Botanic Gardens, Kew. Cocos. World Checklist of Selected Plant Families.
- "Coconut production in 2019, Crops/Regions/World list/Production Quantity (pick lists)". UN Food and Agriculture Organization, Corporate Statistical Database (FAOSTAT). 2020. สืบค้นเมื่อ 11 February 2021.
- Leeming, David (พฤศจิกายน 17, 2005). Hainuwele – Oxford Reference. oxfordreference.com. ISBN . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กันยายน 28, 2013.
- (2012) Folk tales of the Maldives, NIAS Press เก็บถาวร พฤษภาคม 28, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ISBN , ISBN
- "Living Heritage -Marcellin College - Sina and the Eel". www.livingheritage.org.nz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2012.
- "International Shark Attack File". Shark Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 29, 2013. สืบค้นเมื่อ January 9, 2014.
บรรณานุกรม
- Grimwood BE, Ashman F (1975). Coconut Palm Products: Their Processing in Developing Countries. United Nations, Food and Agriculture Organization. ISBN .
อ่านเพิ่ม
- Adkins S.W., M. Foale and Y.M.S. Samosir (eds.) (2006). Coconut revival – new possibilities for the ‘tree of life’. Proceedings of the International Coconut Forum held in Cairns, Australia, November 22–24, 2005. ACIAR Proceedings No. 125. ISBN
- Batugal, P.; Rao, V.R.; Oliver, J. (2005). Coconut Genetic Resources. Bioversity International. ISBN .
- Frison, E.A.; Putter, C.A.J.; Diekmann, M. (eds.). (1993). Coconut เก็บถาวร พฤษภาคม 10, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ISBN .
- International Plant Genetic Resources Institute (IPGRI). (1995). Descriptors for Coconut (Cocos nucifera L.). ISBN .
- Mathur, P.N.; Muralidharan, K.; Parthasarathy, V.A.; Batugal, P.; Bonnot, F. (2008). Data Analysis Manual for Coconut Researchers เก็บถาวร พฤษภาคม 10, 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ISBN .
- Salunkhe, D.K., J.K. Chavan, R.N. Adsule, and S.S. Kadam. (1992). World Oilseeds – Chemistry, Technology, and Utilization. Springer. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkarcdrupaebbkhxkhwam karcdhna karaebnghwkhx karcdlingkphayin aelaxun bthkhwamnitxngkarphisucnxksr xacepndankarichphasa karsakd iwyakrn rupaebbkarekhiyn hruxkaraeplcakphasaxun maphraw epnphuchyuntnchnidhnung xyuinwngspalm Arecaceae aelaepnspichisediywkhxngskul Cocos thiyngmichiwitxyu maphraw epnphuchsungsamarthichpraoychnidinhlaythang echn naaelaenuxmaphrawxxnichrbprathan enuxinphlaeknaipkhudaelakhnthakathi kalanaippradisthsingkhxngtang echn krabwy okhmif l nxkcaknimaphrawcdepnphrrnimmngkhlchnidhnung tamtaraphrhmchatichbbhlwng idkahndihplukmaphrawiwthangthistawnxxkkhxngban ephuxkhwamsirimngkhlmaphraw chwngewlathimichiwitxyu 55 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Nsmyxioxsintxntn pccubntnpalmmaphraw Cocos nucifera lukmaphrawkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxt Eukaryotaxanackr phuch Plantaeekhld phuchmithxlaeliyng Tracheophytesekhld phuchdxk Angiospermsekhld phuchibeliyngediyw Monocotsekhld Commelinidsxndb Arecaleswngs palm phuch Arecaceaewngsyxy wngsyxyhmak Arecoideaeepha Cocoseae L skul Cocos Cocos L spichis Cocos nuciferachuxthwinamCocos nucifera L briewnphunthinthiepnipidkhxng Cocos nucifera kxnkarthakarephaaplukbriewnxunenuxmaphrawkhunkhathangophchnakartx 100 krm 3 5 xxns phlngngan1 480 kiolcul 350 kiolaekhlxri kharobihedrt15 23 gnatal6 23 giyxahar9 0 gikhmn33 49 gximtw29 698 gimximtwmiphnthakhuediyw1 425 gimximtwmiphnthakhuhlaykhu0 366 goprtin3 33 gthripotefn0 039 gthrioxnin0 121 g0 131 gliwsin0 247 gilsin0 147 gemithoxnin0 062 g0 066 gfinilxalanin0 169 githorsin0 103 gwalin0 202 gxarcinin0 546 g0 077 gxalanin0 170 gkrdaexspartik0 325 gklutaemt0 761 giklsin0 158 g0 138 g0 172 gwitaminithxamin bi1 6 0 066 mk irobeflwin bi2 2 0 020 mk inxasin bi3 4 0 540 mk krdaephnothethnik bi5 6 0 300 mk witaminbi6 4 0 054 mk ofelt bi9 7 26 mgwitaminsi 4 3 3 mk witaminxi 2 0 24 mk witaminekh 0 0 2 mgaerthatuaekhlesiym 1 14 mk ehlk 19 2 43 mk aemkniesiym 9 32 mk aemngkanis 71 1 500 mk fxsfxrs 16 113 mk ophaethsesiym 8 356 mk osediym 1 20 mk sngkasi 12 1 10 mk xngkhprakxbxunna47 gLink to USDA Database entryhnwy mg imokhrkrm mg millikrm IU hnwysaklpramanrxylakhraw odyichkaraenanakhxngshrthsahrbphuihy aehlngthima USDA FoodData Centralnamaphrawkhunkhathangophchnakartx 100 krm 3 5 xxns phlngngan19 kiolaekhlxri 79 kiolcul kharobihedrt3 71natal2 61iyxahar1 1ikhmn0 2oprtin0 72witaminithxamin bi1 3 0 03 mk irobeflwin bi2 5 0 057 mk inxasin bi3 1 0 08 mk witaminbi6 2 0 032 mk witaminsi 3 2 4 mk aerthatuaekhlesiym 2 24 mk ehlk 2 0 29 mk aemkniesiym 7 25 mk fxsfxrs 3 20 mk ophaethsesiym 5 250 mk sngkasi 1 0 1 mk xngkhprakxbxunna95hnwy mg imokhrkrm mg millikrm IU hnwysaklpramanrxylakhraw odyichkaraenanakhxngshrthsahrbphuihylksnathwipmaphraw epnphuchyuntn ibmilksnaepnibprakxbaebbkhnnk phlprakxbdwy epicarp khuxepluxknxk thdipkhangincaepn mesocarp hruxiymaphraw thdipkhanginepnswn endocarp hruxkalamaphraw sungcamirusikhlaxyu 3 ru sahrbngxk thdcakswnexnodkharpekhaipcaepnswnexnodsepirm hruxthieriykwaenuxmaphraw phayinmaphrawcaminamaphrawsungnamaphrawekidcakexnodsepirmkhxngmaphrawsungcamiexnodsepirmthngkhxngaekhngaelakhxngehlw khux exnodsepirmkhxngaekhngcaepnenuxmaphraw aelaexnodsepirmthngkhxngehlwcaepnnamaphraw sungemuxmaphrawaek exnodsepirmkcadudexanamaphrawiphmd khnathimaphrawyngxxn chnexnodsepirm enuxmaphraw phayinphlmilksnabangaelaxxnnum phayinminamaphraw sunginrayanieramksxyexamaphrawlngmarbprathannaaelaenux emuxmaphrawaek sungsngektidcakkarthiepluxknxkerimepliynepnsinatal chnexnodsepirmkcahnaaelaaekhngkhun cninthisudmaphrawkhlnlngcaktnlksnathangphvkssastrmaphraw michuxwithyasastrwa Cocos nucifera L xyuintrakul Palmae mirabbrakepnrakfxymikhnadetha kn aephkracayxxkrxbtn latn milatnediyw imaetkaekhnng mirxyaephlcakkarhludrwngkhxngibtlxdlatn samarthkhanwnxayukhxngtnmaphrawidcakrxyaephlni khux inpihnungmaphrawcasrangibpraman 12 14 ib dngnnin 1 pi camirxyaephlthilatn 12 14 rxyaephl ib epnibprakxb xxkxyutamswnkhxnglatn prakxbdwykanthang rechis mikhnadihyaelayaw aelamiibyxy leaflet bnkanthangpraman 200 250 ib dxk xxkepnchxchnidphaniekhil mithngdxktwphuaeladxktwemiy xyuinchxediywkn dxkmiklibdxk 6 klib sikhrimhruxsiehluxngnwl immikandxkyxydxktwemiycamiklibdxkhnaaelaaekhngkwaklibdxktwphu phl maphrawepnchnidifbrsdrup fibrous drupe eriykwa nth nut miepluxk 3 chnkhux epluxkchnnxk exocarp epnesniythiehniywaelaaekhng emuxaekxacmisiekhiyw aedng ehluxnghruxnatal epluxkchnklang mesocarp milksnaepnesniy mikhwamhnaphxpraman epluxkchnin endocarp milksnaaekhnghruxthieriykknwa kala shell emld seed of kernel khux enuxmaphraw phayinemldepnchxklwngkhnaphlxxncaminaxyuetm phlaeknamaphrawcaaehngipbangswn phnthu maphrawepnphuchphsmkhamphnthu aetlatncungimepnphnthuaeth xasyhlkthangkarphsmphnthuthiepnipodythrrmchati xacaebngmaphrawxxkepn 2 praephth khux praephthtnetiyaelapraephthtnsung praephthtnetiy maphrawpraephthni mikarphsmtwexngkhxnkhangsung cungmkihphldkaelaimkhxyklayphnthu swnihyniymplukiwephuxrbprathanphlxxn ephraainkhnathiphlyngimaek xayupraman 4 eduxn enuxmilksnaxxnnum aelanamirshwan bangphnthunamikhunsmbtiphiess khux miklinhxm lksnathwipkhxngpraephthtnetiy latnelk okhntnimmisaophk tnetiy otetmthisungpraman 12 emtr thangibsn thamikarduaelpanklangcaerimihphlemuxxayu 3 4 pi ihphlphlitpraman 35 40 pi maphrawpraephthtnetiymihlayphnthu aetlaphnthumilksnaaetktangkn echn epluxksiekhiywehluxng nwl singachang natalaedng hruxsism namirshwan miklinhxm maphrawtnetiythukphnthucamiphlkhnadelk emuxphlaekmienuxbangaelanxy sungidaekphnthu nkkhum hmusiekhiyw hmusiehluxng hruxnalika maphrawetiy nahxm aelamaphrawif aetpccubnmaphrawnahxmkalngepnphuchesrsthkicxikchnidhnung thiniymichinkarbriophkhsdaelasngxxkipyngtladtangpraeths tlxdcnichepnwtthudibinxutsahkrrmekhruxngdum praephthtnsung tampktimaphrawtnsungcaphsmkhamphnthu khux inaetlachxdxk cn hnung dxktwphucakhxy thyxyban aelarwnghlniphmdkxnthidxktwemiyincnnncaerimban cungimmioxkasphsmtwexng maphrawpraephthniepnmaphrawesrsthkicswnihyplukepnswnxachiph ephuxichenuxcakphlaekipprakxbxahar hruxephuxthamaphrawaehngichinxutsahkrrmnamnphuch lksnathwipkhxngpraephthtnsung latnihy okhntnmisaophkihy tnsung otetmthisungpraman 18 emtr thangibihyaelayaw thamikarduaelpanklangcaerimihphlemuxxayu 5 6 pi xayuyunihphlphlitnanpraman 80 pi maphrawtnsungmiphlotenuxhnaprimanenuxmak milksnaphaynxkhlayxyangthiaetktangkn echn phlkhnadklang khnadihy rupphlklm phlri bangphnthuepluxkmilksnaphiess khux inkhnathiphlyngimaek epluxktxnswnhwcamirshwanichrbprathanid cungmichuxeriyktang kn idaekphnthukaohlk maphrawihy maphrawklang pakck thalayrxy epluxkhwanaelamaaephrw maphrawphnthulukphsmaemwamaphrawphunemuxngthiekstrkrplukknmaaetdngedim camilksnadihlayxyang echn mikhnadphlkhxnkhangot aelathnthantxsphaphxakasaelngiddi aetinwngkarxutsahkrrmmaphrawinpccubnidphthnathangdankhunphaphmaphrawmakmay odyechphaaxyangyingprimanepxresntnamn sunywicyphuchswnchumphr krmwichakarekstrmihnathirbphidchxbdanwicyaelaphthnamaphrawidphlitmaphrawphnthulukphsm sungidphankarrbrxngphnthuxxkmaaelw 2 phnthu dngni phnthuswilukphsm 1 Sawi Hybrid No 1 epnmaphrawphnthulukphsmthiekidcakkarphsmrahwangmaphrawphnthumlayusiehluxngtnetiy x ewsthxfrikntnsung MYD x WAT lksnaednkhxngmaphrawphnthunikhuxmixayukartkphlerw samarthekbphlphlitidinpithi 5 phlphlitechliy 2 781 phltxir hruxkhidepnnahnkaehng 566 kk txir cakcanwnmaphraw 22 tntxir enuxmaphrawaehngmiepxresntnamnsungthung 64 epxresnt cungepnmaphrawthiehmaasahrbxutsahkrrmnamnmaphrawmak phnthuchumphrlukphsm 60 1 Chumphon Hybrid 60 1 epnmaphrawlukphsmthiekidcakkarphsmrahwangphnthuewsthxfrikntnsung x ithytnsung samarthekbphlphlitidinpithi 5 hlngcakpluk khnadphlmitngaetkhnadklangthungkhnadihy phlphlitechliy 2 257 phltxir hruxkhidepnnahnkmaphrawaehngsungthung 628 kk txir enuxmaphrawaehngmiepxresntnamnsung 63 epxresnt enuxngcakkhnadphlkhxngmaphrawphnthunikhxnkhangotkwaphnthuswilukphsm 1 cungsamarthcahnayidthngphlsdaelainrupmaphrawaehngsngorngnganskdnamn maphrawlukphsmthng 2 phnthu ihphlphlitsungkwaphnthuphunemuxngekuxb 2 etha klawkhux phnthuithyihphlphlit 1 084 phltxir khidepnphlphlitenuxmaphrawaehng 374 kk txir aelamiprimanepxresntnamn 59 60 epxresntorkhaelaaemlnginmaphrawaemlngthiepnstruphuchkbmaphrawkhux epnaemlngpikaekhngtwihymisinatalekhm bnhwminx ehmuxnaerd twaekkdkinyxdaelaibxxnthaihdwngngwngmawangikh samarthcapxngknaelakacdidthnginrayathiepntwhnxnaelatwetmwy odyptibtidngni rksaswnihsaxad epnkarthalayaehlngwangikh ephraadwngaerdchxbwangikhinkxngkhya kxngpuyhmk kxngessim tximphu l thaehnibyxdkhadepnriwaesdngwathukdwngaerdkdihichtakhxhruxehlkaehlmaethng dungexatwxxkmathalay ichsarekhmi echn xxldrin chnidna 5 chxnaekng phsmna 1 pib radthikhxmaphrawthuk 2 eduxn xosdrin 3 chxnaekng phsmna 1 pib radthikhxmaphraweduxnlakhrng xxldrin chnidphngkhlukkbkhieluxyinxtra 1 chxnaekng txkhieluxy 8 krapxngnm orythikhxmaphrawtnla 1 krapxngnm thuk 2 eduxn sahrbtnmaphrawthimilatnsungmak ichphwk nuwakhrxnhruxxosdrinchidekhalatn odyexaswanecaalatnihepnrucanwn 2 ru xyutrngkhamkn ichekhmchidyadudsarekhmi 10 sisi chidisinruthiecaaiwkhangla 5 sisi camivththixyunanpraman 30 wn withinihamekbphlmaphrawkxnkhrbkahndhlngcakchidsarekhmiaelw xyangnxy 30 wn ichwithichiwxinthriyodythrrmchaticamiechuxraaelaechuxiwrsthisamarththalaydwngaerdidthngthiepntwhnxnaelatwetmwy khux echuxraekhiyw Metarhizium anisophiae caekhathalaytwhnxnmxngehnepnesniysikhawcbknepnkxnxyuthiphiwphaynxktwhnxntxipcaepliynepnsiekhiyw thatwhnxnkhxngdwngaerdmilksnadngklawkhwrnaipisihkracaytamkxngkhya kxngpuyhmk puykhxk txhruxthxnmaphrawphu sungepnaehlngephaakhyayphnthukhxngdwngaerd cachwyldprimandwngaerdlngidmak echuxiwrs Rhabdiomvirus oryctes hruxthieriykknwaaebkhkhulaiwrs Baculavirus caekhathalaytwhnxnmilksnathisngektidngaykhux swnthaykhxngtwhnxn rectum caphxngotyunxxkmaehnidchd emuxphbhnxnthimilksnanikhwrekbisiwtamaehlngkhyayphnthukhxngdwngaerd cathaihdwngaerdepnorkhaephrkracaymakkhunprimankhxngdwngaerdcaldlng aemlngxikchnidkhux dwngngwng mikhnadelkkwadwngaerd ekhathalaytnmaphrawodykarwangikh tamrxyaephlthimixyuaelw echn aephlthiekidcakdwngaerdkdthalayemuxikhfktwaelwhnxnkcakdkinswnthixxnaelwecaaichekhainlatn thaihtnmaphrawehiywechaaelatayid karpxngknaelakacd pxngknkacddwngaerdxyaihekidrabadthalaytnmaphrawephraaaephlthidwngaerdkdepnchxngthangihdwngngwngekhaipwangikh rawngxyaihtnmaphrawekidbadaephl echn karichmidfntn ephraadwngngwngcaekhaipwangikhtamrxyaephl xyaplukmaphrawtun ephraarakcalxy dwngngwngsamarthekhaipinrxyepidkhxngepluxktrngswnkhxngokhntnthitidkbphundinid thaphbtnthithukdwngngwngthalay aelatnyngaekhngaerngxyu ihichyakharobfuran furadan hrux khuraaethr 3 G orybriewnokhntn ekliydinklb rdnaihchum sarekhmicasumphankhunipcnthungyxd khahnxnthikinxyuphayinid aelaxyaekbphliprbprathanphayin 30 wn hlngcakissarekhmiaelw tnthithukdwngngwngthalaycntay khwrokhnthingaelwephathalayraychuxphnthumaphrawswnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxkmaphrawthaelswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpraoychnmaphrawsamarthichpraoychnidhlayxyang namaphraw ichepnekhruxngdumekluxaerid enuxngcakxudmipdwyophaethsesiym nxkcakniyngmikhunsmbtiplxdechuxorkh aelaepnsarlalayixosothnik sungdwyehtunicungsamarthnanamaphrawipichchidekhahlxdeluxdewn inphupwythimixakarkhadnahruxprimaneluxdldphidpktiid namaphrawsamarthnaiptha wunmaphraw id odykarecuxkrdxxnelknxylnginnamaphraw enuxmaphrawaek naipthakathiid odykarkhudenuxinepnesselk aelwbibexanakathixxkmacakmaphraw kakmaphraw thiehluxcakkarkhnkathi yngsamarthnaipthaepnxaharstwid yxdxxnkhxngmaphraw hruxeriykxikchuxwa hwicmaphraw coconut s heart samarthnaipichthaxaharid sungyxdxxnmirakhaaephngmak ephraakarekbyxdxxnthaihtnmaphrawtay dwyehtunicungmkeriykyayxdxxnmaphrawwa sldecasw millionaire s salad iymaphraw naipichydfuk thaesux hruxnaipichinkarekstr aelanaipthaepnskhrbkhdphiwkayid namnmaphraw idcakkarbibhruxtmkakmaphrawbd naipichinkarprungxaharhruxnaipthaekhruxngsaxangkid aelainpccubnyngmikarphlitiboxdieslcaknamnmaphrawxikdwy kalamaphraw naipichthasingpradisthtang echn krabwy okhmif kradum sxxu l kanib hrux thangmaphraw ichthaimkwadthangmaphraw ibnaipsarthahmwk l cawmaphraw ichnamaepnxaharid incawmaphrawmihxromnxxksin aelahxromnxunaet mi hxromnxxksinprimanmakthisud sungemuxnaipkhn aelananathiidcakcawmaphraw iprdtnphuch cachwykratunkarecriyetibotkhxngphuchidtnmaphrawmaphrawinpraethsithymaphraw epnphuchthimikhwamsakhythangesrsthkicphuchhnungkhxngpraethsithy enuxngcakkhnithyruckichenuxmaphrawinkarbriophkhepnxaharthngkhawaelahwaninchiwitpracawn sankngansthitiaehngchatiidekhysarwcphbwa prachakrithy 1 khn cabriophkhenuxmaphrawpramanpila 8 273 2 krm hruxpraman 18 phl khn pi sungpccubnpraethsithymiphlemuxngpraman 55 lankhn caichphlmaphrawpraman 990 lanphl hruxpraman 65 khxngphlphlitthnghmd swnthiehluxpraman 35 khxngphlphlitthnghmd hrux 489 lanphl ichinrupkhxngxutsahkrrmhruxsngxxktxip xutsahkrrmmaphrawsamarthaebngidepn 2 klum khux phlitphnthaeprrupephuxkarbriophkh echn xutsahkrrmmaphrawaehngxutsahkrrmnamnmaphraw xutsahkrrmkathiekhmkhn xutsahkrrmmaphrawkhudaehng xutsahkrrmnatalmaphraw phlitphnthephuxxutsahkrrmaelaxupophkh echn xutsahkrrmesniymaphraw xutsahkrrmaethngephaacha xutsahkrrmephathancakkalamaphraw xutsahkrrmaeprrupmaphraw phlphlitmaphrawaetlapicamimulkhaimtakwapila 2 700 lanbath khidaelwmulkhamhasal sungeraimkhwrthicalaelyaela khwrernghathanginkarsngesrimaelaphthnamaphrawxiktxip maphrawsamarthkhunidinthukcnghwdthwpraeths aetkhuniddiindinthimisphaphepnklanghruxepnkrdelknxykhux pH rahwang 6 7 lksnadinrwn hruxrwnpnthray mikarrabaynadi mifntkkracaysmaesmxaethbthukeduxn xakasxbxun hruxkhxnkhangrxn aelamiaesngaeddmak phakhthimikarplukmaphrawmakaelaplukepnxachiph khux phakhit phakhtawnxxk aelaphakhtawntk phunthipluk phakhit idaek chumphr surasdrthani nkhrsrithrrmrach krabi trng phakhklang idaekpracwbkhirikhnth smuthrsngkhram nkhrpthm ephchrburi rachburi smuthrsakhr phakhtawnxxk idaek chlburi cnthburi rayxng trad chaechingethrakhwamsamarthinkaraekhngkhnintladmaphrawolk maphrawxxn maphrawxxnepnthiniymintladhxngkng ithwn aelasingkhopr kxprkbminganwicythisnbsnunkhunpraoychnkhxngmaphrawthimimakmaytxphthnakarkhxngedk rwmthngmisarihkhwamsdchun sarehlanimimakinmaphrawxxnxayuimekin 8 eduxn aetmixyunxyinmaphrawaek thaihmaphrawxxnithyepnsinkhasngxxkthiniymaephrhlay tlxdcnichepnwtthudibinxutsahkrrmekhruxngdum ithysngxxkmaphrawxxntamphikd 0801 190 007 inpi 2546 rwm 266 4 lanbath khidepnprimankarsngxxk 26 55 phntn khyaytwrxyla 7 0 cakpi 2545 odytladmaphrawnahxmkhxngithythisakhy idaek singkhopr hxngkng ithwn yipun shrth xxsetreliy aekhnada barern bruin aelasaxudixaraebiy khuaekhngmaphrawxxnkhxngithy idaek filippins maelesiy odyithyesiyepriybinaengtnthunkarkhnsnginbangtlad echn tladhxngkng ithyiklkwafilippins tladsingkhopr ithyiklkwamaelesiy aetineruxngrschatiaelw maphrawxxnkhxngithymaepnxndbhnung enuxngcakmaphrawxxnkhxngpraethsxun immiphnthuechphaaxyang echn maphrawnahxmkhxngithyaetepnmaphrawaekngsungekbphlxxnmakhaykn nxkcakni ithyyngmikaraeprrupepnmaphrawnahxmaechaekhng aelanamaphrawbrrcukrapxngkhay maphrawaekng inkarepriybethiybkhwamsamarthinkaraekhngkhnmaphrawaekngaelaphlitphnthkhxngithy kbpraethsphusngxxkmaphrawaelaphlitphnthxun caennthiraykarmaphrawaelaphlitphnththixyuinkhxphukphnaela karnaekharaykarsinkhaekstr 23 raykarkhxngithykb WTO sungmi 3 raykardngni 1 maphrawfxythaihaehng maphrawfxythaihaehngxyuinphikd 0801 110 000 tamngansuksakhxng suphawdi phthroksl 2540 phbwa tnthunkarphlitmaphrawkhxngekstrkrithyxyuthiphlla 3 08 bath aelahaktngaetpi 2546 epntnma praethsithyepidesriinkrxb AFTA sungthaihmaphrawimsamarthtngkaaephngphasinaekhaid ithycaesiyepriybpraethskhuaekhng echn maelesiy xinodniesiy thimirakhamaphrawthukkwakhxngithymak odyrakhakhayxyuthipramanphlla 1 bath khnathitamraynganinphikdsinkhakhxngkrmsulkakr ithyekbxtraphasinaekhamaphrawthirxyla 5 0 inkrxb AFTA aetkhwamcringaelw ithyimekhyepidtladmaphrawtamkrxb AFTA aetxyangir odysahrbphikd 0801 110 000 ithyekbxtraphasithirxyla 54 6 tamkrxb WTO cakkarsmphasnphuechiywchaymaphrawcakkrmwichakarekstr ehndwywamaphrawfxythaihaehngkhxngithytnthunsungkwakhuaekhng xyangirktam aemwatnthunkhxngithycasungkwa aetechuxwarakhamaphrawfxythaihaehng emuxbwkkhakhnsngkhxngfilippins xinodniesiy maithycaimthukkwakhxngithy aetxaccamikarnaekhamaphrawcakewiydnamaelaphmaekhamaid enuxngcaktnthunkhnsngimsungnk 2 enuxmaphrawaehng enuxmaphrawaehngxyuinphikd 1203 000 005 immikarnaekhamainithy aetmikarsngxxk odyinpi 2546 mulkharwm 840 9 aesnbath primansngxxk 108 5 tn cakkarsmphasnphuechiywchaymaphrawchiwa enuxmaphrawaehnginpraethsaekhngkhnkbenuxmaphrawaehngnaekhaid aetkarphicarnainechingtwelkhnaekha ephuxepriybethiybrakhanaekhakbrakhainpraethsimsamarththaid enuxngcakimmikarnaekha khnathikartrwcsxbtwelkhkarsngxxkenuxmaphrawaehng phbwa primankarsngxxkminxy aelatwelkhimidaesdngnykaretibotthinasnic cungduimmikhwamsamarth inkaraekhngkhnintladtangpraeths 3 namnmaphraw namnmaphrawxyuinphikd 1513 110 008 immikarnaekhamainithy aetmikarsngxxk odyinpi 2546 mulkharwm 43 28 lanbath primansngxxk 3 646 9 tn cakkarsmphasnphuechiywchaymaphrawchiwanamnmaphrawinpraethsaekhngkhnkbnamnmaphrawnaekhaid aetkarphicarnainechingtwelkhnaekha ephuxepriybethiybrakhanaekhakbrakhainpraethsimsamarththaid enuxngcakimmikarnaekha emuxtrwcdukhwamsamarthinkaraekhngkhnkbkhuaekhngintladtangpraethsphbwaxyuineknthdi odyithysamarthsngxxknamnmaphrawidinmulkhasungkarphlitaelaephaaplukkarphlitmaphrawin kh s 2019 praeths canwnthiphlit lantn xinodniesiy 17 1 filippins 14 8 xinediy 14 7 srilngka 2 5 brasil 2 3 emksiok 1 3thwolk 62 5khxmul khxngshprachachati in kh s 2019 canwnkarphlitmaphrawkhxngolkxyuthi 62 lantn sungpraethsthiphlitmakthisudkhuxxinodniesiy filippins aelaxinediywthnthrrmswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkhwamechuxaelatanan tamtaraphrhmchatichbbhlwng idkahndihplukmaphrawbriewnthistawnxxkkhxngbanephuxihepnsirimngkhl khnthiekidpichwd piethaa tamtaraphrhmchatichbbhlwng kcdihmaphrawepnmingkhwykhxngkhnthiekidinpidngklaw nxkcakni karlanghnasphdwynamaphraw kephraamikhwamechuxwanamaphrawepnnabrisuththi inphithikrrmthngthangphuththsasnaaelasasnaphrahmn cacdihmimaphrawxxnepnekhruxngsngewy ephraamikhwamechuxwamaphrawepntwaethnaehngkhwamxudmsmburn aelanamaphrawepnnathibrisuththiehmaaaekkarcharalangaelakardumephuxepnsirimngkhl txngkarxangxing wthnthrrmexechiyit exechiytawnxxkechiyngit aelamhasmuthraepsifikbangswnmi origin myth thimaphrawmibthbathhlk ineruxngrawcakhmuekaamaluku mihyingsawthietibotcakdxkkhxngtnmaphraw in hnungintanantnkaenidhlksathxnthungkarphungphatnmaphrawkhxng ineruxngraw tnkaenidkhxngmaphrawmiswnekiywoyngthunghyingsawswyngamthichuxsinafngplaihl sungphayhlngklayepnmaphrawtnaerk tamrayngancaktananphunban thuk picamixangxingRoyal Botanic Gardens Kew Cocos World Checklist of Selected Plant Families Coconut production in 2019 Crops Regions World list Production Quantity pick lists UN Food and Agriculture Organization Corporate Statistical Database FAOSTAT 2020 subkhnemux 11 February 2021 Leeming David phvscikayn 17 2005 Hainuwele Oxford Reference oxfordreference com ISBN 978 0 19 515669 0 ekbcakaehlngedimemux knyayn 28 2013 2012 Folk tales of the Maldives NIAS Press ekbthawr phvsphakhm 28 2013 thi ewyaebkaemchchin ISBN 978 87 7694 104 8 ISBN 978 87 7694 105 5 Living Heritage Marcellin College Sina and the Eel www livingheritage org nz khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 29 2012 International Shark Attack File Shark Research Institute khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux July 29 2013 subkhnemux January 9 2014 brrnanukrmGrimwood BE Ashman F 1975 Coconut Palm Products Their Processing in Developing Countries United Nations Food and Agriculture Organization ISBN 9789251008539 xanephimAdkins S W M Foale and Y M S Samosir eds 2006 Coconut revival new possibilities for the tree of life Proceedings of the International Coconut Forum held in Cairns Australia November 22 24 2005 ACIAR Proceedings No 125 ISBN 1 86320 515 2 Batugal P Rao V R Oliver J 2005 Coconut Genetic Resources Bioversity International ISBN 978 92 9043 629 4 Frison E A Putter C A J Diekmann M eds 1993 Coconut ekbthawr phvsphakhm 10 2013 thi ewyaebkaemchchin ISBN 978 92 9043 156 5 International Plant Genetic Resources Institute IPGRI 1995 Descriptors for Coconut Cocos nucifera L ISBN 978 92 9043 215 9 Mathur P N Muralidharan K Parthasarathy V A Batugal P Bonnot F 2008 Data Analysis Manual for Coconut Researchers ekbthawr phvsphakhm 10 2013 thi ewyaebkaemchchin ISBN 978 92 9043 736 9 Salunkhe D K J K Chavan R N Adsule and S S Kadam 1992 World Oilseeds Chemistry Technology and Utilization Springer ISBN 978 0 442 00112 4 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb maphraw wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Cocos nucifera