วัดเสลารัตนปัพพะตาราม (ไทยถิ่นเหนือ: ) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดไหล่หิน หรือ วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน และในบางครั้งชาวบ้านรุ่นก่อน ๆ เรียกว่า วัดป่าหิน หรือ วัดม่อนหินแก้ว เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ ดร.ฮันส์ เพนธ์ ได้พบคัมภีร์ใบลานที่เก่าแก่ที่สุดของวัด ระบุจุลศักราช 833 หรือ พ.ศ. 2014
วัดเสลารัตนปัพพะตาราม | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดเสลารัตนปัพพะตาราม, วัดไหล่หิน, วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน, วัดป่าหิน, วัดม่อนหินแก้ว |
ที่ตั้ง | อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
ส่วนหนึ่งของ |
ตำนานของวัดกล่าวไว้ว่า ช่วงพุทธศตวรรษที่ 23 ในสมัยของพระมหาป่าเกสรปัญโญ เป็นระยะที่มีการก่อสร้างและบูรณะเสนาสนะต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีผู้นับถือมากมาย เล่ากันว่าครั้งที่ท่านธุดงค์ไปถึงเชียงตุง ท่านได้มอบกะลามะพร้าวซีกหนึ่งให้ชายคนหนึ่ง จากนั้นท่านก็กลับมาลำปาง โดยไม่ได้บอกชายผู้นั้นว่าท่านอยู่ที่ใด ต่อมาชายคนนั้นได้ตามมาหาท่านจนพบที่วัดไหล่หิน แล้วนำกะลามาประกอบเข้าเป็นหนึ่งเดียว ชายคนดังกล่าวเกิดความศรัทธาแรงกล้า ได้ขอบูรณะวัดและก่อสร้างวิหารหลังที่เห็นปัจจุบันขึ้นในปี พ.ศ. 2226
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมวัดไหล่หิน เป็นรูปแบบพุทธศาสนาแบบล้านนา ประกอบด้วยลานหน้าวัดหรือสำหรับกิจกรรมและปลูกต้นโพธิ์ วิหารโถง ศาลาบาตรและลานทราย และมีเจดีย์ท้ายวิหาร แบบล้านนาซึ่งเชื่อว่าบรรจุพระบรมธาตุ มีรูปแบบจำลอง คือวิหารเปรียบเสมือนชมพูทวีป เจดีย์เปรียบเหมือนเขาพระสุเมรุ และลานทรายเปรียบเสมือน
ส่วนพุทธาวาสก่อสร้างอย่างสวยงาม และมีขนาดส่วนที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัด อาคารต่าง ๆ ก่อสร้างด้วยอิฐฉาบปูน ประดับปูนปั้น ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว วิหารมีลักษณะสกุลช่างลำปาง ซึ่งจะมีลักษณะอ่อนช้อยน้อยกว่าสกุลช่างเชียงใหม่ คือหลังคาจะมีลักษณะแอ่นโค้งเพียงเล็กน้อย เรียกวิหารแบบนี้ว่า ฮ้างปู้ หมายถึง ร่างการของผู้ชาย เป็นวิหารโถง หลังคาซ้อน 3 ชั้น 2 ตับ มุง กระเบื้องดินเผาปลายตัด ที่น่าสนใจคือ เครื่องลำยองของวิหารนี้มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการบูรณปฏิสังขรณ์ ทำให้มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เป็นแบบไทยภาคกลาง
ซุ้มประตูโขงวัดไหล่หินนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่มีการประดับตกแต่งที่แตกต่างกันบ้าง คือมีการใช้ตุ๊กตาดินเผาประดับ นอกจากเสนาสนะและบริเวณที่ทางวัดได้อนุรักษ์และดูและเป็นอย่างดี ยังมีคัมภีร์โบราณและโบราณวัตถุที่ทางวัดได้เก็บรักษาไว้เป็นจำนวนมาก บางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตำนานของวัดเช่น กะลามะพร้าว และบาตรของพระมหาป่าเกสรปัญโญ
กรมศิลปากรได้ประกาศวัดไหล่หินขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยกำหนดขอบเขตในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 97 ตอนที่ 195 ลงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2523 สิ่งที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน คือ วิหารทรงล้านนา พระธาตุเจดีย์ พระอุโบสถ ซุ้มประตูกำแพงแก้ว และหอธรรม นอกจากนี้ในปี 2550 ยังได้ขึ้นเป็นอาคารอนุรักษ์จากสมาคมสถาปนิกสยาม
อ้างอิง
- วัดไหล่หิน 2007-11-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ล้านนาคดี
- วารสารอาษา ฉบับเดือน สิงหาคม-กันยายน 2550 ISSN 0857-3050
- วัดไหล่หินหลวง วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพตาราม
- วัดไหล่หินใหม่ ธ. วัดไหล่หินลุ่ม วัดชัยมงคลธรรมวราราม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdeslartnpphphataram ithythinehnux hruxthichawbaneriykwa wdihlhin hrux wdihlhinhlwngaekwchangyun aelainbangkhrngchawbanrunkxn eriykwa wdpahin hrux wdmxnhinaekw epnwdthitngxyuin xaephxekaakha cnghwdlapang immihlkthanaenchdwasrangkhunemuxid aet dr hns ephnth idphbkhmphiriblanthiekaaekthisudkhxngwd rabuculskrach 833 hrux ph s 2014wdeslartnpphphataramchuxsamywdeslartnpphphataram wdihlhin wdihlhinhlwngaekwchangyun wdpahin wdmxnhinaekwthitngxaephxekaakha cnghwdlapangpraephthwdrasdrnikaymhanikayswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna tanankhxngwdklawiwwa chwngphuththstwrrsthi 23 insmykhxngphramhapaeksrpyoy epnrayathimikarkxsrangaelaburnaesnasnatang makmay enuxngcakthanepnphrasngkhthimiphunbthuxmakmay elaknwakhrngthithanthudngkhipthungechiyngtung thanidmxbkalamaphrawsikhnungihchaykhnhnung caknnthankklbmalapang odyimidbxkchayphunnwathanxyuthiid txmachaykhnnnidtammahathancnphbthiwdihlhin aelwnakalamaprakxbekhaepnhnungediyw chaykhndngklawekidkhwamsrththaaerngkla idkhxburnawdaelakxsrangwiharhlngthiehnpccubnkhuninpi ph s 2226sthaptykrrmsthaptykrrmwdihlhin epnrupaebbphuththsasnaaebblanna prakxbdwylanhnawdhruxsahrbkickrrmaelapluktnophthi wiharothng salabatraelalanthray aelamiecdiythaywihar aebblannasungechuxwabrrcuphrabrmthatu mirupaebbcalxng khuxwiharepriybesmuxnchmphuthwip ecdiyepriybehmuxnekhaphrasuemru aelalanthrayepriybesmuxn swnphuththawaskxsrangxyangswyngam aelamikhnadswnthikhxnkhangelkkathdrd xakhartang kxsrangdwyxithchabpun pradbpunpn lxmrxbdwykaaephngaekw wiharmilksnaskulchanglapang sungcamilksnaxxnchxynxykwaskulchangechiyngihm khuxhlngkhacamilksnaaexnokhngephiyngelknxy eriykwiharaebbniwa hangpu hmaythung rangkarkhxngphuchay epnwiharothng hlngkhasxn 3 chn 2 tb mung kraebuxngdinephaplaytd thinasnickhux ekhruxnglayxngkhxngwiharnimikarepliynaeplngenuxngcakkarburnptisngkhrn thaihmichxfa ibraka hanghngs epnaebbithyphakhklang sumpratuokhngwdihlhinnnmilksnakhlaykhlungkbwdphrathatulapanghlwng aetmikarpradbtkaetngthiaetktangknbang khuxmikarichtuktadinephapradb nxkcakesnasnaaelabriewnthithangwdidxnurksaeladuaelaepnxyangdi yngmikhmphirobranaelaobranwtthuthithangwdidekbrksaiwepncanwnmak bangsingthiekiywkhxngkbtanankhxngwdechn kalamaphraw aelabatrkhxngphramhapaeksrpyoy krmsilpakridprakaswdihlhinkhunthaebiynepnobransthan odykahndkhxbekhtinrachkiccanuebksa elmthi 97 txnthi 195 lngwnthi 14 tulakhm ph s 2523 singthikhunthaebiynepnobransthan khux wiharthrnglanna phrathatuecdiy phraxuobsth sumpratukaaephngaekw aelahxthrrm nxkcakniinpi 2550 yngidkhunepnxakharxnurkscaksmakhmsthapniksyamxangxingwdihlhin 2007 11 28 thi ewyaebkaemchchin lannakhdi warsarxasa chbbeduxn singhakhm knyayn 2550 ISSN 0857 3050 wdihlhinhlwng wdihlhinhlwng hrux wdeslartnpphphtaram wdihlhinihm th wdihlhinlum wdchymngkhlthrrmwraram