ราชวงศ์ที่หนึ่งแห่งอียิปต์ เป็นกลุ่มของฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณกลุ่มแรกที่ปกครองอียิปต์ที่เป็นปึกแผ่น ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังจากการผนวกรวมกันของอียิปต์บนและอียิปต์ล่างโดยฟาโรห์นาร์เมอร์ และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงต้นยุคราชวงศ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อำนาจมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองไทนิส
ราชวงศ์ที่หนึ่งแห่งอียิปต์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ราว 3100 ปีก่อนคริสตกาล–ราว 2900 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||
แผ่นศิลาแห่งนาร์เมอร์ (–3000 ปีก่อนคริสตกาล) | |||||||||
เมืองหลวง | ไทนิส | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาอียิปต์ | ||||||||
ศาสนา | ศาสนาอียิปต์โบราณ | ||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคสัมฤทธิ์ | ||||||||
• ก่อตั้ง | ราว 3100 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||
• สิ้นสุด | ราว 2900 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||
|
การระบุช่วงเวลาดังกล่าวขึ้นอยู่กับการถกเถียงทางวิชาการเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ของอียิปต์ ซึ่งอยู่ในช่วงต้นสมัยสัมฤทธิ์และมีการคาดคะเนกันไปต่างๆ นานาว่าเริ่มขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 34 ถึง 30 ก่อนคริสตกาล ในการศึกษาปี ค.ศ. 2013 ตามช่วงเวลาตามเรดิโอคาร์บอน จุดเริ่มต้นของราชวงศ์ที่หนึ่ง กล่าวคือ การขึ้นมามีอำนาจของฟาโรห์นาร์เมอร์ (หรือที่รู้จักกันทั่วไปในพระนาม เมเนส) ถูกกำหนดไว้ที่ 3100 ปีก่อนคริสตกาลหรือช่วงระหว่างเวลาหนึ่งศตวรรษ (3218 – 3035 โดยมีความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95) การขึ้นครองราชสมบัติของฟาโรห์พระองค์ที่ห้าแห่งราชวงศ์พระนามว่า เดน ได้ถูกกำหนดให้เป็น 3011–2921 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 65
ราชวงศ์ที่หนึ่ง
ข้อมูลเกี่ยวกับราชวงศ์ที่หนึ่งได้มาจากอนุสรณ์สถานสองสามแห่งและโบราณวัตถุอื่นๆ ที่ปรากฏพระนามของเหล่าฟาโรห์ ซึ่งมีวัตถุโบราณที่มีความสำคัญ ได้แก่ และ ตลอดจนรายพระนามของฟาโรห์เดนและฟาโรห์กาอา ไม่ปรากฏบันทึกโดยละเอียดของสองราชวงศ์แรกที่หลงเหลืออยู่เลย ยกเว้นบันทึกรายการสั้น ๆ บนหินปาแลร์โม เรื่องราวในของมาเนโธนั้นได้ขัดแย้งกับทั้งหลักฐานทางโบราณคดีและบันทึกทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ โดยมาเนโธได้ตั้งพระนามของผู้ปกครองจำนวนเก้าพระองค์ของราชวงศ์ที่หนึ่ง และมีเพียงพระนามเดียวเท่านั้นที่ปรากฏพระนามตรงกับแหล่งข้อมูลอื่น และให้ข้อมูลของฟาโรห์เพียงแค่สี่พระองค์เท่านั้นอักษรอียิปต์โบราณได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานั้น และรูปร่างของตัวอักษรจะถูกใช้โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเป็นเวลากว่าสามพันปี[]
อาเลนา บูอิส ได้ตั้งข้ออธิบายว่า
"หลุมฝังพระบรมศพขนาดใหญ่ของฟาโรห์ที่อไบดอสและ นอกเหนือจากสุสานที่ซักกอเราะฮ์และเฮลวานใกล้เมืองเมมฟิส เผยให้เห็นโครงสร้างส่วนใหญ่ที่สร้างจากไม้และอิฐโคลน มีการใช้หินเล็กน้อยสำหรับผนังและพื้น หินถูกใช้ในปริมาณมากสำหรับการผลิต เครื่องประดับ ภาชนะ และบางครั้งสร้างรูปสลัก ทามาริสก์ ("ทามาริสก์" หรือ "ซีดาร์เกลือ") ถูกนำมาใช้ในการสร้างเรือ เช่น เรืออไบดอส เทคนิคงานไม้พื้นเมืองที่สำคัญที่สุดวิธีหนึ่งคือร่องและข้อต่อเดือย เดือยตายตัวทำขึ้นโดยการดัดปลายไม้ท่อนหนึ่งให้พอดีกับร่อง (รู) ที่ตัดเป็นไม้ท่อนที่ 2 รูปแบบของข้อต่อนี้โดยใช้เดือยกลายเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการต่อเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและอียิปต์ และสร้างความแข็งแรงให้กับไม้สองแผ่นหรือส่วนประกอบอื่น ๆ โดยการใส่เดือยแยกเข้าไปในโพรง (ร่อง) ที่มีขนาดที่สอดคล้องกันกับที่ตัดในแต่ละส่วนประกอบ"
— อาเลนา บูอิส
เอส.โอ.วาย. เคย์ตา นักมานุษยวิทยาชีวภาพได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับกะโหลกศีรษะจากช่วงราชวงศ์ที่หนึ่งในสุสานของราชวงศ์ที่อไบดอส และสังเกตว่ารูปแบบกะโหลกที่เด่นชัดคือ รูปแบบ "ทางใต้" หรือ "" (แม้ว่าจะมีการสังเกตกะโหลกรูปแบบอื่นด้วย) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเมืองแห่งราชอาณาจักรคุช โดยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มากขึ้นกับกลุ่มคนจากลุ่มแม่นำ้ไนล์ตอนบน แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากแนวโน้มของรูปแบบกะโหลกศีรษะก่อนหน้านี้ การไหลเวียนของยีนและการเคลื่อนไหวของขุนนางทางตอนเหนือไปยังเมืองทางตอนใต้ที่สำคัญอาจอธิบายการค้นพบนี้ได้
- แผ่นศิลานาร์เมอร์
- หัวคทานาร์เมอร์
- สร้อยคอพร้อมลูกปัดชนิดต่างๆ ได้แก่ ปะการัง และโกเมน
- โถดินเผาพร้อมที่กรองในตัว
การบูชายัญมนุษย์
ปรากฏการบูชายัญมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมพระบรมศพที่เกี่ยวข้องกับฟาโรห์ทุกพระองค์ในราชวงศ์หนึ่ง ซึ่งถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีอยู่ในราชวงศ์นี้โดยการฝังคนไว้ใกล้กับหลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์แต่ละแห่งตลอดจนสัตว์ที่สังเวยเพื่อการฝังพระบรมศพ หลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์ดเจอร์มีการฝังศพของบุคคลจำนวน 338 คน ผู้คนและสัตว์ที่สังเวย เช่น ลา ซึ่งคาดว่าจะไปรับใช้ฟาโรห์ในพระชนม์ชีพหลังการสวรรคต ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบสาเหตุนี้การปฏิบัติพิธีกรรมดังกล่าวสิ้นสุดลงในช่วงที่ราชวงศ์ที่หนึ่งแห่งอียิปต์ล่มสลาย
รายพระนามฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่หนึ่ง
พระนาม | รูปภาพ | คำอธิบาย | รัชสมัย |
---|---|---|---|
นาร์เมอร์ | เชื่อกันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับฟาโรห์เมเนส และได้ทรงรวมอียิปต์บนและล่างเข้าด้วยกัน อาจจะทรงอภิเษกสมรสกับพระนางนิธโฮเทป | ราว 3100 ปีก่อนคริสตกาล | |
ฮอร์-อฮา | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Athotís ทรงส่งคณะสำรวจไปยังดินแดนนิวเบีย ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางเบเนอร์อิบและพระนาง | ราว 3050 ปีก่อนคริสตกาล | |
ดเจอร์ | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Uenéphes (ตามพระนามทองคำ In-nebw) พระองค์และพระราชอิสริยยศของพระองค์ปรากฏบนศิลาแห่งปาแลร์โม หลุมฝังพระบรมศพของพระองค์ถูกคิดว่าเป็นหลุมฝังพระบรมศพในตำนานของเทพโอซิริส | 54 ปี | |
ดเจต | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Usapháis อาจจะทรงอภิเษกสมรสกับพระนาง | 10 ปี | |
เมอร์นิธ | อาจนะทรงเป็นฟาโรห์สตรีพระองค์แรก (หรือปกครองในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของฟาโรห์เดน ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระองค์ หรือปกครองในฐานะทั้งฟาโรห์/พระราชินีและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) พระนางเมอร์นิธทรงถูกฝังใกล้กับฟาโรห์ดเจตและฟาโรห์เดน หลุมฝังพระบรมศพของพระองค์มีขนาดเท่ากับสุสานของฟาโรห์ (พระองค์อื่นๆ) ในเวลานั้น | ราว 2950 ปีก่อนคริสตกาล | |
เดน | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Kénkenes (ต่อมาพระนามประสูติของพระองค์ที่ถูกเขียนในยุครามเสสว่า Qenqen) ทรงเป้นฟาโรห์ฟาโรห์พระองค์แรกที่ปรากฏภาพสลักทรงสวมมงกุฏคู่ของอียิปต์ และทรงเป็นฟาโรห์พระองค์แรกที่ทรงมีพระนามเต็ม | 42 ปี | |
อเนดจ์อิบ | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Miebidós เป็นที่รู้จักจากพระนามเนบวิอันไม่เป็นมงคล | 10 ปี | |
เซเมอร์เคต | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Semempsés ทรงเป็นผู้ปกครองอียิปต์พระนามแรกที่ทรงพระนามเนบติ ช่วงเวลาแห่งรัชสมัยของพระองค์ปรากฏบนศิลาแห่งไคโร | 812 ปี | |
กาอา | พระนามในภาษากรีกโบราณ คือ Bienéches ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลายาวนาน สุสานของพระองค์เป็นสุสานสุดท้ายที่มีสุสานย่อยภายใน | 34 ปี | |
รัชสมัยของพระองค์สั้นมาก ไม่ทราบตำแหน่งตามลำดับเวลาที่ถูกต้อง | ราว 2900 ปีก่อนคริสตกาล | ||
ฮอรัส เบิร์ด | รัชสมัยของพระองค์สั้นมาก ไม่ทราบตำแหน่งตามลำดับเวลาที่ถูกต้อง | ราว 2900 ปีก่อนคริสตกาล |
อ้างอิง
- Kuhrt (1995), p. 118.
- Heagy, Thomas C. (2014). "Who was Menes?". Archeo-Nil. 24: 59–92. Available online "[1]".
- Dee, M.; ; Shortland, A.; Stevenson, A.; Brock, F.; Girdland Flink, L.; Bronk Ramsey, C. (4 September 2013). "An absolute chronology for early Egypt using radiocarbon dating and Bayesian statistical modelling". Proceedings of the Royal Society A: Mathematical, Physical and Engineering Sciences. 469 (2159): 20130395. Bibcode:2013RSPSA.46930395D. doi:10.1098/rspa.2013.0395. PMC 3780825. PMID 24204188.
- Quiles, Anita; Tristant, Yann (2023). "RADIOCARBON-BASED MODELING OF THE REIGN OF KING DEN (1ST DYNASTY, EGYPT) AND THE START OF THE OLD KINGDOM". Radiocarbon (ภาษาอังกฤษ). 65 (2): 485–504. doi:10.1017/RDC.2023.15. ISSN 0033-8222 – โดยทาง Cambridge University Press online.
- "Qa'a and Merneith lists", Xoomer, IT: Virgilio.
- The Narmer Catalog http://narmer.org/inscription/1553 2020-02-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Narmer Catalog http://narmer.org/inscription/4048 2020-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Manetho, Fr. 6, 7a, 7b. Text and translation in Manetho, translated by W.G. Waddell (Cambridge: Harvard University, 1940), pp. 27–35
- Buis, Alena (2022). "Predynastic and Early Dynastic Art". Art and Visual Culture: Prehistory to Renaissance.
Large tombs of pharaohs at Abydos and Naqada, in addition to cemeteries at Saqqara and Helwan near Memphis, reveal structures built largely of wood and mud bricks, with some small use of stone for walls and floors. Stone was used in quantity for the manufacture of ornaments, vessels, and occasionally for statues. Tamarix was used to build boats such as the Abydos Boats. One of the most important indigenous woodworking techniques was the fixed mortise and tenon joint, where the fixed tenon was made by shaping the end of one timber to fit into a mortise (or hole) that is cut into a second timber. A variation of this joint using a free tenon eventually became one of the most important features in Mediterranean and Egyptian shipbuilding. It creates a union between two planks or other components by inserting a separate tenon into a cavity (mortise) of the corresponding size cut into each component.
- Keita, S. O. Y. (1992). "Further studies of crania from ancient Northern Africa: An analysis of crania from First Dynasty Egyptian tombs, using multiple discriminant functions". American Journal of Physical Anthropology (ภาษาอังกฤษ). 87 (3): 245–254. doi:10.1002/ajpa.1330870302. ISSN 1096-8644. PMID 1562056.
- Shaw (2000), p. 68.
- Wolfgang Helck: Untersuchungen zur Thinitenzeit (= Ägyptologische Abhandlungen (ÄA), Vol. 45). Harrassowitz, Wiesbaden 1987, ISBN , p. 124.
- : Untersuchungen zur Thinitenzeit (Agyptologische Abhandlungen), ISBN , O. Harrassowitz (1987), p. 124
- Tyldesley, J. (2006). Chronicle of the Queens of Egypt. Thames & Hudson.
- Teeter, Emily, บ.ก. (2011). Before the Pyramids, The Origins of Egyptian Civilization. The Oriental Institute of the University of Chicago. p. 207.
- William Matthew Flinders Petrie: The Royal Tombs of the Earliest Dynasties. Cambridge University Press, New York 2013 (reprint of 1901), ISBN , p. 49.
บรรณานุกรม
- (1995), The Ancient Near East: c. 3000–330 BC, London: , ISBN .
- (2000), The Oxford History of Ancient Egypt, Oxford: , ISBN
ก่อนหน้า | ราชวงศ์ที่หนึ่งแห่งอียิปต์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
อียิปต์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ | ราชวงศ์แห่งอียิปต์ (ประมาณ 3100 – 2890 ปีก่อนคริสตกาล) | ราชวงศ์ที่สองแห่งอียิปต์ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rachwngsthihnungaehngxiyipt epnklumkhxngfaorhaehngxiyiptobranklumaerkthipkkhrxngxiyiptthiepnpukaephn sungekidkhunthnthihlngcakkarphnwkrwmknkhxngxiyiptbnaelaxiyiptlangodyfaorhnaremxr aelathuxwaepncuderimtnkhxngchwngtnyukhrachwngs sungepnchwngewlathixanacmisunyklangxyuthiemuxngithnisrachwngsthihnungaehngxiyiptraw 3100 pikxnkhristkal raw 2900 pikxnkhristkalaephnsilaaehngnaremxr 3000 pikxnkhristkal emuxnghlwngithnisphasathwipphasaxiyiptsasnasasnaxiyiptobrankarpkkhrxngsmburnayasiththirachyyukhprawtisastryukhsmvththi kxtngraw 3100 pikxnkhristkal sinsudraw 2900 pikxnkhristkalkxnhna thdipxiyiptyukhkxnprawtisastr rachwngsthisxngaehngxiyipt karrabuchwngewladngklawkhunxyukbkarthkethiyngthangwichakarekiywkbladbehtukarnkhxngxiyipt sungxyuinchwngtnsmysmvththiaelamikarkhadkhaenkniptang nanawaerimkhunrahwangstwrrsthi 34 thung 30 kxnkhristkal inkarsuksapi kh s 2013 tamchwngewlatamerdioxkharbxn cuderimtnkhxngrachwngsthihnung klawkhux karkhunmamixanackhxngfaorhnaremxr hruxthiruckknthwipinphranam emens thukkahndiwthi 3100 pikxnkhristkalhruxchwngrahwangewlahnungstwrrs 3218 3035 odymikhwamechuxmnthirxyla 95 karkhunkhrxngrachsmbtikhxngfaorhphraxngkhthihaaehngrachwngsphranamwa edn idthukkahndihepn 3011 2921 pikxnkhristkal odymikhwamechuxmnthirxyla 65rachwngsthihnungkhxmulekiywkbrachwngsthihnungidmacakxnusrnsthansxngsamaehngaelaobranwtthuxun thipraktphranamkhxngehlafaorh sungmiwtthuobranthimikhwamsakhy idaek aela tlxdcnrayphranamkhxngfaorhednaelafaorhkaxa impraktbnthukodylaexiydkhxngsxngrachwngsaerkthihlngehluxxyuely ykewnbnthukraykarsn bnhinpaaelrom eruxngrawinkhxngmaenothnnidkhdaeyngkbthnghlkthanthangobrankhdiaelabnthukthangprawtisastrxun odymaenothidtngphranamkhxngphupkkhrxngcanwnekaphraxngkhkhxngrachwngsthihnung aelamiephiyngphranamediywethannthipraktphranamtrngkbaehlngkhxmulxun aelaihkhxmulkhxngfaorhephiyngaekhsiphraxngkhethannxksrxiyiptobranidrbkarphthnaxyangetmthiinchwngewlann aelaruprangkhxngtwxksrcathukichodymikarepliynaeplngephiyngelknxyepnewlakwasamphnpi txngkarxangxing xaelna buxis idtngkhxxthibaywa hlumfngphrabrmsphkhnadihykhxngfaorhthixibdxsaela nxkehnuxcaksusanthiskkxeraahaelaehlwaniklemuxngemmfis ephyihehnokhrngsrangswnihythisrangcakimaelaxithokhln mikarichhinelknxysahrbphnngaelaphun hinthukichinprimanmaksahrbkarphlit ekhruxngpradb phachna aelabangkhrngsrangrupslk thamarisk thamarisk hrux sidareklux thuknamaichinkarsrangerux echn eruxxibdxs ethkhnikhnganimphunemuxngthisakhythisudwithihnungkhuxrxngaelakhxtxeduxy eduxytaytwthakhunodykarddplayimthxnhnungihphxdikbrxng ru thitdepnimthxnthi 2 rupaebbkhxngkhxtxniodyicheduxyklayepnkhunsmbtithisakhythisudprakarhnunginkartxeruxinthaelemdietxrereniynaelaxiyipt aelasrangkhwamaekhngaerngihkbimsxngaephnhruxswnprakxbxun odykariseduxyaeykekhaipinophrng rxng thimikhnadthisxdkhlxngknkbthitdinaetlaswnprakxb xaelna buxis exs ox way ekhyta nkmanusywithyachiwphaphidthakarsuksaekiywkbkaohlksirsacakchwngrachwngsthihnunginsusankhxngrachwngsthixibdxs aelasngektwarupaebbkaohlkthiednchdkhux rupaebb thangit hrux aemwacamikarsngektkaohlkrupaebbxundwy sungmikhwamsmphnthkbemuxngaehngrachxanackrkhuch odyaesdngihehnthungkhwamsmphnththimakkhunkbklumkhncaklumaemnainltxnbn aetyngmikarepliynaeplngthichdecncakaenwonmkhxngrupaebbkaohlksirsakxnhnani karihlewiynkhxngyinaelakarekhluxnihwkhxngkhunnangthangtxnehnuxipyngemuxngthangtxnitthisakhyxacxthibaykarkhnphbniidaephnsilanaremxr hwkhthanaremxr srxykhxphrxmlukpdchnidtang idaek pakarng aelaokemn othdinephaphrxmthikrxngintwkarbuchayymnusypraktkarbuchayymnusyepnswnhnungkhxngphithikrrmphrabrmsphthiekiywkhxngkbfaorhthukphraxngkhinrachwngshnung sungthukaesdngihehnxyangchdecnwamixyuinrachwngsniodykarfngkhniwiklkbhlumfngphrabrmsphkhxngfaorhaetlaaehngtlxdcnstwthisngewyephuxkarfngphrabrmsph hlumfngphrabrmsphkhxngfaorhdecxrmikarfngsphkhxngbukhkhlcanwn 338 khn phukhnaelastwthisngewy echn la sungkhadwacaiprbichfaorhinphrachnmchiphhlngkarswrrkht dwyehtuphlthiimthrabsaehtunikarptibtiphithikrrmdngklawsinsudlnginchwngthirachwngsthihnungaehngxiyiptlmslayrayphranamfaorhaehngrachwngsthihnungphranam rupphaph khaxthibay rchsmynaremxr echuxknwaepnbukhkhlediywknkbfaorhemens aelaidthrngrwmxiyiptbnaelalangekhadwykn xaccathrngxphiesksmrskbphranangnithohethp raw 3100 pikxnkhristkalhxr xha phranaminphasakrikobran khux Athotis thrngsngkhnasarwcipyngdinaednniwebiy thrngxphiesksmrskbphranangebenxrxibaelaphranang raw 3050 pikxnkhristkaldecxr phranaminphasakrikobran khux Uenephes tamphranamthxngkha In nebw phraxngkhaelaphrarachxisriyyskhxngphraxngkhpraktbnsilaaehngpaaelrom hlumfngphrabrmsphkhxngphraxngkhthukkhidwaepnhlumfngphrabrmsphintanankhxngethphoxsiris 54 pidect phranaminphasakrikobran khux Usaphais xaccathrngxphiesksmrskbphranang 10 piemxrnith xacnathrngepnfaorhstriphraxngkhaerk hruxpkkhrxnginthanaphusaercrachkaraethnphraxngkhkhxngfaorhedn sungepnphrarachoxrskhxngphraxngkh hruxpkkhrxnginthanathngfaorh phrarachiniaelaphusaercrachkaraethnphraxngkh phranangemxrniththrngthukfngiklkbfaorhdectaelafaorhedn hlumfngphrabrmsphkhxngphraxngkhmikhnadethakbsusankhxngfaorh phraxngkhxun inewlann raw 2950 pikxnkhristkaledn phranaminphasakrikobran khux Kenkenes txmaphranamprasutikhxngphraxngkhthithukekhiyninyukhramesswa Qenqen thrngepnfaorhfaorhphraxngkhaerkthipraktphaphslkthrngswmmngkutkhukhxngxiyipt aelathrngepnfaorhphraxngkhaerkthithrngmiphranametm 42 pixendcxib phranaminphasakrikobran khux Miebidos epnthiruckcakphranamenbwixnimepnmngkhl 10 piesemxrekht phranaminphasakrikobran khux Semempses thrngepnphupkkhrxngxiyiptphranamaerkthithrngphranamenbti chwngewlaaehngrchsmykhxngphraxngkhpraktbnsilaaehngikhor 8 1 2 pikaxa phranaminphasakrikobran khux Bieneches thrngkhrxngrachyepnrayaewlayawnan susankhxngphraxngkhepnsusansudthaythimisusanyxyphayin 34 pirchsmykhxngphraxngkhsnmak imthrabtaaehnngtamladbewlathithuktxng raw 2900 pikxnkhristkalhxrs ebird rchsmykhxngphraxngkhsnmak imthrabtaaehnngtamladbewlathithuktxng raw 2900 pikxnkhristkalxangxingKuhrt 1995 p 118 Heagy Thomas C 2014 Who was Menes Archeo Nil 24 59 92 Available online 1 Dee M Shortland A Stevenson A Brock F Girdland Flink L Bronk Ramsey C 4 September 2013 An absolute chronology for early Egypt using radiocarbon dating and Bayesian statistical modelling Proceedings of the Royal Society A Mathematical Physical and Engineering Sciences 469 2159 20130395 Bibcode 2013RSPSA 46930395D doi 10 1098 rspa 2013 0395 PMC 3780825 PMID 24204188 Quiles Anita Tristant Yann 2023 RADIOCARBON BASED MODELING OF THE REIGN OF KING DEN 1ST DYNASTY EGYPT AND THE START OF THE OLD KINGDOM Radiocarbon phasaxngkvs 65 2 485 504 doi 10 1017 RDC 2023 15 ISSN 0033 8222 odythang Cambridge University Press online Qa a and Merneith lists Xoomer IT Virgilio The Narmer Catalog http narmer org inscription 1553 2020 02 08 thi ewyaebkaemchchin The Narmer Catalog http narmer org inscription 4048 2020 02 19 thi ewyaebkaemchchin Manetho Fr 6 7a 7b Text and translation in Manetho translated by W G Waddell Cambridge Harvard University 1940 pp 27 35 Buis Alena 2022 Predynastic and Early Dynastic Art Art and Visual Culture Prehistory to Renaissance Large tombs of pharaohs at Abydos and Naqada in addition to cemeteries at Saqqara and Helwan near Memphis reveal structures built largely of wood and mud bricks with some small use of stone for walls and floors Stone was used in quantity for the manufacture of ornaments vessels and occasionally for statues Tamarix was used to build boats such as the Abydos Boats One of the most important indigenous woodworking techniques was the fixed mortise and tenon joint where the fixed tenon was made by shaping the end of one timber to fit into a mortise or hole that is cut into a second timber A variation of this joint using a free tenon eventually became one of the most important features in Mediterranean and Egyptian shipbuilding It creates a union between two planks or other components by inserting a separate tenon into a cavity mortise of the corresponding size cut into each component Keita S O Y 1992 Further studies of crania from ancient Northern Africa An analysis of crania from First Dynasty Egyptian tombs using multiple discriminant functions American Journal of Physical Anthropology phasaxngkvs 87 3 245 254 doi 10 1002 ajpa 1330870302 ISSN 1096 8644 PMID 1562056 Shaw 2000 p 68 Wolfgang Helck Untersuchungen zur Thinitenzeit Agyptologische Abhandlungen AA Vol 45 Harrassowitz Wiesbaden 1987 ISBN 3 447 02677 4 p 124 Untersuchungen zur Thinitenzeit Agyptologische Abhandlungen ISBN 3 447 02677 4 O Harrassowitz 1987 p 124 Tyldesley J 2006 Chronicle of the Queens of Egypt Thames amp Hudson Teeter Emily b k 2011 Before the Pyramids The Origins of Egyptian Civilization The Oriental Institute of the University of Chicago p 207 William Matthew Flinders Petrie The Royal Tombs of the Earliest Dynasties Cambridge University Press New York 2013 reprint of 1901 ISBN 1 108 06612 7 p 49 brrnanukrm 1995 The Ancient Near East c 3000 330 BC London ISBN 978 0 415 01353 6 2000 The Oxford History of Ancient Egypt Oxford ISBN 0 19 280458 8kxnhna rachwngsthihnungaehngxiyipt thdipxiyiptyukhkxnprawtisastr rachwngsaehngxiyipt praman 3100 2890 pikxnkhristkal rachwngsthisxngaehngxiyipt