พระพุธ (เทวนาครี: बुध พุธ) เป็นเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่ง ในคติไทย พระพุธถูกสร้างขึ้นมาจากพระศิวะทรงนำคชสาร (ช้าง) ๑๗ เชือก บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกได้เป็นพระพุธ มีพระวรกายสีเขียวใบไม้ ทรงเครื่องผนวชฤๅษี นุ่งห่มหนังเสือ สวมลูกประคำ ทรงเครื่องประดับเป็นแก้วมรกตและแก้วไพฑูรย์ ทรงคชสารเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศใต้ และแสดงถึงอักษรวรรค ฏะ ใหญ่ (ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ) เรียกว่า โสณนาม ในไตรภูมิพระร่วง พระพุธมีวิมานลอยอยู่รอบเขาพระสุเมรุด้านทิศใต้ วิมานใหญ่ ๑๔ โยชน์ รัศมีขาวมน
พระพุธ ในคติอินเดีย ทรงกริช,คทา,ดาบ ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ | |
ตำแหน่ง | เทพแห่งดาวพุธ การเจรจา การพาณิชย์ การทูต ความฉลาด สติปัญญา พิธีกรรม มนตร์คาถา การสะกดจิต |
---|---|
จำพวก | เทวดานพเคราะห์ |
อาวุธ | คทา,ขอช้าง,ดาบ,โล่,ธนู,ศร,จักร,สังข์,กริช ฯลฯ |
สัตว์พาหนะ | คชสีห์(ยาฬิ),ราชสีห์,ช้าง,ม้า,นกอินทรี,ราชรถสีเหลืองเทียมม้าสีเหลืองเข้ม ๘ ตัว,ราชรถเทียมคชสีห์,ราชรถเทียมเสือ |
บิดา | พระจันทร์ |
มารดา | พระนางตารา |
คู่ครอง | พระนางอิลา |
บุตร | ,สุรเสน (วานรสิบแปดมงกุฎในรามเกียรติ์) |
ดาวพระเคราะห์ | พุธโลก (ดาวพุธ) |
ในคติฮินดู พระพุธ เป็นบุตรของพระจันทร์ กับนางตารา ชายาของพระพฤหัสบดี เมื่อตอนที่อยู่ในครรภ์ พระพฤหัสบดีสงสัยว่าบุตรในท้องของนางตารา เป็นบุตรของใครกันแน่ พระพุธผู้อยู่ในท้องของนางตาราได้ตอบออกมาว่าตนเป็นบุตรของพระจันทร์ นางตาราได้ยินก็โกรธมากจึงสาปบุตรในท้องให้กลายเป็นคนลักเพศ ส่วนพระพฤหัสบดีเมื่อได้ยินดังนั้นก็โกรธและใช้ไฟตบะของตนเผานางตาราเป็นเถ้าถ่าน ส่วนพระพุธนั้นไม่ได้ถูกเผาไหม้ไปด้วย พระพรหมได้ปรากฏกายขึ้น และกล่าวว่า นางตาราได้รับการชำระล้างบาปจากการถูกไฟเผาแล้ว และได้ชุบชีวิตให้นางตารา ส่วนพระพุธนั้น พระพฤหัสบดีทรงเลี้ยงดูไว้ และมอบความรู้และศิลปวิทยา เมื่อพระพุธอายุได้ ๓๐ ปี ก็ทรงจดจำได้ทุกศาสตร์ จนเป็นผู้ฉลาดปราชญ์เปรื่อง ต่อมาพระพุธได้ไปบำเพ็ญตบะในป่าสคันวัน และได้พบรักกับนางอิลา ซึ่งคือท้าวอิลราชที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นหญิงเดือนหนึ่งชายเดือนหนึ่ง พระพุธได้บำเพ็ญตบะด้วยการบูชาศิวลึงค์ด้วยทรายเป็นเวลานาน และพบกับอุปสรรคจากสัตว์ร้ายมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระพุธหวาดหวั่น จนพระศิวะพอพระทัย และได้แต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวพุธ เป็นเทพแห่งความฉลาดปราชญ์เปรื่องในญาณ พิธีกรรม มนตร์คาถา และการสะกดจิต เป็นใหญ่ในการเจรจาและการพาณิชย์ อภิบาลเหล่าคณะทูตและพ่อค้า ทรงเป็นบิดาแห่งท้าวปุรูรพ ปฐมกษัตริย์ต้นตระกูลแห่งราชวงศ์จันทรวงศ์ และได้อวตารมาเกิดเป็นบุตรของอรชุน นามว่า อภิมันยุ ยอดนักรบหนุ่มในสงครามทุ่งกุรุเกษตร
ลักษณะของพระพุธ ในคติไทย เป็นเทพบุรุษมีกายสีเขียวใบไม้ มี ๒ กร ทรงขอช้างเป็นอาวุธ สวมมงกุฎน้ำเต้า ทรงเครื่องผนวชฤๅษี นุ่งห่มหนังเสือ สวมลูกประคำ ทรงเครื่องประดับเป็นแก้วมรกตและแก้วไพฑูรย์ ทรงคชสารเป็นพาหนะ ในคติฮินดู เป็นเทพบุรุษมีกายสีเขียวเข้ม รูปร่างเล็ก ปราดเปรียว มีรูปงาม มี ๔ กร ทรงคทา ขอช้าง ดาบ โล่ ฯลฯ สวมมงกุฎทองคำ รัศมีสีเหลือง สวมอาภรณ์สีเหลือง ทรงเครื่องประดับด้วยแก้วมรกตและแก้ว ไพฑูรย์ ทรงคชสีห์เป็นพาหนะ พระพุธ ยังมีนามอื่นๆอีก อาทิ เช่น พระเสามยะ,พระเราหิเณยะ,พระตุงคะ,พระปริยังคุ,พระศุภปรัท,พระสัตยวาส,พระสัตยวจัส,พระสัตยวัต,พระเวทวิท,พระวีตราคะ,พระวีตภยะ,พระพันธุปริยะ,พระปีตามพร ฯลฯ
พระพุธเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ ให้ผลในทางอ่อนโยนไพเราะ นั่นคือ ผู้ใดเกิดวันพุธ หรือมีพระพุธสถิตร่วมกับลัคนา มักชอบพูดชอบเจรจา มีวาทศิลป์ ฉลาดในการพูด สุขุมรอบคอบ แต่ตื่นกลัวง่าย ตามนิทานชาติเวร พระพุธเป็นมิตรกับพระจันทร์ และเป็นศัตรูกับพระราหู เรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตพระพุธเกิดเป็นสุนัขในบ้านคฤหบดี พระราหูเกิดเป็นคฤหบดี พระเสาร์เกิดเป็นพ่อค้า พระจันทร์เกิดเป็นคนจนผู้ยากไร้ คนจนได้ไปยืมเงินของคฤหบดี แต่ไม่มีเงินใช้หนี้จึงต้องหนีไป วันหนึ่งพ่อค้าผู้เป็นเพื่อนของคฤหบดี ได้มาพบคนจนเข้าจึงนำเรื่องไปแจ้งกับคฤหบดี สุนัขที่เฝ้าบ้านได้ฟังแล้วเกิดสงสารคนจนจึงเข้าขบกัดคฤหบดีจนไม่สามารถไปตามจับคนจนได้ ตั้งแต่นั้น พระพุธจึงเป็นมิตรกับพระจันทร์ ส่วนพระราหูเป็นศัตรูกับพระพุธ และพระเสาร์เป็นมิตรกับพระราหู จากตำนานนี้ผู้ใดที่เกิดวันพุธแล้วพระจันทร์โคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะมีมิตรสหายเกื้อหนุน ได้ลาภยศทรัพย์สินเงินทอง รอดพ้นภัยพาล หากพระราหูโคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะเกิดการทะเลาะวิวาทกับผู้ใหญ่ มีเกณฑ์พลัดพรากจากที่อยู่อาศัย
ในโหราศาสตร์ไทย พระพุธถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ ๔ (เลขสี่ไทย) และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากคชสาร ๑๗ เชือก จึงมีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๗ สำหรับพระประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธก็คือ ปางอุ้มบาตร
ทางโหราศาสตร์จัดเป็นเทวดาของผู้ที่เกิดในวันพุธกลางวัน ส่วนผู้ที่เกิดในวันพุธกลางคืนเทวดาจะเป็นพระราหู
เมื่อเทียบกับความเชื่อทางตะวันตกแล้ว พระพุธเทียบได้กับเฮอร์มีสของเทพปกรณัมกรีก และเมอร์คิวรี่ของเทพปกรณัมโรมัน ซึ่งเป็นเทพที่มีความว่องไว เป็นเทพแห่งการสื่อสาร
อ้างอิง
- อุระคินทร์ วิริยะบูรณะ และคณะ.พรหมชาติ ฉบับหลวง. กรุงเทพฯ:สำนักงาน ลูก ส.ธรรมภักดี, ม.ป.ป.
- เทพย์ สาริกบุตร และคณะ.พรหมชาติ ฉบับราษฎร์. กรุงเทพฯ:สำนักงาน ลูก ส.ธรรมภักดี, ม.ป.ป.
- กิเลน ประลองเชิง, ตำนานจันทร์เจ้า. "ชักธงรบ". หน้า 3 ไทยรัฐปีที่ 67 ฉบับที่ 21346: วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก
- สายล่อฟ้า 16 09 59. ฟ้าวันใหม่
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraphuth ethwnakhri ब ध phuth epnethwdanphekhraahxngkhhnung inkhtiithy phraphuththuksrangkhunmacakphrasiwathrngnakhchsar chang 17 echuxk bdpnepnphng hxphasiekhiywibim praphrmdwynaxmvt aelweskidepnphraphuth miphrawrkaysiekhiywibim thrngekhruxngphnwchvisi nunghmhnngesux swmlukprakha thrngekhruxngpradbepnaekwmrktaelaaekwiphthury thrngkhchsarepnphahna pracaxyuthisit aelaaesdngthungxksrwrrkh ta ihy d t th th th n eriykwa osnnam initrphumiphrarwng phraphuthmiwimanlxyxyurxbekhaphrasuemrudanthisit wimanihy 14 oychn rsmikhawmnphraphuth ethwnakhri ब धphraphuth inkhtixinediy thrngkrich khtha dab thrngrachsihepnphahnataaehnngethphaehngdawphuth karecrca karphanichy karthut khwamchlad stipyya phithikrrm mntrkhatha karsakdcitcaphwkethwdanphekhraahxawuthkhtha khxchang dab ol thnu sr ckr sngkh krich lstwphahnakhchsih yali rachsih chang ma nkxinthri rachrthsiehluxngethiymmasiehluxngekhm 8 tw rachrthethiymkhchsih rachrthethiymesuxbidaphracnthrmardaphranangtarakhukhrxngphranangxilabutr suresn wanrsibaepdmngkudinramekiyrti dawphraekhraahphutholk dawphuth dkhkthawxilrachmaphbkbphraphuththirimsrana inkhtihindu phraphuth epnbutrkhxngphracnthr kbnangtara chayakhxngphraphvhsbdi emuxtxnthixyuinkhrrph phraphvhsbdisngsywabutrinthxngkhxngnangtara epnbutrkhxngikhrknaen phraphuthphuxyuinthxngkhxngnangtaraidtxbxxkmawatnepnbutrkhxngphracnthr nangtaraidyinkokrthmakcungsapbutrinthxngihklayepnkhnlkephs swnphraphvhsbdiemuxidyindngnnkokrthaelaichiftbakhxngtnephanangtaraepnethathan swnphraphuthnnimidthukephaihmipdwy phraphrhmidpraktkaykhun aelaklawwa nangtaraidrbkarcharalangbapcakkarthukifephaaelw aelaidchubchiwitihnangtara swnphraphuthnn phraphvhsbdithrngeliyngduiw aelamxbkhwamruaelasilpwithya emuxphraphuthxayuid 30 pi kthrngcdcaidthuksastr cnepnphuchladprachyepruxng txmaphraphuthidipbaephytbainpaskhnwn aelaidphbrkkbnangxila sungkhuxthawxilrachthitxngkhasapihklayepnhyingeduxnhnungchayeduxnhnung phraphuthidbaephytbadwykarbuchasiwlungkhdwythrayepnewlanan aelaphbkbxupsrrkhcakstwraymakmay aetkimidthaihphraphuthhwadhwn cnphrasiwaphxphrathy aelaidaetngtngihepnethphpracadawphuth epnethphaehngkhwamchladprachyepruxnginyan phithikrrm mntrkhatha aelakarsakdcit epnihyinkarecrcaaelakarphanichy xphibalehlakhnathutaelaphxkha thrngepnbidaaehngthawpururph pthmkstriytntrakulaehngrachwngscnthrwngs aelaidxwtarmaekidepnbutrkhxngxrchun namwa xphimnyu yxdnkrbhnuminsngkhramthungkuruekstr lksnakhxngphraphuth inkhtiithy epnethphburusmikaysiekhiywibim mi 2 kr thrngkhxchangepnxawuth swmmngkudnaeta thrngekhruxngphnwchvisi nunghmhnngesux swmlukprakha thrngekhruxngpradbepnaekwmrktaelaaekwiphthury thrngkhchsarepnphahna inkhtihindu epnethphburusmikaysiekhiywekhm ruprangelk pradepriyw mirupngam mi 4 kr thrngkhtha khxchang dab ol l swmmngkudthxngkha rsmisiehluxng swmxaphrnsiehluxng thrngekhruxngpradbdwyaekwmrktaelaaekw iphthury thrngkhchsihepnphahna phraphuth yngminamxunxik xathi echn phraesamya phraerahienya phratungkha phrapriyngkhu phrasuphprth phrastywas phrastywcs phrastywt phraewthwith phrawitrakha phrawitphya phraphnthupriya phrapitamphr l phraphuthepnethwdanphekhraahpraephthsuphekhraah ihphlinthangxxnoynipheraa nnkhux phuidekidwnphuth hruxmiphraphuthsthitrwmkblkhna mkchxbphudchxbecrca miwathsilp chladinkarphud sukhumrxbkhxb aettunklwngay tamnithanchatiewr phraphuthepnmitrkbphracnthr aelaepnstrukbphrarahu eruxngmixyuwa inxditphraphuthekidepnsunkhinbankhvhbdi phrarahuekidepnkhvhbdi phraesarekidepnphxkha phracnthrekidepnkhncnphuyakir khncnidipyumenginkhxngkhvhbdi aetimmienginichhnicungtxnghniip wnhnungphxkhaphuepnephuxnkhxngkhvhbdi idmaphbkhncnekhacungnaeruxngipaecngkbkhvhbdi sunkhthiefabanidfngaelwekidsngsarkhncncungekhakhbkdkhvhbdicnimsamarthiptamcbkhncnid tngaetnn phraphuthcungepnmitrkbphracnthr swnphrarahuepnstrukbphraphuth aelaphraesarepnmitrkbphrarahu caktananniphuidthiekidwnphuthaelwphracnthrokhcrekhasudwngchata camimitrshayekuxhnun idlaphysthrphysinenginthxng rxdphnphyphal hakphrarahuokhcrekhasudwngchata caekidkarthaelaawiwathkbphuihy mieknthphldphrakcakthixyuxasy phraphuththrngyali khchsih inohrasastrithy phraphuththukaethndwysylksn 4 elkhsiithy aeladwyehtuthisrangkhunmacakkhchsar 17 echuxk cungmikalngphraekhraahepn 17 sahrbphrapracawnekidkhxngphuthiekidwnphuthkkhux pangxumbatr thangohrasastrcdepnethwdakhxngphuthiekidinwnphuthklangwn swnphuthiekidinwnphuthklangkhunethwdacaepnphrarahu emuxethiybkbkhwamechuxthangtawntkaelw phraphuthethiybidkbehxrmiskhxngethphpkrnmkrik aelaemxrkhiwrikhxngethphpkrnmormn sungepnethphthimikhwamwxngiw epnethphaehngkarsuxsarxangxingxurakhinthr wiriyaburna aelakhna phrhmchati chbbhlwng krungethph sankngan luk s thrrmphkdi m p p ethphy sarikbutr aelakhna phrhmchati chbbrasdr krungethph sankngan luk s thrrmphkdi m p p kieln pralxngeching tanancnthreca chkthngrb hna 3 ithyrthpithi 67 chbbthi 21346 wnsukrthi 1 krkdakhm ph s 2559 aerm 12 kha eduxn 7 piwxk saylxfa 16 09 59 fawnihmwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraphuth