พระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 1 (พม่า: သတိုးဓမ္မရာဇာ, ออกเสียง: [ðədó dəma̰ jàzà]; ประมาณคริสต์ทศวรรษ 1490–1551) มีพระนามเดิมว่า นิต่า ทรงเริ่มเข้ารับราชการในราชสำนักตองอูตั้งแต่ พ.ศ. 2059 แล้วได้รับสถาปนาเป็นพระเจ้าแปรในฐานะกษัตริย์เมืองออกของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ผู้เป็นพระชามาดาระหว่าง พ.ศ. 2085 ถึง 2093 แต่ภายหลังพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้สวรรคตใน พ.ศ. 2093 ก็ประกาศตนเป็นเอกราชระหว่าง พ.ศ. 2093 ถึง 2094 ทรงพระนามว่า ตะโดตู (သတိုးသူ, [ðədó θù]) และประกาศไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าบุเรงนองผู้ที่ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ทำให้เกิดการสู้รบกันขึ้น หลังการสู้รบยาวนาน 6 เดือนกองทัพของพระเจ้าบุเรงนองก็โจมตีเมืองแปรแตกใน พ.ศ. 2094 และพระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 1 ก็ถูกสำเร็จโทษตามพระราชโองการของพระเจ้าบุเรงนอง
พระเจ้าตะโดธรรมราชา သတိုးဓမ္မရာဇာ ตะโดตู | |
---|---|
พระเจ้าแปร | |
ครองราชย์ | 30 เมษายน พ.ศ. 2093 – 30 สิงหาคม พ.ศ. 2094 (กษัตริย์) 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2085 – 30 เมษายน พ.ศ. 2093 (อุปราช) |
ก่อนหน้า | มังฆ้อง |
ถัดไป | ตะโดธรรมราชาที่ 2 |
ประสูติ | ราว พ.ศ. 2033 ตองอู |
สวรรคต | 30 สิงหาคม พ.ศ. 2094 (61 พรรษา) วันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน Thadingyut 913 ME แปร |
พระราชบุตร | พระนางขิ่นเมี๊ยะ |
พระราชบิดา | เจ้าเมืองเจ๊ตโยบิน |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
ในพระราชพงศาวดารของไทยพระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 1 หรือพระเจ้าแปรมีบทบาทสำคัญในฐานะแม่ทัพผู้ฟันพระสุริโยทัยสวรรคตระหว่างกระทำยุทธหัตถีในสงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้
ต้นพระชนม์
พระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 1 ในอดีตเป็นสามัญชนนามว่า ชินนิต่า ( ရှင်နီတာ ) พ่อของพระองค์ คือ เจ้าเมืองเจ๊ตโยบิน ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2059 เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดอำมาตย์ ของเจ้าชายตะเบ็งชะเวตี้แห่งตองอู เขาและครอบครัวของเขาย้ายเข้ามาอยู่ในเขตพระราชวังตองอู พร้อมอำมาตย์คนอื่น ๆ เช่น เมงจีสเว เป็นต้น เจ้าชายตะเบ็งชะเวตี้ทรงมีความรักและซาบซึ้งต่ออำมาตย์ของพระองค์อย่างลึกซึ้ง เมื่อพระองค์ขึ้นเป็นเถลิงราชย์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2073 ยุวกษัตริย์อายุ 14 ปีได้มอบรางวัลและพระราชทานตำแหน่งอันทรงเกียรติให้แก่อำมาตย์ของพระองค์ พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงรับพระสหายในวัยเด็กของพระองค์สองคน คือ ขิ่นโปนโซ (ลูกสาวของเมงจีสเว) และ ขิ่นเมี๊ยะ (ลูกสาวของนิต่า) ขึ้นเป็นพระมเหสีของพระองค์ และทำให้ทั้งสองได้ดำรงตำแหน่งในราชวงศ์ฐานะ พระสัสสุระของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เมงจีสเว ขึ้นดำรงตำแหน่งเมงเยสีหตู ปกครองเมืองตองอู ส่วนนิต่า ได้ดำรงตำแหน่ง ตะโดธรรมราชา ครองเมืองแปร
พระเจ้าแปรในฐานะประเทศราช
เส้นทางการขึ้นครองราชย์
หลังการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงปรารถนาจะขยายพระราชอำนาจ แห่งอาณาจักรตองอูให้แผ่ไพศาล ทรงเริ่มประกาศสงครามเพื่อรวบรวมอาณาจักร โดยทรงมีเมงเยสีหตูและตะโดธรรมราชาเป็นที่ปรึกษาในราชการทั้งการปกครองและการศึกสงคราม แต่ทั้งสองนั้นก็มิได้เชี่ยวชาญยุทธวิธีนัก จึงมักได้รับโปรดเกล้าให้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อทรงกรีฑาทัพไปทำศึก พระองค์เคยสำเร็จราชการกรุงหงสาวดีแทนพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ไปตีเมืองเมาะตะมะ รบกับสอพินยา ในปี พ.ศ. 2083 ครั้งที่ 2 เมื่อทรงยกทัพไปตีเมืองแปร รบกับกับพระเจ้ามังฆ้อง เมื่อสำเร็จโทษพระเจ้ามังฆ้องแล้ว ก็จึงตั้งตะโดธรรมราชาให้ครองเมืองแปร
สงครามกับอาณาจักรสยาม
ในปี พ.ศ. 2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงกรีฑาทัพใหญ่ หมายจะพิชิตกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในทัพก็มีพระเจ้าแปรตะโดธรรมราชาและเมงเยสีหตูนำทัพมาร่วมด้วย ในสงครามครั้งนั้น พระเจ้าแปรทรงเป็นทัพหน้า เข้าตีทัพของพระมหาธรรมราชา เจ้าเมืองพิษณุโลก แล้วล่าถอยมา ซึ่งมีทัพของพระยาพะสิม และพระอุปราชบุเรงนองซุ่มรออยู่ ทัพเมืองพิษณุโลกต้องกลศึกกระหนาบ ทัพหลวงของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้นำทัพเข้าสมทบตีทัพพระมหาธรรมราชา ขณะนั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดินำทัพหลวงมาสมทบตีโต้ และได้กระทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปร พระองค์ทรงเสียทีพระเจ้าแปร เบี่ยงพระคชาธารหนี สมเด็จพระสุริโยทัย เบี่ยงพระคชาธารเข้ามารับแทน และถูกพระเจ้าแปรฟันด้วยพระแสงของ้าว สิ้นพระชนม์ขาดคอช้าง พระบรมดิลกเข้าสัประยุทธ์กับพระเจ้าแปร ก็ถูกฟันขาดคอช้างเช่นเดียวกัน อย่างไรเสียเหตุการณ์คราวเสียพระสุริโยทัยนี้ไม่ปรากฏพบในพงศาวดารพม่า
หลังจากที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ถอยทัพออกจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทรงขึ้นไปตีหัวเมืองเหนือ พระเจ้าแปร เข้าตีเมืองกำแพงเพชร แต่มิสามารถหักเอาเมืองได้ ฝ่ายอยุธยา นำโดยพระมหาธรรมราชา พระราเมศวร พระมหินทร์ นำทัพไปตามตีทัพหงสาวดี แต่ถูกกลศึกพระอุปราชบุเรงนองปิดล้อม โดยมีทัพพระเจ้าแปร ไพร่พล 1,500 นาย ช้าง 50 เชือก ม้า 300 ตัว เป็นปีกขวา และเมื่อจับกุมทั้งหมดเป็นเชลยศึกได้ ทำให้สถานการณ์ขณะนั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ต้องส่งช้างเผือกไปไถ่พระโอรสและพระชามาดาออกมา
พระเจ้าแปรในฐานะเอกราช
หลังจากสงครามกับสยามเพียงหนึ่งปี วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2093 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ก็ถูกลอบปลงพระชนม์โดยสมิงสอตุด เมื่อพระเจ้าตะโดธรรมราชาทราบข่าว จึงชิงประกาศตัวขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งพุกามประเทศ แทนที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เถลิงพระนามว่า พระเจ้าตะโดตู ประกาศเป็นกษัตริย์เอกราชไม่ขึ้นกับหงสาวดี
เมื่อบุเรงนอง เสร็จศึกจากเมืองทะละ ก็กลับมาปราบกบฏ กู้ราชบัลลังก์ ขึ้นเถลิงราชย์เป็นกษัตริย์ หลังทรงเสด็จไปปราบพระเจ้ามังฆ้อง (สีหตู) ซึ่งเป็นพระอนุชาแล้ว ก็ทรงยกทัพไปปราบเมืองแปร ทัพของพระเจ้าบุเรงนอง ไพร่พล 9,000 นาย ม้า 300 ตัว ช้าง 25 เชือก เข้าปิดล้อมเมืองแปร แต่ทัพเมืองแปรนั้นมีปืนใหญ่และปืนคาบศิลาที่ทรงอานุภาพยากแก่การเข้าตี สุดท้ายในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2094 ก็ทรงถอยทัพออกจากแปร แต่ในไม่ช้า พระองค์ก็ทรงนำทัพใหญ่กว่าครั้งก่อน เข้าปิดล้อมเมืองแปรอีกครั้ง พระเจ้าบุเรงนองทรงระดมไพร่พลเข้าโจมตีเมืองทั้งกลางวันกลางคืนมิได้ขาด วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2094 เวลาเที่ยงคืน การป้องกันภายในเมืองแปรระส่ำระสาย พระเจ้าบุเรงนองทรงบัญชาให้ พระเจ้ามังฆ้อง ทรงพระคชาธารเข้าชนประตูเมืองแปรจนประตูเมืองแตก ทัพหงสาวดีจึงเข้าเมืองแปรได้ พระเจ้าตะโดตู จะทรงเสด็จหนีไปยะไข่ แต่ก็ถูกกุมตัวไว้ได้ พระเจ้าบุเรงนอง จึงสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตะโดตู แม้จะทรงมีพระยศเสมือนพระปิตุลาก็ตามที สิริพระชนมายุ 61 พรรษา แล้วทรงราชาภิเษก นันทยอทา พระอนุชาของพระองค์ เป็นพระเจ้าแปรองค์ใหม่ คือ ตะโดธรรมราชาที่ 2
หมายเหตุ
- พงศาวดาร (Hmannan Vol. 2 2003: 268) บันทึกว่า พระองค์ถูกสำเร็จโทษในแรม 15 ค่ำ เดือน Tawthalin 913 ME (29 สิงหาคม ค.ศ. 1551) เวลาตี 2 เนื่องจากว่าเวลา 2:00 น. ในปฏิทินพม่าหมายถึงเที่ยงคืน ทำให้บันทึกว่าพระองค์ถูกสำเร็จโทษในวันถัดมา
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- พระราชพงศาวดารพม่า, หน้า 123
- พระราชพงศาวดารพม่า, หน้า 136
- Harvey 1925: 159
- Sein Lwin Lay 2006: 100
- Hmannan Vol. 2 2003: 183
- Sein Lwin Lay 2006: 126–127
- Hmannan Vol. 2 2003: 197, 204
- Hmannan Vol. 2 2003: 240–241
- Phayre 1967: 101
- Hmannan Vol. 2 2003: 243–244
- Harvey 1925: 160
- Hmannan Vol. 2 2003: 258
- Phayre 1967: 102–103
- Hmannan Vol. 2 2003: 265–266
- Kala Vol. 2 2006: 202
- Hmannan Vol. 2 2003: 267–268
- Sein Lwin Lay 2006: 262–263
- บรรณานุกรม
- ประชุมพงศาวดารเล่ม 2 (ประชุมพงศาวดารภาค 1 ตอนปลาย และภาค 2). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2506. 336 หน้า. หน้า 39-41.
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. พระราชพงศาวดารพม่า. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2550. 1136 หน้า. หน้า 139-140. ISBN
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
- (1724). (ภาษาพม่า). Vol. 1–3 (2006, 4th printing ed.). Yangon: Ya-Pyei Publishing.
- (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- (1832). (ภาษาพม่า). Vol. 1–3 (2003 ed.). Yangon: Ministry of Information, Myanmar.
- Sein Lwin Lay, Kahtika U (1968). Min Taya Shwe Hti and Bayinnaung: Ketumadi Taungoo Yazawin (ภาษาพม่า) (2006, 2nd printing ed.). Yangon: Yan Aung Sarpay.
ก่อนหน้า | ตะโดธรรมราชาที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้ามังฆ้องแห่งแปร | พระเจ้าแปร (19 พฤษภาคม 2085 - 30 เมษายน พ.ศ. 2093 (ประเทศราช) 30 เมษายน พ.ศ. 2093 – 30 สิงหาคม พ.ศ. 2094 (เอกราช)) | พระเจ้าตะโดธรรมราชาที่ 2 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecataodthrrmrachathi 1 phma သတ ဓမ မရ ဇ xxkesiyng dedo dema jaza pramankhristthswrrs 1490 1551 miphranamedimwa nita thrngerimekharbrachkarinrachsanktxngxutngaet ph s 2059 aelwidrbsthapnaepnphraecaaeprinthanakstriyemuxngxxkkhxngphraecataebngchaewtiphuepnphrachamadarahwang ph s 2085 thung 2093 aetphayhlngphraecataebngchaewtiswrrkhtin ph s 2093 kprakastnepnexkrachrahwang ph s 2093 thung 2094 thrngphranamwa taodtu သတ သ dedo 8u aelaprakasimyxmswamiphkditxphraecabuerngnxngphuthikhunsubrachbllngktxcakphraecataebngchaewti thaihekidkarsurbknkhun hlngkarsurbyawnan 6 eduxnkxngthphkhxngphraecabuerngnxngkocmtiemuxngaepraetkin ph s 2094 aelaphraecataodthrrmrachathi 1 kthuksaercothstamphrarachoxngkarkhxngphraecabuerngnxngphraecataodthrrmracha သတ ဓမ မရ ဇ taodtuphraecaaeprkhrxngrachy30 emsayn ph s 2093 30 singhakhm ph s 2094 kstriy 19 phvsphakhm ph s 2085 30 emsayn ph s 2093 xuprach kxnhnamngkhxngthdiptaodthrrmrachathi 2prasutiraw ph s 2033 txngxuswrrkht30 singhakhm ph s 2094 61 phrrsa wnxathity aerm 1 kha eduxn Thadingyut 913 ME aeprphrarachbutrphranangkhinemiyaphrarachbidaecaemuxngectoybinsasnaphuththethrwathbthkhwamnimixksrphma hakxupkrnkhxngkhunimsamarthernedxrxksrniid khunxacehnekhruxnghmaykhatham xksrphiess klxng hruxsylksnxun aethnthixksrphma inphrarachphngsawdarkhxngithyphraecataodthrrmrachathi 1 hruxphraecaaeprmibthbathsakhyinthanaaemthphphufnphrasurioythyswrrkhtrahwangkrathayuththhtthiinsngkhramphraecataebngchewtitnphrachnmphraecataodthrrmrachathi 1 inxditepnsamychnnamwa chinnita ရ င န တ phxkhxngphraxngkh khux ecaemuxngectoybin ineduxnemsayn ph s 2059 ekhaidrbeluxkihepnhnunginecdxamaty khxngecachaytaebngchaewtiaehngtxngxu ekhaaelakhrxbkhrwkhxngekhayayekhamaxyuinekhtphrarachwngtxngxu phrxmxamatykhnxun echn emngcisew epntn ecachaytaebngchaewtithrngmikhwamrkaelasabsungtxxamatykhxngphraxngkhxyangluksung emuxphraxngkhkhunepnethlingrachykhunepnkstriy ineduxnphvscikayn ph s 2073 yuwkstriyxayu 14 piidmxbrangwlaelaphrarachthantaaehnngxnthrngekiyrtiihaekxamatykhxngphraxngkh phraecataebngchaewtithrngrbphrashayinwyedkkhxngphraxngkhsxngkhn khux khinopnos luksawkhxngemngcisew aela khinemiya luksawkhxngnita khunepnphramehsikhxngphraxngkh aelathaihthngsxngiddarngtaaehnnginrachwngsthana phrasssurakhxngphraecataebngchaewti emngcisew khundarngtaaehnngemngeysihtu pkkhrxngemuxngtxngxu swnnita iddarngtaaehnng taodthrrmracha khrxngemuxngaeprphraecaaeprinthanapraethsrachesnthangkarkhunkhrxngrachy hlngkarlmslaykhxngxanackrphukam phraecataebngchaewtithrngprarthnacakhyayphrarachxanac aehngxanackrtxngxuihaephiphsal thrngerimprakassngkhramephuxrwbrwmxanackr odythrngmiemngeysihtuaelataodthrrmrachaepnthipruksainrachkarthngkarpkkhrxngaelakarsuksngkhram aetthngsxngnnkmiidechiywchayyuththwithink cungmkidrboprdeklaihsaercrachkaraethnphraxngkhemuxthrngkrithathphipthasuk phraxngkhekhysaercrachkarkrunghngsawdiaethnphraecataebngchaewti 2 khrng khrngaerk emuxphraecataebngchaewtiiptiemuxngemaatama rbkbsxphinya inpi ph s 2083 khrngthi 2 emuxthrngykthphiptiemuxngaepr rbkbkbphraecamngkhxng emuxsaercothsphraecamngkhxngaelw kcungtngtaodthrrmrachaihkhrxngemuxngaepr sngkhramkbxanackrsyam smedcphrasurioythy klang yuththhtthikbphraecaaeprtaodthrrmracha say pxngknsmedcphramhackrphrrdi khwa inpi ph s 2091 phraecataebngchaewtithrngkrithathphihy hmaycaphichitkrungsrixyuthya sunginthphkmiphraecaaeprtaodthrrmrachaaelaemngeysihtunathphmarwmdwy insngkhramkhrngnn phraecaaeprthrngepnthphhna ekhatithphkhxngphramhathrrmracha ecaemuxngphisnuolk aelwlathxyma sungmithphkhxngphrayaphasim aelaphraxuprachbuerngnxngsumrxxyu thphemuxngphisnuolktxngklsukkrahnab thphhlwngkhxngphraecataebngchaewtinathphekhasmthbtithphphramhathrrmracha khnann smedcphramhackrphrrdinathphhlwngmasmthbtiot aelaidkrathayuththhtthikbphraecaaepr phraxngkhthrngesiythiphraecaaepr ebiyngphrakhchatharhni smedcphrasurioythy ebiyngphrakhchatharekhamarbaethn aelathukphraecaaeprfndwyphraaesngkhxngaw sinphrachnmkhadkhxchang phrabrmdilkekhasprayuththkbphraecaaepr kthukfnkhadkhxchangechnediywkn xyangiresiyehtukarnkhrawesiyphrasurioythyniimpraktphbinphngsawdarphma hlngcakthiphraecataebngchaewtithxythphxxkcakkrungsrixyuthyaaelw thrngkhuniptihwemuxngehnux phraecaaepr ekhatiemuxngkaaephngephchr aetmisamarthhkexaemuxngid fayxyuthya naodyphramhathrrmracha phraraemswr phramhinthr nathphiptamtithphhngsawdi aetthukklsukphraxuprachbuerngnxngpidlxm odymithphphraecaaepr iphrphl 1 500 nay chang 50 echuxk ma 300 tw epnpikkhwa aelaemuxcbkumthnghmdepnechlysukid thaihsthankarnkhnann smedcphramhackrphrrdi txngsngchangephuxkipithphraoxrsaelaphrachamadaxxkmaphraecaaeprinthanaexkrachhlngcaksngkhramkbsyamephiynghnungpi wnthi 30 emsayn ph s 2093 phraecataebngchaewtikthuklxbplngphrachnmodysmingsxtud emuxphraecataodthrrmrachathrabkhaw cungchingprakastwkhunepnkstriyaehngphukampraeths aethnthiphraecataebngchaewti ethlingphranamwa phraecataodtu prakasepnkstriyexkrachimkhunkbhngsawdi emuxbuerngnxng esrcsukcakemuxngthala kklbmaprabkbt kurachbllngk khunethlingrachyepnkstriy hlngthrngesdcipprabphraecamngkhxng sihtu sungepnphraxnuchaaelw kthrngykthphipprabemuxngaepr thphkhxngphraecabuerngnxng iphrphl 9 000 nay ma 300 tw chang 25 echuxk ekhapidlxmemuxngaepr aetthphemuxngaeprnnmipunihyaelapunkhabsilathithrngxanuphaphyakaekkarekhati sudthayinwnthi 19 mithunayn ph s 2094 kthrngthxythphxxkcakaepr aetinimcha phraxngkhkthrngnathphihykwakhrngkxn ekhapidlxmemuxngaeprxikkhrng phraecabuerngnxngthrngradmiphrphlekhaocmtiemuxngthngklangwnklangkhunmiidkhad wnthi 29 singhakhm ph s 2094 ewlaethiyngkhun karpxngknphayinemuxngaeprrasarasay phraecabuerngnxngthrngbychaih phraecamngkhxng thrngphrakhchatharekhachnpratuemuxngaeprcnpratuemuxngaetk thphhngsawdicungekhaemuxngaeprid phraecataodtu cathrngesdchniipyaikh aetkthukkumtwiwid phraecabuerngnxng cungsngsaercothsphraecataodtu aemcathrngmiphraysesmuxnphrapitulaktamthi siriphrachnmayu 61 phrrsa aelwthrngrachaphiesk nnthyxtha phraxnuchakhxngphraxngkh epnphraecaaeprxngkhihm khux taodthrrmrachathi 2hmayehtuphngsawdar Hmannan Vol 2 2003 268 bnthukwa phraxngkhthuksaercothsinaerm 15 kha eduxn Tawthalin 913 ME 29 singhakhm kh s 1551 ewlati 2 enuxngcakwaewla 2 00 n inptithinphmahmaythungethiyngkhun thaihbnthukwaphraxngkhthuksaercothsinwnthdmaxangxingechingxrrthphrarachphngsawdarphma hna 123 phrarachphngsawdarphma hna 136 Harvey 1925 159 Sein Lwin Lay 2006 100 Hmannan Vol 2 2003 183 Sein Lwin Lay 2006 126 127 Hmannan Vol 2 2003 197 204 Hmannan Vol 2 2003 240 241 Phayre 1967 101 Hmannan Vol 2 2003 243 244 Harvey 1925 160 Hmannan Vol 2 2003 258 Phayre 1967 102 103 Hmannan Vol 2 2003 265 266 Kala Vol 2 2006 202 Hmannan Vol 2 2003 267 268 Sein Lwin Lay 2006 262 263 brrnanukrmprachumphngsawdarelm 2 prachumphngsawdarphakh 1 txnplay aelaphakh 2 krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2506 336 hna hna 39 41 phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs phrarachphngsawdarphma nnthburi sripyya 2550 1136 hna hna 139 140 ISBN 978 974 7088 10 6 Harvey G E 1925 History of Burma From the Earliest Times to 10 March 1824 London Frank Cass amp Co Ltd 1724 phasaphma Vol 1 3 2006 4th printing ed Yangon Ya Pyei Publishing 1883 History of Burma 1967 ed London Susil Gupta 1832 phasaphma Vol 1 3 2003 ed Yangon Ministry of Information Myanmar Sein Lwin Lay Kahtika U 1968 Min Taya Shwe Hti and Bayinnaung Ketumadi Taungoo Yazawin phasaphma 2006 2nd printing ed Yangon Yan Aung Sarpay kxnhna taodthrrmrachathi 1 thdipphraecamngkhxngaehngaepr phraecaaepr 19 phvsphakhm 2085 30 emsayn ph s 2093 praethsrach 30 emsayn ph s 2093 30 singhakhm ph s 2094 exkrach phraecataodthrrmrachathi 2