ดักมาร์ (เช็ก: Dagmar) หรือ มาร์แกตา (Markéta; ราว ค.ศ. 1186 – 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1212 เมือง) ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก จากการอภิเษกสมรสกับพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก โดยทรงเป็นพระมเหสีพระองค์แรก พระนางเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าปแชมิเซิล โอตาการ์ที่ 1 แห่งโบฮีเมีย ที่ประสูติแต่พระมเหสีองค์แรกคือ
ดักมาร์แห่งโบฮีเมีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก | |||||
ดักมาร์แห่งโบฮีเมีย สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก บนภาพศิลปะเฟรสโก ที่, , เดนมาร์ก | |||||
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 1205 – 24 พฤษภาคม 1212 | ||||
ก่อนหน้า | เกอร์ทรูดแห่งบาวาเรีย | ||||
ถัดไป | บึเร็งการียาแห่งโปรตุเกส | ||||
ประสูติ | ราวค.ศ. 1186 ไมเซิน | ||||
สวรรคต | 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1212 | (26 ปี)||||
ฝังพระศพ | เดนมาร์ก | ||||
คู่อภิเษก | พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชบุตร | ยุวกษัตริย์วัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | |||||
พระราชบิดา | พระเจ้าปแชมิเซิล โอตาการ์ที่ 1 แห่งโบฮีเมีย | ||||
พระราชมารดา | |||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
ช่วงต้นพระชนมชีพ
พระราชบิดาของเจ้าหญิงมาร์แกตา คือ ปแชมิเซิล โอตาการ์ที่ 1 ทรงเป็นดยุกแห่งโบฮีเมียใน ค.ศ. 1192 แต่ใน ค.ศ. 1193 ทรงถูกปลดจากตำแหน่งจากภัยทางการเมืองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ พระองค์และราชวงศ์ได้ออกจากโบฮีเมีย พระชายาของพระองค์คือ และพระโอรสธิดาได้ไปประทับที่ราชสำนักของพระเชษฐาในพระนางอาเดิลไฮท์ คือ ปแชมิเซิล โอตาการ์ทรงกลายเป็นทหารรับจ้างของจักรพรรดิเยอรมัน ใน ค.ศ. 1197 ปแชมิเซิล โอตาการ์ได้รับตำแหน่งดยุกแห่งโบฮีเมียเป็นครั้งที่สอง และได้ขึ้นเป็นกษัตริย์โบฮีเมียใน ค.ศ. 1198 กษัตริย์ปแชมิเซิล โอตาการ์ที่ 1 ทรงละทิ้งพระราชินีอาเดิลไฮท์ด้วยการหย่าร้างใน ค.ศ. 1199 จาก และหลังจากนั้นหนึ่งปีทรงอภิเษกสมรสใหม่กับ กระบวนการนี้มีส่วนช่วยให้พระองค์ยกระดับตำแหน่งจากดยุกมาเป็นพระมหากษัตริย์ตาม
อดีตพระราชินีอาเดิลไฮท์ไม่ทรงสละสิทธิ์ของพระนาง ใน ค.ศ. 1205 พระนางเสด็จกลับไปยังปรากชั่วคราว ในช่วงนั้นกษัตริย์ปแชมิเซิล โอตาการ์ ทรงให้เจ้าหญิงมาร์แกตา พระราชธิดาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก พระมเหสีองค์ใหม่ของพระองค์คือ พระราชินีโกนช์ต็อนซิยอมีประสูติกาลพระโอรสซึ่งต่อมาคือ พระเจ้าวาตส์ลัฟที่ 1 แห่งโบฮีเมียในปีเดียวกัน อดีตพระราชินีอาเดิลไฮท์เสด็จออกจากโบฮีเมีย และสิ้นพระชนม์ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
สมเด็จพระราชินี
ก่อนการอภิเษกสมรสครั้งแรก กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงอภิเษกสมรสกับรีเชซาแห่งบาวาเรีย ธิดาในดยุกแห่งแซกโซนี เมื่อการแต่งงานไม่เกิดขึ้น พระองค์ได้อภิเษกสมรสครั้งแรกกับเจ้าหญิงมาร์แกตาแห่งโบฮีเมีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "ดักมาร์" ใน ค.ศ. 1205 ที่เมืองลือเบ็ค ตามบันทึก (รีดาบอเก็น; Rydårbogen) บันทึกว่าใน ค.ศ. 1206 สมเด็จพระราชินีดักมาร์มีอิทธิพลเหนือกษัตริย์วัลเดมาร์ให้ปล่อยตัวศัตรูคู่อาฆาตของพระองค์คือ บิชอปวัลเดมาร์แห่งชเลสวิช ซึ่งถูกคุมขังมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1193
ใน ค.ศ. 1209 สมเด็จพระราชินีดักมาร์มีพระประสูติกาล เจ้าชายวัลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก (ราว ค.ศ. 1209–1231) สมเด็จพระราชินีดักมาร์สิ้นพระชนม์ขณะมีพระประสูติกาลพระโอรสองค์ที่สอง ซึ่งไม่รอดพระชนม์เช่นกัน กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงแต่งตั้งให้พระโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์ร่วมเป็นที่รู้จักในนาม ยุวกษัตริย์วัลเดมาร์ ณ เมืองชเลสวิกใน ค.ศ. 1218 แต่ยุวกษัตริย์วัลเดมาร์กลับทรงประสบอุบัติเหตุต้องลูกธนูขณะเสด็จออกล่าสัตว์ที่เรฟสนีส์ในภาคเหนือของจัตแลนด์ ปีค.ศ. 1231
ไม่ค่อยมีใครทราบถึงเรื่องราวของสมเด็จพระราชินีดักมาร์ในฐานะบุคคลจริง เนื่องจากภาพลักษณ์ของพระนางมักปรากฏตามคติชนพื้นบ้าน นิทานโบราณและตำนาน ที่แสดงภาพลักษณ์พระนางในฐานะพระราชินีชาวคริสต์ในอุดมคติ ผู้อ่อนโยน มีขันติธรรมและเป็นที่เคารพรักไปทั่ว ตรงกันข้ามกับพระราชินีองค์ต่อมาอย่าง พระราชินีบึเร็งการียา เพลงบัลลาดเก่าแก่มีเนื้อความว่า พระนางดักมาร์ขอร้องให้กษัตริย์อภิเษกสมรสกับเคิร์ชเทน บุตรีของคาร์ล ฟอน รีซ และไม่ให้เสกสมรสกับ "ดอกไม้งาม" อย่างบึเร็งการียาแห่งโปรตุเกส (เบ็นเกิร์ด) เพราะพระนางทรงทำนายว่าเหล่าโอรสที่เกิดกับบาเรนกาเรียแห่งโปรตุเกสจะต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กัน
หลังการสิ้นพระชนม์ของพระราชินีดักมาร์ มีความพยายามผูกสัมพันธ์กับฟลานเดอส์ (ดินแดนที่มีความสำคัญทางการค้าและมีพรมแดนติดกับศัตรูเดนมาร์กทางตะวันตก) กษัตริย์วัลเดมาร์จึงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงบึเร็งการียาใน ค.ศ. 1214 พระศพของสมเด็จพระราชินีดักมาร์ถูกฝังที่ใน เคียงข้างกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 และมีพระศพของพระราชินีบึเร็งการียาอยู่อีกข้างหนึ่งของพระบรมศพกษัตริย์
พระโอรส
ทรงมีพระโอรสดังนี้
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
วัลเดมาร์ยุวกษัตริย์ | ค.ศ. 1209 | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1231 | อภิเษกสมรส 24 มิถุนายน ค.ศ. 1229 กับ ลียูโนร์แห่งโปรตุเกส ไม่มีพระโอรสธิดา | |
- | พระโอรสตายคลอด | ค.ศ. 1212 | ค.ศ. 1212 | สิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ |
กางเขนดักมาร์
เป็นที่รู้จำในนามว่า "กางเขนดักมาร์" (ดักมาร์คอร์เซ็ท;Dagmarkorset) ซึ่งวางอยู่บนพระทรวงของพระศพพระราชินีดักมาร์ซึ่งมีการเปิดโลงพระศพใน ค.ศ. 1683 ใน ค.ศ. 1695 กางเขนได้ถูกบริจาคแก่ อัญมณีมีการเจียระไนตามศิลปะไบแซนไทน์และวัสดุทำจากทองคำ มี ด้านหนึ่งเป็นไม้กางเขนส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นภาพพระเยซูอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยนักบุญ นักบุญจอห์น คริสซอสตอม พระแม่มารีย์ และนักบุญยอห์นอัครทูต ใน ค.ศ. 1863 พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์กได้บริจาครูปจำลองของกางเขนให้แก่เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก พระธิดาในเจ้าชายคริสเตียนแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เซินเนอร์บอร์-กลึคส์บวร์ค ซึ่งต่อมาคือ พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก ในคราวที่เจ้าหญิงได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร
ในยุคสมัยใหม่ กางเขนดักมาร์จะถูกสวมใส่โดย "เด็กหญิงชาวเดนมาร์กเพื่อยืนยันการนับถือคริสตจักรนิกายลูเธอรันและจะถูกมอบให้แก่เด็กๆ ในฐานะของขวัญบัพติศมาด้วย" ในนิกายลูเธอรันของ "กางเขนจะถูกส่งต่อสืบทอดไปยังบิชอปคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกับตุ้มปี่และโครเซียร์"
ภาพ
- พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระราชินีดักมาร์ โดยนักปฏิมากร แอนน์ มารี คาร์ล-นีลส์เซน ที่รีเบอฮัส
- อนุสรณ์สถานสมเด็จพระราชินีดักมาร์ที่มันโด จัตแลนด์
- สถานที่ฝังพระศพ, , เดนมาร์ก
- แผ่นโลหะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีดักมาร์ที่ริงสเต็ด
- ภาพนูนแกะสลักของแอนน์ มารี คาร์ล-นีลส์เซน ที่บรรยายการสิ้นพระชนม์ของพระราชินีดักมาร์ตามการตีความในเพลงพื้นบ้านเดนมาร์ก ที่รีเบอฮัส
อ้างอิง
- "Dronning Dagmar". historie-online.dk. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- Earenfight 2013, p. 175.
- Anders Leegaard Knudsen (13 July 2012). . University of Bergen. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-06. สืบค้นเมื่อ September 1, 2018.
- "Waldemar (Bischof von Schleswig)". Allgemeine Deutsche Biographie. สืบค้นเมื่อ September 1, 2018.
- "Valdemar den Unge, dansk Konge, Søn af Valdemar Sejr og Dagmar". Salmonsens konversationsleksikon. สืบค้นเมื่อ September 1, 2018.
- Sommerville, Maxwell (1894). The Encyclopædia Britannica, Volume 6. p. 542.
- "Dagmarkorset". Danmarks Historien. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Dagmarkorset". Nationalmuseet. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- "Queen Alexandra of Great Britain- Queen Victoria's Daughter-in-Law, Bertie's Patient Wife, and Her Own Person". windowstoworldhistory. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- Hämmerli, Maria; Mayer, Jean-François (23 May 2016). Orthodox Identities in Western Europe: Migration, Settlement and Innovation (ภาษาอังกฤษ). Routledge. p. 223. ISBN .
Today the Dagmar cross is worn by Danish girls for their into the Lutheran Church, and is also given to children as a baptismal gift.
- Chisholm, Hugh (1922). Encyclopedia Britannica: A Dictionary of Arts, Sciences, Literature and General Information (ภาษาอังกฤษ). University Press. p. 509.
- Earenfight, Theresa (2013). Queenship in Medieval Europe. Palgrave Macmillan. ISBN .
{{}}
:|ref=harv
ไม่ถูกต้อง ((help))
ก่อนหน้า | ดักมาร์แห่งโบฮีเมีย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เกอร์ทรูดแห่งบาวาเรีย | สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก () (ค.ศ. 1205–1212) | บึเร็งการียาแห่งโปรตุเกส |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dkmar echk Dagmar hrux maraekta Marketa raw kh s 1186 24 phvsphakhm kh s 1212 emuxng thrngepnsmedcphrarachiniaehngednmark cakkarxphiesksmrskbphraecawledmarthi 2 aehngednmark odythrngepnphramehsiphraxngkhaerk phranangepnphrarachthidainphraecapaechmiesil oxtakarthi 1 aehngobhiemiy thiprasutiaetphramehsixngkhaerkkhuxdkmaraehngobhiemiysmedcphrarachiniaehngednmarkdkmaraehngobhiemiy smedcphrarachiniaehngednmark bnphaphsilpaefrsok thi ednmarksmedcphrarachiniaehngednmarkkhrxngrachy1205 24 phvsphakhm 1212kxnhnaekxrthrudaehngbawaeriythdipbuerngkariyaaehngoprtueksprasutirawkh s 1186 imesinswrrkht24 phvsphakhm kh s 1212 1212 05 24 26 pi fngphrasphednmarkkhuxphieskphraecawledmarthi 2 aehngednmarkphrarachbutryuwkstriywledmaraehngednmarkphranametmmaraekta paechmiesilrachwngsphrarachbidaphraecapaechmiesil oxtakarthi 1 aehngobhiemiyphrarachmardasasnaormnkhathxlikchwngtnphrachnmchiphphrarachbidakhxngecahyingmaraekta khux paechmiesil oxtakarthi 1 thrngepndyukaehngobhiemiyin kh s 1192 aetin kh s 1193 thrngthukpldcaktaaehnngcakphythangkaremuxngkhxngckrwrrdiormnxnskdisiththi phraxngkhaelarachwngsidxxkcakobhiemiy phrachayakhxngphraxngkhkhux aelaphraoxrsthidaidipprathbthirachsankkhxngphraechsthainphranangxaedilihth khux paechmiesil oxtakarthrngklayepnthharrbcangkhxngckrphrrdieyxrmn in kh s 1197 paechmiesil oxtakaridrbtaaehnngdyukaehngobhiemiyepnkhrngthisxng aelaidkhunepnkstriyobhiemiyin kh s 1198 kstriypaechmiesil oxtakarthi 1 thrnglathingphrarachinixaedilihthdwykarhyarangin kh s 1199 cak aelahlngcaknnhnungpithrngxphiesksmrsihmkb krabwnkarnimiswnchwyihphraxngkhykradbtaaehnngcakdyukmaepnphramhakstriytam xditphrarachinixaedilihthimthrngslasiththikhxngphranang in kh s 1205 phranangesdcklbipyngprakchwkhraw inchwngnnkstriypaechmiesil oxtakar thrngihecahyingmaraekta phrarachthidaxphiesksmrskbphraecawledmarthi 2 aehngednmark phramehsixngkhihmkhxngphraxngkhkhux phrarachinioknchtxnsiyxmiprasutikalphraoxrssungtxmakhux phraecawatslfthi 1 aehngobhiemiyinpiediywkn xditphrarachinixaedilihthesdcxxkcakobhiemiy aelasinphrachnminewlaimnanhlngcaknnsmedcphrarachinikxnkarxphiesksmrskhrngaerk kstriywledmarthi 2 thrngxphiesksmrskbriechsaaehngbawaeriy thidaindyukaehngaeskosni emuxkaraetngnganimekidkhun phraxngkhidxphiesksmrskhrngaerkkbecahyingmaraektaaehngobhiemiy sungepnthiruckinnam dkmar in kh s 1205 thiemuxngluxebkh tambnthuk ridabxekn Rydarbogen bnthukwain kh s 1206 smedcphrarachinidkmarmixiththiphlehnuxkstriywledmarihplxytwstrukhuxakhatkhxngphraxngkhkhux bichxpwledmaraehngchelswich sungthukkhumkhngmatngaetpikh s 1193 in kh s 1209 smedcphrarachinidkmarmiphraprasutikal ecachaywledmaraehngednmark raw kh s 1209 1231 smedcphrarachinidkmarsinphrachnmkhnamiphraprasutikalphraoxrsxngkhthisxng sungimrxdphrachnmechnkn kstriywledmarthi 2 thrngaetngtngihphraoxrskhunepnkstriyrwmepnthiruckinnam yuwkstriywledmar n emuxngchelswikin kh s 1218 aetyuwkstriywledmarklbthrngprasbxubtiehtutxnglukthnukhnaesdcxxklastwthierfsnisinphakhehnuxkhxngctaelnd pikh s 1231 imkhxymiikhrthrabthungeruxngrawkhxngsmedcphrarachinidkmarinthanabukhkhlcring enuxngcakphaphlksnkhxngphranangmkprakttamkhtichnphunban nithanobranaelatanan thiaesdngphaphlksnphrananginthanaphrarachinichawkhristinxudmkhti phuxxnoyn mikhntithrrmaelaepnthiekharphrkipthw trngknkhamkbphrarachinixngkhtxmaxyang phrarachinibuerngkariya ephlngblladekaaekmienuxkhwamwa phranangdkmarkhxrxngihkstriyxphiesksmrskbekhirchethn butrikhxngkharl fxn ris aelaimihesksmrskb dxkimngam xyangbuerngkariyaaehngoprtueks ebnekird ephraaphranangthrngthanaywaehlaoxrsthiekidkbbaernkaeriyaehngoprtuekscatxsuaeyngchingbllngkkn hlngkarsinphrachnmkhxngphrarachinidkmar mikhwamphyayamphuksmphnthkbflanedxs dinaednthimikhwamsakhythangkarkhaaelamiphrmaedntidkbstruednmarkthangtawntk kstriywledmarcungxphiesksmrskbecahyingbuerngkariyain kh s 1214 phrasphkhxngsmedcphrarachinidkmarthukfngthiin ekhiyngkhangkstriywledmarthi 2 aelamiphrasphkhxngphrarachinibuerngkariyaxyuxikkhanghnungkhxngphrabrmsphkstriy phraoxrs thrngmiphraoxrsdngni phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thidawledmaryuwkstriy kh s 1209 28 phvscikayn kh s 1231 xphiesksmrs 24 mithunayn kh s 1229 kb liyuonraehngoprtueks immiphraoxrsthida phraoxrstaykhlxd kh s 1212 kh s 1212 sinphrachnmemuxprasutikangekhndkmarkangekhndkmarkangekhndkmarxikdanhnung epnthirucainnamwa kangekhndkmar dkmarkhxresth Dagmarkorset sungwangxyubnphrathrwngkhxngphrasphphrarachinidkmarsungmikarepidolngphrasphin kh s 1683 in kh s 1695 kangekhnidthukbricakhaek xymnimikareciyraintamsilpaibaesnithnaelawsduthacakthxngkha mi danhnungepnimkangekhnswnxikdanhnungepnphaphphraeysuxyutrngklang lxmrxbdwynkbuy nkbuycxhn khrissxstxm phraaemmariy aelankbuyyxhnxkhrthut in kh s 1863 phraecaefredxrikthi 7 aehngednmarkidbricakhrupcalxngkhxngkangekhnihaekecahyingxelksandraaehngednmark phrathidainecachaykhrisetiynaehngchelswich hxlchitn esinenxrbxr klukhsbwrkh sungtxmakhux phraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark inkhrawthiecahyingidxphiesksmrskbecachayaehngewls sungtxmakhux smedcphraecaexdewirdthi 7 aehngshrachxanackr inyukhsmyihm kangekhndkmarcathukswmisody edkhyingchawednmarkephuxyunynkarnbthuxkhristckrnikayluethxrnaelacathukmxbihaekedk inthanakhxngkhwybphtismadwy innikayluethxrnkhxng kangekhncathuksngtxsubthxdipyngbichxpkhnihmthiidrbkaraetngtngekharbtaaehnng phrxmkbtumpiaelaokhresiyr phaphphrarachanusawriysmedcphrarachinidkmar odynkptimakr aexnn mari kharl nilsesn thiriebxhs xnusrnsthansmedcphrarachinidkmarthimnod ctaelnd sthanthifngphrasph ednmark aephnolhaechlimphraekiyrtismedcphrarachinidkmarthiringsetd phaphnunaekaslkkhxngaexnn mari kharl nilsesn thibrryaykarsinphrachnmkhxngphrarachinidkmartamkartikhwaminephlngphunbanednmark thiriebxhsxangxing Dronning Dagmar historie online dk subkhnemux August 1 2018 Earenfight 2013 p 175 Anders Leegaard Knudsen 13 July 2012 University of Bergen khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 06 06 subkhnemux September 1 2018 Waldemar Bischof von Schleswig Allgemeine Deutsche Biographie subkhnemux September 1 2018 Valdemar den Unge dansk Konge Son af Valdemar Sejr og Dagmar Salmonsens konversationsleksikon subkhnemux September 1 2018 Sommerville Maxwell 1894 The Encyclopaedia Britannica Volume 6 p 542 Dagmarkorset Danmarks Historien subkhnemux August 1 2018 Dagmarkorset Nationalmuseet subkhnemux August 1 2018 Queen Alexandra of Great Britain Queen Victoria s Daughter in Law Bertie s Patient Wife and Her Own Person windowstoworldhistory subkhnemux August 1 2018 Hammerli Maria Mayer Jean Francois 23 May 2016 Orthodox Identities in Western Europe Migration Settlement and Innovation phasaxngkvs Routledge p 223 ISBN 9781317084914 Today the Dagmar cross is worn by Danish girls for their into the Lutheran Church and is also given to children as a baptismal gift Chisholm Hugh 1922 Encyclopedia Britannica A Dictionary of Arts Sciences Literature and General Information phasaxngkvs University Press p 509 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb dkmaraehngobhiemiy Earenfight Theresa 2013 Queenship in Medieval Europe Palgrave Macmillan ISBN 978 1137303929 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a ref harv imthuktxng help kxnhna dkmaraehngobhiemiy thdipekxrthrudaehngbawaeriy smedcphrarachiniaehngednmark kh s 1205 1212 buerngkariyaaehngoprtueks