พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก (9 เมษายน ค.ศ. 1170 - 28 มีนาคม ค.ศ. 1241) มักทรงถูกเรียกว่า วัลเดมาร์ผู้ชนะ หรือ วัลเดมาร์ผู้พิชิต (Valdemar Sejr) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ตั้งแต่ค.ศ. 1202 จนกระทั่งสวรรคตในปีค.ศ. 1241 พระนามลำลองว่า "Sejr" (เซิร์จ) เป็นพระนามที่ถูกเรียกในภายหลังจากพระองค์สวรรคตไปแล้ว ซึ่ง Sejr ในภาษาเดนมาร์แปลว่า "ชัยชนะ"
พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
พระบรมสาทิสลักษณ์พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์กและชาวเวนด์ | |||||
ครองราชย์ | 1202 – 1241 | ||||
ก่อนหน้า | คนุดที่ 6 | ||||
ถัดไป | อีริคที่ 4 | ||||
พระมหากษัตริย์พระองค์น้อย | วัลเดมาร์ยุวกษัตริย์ 1218-1231 อีริคที่ 4 1231-1241 | ||||
พระราชสมภพ | 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1170 , คาบสมุทรจัตแลนด์, เดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 28 มีนาคม ค.ศ. 1241 , , เดนมาร์ก | (70 ปี)||||
ฝังพระศพ | , , เดนมาร์ก | ||||
คู่อภิเษก | ดักมาร์แห่งโบฮีเมีย เบเรนกาเรียแห่งโปรตุเกส | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | |||||
พระราชบิดา | พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | เจ้าหญิงโซเฟียแห่งมินสก์ | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
ภูมิหลัง
พระองค์เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองในพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์กและโซเฟียแห่งมินสก์ ซึ่งเป็นพระธิดาในและ เมื่อพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 พระราชบิดาสวรรคต เจ้าชายวัลเดมาร์ทรงมีพระชนมายุเพียง 12 พรรษา พระองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นดยุกแห่ง (ละติน: dux slesvicensis, ซึ่งก็คือ ดยุกแห่งดัชชีชเลสวิช) โดยมีผู้สำเร็จราชการแทนองค์ดยุกคือ บิชอปวัลเดมาร์แห่งชเลสวิช โอรสนอกสมรสของพระเจ้าคนุตที่ 5 แห่งเดนมาร์ก
บิชอปวัลเดมาร์เป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยานและทรงซ่อนเร้นความทะเยอทะยานโดยแสร้งกระทำการในฐานะดยุกวัลเดมาร์วัยเยาว์ เมื่อบิชอปวัลเดมาร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นในปีค.ศ. 1192 เขาวางแผนจะโค่นราชบัลลังก์ของพระเจ้าคนุดที่ 6 แห่งเดนมาร์ก (พระเชษฐาของดยุกวัลเดมาร์) ด้วยความช่วยเหลือของขุนนางเยอรมัน เพื่อให้เขาเองขึ้นนั่งบัลลังก์เดนมาร์ก แต่แผนการถูกเปิดโปง
ดยุกวัลเดมาร์ทรงตระหนักถึงภัยอันตรายที่บิชอปวัลเดมาร์กระทำในนามพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงเชิญอาร์กบิชอปมาเข้าเฝ้าที่เมือง ในปีค.ศ. 1192 แต่บิชอปได้หลบหนีไปยังนอร์เวย์เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม บิชอปวัลเดมาร์ได้จัดตั้งกองทัพและได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟิน ด้วยเรือ 35 ลำ และเข้าจู่โจมชายฝั่งเดนมาร์ก เพื่อทวงสิทธิในราชบัลลังก์เดนมาร์ก โดยในฐานะพระโอรสของพระเจ้าคนุดที่ 5 ในปีค.ศ. 1193 ฝ่ายเดนมาร์กชนะ พระเจ้าคนุดที่ 6 สามารถจับกุมเขาได้ บิชอปวัลเดมาร์ถูกคุมขังใน ช่วงปีค.ศ. 1193-1198 และจากนั้นย้ายไปที่หอคอยของบนเกาะเชลลันด์ จนถึงค.ศ. 1206 ภายหลังเขาถูกปล่อยตัวจากคำขอร้องของดักมาร์แห่งโบฮีเมีย (พระชายาในดยุกวัลเดมาร์) และ หลังจากเขาสาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของเดนมาร์กอีก
ดยุกวัลเดมาร์ทรงเผชิญภัยคุกคามจาก เคานท์คนนี้พยายามกระตุ้นให้เคานท์ชาวเยอรมันคนอื่นๆยึดครองจัตแลนด์ใต้จากเดนมาร์ก เพื่อช่วยเหลือแผนการของบิชอปวัลเดมาร์ในการยึดราชบัลลังก์เดนมาร์ก บิชอปวัลเดมาร์จึงถูกจับคุมขังอีกครั้ง ดยุกวัลเดมาร์จึงพยายามจัดการกับเคานท์อดอล์ฟ ด้วยกองทัพของพระองค์ พระองค์เคลื่อนพลไปทางใต้และยึดป้อมทหารของอดอล์ฟที่ พระองค์ได้รับชัยชนะและจับกุมเคานท์อดอล์ฟได้ใน ในปีค.ศ. 1201 และขังคุกเขาข้างคุกของบิชอปวัลเดมาร์ เขาป่วยในสองปีต่อมา จึงพยายามหาทางออกจากคุกโดยยกดินแดนดัชชีชเลสวิชทางตอนเหนือของแม่น้ำเอ็ลเบอให้แก่ดยุกวัลเดมาร์ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1202 พระเชษฐาของดยุกวัลเดมาร์ พระเจ้าคนุดที่ 6 สวรรคตอย่างไม่คาดคิดด้วยพระชนมายุ 40 พรรษา โดยไร้ทายาท
รัชกาล
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | Hans Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
ดยุกวัลเดมาร์ได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์โดยสภาจัตแลนด์ ในช่วงนั้นเพื่อนบ้านอย่างจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมือง ระหว่างผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์สองคน คือ จักรพรรดิอ็อทโทที่ 4 จากตระกูลเวล์ฟ และกษัตริย์จากราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟิน กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 นั้นเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิอ็อทโทและต่อต้านฟิลิป
ในปีค.ศ. 1203 กษัตริย์วัลเดมาร์ยกทัพยึดครองและ ให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก ในปีค.ศ. 1204 พระองค์พยายามเข้าไปมีอิทธิพลในโดยการส่งกองทัพเรือและกองทัพบกไปยังในนอร์เวย์เพื่อสนับสนุน ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์นอร์เวย์ ทำให้เกิดสงครามครั้งที่สองซึ่งจะสิ้นสุดในปีค.ศ. 1208 แต่ปัญหาการสืบราชบัลลังก์นอร์เวย์ได้ยุติลงชั่วคราวเนื่องจากพระมหากษัตริย์นอร์เวย์ยินยอมจะถวายการจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์เดนมาร์ก
ในปีค.ศ. 1207 คณะบาทหลวงส่วนใหญ่ของเบรเมิน ได้เลือกบิชอปวัลเดมาร์เป็นเจ้าชายมุขนายกอีกครั้ง ในขณะที่พระคณะส่วนน้อยที่นำโดยพระครูบรูก์ฮาร์ด เคานท์แห่งสตัมเปนเฮาเซน ได้หลบหนีไปยังฮัมบูร์ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตมุขมณฑลของเบรเมินและมีการเลือกตั้งแข่งขันกันว่าใครจะเป็นผู้นำหลักของเบรเมิน กษัตริย์ฟิลิปแห่งชวาเบินรับรองให้บิชอปวัลเดมาร์เป็นเจ้าชายมุขนายกแห่งเบรเมิน เนื่องจากเขาเป็นศัตรูกับกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2
กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 และเหล่าคณะบาทหลวงเบรเมินเสียงข้างน้อยที่หลบหนีได้ยื่นจดหมายประท้วงไปยัง ซึ่งพระองค์ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เมื่อบิชอปวัลเดมาร์เดินทางออกจากโรมกลับไปยังเบรเมินเป็นการขัดขืนคำสั่งของสมเด็จพระสันตะปาปาที่ทรงให้เขาอยู่รอคำสั่ง พระองค์จึง ถึงที่สุดในปีค.ศ. 1208 ทรงโปรดให้ปลดเขาออกจากตำแหน่ง ในปีค.ศ. 1208 บรูก์ฮาร์ด เคานท์แห่งสตัมเปนเฮาเซน ได้รับการแต่งตั้งโดยเหล่าพระครูเบรเมินเสียงข้างน้อยที่หลบหนีให้ดำรงเป็นผู้อ้างสิทธิในเจ้าชายมุขนายกและกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงละเมิดสิทธิของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยแต่งตั้งบรูก์ฮาร์ดแทนและให้เขาทรง แต่ก็มีผลการปกครองมุขมณฑลเพัยงแค่ทางตอนเหนือของแม่น้ำเอลเบเท่านั้น ในปีค.ศ. 1209 สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ทรงยินยอมให้มีการแต่งตั้ง ให้เป็นบิชอปแห่งชเลสวิกแทนบิชอปวัลเดมาร์ นิโคลัสเป็นคนสนิทและเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์วัลเดมาร์ ในปีค.ศ. 1214 กษัตริย์วัลเดมาร์จึงทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งบิชอปนิโคลัสที่ 1 เป็น สืบต่อจาก
ในปีเดียวกัน กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 พร้อมกองทัพเดนมาร์กบุกโจมตีมุขมณฑลทางตอนใต้ของแม้น้ำเอลเบ และยึดเมือง ในเดือนสิงหาคม เจ้าชายมุขนายกวัลเดมาร์ได้ยึดเมืองนี้คืนอีกครั้งหลังจากเสียเมืองไปไม่นาน กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงก่อสร้างสะพานเอลเบขึ้นมาและเพื่อมุ่งหน้าเข้าโจมตี ในปีค.ศ. 1209 จักรพรรดิอ็อทโทที่ 4 ทรงเกลี้ยกล่อมให้กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ถอยทัพกลับไปยังตอนเหนือของแม่น้ำเอลเบ จากนั้นกระตุ้นให้บูร์กฮาร์ดลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขับไล่เจ้าชายมุขนายกวัลเดมาร์
ในปีค.ศ. 1210 สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ทรงแต่งตั้งเกอร์ฮาร์ดที่ 1 เคานท์แห่ง ให้ดำรงเป็นเจ้าชายมุขนายกแห่งเบรเมินคนใหม่ ในปีค.ศ. 1211 แห่งดัชชีซัคเซิน ได้ติดตามบิชอปวัลเดมาร์ พี่เขยของพระองค์ ซึ่งถูกพระสันตะปาปาปลด กลับเข้าไปยังเมืองเบรเมิน ยึดอำนาจโดยพฤตินัยจากสมเด็จพระสันตะปาปา และพวกเขาหันไปสนับสนุนจักรพรรดิอ็อทโทที่ 4 ทันทีทันใด เนื่องจากพระองค์กำลังมีเรื่องมีราวกับสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ในกรณีซิชิลี ด้วยเหตุนี้กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 จึงยึดครองเมืองเตดอีกครั้ง ในขณะที่ปีค.ศ. 1213 ไฮน์ริชที่ 5 เคานต์พาลาไทน์แห่งไรน์ ได้ยึดครองเมืองนี้คืนให้เจ้าชายมุขนายกวัลเดมาร์
ในปีค.ศ. 1213 กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงเรียกเก็บภาษีสงครามในนอร์เวย์ และเกิดเรื่องราวที่ชาวนอร์เวย์สังหารเจ้าหน้าที่เก็บภาษีของกษัตริย์วัลเดมาร์ที่และก่อการกบฏ การลุกฮือขยายตัวไปทั่วนอร์เวย์
ในปีค.ศ. 1216 กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 และกองทัพเดนมาร์ทำลายล้างแคว้นสเตดและเข้ายึดครองฮัมบูร์ก สองปีถัดมากษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 และเกอร์ฮาร์ที่ 1 เป็นพันธมิตรกันเข้าขับไล่ไฮน์ริชที่ 5 กับจักรพรรดิอ็อทโทที่ 4 จากดินแดนมุขมณฑล ในที่สุดเจ้าชายมุขนายกวัลเดมาร์ก็ประกาศลาออกและเข้าสู่อาราม กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 สนับสนุนจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และทรงได้รับรางวัลจากจักรพรรดิ โดยการยอมรับสิทธิของเดนมาร์กในการปกครองชเลสวิกและฮ็อลชไตน์ ดินแดนทั้งหมดของและดัชชีพอเมอเรเนีย
ยุทธการลินดานีส
อัศวินทิวทอนิกซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนให้ผู้คนแถบทะเลบอลติกฝั่งตะวันออกให้มานับถือศาสนาคริสต์ ในปีค.ศ. 1219 พวกเขาดำเนินการอย่างยากลำบากและกดดัน จึงทูลขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงยกระดับสงครามของกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ให้เป็นสงครามครูเสด กษัตริย์วัลเดมาร์ทรงระดมกองทัพและรวมกองเรือทั้งหมดเพื่อส่งกองทัพไปสู้รบทางตะวันออก มีเรือรวมกันถึง 1,500 ลำ
เมื่อกองทัพขึ้นฝั่งที่เอสโตเนียบริเวณใกล้เมืองทาลลินน์ในปัจจุบัน หัวหน้าเผ่าเอสโตเนียยอมสยบต่อกองทัพเดนมาร์กและยอมรับกษัตริย์เดนมาร์กเป็นผู้นำสูงสุด มีชนต่างศาสนาบางคนยอมรับการบัพติศมาในศาสนาใหม่ซึ่งเป็นสัญญาณอันดี 3 วันถัดมาคือวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1219 ในขณะที่ชาวเดนส์ทำพิธีมิสซา ชาวเอสโตเนียหลายพันคนบุกเข้ามาในค่ายของชาวเดนส์ ความสับสนนี้การเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 โชคดีที่ นำทหารของเขาในค่ายที่สองเข้าโจมตีชาวเอสโตเนียจากข้างหลัง
ตามตำนานในระหว่างว่ากันว่าบิชอปซูเนเซนยกแขนของเขาขึ้นมาข้างหน้าเพื่อให้ชาวเดนส์ยกทัพไปข้างหน้า แต่เมื่อเขาเริ่มเมื่อยล้าและแขนตกลงมาพวกชาวเอสโตเนียเข้าตีชาวเดนส์จากข้างหลัง เมื่อผู้เข้าร่วมเคลื่อนไปข้างหน้าและบิชอปยกมืออีกครั้ง ชาวเดนส์ก็บุกไปข้างหน้าต่อ ในช่วงที่การต่อสู้ดุเดือดนั้นบิชอปซูเนเซนสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าและปรากฏผ้าผืนแดงที่มีกากบาทสีขาวล่องลอยลงมาจากท้องฟ้าในช่วงที่ชาวเดนส์กำลังจะถอยทัพ มีเสียงพูดเข้ามาว่า "ถ้าธงผืนนี้ถูกชูขึ้น พวกเจ้าจักได้รับชัยชนะ!" ชาวเดนส์ลุกขึ้นสู้และได้รับชัยชนะในสมรภูมิ เมื่อสิ้นสุดวันนั้น ชาวเอสโตเนียนอนตายเกลื่อนทุ่งสนามรบ และจากนั้นเอสโตเนียก็ถูกรวมเข้าในอาณาจักรเดนมาร์ก เอสโตเนียถูกบังคับให้เข้ารีตเป็นชาวคริสต์ แต่จากงานศึกษาเชิงลึกในลีเบอร์ เซนซัส ดาแนร์ ของนักประวัติศาสตร์ เอ็ดการ์ ซัคส์ ระบุว่า ชาวเอสโตเนียสมัครใจที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์
กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงให้สร้างป้อมปราการใหญ่ที่รีวัลบริเวณใกล้สมรภูมิ ในที่สุดเมืองก็เติบโตรอบปราสาทและกลายเป็นเมืองทาลลินน์ ภาษาเอสโตเนียแปลว่า "เมือง/ปราสาทเดนมาร์ก" ธงแดงกากบาทขาว (ธงแดนเนอบรอก) กลายเป็นธงชาติตั้งแต่ค.ศ. 1219 และกลายเป็นธงชาติที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่ยังใช้มาจนปัจจุบัน
ยุทธการบอร์นเฮอเว็ด
ในปีค.ศ. 1223 กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 และพระราชโอรสองค์โต คือ เจ้าชายวัลเดมาร์ ทรงถูกลักพาตัวโดย ขณะทรงล่าสัตว์อยู่ที่เกาะ ใกล้เกาะฟึน เคานท์ไฮน์ริชเรียกร้องให้ยอมคืนดินแดนฮ็อลชไตน์ที่ยึดครองมากว่า 20 ปี และให้ยอมเป็นรัฐบริวารของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ คณะผู้แทนเดนมาร์กปฏิเสธข้อเรียกร้องนี้และประกาศสงคราม ในช่วงที่กษัตริย์วัลเดมาร์ถูกคุมขัง ดินแดนเยอรมันทั้งหลายก็แยกตัวออกจากเดนมาร์ก กองทัพเดนมาร์กต้องถูกส่งไปยึดดินแดนคืน สงครามสิ้นสุดด้วยความพ่ายแพ้ของเดนมาร์กซึ่งพ่ายแพ้ต่อกองทัพที่บัญชาการโดยอัลแบร์ชที่ 2 แห่ง ซึ่งพ่ายแพ้ที่เมืองในปีค.ศ. 1225 เพื่อให้ได้ปล่อยตัวกษัตริย์วัลเดมาร์ เดนมาร์กต้องยอมรับให้ดินแดนที่แยกตัวให้เข้ากับเยอรมัน และต้องจ่ายเงิน 44,000 มาร์ก รวมถึงลงนามสัญญาว่าจะไม่แก้แค้นเคานท์ไฮน์ริชที่ลักพาตัวพระองค์ไป
กษัตริย์วัลเดมาร์ทรงยื่นอุทธรณ์ไปยัง เพื่อให้พระองค์อนุญาตให้คำสัญญาเป็นโมฆะ สมเด็จพระสันตะปาปาโฮโนริอุสที่ 3 ทรงยอมให้คำสัญญาเป็นโมฆะ และกษัตริย์ทรงพยายาามเรียกร้องดินแดนเยอรมันคืนในทันที กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงทำสนธิสัญญากับพระนัดดาคือ อ็อทโทที่ 1 ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-ลือเนอบวร์คและมุ่งหน้าไปทางใต้เพื่อยึดดินแดนที่ทรงมองว่าเป็นสิทธิของพระองค์ แต่พระองค์ก็ไม่ทรงโชคดีเท่าไร กองทัพเดนมาร์กพ่ายแพ้ในในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1227 เป็นตัวปิดฉากการเรียกร้องดินแดนทางภาคเหนือของเยอรมัน กษัตริย์วัลเดมาร์ทรงหลบหนีมาได้ด้วยการกระทำอย่างวิถีอัศวินของอัศวินเยอรมันซึ่งนำพากษัตริย์หลบหนีโดยม้าอย่างปลอดภัย
ประมวลกฎหมายจัตแลนด์
หลังจากนั้นเป็นต้นมากษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงมุ่งเน้นกิจการภายในประเทศ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสมัยพระองค์คือระบบศักดินา ซึ่งพระองค์ทรงมอบทรัพย์สินแก่ผู้คนโดยความเข้าใจว่าคนเหล่านั้นต้องรับใช้พระองค์ตอบแทน สิ่งนี้เป็นการเพิ่มอำนาจของตระกูลขุนนาง (เฮอจาเดเลน) และก่อให้เกิดขุนนางชั้นผู้น้อย (ลาวาเดเลน) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเดนมาร์กเกือบทั้งหมด ชาวนาอิสระสูญเสียสิทธิดั้งเดิมและสิทธิพิเศษที่พวกเขาได้รับมาตั้งแต่สมัยไวกิง
กษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงใช้เวลาที่เหลือในการรวมประมวลกฎหมายของคาบสมุทรจัตแลนด์ เกาะเชลลันด์และสกัวเนอ ประมวลกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้จนถึงปีค.ศ. 1683 นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของกฎหมายท้องถิ่นซึ่งเกิดจากสภาของแคว้น ซึ่งใช้เป็นประเพณีมาอย่างยาวนาน หลายวิธีที่ใช้ตัดสินว่าใครเป็นผู้กระทำผิดหรือผู้บริสุทธิ์นั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีด้วยความเจ็บปวดหรือการพิจารณาคดีด้วยการต่อสู้ ได้รับการรับรองจากการประชุมขุนนางที่ ในปีค.ศ. 1241 ซึ่งก่อนการสวรรคตของพระองค์
กษัตริย์วัลเดมาร์สวรรคตในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1241 สิริพระชนมายุ 70 พรรษา พระองค์ถูกฝังพระบรมศพเคียงข้างพระมเหสีพระองค์แรก คือ สมเด็จพระราชินีดักมาร์ที่เมือง ในเชลลันด์
การอภิเษกสมรส
ก่อนการอภิเษกสมรส วัลเดมาร์ทรงหมั้นกับรีเชซาแห่งบาวาเรีย ธิดาใน เมื่อการแต่งงานไม่เกิดขึ้น พระองค์ได้อภิเษกสมรสครั้งแรกกับเจ้าหญิงดักมาร์แห่งโบฮีเมีย หรือทรงเป็นที่รู้จักในพระนาม มาร์เคตาแห่งโบฮีเมีย ในปีค.ศ. 1205 พระนางเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าออทโทคาร์ที่ 1 แห่งโบฮีเมียที่ประสูติแต่พระมเหสีองค์แรกคือ อเดเลดแห่งเมสเซน และพระนางดักมาร์ก็เป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนชาวเดนส์ การอภิเษกสมรสครั้งนี้ทรงมีพระราชโอรสหนึ่งพระองค์คือ วัลเดมาร์ยุวกษัตริย์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ร่วมที่ชเลสวิกในปีค.ศ. 1218 ยุวกษัตริย์วัลเดมาร์ทรงถูกยิงธนูใส่โดยอุบัติเหตุขณะล่าสัตว์ที่ในปีค.ศ. 1231 สมเด็จพระราชินีดักมาร์สิ้นพระชนม์ขณะมีพระประสูติกาลพระโอรสองค์ที่สองในปีค.ศ. 1212 ตามเพลงบัลเลต์ของเพลงโบราณระบุว่า เมื่อพระนางกำลังจะสิ้นพระชนม์ พระนางทรงขอให้กษัตริย์วัลเดมาร์เสกสมรสกับเคิร์ชเทน บุตรีของคาร์ล ฟอน รีซ และไม่ให้เสกสมรสกับ "ดอกไม้งาม" อย่างเบเรนกาเรียแห่งโปรตุเกส (เบ็นเกิร์ด) เพราะพระนางทรงทำนายว่าเหล่าโอรสที่เกิดกับบาเรนกาเรียแห่งโปรตุเกสจะต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กัน
หลังจากพระราชินีดักมาร์สิ้นพระชนม์ เดนมาร์กต้องการสร้างสัมพันธ์อันดีกับแฟลนเดอส์ กษัตริย์วัลเดมาร์จึงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเบเรนกาเรียแห่งโปรตุเกสในปีค.ศ. 1214 พระนางทรงเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าซังชูที่ 1 แห่งโปรตุเกสกับด็อลซาแห่งอารากอน พระราชบิดาและพระราชมารดาของพระนางสวรรคตตั้งแต่เจ้าหญิงยังทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงเบเรนเกเรียทรงเป็นพระขนิษฐาใน ซึ่งเจ้าหญิงไปประทับอยู่กับพระเชษฐาพระองค์นี้จนกระทั่งอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชินีเบเรนกาเรียทรงพระสิริโฉมแต่ทรงเป็นคนพระทัยแข็ง จนทำให้เป็นที่เกลียดชังของชาวเดนมาร์กโดยทั่วไปจนกระทั่งพระนางสิ้นพระชนม์ขณะมีพระประสูติกาลในปีค.ศ. 1221 พระมเหสีทั้งสองของกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 2 ทรงเป็นตัวละครหลักในบัลลาดและคตินิยมของชาวเดนมาร์กที่ว่า ดักมาร์เป็นคนอ่อนโยน เคร่งศาสนาและเป็นภรรยาในอุดมคติ ส่วนเบเรนกาเรียนั้นงดงามแต่เป็นสตรีที่หยิ่งทระนง
พระโอรสธิดา
พระโอรสที่ประสูติแต่ดักมาร์แห่งโบฮีเมียมีดังนี้
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
วัลเดมาร์ยุวกษัตริย์ | ค.ศ. 1209 | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1231 | อภิเษกสมรส 24 มิถุนายน ค.ศ. 1229 กับ ลียูโนร์แห่งโปรตุเกส ไม่มีพระโอรสธิดา | |
- | พระโอรสตายคลอด | ค.ศ. 1212 | ค.ศ. 1212 | สิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ |
พระโอรสธิดาที่ประสูติแต่เบเรนกาเรียแห่งโปรตุเกสมีดังนี้
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
พระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก | ราว ค.ศ. 1216 | 10 สิงหาคม ค.ศ. 1250 | อภิเษกสมรส 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1239 กับ จัตตาแห่งแซกโซนี มีพระโอรสธิดา 6 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงโซเฟีย สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน เจ้าชายคนุด เจ้าหญิงอิงเงอร์บอร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ เจ้าหญิงจัตตา เจ้าชายคริสตอฟ เจ้าหญิงอักเนส | |
- | เจ้าหญิงโซฟี มาร์เกรฟวีนแห่งบรันเดนบูร์ก | ค.ศ. 1217 | ค.ศ. 1247 | อภิเษกสมรส ค.ศ. 1230 กับ มีพระโอรสธิดา 6 พระองค์ ได้แก่ เฮเลนเนอแห่งบรันเดนบูร์ก เฮอร์มานน์แห่งบรันเดนบูร์ก |
พระเจ้าอเบลแห่งเดนมาร์ก | ค.ศ. 1218 | 29 มิถุนายน ค.ศ. 1252 | อภิเษกสมรส 25 เมษายน ค.ศ. 1237 กับ เมิร์ชทิลด์แห่งฮ็อลชไตน์ มีพระโอรสธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ วัลเดมาร์ที่ 3 ดยุกแห่งชเลสวิก เจ้าหญิงโซฟี อีริคที่ 1 ดยุกแห่งชเลสวิก อเบล ลอร์ดแห่งลังก์เอลันด์ | |
พระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก | ค.ศ. 1219 | 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1259 | อภิเษกสมรส ค.ศ. 1248 กับ มาร์เกเรเธ ซัมบีเรีย มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงเมิร์ชทิลด์ เจ้าหญิงมาร์เกรเธอ พระเจ้าอีริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก | |
- | บุตรตายคลอด | ค.ศ. 1221 | ค.ศ. 1221 | สิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ |
ทรงมีพระโอรสที่ประสูติแต่พระสนม (สตรีตระกูลขุนนางชาวสวีเดนและเป็นภริยาของขุนนางเดนมาร์ก) ได้แก่
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
- | ค.ศ. 1207 | ค.ศ. 1260 | มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ ได้แก่ ธิดาไม่ปรากฏนาม |
ทรงมีพระโอรสที่ประสูติแต่พระสนมไม่ทราบนาม
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
- | ไม่ปรากฏหลักฐาน | ค.ศ. 1218 | เสกสมรสกับ มีพระโอรส 1 พระองค์ ได้แก่ |
พงศาวลี
8. พระเจ้าอีริคที่ 1 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
4. | ||||||||||||||||
9. | ||||||||||||||||
2. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
10. | ||||||||||||||||
5. | ||||||||||||||||
11. | ||||||||||||||||
1. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
12. | ||||||||||||||||
6. | ||||||||||||||||
13. อนาสตาเซีย ยาโรโปลคอฟนาแห่งทูรอฟและลุทส์ | ||||||||||||||||
3. โซเฟียแห่งมินสก์ | ||||||||||||||||
14. | ||||||||||||||||
7. | ||||||||||||||||
15. | ||||||||||||||||
อ้างอิง
- Esben Albrectsen, "Das Abel-Geschlecht und die Schauenburger als Herzöge von Schleswig", Marion Hartwig and Frauke Witte (trls.), in: Die Fürsten des Landes: Herzöge und Grafen von Schleswig, Holstein und Lauenburg [De slevigske hertuger; German], Carsten Porskrog Rasmussen (ed.) on behalf of the Gesellschaft für Schleswig-Holsteinische Geschichte, Neumünster: Wachholtz, 2008, pp. 52-71, here p. 52. ISBN
- Hans Olrik, "Valdemar (Knudsen), 1158-1236, Biskop af Slesvig", in: , vol. XVIII: Ubbe - Wimpffen, pp. 193–197, here p. 195.
- Olsen, Peder.Slaget ved Lyndanise
- . Danmarks Riges Krønike
- Petersen 2010, p. 160.
- Danmark Historie IIperbenny.dk
- Line 2007, p. 581.
- Line 2007, p. 594.
แหล่งข้อมูล
- Line, Philip (2007). Kingship and State Formation in Sweden: 1130 – 1290. Brill.
- Hundahl, Kerstin (2014). "Placing Blame and Creating Legitimacy: The Implications of Rugish Involvement in the Struggle over the Succession amidst the Danish Church Strife c.1258–1260". ใน Hundahl, Kerstin; Kjær, Lars; Lund, Niels (บ.ก.). Denmark and Europe in the Middle Ages, c.1000–1525: Essays in Honour of Professor Michael H. Gelting. Ashgate Publishing.
- Petersen, Leif Inge Ree (2010). "Battle of Bornhöved". ใน Rogers, Clifford J. (บ.ก.). The Oxford Encyclopedia of Medieval Warfare and Military Technology. Vol. 1. Oxford University Press.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
- Bain, Robert Nisbet (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 27 (11 ed.). pp. 841–842.
- [1] 2012-08-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน[2] Valdemar II garden in Tallinn, Estonia
- http://www.kingsofdenmark.dk/king21.htm 2008-10-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ก่อนหน้า | พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าคนุดที่ 6 | พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ร่วมกับ ยุวกษัตริย์วัลเดมาร์ (1218-1231) พระเจ้าอีริคที่ 4 (1232-1241) (ค.ศ. 1202 - ค.ศ. 1241) | พระเจ้าอีริคที่ 4 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecawledmarthi 2 aehngednmark 9 emsayn kh s 1170 28 minakhm kh s 1241 mkthrngthukeriykwa wledmarphuchna hrux wledmarphuphichit Valdemar Sejr thrngepnphramhakstriyaehngednmark tngaetkh s 1202 cnkrathngswrrkhtinpikh s 1241 phranamlalxngwa Sejr esirc epnphranamthithukeriykinphayhlngcakphraxngkhswrrkhtipaelw sung Sejr inphasaednmaraeplwa chychna phraecawledmarthi 2phramhakstriyaehngednmarkphrabrmsathislksnphraecawledmarthi 2 aehngednmarkphramhakstriyaehngednmarkaelachawewndkhrxngrachy1202 1241kxnhnakhnudthi 6thdipxirikhthi 4phramhakstriyphraxngkhnxywledmaryuwkstriy 1218 1231 xirikhthi 4 1231 1241phrarachsmphph9 phvsphakhm kh s 1170 1170 05 09 khabsmuthrctaelnd ednmarkswrrkht28 minakhm kh s 1241 1241 03 28 70 pi ednmarkfngphrasph ednmarkkhuxphieskdkmaraehngobhiemiy ebernkaeriyaehngoprtueksphrarachbutryuwkstriywledmaraehngednmark phraecaxirikhthi 4 aehngednmark ecahyingosfi marekrfwinaehngbrnednburk phraecaxeblaehngednmark phraecakhristxfefxrthi 1 aehngednmark phranametmwledmar aexstridesnrachwngsphrarachbidaphraecawledmarthi 1 aehngednmarkphrarachmardaecahyingosefiyaehngminsksasnaormnkhathxlikphumihlngphrarachlyckrkstriywledmarthi 2 phraxngkhepnphrarachoxrsphraxngkhthisxnginphraecawledmarthi 1 aehngednmarkaelaosefiyaehngminsk sungepnphrathidainaela emuxphraecawledmarthi 1 phrarachbidaswrrkht ecachaywledmarthrngmiphrachnmayuephiyng 12 phrrsa phraxngkhidrbkaraetngtngepndyukaehng latin dux slesvicensis sungkkhux dyukaehngdchchichelswich odymiphusaercrachkaraethnxngkhdyukkhux bichxpwledmaraehngchelswich oxrsnxksmrskhxngphraecakhnutthi 5 aehngednmark bichxpwledmarepnphuthimikhwamthaeyxthayanaelathrngsxnernkhwamthaeyxthayanodyaesrngkrathakarinthanadyukwledmarwyeyaw emuxbichxpwledmaridrbkaraetngtngepninpikh s 1192 ekhawangaephncaokhnrachbllngkkhxngphraecakhnudthi 6 aehngednmark phraechsthakhxngdyukwledmar dwykhwamchwyehluxkhxngkhunnangeyxrmn ephuxihekhaexngkhunnngbllngkednmark aetaephnkarthukepidopng dyukwledmarthrngtrahnkthungphyxntraythibichxpwledmarkrathainnamphraxngkh dngnnphraxngkhcungechiyxarkbichxpmaekhaefathiemuxng inpikh s 1192 aetbichxpidhlbhniipyngnxrewyephuximihthukcbkum bichxpwledmaridcdtngkxngthphaelaidrbkarsnbsnuncakrachwngsohexinchetaefin dwyerux 35 la aelaekhacuocmchayfngednmark ephuxthwngsiththiinrachbllngkednmark odyinthanaphraoxrskhxngphraecakhnudthi 5 inpikh s 1193 fayednmarkchna phraecakhnudthi 6 samarthcbkumekhaid bichxpwledmarthukkhumkhngin chwngpikh s 1193 1198 aelacaknnyayipthihxkhxykhxngbnekaaechllnd cnthungkh s 1206 phayhlngekhathukplxytwcakkhakhxrxngkhxngdkmaraehngobhiemiy phrachayaindyukwledmar aela hlngcakekhasabanwacaimyungekiywkbkickarkhxngednmarkxik dyukwledmarthrngephchiyphykhukkhamcak ekhanthkhnniphyayamkratunihekhanthchaweyxrmnkhnxunyudkhrxngctaelnditcakednmark ephuxchwyehluxaephnkarkhxngbichxpwledmarinkaryudrachbllngkednmark bichxpwledmarcungthukcbkhumkhngxikkhrng dyukwledmarcungphyayamcdkarkbekhanthxdxlf dwykxngthphkhxngphraxngkh phraxngkhekhluxnphlipthangitaelayudpxmthharkhxngxdxlfthi phraxngkhidrbchychnaaelacbkumekhanthxdxlfidin inpikh s 1201 aelakhngkhukekhakhangkhukkhxngbichxpwledmar ekhapwyinsxngpitxma cungphyayamhathangxxkcakkhukodyykdinaedndchchichelswichthangtxnehnuxkhxngaemnaexlebxihaekdyukwledmar ineduxnphvscikayn kh s 1202 phraechsthakhxngdyukwledmar phraecakhnudthi 6 swrrkhtxyangimkhadkhiddwyphrachnmayu 40 phrrsa odyirthayathrchkalthrrmeniymphrayskhxng smedcphraecawledmarthi 2trapracaphraxisriyyskarthulHans Majestaet itfalaxxngthuliphrabath karaethntnkhaphraphuththecakarkhanrbDeres Majestaet phraphuththecakha ephkha rachxanackrednmarkinrchsmykstriywledmarthi 2 dyukwledmaridrbkarsthapnaepnphramhakstriyodysphactaelnd inchwngnnephuxnbanxyangckrwrrdiormnxnskdisiththitkxyuinsphawasngkhramklangemuxng rahwangphuxangsiththiinrachbllngksxngkhn khux ckrphrrdixxthoththi 4 caktrakulewlf aelakstriycakrachwngsohexinchetaefin kstriywledmarthi 2 nnepnphnthmitrkbckrphrrdixxthothaelatxtanfilip inpikh s 1203 kstriywledmarykthphyudkhrxngaela ihmaxyuphayitkarpkkhrxngkhxngednmark inpikh s 1204 phraxngkhphyayamekhaipmixiththiphlinodykarsngkxngthpheruxaelakxngthphbkipynginnxrewyephuxsnbsnun phuxangsiththiinrachbllngknxrewy thaihekidsngkhramkhrngthisxngsungcasinsudinpikh s 1208 aetpyhakarsubrachbllngknxrewyidyutilngchwkhrawenuxngcakphramhakstriynxrewyyinyxmcathwaykarcngrkphkditxphramhakstriyednmark inpikh s 1207 khnabathhlwngswnihykhxngebremin ideluxkbichxpwledmarepnecachaymukhnaykxikkhrng inkhnathiphrakhnaswnnxythinaodyphrakhrubrukhard ekhanthaehngstmepnehaesn idhlbhniipynghmburk sungepnswnhnungkhxngekhtmukhmnthlkhxngebreminaelamikareluxktngaekhngkhnknwaikhrcaepnphunahlkkhxngebremin kstriyfilipaehngchwaebinrbrxngihbichxpwledmarepnecachaymukhnaykaehngebremin enuxngcakekhaepnstrukbkstriywledmarthi 2 kstriywledmarthi 2 aelaehlakhnabathhlwngebreminesiyngkhangnxythihlbhniidyuncdhmayprathwngipyng sungphraxngkhidsngkarihtrwcsxberuxngni emuxbichxpwledmaredinthangxxkcakormklbipyngebreminepnkarkhdkhunkhasngkhxngsmedcphrasntapapathithrngihekhaxyurxkhasng phraxngkhcung thungthisudinpikh s 1208 thrngoprdihpldekhaxxkcaktaaehnng inpikh s 1208 brukhard ekhanthaehngstmepnehaesn idrbkaraetngtngodyehlaphrakhruebreminesiyngkhangnxythihlbhniihdarngepnphuxangsiththiinecachaymukhnaykaelakstriywledmarthi 2 thrnglaemidsiththikhxngckrphrrdiormnxnskdisiththiodyaetngtngbrukhardaethnaelaihekhathrng aetkmiphlkarpkkhrxngmukhmnthlephyngaekhthangtxnehnuxkhxngaemnaexlebethann inpikh s 1209 smedcphrasntapapaxinonesntthi 3 thrngyinyxmihmikaraetngtng ihepnbichxpaehngchelswikaethnbichxpwledmar niokhlsepnkhnsnithaelaepnthipruksakhxngkstriywledmar inpikh s 1214 kstriywledmarcungthrngoprdeklaaetngtngbichxpniokhlsthi 1 epn subtxcak inpiediywkn kstriywledmarthi 2 phrxmkxngthphednmarkbukocmtimukhmnthlthangtxnitkhxngaemnaexleb aelayudemuxng ineduxnsinghakhm ecachaymukhnaykwledmaridyudemuxngnikhunxikkhrnghlngcakesiyemuxngipimnan kstriywledmarthi 2 thrngkxsrangsaphanexlebkhunmaaelaephuxmunghnaekhaocmti inpikh s 1209 ckrphrrdixxthoththi 4 thrngekliyklxmihkstriywledmarthi 2 thxythphklbipyngtxnehnuxkhxngaemnaexleb caknnkratunihburkhardlaxxkcaktaaehnng phrxmkhbilecachaymukhnaykwledmar inpikh s 1210 smedcphrasntapapaxinonesntthi 3 thrngaetngtngekxrhardthi 1 ekhanthaehng ihdarngepnecachaymukhnaykaehngebreminkhnihm inpikh s 1211 aehngdchchiskhesin idtidtambichxpwledmar phiekhykhxngphraxngkh sungthukphrasntapapapld klbekhaipyngemuxngebremin yudxanacodyphvtinycaksmedcphrasntapapa aelaphwkekhahnipsnbsnunckrphrrdixxthoththi 4 thnthithnid enuxngcakphraxngkhkalngmieruxngmirawkbsmedcphrasntapapaxinonesntthi 3 inkrnisichili dwyehtunikstriywledmarthi 2 cungyudkhrxngemuxngetdxikkhrng inkhnathipikh s 1213 ihnrichthi 5 ekhantphalaithnaehngirn idyudkhrxngemuxngnikhunihecachaymukhnaykwledmar inpikh s 1213 kstriywledmarthi 2 thrngeriykekbphasisngkhraminnxrewy aelaekideruxngrawthichawnxrewysngharecahnathiekbphasikhxngkstriywledmarthiaelakxkarkbt karlukhuxkhyaytwipthwnxrewy inpikh s 1216 kstriywledmarthi 2 aelakxngthphednmarthalaylangaekhwnsetdaelaekhayudkhrxnghmburk sxngpithdmakstriywledmarthi 2 aelaekxrharthi 1 epnphnthmitrknekhakhbilihnrichthi 5 kbckrphrrdixxthoththi 4 cakdinaednmukhmnthl inthisudecachaymukhnaykwledmarkprakaslaxxkaelaekhasuxaram kstriywledmarthi 2 snbsnunckrphrrdifridrichthi 2 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi aelathrngidrbrangwlcakckrphrrdi odykaryxmrbsiththikhxngednmarkinkarpkkhrxngchelswikaelahxlchitn dinaednthnghmdkhxngaeladchchiphxemxereniy yuththkarlindanis thngaednenxbrxklxnglxylngmacakthxngfainyuththkarlindanis wadody wadpikh s 1809 xswinthiwthxniksungthahnathiepliynihphukhnaethbthaelbxltikfngtawnxxkihmanbthuxsasnakhrist inpikh s 1219 phwkekhadaeninkarxyangyaklabakaelakddn cungthulkhxkhwamchwyehluxcakkstriywledmarthi 2 thrngykradbsngkhramkhxngkstriywledmarthi 2 ihepnsngkhramkhruesd kstriywledmarthrngradmkxngthphaelarwmkxngeruxthnghmdephuxsngkxngthphipsurbthangtawnxxk mieruxrwmknthung 1 500 la emuxkxngthphkhunfngthiexsoteniybriewniklemuxngthallinninpccubn hwhnaephaexsoteniyyxmsybtxkxngthphednmarkaelayxmrbkstriyednmarkepnphunasungsud michntangsasnabangkhnyxmrbkarbphtismainsasnaihmsungepnsyyanxndi 3 wnthdmakhuxwnthi 15 mithunayn kh s 1219 inkhnathichawednsthaphithimissa chawexsoteniyhlayphnkhnbukekhamainkhaykhxngchawedns khwamsbsnnikarepnsingthielwraysahrbkstriywledmarthi 2 ochkhdithi nathharkhxngekhainkhaythisxngekhaocmtichawexsoteniycakkhanghlng tamtananinrahwangwaknwabichxpsuenesnykaekhnkhxngekhakhunmakhanghnaephuxihchawednsykthphipkhanghna aetemuxekhaerimemuxylaaelaaekhntklngmaphwkchawexsoteniyekhatichawednscakkhanghlng emuxphuekharwmekhluxnipkhanghnaaelabichxpykmuxxikkhrng chawednskbukipkhanghnatx inchwngthikartxsudueduxdnnbichxpsuenesnswdmntxxnwxnphraecaaelapraktphaphunaedngthimikakbathsikhawlxnglxylngmacakthxngfainchwngthichawednskalngcathxythph miesiyngphudekhamawa thathngphunnithukchukhun phwkecackidrbchychna chawednslukkhunsuaelaidrbchychnainsmrphumi emuxsinsudwnnn chawexsoteniynxntayekluxnthungsnamrb aelacaknnexsoteniykthukrwmekhainxanackrednmark exsoteniythukbngkhbihekharitepnchawkhrist aetcakngansuksaechinglukinliebxr esnss daaenr khxngnkprawtisastr exdkar skhs rabuwa chawexsoteniysmkhricthiepliynmanbthuxsasnakhrist kstriywledmarthi 2 thrngihsrangpxmprakarihythiriwlbriewniklsmrphumi inthisudemuxngketibotrxbprasathaelaklayepnemuxngthallinn phasaexsoteniyaeplwa emuxng prasathednmark thngaedngkakbathkhaw thngaednenxbrxk klayepnthngchatitngaetkh s 1219 aelaklayepnthngchatithiekaaekthisudinyuorpthiyngichmacnpccubn yuththkarbxrnehxewd inpikh s 1223 kstriywledmarthi 2 aelaphrarachoxrsxngkhot khux ecachaywledmar thrngthuklkphatwody khnathrnglastwxyuthiekaa iklekaafun ekhanthihnricheriykrxngihyxmkhundinaednhxlchitnthiyudkhrxngmakwa 20 pi aelaihyxmepnrthbriwarkhxngckrwrrdiormnxnskdisiththi khnaphuaethnednmarkptiesthkhxeriykrxngniaelaprakassngkhram inchwngthikstriywledmarthukkhumkhng dinaedneyxrmnthnghlaykaeyktwxxkcakednmark kxngthphednmarktxngthuksngipyuddinaednkhun sngkhramsinsuddwykhwamphayaephkhxngednmarksungphayaephtxkxngthphthibychakarodyxlaebrchthi 2 aehng sungphayaephthiemuxnginpikh s 1225 ephuxihidplxytwkstriywledmar ednmarktxngyxmrbihdinaednthiaeyktwihekhakbeyxrmn aelatxngcayengin 44 000 mark rwmthunglngnamsyyawacaimaekaekhnekhanthihnrichthilkphatwphraxngkhip kstriywledmarthrngyunxuththrnipyng ephuxihphraxngkhxnuyatihkhasyyaepnomkha smedcphrasntapapaohonrixusthi 3 thrngyxmihkhasyyaepnomkha aelakstriythrngphyayaameriykrxngdinaedneyxrmnkhuninthnthi kstriywledmarthi 2 thrngthasnthisyyakbphranddakhux xxthoththi 1 dyukaehngebranchiwkh luxenxbwrkhaelamunghnaipthangitephuxyuddinaednthithrngmxngwaepnsiththikhxngphraxngkh aetphraxngkhkimthrngochkhdiethair kxngthphednmarkphayaephininwnthi 22 krkdakhm kh s 1227 epntwpidchakkareriykrxngdinaednthangphakhehnuxkhxngeyxrmn kstriywledmarthrnghlbhnimaiddwykarkrathaxyangwithixswinkhxngxswineyxrmnsungnaphakstriyhlbhniodymaxyangplxdphy pramwlkdhmayctaelnd kxnkarrbrxng aetlami ykewnaethb simwng thiich hlngcaknnepntnmakstriywledmarthi 2 thrngmungennkickarphayinpraeths hnunginkarepliynaeplngsmyphraxngkhkhuxrabbskdina sungphraxngkhthrngmxbthrphysinaekphukhnodykhwamekhaicwakhnehlanntxngrbichphraxngkhtxbaethn singniepnkarephimxanackhxngtrakulkhunnang ehxcaedeln aelakxihekidkhunnangchnphunxy lawaedeln sungepnphukhwbkhumednmarkekuxbthnghmd chawnaxisrasuyesiysiththidngedimaelasiththiphiessthiphwkekhaidrbmatngaetsmyiwking kstriywledmarthi 2 thrngichewlathiehluxinkarrwmpramwlkdhmaykhxngkhabsmuthrctaelnd ekaaechllndaelaskwenx pramwlkdhmaynithukbngkhbichcnthungpikh s 1683 nikhuxkarepliynaeplngthisakhykhxngkdhmaythxngthinsungekidcaksphakhxngaekhwn sungichepnpraephnimaxyangyawnan hlaywithithiichtdsinwaikhrepnphukrathaphidhruxphubrisuththinnthukmxngwaepneruxngphidkdhmay echn karphicarnakhdidwykhwamecbpwdhruxkarphicarnakhdidwykartxsu idrbkarrbrxngcakkarprachumkhunnangthi inpikh s 1241 sungkxnkarswrrkhtkhxngphraxngkh kstriywledmarswrrkhtinwnthi 28 minakhm kh s 1241 siriphrachnmayu 70 phrrsa phraxngkhthukfngphrabrmsphekhiyngkhangphramehsiphraxngkhaerk khux smedcphrarachinidkmarthiemuxng inechllndkarxphiesksmrskxnkarxphiesksmrs wledmarthrnghmnkbriechsaaehngbawaeriy thidain emuxkaraetngnganimekidkhun phraxngkhidxphiesksmrskhrngaerkkbecahyingdkmaraehngobhiemiy hruxthrngepnthiruckinphranam marekhtaaehngobhiemiy inpikh s 1205 phranangepnphrarachthidainphraecaxxthothkharthi 1 aehngobhiemiythiprasutiaetphramehsixngkhaerkkhux xedeldaehngemsesn aelaphranangdkmarkepnthiniyminhmuprachachnchawedns karxphiesksmrskhrngnithrngmiphrarachoxrshnungphraxngkhkhux wledmaryuwkstriy sungidrbkaraetngtngepnkstriyrwmthichelswikinpikh s 1218 yuwkstriywledmarthrngthukyingthnuisodyxubtiehtukhnalastwthiinpikh s 1231 smedcphrarachinidkmarsinphrachnmkhnamiphraprasutikalphraoxrsxngkhthisxnginpikh s 1212 tamephlngbleltkhxngephlngobranrabuwa emuxphranangkalngcasinphrachnm phranangthrngkhxihkstriywledmaresksmrskbekhirchethn butrikhxngkharl fxn ris aelaimihesksmrskb dxkimngam xyangebernkaeriyaehngoprtueks ebnekird ephraaphranangthrngthanaywaehlaoxrsthiekidkbbaernkaeriyaehngoprtuekscatxsuaeyngchingbllngkkn hlngcakphrarachinidkmarsinphrachnm ednmarktxngkarsrangsmphnthxndikbaeflnedxs kstriywledmarcungxphiesksmrskbecahyingebernkaeriyaehngoprtueksinpikh s 1214 phranangthrngepnphrarachthidainphraecasngchuthi 1 aehngoprtuekskbdxlsaaehngxarakxn phrarachbidaaelaphrarachmardakhxngphranangswrrkhttngaetecahyingyngthrngphraeyaw ecahyingebernekeriythrngepnphrakhnisthain sungecahyingipprathbxyukbphraechsthaphraxngkhnicnkrathngxphiesksmrs smedcphrarachiniebernkaeriythrngphrasiriochmaetthrngepnkhnphrathyaekhng cnthaihepnthiekliydchngkhxngchawednmarkodythwipcnkrathngphranangsinphrachnmkhnamiphraprasutikalinpikh s 1221 phramehsithngsxngkhxngkstriywledmarthi 2 thrngepntwlakhrhlkinblladaelakhtiniymkhxngchawednmarkthiwa dkmarepnkhnxxnoyn ekhrngsasnaaelaepnphrryainxudmkhti swnebernkaeriynnngdngamaetepnstrithihyingthranng phraoxrsthida phraoxrsthiprasutiaetdkmaraehngobhiemiymidngni phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thidawledmaryuwkstriy kh s 1209 28 phvscikayn kh s 1231 xphiesksmrs 24 mithunayn kh s 1229 kb liyuonraehngoprtueks immiphraoxrsthida phraoxrstaykhlxd kh s 1212 kh s 1212 sinphrachnmemuxprasuti phraoxrsthidathiprasutiaetebernkaeriyaehngoprtueksmidngni phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thidaphraecaxirikhthi 4 aehngednmark raw kh s 1216 10 singhakhm kh s 1250 xphiesksmrs 17 phvscikayn kh s 1239 kb cttaaehngaeskosni miphraoxrsthida 6 phraxngkh idaek ecahyingosefiy smedcphrarachiniaehngswiedn ecachaykhnud ecahyingxingengxrbxrk smedcphrarachiniaehngnxrewy ecahyingctta ecachaykhristxf ecahyingxkens ecahyingosfi marekrfwinaehngbrnednburk kh s 1217 kh s 1247 xphiesksmrs kh s 1230 kb miphraoxrsthida 6 phraxngkh idaek ehelnenxaehngbrnednburk ehxrmannaehngbrnednburkphraecaxeblaehngednmark kh s 1218 29 mithunayn kh s 1252 xphiesksmrs 25 emsayn kh s 1237 kb emirchthildaehnghxlchitn miphraoxrsthida 4 phraxngkh idaek wledmarthi 3 dyukaehngchelswik ecahyingosfi xirikhthi 1 dyukaehngchelswik xebl lxrdaehnglngkexlndphraecakhristxfefxrthi 1 aehngednmark kh s 1219 29 phvsphakhm kh s 1259 xphiesksmrs kh s 1248 kb marekereth smbieriy miphraoxrsthida 3 phraxngkh idaek ecahyingemirchthild ecahyingmarekrethx phraecaxirikhthi 5 aehngednmark butrtaykhlxd kh s 1221 kh s 1221 sinphrachnmemuxprasuti thrngmiphraoxrsthiprasutiaetphrasnm stritrakulkhunnangchawswiednaelaepnphriyakhxngkhunnangednmark idaek phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thida kh s 1207 kh s 1260 miphraoxrsthida 3 phraxngkh idaek thidaimpraktnam thrngmiphraoxrsthiprasutiaetphrasnmimthrabnam phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thida imprakthlkthan kh s 1218 esksmrskb miphraoxrs 1 phraxngkh idaekphngsawli 8 phraecaxirikhthi 1 aehngednmark 4 9 2 phraecawledmarthi 1 aehngednmark 10 5 11 1 phraecawledmarthi 2 aehngednmark 12 6 13 xnastaesiy yaoroplkhxfnaaehngthurxfaelaluths 3 osefiyaehngminsk 14 7 15 xangxingEsben Albrectsen Das Abel Geschlecht und die Schauenburger als Herzoge von Schleswig Marion Hartwig and Frauke Witte trls in Die Fursten des Landes Herzoge und Grafen von Schleswig Holstein und Lauenburg De slevigske hertuger German Carsten Porskrog Rasmussen ed on behalf of the Gesellschaft fur Schleswig Holsteinische Geschichte Neumunster Wachholtz 2008 pp 52 71 here p 52 ISBN 978 3 529 02606 5 Hans Olrik Valdemar Knudsen 1158 1236 Biskop af Slesvig in vol XVIII Ubbe Wimpffen pp 193 197 here p 195 Olsen Peder Slaget ved Lyndanise Danmarks Riges Kronike Petersen 2010 p 160 Danmark Historie IIperbenny dk Line 2007 p 581 Line 2007 p 594 aehlngkhxmulLine Philip 2007 Kingship and State Formation in Sweden 1130 1290 Brill Hundahl Kerstin 2014 Placing Blame and Creating Legitimacy The Implications of Rugish Involvement in the Struggle over the Succession amidst the Danish Church Strife c 1258 1260 in Hundahl Kerstin Kjaer Lars Lund Niels b k Denmark and Europe in the Middle Ages c 1000 1525 Essays in Honour of Professor Michael H Gelting Ashgate Publishing Petersen Leif Inge Ree 2010 Battle of Bornhoved in Rogers Clifford J b k The Oxford Encyclopedia of Medieval Warfare and Military Technology Vol 1 Oxford University Press aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb phraecawledmarthi 2 aehngednmark Bain Robert Nisbet 1911 Valdemar II saranukrmbritanika kh s 1911 Vol 27 11 ed pp 841 842 1 2012 08 23 thi ewyaebkaemchchin 2 Valdemar II garden in Tallinn Estonia http www kingsofdenmark dk king21 htm 2008 10 21 thi ewyaebkaemchchinkxnhna phraecawledmarthi 2 aehngednmark thdipphraecakhnudthi 6 phramhakstriyaehngednmark rwmkb yuwkstriywledmar 1218 1231 phraecaxirikhthi 4 1232 1241 kh s 1202 kh s 1241 phraecaxirikhthi 4