อาร์เอ็มเอส ไททานิก จมลงในเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 ในมหาสมุทรแอตแลนติก วันที่สี่ในการเดินทางครั้งแรกของเรือจากเซาแทมป์ตันไปนครนิวยอร์ก ไททานิก เป็นเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดที่ให้บริการในเวลานั้น เรือชนกับภูเขาน้ำแข็งเมื่อเวลาราว 23:40 (เวลาเดินเรือ) ในวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 1912 เรือจมลงในเวลาสองชั่วโมงสี่สิบนาทีต่อมา เมื่อเวลา 02:20 น. (เวลาเดินเรือ; 05:18 GMT) ในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน จากคนบนเรือประมาณ 2,224 คน ทำให้เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางทะเลที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
"Untergang der Titanic" โดยวิลลี่ สโตเวอร์ (Willy Stöwer), 1912 | |
วันที่ | 14–15 เมษายน 1912 |
---|---|
เวลา | 23:40–02:20 (02:38–05:18 GMT) |
ระยะเวลา | 2 ชั่วโมง 40 นาที |
ที่ตั้ง | มหาสมุทรแอตแลนติก, 400 ไมล์ (640 กิโลเมตร) ทางตะวันออกของนิวฟันด์แลนด์ |
พิกัด | 41°43′32″N 49°56′49″W / 41.72556°N 49.94694°W |
ประเภท | ภัยพิบัติทางทะเล |
สาเหตุ | ชนภูเขาน้ำแข็งในวันที่ 14 เมษายน |
ผู้เข้าร่วม | ลูกเรือและผู้โดยสาร |
ผล | การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางทะเล |
เสียชีวิต | 1,490–1,635 |
วันที่ 14 เมษายน ไททานิก ได้รับคำเตือนหกครั้งเกี่ยวกับก้อนน้ำแข็งในทะเล แต่ด้วยความเร็วประมาณ 22 นอต ทำให้เมื่อเรือมองภูเขาน้ำแข็ง เรือจึงไม่สามารถเลี้ยวหลบได้ทัน ส่งผลให้เรือได้รับความเสียหายจากการชนแฉลบที่กราบขวาของเรือ และสร้างรอยรั่วในหกห้องจากสิบหกห้องเรือ (ส่วนหน้าสุดของหัวเรือ, ห้องว่างสามห้อง, และห้องหม้อไอน้ำหมายเลข 5 และ 6) ไททานิก ได้รับการออกแบบให้ลอยอยู่ได้เมื่อห้องเรือด้านหัวเรือสี่ห้องถูกน้ำท่วมเท่านั้น และในไม่ช้าลูกเรือก็ตระหนักว่าเรือกำลังจะจม พวกเขาใช้พลุแฟลร์และส่งข้อความทางวิทยุโทรเลข เพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่ผู้โดยสารถูกนำไปยัง
ตามแนวทางปฏิบัติที่มีอยู่ ระบบเรือชูชีพของไททานิคได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารข้ามไปยังเรือกู้ภัยใกล้เคียง ไม่ใช่ให้ทุกคนอยู่บนเรือชูชีพในเวลาเดียวกัน ดังนั้น ด้วยการที่เรือจมลงอย่างรวดเร็ว และชั่วโมงทองในการช่วยเหลือได้ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ปลอดภัยเพียงพอสำหรับผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนมาก ด้วยเหตุเหล่านี้ ทำให้การจัดการการอพยพย่ำแย่อย่างมาก มีการปล่อยเรือชูชีพจำนวนมากก่อนที่เรือจะเต็ม
ด้วยเหตุที่ เมื่อ ไททานิก จมยังมีผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่าพันคนบนเรือ ทำให้คนที่กระโดดหรือตกลงไปในน้ำ เกือบทุกคนจมน้ำตายหรือเสียชีวิตภายในไม่กี่นาทีเนื่องจากผลของสภาวะช็อกจากความเย็นและ อาร์เอ็มเอส คาร์เพเทีย มาถึงที่เกิดเหตุประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งหลังจากเรือจม และช่วยผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายในเวลา 09:15 น. ในวันที่ 15 เมษายน ราวเก้าชั่วโมงครึ่งหลังจากการชนภูเขาน้ำแข็ง ภัยพิบัติดังกล่าวทำให้โลกตื่นตะหนกและทำให้เกิดความโกรธแค้นอย่างกว้างขวางเนื่องจากเรือชูชีพไม่เพียงพอ กฎระเบียบที่หละหลวม และการปฏิบัติต่อผู้โดยสารทั้งสามชั้นที่ไม่เท่าเทียมกันในระหว่างการอพยพ การไต่สวนในภายหลังสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมของกฎระเบียบทางทะเล นำไปสู่การจัดตั้งในปี 1914 ของ (SOLAS)
พื้นหลัง
เรือเข้าประจำการในวันที่ 2 เมษายน 1912 โรยัล เมล ชิป (อาร์เอ็มเอส) ไททานิก เป็นเรือลำที่สองจากสามลำ ในเรือเดินสมุทรชั้นโอลิมปิก และเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น ไททานิก และเรือพี่น้อง อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก มีเป็นเท่าครึ่งของ อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย และ ของสายการเดินเรือคูนาร์ด ซึ่งถือครองสถิติก่อนหน้า และยาวกว่าเกือบ 100 ฟุต (30 เมตร)ไททานิก สามารถบรรทุกคนได้ถึง 3,547 คนและยังคงความเร็วและความสบายไว้ได้ และถูกสร้างขึ้นด้วยขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อน มีใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา สูง 40 ฟุต (12 เมตร) กระบอกสูบมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 ฟุต (2.7 เมตร) ต้องเผาถ่านหิน 610 ตันต่อวันเป็นเชื้อเพลิง
ที่พักผู้โดยสารบนเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนชั้นเฟิร์สต์คลาส พูดได้ว่าเป็น "ความเหนือชั้นและความโอ่อ่างดงาม" สังเกตได้จากค่าโดยสารที่พักชั้นเฟิร์สต์คลาส ห้องพาร์เลอะสวีท (ห้องชุดที่แพงที่สุดและหรูหราที่สุดบนเรือ) พร้อมดาดฟ้าเดินเล่นส่วนตัวมีราคาสูงกว่า $4,350 (เทียบเท่ากับ $115,000 ในปัจจุบัน) สำหรับข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเที่ยวเดียว แม้แต่ชั้นสามแม้จะมีความหรูหราน้อยกว่าชั้นสองและเฟิร์สต์คลาสมาก แต่ก็สบายกว่ามาตรฐานร่วมสมัยและได้รับอาหารอร่อยมากมาย ทำให้ผู้โดยสารบนเรือหลายคนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเคยมีประสบการณ์ในบ้านของตน
การเดินทางครั้งแรกของ ไททานิก เริ่มขึ้นหลังเที่ยงวันที่ 10 เมษายน 1912 เมื่อเรือออกจากเซาแทมป์ตันที่เป็นขาแรกของการเดินทางสู่นิวยอร์ก ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเรือแวะไปที่แชร์บูร์กทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ระยะทาง 80 ไมล์ทะเล (148 กิโลเมตร; 92 ไมล์) เพื่อรับผู้โดยสาร ท่าเรือถัดไปคือควีนส์ทาวน์ (หรือโคฟในปัจจุบัน) ในไอร์แลนด์ ซึ่งเรือเดินทางมาถึงตอนเที่ยงวันที่ 11 เมษายน เรือออกเดินทางตอนบ่ายหลังจากรับผู้โดยสารและสินค้าค้าเพิ่มเติม
เมื่อถึงเวลา เรือบ่ายหน้ามุ่งไปทางตะวันตกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก บนเรือมีลูกเรือ 892 คนและผู้โดยสาร 1,320 คน ซึ่งเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของผู้โดยสารเต็มความจุของของเรือ หรือ 2,435 คน เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวและการขนส่งจากสหราชอาณาจักรถูกรบกวนจากการประท้วงของคนงานเหมืองถ่านหิน ผู้โดยสารของเรือเป็นเสมือนภาคตัดขวางของสังคมเอ็ดเวิร์ด มีตั้งแต่มหาเศรษฐีเช่น จอห์น เจคอบ แอสเตอร์ (John Jacob Astor) และ เบนจามิน กุกเกนไฮม์ (Benjamin Guggenheim) ไปจนถึงผู้อพยพยากจนจากประเทศต่างๆ เช่น อาร์เมเนีย, ไอร์แลนด์, อิตาลี, สวีเดน, ซีเรีย และรัสเซีย ที่ต้องการไปแสวงหาชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา
เรือมีเอ็ดเวิร์ด สมิธ กัปตันอาวุโสของไวต์สตาร์ไลน์วัย 62 ปีเป็นหัวหน้าควบคุมเรือ เขามีประสบการณ์การเดินเรือถึงสี่ทศวรรษ และทำหน้าที่เป็นกัปตันของ อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก มาก่อนที่จะย้ายมาควบคุมเรือ ไททานิก ลูกเรือส่วนมากไม่เคยรับการฝึกมาก่อน ทั้ง นายช่าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือ พนักงานควบคุมเตาไฟ ที่มีหน้าที่ดูแลเครื่องยนต์ หรือบริกร และพนักงานห้องครัวที่มีหน้าที่ดูแลต่อผู้โดยสาร มีนายยามเรือเดิน 6 คนและกลาสีชำนาญงาน 39 คน หรือประมาณ 5% จากลูกเรือทั้งหมดเท่านั้น และส่วนใหญ่ขึ้นเรือที่เซาแทมป์ตันจึงไม่มีเวลาทำความคุ้นเคยกับเรือ
ก่อนออกเดินทางประมาณ 10 วัน เกิดไฟไหม้ที่ยุ้งถ่านหินยุ้งหนึ่งของ ไททานิก และไหม้ต่อเนื่องไปอีกหลายวันระหว่างการเดินทาง แต่ในวันที่ 14 เมษายนได้ดับไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สภาพอากาศดีขึ้นอย่างมากในระหว่างวัน จากลมแรงและทะเลปานกลางในตอนเช้า กลายเป็นทะเลสงบในตอนเย็น ขณะที่เส้นทางพาเรือไปอยู่ภายใต้ความกดอากาศสูงของขั้วโลกเหนือ
ในช่วงเวลานั้น เนื่องด้วยหน้าหนาวที่ไม่หนาวรุนแรงทำให้ภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากเคลื่อนตัวหลุดออกจากชายฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์
14 เมษายน 1912
คำเตือน "ภูเขาน้ำแข็ง"
ในวันที่ 14 เมษายน 1912 พนักงานวิทยุของ ไททานิก ได้รับหกข้อความจากเรือลำอื่นเรื่องภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในทะเล และผู้โดยสารบนเรือ ไททานิก ก็เริ่มสังเกตเห็นในช่วงบ่ายวันนั้น ในเวลานั้นพนักงานวิทยุทั้งหมดในเรือเดินสมุทรเป็นพนักงานของบริษัทโทรเลขไร้สายของมาร์โคนีและไม่ใช่ลูกเรือ ความรับผิดชอบหลักของพนักงานคือการส่งข้อความให้ผู้โดยสาร สำหรับรายงานสภาพอากาศเป็นเรื่องรอง อีกทั้ง สภาพน้ำแข็งในแอตแลนติกเหนือนั้นเลวร้ายที่สุดในเดือนเมษายนเกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีมาแล้ว (ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการพนักงานเฝ้าระวังไม่ทราบว่าเลยว่าพวกเขากำลังจะแล่นเรือเข้าไปในแนวน้ำแข็งที่ทอดยาวหลายไมล์)
ข้อความแรกมาจากเรือ อาร์เอ็มเอส คาโรเนีย (RMS Caronia) เมื่อ 09:00 รายงานว่า "ภูเขาน้ำแข็ง, ชิ้นน้ำแข็ง และทุ่งน้ำแข็ง" กัปตันสมิธรับทราบข้อความ เมื่อเวลา 13:42 เรือ อาร์เอ็มเอส บอลติก (RMS Baltic) ส่งรายงานจากเรือกรีก อาธีเนีย (Athenia) ว่าเรือ "แล่นผ่านภูเขาน้ำแข็งและทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่" ข้อความนี้รับทราบโดยกัปตันสมิธเช่นกัน และรายงานถึง เจ. บรูซ อิสเมย์ (J. Bruce Ismay) ประธานของไวต์สตาร์ไลน์ ซึ่งอยู่บนเรือ ไททานิก กัปตันสมิธสั่งให้มีการกำหนดเส้นทางใหม่ ให้แล่นเรือไกลออกไปทางใต้
เมื่อเวลา 13:45 เราเยอรมัน เอสเอส อเมอริกา (SS Amerika) ซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ไม่ไกลจาก ไททานิก รายงานว่าเรือ "แล่นผ่านภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่สองลูก" แต่ข้อความนี้ไม่เคยไปถึงกัปตันสมิธ หรือเจ้าหน้าที่คนอื่นๆบนสะพานเดินเรือ เหตุผลนั้นไม่ชัดเจน แต่อาจเป็นเพราะถูกลืมเพราะพนักงานวิทยุมัวแต่ซ่อมอุปกรณ์ที่เสียอยู่
เรือ เอสเอส คาลิฟอร์เนียน (SS Californian) รายงานว่า "ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่สามลูก" เมื่อเวลา 19:30 และเมื่อเวลา 21:40 เรือกลไฟ เมซาบา (Mesaba) รายงานว่า "มองเห็นก้อนน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่จำนวนมาก รวมทั้งทุ่งน้ำแข็งด้วย" แต่ข้อความเหล่านี้ไม่ได้ถูกส่งออกจากห้องวิทยุของ ไททานิก พนักงานวิทยุ แจ็ค ฟิลลิปส์ (Jack Phillips) นั้นอาจไม่เข้าใจถึงความสำคัญของข้อความเหล่านี้ เพราะเขาหมกมุ่นอยู่กับการส่งข้อความให้ผู้โดยสารผ่านทางสถานีถ่ายทอดที่ นิวฟันด์แลนด์ เนื่องจากชุดวิทยุพังลงเมื่อวันก่อน ส่งผลให้มีข้อความคั่งค้างที่พนักงานทั้งสองรายพยายามที่จะจัดการให้เสร็จ คำเตือนสุดท้ายได้รับเมื่อเวลา 22:30 จากพนักงานวิทยุ ซีริล อีวานส์ (Cyril Evans) ของ เรือคาลิฟอร์เนียน ที่หยุดเรือในคืนนี้ในทุ่งน้ำแข็งห่างออกไปหลายไมล์ แต่ฟิลลิปส์ตัดการสื่อสารออกแล้วส่งสัญญาณกลับ: "หุบปาก! หุบปาก! ฉันกำลังสื่อสารกับเคปเรสอยู่"
แม้ว่าลูกเรือจะรับรู้ถึงน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงกับเรือ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลดความเร็วของเรือลงและยังคงแล่นที่ 22 นอต (41 กม./ชม.; 25 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งห่างจากความเร็วสูงสุดของเรือเพียง 2 นอต (3.7 กม./ชม.; 2.3 ไมล์ต่อชั่วโมง) การแล่นเรือด้วยความเร็วสูงในทะเลที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งของ ไททานิก นั้น ภายหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสะเพร่าไม่ยั้งคิด แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานการเดินเรือในเวลานั้น อ้างอิงถึงต้นเรือที่ห้า แฮโรลด์ โลว์ (Harold Lowe) ที่กล่าวว่าธรรมเนียมปฏิบัติคือ "แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจพนักงานเฝ้าระวังในและนายยามเรือเดินบนสะพานเดินเรือที่คอยมองหาก้อนน้ำแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงการชน"
เรือเดินสมุทรสายแอตแลนติกเหนือจัดลำดับความสำคัญของการรักษาเวลาไว้เหนือข้อควรพิจารณาอื่นๆทั้งหมด ยึดติดกับตารางการเดินทางที่จะรับประกันการเดินถึงปลายทางตามในเวลาที่โฆษณา พวกเขาเดินเรือด้วยความเร็วเกือบเต็มที่ การปฏิบัติตามคำเตือนถึงอันตรายเป็นเพียงคำแนะนำแทนที่จะเป็นข้อปฏิบัติที่ต้องดำเนินการ เป็นความเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าก้อนน้ำแข็งสร้างความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย เฉียดฉิวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ชนประสานงาก็ไม่ใช่หายนะ ในปี 1907 เรือ เอสเอส โครนพรินซ์ วิลเฮ็ล์ม (SS Kronprinz Wilhelm) ของสายการเดินเรือเยอรมันชนกับภูเขาน้ำแข็งและทำให้หัวเรือแตก แต่ก็ยังคงแล่นจนถึงที่หมายได้ ในปีเดียวกันเอ็ดเวิร์ด สมิธ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่สามารถ "จินตนาการถึงเงื่อนไขใดๆที่จะทำให้เรืออับปาง การต่อเรือในสมัยนี้นั้นดีกว่าอดีตมาก"
"ภูเขาน้ำแข็งด้านขวาข้างหน้า!"
ไททานิกเข้าสู่ตรอกภูเขาน้ำแข็ง
ก่อน ไททานิก จะชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง ผู้โดยสารส่วนใหญ่เข้านอนแล้ว และผู้บังคัญบัญชาในสะพานเดินเรือได้เปลี่ยนกะจากต้นเรือที่สอง ชาร์ล ไลทิลเลอร์ (Charles Lightoller) เป็นต้นเรือที่หนึ่ง วิลเลียม เมอร์ด็อก (William Murdoch) พนักงานเฝ้าระวัง เฟรดเดอริก ฟลีท (Frederick Fleet) และเรจินัลด์ ลี (Reginald Lee) ประจำในรังกาสูง 29 เมตร (95 ฟุต) เหนือดาดฟ้าเรือ อุณหภูมิอากาศลดลงจนใกล้ถึงจุดเยือกแข็ง และทะเลก็สงบอย่างสมบูรณ์ พันเอกอาร์ชิบัลด์ เกรซี่ (Archibald Gracie) หนึ่งในผู้รอดชีวิต เขียนบรรยายไว้ว่า "ทะเลเรียบเหมือนแก้วจนสะท้อนภาพดวงดาวออกมาได้อย่างชัดเจน" ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าทะเลที่สงบเป็นพิเศษนี้เป็นสัญญาณว่ามีก้อนน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียง
แม้ว่าอากาศจะแจ่มใส แต่เนื่องด้วยจันทร์ดับและทะเลก็สงบ ทำให้ระบุตำแหน่งของภูเขาน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงได้ยาก เพราะหากทะเลมีคลื่นแรง คลื่นที่ปะทะกับภูเขาน้ำแข็งจะทำให้พวกมันมองเห็นได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง ด้วยสถานการณ์สับสนวุ่นวายที่เซาแทมป์ตัน พนักงานเฝ้าระวังจึงไม่มีกล้องส่องทางไกล แต่ก็มีรายงานว่ากล้องส่องทางไกลจะไร้ประสิทธิภาพในความมืดที่มีเพียงแสงดาวและแสงจากตัวเรือเอง แต่กระนั้นก็ดี พนักงานเฝ้าระวังยังคงเฝ้าระวังอันตรายจากน้ำแข็งตามคำสั่งของไลทิลเลอร์ที่สั่งให้พนักงานเฝ้าระวังและลูกเรือคนอื่นๆ "มองออกไป ระวังน้ำแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กและชิ้นน้ำแข็ง"
เมื่อเวลา 23:30 น. ฟลีทและลีสังเกตเห็นหมอกเล็กน้อยที่เส้นขอบฟ้าเบื้องหน้า แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองกับเหตุการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าหมอกนี้เป็นภาพลวงตาที่เกิดจากน้ำเย็นพบกับอากาศร้อน - คล้ายกับภาพลวงตาของน้ำในทะเลทราย - เมื่อ ไททานิก เข้ามาในตรอกภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Alley) หมอกนี้ส่งผลให้เกิดเส้นขอบฟ้าที่สูงขึ้น ทำให้พนักงานเฝ้าระวังมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไป
ชน
เก้านาทีต่อมา เมื่อเวลา 23:39 น. ฟลีทจับภาพภูเขาน้ำแข็งในเส้นทางของ ไททานิก ได้ เขาสั่นระฆังเตือนสามครั้งและโทรศัพท์ถึงสะพานเดินเรือแจ้งแก่ต้นเรือที่หก เจมส์ มู้ดดี้ (James Moody) ฟลีทถาม "มีใครอยู่บ้างไหม?" มู้ดดี้ "มี คุณเห็นอะไร?" ฟลีทตอบ "ภูเขาน้ำแข็งด้านขวาข้างหน้า!" หลังจากขอบคุณฟรีท มู้ดดี้ส่งข้อความถึงเมอร์ด็อก เมอร์ด็อกสั่งนายกราบ โรเบิร์ต ฮิเชนส์ (Robert Hichens) ให้เปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ เชื่อกันว่าเมอร์ด็อกได้สั่ง "หักขวาเต็มตัว" ซึ่งจะส่งผลให้หมุนไปทางขวาจนสุด เพื่อพยายามที่จะทำให้เรือเลี้ยวไปทางซ้าย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเรืออังกฤษยุคนั้น แต่จะกลับทิศทางกันเมื่อเทียบกับการเลี้ยวเรือในปัจจุบัน และเขาเขายังสั่ง "ถอยหลังเต็มที่" บนเครื่องสั่งจักร
อ้างอิงจากต้นเรือที่สี่ โจเซฟ บ็อกซ์ฮอล (Joseph Boxhall) เมอร์ด็อกบอกกัปตันสมิธว่าเขากำลังพยายามที่จะ"หักหลบภูเขาน้ำแข็ง" โดยเขาพยายามแกว่งหัวเรือไปใกล้สิ่งกีดขวาง และแกว่งท้ายเรือเพื่อให้ปลายทั้งสองด้านของเรือหลีกเลี่ยงการชน แต่เกิดความล่าช้าในการกระทำตามคำสั่งทั้งสอง เนื่องด้วยกลไกการคัดท้ายด้วยไอน้ำใช้เวลา 30 วินาทีในการเปลี่ยนหางเสือเรือ และความซับซ้อนในการตั้งค่าเครื่องยนต์ให้ถอยกลับต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากกังหันตำแหน่งกลางไม่สามารถย้อนกลับได้ และทั้งกังหันและใบจักรมีตำแหน่งอยู่ด้านหน้าหางเสือเรือ ทำให้เมื่อหยุดใบจักรศักยภาพของหางเสือจะลดลง ดังนั้นจึงทำให้ความสามารถในการเลี้ยวของเรือลดลง หากเมอร์ด็อกเลี้ยวเรือขณะที่ยังรักษาความเร็วไว้ ไททานิก อาจหลบภูเขาน้ำแข็งได้ระยะห่างถึง 1 ฟุต
ในสถานการณ์ การหักเลี้ยวของ ไททานิก ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ให้หัวเรือชนกับก้อนน้ำแข็งได้ แต่ก็ทำให้เรือกระแทกกับภูเขาน้ำแข็งด้วยการแฉลบไป เดือยน้ำแข็งใต้น้ำขูดยาวไปทางด้านกราบขวาของเรือประมาณเจ็ดวินาที มีก้อนน้ำแข็งที่แตกออกจากส่วนบนของภูเขาน้ำแข็งตกลงบนดาดฟ้าเรือด้านหน้า ประมาณห้านาทีหลังการชน เครื่องยนต์ทุกเครื่องของ ไททานิก ก็ดับลง หัวเรือที่หัวไปทิศเหนือได้บ่ายหัวอย่างช้าๆไปทิศใต้ในกระแสน้ำแลบราดอร์
ผลของการชน
ผลของการชนกับภูเขาน้ำแข็งทำให้เกิดช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ตัวเรือ ไททานิก "มีความยาวไม่น้อยกว่า 300 ฟุต (91 เมตร) สูง 10 ฟุต (3 เมตร) จากระดับกระดูกงู" ในการไต่สวนของอังกฤษหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เอ็ดเวิร์ด ไวล์ดิ้ง (Edward Wilding) (หัวหน้าวิศวกรรมต่อเรือแห่งฮาร์แลนด์และวูล์ฟ) คำนวณบนพื้นฐานจากการสังเกตการณ์จากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในห้องเรือด้านหน้าที่เกิดขึ้นภายในสี่สิบนาทีหลังจากการชน ยืนยันว่าพื้นที่ช่องเปิดรั่วของเรือ "ประมาณ 12 ตารางฟุต (1.1 ตารางเมตร)" นอกจากนี้เขายังระบุด้วยว่า "ฉันเชื่อว่าช่องเปิดต้องไม่ยาวต่อเนื่อง" แต่เป็นช่องเปิดหลายช่อง ยาวออกไปประมาณ 300 ฟุต ซึ่งเป็นเหตุผลของน้ำท่วมในหลายๆห้องเรือ จากการสำรวจซากเรือด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสมัยใหม่ พบว่าความเสียหายที่แท้จริงบนตัวเรือนั้น คล้ายกับรายงานของไวล์ดิ้ง ซึ่งประกอบด้วยช่องเปิดแคบที่เกิดจากการชนหกช่อง คิดเป็นพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 12 ถึง 13 ตารางฟุต (1.1 ถึง 1.2 ตารางเมตร) อ้างอิงกับ พอล เค. แมทเธียสส์ (Paul K. Matthias) ที่ทำการวัดความเสียหาย ความเสียหายประกอบด้วย "มีลำดับของความผิดรูปในด้านกราบขวาที่ไม่ต่อเนื่องยาวตามตัวเรือ ... ประมาณ 10 ฟุต (3 เมตร) เหนือท้องเรือ"
ช่องเปิดที่ยาวที่สุดซึ่งยาวประมาณ 39 ฟุต (12 เมตร) ปรากฏยาวไปตามเส้นแผ่นตัวเรือ นี่แสดงให้เห็นว่าหมุดเหล็กตามแนวตะเข็บของแผ่นหลุดออกทำให้เกิดช่องว่างแคบๆที่น้ำเข้าตัวเรือได้ วิศวกรจากฮาร์แลนด์และวูล์ฟ (Harland and Wolff) ผู้สร้าง ไททานิก ได้เสนอสถานการณ์ที่น่าจะเป็นนี้ในการไต่สวนของกรรมาธิการเหตุอับปางแห่งสหราชอาณาจักรหลังจากเกิดภัยพิบัติ แต่มุมมองของเขาไม่มีใครเชื่อถือ โรเบิร์ต บาลลาร์ด ผู้ค้นพบซากเรือ ไททานิก ได้ให้ความเห็นว่าเรือที่ประสบเหตุเนื่องจากรอยแตกนั้น "เป็นผลพลอยได้จากมนต์ขลังของไททานิก ไม่มีใครเชื่อว่าเรือใหญ่ลำนี้จะอับปางด้วยเสี้ยนไม้" ความผิดพลาดในตัวเรืออาจเป็นปัจจัยร่วม ชิ้นส่วนของแผ่นเหล็กที่กู้คืนมาดูเหมือนจะแตกหักเป็นชิ้นเมื่อกระทบกับภูเขาน้ำแข็งโดยไม่โค้งงอ
แผ่นเหล็กในส่วนกลาง 60 เปอร์เซ็นต์ของตัวเรือถูกยึดด้วยหมุดเหล็กเหนียวสามแถว แต่แผ่นเหล็กที่หัวเรือและท้ายเรือถูกยึดติดด้วยหมุดเหล็กอ่อนสองแถว ซึ่งตามความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุทิม โฟค (Tim Foecke) และเจนนิเฟอร์ แมคคาร์ตี้ (Jennifer McCarty) - หมุดเข้าใกล้กับขีดจำกัดความเค้นก่อนเกิดการชน "Best" หรือหมุดเหล็ก No. 3 มีกากแร่ในระดับสูงทำให้มีความเปราะมากกว่า "Best-Best" หรือหมุดเหล็ก No. 4 และมีแนวโน้มที่จะแตกหักเมื่อเกิดความเค้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศเย็นจัด ทอม แมคคลัสกี้ (Tom McCluskie) นักจดหมายเหตุเกษียณอายุของฮาร์แลนด์และวูล์ฟ ชี้ให้เห็นว่าเรือ โอลิมปิก ซึ่งเป็นเรือพี่น้องกับ ไททานิก ใช้หมุดเหล็กชนิดเดียวกัน และให้บริการโดยไม่เกิดอุบัติเหตุเป็นเวลาเกือบ 25 ปี รอดพ้นจากการชนหนักหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการถูกกระแทกโดยเรือลาดตระเวนอังกฤษ เมื่อ โอลิมปิก ชนและจมเรืออู อู 103 ทางหัวเรือ ทวนหัวบิด แผ่นเหล็กตัวเรือทางกราบขวาโค้งงอ แต่ไม่ทำลายความมั่นคงของตัวเรือ
เหนือเส้นน้ำลึกมีหลักฐานของการชนกันเพียงเล็กน้อย บริกรในห้องรับประทานอาหารชั้นเฟิร์สต์คลาสสังเกตเห็นความสั่นสะเทือน ซึ่งพวกเขาคิดว่าอาจเกิดจากปลดใบจักร ผู้โดยสารหลายคนรู้สึกว่าถูกกระแทกหรือรู้ถึงความสั่นสะเทือน - "ราวกับว่าหินหลายพันก้อนถล่มลงมา" ตามที่ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งกล่าวเอาไว้ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าเรือชั้นล่างสุดซึ่งใกล้กับจุดที่เกิดการปะทะมากที่สุด จะรู้สึกคล้ายกันแต่รุนแรงกว่า พนักงานหล่อลื่นเครื่องยนต์ วอลเตอร์ เฮิร์สต์ (Walter Hurst) จำได้ว่า "ตื่นขึ้นจากการชนบดยาวไปทางกราบขวา ไม่มีใครตื่นตกใจมาก แต่รู้ว่าเราชนอะไรบางอย่าง" พนักงานดับเพลิง จอร์จ เคมมิซ (George Kemish) ได้ยิน "เสียงโครมครามและเสียงฉีกขาด" จากตัวเรือด้านกราบขวา
น้ำไหลเข้าท่วมเรือในทันทีด้วยในอัตราเร็วประมาณ 7.1 ตันต่อวินาทีซึ่งเร็วกว่าที่เรือจะสูบออกได้ถึงสิบห้าเท่า รองต้นกล เจ. เอช. เฮชเซ็ธ (J. H. Hesketh) และหัวหน้าผู้ควบคุมเตาไฟ เฟรดเดอริก บาร์เร็ตต์ (Frederick Barrett) ทั้งคู่ถูกกระแทกด้วยน้ำที่เย็นเยือกที่พุ่งเข้ามาจากรอยแยกในห้องหม้อไอน้ำหมายเลข 6 และหนีออกไปได้ก่อนที่ประตูผนึกน้ำจะถูกปิด นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับเจ้าหน้าที่วิศวกรรม หม้อไอน้ำยังคงเต็มไปด้วยไอน้ำร้อนแรงดันสูง และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระเบิดหากสัมผัสกับน้ำทะเลที่เย็นเยือกที่ไหลเข้าท่วมห้องหม้อไอน้ำ ผู้ควบคุมเตาไฟและพนักงานดับเพลิงได้รับคำสั่งให้ลดไฟและระบายหม้อไอน้ำทิ้ง โดยส่งไอน้ำปริมาณมากขึ้นไปในท่อระบาย เมื่อเสร็จงานน้ำได้ท่วมลึกถึงเอวแล้ว
ดาดฟ้าเรือชั้นล่างสุดของ ไททานิก แบ่งเป็น 16 ห้อง แต่ละห้องแบ่งแยกจากกันด้วยผนังกั้นห้องยาวไปตามความกว้างของตัวเรือ มีทั้งสิ้น 15 ผนัง แต่ละผนังกั้นสูงถึงดาดฟ้าเรือชั้น E สูง 11 ฟุต (3.4 เมตร) เหนือเส้นน้ำลึก สองห้องใกล้หัวเรือและหกห้องใกล้ท้ายเรือ ผนังกั้นสูงขึ้นไปถึงดาดฟ้าเรืออีกชั้น - ชั้น D
แต่ละผนังกั้นห้องสามารถปิดผนึกด้วยประตูผนึกน้ำ ห้องเครื่องยนต์และห้องหม้อไอน้ำบนท้องเรือชั้นในมีประตูเป็นแบบแนวดิ่งที่สามารถควบคุมระยะไกลได้จากสะพานเดินเรือ ปิดโดยอัตโนมัติโดยทุ่นลอยถ้าน้ำท่วม หรือปิดโดยลูกเรือเอง ประตูจะใช้เวลาปิดประมาณ 30 วินาที สัญญาณเตือนภัยและทางหลบหนีอื่นได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อไม่ให้ลูกเรือติดอยู่ในห้อง เหนือท้องเรือชั้นในบนดาดฟ้าเรือชั้นท้องเรือ, ดาดฟ้าเรือชั้น F และ ดาดฟ้าเรือชั้น E เป็นประตูปิดในแนวขวางและปิดด้วยมือ ประตูสามารถปิดที่ตัวประตูเองหรือจากดาดฟ้าเรือด้านบน
แม้ว่าผนังกั้นห้องผนึกน้ำจะอยู่เหนือเส้นน้ำลึก แต่ตัวเรือก็ไม่ได้ปิดผนึกที่ดาดฟ้าเรือด้านบน ถ้ามีน้ำท่วมในหลายห้อง หัวเรือจะจมลึกลงไปในน้ำ และน้ำจะล้นทะลักจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ถัดไปตามลำดับ คล้ายกับน้ำที่ล้นไปที่ด้านบนของถาดน้ำแข็งเมื่อเอียงถาด ความเสียหายที่เกิดกับ ไททานิก เกิดที่ห้องหัวเรือ ห้องว่างสามห้องถัดไป และห้องหม้อไอน้ำหมายเลข 6 รวมทั้งสิ้น 5 ห้องเรือ ไททานิก ได้รับการออกแบบให้ยังลอยอยู่ได้โดยมีห้องเรือสองห้องถูกน้ำท่วมและเรือจะไม่ล่มถ้าสี่ห้องแรกแตกรั่ว ด้วยห้าห้องเรือที่น้ำท่วมทำให้น้ำท่วมสูงกว่าผนังกั้นห้องไหลท่วมเรือต่อไป
กัปตันสมิธรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของการชนจากในห้องเคบินของเขาและมาถึงสะพานเดินเรือทันที เมื่อทราบถึงสถานการณ์เขาเรียกโทมัส แอนดรูวส์ (Thomas Andrews) ผู้สร้างไททานิค ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวิศวกรจากฮาร์แลนด์และวูล์ฟที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การเดินทางเที่ยวแรกของเรือ เรือเอียงห้าองศาไปทางกราบขวาและหัวเรือจมลงสององศาในห้านาทีหลังการชน สมิธและแอนดรูว์ลงไปด้านล่างและพบว่าห้องเก็บสัมภาระด้านหน้า ห้องไปรษณีย์ และสนามสควอชถูกน้ำท่วม ในขณะที่ห้องหม้อไอน้ำหมายเลข 6 น้ำท่วมลึก 14 ฟุต (4.3 เมตร) และทะลักเข้าสู่หม้อไอน้ำหมายเลข 5 และลูกเรือกำลังดิ้นรนสูบน้ำออก
ภายใน 45 นาทีหลังการชน น้ำอย่างน้อย 13,700 ตันไหลเข้าสู่เรือ นี่เป็นเรื่องที่มากเกินไปที่อับเฉาเรือและปั๊มน้ำท้องเรือของ ไททานิก จะรับมือไหว ความสามารถในการสูบน้ำของปั๊มรวมกันมีทั้งหมดเพียง 1,700 ตันต่อชั่วโมง แอนดรูว์แจ้งกัปตันว่าห้าห้องแรกถูกน้ำท่วม ดังนั้น ไททานิก ถึงจุดจบแล้ว จากการประเมินของเขา เรือจะสามารถลอยตัวได้ไม่เกินสองชั่วโมง
นับจากเวลาของการชนไปจนถึงช่วงเวลาที่เรือจม น้ำอย่างน้อย 36,000 ตัน ไหลท่วมสู่ ไททานิก ทำให้ของเรือเพิ่มขึ้นเป็นเกือบสองเท่าจาก 49,100 ตัน เป็นมากกว่า 84,000 ตัน น้ำไม่ได้ท่วมในอัตราคงที่และไม่กระจายไปทั่วทั้งเรืออย่างสม่ำเสมอเนื่องจากโครงสร้างของห้องเรือที่ถูกน้ำท่วม การที่เรือเอียงไปทางกราบขวาเนื่องจากน้ำท่วมไม่สมมาตรที่กราบขวา น้ำได้ไหลเทลงทางเดินที่ด้านล่างของเรือ เมื่อทางเดินถูกน้ำท่วมเต็ม การเอียงกลับมาสมดุล แต่ภายหลังเรือกลับมาเอียงไปทางกราบซ้ายถึงสิบองศาเมื่อเกิดน้ำท่วมที่ไม่สมมาตรในด้านนั้น
มุมลดของ ไททานิก ค่อนข้างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากศูนย์องศาเป็นประมาณสี่องศาครึ่งในช่วงชั่วโมงแรกหลังจากการชน แต่อัตราที่เรือลดลงช้าเป็นอย่างมากในชั่วโมงที่สอง ลดลงเพียงประมาณห้าองศาเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้หลายคนบนเรือมีความหวังว่าเรืออาจลอยอยู่นานพอที่พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือ เมื่อเวลา 1:30 น. อัตราการจมลงของหัวเรือเพิ่มขึ้นจนกระทั่ง ไททานิก มีมุมลดประมาณสิบองศา เมื่อเวลาประมาณ 02:15 น. ไททานิก จมลงในน้ำอย่างรวดเร็วเมื่อน้ำไหลเข้าไปในส่วนที่ไม่มีการท่วมมาก่อนหน้านี้ผ่านทางปากระวางดาดฟ้าเรือ เรือจมหายไปจากสายตาที่เวลา 02:20 น.
15 เมษายน 1912
เตรียมพร้อมสละเรือ
เมื่อเวลา 00:05 น. ของวันที่ 15 เมษายน กัปตันสมิธสั่งให้เปิดใช้เรือชูชีพและรวมพลผู้โดยสาร นอกจากนี้ เขายังสั่งให้พนักงานวิทยุเริ่มส่งข้อความขอความช่วยเหลือ ข้อความดังกล่าวได้ระบุต่ำแหน่งของเรือผิดพลาดโดยระบุว่าอยู่ด้านตะวันตกของแนวน้ำแข็ง ทำให้ผู้ช่วยเหลือเดินทางไปยังตำแหน่งที่ผิดไปประมาณ 13.5 ไมล์ทะเล (15.5 ไมล์; 25.0 กม.) ใต้ดาดฟ้าเรือ น้ำได้ไหลลงสู่จุดต่ำสุดของเรือ เช่น ห้องไปรษณีย์ที่ถูกน้ำท่วม ที่ซึ่งพนักงานคัดแยกจดหมายพยายามรักษาไปรษณีย์ 400,000 ชิ้นบน ไททานิก อย่างสุดความสามารถ ในที่อื่นๆ สามารถได้ยินเสียงอากาศที่ถูกน้ำเข้าแทนที่ เหนือพื้นที่เหล่านั้น บริกรได้เดินไปตามทางจากประตูสู่ประตู เพื่อปลุกผู้โดยสารและลูกเรือที่นอนหลับและบอกให้พวกเขาขึ้นไปที่ดาดฟ้าเรือ เนื่องจาก ไททานิก ไม่มีระบบเสียงประกาศสาธารณะ
การแจ้งรวมพลขึ้นกับชั้นของผู้โดยสารเป็นอย่างมาก บริกรชั้นเฟิร์สต์คลาสรับผิดชอบเพียงสองสามห้องเท่านั้น ขณะที่ผู้รับผิดชอบผู้โดยสารชั้นสองและชั้นสามนั้นต้องจัดการคนจำนวนมาก บริกรชั้นเฟิร์สต์คลาสได้เข้าช่วยจัดเก็บกระเป๋าเดินทางและนำขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือด้วย แต่บริกรชั้นสองและสามส่วนใหญ่ทำได้เพียงเปิดประตูและบอกผู้โดยสารให้สวมเสื้อชูชีพและขึ้นไปด้านบน ในชั้นสามผู้โดยสารส่วนใหญ่จะถูกทิ้งไว้ทันทีเนื่องด้วยมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องจัดการ หลังจากได้รับแจ้งถึงความจำเป็นที่จะต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ ผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนมากลังเลที่จะปฏิบัติตาม ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเกิดปัญหาขึ้น หรือขออยู่ในเรือที่อบอุ่นดีกว่าออกไปเผชิญอากาศที่หนาวเหน็บยามค่ำคืน เหล่าผู้โดยสารไม่ได้รับแจ้งเลยว่าเรือกำลังจม แต่มีไม่กี่คนที่สังเกตเห็นว่าเรือเอียง
ราว 00:15 น. บริกรสั่งให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพ ซึ่งผู้โดยสารจำนวนมากมองว่าเป็นเรื่องตลก ผู้โดยสารบางกลุ่มได้ร่วมเล่นฟุตบอลโดยใช้ชิ้นน้ำแข็งที่ตอนนี้ตกเกลื่อนไปทั่วส่วนหน้าของดาดฟ้าเรือต่างลูกฟุตบอล บนดาดฟ้าเรือขณะที่ลูกเรือเริ่มเตรียมเรือชูชีพ เสียงไอน้ำแรงดันสูงที่ระบายออกจากหม้อไอน้ำและปล่อยออกมาทางปล่องเรือด้านบนดังเป็นอย่างมา จนยากที่จะได้ยินเสียงอะไรอื่นอีก ลอว์เรนซ์ บีส์ลีย์ (Lawrence Beesley) บรรยายเสียงนี้ไว้ว่า "เสียงที่ดังกึกก้องและเสียงอึกทึกที่ทำให้การสนทนาเป็นเรื่องยาก ให้จินตนาการว่าหัวรถจักร 20 หัวปล่อยไอน้ำในคีย์เสียงต่ำ นั่นแหละคือเสียงที่ไม่พึงประสงค์ที่เราประสบในขณะที่เราปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ" เสียงนั้นดังมากจนลูกเรือต้องใช้สัญญาณมือเพื่อสื่อสาร
ไททานิก มีเรือชูชีพทั้งสิ้น 20 ลำ ประกอบไปด้วยเรือไม้ 16 ลำบน (เสาแขวนเรือ) ข้างลำเรือด้านละ 8 ลำ และเรือชูชีพพับได้ 4 ลำที่พื้นเป็นพื้นไม้และด้านข้างเป็นผ้าใบ ซึ่งเรือชูชีพพับได้ถูกเก็บรักษาในลักษณะที่พับไว้และคว่ำลง ก่อนใช้งานต้องทำการติดตั้งและย้ายไปยังหลักเดวิทเพื่อปล่อยเรือ สองลำถูกเก็บไว้ใต้เรือไม้ อีกสองลำถูกเก็บไว้บนห้องพักของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสองลำหลังทำการปล่อยเรือได้ยากมากเนื่องจากแต่ละลำมีน้ำหนักหลายตันและต้องใช้แรงงานคนเพื่อนำลงไปที่ดาดฟ้าเรือ โดยเฉลี่ยแล้วเรือชูชีพสามารถรองรับได้ถ 68 คนต่อลำ และเมื่อรวมกันแล้วสามารถรองรับได้ 1,178 คน เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนคนบนเรือ หรือหนึ่งในสามของจำนวนผู้โดยสารสูงสุดที่เรือได้รับอนุญาต ปัญหาการขาดแคลนเรือชูชีพไม่ได้เกิดจากการไม่มีพื้นที่หรือเพราะค่าใช้จ่าย ไททานิก ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ ซึ่งเพียงพอสำหรับทุกคนบนเรือและราคาของเรือชูชีพ 32 ลำ มีราคาอยู่ที่ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (เทียบเท่ากับ 424,000 ดอลลาร์ในปี 2019) ซึ่งคิดเป็นเศษของเงิน 7.5 ล้านดอลลาร์ที่บริษัทใช้ไปกับ ไททานิก เท่านั้น
ในเวลานั้น เรือชูชีพมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารจากเรือที่ประสบปัญหาไปยังเรือที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เรือเดินสมุทรจะมีเรือชูชีพน้อยกว่าจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด จากเรือเดินสมุทรอังกฤษ 39 ลำที่มีความยาวมากกว่า 10,000 ตัน มีถึง 33 ลำที่มีเรือชูชีพน้อยเกินไปที่จะรองรับทุกคนบนเรือ ไวต์สตาร์ไลน์ต้องการให้เรือมีดาดฟ้าพักผ่อนที่กว้างพร้อมมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลโดยไม่มีแถวเรือชูชีพมาบดบัง
กัปตันสมิธเป็นนักเดินเรือที่มีประสบการณ์ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลาถึง 40 ปีในทะเลซึ่งรวมถึง 27 ปีในการเป็นผู้บังคับบัญชาด้วย เหตุการณ์นี้เป็นวิกฤตครั้งแรกในอาชีพของเขาและเขารู้ดีว่าแม้ว่าจะบรรทุกคนเต็มลำเรือชูชีพทั้งหมด แต่ก็จะมีคนมากกว่าหนึ่งพันคนที่ยังคงเหลืออยู่บนเรือขณะที่เรือจมลง ซึ่งคนเหล่านี้มีโอกาสรอดเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่มีเลย บางแหล่งข้อมูลอ้างว่า เมื่อกัปตันสมิธตระหนักถึงความร้ายแรงของเหตุกรณ์ที่เกิดขึ้น สมิธถึงกับตัวแข็งตะลึงงัน และไม่ได้เข้าช่วยเหลือในการป้องกันการสูญเสียชีวิต แต่ตามแหล่งข้อมูลอื่น กัปตันสมิธมีความรับผิดชอบและดำเนินการอย่างเต็มที่ในช่วงวิกฤต หลังจากการชน กัปตันสมิธได้เริ่มการตรวจสอบความเสียหายทันที โดยทำการตรวจสอบถึงสองครั้งด้านล่างดาดฟ้าเรือเพื่อค้นหาความเสียหาย และให้พนักงานวิทยุเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จะต้องขอความช่วยเหลือ เขาสั่งให้ลูกเรือของเขาเริ่มเตรียมเรือชูชีพสำหรับการอพยพและให้ผู้โดยสารสวนชูชีพก่อนที่เขาจะได้รับแจ้งจากแอนดรูวส์ว่าเรือกำลังจะจมเสียอีก กัปตันสมิธเข้าสังเกตการรอบ ๆ ดาดฟ้าเรือ ตรวจตราดูแลและช่วยเหลือผู้โดยสารลงเรือชูชีพ ปฏิสัมพันธ์กับผู้โดยสาร และสร้างความสมดุลระหว่างความเร่งด่วนในการอพยพและพยายามห้ามปรามความตื่นตระหนก
ต้นเรือที่สี่ โจเซฟ บ็อกซ์ฮอล ได้รับแจ้งจากกัปตันสมิธราว 12:25 ว่าเรือกำลังจะจม ขณะที่นายกราบ จอร์จ โรว์ (George Rowe) ไม่ได้รับรู้ถึงเหตุ เมื่อการอพยพเริ่มขึ้น เขาจึงโทรศัพท์ไปที่สะพานเดินเรือจากสถานีเฝ้าระวังเพื่อถามว่าทำไม เขาเพิ่งเห็นเรือชูชีพแล่นผ่านไป ลูกเรือไม่พร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากได้รับการฝึกมาเพียงเล็กน้อย ลูกเรือได้รับการฝึกการซ้อมหนีภัยบนเรือเพียงครั้งเดียวขณะที่เรือเทียบท่าอยู่ที่เซาแทมป์ตัน ซึ่งเป็นการฝึกอย่างหยาบๆ ที่ใช้เรือชูชีพเพียงสองลำ แต่ละลำมีเจ้าหน้าที่หนึ่งคนและชายสี่คนพายเรือไปรอบๆท่าเรือเพียงไม่กี่นาทีก่อนจะกลับไปที่เรือ นอกจากนี้ เรือชูชีพที่ควรจะมีเสบียงฉุกเฉินนั้น ผู้โดยสาร ไททานิก กลับพบว่ามีเสบียงเพียงบางส่วนเท่านั้น จากความพยายามของเชฟขนมอบ ชาร์ลส์ โจจิน (Charles Joughin) และพนักงาน ไม่มีการซ้อมหนีภัยหรือซ้อมดับเพลิงตั้งแต่ ไททานิก ออกจากเซาแธมป์ตัน มีกำหนดการฝึกซ้อมหนีภัยในเช้าวันอาทิตย์ก่อนที่เรือจะอับปาง แต่กัปตันสมิธได้ยกเลิกโดยไม่ทราบสาเหตุ
การออกเดินทางของเรือชูชีพ
เรือชูชีพลำสุดท้าย
นาทีสุดท้ายก่อนอับปาง
วาระสุดท้ายของ ไททานิก
ผู้โดยสารและลูกเรือในน้ำ
การช่วยชีวิตและการออกเดินทาง
ผู้รอดชีวิตของเรือ ไททานิก ได้รับการช่วยเหลือในเวลาประมาณ 04:00 น. วันที่ 15 เมษายนโดยอาร์เอ็มเอส คาร์เพเทีย ที่แล่นด้วยความเร็วเต็มที่มาตลอดคืนบนเส้นทางเสี่ยงอันตราย ซึ่งเรือต้องเลี้ยวหลบภูเขาน้ำแข็งหลายลูกตลอดเส้นทางมายังจุดอับปาง แสงไฟจาก คาร์เพเทีย ถูกพบครั้งแรกราวเวลา 03:30 น. ซึ่งสร้างกำลังใจให้ผู้รอดชีวิตเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าที่ทุกคนจะถูกพาขึ้นเรือ
การบาดเจ็บล้มตายและผู้รอดชีวิต
จำนวนผู้เสียชีวิตจากการอับปางยังไม่ชัดเจนเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ที่เกิดจากความสับสนเกี่ยวกับรายชื่อผู้โดยสาร จากรายชื่อของผู้ที่ยกเลิกการเดินทางในนาทีสุดท้าย และการที่มีผู้โดยสารหลายรายเดินทางด้วยนามแฝงด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งอาจถูกนับรายชื่อสองครั้งในรายชื่อผู้เสียชีวิต มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ประมาณ 1,490 ถึง 1,635 คน ตัวเลขมาจากรายงานภัยพิบัติของกระทรวงพาณิชย์อังกฤษ
ผู้โดยสาร | ประเภท | จำนวนผู้โดยสาร | อัตราร้อยละเทียบกับทั้งหมด | จำนวนผู้รอดชีวิต | จำนวนเสียชีวิต | อัตราร้อยละผู้รอดชีวิต | อัตราร้อยละเสียชีวิต | อัตราร้อยละผู้รอดชีวิตเทียบกับทั้งหมด | อัตราร้อยละผู้เสียชีวิตเทียบกับทั้งหมด |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เด็ก | เฟิร์สต์คลาส | 6 | 0.3% | 5 | 1 | 83% | 17% | 0.2% | 0.04% |
ชั้นสอง | 24 | 1.1% | 24 | 0 | 100% | 0% | 1.1% | 0% | |
ชั้นสาม | 79 | 3.6% | 27 | 52 | 34% | 66% | 1.2% | 2.4% | |
รวม | 109 | 5% | 56 | 53 | 51% | 49% | 2.5% | 2.4% | |
ผู้หญิง | เฟิร์สต์คลาส | 144 | 6.5% | 140 | 4 | 97% | 3% | 6.3% | 0.2% |
ชั้นสอง | 93 | 4.2% | 80 | 13 | 86% | 14% | 3.6% | 0.6% | |
ชั้นสาม | 165 | 7.4% | 76 | 89 | 46% | 54% | 3.4% | 4.0% | |
ลูกเรือ | 23 | 1.0% | 20 | 3 | 87% | 13% | 0.9% | 0.1% | |
รวม | 425 | 19.1% | 316 | 109 | 74% | 26% | 14.2% | 4.9% | |
ผู้ชาย | เฟิร์สต์คลาส | 175 | 7.9% | 57 | 118 | 33% | 67% | 2.6% | 5.3% |
ชั้นสอง | 168 | 7.6% | 14 | 154 | 8% | 92% | 0.6% | 6.9% | |
ชั้นสาม | 462 | 20.8% | 75 | 387 | 16% | 84% | 3.3% | 17.4% | |
ลูกเรือ | 885 | 39.8% | 192 | 693 | 22% | 78% | 8.6% | 31.2% | |
รวม | 1,690 | 75.9% | 338 | 1,352 | 20% | 80% | 15.2% | 60.8% | |
รวม | All | 2,224 | 100% | 710 | 1,514 | 32% | 68% | 31.9% | 68.1% |
มีผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติน้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนคนบนเรือ ไททานิก ผู้รอดชีวิตบางคนเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นานจากการบาดเจ็บและการติดเชื้อ ทำให้มีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเรือ คาร์เพเทีย หลายคนเสียชีวิต จากตารางมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 49 % ผู้หญิง 26 % ผู้ชาย 82 % และลูกเรือ 78 % อีกทั้ง ตัวเลขดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในอัตราการรอดชีวิตระหว่างผู้ชายและผู้หญิง และผู้โดยสารชั้นต่างๆบนเรือ ไททานิก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและเด็ก แม้ว่าผู้หญิงชั้นเฟิร์สต์คลาสและชั้นสอง (รวมกัน) เสียชีวิตไม่ถึง 10 % แต่ผู้หญิงในชั้นสามเสียชีวิตถึง 54 % ในทำนองเดียวกัน เด็กชั้นเฟิร์สต์คลาสห้าในหกคนและเด็กชั้นสองทั้งหมดรอดชีวิต แต่เด็กในชั้นสาม 52 ใน 79 คนเสียชีวิต เด็กชั้นเฟิร์สต์คลาสที่เสียชีวิตคือ ลอเรน แอลลิสัน (Loraine Allison) อายุ 2 ปี ทั้งนี้ การสูญเสียที่หนักที่สุดคือผู้โดยสารชายชั้นสอง มีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 92 % นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เลี้ยงสามตัวรอดชีวิตจากการอับปาง
เชิงอรรถ
- ในช่วงเวลาของการชน นาฬิกาของ ไททานิก ถูกตั้งไว้ล่วงหน้า 2 ชั่วโมง 2 นาทีจากเขตเวลาตะวันออก และ 2 ชั่วโมง 58 นาทีหลังเวลามาตรฐานกรีนิช เวลาเดินเรือถูกตั้งเวลา ณ เที่ยงคืน 13–14 เมษายน 1912 และขึ้นกับการคาดการณ์ตำแหน่งของ ไททานิก ณ เที่ยงวันของวันที่ 14 เมษายน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการสังเกตดวงดาวในตอนค่ำของวันที่ 13 เมษายน ซึ่งจะปรับโดยการนำร่องโดยใช้การคำนวณ (dead reckoning) แต่เนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น นาฬิกาของไททานิกจึงไม่ได้ปรับเวลา ณ เที่ยงคืนของวันที่ 14-15 เมษายน
- เรือลำที่สามคือ อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก ซึ่งไม่เคยประจำการเป็นเรือโดยสาร แต่ประจำการเป็นเรือพยาบาล เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก (ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1)
- วิทยุโทรเลขหรือที่รู้จักกันในชื่อโทรเลขไร้สายในยุคนั้น
- growler: "ภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็กหรือแพน้ำแข็งที่เกือบมองไม่เห็นบนผิวน้ำ"
- ถึงแม้ว่าภายหลังจะความเชื่ออย่างเช่นใน ภาพยนตร์ไททานิกปี 1997 ว่า ไททานิก ไม่ได้พยายามสร้างสถิติความเร็วในการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ไวต์สตาร์ไลน์นั้นตัดสินใจที่จะไม่แข่งขันกับคู่แข่งอย่างคูนาร์ดไลน์ด้วยความเร็ว แต่จะมุ่งเน้นแข่งขันด้วยขนาดและความหรูหราแทน
- เหตุการณ์ที่ยืนยันหลักการนี้ในขณะที่ ไททานิก อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือ เรือ อาร์เอ็มเอส รีพับบลิก ของไวต์สตาร์ไลน์เกิดอุบัติเหตุชนกันและอับปางลง แม้ว่าเรือจะมีเรือชูชีพไม่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารทุกคน แต่ผู้โดยสารก็รอดชีวิตทั้งหมด เพราะเรือสามารถลอยอยู่ได้นานพอที่จะย้ายผู้โดยสารทั้งหมดไปยังเรือที่มาช่วยเหลือ
อ้างอิง
- Halpern 2011, p. 78.
- Hutchings & de Kerbrech 2011, p. 37.
- Butler 1998, p. 10.
- Butler 1998, pp. 16–20.
- . Federal Reserve Bank of Minneapolis. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 เมษายน 2023. สืบค้นเมื่อ 1 มกราคม 2020.
- Bartlett 2011, p. 67.
- Bartlett 2011, p. 71.
- Bartlett 2011, p. 76.
- Bartlett 2011, p. 77.
- Butler 1998, p. 238.
- Lord 1987, p. 83.
- Butler 1998, pp. 27–28.
- Howells 1999, p. 95.
- Bartlett 2011, pp. 43–44.
- Bartlett 2011, p. 49.
- Fire Down Below – by Samuel Halpern. Retrieved 7 January 2017.
- Halpern & Weeks 2011, pp. 122–26.
- Halpern 2011, p. 80.
- Ryan 1985, p. 8.
- Ballard 1987, p. 199.
- Ryan 1985, p. 9.
- Barczewski 2006, p. 191.
- Ryan 1985, p. 10.
- Ryan 1985, p. 11.
- Bartlett 2011, p. 24.
- Mowbray 1912, p. 278.
- Barczewski 2006, p. 13.
- Gracie 1913, p. 247.
- Halpern 2011, p. 85.
- Eaton & Haas 1987, p. 19.
- Brown 2000, p. 47.
- Barratt 2010, p. 122.
- Broad, William J. (9 April 2012). "A New Look at Nature's Role in the Titanic's Sinking". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 15 April 2018.
- Lord 2005, p. 2.
- Eaton & Haas 1994, p. 137.
- Brown 2000, p. 67.
- Barczewski 2006, p. 194.
- Halpern & Weeks 2011, p. 100.
- Halpern 2011, p. 94.
- Hoffman & Grimm 1982, p. 20.
- "Testimony of Edward Wilding". สืบค้นเมื่อ 6 October 2014.
- Broad 1997.
- Ballard 1987, p. 25.
- Zumdahl & Zumdahl 2008, p. 457.
- Materials Today 2008.
- McCarty & Foecke 2012, p. 83.
- Broad 2008.
- Verhoeven 2007, p. 49.
- Ewers 2008.
- Mills 1993, p. 46.
- "Testimony of Mrs J Stuart White at the US Inquiry". สืบค้นเมื่อ 1 May 2017.
- Butler 1998, pp. 67–69.
- Barratt 2010, p. 151.
- Barratt 2010, p. 156.
- Aldridge 2008, p. 86.
- Ballard 1987, p. 71.
- Barczewski 2006, p. 18.
- Mersey 1999.
- Ballard 1987, p. 22.
- Barczewski 2006, p. 147.
- Butler 1998, p. 71.
- Butler 1998, p. 72.
- Halpern & Weeks 2011, p. 112.
- Barczewski 2006, p. 148.
- Halpern & Weeks 2011, p. 106.
- Halpern & Weeks 2011, p. 116.
- Halpern & Weeks 2011, p. 118.
- Halpern & Weeks 2011, p. 109.
- Barratt 2010, p. 131.
- Bartlett 2011, p. 120.
- Bartlett 2011, pp. 118–119.
- Barczewski 2006, p. 20.
- Bartlett 2011, p. 121.
- Bartlett 2011, p. 126.
- Bartlett 2011, p. 116.
- Beesley 1960, pp. 32–33.
- Bartlett 2011, p. 124.
- Lord 1987, p. 90.
- Barczewski 2006, p. 21.
- Bartlett 2011, p. 123.
- Hutchings & de Kerbrech 2011, p. 112.
- 1634–1699: McCusker, J. J. (1997). How Much Is That in Real Money? A Historical Price Index for Use as a Deflator of Money Values in the Economy of the United States: Addenda et Corrigenda (PDF). . 1700–1799: McCusker, J. J. (1992). How Much Is That in Real Money? A Historical Price Index for Use as a Deflator of Money Values in the Economy of the United States (PDF). . 1800–present: Federal Reserve Bank of Minneapolis. "Consumer Price Index (estimate) 1800–". สืบค้นเมื่อ January 1, 2020.
- Hutchings & de Kerbrech 2011, p. 116.
- Chirnside 2004, p. 29.
- Bartlett 2011, p. 30.
- Marshall 1912, p. 141.
- Butler 1998, pp. 250–252.
- Cox 1999, pp. 50–52.
- Fitch, Layton & Wormstedt 2012, pp. 162–163.
- Fitch, Layton & Wormstedt 2012, p. 183.
- Bartlett 2011, p. 106.
- Mowbray 1912, p. 279.
- Aldridge 2008, p. 47.
- Bartlett 2011, p. 238.
- Butler 1998, p. 239.
- Lord 1976, p. 197.
- Mersey 1999, pp. 110–11.
- Eaton & Haas 1994, p. 179.
- Howells 1999, p. 94.
- Copping, Jasper (19 January 2014). "Lost child of the Titanic and the fraud that haunted her family". The Telegraph. จากแหล่งเดิมเมื่อ 16 June 2018. สืบค้นเมื่อ 20 January 2014.
- Georgiou 2000, p. 18.
บรรณานุกรม
หนังสือ
- Aldridge, Rebecca (2008). The Sinking of the Titanic. New York: Infobase Publishing. ISBN .
- Ballard, Robert D. (1987). The Discovery of the Titanic. New York: Warner Books. ISBN .
- Barczewski, Stephanie (2006). Titanic: A Night Remembered. London: Continuum International Publishing Group. ISBN .
- Barratt, Nick (2010). Lost Voices From the Titanic: The Definitive Oral History. London: Random House. ISBN .
- Bartlett, W.B. (2011). Titanic: 9 Hours to Hell, the Survivors' Story. Stroud, Gloucestershire: Amberley Publishing. ISBN .
- Beesley, Lawrence (1960) [1912]. "The Loss of the SS. Titanic; its Story and its Lessons". The Story of the Titanic as told by its Survivors. London: Dover Publications. ISBN .
- Björkfors, Peter (2004). "The Titanic Disaster and Images of National Identity in Scandinavian Literature". ใน Bergfelder, Tim; Street, Sarah (บ.ก.). The Titanic in myth and memory: representations in visual and literary culture. London: I.B. Tauris. ISBN .
- Brown, David G. (2000). The Last Log of the Titanic. New York: McGraw-Hill Professional. ISBN .
- Butler, Daniel Allen (1998). Unsinkable: The Full Story of RMS Titanic. Mechanicsburg, PA: Stackpole Books. ISBN .
- Chirnside, Mark (2004). The Olympic-class ships : Olympic, Titanic, Britannic. Stroud, Gloucestershire: Tempus. ISBN .
- Cox, Stephen (1999). The Titanic Story: Hard Choices, Dangerous Decisions. Chicago: Open Court Publishing. ISBN .
- Eaton, John P.; Haas, Charles A. (1987). Titanic: Destination Disaster: The Legends and the Reality. Wellingborough, Northamptonshire: Patrick Stephens. ISBN .
- Eaton, John P.; Haas, Charles A. (1994). Titanic: Triumph and Tragedy. Wellingborough, Northamptonshire: Patrick Stephens. ISBN .
- Everett, Marshall (1912). Wreck and Sinking of the Titanic. Chicago: Homewood Press. OCLC 558974511.
- Fitch, Tad; Layton, J. Kent; Wormstedt, Bill (2012). On A Sea of Glass: The Life & Loss of the R.M.S. Titanic. Amberley Books. ISBN .
- Foster, John Wilson (1997). The Titanic Complex. Vancouver: Belcouver Press. ISBN .
- Georgiou, Ioannis (2000). "The Animals on board the Titanic". Atlantic Daily Bulletin. Southampton: British Titanic Society. ISSN 0965-6391.
- Gittins, Dave; Akers-Jordan, Cathy; Behe, George (2011). "Too Few Boats, Too Many Hindrances". ใน Halpern, Samuel (บ.ก.). Report into the Loss of the SS Titanic: A Centennial Reappraisal. Stroud, Gloucestershire: The History Press. ISBN .
- Gleicher, David (2006). The Rescue of the Third Class on the Titanic: A Revisionist History. Research in Maritime History, No. 31. St. John's, Newfoundland: International Maritime Economic History Association. ISBN .
- Gracie, Archibald (1913). The Truth about the Titanic. New York: M. Kennerley.
- Also published as: Gracie, Archibald (2009). Titanic: A Survivor's Story. The History Press. ISBN .
- Halpern, Samuel (2011). "Account of the Ship's Journey Across the Atlantic". ใน Halpern, Samuel (บ.ก.). Report into the Loss of the SS Titanic: A Centennial Reappraisal. Stroud, Gloucestershire: The History Press. ISBN .
- Halpern, Samuel; Weeks, Charles (2011). "Description of the Damage to the Ship". ใน Halpern, Samuel (บ.ก.). Report into the Loss of the SS Titanic: A Centennial Reappraisal. Stroud, Gloucestershire: The History Press. ISBN .
- Hoffman, William; Grimm, Jack (1982). Beyond Reach: The Search For The Titanic. New York: Beaufort Books. ISBN .
- Howells, Richard Parton (1999). The Myth of the Titanic. New York: Palgrave Macmillan. ISBN .
- Hutchings, David F.; de Kerbrech, Richard P. (2011). RMS Titanic 1909–12 (Olympic Class): Owners' Workshop Manual. Sparkford, Somerset: Haynes. ISBN .
- Kuntz, Tom (1998). The Titanic Disaster Hearings. New York: Pocket Book. ISBN .
- Lord, Walter (1976). A Night to Remember. London: Penguin Books. ISBN .
- Lord, Walter (2005) [1955]. A Night to Remember. New York: St. Martin's Griffin. ISBN .
- Lord, Walter (1987). The Night Lives On. London: Penguin Books. ISBN .
- Lynch, Donald (1998). Titanic: An Illustrated History. New York: Hyperion. ISBN .
- Marcus, Geoffrey (1969). The Maiden Voyage. New York: Viking Press. ISBN .
- Marshall, Logan (1912). Sinking of the Titanic and Great Sea Disasters. Philadelphia: The John C. Winston Co. OCLC 1328882.
- McCarty, Jennifer Hooper; Foecke, Tim (2012) [2008]. What Really Sank The Titanic – New Forensic Evidence. New York: Citadel. ISBN .
- Mills, Simon (1993). RMS Olympic – The Old Reliable. Dorset: Waterfront Publications. ISBN .
- Mowbray, Jay Henry (1912). Sinking of the Titanic. Harrisburg, PA: The Minter Company. OCLC 9176732.
- Parisi, Paula (1998). Titanic and the Making of James Cameron. New York: Newmarket Press. ISBN .
- Regal, Brian (2005). Radio: The Life Story of a Technology. Westport, CT: Greenwood Publishing Group. ISBN .
- Richards, Jeffrey (2001). Imperialism and Music: Britain, 1876–1953. Manchester: Manchester University Press. ISBN .
- Turner, Steve (2011). The Band that Played On. Nashville, TN: Thomas Nelson. ISBN .
- Verhoeven, John D. (2007). Steel Metallurgy for the Non-Metallurgist. Materials Park, OH: ASM International. ISBN .
- Winocour, Jack, บ.ก. (1960). The Story of the Titanic as told by its Survivors. London: Dover Publications. ISBN .
- Zumdahl, Steven S.; Zumdahl, Susan A. (2008). Chemistry. Belmont, CA: Cengage Learning. ISBN .
บทความวารสาร
- Foecke, Tim (26 กันยายน 2008). "What really sank the Titanic?". Materials Today. Elsevier. 11 (10): 48. doi:10.1016/s1369-7021(08)70224-4. สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2012.
- Maltin, Tim (มีนาคม 2012). . . Smithsonian Institution. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 สิงหาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2020.
- Ryan, Paul R. (Winter 1985–1986). "The Titanic Tale". Oceanus. Woods Hole, MA: Woods Hole Oceanographic Institution. 4 (28).
- Uchupi, Elazar; Ballard, Robert D.; Lange, William N. (Fall 1986). "Resting in Pieces: New Evidence About Titanic's Final Moments". Oceanus. Woods Hole, MA: Woods Hole Oceanographic Institution. 29 (3): 53–60.
รายงานใหม่
- Broad, William J. (8 เมษายน 1997). "Toppling Theories, Scientists Find 6 Slits, Not Big Gash, Sank Titanic". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2011.
- Broad, William J. (15 เมษายน 2008). "In Weak Rivets, a Possible Key to Titanic's Doom". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2012.
- Ewers, Justin (25 กันยายน 2008). "The Secret of How the Titanic Sank". U.S. News & World Report. สืบค้นเมื่อ 11 เมษายน 2012.
การสืบสวน
- "Passenger List and Survivors of Steamship Titanic". United States Senate Inquiry. 30 กรกฎาคม 1912. สืบค้นเมื่อ 5 มิถุนายน 2011.
- (1999) [1912]. The Loss of the Titanic, 1912. The Stationery Office. ISBN .
- Portman, Jamie (12 พฤศจิกายน 1994). "U.K. Titanic exhibit an off-season draw". The Toronto Star.
- . British Wreck Commissioner's Inquiry. 30 กรกฎาคม 1912. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 สิงหาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012.
- . British Wreck Commissioner's Inquiry, Final Report (Watertight Compartments). 30 กรกฎาคม 1912. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มกราคม 2014. สืบค้นเมื่อ 14 เมษายน 2012.
- . British Wreck Commissioner's Inquiry, Final Report (Description of Damage). 30 กรกฎาคม 1912. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มกราคม 2014. สืบค้นเมื่อ 14 เมษายน 2012.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha xarexmexs iththanik cmlnginewlaechatrukhxngwnthi 15 emsayn kh s 1912 inmhasmuthraextaelntik wnthisiinkaredinthangkhrngaerkkhxngeruxcakesaaethmptnipnkhrniwyxrk iththanik epneruxedinsmuthrthiihythisudthiihbrikarinewlann eruxchnkbphuekhanaaekhngemuxewlaraw 23 40 ewlaedinerux inwnxathitythi 14 emsayn 1912 eruxcmlnginewlasxngchwomngsisibnathitxma emuxewla 02 20 n ewlaedinerux 05 18 GMT inwncnthrthi 15 emsayn sngphlihmiphuesiychiwitmakkwa 1 500 khn cakkhnbneruxpraman 2 224 khn thaihehtukarnniepnhnunginphyphibtithangthaelthirayaerngthisudinprawtisastrkarxbpangkhxngeruxxarexmexs iththanik Untergang der Titanic odywilli sotewxr Willy Stower 1912wnthi14 15 emsayn 1912 112 pikxn 1912 04 15 ewla23 40 02 20 02 38 05 18 GMT rayaewla2 chwomng 40 nathithitngmhasmuthraextaelntik 400 iml 640 kiolemtr thangtawnxxkkhxngniwfndaelndphikd41 43 32 N 49 56 49 W 41 72556 N 49 94694 W 41 72556 49 94694praephthphyphibtithangthaelsaehtuchnphuekhanaaekhnginwnthi 14 emsaynphuekharwmlukeruxaelaphuodysarphlkarepliynaeplngnoybaythangthaelesiychiwit1 490 1 635 wnthi 14 emsayn iththanik idrbkhaetuxnhkkhrngekiywkbkxnnaaekhnginthael aetdwykhwamerwpraman 22 nxt thaihemuxeruxmxngphuekhanaaekhng eruxcungimsamartheliywhlbidthn sngphliheruxidrbkhwamesiyhaycakkarchnaechlbthikrabkhwakhxngerux aelasrangrxyrwinhkhxngcaksibhkhxngerux swnhnasudkhxnghwerux hxngwangsamhxng aelahxnghmxixnahmayelkh 5 aela 6 iththanik idrbkarxxkaebbihlxyxyuidemuxhxngeruxdanhweruxsihxngthuknathwmethann aelainimchalukeruxktrahnkwaeruxkalngcacm phwkekhaichphluaeflraelasngkhxkhwamthangwithyuothrelkh ephuxkhxkhwamchwyehlux khnathiphuodysarthuknaipyng tamaenwthangptibtithimixyu rabberuxchuchiphkhxngiththanikhidrbkarxxkaebbmaephuxihphuodysarkhamipyngeruxkuphyiklekhiyng imichihthukkhnxyubneruxchuchiphinewlaediywkn dngnn dwykarthieruxcmlngxyangrwderw aelachwomngthxnginkarchwyehluxidphanphnipaelw immixupkrnchwyehluxthiplxdphyephiyngphxsahrbphuodysaraelalukeruxcanwnmak dwyehtuehlani thaihkarcdkarkarxphyphyaaeyxyangmak mikarplxyeruxchuchiphcanwnmakkxnthieruxcaetm dwyehtuthi emux iththanik cmyngmiphuodysaraelalukeruxmakkwaphnkhnbnerux thaihkhnthikraoddhruxtklngipinna ekuxbthukkhncmnatayhruxesiychiwitphayinimkinathienuxngcakphlkhxngsphawachxkcakkhwameynaela xarexmexs kharephethiy mathungthiekidehtupramanhnungchwomngkhrunghlngcakeruxcm aelachwyphurxdchiwitkhnsudthayinewla 09 15 n inwnthi 15 emsayn rawekachwomngkhrunghlngcakkarchnphuekhanaaekhng phyphibtidngklawthaiholktuntahnkaelathaihekidkhwamokrthaekhnxyangkwangkhwangenuxngcakeruxchuchiphimephiyngphx kdraebiybthihlahlwm aelakarptibtitxphuodysarthngsamchnthiimethaethiymkninrahwangkarxphyph karitswninphayhlngsnbsnunkarepliynaeplngthikhrxbkhlumkhxngkdraebiybthangthael naipsukarcdtnginpi 1914 khxng SOLAS phunhlngiththanikkhnathdsxbedinerux emuxwnthi 2 emsayn 1912 eruxekhapracakarinwnthi 2 emsayn 1912 oryl eml chip xarexmexs iththanik epneruxlathisxngcaksamla ineruxedinsmuthrchnoxlimpik aelaepneruxthimikhnadihythisudinolk n khnann iththanik aelaeruxphinxng xarexmexs oxlimpik miepnethakhrungkhxng xarexmexs lusietheniy aela khxngsaykaredineruxkhunard sungthuxkhrxngsthitikxnhna aelayawkwaekuxb 100 fut 30 emtr iththanik samarthbrrthukkhnidthung 3 547 khnaelayngkhngkhwamerwaelakhwamsbayiwid aelathuksrangkhundwykhnadthiimekhymimakxn miihythisudthiekhysrangma sung 40 fut 12 emtr krabxksubmiesnphansunyklang 9 fut 2 7 emtr txngephathanhin 610 tntxwnepnechuxephling thiphkphuodysarbnerux odyechphaaxyangyinginswnchnefirstkhlas phudidwaepn khwamehnuxchnaelakhwamoxxangdngam sngektidcakkhaodysarthiphkchnefirstkhlas hxngpharelxaswith hxngchudthiaephngthisudaelahruhrathisudbnerux phrxmdadfaedinelnswntwmirakhasungkwa 4 350 ethiybethakb 115 000 inpccubn sahrbkhammhasmuthraextaelntikethiywediyw aemaetchnsamaemcamikhwamhruhranxykwachnsxngaelaefirstkhlasmak aetksbaykwamatrthanrwmsmyaelaidrbxaharxrxymakmay thaihphuodysarbneruxhlaykhnmisphaphkhwamepnxyuthidikwaekhymiprasbkarninbankhxngtn karedinthangkhrngaerkkhxng iththanik erimkhunhlngethiyngwnthi 10 emsayn 1912 emuxeruxxxkcakesaaethmptnthiepnkhaaerkkhxngkaredinthangsuniwyxrk imkichwomngtxmaeruxaewaipthiaechrburkthangtxnehnuxkhxngfrngess rayathang 80 imlthael 148 kiolemtr 92 iml ephuxrbphuodysar thaeruxthdipkhuxkhwinsthawn hruxokhfinpccubn inixraelnd sungeruxedinthangmathungtxnethiyngwnthi 11 emsayn eruxxxkedinthangtxnbayhlngcakrbphuodysaraelasinkhakhaephimetim emuxthungewla eruxbayhnamungipthangtawntkkhammhasmuthraextaelntik bneruxmilukerux 892 khnaelaphuodysar 1 320 khn sungepnephiyngkhrunghnungkhxngphuodysaretmkhwamcukhxngkhxngerux hrux 2 435 khn enuxngcakepnchwngnxkvduthxngethiywaelakarkhnsngcakshrachxanackrthukrbkwncakkarprathwngkhxngkhnnganehmuxngthanhin phuodysarkhxngeruxepnesmuxnphakhtdkhwangkhxngsngkhmexdewird mitngaetmhaesrsthiechn cxhn eckhxb aexsetxr John Jacob Astor aela ebncamin kukeknihm Benjamin Guggenheim ipcnthungphuxphyphyakcncakpraethstang echn xaremeniy ixraelnd xitali swiedn sieriy aelarsesiy thitxngkaripaeswnghachiwitihminshrthxemrika esnthangkaredineruxkhrngaerkkhxng iththanik cakesaaethmptnthungniwyxrk cudsiehluxngkhuxcudthieruxxbpang eruxmiexdewird smith kptnxawuoskhxngiwtstarilnwy 62 piepnhwhnakhwbkhumerux ekhamiprasbkarnkaredineruxthungsithswrrs aelathahnathiepnkptnkhxng xarexmexs oxlimpik makxnthicayaymakhwbkhumerux iththanik lukeruxswnmakimekhyrbkarfukmakxn thng naychang ecahnathidbephling hrux phnkngankhwbkhumetaif thimihnathiduaelekhruxngynt hruxbrikr aelaphnknganhxngkhrwthimihnathiduaeltxphuodysar minayyameruxedin 6 khnaelaklasichanayngan 39 khn hruxpraman 5 caklukeruxthnghmdethann aelaswnihykhuneruxthiesaaethmptncungimmiewlathakhwamkhunekhykberux kxnxxkedinthangpraman 10 wn ekidifihmthiyungthanhinyunghnungkhxng iththanik aelaihmtxenuxngipxikhlaywnrahwangkaredinthang aetinwnthi 14 emsayniddbifepnthieriybrxyaelw sphaphxakasdikhunxyangmakinrahwangwn caklmaerngaelathaelpanklangintxnecha klayepnthaelsngbintxneyn khnathiesnthangphaeruxipxyuphayitkhwamkdxakassungkhxngkhwolkehnux inchwngewlann enuxngdwyhnahnawthiimhnawrunaerngthaihphuekhanaaekhngcanwnmakekhluxntwhludxxkcakchayfngtawntkkhxngkrinaelnd14 emsayn 1912khaetuxn phuekhanaaekhng phuekhanaaekhngthikhadwachnkberux iththanik thayphaphintxnechakhxngwnthi 15 emsayn 1912 odyhwhnabrikrkhxngerux exsexs phrins xedlebirt SS Prinz Adalbert miraynganwadanhnungkhxngphuekhanaaekhngmiesnsiaedngthimacaksitweruxitesnnaluk inwnthi 14 emsayn 1912 phnknganwithyukhxng iththanik idrbhkkhxkhwamcakeruxlaxuneruxngphuekhanaaekhngthilxyxyuinthael aelaphuodysarbnerux iththanik kerimsngektehninchwngbaywnnn inewlannphnknganwithyuthnghmdineruxedinsmuthrepnphnkngankhxngbristhothrelkhirsaykhxngmarokhniaelaimichlukerux khwamrbphidchxbhlkkhxngphnkngankhuxkarsngkhxkhwamihphuodysar sahrbrayngansphaphxakasepneruxngrxng xikthng sphaphnaaekhnginaextaelntikehnuxnnelwraythisudineduxnemsaynekidkhunemux 50 pimaaelw sungepnehtuphlwathaimkarphnknganefarawngimthrabwaelywaphwkekhakalngcaaelneruxekhaipinaenwnaaekhngthithxdyawhlayiml khxkhwamaerkmacakerux xarexmexs khaoreniy RMS Caronia emux 09 00 raynganwa phuekhanaaekhng chinnaaekhng aelathungnaaekhng kptnsmithrbthrabkhxkhwam emuxewla 13 42 erux xarexmexs bxltik RMS Baltic sngrayngancakeruxkrik xathieniy Athenia waerux aelnphanphuekhanaaekhngaelathungnaaekhngkhnadihy khxkhwamnirbthrabodykptnsmithechnkn aelaraynganthung ec brus xisemy J Bruce Ismay prathankhxngiwtstariln sungxyubnerux iththanik kptnsmithsngihmikarkahndesnthangihm ihaelneruxiklxxkipthangit emuxewla 13 45 eraeyxrmn exsexs xemxrika SS Amerika sungxyuhangipthangitimiklcak iththanik raynganwaerux aelnphanphuekhanaaekhngkhnadihysxngluk aetkhxkhwamniimekhyipthungkptnsmith hruxecahnathikhnxunbnsaphanedinerux ehtuphlnnimchdecn aetxacepnephraathuklumephraaphnknganwithyumwaetsxmxupkrnthiesiyxyu erux exsexs khalifxreniyn SS Californian raynganwa phuekhanaaekhngkhnadihysamluk emuxewla 19 30 aelaemuxewla 21 40 eruxklif emsaba Mesaba raynganwa mxngehnkxnnaaekhngaelaphuekhanaaekhngkhnadihycanwnmak rwmthngthungnaaekhngdwy aetkhxkhwamehlaniimidthuksngxxkcakhxngwithyukhxng iththanik phnknganwithyu aeckh fillips Jack Phillips nnxacimekhaicthungkhwamsakhykhxngkhxkhwamehlani ephraaekhahmkmunxyukbkarsngkhxkhwamihphuodysarphanthangsthanithaythxdthi niwfndaelnd enuxngcakchudwithyuphnglngemuxwnkxn sngphlihmikhxkhwamkhngkhangthiphnknganthngsxngrayphyayamthicacdkarihesrc khaetuxnsudthayidrbemuxewla 22 30 cakphnknganwithyu siril xiwans Cyril Evans khxng eruxkhalifxreniyn thihyuderuxinkhunniinthungnaaekhnghangxxkiphlayiml aetfillipstdkarsuxsarxxkaelwsngsyyanklb hubpak hubpak chnkalngsuxsarkbekhpersxyu aemwalukeruxcarbruthungnaaekhnginbriewniklekhiyngkberux aetphwkekhakimidldkhwamerwkhxngeruxlngaelayngkhngaelnthi 22 nxt 41 km chm 25 imltxchwomng sunghangcakkhwamerwsungsudkhxngeruxephiyng 2 nxt 3 7 km chm 2 3 imltxchwomng karaelneruxdwykhwamerwsunginthaelthietmipdwynaaekhngkhxng iththanik nn phayhlngthukwiphakswicarnwasaephraimyngkhid aetmnsathxnihehnthungkarptibtitammatrthankaredineruxinewlann xangxingthungtneruxthiha aehorld olw Harold Lowe thiklawwathrrmeniymptibtikhux aelnipkhanghna aelaiwicphnknganefarawnginaelanayyameruxedinbnsaphanedineruxthikhxymxnghakxnnaaekhngephuxhlikeliyngkarchn eruxedinsmuthrsayaextaelntikehnuxcdladbkhwamsakhykhxngkarrksaewlaiwehnuxkhxkhwrphicarnaxunthnghmd yudtidkbtarangkaredinthangthicarbpraknkaredinthungplaythangtaminewlathiokhsna phwkekhaedineruxdwykhwamerwekuxbetmthi karptibtitamkhaetuxnthungxntrayepnephiyngkhaaenanaaethnthicaepnkhxptibtithitxngdaeninkar epnkhwamechuxknxyangkwangkhwangwakxnnaaekhngsrangkhwamesiyngephiyngelknxy echiydchiwkimicheruxngaeplk chnprasanngakimichhayna inpi 1907 erux exsexs okhrnphrins wilehlm SS Kronprinz Wilhelm khxngsaykaredineruxeyxrmnchnkbphuekhanaaekhngaelathaihhweruxaetk aetkyngkhngaelncnthungthihmayid inpiediywknexdewird smith idihsmphasnwaekhaimsamarth cintnakarthungenguxnikhidthicathaiheruxxbpang kartxeruxinsmyninndikwaxditmak phuekhanaaekhngdankhwakhanghna iththanikekhasutrxkphuekhanaaekhng kxn iththanik cachnekhakbphuekhanaaekhng phuodysarswnihyekhanxnaelw aelaphubngkhybychainsaphanedineruxidepliynkacaktneruxthisxng charl ilthilelxr Charles Lightoller epntneruxthihnung wileliym emxrdxk William Murdoch phnknganefarawng efrdedxrik flith Frederick Fleet aelaercinld li Reginald Lee pracainrngkasung 29 emtr 95 fut ehnuxdadfaerux xunhphumixakasldlngcniklthungcudeyuxkaekhng aelathaelksngbxyangsmburn phnexkxarchibld ekrsi Archibald Gracie hnunginphurxdchiwit ekhiynbrryayiwwa thaeleriybehmuxnaekwcnsathxnphaphdwngdawxxkmaidxyangchdecn sungepnthithrabkndiwathaelthisngbepnphiessniepnsyyanwamikxnnaaekhnginbriewniklekhiyng aemwaxakascaaecmis aetenuxngdwycnthrdbaelathaelksngb thaihrabutaaehnngkhxngphuekhanaaekhnginbriewniklekhiyngidyak ephraahakthaelmikhlunaerng khlunthipathakbphuekhanaaekhngcathaihphwkmnmxngehnidngaykhun xikthng dwysthankarnsbsnwunwaythiesaaethmptn phnknganefarawngcungimmiklxngsxngthangikl aetkmiraynganwaklxngsxngthangiklcairprasiththiphaphinkhwammudthimiephiyngaesngdawaelaaesngcaktweruxexng aetkrannkdi phnknganefarawngyngkhngefarawngxntraycaknaaekhngtamkhasngkhxngilthilelxrthisngihphnknganefarawngaelalukeruxkhnxun mxngxxkip rawngnaaekhng odyechphaaxyangyingkxnnaaekhngkhnadelkaelachinnaaekhng emuxewla 23 30 n flithaelalisngektehnhmxkelknxythiesnkhxbfaebuxnghna aetkimidtxbsnxngkbehtukarnni phuechiywchaybangkhnechuxwahmxkniepnphaphlwngtathiekidcaknaeynphbkbxakasrxn khlaykbphaphlwngtakhxngnainthaelthray emux iththanik ekhamaintrxkphuekhanaaekhng Iceberg Alley hmxknisngphlihekidesnkhxbfathisungkhun thaihphnknganefarawngmxngimehnsingthixyuiklxxkip chn esnthangedineruxkhxng iththanik khnaphyayam eliywhlb esnthangkhxnghwerux esnthangkhxngthayerux ekanathitxma emuxewla 23 39 n flithcbphaphphuekhanaaekhnginesnthangkhxng iththanik id ekhasnrakhngetuxnsamkhrngaelaothrsphththungsaphanedineruxaecngaektneruxthihk ecms muddi James Moody fliththam miikhrxyubangihm muddi mi khunehnxair flithtxb phuekhanaaekhngdankhwakhanghna hlngcakkhxbkhunfrith muddisngkhxkhwamthungemxrdxk emxrdxksngnaykrab orebirt hiechns Robert Hichens ihepliynesnthangedinerux echuxknwaemxrdxkidsng hkkhwaetmtw sungcasngphlihhmunipthangkhwacnsud ephuxphyayamthicathaiheruxeliywipthangsay sungepneruxngpktiineruxxngkvsyukhnn aetcaklbthisthangknemuxethiybkbkareliyweruxinpccubn aelaekhaekhayngsng thxyhlngetmthi bnekhruxngsngckr xangxingcaktneruxthisi ocesf bxkshxl Joseph Boxhall emxrdxkbxkkptnsmithwaekhakalngphyayamthica hkhlbphuekhanaaekhng odyekhaphyayamaekwnghweruxipiklsingkidkhwang aelaaekwngthayeruxephuxihplaythngsxngdankhxngeruxhlikeliyngkarchn aetekidkhwamlachainkarkrathatamkhasngthngsxng enuxngdwyklikkarkhdthaydwyixnaichewla 30 winathiinkarepliynhangesuxerux aelakhwamsbsxninkartngkhaekhruxngyntihthxyklbtxngichewlaphxsmkhwr enuxngcakknghntaaehnngklangimsamarthyxnklbid aelathngknghnaelaibckrmitaaehnngxyudanhnahangesuxerux thaihemuxhyudibckrskyphaphkhxnghangesuxcaldlng dngnncungthaihkhwamsamarthinkareliywkhxngeruxldlng hakemxrdxkeliyweruxkhnathiyngrksakhwamerwiw iththanik xachlbphuekhanaaekhngidrayahangthung 1 fut insthankarn karhkeliywkhxng iththanik thaihhlikeliyngimihhweruxchnkbkxnnaaekhngid aetkthaiheruxkraaethkkbphuekhanaaekhngdwykaraechlbip eduxynaaekhngitnakhudyawipthangdankrabkhwakhxngeruxpramanecdwinathi mikxnnaaekhngthiaetkxxkcakswnbnkhxngphuekhanaaekhngtklngbndadfaeruxdanhna pramanhanathihlngkarchn ekhruxngyntthukekhruxngkhxng iththanik kdblng hweruxthihwipthisehnuxidbayhwxyangchaipthisitinkraaesnaaelbradxr phlkhxngkarchn phuekhanaaekhngthaihaephnolhaokhngngx hmudyudhludxxk aelasrangkhwamesiyhayaekhxngerux phlkhxngkarchnkbphuekhanaaekhngthaihekidchxngepidkhnadihythitwerux iththanik mikhwamyawimnxykwa 300 fut 91 emtr sung 10 fut 3 emtr cakradbkradukngu inkaritswnkhxngxngkvshlngcakekidxubtiehtu exdewird iwlding Edward Wilding hwhnawiswkrrmtxeruxaehngharaelndaelawulf khanwnbnphunthancakkarsngektkarncaknathwmthiekidkhuninhxngeruxdanhnathiekidkhunphayinsisibnathihlngcakkarchn yunynwaphunthichxngepidrwkhxngerux praman 12 tarangfut 1 1 tarangemtr nxkcakniekhayngrabudwywa chnechuxwachxngepidtxngimyawtxenuxng aetepnchxngepidhlaychxng yawxxkippraman 300 fut sungepnehtuphlkhxngnathwminhlayhxngerux cakkarsarwcsakeruxdwykhlunesiyngkhwamthisungsmyihm phbwakhwamesiyhaythiaethcringbntweruxnn khlaykbrayngankhxngiwlding sungprakxbdwychxngepidaekhbthiekidcakkarchnhkchxng khidepnphunthithnghmdpraman 12 thung 13 tarangfut 1 1 thung 1 2 tarangemtr xangxingkb phxl ekh aemthethiyss Paul K Matthias thithakarwdkhwamesiyhay khwamesiyhayprakxbdwy miladbkhxngkhwamphidrupindankrabkhwathiimtxenuxngyawtamtwerux praman 10 fut 3 emtr ehnuxthxngerux chxngepidthiyawthisudsungyawpraman 39 fut 12 emtr praktyawiptamesnaephntwerux niaesdngihehnwahmudehlktamaenwtaekhbkhxngaephnhludxxkthaihekidchxngwangaekhbthinaekhatweruxid wiswkrcakharaelndaelawulf Harland and Wolff phusrang iththanik idesnxsthankarnthinacaepnniinkaritswnkhxngkrrmathikarehtuxbpangaehngshrachxanackrhlngcakekidphyphibti aetmummxngkhxngekhaimmiikhrechuxthux orebirt ballard phukhnphbsakerux iththanik idihkhwamehnwaeruxthiprasbehtuenuxngcakrxyaetknn epnphlphlxyidcakmntkhlngkhxngiththanik immiikhrechuxwaeruxihylanicaxbpangdwyesiynim khwamphidphladintweruxxacepnpccyrwm chinswnkhxngaephnehlkthikukhunmaduehmuxncaaetkhkepnchinemuxkrathbkbphuekhanaaekhngodyimokhngngx aephnehlkinswnklang 60 epxresntkhxngtweruxthukyuddwyhmudehlkehniywsamaethw aetaephnehlkthihweruxaelathayeruxthukyudtiddwyhmudehlkxxnsxngaethw sungtamkhwamehnkhxngnkwithyasastrdanwsduthim ofkh Tim Foecke aelaecnniefxr aemkhkharti Jennifer McCarty hmudekhaiklkbkhidcakdkhwamekhnkxnekidkarchn Best hruxhmudehlk No 3 mikakaerinradbsungthaihmikhwamepraamakkwa Best Best hruxhmudehlk No 4 aelamiaenwonmthicaaetkhkemuxekidkhwamekhn odyechphaaxyangyinginchwngthixakaseyncd thxm aemkhkhlski Tom McCluskie nkcdhmayehtueksiynxayukhxngharaelndaelawulf chiihehnwaerux oxlimpik sungepneruxphinxngkb iththanik ichhmudehlkchnidediywkn aelaihbrikarodyimekidxubtiehtuepnewlaekuxb 25 pi rxdphncakkarchnhnkhlaykhrng sungrwmthungkarthukkraaethkodyeruxladtraewnxngkvs emux oxlimpik chnaelacmeruxxu xu 103 thanghwerux thwnhwbid aephnehlktweruxthangkrabkhwaokhngngx aetimthalaykhwammnkhngkhxngtwerux ehnuxesnnalukmihlkthankhxngkarchnknephiyngelknxy brikrinhxngrbprathanxaharchnefirstkhlassngektehnkhwamsnsaethuxn sungphwkekhakhidwaxacekidcakpldibckr phuodysarhlaykhnrusukwathukkraaethkhruxruthungkhwamsnsaethuxn rawkbwahinhlayphnkxnthlmlngma tamthiphurxdchiwitkhnhnungklawexaiw aetphwkekhakimruwaekidxairkhun phuthixyubndadfaeruxchnlangsudsungiklkbcudthiekidkarpathamakthisud carusukkhlayknaetrunaerngkwa phnknganhlxlunekhruxngynt wxletxr ehirst Walter Hurst caidwa tunkhuncakkarchnbdyawipthangkrabkhwa immiikhrtuntkicmak aetruwaerachnxairbangxyang phnkngandbephling cxrc ekhmmis George Kemish idyin esiyngokhrmkhramaelaesiyngchikkhad caktweruxdankrabkhwa tweruxaebngtamphnngknhxng khwamesiyhayaesdnginrupaebbesnsiekhiyw naihlekhathwmeruxinthnthidwyinxtraerwpraman 7 1 tntxwinathisungerwkwathieruxcasubxxkidthungsibhaetha rxngtnkl ec exch ehchesth J H Hesketh aelahwhnaphukhwbkhumetaif efrdedxrik barertt Frederick Barrett thngkhuthukkraaethkdwynathieyneyuxkthiphungekhamacakrxyaeykinhxnghmxixnahmayelkh 6 aelahnixxkipidkxnthipratuphnuknacathukpid niepnsthankarnthixntrayxyangyingsahrbecahnathiwiswkrrm hmxixnayngkhngetmipdwyixnarxnaerngdnsung aelamikhwamesiyngsungthicaekidkarraebidhaksmphskbnathaelthieyneyuxkthiihlekhathwmhxnghmxixna phukhwbkhumetaifaelaphnkngandbephlingidrbkhasngihldifaelarabayhmxixnathing odysngixnaprimanmakkhunipinthxrabay emuxesrcngannaidthwmlukthungexwaelw dadfaeruxchnlangsudkhxng iththanik aebngepn 16 hxng aetlahxngaebngaeykcakkndwyphnngknhxngyawiptamkhwamkwangkhxngtwerux mithngsin 15 phnng aetlaphnngknsungthungdadfaeruxchn E sung 11 fut 3 4 emtr ehnuxesnnaluk sxnghxngiklhweruxaelahkhxngiklthayerux phnngknsungkhunipthungdadfaeruxxikchn chn D aetlaphnngknhxngsamarthpidphnukdwypratuphnukna hxngekhruxngyntaelahxnghmxixnabnthxngeruxchninmipratuepnaebbaenwdingthisamarthkhwbkhumrayaiklidcaksaphanedinerux pidodyxtonmtiodythunlxythanathwm hruxpidodylukeruxexng pratucaichewlapidpraman 30 winathi syyanetuxnphyaelathanghlbhnixunidthukcdetriymiwephuximihlukeruxtidxyuinhxng ehnuxthxngeruxchninbndadfaeruxchnthxngerux dadfaeruxchn F aela dadfaeruxchn E epnpratupidinaenwkhwangaelapiddwymux pratusamarthpidthitwpratuexnghruxcakdadfaeruxdanbn aemwaphnngknhxngphnuknacaxyuehnuxesnnaluk aettweruxkimidpidphnukthidadfaeruxdanbn thaminathwminhlayhxng hweruxcacmluklngipinna aelanacalnthalkcakhxnghnungipxikhxnghnungthixyuthdiptamladb khlaykbnathilnipthidanbnkhxngthadnaaekhngemuxexiyngthad khwamesiyhaythiekidkb iththanik ekidthihxnghwerux hxngwangsamhxngthdip aelahxnghmxixnahmayelkh 6 rwmthngsin 5 hxngerux iththanik idrbkarxxkaebbihynglxyxyuidodymihxngeruxsxnghxngthuknathwmaelaeruxcaimlmthasihxngaerkaetkrw dwyhahxngeruxthinathwmthaihnathwmsungkwaphnngknhxngihlthwmeruxtxip iththanik cmlnginsxngchwomngkhrung kptnsmithrusukthungaerngsnsaethuxnkhxngkarchncakinhxngekhbinkhxngekhaaelamathungsaphanedineruxthnthi emuxthrabthungsthankarnekhaeriykothms aexndruws Thomas Andrews phusrangiththanikh sungepnhnunginklumwiswkrcakharaelndaelawulfthiekharwmsngektkarnkaredinthangethiywaerkkhxngerux eruxexiynghaxngsaipthangkrabkhwaaelahweruxcmlngsxngxngsainhanathihlngkarchn smithaelaaexndruwlngipdanlangaelaphbwahxngekbsmpharadanhna hxngiprsniy aelasnamskhwxchthuknathwm inkhnathihxnghmxixnahmayelkh 6 nathwmluk 14 fut 4 3 emtr aelathalkekhasuhmxixnahmayelkh 5 aelalukeruxkalngdinrnsubnaxxk phayin 45 nathihlngkarchn naxyangnxy 13 700 tnihlekhasuerux niepneruxngthimakekinipthixbechaeruxaelapmnathxngeruxkhxng iththanik carbmuxihw khwamsamarthinkarsubnakhxngpmrwmknmithnghmdephiyng 1 700 tntxchwomng aexndruwaecngkptnwahahxngaerkthuknathwm dngnn iththanik thungcudcbaelw cakkarpraeminkhxngekha eruxcasamarthlxytwidimekinsxngchwomng nbcakewlakhxngkarchnipcnthungchwngewlathieruxcm naxyangnxy 36 000 tn ihlthwmsu iththanik thaihkhxngeruxephimkhunepnekuxbsxngethacak 49 100 tn epnmakkwa 84 000 tn naimidthwminxtrakhngthiaelaimkracayipthwthngeruxxyangsmaesmxenuxngcakokhrngsrangkhxnghxngeruxthithuknathwm karthieruxexiyngipthangkrabkhwaenuxngcaknathwmimsmmatrthikrabkhwa naidihlethlngthangedinthidanlangkhxngerux emuxthangedinthuknathwmetm karexiyngklbmasmdul aetphayhlngeruxklbmaexiyngipthangkrabsaythungsibxngsaemuxekidnathwmthiimsmmatrindannn mumldkhxng iththanik khxnkhangepliynipxyangrwderw caksunyxngsaepnpramansixngsakhrunginchwngchwomngaerkhlngcakkarchn aetxtrathieruxldlngchaepnxyangmakinchwomngthisxng ldlngephiyngpramanhaxngsaethann singnithaihhlaykhnbneruxmikhwamhwngwaeruxxaclxyxyunanphxthiphwkekhacaidrbkarchwyehlux emuxewla 1 30 n xtrakarcmlngkhxnghweruxephimkhuncnkrathng iththanik mimumldpramansibxngsa emuxewlapraman 02 15 n iththanik cmlnginnaxyangrwderwemuxnaihlekhaipinswnthiimmikarthwmmakxnhnaniphanthangpakrawangdadfaerux eruxcmhayipcaksaytathiewla 02 20 n 15 emsayn 1912etriymphrxmslaerux kptnexdewird ec smith inpi 1911 emuxewla 00 05 n khxngwnthi 15 emsayn kptnsmithsngihepidicheruxchuchiphaelarwmphlphuodysar nxkcakni ekhayngsngihphnknganwithyuerimsngkhxkhwamkhxkhwamchwyehlux khxkhwamdngklawidrabutaaehnngkhxngeruxphidphladodyrabuwaxyudantawntkkhxngaenwnaaekhng thaihphuchwyehluxedinthangipyngtaaehnngthiphidippraman 13 5 imlthael 15 5 iml 25 0 km itdadfaerux naidihllngsucudtasudkhxngerux echn hxngiprsniythithuknathwm thisungphnkngankhdaeykcdhmayphyayamrksaiprsniy 400 000 chinbn iththanik xyangsudkhwamsamarth inthixun samarthidyinesiyngxakasthithuknaekhaaethnthi ehnuxphunthiehlann brikridediniptamthangcakpratusupratu ephuxplukphuodysaraelalukeruxthinxnhlbaelabxkihphwkekhakhunipthidadfaerux enuxngcak iththanik immirabbesiyngprakassatharna karaecngrwmphlkhunkbchnkhxngphuodysarepnxyangmak brikrchnefirstkhlasrbphidchxbephiyngsxngsamhxngethann khnathiphurbphidchxbphuodysarchnsxngaelachnsamnntxngcdkarkhncanwnmak brikrchnefirstkhlasidekhachwycdekbkraepaedinthangaelanakhunipbndadfaeruxdwy aetbrikrchnsxngaelasamswnihythaidephiyngepidpratuaelabxkphuodysarihswmesuxchuchiphaelakhunipdanbn inchnsamphuodysarswnihycathukthingiwthnthienuxngdwymiphukhncanwnmakthitxngcdkar hlngcakidrbaecngthungkhwamcaepnthicatxngkhunipbndadfaerux phuodysaraelalukeruxcanwnmaklngelthicaptibtitam ptiesththicaechuxwaekidpyhakhun hruxkhxxyuineruxthixbxundikwaxxkipephchiyxakasthihnawehnbyamkhakhun ehlaphuodysarimidrbaecngelywaeruxkalngcm aetmiimkikhnthisngektehnwaeruxexiyng raw 00 15 n brikrsngihphuodysarswmesuxchuchiph sungphuodysarcanwnmakmxngwaepneruxngtlk phuodysarbangklumidrwmelnfutbxlodyichchinnaaekhngthitxnnitkekluxnipthwswnhnakhxngdadfaeruxtanglukfutbxl bndadfaeruxkhnathilukeruxerimetriymeruxchuchiph esiyngixnaaerngdnsungthirabayxxkcakhmxixnaaelaplxyxxkmathangplxngeruxdanbndngepnxyangma cnyakthicaidyinesiyngxairxunxik lxwerns bisliy Lawrence Beesley brryayesiyngniiwwa esiyngthidngkukkxngaelaesiyngxukthukthithaihkarsnthnaepneruxngyak ihcintnakarwahwrthckr 20 hwplxyixnainkhiyesiyngta nnaehlakhuxesiyngthiimphungprasngkhthieraprasbinkhnathierapinkhunipbndadfaerux esiyngnndngmakcnlukeruxtxngichsyyanmuxephuxsuxsar iththanik mieruxchuchiphthngsin 20 la prakxbipdwyeruxim 16 labn esaaekhwnerux khanglaeruxdanla 8 la aelaeruxchuchiphphbid 4 lathiphunepnphunimaeladankhangepnphaib sungeruxchuchiphphbidthukekbrksainlksnathiphbiwaelakhwalng kxnichngantxngthakartidtngaelayayipynghlkedwithephuxplxyerux sxnglathukekbiwiteruxim xiksxnglathukekbiwbnhxngphkkhxngecahnathi sungsxnglahlngthakarplxyeruxidyakmakenuxngcakaetlalaminahnkhlaytnaelatxngichaerngngankhnephuxnalngipthidadfaerux odyechliyaelweruxchuchiphsamarthrxngrbidth 68 khntxla aelaemuxrwmknaelwsamarthrxngrbid 1 178 khn ekuxbkhrunghnungkhxngcanwnkhnbnerux hruxhnunginsamkhxngcanwnphuodysarsungsudthieruxidrbxnuyat pyhakarkhadaekhlneruxchuchiphimidekidcakkarimmiphunthihruxephraakhaichcay iththanik idrbkarxxkaebbihsamarthrxngrberuxchuchiphidthung 68 la sungephiyngphxsahrbthukkhnbneruxaelarakhakhxngeruxchuchiph 32 la mirakhaxyuthi 16 000 dxllarshrthethann ethiybethakb 424 000 dxllarinpi 2019 sungkhidepnesskhxngengin 7 5 landxllarthibristhichipkb iththanik ethann inewlann eruxchuchiphmiwtthuprasngkhephuxichinkarekhluxnyayphuodysarcakeruxthiprasbpyhaipyngeruxthixyuiklekhiyngemuxekidkrnichukechin dngnncungepneruxngthrrmdathieruxedinsmuthrcamieruxchuchiphnxykwacanwnphuodysaraelalukeruxthnghmd cakeruxedinsmuthrxngkvs 39 lathimikhwamyawmakkwa 10 000 tn mithung 33 lathimieruxchuchiphnxyekinipthicarxngrbthukkhnbnerux iwtstarilntxngkariheruxmidadfaphkphxnthikwangphrxmmxngehnwiwthiwthsnkhxngthaelodyimmiaethweruxchuchiphmabdbng kptnsmithepnnkedineruxthimiprasbkarn idptibtihnathiepnewlathung 40 piinthaelsungrwmthung 27 piinkarepnphubngkhbbychadwy ehtukarnniepnwikvtkhrngaerkinxachiphkhxngekhaaelaekharudiwaaemwacabrrthukkhnetmlaeruxchuchiphthnghmd aetkcamikhnmakkwahnungphnkhnthiyngkhngehluxxyubneruxkhnathieruxcmlng sungkhnehlanimioxkasrxdephiyngelknxyhruxxacimmiely bangaehlngkhxmulxangwa emuxkptnsmithtrahnkthungkhwamrayaerngkhxngehtukrnthiekidkhun smiththungkbtwaekhngtalungngn aelaimidekhachwyehluxinkarpxngknkarsuyesiychiwit aettamaehlngkhxmulxun kptnsmithmikhwamrbphidchxbaeladaeninkarxyangetmthiinchwngwikvt hlngcakkarchn kptnsmithiderimkartrwcsxbkhwamesiyhaythnthi odythakartrwcsxbthungsxngkhrngdanlangdadfaeruxephuxkhnhakhwamesiyhay aelaihphnknganwithyuetriymphrxmsahrbkhwamepnipidthicatxngkhxkhwamchwyehlux ekhasngihlukeruxkhxngekhaerimetriymeruxchuchiphsahrbkarxphyphaelaihphuodysarswnchuchiphkxnthiekhacaidrbaecngcakaexndruwswaeruxkalngcacmesiyxik kptnsmithekhasngektkarrxb dadfaerux trwctraduaelaelachwyehluxphuodysarlngeruxchuchiph ptismphnthkbphuodysar aelasrangkhwamsmdulrahwangkhwamerngdwninkarxphyphaelaphyayamhampramkhwamtuntrahnk tneruxthisi ocesf bxkshxl idrbaecngcakkptnsmithraw 12 25 waeruxkalngcacm khnathinaykrab cxrc orw George Rowe imidrbruthungehtu emuxkarxphypherimkhun ekhacungothrsphthipthisaphanedineruxcaksthaniefarawngephuxthamwathaim ekhaephingehneruxchuchiphaelnphanip lukeruximphrxmsahrbehtuchukechin enuxngcakidrbkarfukmaephiyngelknxy lukeruxidrbkarfukkarsxmhniphybneruxephiyngkhrngediywkhnathieruxethiybthaxyuthiesaaethmptn sungepnkarfukxyanghyab thiicheruxchuchiphephiyngsxngla aetlalamiecahnathihnungkhnaelachaysikhnphayeruxiprxbthaeruxephiyngimkinathikxncaklbipthierux nxkcakni eruxchuchiphthikhwrcamiesbiyngchukechinnn phuodysar iththanik klbphbwamiesbiyngephiyngbangswnethann cakkhwamphyayamkhxngechfkhnmxb charls occin Charles Joughin aelaphnkngan immikarsxmhniphyhruxsxmdbephlingtngaet iththanik xxkcakesaaethmptn mikahndkarfuksxmhniphyinechawnxathitykxnthieruxcaxbpang aetkptnsmithidykelikodyimthrabsaehtu karxxkedinthangkhxngeruxchuchiph eruxchuchiphlasudthay nathisudthaykxnxbpang warasudthaykhxng iththanik phuodysaraelalukeruxinna karchwychiwitaelakarxxkedinthang eruxchuchiphphbid di thaycakdadfaerux kharephethiy intxnechawnthi 15 emsayn 1912 phurxdchiwitkhxngerux iththanik idrbkarchwyehluxinewlapraman 04 00 n wnthi 15 emsaynodyxarexmexs kharephethiy thiaelndwykhwamerwetmthimatlxdkhunbnesnthangesiyngxntray sungeruxtxngeliywhlbphuekhanaaekhnghlayluktlxdesnthangmayngcudxbpang aesngifcak kharephethiy thukphbkhrngaerkrawewla 03 30 n sungsrangkalngicihphurxdchiwitepnxyangmak aemwacatxngichewlaxikhlaychwomngkwathithukkhncathukphakhuneruxkarbadecblmtayaelaphurxdchiwitcanwnphuesiychiwitcakkarxbpangyngimchdecnenuxngcakpccyhlayprakar thiekidcakkhwamsbsnekiywkbraychuxphuodysar cakraychuxkhxngphuthiykelikkaredinthanginnathisudthay aelakarthimiphuodysarhlayrayedinthangdwynamaefngdwyehtuphlhlayprakar sungxacthuknbraychuxsxngkhrnginraychuxphuesiychiwit miphuesiychiwitinehtukarnpraman 1 490 thung 1 635 khn twelkhmacakraynganphyphibtikhxngkrathrwngphanichyxngkvs phuodysar praephth canwnphuodysar xtrarxylaethiybkbthnghmd canwnphurxdchiwit canwnesiychiwit xtrarxylaphurxdchiwit xtrarxylaesiychiwit xtrarxylaphurxdchiwitethiybkbthnghmd xtrarxylaphuesiychiwitethiybkbthnghmdedk efirstkhlas 6 0 3 5 1 83 17 0 2 0 04 chnsxng 24 1 1 24 0 100 0 1 1 0 chnsam 79 3 6 27 52 34 66 1 2 2 4 rwm 109 5 56 53 51 49 2 5 2 4 phuhying efirstkhlas 144 6 5 140 4 97 3 6 3 0 2 chnsxng 93 4 2 80 13 86 14 3 6 0 6 chnsam 165 7 4 76 89 46 54 3 4 4 0 lukerux 23 1 0 20 3 87 13 0 9 0 1 rwm 425 19 1 316 109 74 26 14 2 4 9 phuchay efirstkhlas 175 7 9 57 118 33 67 2 6 5 3 chnsxng 168 7 6 14 154 8 92 0 6 6 9 chnsam 462 20 8 75 387 16 84 3 3 17 4 lukerux 885 39 8 192 693 22 78 8 6 31 2 rwm 1 690 75 9 338 1 352 20 80 15 2 60 8 rwm All 2 224 100 710 1 514 32 68 31 9 68 1 miphurxdchiwitcakphyphibtinxykwahnunginsamkhxngcanwnkhnbnerux iththanik phurxdchiwitbangkhnesiychiwithlngcaknnimnancakkarbadecbaelakartidechux thaihmiphuthiidrbkarchwyehluxcakerux kharephethiy hlaykhnesiychiwit caktarangmiphuesiychiwitepnedk 49 phuhying 26 phuchay 82 aelalukerux 78 xikthng twelkhdngklawyngaesdngihehnthungkhwamaetktangxyangsinechinginxtrakarrxdchiwitrahwangphuchayaelaphuhying aelaphuodysarchntangbnerux iththanik odyechphaainklumphuhyingaelaedk aemwaphuhyingchnefirstkhlasaelachnsxng rwmkn esiychiwitimthung 10 aetphuhyinginchnsamesiychiwitthung 54 inthanxngediywkn edkchnefirstkhlashainhkkhnaelaedkchnsxngthnghmdrxdchiwit aetedkinchnsam 52 in 79 khnesiychiwit edkchnefirstkhlasthiesiychiwitkhux lxern aexllisn Loraine Allison xayu 2 pi thngni karsuyesiythihnkthisudkhuxphuodysarchaychnsxng micanwnphuesiychiwitthung 92 nxkcakni yngmistweliyngsamtwrxdchiwitcakkarxbpangechingxrrthinchwngewlakhxngkarchn nalikakhxng iththanik thuktngiwlwnghna 2 chwomng 2 nathicakekhtewlatawnxxk aela 2 chwomng 58 nathihlngewlamatrthankrinich ewlaedineruxthuktngewla n ethiyngkhun 13 14 emsayn 1912 aelakhunkbkarkhadkarntaaehnngkhxng iththanik n ethiyngwnkhxngwnthi 14 emsayn sungcakhunxyukbkarsngektdwngdawintxnkhakhxngwnthi 13 emsayn sungcaprbodykarnarxngodyichkarkhanwn dead reckoning aetenuxngcakphyphibtithiekidkhun nalikakhxngiththanikcungimidprbewla n ethiyngkhunkhxngwnthi 14 15 emsayn eruxlathisamkhux xarexmexs briaethnnik sungimekhypracakarepneruxodysar aetpracakarepneruxphyabal exchexmexchexs briaethnnik rahwangsngkhramolkkhrngthi 1 withyuothrelkhhruxthiruckkninchuxothrelkhirsayinyukhnn growler phuekhanaaekhngkhnadelkhruxaephnaaekhngthiekuxbmxngimehnbnphiwna thungaemwaphayhlngcakhwamechuxxyangechnin phaphyntriththanikpi 1997 wa iththanik imidphyayamsrangsthitikhwamerwinkarkhammhasmuthraextaelntik iwtstarilnnntdsinicthicaimaekhngkhnkbkhuaekhngxyangkhunardilndwykhwamerw aetcamungennaekhngkhndwykhnadaelakhwamhruhraaethn ehtukarnthiyunynhlkkarniinkhnathi iththanik xyurahwangkarkxsrangkhux erux xarexmexs riphbblik khxngiwtstarilnekidxubtiehtuchnknaelaxbpanglng aemwaeruxcamieruxchuchiphimephiyngphxsahrbphuodysarthukkhn aetphuodysarkrxdchiwitthnghmd ephraaeruxsamarthlxyxyuidnanphxthicayayphuodysarthnghmdipyngeruxthimachwyehluxxangxingHalpern 2011 p 78 Hutchings amp de Kerbrech 2011 p 37 Butler 1998 p 10 Butler 1998 pp 16 20 Federal Reserve Bank of Minneapolis khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 29 emsayn 2023 subkhnemux 1 mkrakhm 2020 Bartlett 2011 p 67 Bartlett 2011 p 71 Bartlett 2011 p 76 Bartlett 2011 p 77 Butler 1998 p 238 Lord 1987 p 83 Butler 1998 pp 27 28 Howells 1999 p 95 Bartlett 2011 pp 43 44 Bartlett 2011 p 49 Fire Down Below by Samuel Halpern Retrieved 7 January 2017 Halpern amp Weeks 2011 pp 122 26 Halpern 2011 p 80 Ryan 1985 p 8 Ballard 1987 p 199 Ryan 1985 p 9 Barczewski 2006 p 191 Ryan 1985 p 10 Ryan 1985 p 11 Bartlett 2011 p 24 Mowbray 1912 p 278 Barczewski 2006 p 13 Gracie 1913 p 247 Halpern 2011 p 85 Eaton amp Haas 1987 p 19 Brown 2000 p 47 Barratt 2010 p 122 Broad William J 9 April 2012 A New Look at Nature s Role in the Titanic s Sinking The New York Times subkhnemux 15 April 2018 Where Is Iceberg Alley U S Coast Guard Navigation Center subkhnemux 15 April 2018 Lord 2005 p 2 Eaton amp Haas 1994 p 137 Brown 2000 p 67 Barczewski 2006 p 194 Halpern amp Weeks 2011 p 100 Halpern 2011 p 94 Hoffman amp Grimm 1982 p 20 Testimony of Edward Wilding subkhnemux 6 October 2014 Broad 1997 Ballard 1987 p 25 Zumdahl amp Zumdahl 2008 p 457 Materials Today 2008 McCarty amp Foecke 2012 p 83 Broad 2008 Verhoeven 2007 p 49 Ewers 2008 Mills 1993 p 46 Testimony of Mrs J Stuart White at the US Inquiry subkhnemux 1 May 2017 Butler 1998 pp 67 69 Barratt 2010 p 151 Barratt 2010 p 156 Aldridge 2008 p 86 Ballard 1987 p 71 Barczewski 2006 p 18 Mersey 1999 Ballard 1987 p 22 Barczewski 2006 p 147 Butler 1998 p 71 Butler 1998 p 72 Halpern amp Weeks 2011 p 112 Barczewski 2006 p 148 Halpern amp Weeks 2011 p 106 Halpern amp Weeks 2011 p 116 Halpern amp Weeks 2011 p 118 Halpern amp Weeks 2011 p 109 Barratt 2010 p 131 Bartlett 2011 p 120 Bartlett 2011 pp 118 119 Barczewski 2006 p 20 Bartlett 2011 p 121 Bartlett 2011 p 126 Bartlett 2011 p 116 Beesley 1960 pp 32 33 Bartlett 2011 p 124 Lord 1987 p 90 Barczewski 2006 p 21 Bartlett 2011 p 123 Hutchings amp de Kerbrech 2011 p 112 1634 1699 McCusker J J 1997 How Much Is That in Real Money A Historical Price Index for Use as a Deflator of Money Values in the Economy of the United States Addenda et Corrigenda PDF 1700 1799 McCusker J J 1992 How Much Is That in Real Money A Historical Price Index for Use as a Deflator of Money Values in the Economy of the United States PDF 1800 present Federal Reserve Bank of Minneapolis Consumer Price Index estimate 1800 subkhnemux January 1 2020 Hutchings amp de Kerbrech 2011 p 116 Chirnside 2004 p 29 Bartlett 2011 p 30 Marshall 1912 p 141 Butler 1998 pp 250 252 Cox 1999 pp 50 52 Fitch Layton amp Wormstedt 2012 pp 162 163 Fitch Layton amp Wormstedt 2012 p 183 Bartlett 2011 p 106 Mowbray 1912 p 279 Aldridge 2008 p 47 Bartlett 2011 p 238 Butler 1998 p 239 Lord 1976 p 197 Mersey 1999 pp 110 11 Eaton amp Haas 1994 p 179 Howells 1999 p 94 Copping Jasper 19 January 2014 Lost child of the Titanic and the fraud that haunted her family The Telegraph cakaehlngedimemux 16 June 2018 subkhnemux 20 January 2014 Georgiou 2000 p 18 brrnanukrmhnngsux Aldridge Rebecca 2008 The Sinking of theTitanic New York Infobase Publishing ISBN 978 0 7910 9643 7 Ballard Robert D 1987 The Discovery of theTitanic New York Warner Books ISBN 978 0 446 51385 2 Barczewski Stephanie 2006 Titanic A Night Remembered London Continuum International Publishing Group ISBN 978 1 85285 500 0 Barratt Nick 2010 Lost Voices From theTitanic The Definitive Oral History London Random House ISBN 978 1 84809 151 1 Bartlett W B 2011 Titanic 9 Hours to Hell the Survivors Story Stroud Gloucestershire Amberley Publishing ISBN 978 1 4456 0482 4 Beesley Lawrence 1960 1912 The Loss of the SS Titanic its Story and its Lessons The Story of the Titanic as told by its Survivors London Dover Publications ISBN 978 0 486 20610 3 Bjorkfors Peter 2004 The Titanic Disaster and Images of National Identity in Scandinavian Literature in Bergfelder Tim Street Sarah b k The Titanic in myth and memory representations in visual and literary culture London I B Tauris ISBN 978 1 85043 431 3 Brown David G 2000 The Last Log of theTitanic New York McGraw Hill Professional ISBN 978 0 07 136447 8 Butler Daniel Allen 1998 Unsinkable The Full Story of RMSTitanic Mechanicsburg PA Stackpole Books ISBN 978 0 8117 1814 1 Chirnside Mark 2004 TheOlympic class ships Olympic Titanic Britannic Stroud Gloucestershire Tempus ISBN 978 0 7524 2868 0 Cox Stephen 1999 TheTitanicStory Hard Choices Dangerous Decisions Chicago Open Court Publishing ISBN 978 0 8126 9396 6 Eaton John P Haas Charles A 1987 Titanic Destination Disaster The Legends and the Reality Wellingborough Northamptonshire Patrick Stephens ISBN 978 0 85059 868 1 Eaton John P Haas Charles A 1994 Titanic Triumph and Tragedy Wellingborough Northamptonshire Patrick Stephens ISBN 978 1 85260 493 6 Everett Marshall 1912 Wreck and Sinking of theTitanic Chicago Homewood Press OCLC 558974511 Fitch Tad Layton J Kent Wormstedt Bill 2012 On A Sea of Glass The Life amp Loss of the R M S Titanic Amberley Books ISBN 1 84868 927 6 Foster John Wilson 1997 TheTitanicComplex Vancouver Belcouver Press ISBN 978 0 9699464 1 0 Georgiou Ioannis 2000 The Animals on board the Titanic Atlantic Daily Bulletin Southampton British Titanic Society ISSN 0965 6391 Gittins Dave Akers Jordan Cathy Behe George 2011 Too Few Boats Too Many Hindrances in Halpern Samuel b k Report into the Loss of the SSTitanic A Centennial Reappraisal Stroud Gloucestershire The History Press ISBN 978 0 7524 6210 3 Gleicher David 2006 The Rescue of the Third Class on theTitanic A Revisionist History Research in Maritime History No 31 St John s Newfoundland International Maritime Economic History Association ISBN 978 0 9738934 1 0 Gracie Archibald 1913 The Truth about theTitanic New York M Kennerley Also published as Gracie Archibald 2009 Titanic A Survivor s Story The History Press ISBN 978 0 7509 4702 2 Halpern Samuel 2011 Account of the Ship s Journey Across the Atlantic in Halpern Samuel b k Report into the Loss of the SSTitanic A Centennial Reappraisal Stroud Gloucestershire The History Press ISBN 978 0 7524 6210 3 Halpern Samuel Weeks Charles 2011 Description of the Damage to the Ship in Halpern Samuel b k Report into the Loss of the SSTitanic A Centennial Reappraisal Stroud Gloucestershire The History Press ISBN 978 0 7524 6210 3 Hoffman William Grimm Jack 1982 Beyond Reach The Search For TheTitanic New York Beaufort Books ISBN 978 0 8253 0105 6 Howells Richard Parton 1999 The Myth of theTitanic New York Palgrave Macmillan ISBN 978 0 312 22148 5 Hutchings David F de Kerbrech Richard P 2011 RMSTitanic1909 12 OlympicClass Owners Workshop Manual Sparkford Somerset Haynes ISBN 978 1 84425 662 4 Kuntz Tom 1998 TheTitanicDisaster Hearings New York Pocket Book ISBN 978 1 56865 748 6 Lord Walter 1976 A Night to Remember London Penguin Books ISBN 978 0 14 004757 8 Lord Walter 2005 1955 A Night to Remember New York St Martin s Griffin ISBN 978 0 8050 7764 3 Lord Walter 1987 The Night Lives On London Penguin Books ISBN 978 0 670 81452 7 Lynch Donald 1998 Titanic An Illustrated History New York Hyperion ISBN 978 0 786 86401 0 Marcus Geoffrey 1969 The Maiden Voyage New York Viking Press ISBN 978 0 670 45099 2 Marshall Logan 1912 Sinking of theTitanicand Great Sea Disasters Philadelphia The John C Winston Co OCLC 1328882 McCarty Jennifer Hooper Foecke Tim 2012 2008 What Really Sank The Titanic New Forensic Evidence New York Citadel ISBN 978 0 8065 2895 3 Mills Simon 1993 RMS Olympic The Old Reliable Dorset Waterfront Publications ISBN 0 946184 79 8 Mowbray Jay Henry 1912 Sinking of theTitanic Harrisburg PA The Minter Company OCLC 9176732 Parisi Paula 1998 Titanicand the Making of James Cameron New York Newmarket Press ISBN 978 1 55704 364 1 Regal Brian 2005 Radio The Life Story of a Technology Westport CT Greenwood Publishing Group ISBN 978 0 313 33167 1 Richards Jeffrey 2001 Imperialism and Music Britain 1876 1953 Manchester Manchester University Press ISBN 978 0 7190 6143 1 Turner Steve 2011 The Band that Played On Nashville TN Thomas Nelson ISBN 978 1 59555 219 8 Verhoeven John D 2007 Steel Metallurgy for the Non Metallurgist Materials Park OH ASM International ISBN 978 0 87170 858 8 Winocour Jack b k 1960 The Story of theTitanicas told by its Survivors London Dover Publications ISBN 978 0 486 20610 3 Zumdahl Steven S Zumdahl Susan A 2008 Chemistry Belmont CA Cengage Learning ISBN 978 0 547 12532 9 bthkhwamwarsar Foecke Tim 26 knyayn 2008 What really sank the Titanic Materials Today Elsevier 11 10 48 doi 10 1016 s1369 7021 08 70224 4 subkhnemux 4 minakhm 2012 Maltin Tim minakhm 2012 Smithsonian Institution khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 31 singhakhm 2020 subkhnemux 15 emsayn 2020 Ryan Paul R Winter 1985 1986 The Titanic Tale Oceanus Woods Hole MA Woods Hole Oceanographic Institution 4 28 Uchupi Elazar Ballard Robert D Lange William N Fall 1986 Resting in Pieces New Evidence About Titanic s Final Moments Oceanus Woods Hole MA Woods Hole Oceanographic Institution 29 3 53 60 raynganihm Broad William J 8 emsayn 1997 Toppling Theories Scientists Find 6 Slits Not Big Gash Sank Titanic The New York Times subkhnemux 5 phvscikayn 2011 Broad William J 15 emsayn 2008 In Weak Rivets a Possible Key to Titanic s Doom The New York Times subkhnemux 13 minakhm 2012 Ewers Justin 25 knyayn 2008 The Secret of How the Titanic Sank U S News amp World Report subkhnemux 11 emsayn 2012 karsubswn Passenger List and Survivors of Steamship Titanic United States Senate Inquiry 30 krkdakhm 1912 subkhnemux 5 mithunayn 2011 1999 1912 The Loss of the Titanic 1912 The Stationery Office ISBN 978 0 11 702403 8 Portman Jamie 12 phvscikayn 1994 U K Titanic exhibit an off season draw The Toronto Star British Wreck Commissioner s Inquiry 30 krkdakhm 1912 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 22 singhakhm 2014 subkhnemux 12 kumphaphnth 2012 British Wreck Commissioner s Inquiry Final Report Watertight Compartments 30 krkdakhm 1912 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 mkrakhm 2014 subkhnemux 14 emsayn 2012 British Wreck Commissioner s Inquiry Final Report Description of Damage 30 krkdakhm 1912 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 mkrakhm 2014 subkhnemux 14 emsayn 2012