การถ่ายเทความร้อน (อังกฤษ: heat transfer) คือการถ่ายเทของพลังงานความร้อน
ประโยชน์
การถ่ายเทความร้อน มีความสำคัญในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การใช้ความร้อนในการหุงต้มอาหาร กระบวนการแปรรูปที่เกี่ยวข้องกับความร้อนและความเย็นในโรงงานแปรรูปอาหาร เช่น กระบวนการแช่เย็น การแช่แข็ง การฆ่าเชื้อโดยใช้ความร้อนการอบแห้ง และการระเหย กระบวนการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนความร้อนระหว่างผลิตภัณฑ์และตัวกลางให้ความร้อน หรือความเย็นการถ่ายโอนความร้อนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิระหว่างตำแหน่งสองตำแหน่งในมีค่าแตกต่างกันโดยความร้อนจะถ่ายเทจากที่ที่มีอุณหภูมิสูงไปที่มีอุณหภูมิต่ำเสมอ ในตัวกลางหรือระหว่างตัวกลางการถ่ายโอนความร้อน
ชนิด
การถ่ายเทความร้อน สามารถจำแนก ได้ออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
การนำความร้อน
การนำความร้อน (อังกฤษ: heat conduction) คือ ปรากฏการณ์ที่พลังงานความร้อนถ่ายเทภายในวัตถุหนึ่ง ๆ หรือระหว่างวัตถุสองชิ้นที่สัมผัสกัน โดยมีทิศทางของการเคลื่อนที่ของพลังงานความร้อนจากบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า โดยที่ตัวกลางไม่มีการเคลื่อนที่ การนำความร้อนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นบนชั้นอะตอมของอนุภาค เป็นหนึ่งในกระบวนการถ่ายเทความร้อน ในโลหะ การนำความร้อนเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระ(คล้าย)ในของเหลวและของแข็งที่มีสภาพการนำความร้อนต่ำเป็นผลมาจากการสั่นของโมเลกุลข้างเคียง ในก๊าซ การนำความร้อนเกิดขึ้นผ่านการสั่นสะเทือนระหว่างโมเลกุลหรือกล่าวคือการนำความร้อนเป็นลักษณะการถ่ายเทความร้อนผ่าน โดยตรงจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่งโดยการสัมผัสกัน เช่น การเอามือไปจับกาน้ำร้อน จะทำให้ความร้อนจากกาน้ำถ่ายเทไปยังมือ จึงทำให้รู้สึกร้อน เป็นต้น วัสดุใดจะนำความร้อนดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (k)
การพาความร้อน
การพาความร้อน (อังกฤษ: heat convection) เป็นการถ่ายเทความร้อนที่เกิดขึ้นได้ ในสสารสองสถานะคือ ของเหลวและก๊าซ เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถเคลื่อนที่ได้โดยจะมีทิศทางลอยขึ้นเท่านั้น เนื่องจาก เมื่อสสารได้รับความร้อนจะมีการขยายตัว ทำให้ความหนาแน่นต่ำลง และสสารที่มีอุณหภูมิ ต่ำกว่า (ความหนาแน่นสูงกว่า) ก็จะลงมาแทนที่ ปรากฏการณนี้มีตัวอย่างคือ การเกิดลมบก ลมทะเล เป็นต้น การนำความร้อนเป็นการถ่ายเทความร้อนโดยการเคลื่อนที่ของโมเลกุลผ่านของแข็งหรือผ่านของไหลที่อยู่กับที่ อันเป็นผลมาจากอุณหภูมิที่แตกต่างกัน การนำความร้อนต่อหน่วยพื้นที่ ต่อหน่วยเวลา
ประเภทของการพาความร้อน
การพาความร้อนแบบธรรมชาติหรือแบบอิสระ (Natural or Free Convection)
-การเคลื่อนที่ของความร้อนระหว่างผิวของของแข็งและของไหล โดยไม่มีกลไกใดๆทำให้ของไหลเคลื่อนที่แต่เกิดจากแรงลอยตัวของของไหลเอง
-แรงลอยตัวเกิดจากผลการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่น ที่มีอุณหภูมิของของไหล แตกต่างกัน ใน 2 บริเวณ
การพาความร้อนแบบบังคับ (Forced Convection)
การเคลื่อนที่ของความร้อนระหว่างผิวของของแข็งและของไหล โดยของ ไหลถูกบังคับให้เคลื่อนที่ไปสัมผัสกับผิวของของแข็งโดยกลไกภายนอก เช่น พัดลม เครื่องสูบ
3.การแผ่รังสีความร้อน (Radiation)
การแผ่รังสีความร้อน (Radiation) เป็นการถ่ายเทความร้อนออกรอบตัวทุกทิศทุกทาง โดยมิต้องอาศัยตัวกลางในการส่งถ่ายพลังงาน ดังเช่น การนำความร้อน และการพาความร้อน การแผ่รังสีสามารถถ่ายเทความร้อนผ่านอวกาศได้ วัตถุทุกชนิดที่มีอุณหภูมิสูงกว่า -273 ํC หรือ 0 K (เคลวิน) ย่อมมีการแผ่รังสี วัตถุที่มีอุณหภูมิสูงแผ่รังสีคลื่นสั้น วัตถุที่มีอุณหภูมิต่ำแผ่รังสีคลื่นยาว เช่น การตากปลาแห้ง ตากเสื่อผ้ากลางแจ้ง ทั้งนี้การแผ่รังสี คือการถ่ายโอนความร้อนโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ เช่น ความร้อนที่เกิดจากดวงอาทิตย์ถือเป็นความร้อนที่เกิดจากการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี โดยที่วัตถุแต่ละชนิดสามารถดูดกลืนความร้อนจากการแผ่รังสีได้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
1. สีของวัตถุ วัตถุสีดำหรือสีเข้มดูดกลืนความร้อนได้ดีกว่าวัตถุสีขาวหรือสีอ่อน
2. ผิววัตถุ วัตถุผิวขรุขระดูดกลืนความร้อนได้ดีกว่าวัตถุผิวเรียบและขัดมัน
คุณสมบัติของการแผ่รังสี
เมื่อการแผ่พลังงานไปกระทบกับพื้นผิวของวัตถุ ส่วนหนึ่งเกิดการสะท้อน ส่วนหนึ่งถูกดูดกลืนไว้ และอีกส่วนหนึ่งถูกส่งผ่านวัตถุ
กลไกทางกายภาพ
ประเภทของการแผ่รังสีของคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามีอยู่หลายประเภท แต่ในที่นี้จะพูดถึงการแผ่รังสีความร้อนเท่านั้น ซึ่งจะกล่าวได้ว่าผลที่เกิดจากแพร่ด้วยค่าความเร็วของแสง เมตรต่อวินาที ความเร็วนี้เท่ากับผลที่ได้จากความยาวคลื่นและความถี่ของการแผ่รังสี
เมื่อ C คือความเร็วแสง ซึ่งอยู่ที่ เมตรต่อวินาที, และ คือความยาวคลื่นและความถี่คลื่นตามลำดับ
การถ่ายเทความร้อนในร่างกายมนุษย์
หลักการของการถ่ายเทความร้อนในระบบวิศวกรรมสามารถนำไปใช้กับร่างกายมนุษย์เพื่อที่จะกำหนดวิธีการที่ร่างกายถ่ายโอนความร้อน ความร้อนที่เกิดขึ้นในร่างกายโดยการเผาผลาญอย่างต่อเนื่องของสารอาหารที่ให้พลังงานสำหรับระบบของร่างกาย ร่างกายมนุษย์จะต้องรักษาอุณหภูมิภายในที่สอดคล้องกันในการที่จะรักษาการทำงานของร่างกายให้มีสุขภาพดี ดังนั้นความร้อนส่วนเกินจะต้องกระจายออกจากร่างกายเพื่อให้อุณหภูมิภายในร่างกายมีความสมดุล เมื่อมีการออกกำลังกายจะทำให้อัตราการเผาผลาญและอัตราการผลิดความร้อนในร่างกายก็จะเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะมีการถ่ายเทความร้อน ออกจากร่างกายเพื่อปรับสมดุลจึงทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
อ้างอิง
- เทอร์โม-ความร้อนประยุกต์,รศ.มนตรี พิรุณเกษตร,กรุงเทพ-ซีเอ็ดเคยูชั่น,2539
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-12-01.
- การถ่ายโอนความร้อนบทที่20 โดยคุณอรอุมา
- http://physicsworld.nanacity.com/physicsworld/lesson/tran3.htm
- หนังสือเรื่อง การถ่ายเทความร้อน JACK P.HOLMAN แปลและเรียบเรียงโดย ผศ.ดร.ธนาคม สุนทรชัยนาคแสง บทที่8 หน้า 291
- หนังสือเรื่อง การถ่ายเทความร้อน JACK P.HOLMAN แปลและเรียบเรียงโดย ผศ.ดร.ธนาคม สุนทรชัยนาคแสง บทที่8 หน้า 289
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karthayethkhwamrxn xngkvs heat transfer khuxkarthayethkhxngphlngngankhwamrxnkarthayethkhwamrxncami3rupaebbdngthiehninrupsungthng3aebbcamikhwamsmphnthknpraoychnkarthayethkhwamrxn mikhwamsakhyinchiwitpracawnaelaxutsahkrrmaeprrupxahar imwacaepn karichkhwamrxninkarhungtmxahar krabwnkaraeprrupthiekiywkhxngkbkhwamrxnaelakhwameyninorngnganaeprrupxahar echn krabwnkaraecheyn karaechaekhng karkhaechuxodyichkhwamrxnkarxbaehng aelakarraehy krabwnkarehlaniekiywkhxngkbkarthayoxnkhwamrxnrahwangphlitphnthaelatwklangihkhwamrxn hruxkhwameynkarthayoxnkhwamrxnepnpraktkarnthrrmchatithiekidkhunemuxxunhphumirahwangtaaehnngsxngtaaehnnginmikhaaetktangknodykhwamrxncathayethcakthithimixunhphumisungipthimixunhphumitaesmx intwklanghruxrahwangtwklangkarthayoxnkhwamrxnchnidkarthayethkhwamrxn samarthcaaenk idxxkepn 3 aebb dngni karnakhwamrxn karnakhwamrxn xngkvs heat conduction khux praktkarnthiphlngngankhwamrxnthayethphayinwtthuhnung hruxrahwangwtthusxngchinthismphskn odymithisthangkhxngkarekhluxnthikhxngphlngngankhwamrxncakbriewnthimixunhphumisungipyngbriewnthimixunhphumitakwa odythitwklangimmikarekhluxnthi karnakhwamrxnepnkrabwnkarthiekidkhunbnchnxatxmkhxngxnuphakh epnhnunginkrabwnkarthayethkhwamrxn inolha karnakhwamrxnepnphlmacakkarekhluxnthikhxngxielktrxnxisra khlay inkhxngehlwaelakhxngaekhngthimisphaphkarnakhwamrxntaepnphlmacakkarsnkhxngomelkulkhangekhiyng inkas karnakhwamrxnekidkhunphankarsnsaethuxnrahwangomelkulhruxklawkhuxkarnakhwamrxnepnlksnakarthayethkhwamrxnphan odytrngcakwtthuhnungipyngxikwtthuhnungodykarsmphskn echn karexamuxipcbkanarxn cathaihkhwamrxncakkanathayethipyngmux cungthaihrusukrxn epntn wsduidcanakhwamrxndihruximdi khunxyukbsmprasiththikarnakhwamrxn k karphakhwamrxn karphakhwamrxn xngkvs heat convection epnkarthayethkhwamrxnthiekidkhunid inssarsxngsthanakhux khxngehlwaelakas enuxngcakepnsingthisamarthekhluxnthiidodycamithisthanglxykhunethann enuxngcak emuxssaridrbkhwamrxncamikarkhyaytw thaihkhwamhnaaenntalng aelassarthimixunhphumi takwa khwamhnaaennsungkwa kcalngmaaethnthi praktkarnnimitwxyangkhux karekidlmbk lmthael epntn karnakhwamrxnepnkarthayethkhwamrxnodykarekhluxnthikhxngomelkulphankhxngaekhnghruxphankhxngihlthixyukbthi xnepnphlmacakxunhphumithiaetktangkn karnakhwamrxntxhnwyphunthi txhnwyewla rupniaesdngihehnthungkarkhanwnkarphakhwamrxnthipkkhlumbnolk siiklekhiyngkbsiaedngepnphunthibriewnrxnaelasithiiklekhiyngkbsifaepnphunthibriewnthieynpraephthkhxngkarphakhwamrxn karphakhwamrxnaebbthrrmchatihruxaebbxisra Natural or Free Convection karekhluxnthikhxngkhwamrxnrahwangphiwkhxngkhxngaekhngaelakhxngihl odyimmiklikidthaihkhxngihlekhluxnthiaetekidcakaernglxytwkhxngkhxngihlexng aernglxytwekidcakphlkarepliynaeplngkhwamhnaaenn thimixunhphumikhxngkhxngihl aetktangkn in 2 briewn karphakhwamrxnaebbbngkhb Forced Convection karekhluxnthikhxngkhwamrxnrahwangphiwkhxngkhxngaekhngaelakhxngihl odykhxng ihlthukbngkhbihekhluxnthiipsmphskbphiwkhxngkhxngaekhngodyklikphaynxk echn phdlm ekhruxngsub 3 karaephrngsikhwamrxn Radiation karaephrngsikhwamrxn Radiation epnkarthayethkhwamrxnxxkrxbtwthukthisthukthang odymitxngxasytwklanginkarsngthayphlngngan dngechn karnakhwamrxn aelakarphakhwamrxn karaephrngsisamarththayethkhwamrxnphanxwkasid wtthuthukchnidthimixunhphumisungkwa 273 C hrux 0 K ekhlwin yxmmikaraephrngsi wtthuthimixunhphumisungaephrngsikhlunsn wtthuthimixunhphumitaaephrngsikhlunyaw echn kartakplaaehng takesuxphaklangaecng thngnikaraephrngsi khuxkarthayoxnkhwamrxnodyimtxngphantwklangid echn khwamrxnthiekidcakdwngxathitythuxepnkhwamrxnthiekidcakkarthayoxnkhwamrxnodykaraephrngsi odythiwtthuaetlachnidsamarthdudklunkhwamrxncakkaraephrngsiidimethakn thngnikhunxyukb 1 sikhxngwtthu wtthusidahruxsiekhmdudklunkhwamrxniddikwawtthusikhawhruxsixxn 2 phiwwtthu wtthuphiwkhrukhradudklunkhwamrxniddikwawtthuphiweriybaelakhdmn khunsmbtikhxngkaraephrngsi emuxkaraephphlngnganipkrathbkbphunphiwkhxngwtthu swnhnungekidkarsathxn swnhnungthukdudkluniw aelaxikswnhnungthuksngphanwtthu klikthangkayphaph praephthkhxngkaraephrngsikhxngkhlunsnamaemehlkiffamixyuhlaypraephth aetinthinicaphudthungkaraephrngsikhwamrxnethann sungcaklawidwaphlthiekidcakaephrdwykhakhwamerwkhxngaesng 299 792 458 displaystyle 299 792 458 emtrtxwinathi khwamerwniethakbphlthiidcakkhwamyawkhlunaelakhwamthikhxngkaraephrngsi C fl displaystyle C f lambda emux C khuxkhwamerwaesng sungxyuthi 299 792 458 displaystyle 299 792 458 emtrtxwinathi l displaystyle lambda aela f displaystyle f khuxkhwamyawkhlunaelakhwamthikhluntamladbkarthayethkhwamrxninrangkaymnusyhlkkarkhxngkarthayethkhwamrxninrabbwiswkrrmsamarthnaipichkbrangkaymnusyephuxthicakahndwithikarthirangkaythayoxnkhwamrxn khwamrxnthiekidkhuninrangkayodykarephaphlayxyangtxenuxngkhxngsarxaharthiihphlngngansahrbrabbkhxngrangkay rangkaymnusycatxngrksaxunhphumiphayinthisxdkhlxngkninkarthicarksakarthangankhxngrangkayihmisukhphaphdi dngnnkhwamrxnswnekincatxngkracayxxkcakrangkayephuxihxunhphumiphayinrangkaymikhwamsmdul emuxmikarxxkkalngkaycathaihxtrakarephaphlayaelaxtrakarphlidkhwamrxninrangkaykcaephimkhun rangkaykcamikarthayethkhwamrxn xxkcakrangkayephuxprbsmdulcungthaihrangkaymisukhphaphdixangxingethxrom khwamrxnprayukt rs mntri phirunekstr krungethph siexdekhyuchn 2539 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 04 subkhnemux 2014 12 01 karthayoxnkhwamrxnbththi20 odykhunxrxuma http physicsworld nanacity com physicsworld lesson tran3 htm hnngsuxeruxng karthayethkhwamrxn JACK P HOLMAN aeplaelaeriyberiyngody phs dr thnakhm sunthrchynakhaesng bththi8 hna 291 hnngsuxeruxng karthayethkhwamrxn JACK P HOLMAN aeplaelaeriyberiyngody phs dr thnakhm sunthrchynakhaesng bththi8 hna 289