Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ โรคซาร์ส (อังกฤษ: severe acute respiratory syndrome, SARS) เป็นไวรัสโรคระบบหายใจที่มีต้นกำเนิดจากสัตว์ซึ่งมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (severe acute respiratory syndrome coronavirus; SARS-CoV หรือ SARS-CoV-1) สายจำเพาะแรกของสปีชีส์โคโรนาไวรัสซาร์สในโคโรนาไวรัสสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARSr-CoV) กลุ่มอาการนี้ก่อให้เกิด ในช่วงปลาย ค.ศ. 2017 นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนสืบต้นตอไวรัสจากตัวกลางในอีเห็นข้างลาย ถึง ในเขต มณฑลยูนนาน
| กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) | |
|---|---|
| ชื่ออื่น | กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง |
 | |
| กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนของไวรัสซาร์ส | |
| การออกเสียง | |
| สาขาวิชา | โรคติดเชื้อ |
| อาการ | ป่วย, ไอแห้งบ่อย, ปวดหัว, ปวดกล้ามเนื้อ, หายใจลำบาก |
| ภาวะแทรกซ้อน | กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) กับโรคร่วมอื่น ๆ ที่นำไปสู่การเสียชีวิต |
| สาเหตุ | ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โรคซาร์ส (SARS-CoV-1) |
| การป้องกัน | ล้างมือ, รักษามารยาทการไอ, หลีกเลี่ยงกับการใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ, ไม่เดินทางไปยังที่ที่มีผู้ติดเชื้อ |
| พยากรณ์โรค | โอกาสเสียชีวิตร้อยละ 9.5 (ทุกประเทศ) |
| ความชุก | 8,098 เคส |
| การเสียชีวิต | เท่าที่รู้ 774 คน |
ซาร์สเป็นโรคที่หายาก ในตอนที่โรคระบาดนี้สิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 มีผู้ติดเชื้อ 8,422 รายที่มีอัตราป่วยตาย (CFR) ร้อยละ 11 ไม่มีเคส SARS-CoV-1 ที่มีการรายงานทั่วโลกมาตั้งแต่ ค.ศ. 2004
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 SARSr-CoV อีกสายหนึ่งมีชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) สายพันธ์ุนี้ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นโรคทำให้เกิด การระบาดทั่วของโควิด-19
อาการและอาการแสดง
อาการแรกเริ่มจะคล้ายกับอาการของไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ และอาการแบบไม่จำเพาะอื่น ๆ อาการเดียวที่พบร่วมกันในผู้ป่วยทุกรายคือมีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียส ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะมีอาการหายใจลำบากและมีปอดอักเสบตามมา ซึ่งอาจเป็นปอดอักเสบจากไวรัสโดยตรง หรือเป็นปอดอักเสบจากแบคทีเรียแทรกซ้อน
เชื้อซาร์สมีระยะฟักตัวอยู่ที่ประมาณ 4–6 วัน แต่ก็พบได้สั้นสุดคือ 1 วัน และนานสุดคือ 14 วัน
สาเหตุ
โรคซาร์ส เกิดจากเชื้อไวรัส 2 ชนิด
- เป็นไวรัสในกลุ่มไวรัสโคโรนา (Corona Virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหวัดธรรมดา
- เป็นไวรัสอยู่ในกลุ่ม (Paramyxo Virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัด คางทูม และ
การระบาด
องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคนี้มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน เมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ระบาดไปที่ฮ่องกง และต่อมาที่เวียดนาม สิงคโปร์ และแคนาดา โดยต่อมามีผู้พบโรคนี้ในที่อื่น ๆ ซึ่งรวมถึงในสหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ ไต้หวัน และเยอรมนี
| ประเทศหรือภูมิภาค | ติดเชื้อ | เสียชีวิต | อัตราผู้ป่วยตาย (%) | |
|---|---|---|---|---|
 จีน | 5,327 | 349 | 6.6 | |
 ฮ่องกง | 1,755 | 299 | 17.0 | |
 ไต้หวัน | 346 | 73 | 21.1 | |
 แคนาดา | 251 | 43 | 17.1 | |
 สิงคโปร์ | 238 | 33 | 13.9 | |
 เวียดนาม | 63 | 5 | 7.9 | |
 สหรัฐ | 27 | 0 | 0 | |
 ฟิลิปปินส์ | 14 | 2 | 14.3 | |
 ไทย | 9 | 2 | 22.2 | |
 เยอรมนี | 9 | 0 | 0 | |
 มองโกเลีย | 9 | 0 | 0 | |
 ฝรั่งเศส | 7 | 1 | 14.3 | |
 ออสเตรเลีย | 6 | 0 | 0 | |
 มาเลเซีย | 5 | 2 | 40.0 | |
 สวีเดน | 5 | 0 | 0 | |
 สหราชอาณาจักร | 4 | 0 | 0 | |
 อิตาลี | 4 | 0 | 0 | |
 บราซิล | 3 | 0 | 0 | |
 อินเดีย | 3 | 0 | 0 | |
 เกาหลีใต้ | 3 | 0 | 0 | |
 อินโดนีเซีย | 2 | 0 | 0 | |
 แอฟริกาใต้ | 1 | 1 | 100.0 | |
 โคลอมเบีย | 1 | 0 | 0 | |
 คูเวต | 1 | 0 | 0 | |
 ไอร์แลนด์ | 1 | 0 | 0 | |
 มาเก๊า | 1 | 0 | 0 | |
 นิวซีแลนด์ | 1 | 0 | 0 | |
 โรมาเนีย | 1 | 0 | 0 | |
 รัสเซีย | 1 | 0 | 0 | |
 สเปน | 1 | 0 | 0 | |
 สวิตเซอร์แลนด์ | 1 | 0 | 0 | |
| รวมทุกที่ยกเว้นจีน | 2,769 | 454 | 16.4 | |
| รวม (29 ดินแดน) | 8,096 | 774 | 9.6 | |
| ||||
อ้างอิง
- Likhacheva A (April 2006). "SARS Revisited". The Virtual Mentor. 8 (4): 219–22. doi:10.1001/virtualmentor.2006.8.4.jdsc1-0604. PMID 23241619. จากแหล่งเดิมเมื่อ 7 May 2020. สืบค้นเมื่อ 26 April 2020.
SARS—the acronym for sudden acute respiratory syndrome
- "SARS (severe acute respiratory syndrome) – NHS". National Health Service. 2019-10-24. จากแหล่งเดิมเมื่อ 9 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-04-22.
- , ประเทศจีน
- สำหรับงานวิจัย ดู: Wang, Ning (2018). "Serological Evidence of Bat SARS-Related Coronavirus Infection in Humans, China" (PDF). Virologica Sinica. 33 (1): 104–107. doi:10.1007/s12250-018-0012-7. PMC 6178078. PMID 29500691. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 November 2020. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
- สำหรับสื่อข่าวภาษาอังกฤษ ดู: "Bat cave solves mystery of deadly SARS virus — and suggests new outbreak could occur". Nature. 2017-12-01. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2020. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
- สำหรับข่าวเพิ่มติมในภาษาจีน ดู: "石正丽团队两年前已发现蝙蝠冠状病毒感染人现象". [新京报]. 2020-02-26. จากแหล่งเดิมเมื่อ 10 January 2021. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
- Chan-Yeung M, Xu RH (November 2003). "SARS: epidemiology". Respirology. 8 Suppl (s1): S9-14. doi:10.1046/j.1440-1843.2003.00518.x. PMC 7169193. PMID 15018127.
- "SARS (severe acute respiratory syndrome)". . UK National Health Service. 3 October 2014. จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2016. สืบค้นเมื่อ 8 March 2016.
Since 2004, there haven't been any known cases of SARS reported anywhere in the world.
- "New coronavirus stable for hours on surfaces". National Institutes of Health (NIH) (ภาษาอังกฤษ). NIH.gov. 17 March 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2020. สืบค้นเมื่อ May 4, 2020.
- "Myth busters". WHO.int. World Health Organization. 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-08-16. สืบค้นเมื่อ 2007-06-08.
- ธเนศ พัวพรพงษ์ (บ.ก.). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 November 2007.
- "Summary of probable SARS cases with onset of illness from 1 November 2002 to 31 July 2003". World Health Organization. 21 April 2004. จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 4 February 2020.
- "衛生署針對報載SARS死亡人數有極大差異乙事提出說明" (ภาษาจีนตัวย่อ). 台灣衛生福利部疾病管制署. 16 June 2003. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 February 2020.
- "十年前SARS流行 346人感染73死亡" (ภาษาจีนตัวย่อ). 公視. 24 April 2013. จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 February 2020. สืบค้นเมื่อ 19 February 2020.
อ่านเพิ่ม
- Sihoe AD, Wong RH, Lee AT, Lau LS, Leung NY, Law KI, Yim AP (June 2004). "Severe acute respiratory syndrome complicated by spontaneous pneumothorax". Chest. 125 (6): 2345–51. doi:10.1378/chest.125.6.2345. PMC 7094543. PMID 15189961.
- Enserink M (March 2013). "War stories". Science. 339 (6125): 1264–8. doi:10.1126/science.339.6125.1264. PMID 23493690.
- Enserink M (March 2013). "SARS: chronology of the epidemic". Science. 339 (6125): 1266–71. Bibcode:2013Sci...339.1266E. doi:10.1126/science.339.6125.1266. PMID 23493691.
- Normile D (March 2013). "Understanding the enemy". Science. 339 (6125): 1269–73. Bibcode:2013Sci...339.1269N. doi:10.1126/science.339.6125.1269. PMID 23493692.
แหล่งข้อมูลอื่น
- MedlinePlus: Severe Acute Respiratory Syndrome News, links and information from The United States
- Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS) Symptoms and treatment guidelines, travel advisory, and daily outbreak updates, from the World Health Organization (WHO)
- : information on the international outbreak of the illness known as a severe acute respiratory syndrome (SARS), provided by the US Centers for Disease Control
| การจำแนกโรค | D |
|---|---|
| ทรัพยากรภายนอก |
|
 | บทความแพทยศาสตร์นี้ยังเป็น คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
klumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng hrux orkhsars xngkvs severe acute respiratory syndrome SARS epniwrsorkhrabbhayicthimitnkaenidcakstwsungmacakiwrsokhornasayphnthuklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng severe acute respiratory syndrome coronavirus SARS CoV hrux SARS CoV 1 saycaephaaaerkkhxngspichisokhornaiwrssarsinokhornaiwrssayphnthuklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng SARSr CoV klumxakarnikxihekid inchwngplay kh s 2017 nkwithyasastrchawcinsubtntxiwrscaktwklanginxiehnkhanglay thung inekht mnthlyunnanklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng sars chuxxunklumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerngklxngculthrrsnxielktrxnkhxngiwrssarskarxxkesiyng s ɑːr z sakhawichaorkhtidechuxxakarpwy ixaehngbxy pwdhw pwdklamenux hayiclabakphawaaethrksxnklumxakarhayiclabakechiybphln ARDS kborkhrwmxun thinaipsukaresiychiwitsaehtuiwrsokhornasayphnthuorkhsars SARS CoV 1 karpxngknlangmux rksamaryathkarix hlikeliyngkbkariklchidphutidechux imedinthangipyngthithimiphutidechuxphyakrnorkhoxkasesiychiwitrxyla 9 5 thukpraeths khwamchuk8 098 ekhskaresiychiwitethathiru 774 khn sarsepnorkhthihayak intxnthiorkhrabadnisinsudlngineduxnmithunayn kh s 2003 miphutidechux 8 422 raythimixtrapwytay CFR rxyla 11 immiekhs SARS CoV 1 thimikarraynganthwolkmatngaet kh s 2004 ineduxnthnwakhm kh s 2019 SARSr CoV xiksayhnungmichuxwaiwrsokhornasayphnthuihm SARS CoV 2 sayphnthunikxihekidorkhtidechuxiwrsokhorna 2019 okhwid 19 sungepnorkhthaihekid karrabadthwkhxngokhwid 19xakaraelaxakaraesdngxakaraerkerimcakhlaykbxakarkhxngikhhwdihy khuxmiikh pwdklamenux xxnephliy ix ecbkhx aelaxakaraebbimcaephaaxun xakarediywthiphbrwmkninphupwythukraykhuxmiikhekin 38 xngsaeslesiys phupwyswnhnungcamixakarhayiclabakaelamipxdxkesbtamma sungxacepnpxdxkesbcakiwrsodytrng hruxepnpxdxkesbcakaebkhthieriyaethrksxn echuxsarsmirayafktwxyuthipraman 4 6 wn aetkphbidsnsudkhux 1 wn aelanansudkhux 14 wnsaehtuorkhsars ekidcakechuxiwrs 2 chnid epniwrsinklumiwrsokhorna Corona Virus sungepnsaehtukhxngorkhhwdthrrmda epniwrsxyuinklum Paramyxo Virus sungepnsaehtukhxngorkhhd khangthum aelakarrabadxngkhkarxnamyolkrabuwa orkhnimitnkaenidmacakmnthlkwangtungkhxngpraethscin emux 16 phvscikayn ph s 2545 rabadipthihxngkng aelatxmathiewiydnam singkhopr aelaaekhnada odytxmamiphuphborkhniinthixun sungrwmthunginshrth frngess xngkvs ithwn aelaeyxrmni canwnphutidechuxsarsin kh s 2003 thwolkphutidechuxsarsaebngtampraethshruxphumiphakh 1 phvscikayn kh s 2002 31 krkdakhm kh s 2003 praethshruxphumiphakh tidechux esiychiwit xtraphupwytay cin 5 327 349 6 6 hxngkng 1 755 299 17 0 ithwn 346 73 21 1 aekhnada 251 43 17 1 singkhopr 238 33 13 9 ewiydnam 63 5 7 9 shrth 27 0 0 filippins 14 2 14 3 ithy 9 2 22 2 eyxrmni 9 0 0 mxngokeliy 9 0 0 frngess 7 1 14 3 xxsetreliy 6 0 0 maelesiy 5 2 40 0 swiedn 5 0 0 shrachxanackr 4 0 0 xitali 4 0 0 brasil 3 0 0 xinediy 3 0 0 ekahliit 3 0 0 xinodniesiy 2 0 0 aexfrikait 1 1 100 0 okhlxmebiy 1 0 0 khuewt 1 0 0 ixraelnd 1 0 0 maeka 1 0 0 niwsiaelnd 1 0 0 ormaeniy 1 0 0 rsesiy 1 0 0 sepn 1 0 0 switesxraelnd 1 0 0rwmthukthiykewncin 2 769 454 16 4rwm 29 dinaedn 8 096 774 9 6imrwmhxngkngkbmaeka sungraynganaeyktanghakody WHO hlngwnthi 11 krkdakhm kh s 2003 ekhsinithwn 325 ekhsthuk thingip cakkhxmulinkarthdlxngimephiyngphxhruximsmburn sahrbekhsphupwythithukthingip 135 rayincanwnnnesiychiwit 101 rayxangxingLikhacheva A April 2006 SARS Revisited The Virtual Mentor 8 4 219 22 doi 10 1001 virtualmentor 2006 8 4 jdsc1 0604 PMID 23241619 cakaehlngedimemux 7 May 2020 subkhnemux 26 April 2020 SARS the acronym for sudden acute respiratory syndrome SARS severe acute respiratory syndrome NHS National Health Service 2019 10 24 cakaehlngedimemux 9 March 2020 subkhnemux 2020 04 22 praethscin sahrbnganwicy du Wang Ning 2018 Serological Evidence of Bat SARS Related Coronavirus Infection in Humans China PDF Virologica Sinica 33 1 104 107 doi 10 1007 s12250 018 0012 7 PMC 6178078 PMID 29500691 PDF cakaehlngedimemux 1 November 2020 subkhnemux 8 January 2021 sahrbsuxkhawphasaxngkvs du Bat cave solves mystery of deadly SARS virus and suggests new outbreak could occur Nature 2017 12 01 cakaehlngedimemux 17 January 2020 subkhnemux 8 January 2021 sahrbkhawephimtiminphasacin du 石正丽团队两年前已发现蝙蝠冠状病毒感染人现象 新京报 2020 02 26 cakaehlngedimemux 10 January 2021 subkhnemux 8 January 2021 Chan Yeung M Xu RH November 2003 SARS epidemiology Respirology 8 Suppl s1 S9 14 doi 10 1046 j 1440 1843 2003 00518 x PMC 7169193 PMID 15018127 SARS severe acute respiratory syndrome UK National Health Service 3 October 2014 cakaehlngedimemux 11 March 2016 subkhnemux 8 March 2016 Since 2004 there haven t been any known cases of SARS reported anywhere in the world New coronavirus stable for hours on surfaces National Institutes of Health NIH phasaxngkvs NIH gov 17 March 2020 cakaehlngedimemux 23 March 2020 subkhnemux May 4 2020 Myth busters WHO int World Health Organization 2019 cakaehlngedimemux 6 February 2020 subkhnemux 15 March 2020 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2004 08 16 subkhnemux 2007 06 08 thens phwphrphngs b k khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 November 2007 Summary of probable SARS cases with onset of illness from 1 November 2002 to 31 July 2003 World Health Organization 21 April 2004 cakaehlngedimemux 19 March 2020 subkhnemux 4 February 2020 衛生署針對報載SARS死亡人數有極大差異乙事提出說明 phasacintwyx 台灣衛生福利部疾病管制署 16 June 2003 cakaehlngedimemux 20 March 2020 subkhnemux 19 February 2020 十年前SARS流行 346人感染73死亡 phasacintwyx 公視 24 April 2013 cakaehlngedimemux 19 February 2020 subkhnemux 19 February 2020 xanephimSihoe AD Wong RH Lee AT Lau LS Leung NY Law KI Yim AP June 2004 Severe acute respiratory syndrome complicated by spontaneous pneumothorax Chest 125 6 2345 51 doi 10 1378 chest 125 6 2345 PMC 7094543 PMID 15189961 Enserink M March 2013 War stories Science 339 6125 1264 8 doi 10 1126 science 339 6125 1264 PMID 23493690 Enserink M March 2013 SARS chronology of the epidemic Science 339 6125 1266 71 Bibcode 2013Sci 339 1266E doi 10 1126 science 339 6125 1266 PMID 23493691 Normile D March 2013 Understanding the enemy Science 339 6125 1269 73 Bibcode 2013Sci 339 1269N doi 10 1126 science 339 6125 1269 PMID 23493692 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb klumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng MedlinePlus Severe Acute Respiratory Syndrome News links and information from The United States Severe Acute Respiratory Syndrome SARS Symptoms and treatment guidelines travel advisory and daily outbreak updates from the World Health Organization WHO information on the international outbreak of the illness known as a severe acute respiratory syndrome SARS provided by the US Centers for Disease Control karcaaenkorkhDICD 10 U04ICD 079 82MeSH D045169 32835thrphyakrphaynxk 007192 med 3662 klumxakarthangedinhayicechiybphlnrunaerng bthkhwamaephthysastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk