ราชวงศ์ที่สามสิบแห่งอียิปต์ โดยปกติแล้วจะจัดเป็นราชวงศ์ลำดับที่ห้าในช่วงยุคปลายของอียิปต์โบราณ ได้สถาปนาขึ้นหลังจากการโค่นล้มพระราชบัลลังก์ของฟาโรห์ เมื่อช่วง 380 ปีก่อนคริสตกาลโดยฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 และล่มสลายลงจากการรุกรานราชอาณาจักรอียิปต์โดยจักรวรรดิอะคีเมนิด ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ เมื่อช่วง 343 ปีก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ที่สามสิบเป็นราชวงศ์สุดท้ายของอียิปต์โบราณ ภายหลังจากการเนรเทศฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 ราชอาณาจักรอียิปต์ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ต่างชาติ
ราชวงศ์ที่สามสิบแห่งอียิปต์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
380 ปีก่อนคริสตกาล–343 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||
แผ่นจารึกแห่งเนคทาเนโบที่ 1 | |||||||||
เมืองหลวง | เซเบนนิโตส | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาอียิปต์ | ||||||||
ศาสนา | ศาสนาอียิปต์โบราณ | ||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคคลาสสิค | ||||||||
• การปลดฟาโรห์เนเฟริเตสออกจากพระราชบัลลังก์ | 380 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||
• การหนีลี้ภัยของฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 | 343 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||
สกุลเงิน | เหรียญทองคำอียิปต์ | ||||||||
|
ประวัติ
ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 ได้ขึ้นมามีอำนาจและเข้าควบคุมราชอาณาจักรอียิปต์ทั้งหมดราวเดือนพฤศจิกายน เมื่อ 380 ปีก่อนคริสตกาล แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในรัชสมัยของพระองค์ในการปกป้องราชอาณาจักรของพระองค์จากการพิชิตของชาวเปอร์เซียอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวจากสปาร์ตาหรือเอเธนส์ในช่วง 365 ปีก่อนคริสตกาล ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 ได้ทรงแต่งตั้งเจ้าชายทีออสให้รั้งตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมและเป็นองค์รัชทายาทสืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ และจนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคตในช่วง 363 ปีก่อนคริสตกาล โดยพระราชบิดาและพระราชโอรสได้ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยกัน ภายหลังจากที่พระราชบิดาสวรรคตลง ฟาโรห์ทีออสก็ทรงได้เข้ารุกรานดินแดนของจักรวรรดิเปอร์เซียดินแดนบริเวณซีเรียและอิสราเอลสมัยใหม่ และเมื่อเริ่มพบกับความสำเร็จในการรุกรานดินแดนบางอย่างเมื่อพระองค์ก็ทรงได้สูญเสียพระราชบัลลังก์ไป อันเนื่องมาจากอุบายของพระอนุชาของพระองค์เองที่มีนามว่า ทจาฮาปิมู: 377 โดยเจ้าชายทจาฮาปิมูทรงได้ใช้ประโยชน์จากความไม่เป็นที่ชอบใจมากนักของฟาโรห์ทีออสภายในราชอาณาจักรอียิปต์ และทรงได้ประกาศพระโอรสของพระองค์—และเป็นพระราชนัดดาของฟาโรห์ทีออส นามว่า ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2—ขึ้นเป็นฟาโรห์ โดยกองทัพอียิปต์ที่เข้าข้างฝ่ายฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 จึงส่งผลให้ฟาโรห์ทีออสทรงหนีลี้ภัยไปที่ราชสำนักของกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย: 379
ในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 เป็นช่วงที่ผู้ปกครองชาวเปอร์เซียมีความพยายามที่จะเข้ามาพิชิตดินแดนอียิปต์อีกครั้ง ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นการก่อกบฏ ในช่วงสิบปีแรกแห่งการครองราชย์ของพระองค์ ราชอาณาจักรอียิปต์ได้รอดพ้นจากการพิชิตโดยชาวเปอร์เซียอีกครั้ง เนื่องจากกษัตริย์ จำเป็นต้องควบคุมความไม่สงบภายในจักรวรรดิ โดยที่พระองค์พยายามบุกเข้าอียิปต์แต่ไม่สำเร็จในช่วง 351 หรือ 350 ปีก่อนคริสตกาล ความพ่ายแพ้ของพระองค์ส่งผลให้จากทำให้เกิดการจลาจลในไซปรัส ฟีนิเซีย และซิลิเซีย: 379–380 ถึงแม้ว่าฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 จะทรงให้การสนับสนุนการก่อจลาจลเหล่านี้ แต่ในที่สุดแล้วกษัตริย์อาร์ตาเซอร์ซีสที่ 3 ก็สามารถเข้าปราบปรามกลุ่มกบฏเหล่านี้และสามารถบุกเข้าอียิปต์ได้อีกครั้งในช่วง 343 ปีก่อนคริสตกาล การบุกรุกครั้งที่สองนี้ประสบความสำเร็จ และฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 ทรงถูกบังคับให้หนีลี้ภัยออกจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ไปยังเมืองเมมฟิส ที่ซึ่งพระองค์ทรงเห็นว่าสามารถรอดพ้นไปได้ จากนั้นพระองค์ก็หนีไปทางใต้สู่ดินแดนนิวเบีย ซึ่งถือว่าพระองค์ได้พบที่ลี้ภัยที่ราชสำนักของกษัตริย์แห่งนาปาตา อย่างไรก็ตามฟาโรห์เนคทาเนโบก็อาจจะทรงสามารถรักษาพระราชอำนาจที่เป็นอิสระทางตอนใต้ของอียิปต์ได้อีก 2 ปี เนื่องจากเอกสารจากเมืองมีอายุย้อนไปถึงปีที่สิบแปดแห่งการครองราชย์ของพระองค์: 380–381
ถึงแม้ว่าจะมีบุคคลปริศนาที่มีนามว่า จะประกาศและตั้งตนขึ้นเป็นฟาโรห์ และเป็นผู้นำการกบฏต่อชาวเปอร์เซียตั้งแต่ 338 ถึง 335 ปีก่อนคริสตกาล แต่ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 ก็ถือว่าเป็นฟาโรห์ชาวพื้นเมืองพระองค์สุดท้ายของอียิปต์ การหนีลี้ภัยของพระองค์ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของอียิปต์ในฐานะรัฐอิสระ: 381
ฟาโรห์จากราชวงศ์ที่สามสิบแห่งอียิปต์
พระนาม | รูปภาพ | ช่วงรัชสมัย | พระนามครองราชบัลลังก์ | อธิบาย |
---|---|---|---|---|
เนคทาเนโบที่ 1(นัคต์เนเบฟที่ 1) | 380-362 ปีก่อนคริสตกาล | เคเปอร์คาเร | เดิมแล้วพระองค์เป็นบุตรชายของนายทหารนามว่า ทีออส (เพื่อไม่ให้สับสนกับพระราชโอรสของพระองค์ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์) และพระองค์เองก็ทรงเป็นแม่ทัพที่โดดเด่น พระองค์ได้ทรงปลดและน่าจะสำเร็จโทษฟาโรห์เนฟาอารุดที่ 2 เพื่อยุติการปกครองของราชวงศ์ที่ยี่สิบเก้าแห่งอียิปต์ ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 ทรงได้ย้ายราชธานีของอียิปต์จากเมืองเมนเดสไปยังเมืองเซเบนนิโตส นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงดำเนินการในแผนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งทั่วราชอาณาจักรอียิปต์ ซึ่งบางทีอาจทำได้ดีกว่าผู้ปกครองพระองค์ก่อนๆ ในหลายแผนการก่อสร้าง โดยพระองค์ทรงได้รับการยกย่องว่าทรงเป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้างวิหารแห่งไอซิสที่ เหนือสิ่งอื่นใด เขาทรงศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้าและพยายามทำให้ราชอาณาจักรอียิปต์ใกล้ชิดกับเทพเจ้ามากขึ้นโดยการฟื้นฟูอนุสาวรีย์และถวายเครื่องบูชาแด่เหล่าเทพเจ้า และยังทรงปกป้องราชอาณาจักรอียิปต์จากการรุกรานของจักรวรรดิอะคีเมนิดที่โหดเหี้ยม | |
ทีออส(ดเจดฮอร์) | 362-360 ปีก่อนคริสตกาล | อิร์มาอัตเอนเร | พระองค์ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระองค์ ตั้งแต่ระหว่างประมาณ 365 ปีก่อนคริสตกาล แต่ฟาโรห์ทีออสกลายเป็นที่ไม่เป็นที่ชอบใจของชาวอียิปต์ เนื่องจากพระองค์ทรงขึ้นภาษีเพื่อเป็นทุนในการดำเนินการทางทหารเพื่อพิชิตจักรวรรดิอะคีเมนิดในดินอดนบริเวณซีเรียและปาเลสไตน์รวมถึงเขตปกครอง และฟีนิเซีย เจ้าชายทจาฮาปิมู ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์จึงทรงใช้ประโยชน์จากความไม่พึงพอใจดังกล่าวนี้เพื่อแต่งตั้งเจ้าชายนัคต์ฮอร์เฮบ ซึ่งเป็นพระโอรสของพระองค์ให้ขึ้นมาครองราชย์บัลลังก์แทนในพระนามของฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 | |
เนคทาเนโบที่ 2(นัคต์เนเบฟที่ 2) | 360-343 ปีก่อนคริสตกาล | เซเนดจ์เอมอิบรา เซเตนเพนอินฮูร | พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองชาวอียิปต์พื้นเมืองพระองค์สุดท้ายในสมัยอียิปต์โบราณ การที่พระองค์ทรงถูกเนรเทศออกไปนั้นถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดพระราชอาณาจักรอียิปต์จนถึงปี ค.ศ. 1952 แต่อย่างไรก็ตาม ฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 ถือเป็นฟาโรห์ที่มีความสามารถมาก บางทีอาจจะเป็นราชวงศ์ที่มีอำนาจมากที่สุด ในขณะที่พระองค์ทรงมีส่วนร่วมในการสร้างและซ่อมแซมอนุสาวรีย์ในระดับที่เกินกว่าการก่อสร้างในรัชสมัยของพระอัยกาของพระองค์ พระองค์ยังสถาปนาความสัมพันธ์อันน่าจอมปลอมกับเหล่านครรัฐกรีก และยังพัฒนาทางเศรษฐกิจอีกด้วย พระองค์ทรงถูกโค่นล้มพระราชบัลลังก์โดยกษัตริย์ ในราว 343 ปีก่อนคริสตกาล และทรงหนีไปยังดินแดนนิวเบีย พระชะตากรรมที่ตามมาของพระองค์ได้สูญหายไปในหน้าประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าบางคนเชื่อว่าพระองค์น่าจะเสด็จสวรรคตหลังจากนั้นไม่นาน |
ลำดับเวลาของราชวงศ์ที่สามสิบแห่งอียิปต์
พระราชพงศาวลี
ดเจดฮอร์ เอ | [...]มู (♀) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เนคทาเนโบที่ 2 | เมอร์เยตฮาปิ (♀) | เนซิบาเนบดเจดเอต เอ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทีออส | ทจาฮาปิมู | อูดจาชู (♀) | ติคาเบส (♀) | เปดิอามุน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เคเดบนิธอิร์บิเนตที่ 2 (?) (♀) | เนคทาเนโบที่ 2 | นัคต์เนเบฟ เอ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชโอรสไม่ทราบพระนาม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ้างอิง
- Nicolas Grimal, A History of Ancient Egypt, Blackwell Books: 1992.
- Mark, Joshua J. (2016-10-12). "Late Period of Ancient Egypt - World History Encyclopedia". . สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
- Ancient History Encyclopedia
- Emmanuel K. Akyeampong and Henry Louis Gates, Jr (2012). Dictionary of African Biographies - Gooogle Books. Oxford University Press. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2017-12-17.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rachwngsthisamsibaehngxiyipt odypktiaelwcacdepnrachwngsladbthihainchwngyukhplaykhxngxiyiptobran idsthapnakhunhlngcakkarokhnlmphrarachbllngkkhxngfaorh emuxchwng 380 pikxnkhristkalodyfaorhenkhthaenobthi 1 aelalmslaylngcakkarrukranrachxanackrxiyiptodyckrwrrdixakhiemnid sungpkkhrxngodykstriy emuxchwng 343 pikxnkhristkal rachwngsthisamsibepnrachwngssudthaykhxngxiyiptobran phayhlngcakkarenrethsfaorhenkhthaenobthi 2 rachxanackrxiyiptktkxyuphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngstangchatirachwngsthisamsibaehngxiyipt380 pikxnkhristkal 343 pikxnkhristkalaephncarukaehngenkhthaenobthi 1emuxnghlwngesebnniotsphasathwipphasaxiyiptsasnasasnaxiyiptobrankarpkkhrxngsmburnayasiththirachyyukhprawtisastryukhkhlassikh karpldfaorhenefrietsxxkcakphrarachbllngk380 pikxnkhristkal karhniliphykhxngfaorhenkhthaenobthi 2343 pikxnkhristkalskulenginehriyythxngkhaxiyiptkxnhna thdiprachwngsthiyisibekaaehngxiyipt rachwngsthisamsibexdaehngxiyiptprawtihnakakphithisphcakchwngrachwngsthisamsibaehngxiyipt faorhenkhthaenobthi 1 idkhunmamixanacaelaekhakhwbkhumrachxanackrxiyiptthnghmdraweduxnphvscikayn emux 380 pikxnkhristkal aetichewlaswnihyinrchsmykhxngphraxngkhinkarpkpxngrachxanackrkhxngphraxngkhcakkarphichitkhxngchawepxresiyxikkhrngdwykhwamchwyehluxepnkhrngkhrawcakspartahruxexethnsinchwng 365 pikxnkhristkal faorhenkhthaenobthi 1 idthrngaetngtngecachaythixxsihrngtaaehnngepnphusaercrachkarrwmaelaepnxngkhrchthayathsubthxdphrarachbllngktxcakphraxngkh aelacnkrathngphraxngkhesdcswrrkhtinchwng 363 pikxnkhristkal odyphrarachbidaaelaphrarachoxrsidthrngkhunkhrxngrachydwykn phayhlngcakthiphrarachbidaswrrkhtlng faorhthixxskthrngidekharukrandinaednkhxngckrwrrdiepxresiydinaednbriewnsieriyaelaxisraexlsmyihm aelaemuxerimphbkbkhwamsaercinkarrukrandinaednbangxyangemuxphraxngkhkthrngidsuyesiyphrarachbllngkip xnenuxngmacakxubaykhxngphraxnuchakhxngphraxngkhexngthiminamwa thcahapimu 377 odyecachaythcahapimuthrngidichpraoychncakkhwamimepnthichxbicmaknkkhxngfaorhthixxsphayinrachxanackrxiyipt aelathrngidprakasphraoxrskhxngphraxngkh aelaepnphrarachnddakhxngfaorhthixxs namwa faorhenkhthaenobthi 2 khunepnfaorh odykxngthphxiyiptthiekhakhangfayfaorhenkhthaenobthi 2 cungsngphlihfaorhthixxsthrnghniliphyipthirachsankkhxngkstriyaehngepxresiy 379 inchwngrchsmykhxngfaorhenkhthaenobthi 2 epnchwngthiphupkkhrxngchawepxresiymikhwamphyayamthicaekhamaphichitdinaednxiyiptxikkhrng sungphwkekhamxngwaepnkarkxkbt inchwngsibpiaerkaehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh rachxanackrxiyiptidrxdphncakkarphichitodychawepxresiyxikkhrng enuxngcakkstriy caepntxngkhwbkhumkhwamimsngbphayinckrwrrdi odythiphraxngkhphyayambukekhaxiyiptaetimsaercinchwng 351 hrux 350 pikxnkhristkal khwamphayaephkhxngphraxngkhsngphlihcakthaihekidkarclaclinisprs finiesiy aelasiliesiy 379 380 thungaemwafaorhenkhthaenobthi 2 cathrngihkarsnbsnunkarkxclaclehlani aetinthisudaelwkstriyxartaesxrsisthi 3 ksamarthekhaprabpramklumkbtehlaniaelasamarthbukekhaxiyiptidxikkhrnginchwng 343 pikxnkhristkal karbukrukkhrngthisxngniprasbkhwamsaerc aelafaorhenkhthaenobthi 2 thrngthukbngkhbihhniliphyxxkcaksamehliympakaemnainlipyngemuxngemmfis thisungphraxngkhthrngehnwasamarthrxdphnipid caknnphraxngkhkhniipthangitsudinaednniwebiy sungthuxwaphraxngkhidphbthiliphythirachsankkhxngkstriyaehngnapata xyangirktamfaorhenkhthaenobkxaccathrngsamarthrksaphrarachxanacthiepnxisrathangtxnitkhxngxiyiptidxik 2 pi enuxngcakexksarcakemuxngmixayuyxnipthungpithisibaepdaehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh 380 381 thungaemwacamibukhkhlprisnathiminamwa caprakasaelatngtnkhunepnfaorh aelaepnphunakarkbttxchawepxresiytngaet 338 thung 335 pikxnkhristkal aetfaorhenkhthaenobthi 2 kthuxwaepnfaorhchawphunemuxngphraxngkhsudthaykhxngxiyipt karhniliphykhxngphraxngkhthuxwaepncudsinsudkhxngxiyiptinthanarthxisra 381 faorhcakrachwngsthisamsibaehngxiyiptphranam rupphaph chwngrchsmy phranamkhrxngrachbllngk xthibayenkhthaenobthi 1 nkhtenebfthi 1 380 362 pikxnkhristkal ekhepxrkhaer edimaelwphraxngkhepnbutrchaykhxngnaythharnamwa thixxs ephuximihsbsnkbphrarachoxrskhxngphraxngkh sungepnphusubthxdphrarachbllngktxcakphraxngkh aelaphraxngkhexngkthrngepnaemthphthioddedn phraxngkhidthrngpldaelanacasaercothsfaorhenfaxarudthi 2 ephuxyutikarpkkhrxngkhxngrachwngsthiyisibekaaehngxiyipt faorhenkhthaenobthi 1 thrngidyayrachthanikhxngxiyiptcakemuxngemnedsipyngemuxngesebnniots nxkcakni phraxngkhyngthrngdaeninkarinaephnkxsrangsingpluksranghlayaehngthwrachxanackrxiyipt sungbangthixacthaiddikwaphupkkhrxngphraxngkhkxn inhlayaephnkarkxsrang odyphraxngkhthrngidrbkarykyxngwathrngepnphurierimkarkxsrangwiharaehngixsisthi ehnuxsingxunid ekhathrngsrththainsasnaxyangaerngklaaelaphyayamthaihrachxanackrxiyiptiklchidkbethphecamakkhunodykarfunfuxnusawriyaelathwayekhruxngbuchaaedehlaethpheca aelayngthrngpkpxngrachxanackrxiyiptcakkarrukrankhxngckrwrrdixakhiemnidthiohdehiymthixxs decdhxr 362 360 pikxnkhristkal xirmaxtexner phraxngkhthrngepnphusaercrachkarrwmkbfaorhenkhthaenobthi 1 sungepnphrarachbidakhxngphraxngkh tngaetrahwangpraman 365 pikxnkhristkal aetfaorhthixxsklayepnthiimepnthichxbickhxngchawxiyipt enuxngcakphraxngkhthrngkhunphasiephuxepnthuninkardaeninkarthangthharephuxphichitckrwrrdixakhiemnidindinxdnbriewnsieriyaelapaelsitnrwmthungekhtpkkhrxng aelafiniesiy ecachaythcahapimu sungepnphraxnuchakhxngphraxngkhcungthrngichpraoychncakkhwamimphungphxicdngklawniephuxaetngtngecachaynkhthxrehb sungepnphraoxrskhxngphraxngkhihkhunmakhrxngrachybllngkaethninphranamkhxngfaorhenkhthaenobthi 2enkhthaenobthi 2 nkhtenebfthi 2 360 343 pikxnkhristkal esendcexmxibra esetnephnxinhur phraxngkhthrngepnphupkkhrxngchawxiyiptphunemuxngphraxngkhsudthayinsmyxiyiptobran karthiphraxngkhthrngthukenrethsxxkipnnthuxwaepncudsinsudphrarachxanackrxiyiptcnthungpi kh s 1952 aetxyangirktam faorhenkhthaenobthi 2 thuxepnfaorhthimikhwamsamarthmak bangthixaccaepnrachwngsthimixanacmakthisud inkhnathiphraxngkhthrngmiswnrwminkarsrangaelasxmaesmxnusawriyinradbthiekinkwakarkxsranginrchsmykhxngphraxykakhxngphraxngkh phraxngkhyngsthapnakhwamsmphnthxnnacxmplxmkbehlankhrrthkrik aelayngphthnathangesrsthkicxikdwy phraxngkhthrngthukokhnlmphrarachbllngkodykstriy inraw 343 pikxnkhristkal aelathrnghniipyngdinaednniwebiy phrachatakrrmthitammakhxngphraxngkhidsuyhayipinhnaprawtisastr thungaemwabangkhnechuxwaphraxngkhnacaesdcswrrkhthlngcaknnimnanladbewlakhxngrachwngsthisamsibaehngxiyiptphrarachphngsawlidecdhxr ex mu enkhthaenobthi 2emxreythapi ensibaenbdecdext exthixxsthcahapimuxudcachu tikhaebs epdixamunekhedbnithxirbientthi 2 enkhthaenobthi 2nkhtenebf exphrarachoxrsimthrabphranamxangxingNicolas Grimal A History of Ancient Egypt Blackwell Books 1992 Mark Joshua J 2016 10 12 Late Period of Ancient Egypt World History Encyclopedia subkhnemux 2017 12 21 Ancient History Encyclopedia Emmanuel K Akyeampong and Henry Louis Gates Jr 2012 Dictionary of African Biographies Gooogle Books Oxford University Press ISBN 9780195382075 subkhnemux 2017 12 17