รุ่งระวี เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ เป็นที่ตั้งของสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์พื้นที่ป่าสนสองใบที่ราบแหล่งสุดท้ายของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี และยังเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พบป่าสนสองใบ
ตำบลรุ่งระวี | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Rung Rawi |
สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์พื้นที่ป่าสนสองใบที่ราบแหล่งสุดท้ายของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ศรีสะเกษ |
อำเภอ | น้ำเกลี้ยง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 37.58 ตร.กม. (14.51 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 8,312 คน |
• ความหนาแน่น | 221.18 คน/ตร.กม. (572.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 33130 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 331505 |
องค์การบริหารส่วนตำบลรุ่งระวี | |
---|---|
อบต.รุ่งระวี ที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลรุ่งระวี | |
พิกัด: 14°53′07.6″N 104°31′28.8″E / 14.885444°N 104.524667°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ศรีสะเกษ |
อำเภอ | น้ำเกลี้ยง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 37.58 ตร.กม. (14.51 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 8,312 คน |
• ความหนาแน่น | 221.18 คน/ตร.กม. (572.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | 06331506 |
ที่อยู่ที่ทำการ | หมู่ที่ 12 ตำบลรุ่งระวี อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ 33130 |
เว็บไซต์ | rungravee |
ที่ตั้งและอาณาเขต
ตำบลรุ่งระวี มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลตำแย อำเภอพยุห์ และตำบลละเอาะ ตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอน้ำเกลี้ยง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลเสื่องข้าว และตำบลตูม อำเภอศรีรัตนะ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลพรหมสวัสดิ์ และตำบลตำแย อำเภอพยุห์
ประวัติ
เดิมพื้นที่ "รุ่งระวี" เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอกันทรารมย์ ต่อมาทางราชการได้แบ่งพื้นที่การปกครองออกมาตั้งเป็นกิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2529 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ปีเดียวกัน โดยในขณะนั้นรุ่งระวียังมีฐานะเป็นหมู่บ้านหนึ่งในท้องที่ตำบลละเอาะ ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2533 จึงได้แยกตัวเป็นตำบลรุ่งระวี อำเภอน้ำเกลี้ยง โดยรวมเอาหมู่บ้านของตำบลเขินและตำบลละเอาะ ตั้งเป็นตำบลรุ่งระวี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 และมีผลในวันที่ 17 สิงหาคม ปีเดียวกันชื่อตำบลรุ่งระวีได้มาโดยมีปลัดในสมัยนั้นชื่อนายอุดม ได้เสนอชื่อเพื่อเลือก 3 ชื่อ ดังนี้
- "สวนป่า" เนื่องจากพื้นที่มีป่าสงวนแห่งชาติป่าสนละเอาะ ที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
- "ลำระวี" ซึ่งเป็นลำห้วยธรรมชาติที่ไหลผ่านพื้นที่ มีต้นกำเนิดอยู่ที่เขตตำบลไพร อำเภอขุนหาญ
- "รุ่งระวี" โดยใช่ชื่อหมู่บ้านรุ่ง หมู่ที่ 6 ตำบลละเอาะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่ มารวมกับชื่อลำห้วยในพื้นที่ กลายเป็นชื่อมงคลนาม และคนในพื้นที่ซึ่งนิยมเรียกชื่อหมู่บ้านรุ่งที่อยู่ติดห้วยระวีว่า "บ้านรุ่งระวี"
และได้ร่วมกันลงมติตั้งชื่อตำบลว่า "ตำบลรุ่งระวี" และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะกิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภอกันทรารมย์ ขึ้นเป็น อำเภอน้ำเกลี้ยง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน ทำให้ตำบลรุ่งระวี กิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภอกันทรารมย์ เข้ามาอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันเป็น 1 ใน 6 ตำบลของอำเภอน้ำเกลี้ยง
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
ตำบลรุ่งระวีแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 15 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ 1 | บ้านสบายใต้ | (Ban Sabai Tai) | หมู่ 14 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 2 | บ้านสบาย | (Ban Sabai) | หมู่ 4 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 3 | บ้านสบาย | (Ban Sabai) | หมู่ 3 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 4 | บ้านโนนงาม | (Ban Non Ngam) | หมู่ 4 (เดิม) โอนมาจากตำบลละเอาะ | |||
หมู่ 5 | บ้านหนองพะแนง | (Ban Nong Phanaeng) | หมู่ 5 (เดิม) โอนมาจากตำบลละเอาะ | |||
หมู่ 6 | บ้านรุ่ง | (Ban Rung) | หมู่ 6 (เดิม) โอนมาจากตำบลละเอาะ | |||
หมู่ 7 | บ้านหนองระไง | (Ban Nong Ra-ngai) | หมู่ 7 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 8 | บ้านหนองแคน | (Ban Nong Khaen) | หมู่ 12 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 9 | บ้านหนองแลง | (Ban Nong Laeng) | หมู่ 13 (เดิม) โอนมาจากตำบลเขิน | |||
หมู่ 10 | บ้านโนนโพธิ์ | (Ban Non Pho) | หมู่ 11 (เดิม) โอนมาจากตำบลละเอาะ | |||
หมู่ 11 | บ้านโนนไชยงาม | (Ban Non Chai-ngam) | - | |||
หมู่ 12 | บ้านหนองสบาย | (Ban Nong Sabai) | - | |||
หมู่ 13 | บ้านกลาง | (Ban Klang) | - | |||
หมู่ 14 | บ้านสบายเหนือ | (Ban Sabai Nuea) | - | |||
หมู่ 15 | บ้านรุ่งเหนือ | (Ban Rung Nuea) | - |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่ตำบลรุ่งระวี มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพียงแห่งเดียว คือ องค์การบริหารส่วนตำบลรุ่งระวี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลรุ่งระวีทั้งหมด ซึ่งเป็นสภาตำบลรุ่งระวี ที่จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2533 และยกฐานะขึ้นเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลรุ่งระวีในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน
ประชากร
พื้นที่ตำบลรุ่งระวีประกอบด้วยหมู่บ้านทั้งสิ้นจำนวน 15 หมู่บ้าน มีจำนวนประชากร 8,312 คน แบ่งเป็นชาย 4,212 คน หญิง 4,100 คน (เดือนธันวาคม 2564) เป็นตำบลที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในอำเภอน้ำเกลี้ยง
- หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
- หมายถึงจำนวนประชากรได้คงเดิมเมื่อเทียบกับปีก่อน
- หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
* ปี พ.ศ. 2558 มีการรวมผู้ที่ไม่ได้สัญชาติไทยในทะเบียนราษฎร ส่งผลให้ข้อมูลจำนวนประชากรปีดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
หมู่บ้าน | พ.ศ. 2564 | พ.ศ. 2563 | พ.ศ. 2562 | พ.ศ. 2561 | พ.ศ. 2560 | พ.ศ. 2559 | พ.ศ. 2558 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
หนองพะแนง | 1,135 | 1,128 | 1,114 | 1,108 | 1,111 | 1,103 | 1,094 |
รุ่งเหนือ | 846 | 827 | 832 | 819 | 820 | 809 | 796 |
หนองแคน | 697 | 683 | 681 | 699 | 687 | 691 | 688 |
สบาย (หมู่ 2) | 692 | 680 | 684 | 673 | 669 | 666 | 675 |
รุ่ง | 608 | 611 | 618 | 622 | 615 | 615 | 608 |
หนองสบาย | 590 | 588 | 591 | 579 | 586 | 589 | 573 |
สบายเหนือ | 571 | 584 | 588 | 590 | 592 | 580 | 579 |
หนองแลง | 562 | 553 | 546 | 543 | 542 | 539 | 526 |
โนนงาม | 535 | 535 | 541 | 529 | 527 | 514 | 507 |
หนองระไง | 503 | 505 | 505 | 502 | 505 | 505 | 499 |
โนนไชยงาม | 464 | 462 | 454 | 456 | 451 | 455 | 448 |
สบายใต้ | 356 | 361 | 361 | 369 | 380 | 380 | 389 |
โนนโพธิ์ | 285 | 288 | 288 | 290 | 287 | 284 | 284 |
กลาง | 244 | 243 | 242 | 240 | 240 | 238 | 235 |
สบาย (หมู่ 3) | 224 | 226 | 229 | 228 | 232 | 231 | 232 |
รวม | 8,312 | 8,274 | 8,274 | 8,247 | 8,244 | 8,199 | 8,133 |
สถานที่สำคัญ
สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา
ตั้งอยู่ที่พื้นที่หมู่ 5 บ้านหนองพะแนง ตำบลรุ่งระวี อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสนละเอาะ สังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) สำนักการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับหน่วยป้องกันรักษาที่ ศก.5 (ห้วยขะยุง - หนองม่วง) เป็นป่าสนสองใบบริเวณที่ราบผืนสุดท้ายของจังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่รับผิดชอบ 800 ไร่ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ยกพื้นที่ป่าสน ในท้องที่ตำบลตำแย ตำบลละเอาะ ตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอกันทรารมย์ และตำบลตูม ตำบลศรีแก้ว อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นป่าคุ้มครอง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2491 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ปีเดียวกัน
ต่อมาได้มีประกาศกฎกระทรวง ฉบับที่ 423 (พ.ศ. 2512) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ได้ยกพื้นที่ป่าสน ในท้องที่ ตำบลละเอาะ ตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอกันทรารมย์ ตำบลตำแย อำเภอเมืองศรีสะเกษ และตำบลตูม ตำบลศรีแก้ว อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2512 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ปีเดียวกัน เนื่องจากป่าแห่งนี้มีไม้ยาง ไม้กระบาก ไม้พะยอม ไม้ประดู่ ไม้พะยุง ไม้ตะเคียน ไม้สน และไม้ชนิดอื่นซึ่งมีค่าจำนวนมาก และมีของป่ากับทรัพยากรธรรมชาติอื่นด้วย สมควรกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อรักษาสภาพป่า ไม้ ของป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่นไว้
การเดินทางไปสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทานี้ สามารถเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ไปตามทางหลวงหมายเลข 221 จังหวัดศรีสะเกษ ไปอำเภอกันทรลักษ์ ตรงกิโลเมตรที่ 28 - 29 ก็จะถึงสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ถนนหลวงจะผ่านพื้นที่สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ที่ทำการสถานีห่างจากถนนใหญ่เพียง 200 เมตรเท่านั้น ปัจจุบันมีเส้นทางเดินชมพื้นที่ป่าสนสองใบที่ราบ ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ มีข้อมูลของพันธุ์ไม้ต่างๆ ให้ศึกษา และมีสวนสาธารณะเจริญจิต ตั้งอยู่ภายในพื้นที่สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา
อ้างอิง
- ประชากรในเขตตำบลรุ่งระวี เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 103 (9 ง): 157. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-03-24. สืบค้นเมื่อ 2020-05-23. วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2529
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอยางชุมน้อย กิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง และกิ่งอำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 107 (149 ง): (ฉบับพิเศษ) 75-79. วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2533
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 111 (21 ก): 32–34. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2007-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-05-23. วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2537
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 113 (9 ง): 164–165. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-25. สืบค้นเมื่อ 2020-02-19. วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [1] 2565. สืบค้น 24 มกราคม 2565.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [2] 2564. สืบค้น 18 มีนาคม 2564.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [3] 2563. สืบค้น 10 มกราคม 2563.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/036/T_0032.PDF 2562. สืบค้น 12 กุมภาพันธ์ 2562.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/041/22.PDF 2561. สืบค้น 26 กุมภาพันธ์ 2561.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat59.htm 2560. สืบค้น 3 มีนาคม 2560.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat58.htm 2558. สืบค้น 16 กุมภาพันธ์ 2559.
- "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าสน ในท้องที่ตำบลตำแย ตำบลละเอาะ และตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอกันทรารมย์ ตำบลตูมและตำบลศรีแก้ว อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๙๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 65 (72 ก): 802–804. วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2491
- "กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๒๓ (พ.ศ. ๒๕๑๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ [กำหนดให้ป่าในท้องที่ตำบลสนละเอาะ ในท้องที่ตำบลน้ำเกลี้ยง ตำบลละเอาะ อำเภอกันทรารมย์ ตำบลตำแย อำเภอเมืองศรีสะเกษ และตำบลศรีแก้ว ตำบลตูม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ]" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 86 (46 ก): 539–540. วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2512
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rungrawi epntablhnunginxaephxnaekliyng cnghwdsrisaeks epnthitngkhxngsthaniwnwthnwicyhwytha sungepnphunthixnurksphunthipasnsxngibthirabaehlngsudthaykhxngcnghwdsrisaeks sungmixayukwa 200 pi aelayngepnphunthi 1 in 3 khxngphakhtawnxxkechiyngehnuxthiphbpasnsxngibtablrungrawitablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Rung Rawisthaniwnwthnwicyhwytha sungepnphunthixnurksphunthipasnsxngibthirabaehlngsudthaykhxngcnghwdsrisaeks sungmixayukwa 200 pipraethsithycnghwdsrisaeksxaephxnaekliyngphunthi thnghmd37 58 tr km 14 51 tr iml prachakr 2564 thnghmd8 312 khn khwamhnaaenn221 18 khn tr km 572 9 khn tr iml rhsiprsniy 33130rhsphumisastr331505swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyxngkhkarbriharswntablrungrawixngkhkarbriharswntablxbt rungrawithitngthithakarxngkhkarbriharswntablrungrawiphikd 14 53 07 6 N 104 31 28 8 E 14 885444 N 104 524667 E 14 885444 104 524667praeths ithycnghwdsrisaeksxaephxnaekliyngphunthi thnghmd37 58 tr km 14 51 tr iml prachakr 2564 thnghmd8 312 khn khwamhnaaenn221 18 khn tr km 572 9 khn tr iml rhs xpth 06331506thixyuthithakarhmuthi 12 tablrungrawi xaephxnaekliyng cnghwdsrisaeks 33130ewbistrungravee wbr go wbr thswnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyaethngnaprapahmubanonnophthi edim sungekhyepnaehlngphlitnaprapathiichxupophkh briophkhkhxngchawbanthisakhykhxnghmubanonnophthi tablrungrawithitngaelaxanaekhttablrungrawi mixanaekhttidtxkbekhtkarpkkhrxngkhangekhiyng dngni thisehnux tidtxkbtabltaaey xaephxphyuh aelatabllaexaa tablnaekliyng xaephxnaekliyng thistawnxxk tidtxkbekhin xaephxnaekliyng thisit tidtxkbtablesuxngkhaw aelatabltum xaephxsrirtna thistawntk tidtxkbtablphrhmswsdi aelatabltaaey xaephxphyuhprawtiedimphunthi rungrawi epnswnhnungkhxngxaephxknthrarmy txmathangrachkaridaebngphunthikarpkkhrxngxxkmatngepnkingxaephxnaekliyng tamprakaskrathrwngmhadithylngwnthi 3 mkrakhm ph s 2529 odymiphlbngkhbtngaetwnthi 22 mkrakhm piediywkn odyinkhnannrungrawiyngmithanaepnhmubanhnunginthxngthitabllaexaa txmaemuxpramanpi ph s 2533 cungidaeyktwepntablrungrawi xaephxnaekliyng odyrwmexahmubankhxngtablekhinaelatabllaexaa tngepntablrungrawi tamprakaskrathrwngmhadithy emuxwnthi 2 krkdakhm ph s 2533 aelamiphlinwnthi 17 singhakhm piediywknchuxtablrungrawiidmaodymipldinsmynnchuxnayxudm idesnxchuxephuxeluxk 3 chux dngni swnpa enuxngcakphunthimipasngwnaehngchatipasnlaexaa thicdtngtamphrarachbyytipasngwnaehngchati larawi sungepnlahwythrrmchatithiihlphanphunthi mitnkaenidxyuthiekhttabliphr xaephxkhunhay rungrawi odyichchuxhmubanrung hmuthi 6 tabllaexaa sungepnhmubanihy marwmkbchuxlahwyinphunthi klayepnchuxmngkhlnam aelakhninphunthisungniymeriykchuxhmubanrungthixyutidhwyrawiwa banrungrawi aelaidrwmknlngmtitngchuxtablwa tablrungrawi aelatxmaidmiphrarachkvsdikaykthanakingxaephxnaekliyng xaephxknthrarmy khunepn xaephxnaekliyng tamprakaskrathrwngmhadithylngwnthi 27 phvsphakhm ph s 2537 odyihmiphltngaetwnthi 3 mithunayn piediywkn thaihtablrungrawi kingxaephxnaekliyng xaephxknthrarmy ekhamaxyuinekhtkarpkkhrxngkhxngxaephxnaekliyng cnghwdsrisaeks pccubnepn 1 in 6 tablkhxngxaephxnaekliyngkaraebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh tablrungrawiaebngphunthikarpkkhrxngxxkepn 15 hmuban idaek hmu 1 bansbayit Ban Sabai Tai hmu 14 edim oxnmacaktablekhin0hmu 2 bansbay Ban Sabai hmu 4 edim oxnmacaktablekhin0hmu 3 bansbay Ban Sabai hmu 3 edim oxnmacaktablekhinhmu 4 banonnngam Ban Non Ngam hmu 4 edim oxnmacaktabllaexaa0hmu 5 banhnxngphaaenng Ban Nong Phanaeng hmu 5 edim oxnmacaktabllaexaahmu 6 banrung Ban Rung hmu 6 edim oxnmacaktabllaexaahmu 7 banhnxngraing Ban Nong Ra ngai hmu 7 edim oxnmacaktablekhinhmu 8 banhnxngaekhn Ban Nong Khaen hmu 12 edim oxnmacaktablekhinhmu 9 banhnxngaelng Ban Nong Laeng hmu 13 edim oxnmacaktablekhinhmu 10 banonnophthi Ban Non Pho hmu 11 edim oxnmacaktabllaexaahmu 11 banonnichyngam Ban Non Chai ngam hmu 12 banhnxngsbay Ban Nong Sabai hmu 13 banklang Ban Klang hmu 14 bansbayehnux Ban Sabai Nuea hmu 15 banrungehnux Ban Rung Nuea karpkkhrxngswnthxngthin thxngthitablrungrawi mixngkhkrpkkhrxngswnthxngthin ephiyngaehngediyw khux xngkhkarbriharswntablrungrawi khrxbkhlumphunthitablrungrawithnghmd sungepnsphatablrungrawi thicdtngkhuninpi ph s 2533 aelaykthanakhunepnxngkhkarbriharswntablrungrawiinwnthi 30 mkrakhm ph s 2539 cnthungpccubnbriewnsamaeykhmubansbay tablrungrawi sungepnthangaeykiptwxaephxnaekliyng rwmthungxaephxknthrarmy xaephxsrirtna aelaxaephxebyclksprachakrphunthitablrungrawiprakxbdwyhmubanthngsincanwn 15 hmuban micanwnprachakr 8 312 khn aebngepnchay 4 212 khn hying 4 100 khn eduxnthnwakhm 2564 epntablthimicanwnprachakrmakthisudinxaephxnaekliyng hmaythungcanwnprachakridephimkhunemuxethiybkbpikxn hmaythungcanwnprachakridkhngedimemuxethiybkbpikxn hmaythungcanwnprachakridldlngemuxethiybkbpikxn pi ph s 2558 mikarrwmphuthiimidsychatiithyinthaebiynrasdr sngphlihkhxmulcanwnprachakrpidngklawephimkhunepncanwnmak hmuban ph s 2564 ph s 2563 ph s 2562 ph s 2561 ph s 2560 ph s 2559 ph s 2558hnxngphaaenng 1 135 1 128 1 114 1 108 1 111 1 103 1 094rungehnux 846 827 832 819 820 809 796hnxngaekhn 697 683 681 699 687 691 688sbay hmu 2 692 680 684 673 669 666 675rung 608 611 618 622 615 615 608hnxngsbay 590 588 591 579 586 589 573sbayehnux 571 584 588 590 592 580 579hnxngaelng 562 553 546 543 542 539 526onnngam 535 535 541 529 527 514 507hnxngraing 503 505 505 502 505 505 499onnichyngam 464 462 454 456 451 455 448sbayit 356 361 361 369 380 380 389onnophthi 285 288 288 290 287 284 284klang 244 243 242 240 240 238 235sbay hmu 3 224 226 229 228 232 231 232rwm 8 312 8 274 8 274 8 247 8 244 8 199 8 133sthanthisakhysthaniwnwthnwicyhwytha tnsnsxngibxyuphayinphunthisthaniwnwthnwicyhwytha tablrungrawi sungepnpasnthimixayumakkwa 200 pi tngxyuthiphunthihmu 5 banhnxngphaaenng tablrungrawi xyuinekhtpasngwnaehngchatipasnlaexaa sngkdxngkhkarxutsahkrrmpaim x x p sankkarpachumchn krmpaim krathrwngthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxm kbhnwypxngknrksathi sk 5 hwykhayung hnxngmwng epnpasnsxngibbriewnthirabphunsudthaykhxngcnghwdsrisaeks miphunthirbphidchxb 800 ir odykrathrwngmhadithyidykphunthipasn inthxngthitabltaaey tabllaexaa tablnaekliyng xaephxknthrarmy aelatabltum tablsriaekw xaephxknthrlks cnghwdsrisaeks ihepnpakhumkhrxng tamprakaskrathrwngmhadithylngwnthi 1 thnwakhm ph s 2491 odymiphlbngkhbtngaetwnthi 14 thnwakhm piediywkn txmaidmiprakaskdkrathrwng chbbthi 423 ph s 2512 xxktamkhwaminphrarachbyytipasngwnaehngchati ph s 2507 idykphunthipasn inthxngthi tabllaexaa tablnaekliyng xaephxknthrarmy tabltaaey xaephxemuxngsrisaeks aelatabltum tablsriaekw xaephxknthrlks cnghwdsrisaeks ihepnphunthipasngwnaehngchati tamprakaskrathrwngmhadithylngwnthi 24 emsayn ph s 2512 odymiphlbngkhbtngaetwnthi 27 phvsphakhm piediywkn enuxngcakpaaehngnimiimyang imkrabak imphayxm impradu imphayung imtaekhiyn imsn aelaimchnidxunsungmikhacanwnmak aelamikhxngpakbthrphyakrthrrmchatixundwy smkhwrkahndihepnpasngwnaehngchati ephuxrksasphaphpa im khxngpa aelathrphyakrthrrmchatixuniw karedinthangipsthaniwnwthnwicyhwythani samarthedinthangcakcnghwdsrisaeks iptamthanghlwnghmayelkh 221 cnghwdsrisaeks ipxaephxknthrlks trngkiolemtrthi 28 29 kcathungsthaniwnwthnwicyhwytha thnnhlwngcaphanphunthisthaniwnwthnwicyhwytha thithakarsthanihangcakthnnihyephiyng 200 emtrethann pccubnmiesnthangedinchmphunthipasnsxngibthirab sungepnphunthixnurks mikhxmulkhxngphnthuimtang ihsuksa aelamiswnsatharnaecriycit tngxyuphayinphunthisthaniwnwthnwicyhwythaxangxingprachakrinekhttablrungrawi eduxnmithunayn ph s 2564 odykrmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy PDF rachkiccanuebksa 103 9 ng 157 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 03 24 subkhnemux 2020 05 23 wnthi 21 mkrakhm ph s 2529 prakaskrathrwngmhadithy eruxng tngaelakahndekhttablinthxngthixaephxkhukhnth xaephxknthrlksn xaephxyangchumnxy kingxaephxnaekliyng aelakingxaephxwnghin cnghwdsrisaeks PDF rachkiccanuebksa 107 149 ng chbbphiess 75 79 wnthi 17 singhakhm ph s 2533 PDF rachkiccanuebksa 111 21 k 32 34 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2007 09 30 subkhnemux 2020 05 23 wnthi 3 mithunayn ph s 2537 PDF rachkiccanuebksa 113 9 ng 164 165 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 01 25 subkhnemux 2020 02 19 wnthi 30 mkrakhm ph s 2539 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2564 xxniln ekhathungidcak 1 2565 subkhn 24 mkrakhm 2565 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2563 xxniln ekhathungidcak 2 2564 subkhn 18 minakhm 2564 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2562 xxniln ekhathungidcak 3 2563 subkhn 10 mkrakhm 2563 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2561 xxniln ekhathungidcak http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2562 E 036 T 0032 PDF 2562 subkhn 12 kumphaphnth 2562 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2560 xxniln ekhathungidcak http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2561 E 041 22 PDF 2561 subkhn 26 kumphaphnth 2561 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang krmkarpkkhrxng eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2559 xxniln ekhathungidcak http stat bora dopa go th stat y stat59 htm 2560 subkhn 3 minakhm 2560 krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy prakassankthaebiynklang krmkarpkkhrxng eruxng canwnrasdrthwrachxanackr aeykepnkrungethphmhankhraelacnghwdtang tamhlkthankarthaebiynrasdr n wnthi 31 thnwakhm 2558 xxniln ekhathungidcak http stat bora dopa go th stat y stat58 htm 2558 subkhn 16 kumphaphnth 2559 phrarachkvsdikakahndpasn inthxngthitabltaaey tabllaexaa aelatablnaekliyng xaephxknthrarmy tabltumaelatablsriaekw xaephxknthrlksn cnghwdsrisaeks ihepnpakhumkhrxng ph s 2491 PDF rachkiccanuebksa 65 72 k 802 804 wnthi 14 thnwakhm ph s 2491 kdkrathrwng chbbthi 423 ph s 2512 xxktamkhwaminphrarachbyytipasngwnaehngchati ph s 2507 kahndihpainthxngthitablsnlaexaa inthxngthitablnaekliyng tabllaexaa xaephxknthrarmy tabltaaey xaephxemuxngsrisaeks aelatablsriaekw tabltum xaephxknthrlks cnghwdsrisaeks PDF rachkiccanuebksa 86 46 k 539 540 wnthi 27 phvsphakhm ph s 2512