โลนจี (พม่า: လုံချည်; : lum hkyany; ออกเสียง: [lòʊɰ̃dʑì]) เป็นผืนผ้าที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศพม่า มีความยาวราว 2 เมตร (6.6 ฟุต) และกว้าง 80 เซนติเมตร (2.6 ฟุต) มักเย็บเป็นรูปทรงกระบอก สวมรอบเอว ลากยาวไปถึงเท้า และยึดด้วยการพับผ้าแล้วเหน็บโดยไม่ผูกเป็นปม ในสมัยโบราณนักสู้ และเหว่ จะผูกผ้าไว้ในเวลาแข่ง เทคนิคการพับนี้ยังคงใช้ในปัจจุบันเมื่อผู้คนเล่น ชี่นโล่น
ชายชาวพม่าสวมโลนจี | |
ประเภท | ผ้านุ่ง |
---|---|
วัสดุ | ไหม, ฝ้าย |
ถิ่นกำเนิด | ประเทศพม่า |
ประวัติศาสตร์
โลนจีสมัยใหม่ซึ่งเป็นผ้าชิ้นเดียวทรงกระบอก เป็นผ้าที่เพิ่งนำเข้ามาในพม่าไม่นานนี้ ผ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมในช่วงอาณานิคมของอังกฤษ แทนที่ผ้า ปาโซ และ ทะเมียน ในสมัยก่อนอาณานิคมได้สำเร็จ คำว่า โลนจี เดิมหมายถึง โสร่ง ที่ผู้ชายชาวมลายูสวมใส่
ยุคก่อนอาณานิคม ปาโซของผู้ชาย ผืนผ้ามีความยาว 9.1 เมตร (30 ฟุต) เรียกว่า ตองเช ปาโซ (တောင်ရှည်ပုဆိုး) และไม่ได้เย็บ เช่นเดียวกับทะเมียนของสตรี ผืนผ้ามีความยาว 1.4 เมตร (4 ฟุต 7 นิ้ว) มีแถบผ้าฝ้ายหรือกำมะหยี่สีเข้มเย็บไว้ที่ขอบด้านบน ผืนผ้ามีลายอยู่ช่วงกลาง และมีผ้าแดงหรือผ้าขาวเย็บติดไว้ที่ชายผ้าลากยาวลงมาด้านล่าง ปาโซเป็นที่นิยมสวมใส่โดยผู้ชายพม่าในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปริมาณผ้าของปาโซเป็นสัญลักษณ์ของสถานะทางสังคม
ผู้มาเยือนชาวตะวันตกที่มาเยือนย่างกุ้งในคริสต์ศตวรรษที่ 19 บันทึกว่า:
ผู้ชายเกือบทุกคนเปลือยถึงเอว หรือสวมเสื้อแจ็กเก็ตผ้าลินินสีขาวตัวเล็กแบบผ่า พร้อมด้วยปาโซขนาดหนาพันแน่นรอบเอว และมัดรวมกันเป็นมัดใหญ่หรือปมด้านหน้า
เมื่อไปเยือนเมืองอมรปุระ ได้บรรยายถึงปาโซของผู้ชายและทะเมียนของสตรี ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในท้องถิ่น มีการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ผ้าไหมนำเข้าจากจีน เขาบันทึกว่า:
ผ้าปาโซมักจะมีความยาวประมาณ 9 ถึง 10 หลา การทำขึ้นเพื่อใช้งาน จะนำผ้าทอผืนยาวมาตัดแบ่งครึ่ง แล้วเย็บต่อกันให้กว้างขึ้นเป็นสองเท่า พันรอบเอวโดยไม่ต้องผูกเชือก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มการปกครองแบบอาณานิคม พม่าตอนล่างและเขตเมืองก็เริ่มมีการนำโลนจีแบบมาเลย์และอินเดียเข้ามาใช้มากขึ้น ซึ่งสวมใส่ได้สะดวกกว่า
รูปแบบและการออกแบบ
ในพม่าโลนจีที่ผู้ชายสวมใส่เรียกว่า ปาโซ (ပုဆိုး) ขณะที่ผู้หญิงสวมใส่เรียกว่า ทะเมียน หรือ ทะบี (ထဘီ) หากว่ากันอย่างเคร่งครัดแล้ว ชุดเหล่านี้ไม่ถือเป็นชุดที่สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง เนื่องจากวิธีการสวมใส่ รวมถึงลวดลายและการแต่งชุดจะแตกต่างกันระหว่างเพศ
ผู้ชายจะสวมปาโซแบบสมัยใหม่โดยรวบผ้าทั้งสองข้างแล้วพับเหน็บที่เอวใต้สะดือเล็กน้อย ส่วนชุดสตรีมักจะมีความยาว 3 ศอก 1 นิ้ว (ราว 1.5 เมตร) แต่สมัยก่อนก็ยังไม่ได้เย็บเช่นเดียวกับชุดผู้ชาย มักสวมห่อรอบตัวโดยพับกว้างครั้งเดียวด้านหน้าแล้วเหน็บปลายผ้าเข้าด้านหนึ่ง หรือห่อจากด้านหลังช่วงสะโพกแล้วเหน็บฝั่งตรงข้ามเอว โดยปกติจะสวมทับด้วยเสื้อพอดีตัวยาวถึงช่วงเอว
ชายผ้าจะยาวขึ้นหรือสั้นลงตามแฟชั่นในสมัยนั้น แม้ว่าจะไม่ยาวเหนือเข่าก็ตาม โดยทั่วไปแล้วโลนจีจะขายแบบไม่เย็บ แต่ปัจจุบันมีจำหน่ายแบบพร้อมใส่ โดยอาจเย็บแบบเดียวกับกระโปรงสไตล์ตะวันตก การคลายและการเหน็บโลนจีมักจะพบเห็นได้ในที่สาธารณะทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง โดยผู้หญิงจะดูไม่สะดุดตาเมื่อเทียบกับผู้ชาย
ลวดลายและผ้า
ปาโซของผู้ชายโดยทั่วไปจะเป็นลายทางหรือลายตาราง อาจต่างกันไปตามสีพื้น และอาจสวมกลับหัวหรือกลับด้านได้โดยไม่มีความแตกต่าง ทะเมียนของสตรีมีแถบผ้าดิบสีดำเรียกว่า อะเทะ ซี่น (အထက်ဆင့်, แปลว่า แถบบน) สำหรับเอว นอกจากนี้ยังมีหลากสีสันและลวดลายดอกไม้อีกด้วย
ผ้าฝ้ายเป็นวัสดุพื้นฐาน แต่ผ้าทุกประเภททั้งนำเข้าและในประเทศ สามารถทำเป็นโลนจีได้ ผ้าหลายชนิดสามารถทำเป็นผ้าทะเมียนได้ ผ้าบาติกของประเทศอินโดนีเซียแม้จะมีราคาแพง แต่ก็ได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ ชุดผ้าบาติก (ပါတိတ်) ที่มีส่วนบนและส่วนล่างรูปแบบเดียวกัน ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง ค.ศ. 1980
สำหรับพิธีการและโอกาสพิเศษ ผู้สวมใส่จะใช้ผ้าไหมที่ดีที่สุด ผ้าไหมที่ประณีตที่สุดเรียกว่า อะเชะ (အချိတ်) เป็นลายลอนคลื่นที่สวยงามและสลับซับซ้อนหลากสีสันจากช่างทอเมืองอมรปุระ ผ้าไหมมักจะสวมใส่ในงานแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมักจะสวมชุดที่สีเข้ากัน ผู้ยากไร้อาจเก็บผ้าไหมแบบดั้งเดิมไว้ใช้สำหรับโอกาสพิเศษ
ในสมัยโบราณ ผ้าไหมเป็นเครื่องแต่งกายของราชวงศ์และข้าราชบริพาร โดยผ้าปาโซและผ้าทะเมียนของราชวงศ์จะปักลวดลายอย่างวิจิตรด้วยทอง เงิน ไข่มุก และอัญมณีล้ำค่า ปัจจุบันสามารถพบเห็นการจำลองเหล่านี้ได้บนละครเวที ซะปเว (ဇာတ်ပွဲ)
ผ้าทอและลวดลายของชาติพันธุ์ระดับภูมิภาคนั้นมีมากมายและเป็นที่นิยม ได้แก่ ยะไข่โลนจี, มอญโลนจี, กะชีนโลนจี, อี้นเล่โลนจี, ยอโลนจี, ทวายโลนจี และอื่น ๆ
ปาโซผ้าไหมแต่ไม่ใช่ อะเชะ ที่ผู้ชายสวมใส่ในโอกาสพิเศษเรียกว่า บางเกาะปาโซ (บางกอก), กะลาปาโซ (อินเดีย) ที่มักจะยาวและสวมใส่โดยคนที่ตัวสูง, กากา ซิน หมายถึงลายตารางกว้างสีดำ สีน้ำตาล และสีขาวที่เจ้าของร้านชาชาวอินเดียสวมใส่ โลนจีที่ผ่านกระบวกการ Mercerisationfrom จากอินเดียเป็นที่นิยมเนื่องจากเนื้อผ้ามีความทนทานมากกว่า
ประโยชน์และความสะดวก
โลนจีเหมาะกับสภาพอากาศเพราะทำให้มีอากาศถ่ายเท และช่วยคลายร้อนจากแสงแดด ผ้าไหมมีคุณสมบัติพิเศษในการเก็บความอบอุ่นช่วงฤดูหนาว และเย็นสบายในฤดูร้อน
โลนจีเป็นชุดที่ใช้งานได้หลากหลาย ผู้ชายมักจะเหน็บส่วนล่างของปาโซไว้ด้านบน โดยรวบด้านหน้าแล้วสอดเข้าระหว่างขาทั้งสองไปด้านหลังตรงเอว เรียกว่า ปาโซ คาดองไจ (ပုဆိုးခါးတောင်းကျိုက်) เช่นเดียวกับ มักจะใช้สวมใส่ขณะปีนป่ายหรือเล่นกีฬาแทนการเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น ทหารในสมัยโบราณจะสวมปาโซในลักษณะนี้ไม่ว่าจะสวมเพียงตัวเดียวหรือสวมทับกางเกงขายาวก็ตาม
ในพื้นที่ชนบท มักพบเห็นผู้ชายพับผ้าปาโซไว้บนไหล่ข้างหนึ่งในขณะอาบน้ำ หรือสำหรับใช้เป็นเบาะรองสะพายข้างหรือรองของหนักด้านหลัง สตรีเมื่ออาบน้ำเพียงแค่สวมทะเมียนให้สูงแล้วเหน็บไว้ใต้รักแร้เพื่อปกปิดหน้าอกก่อนจะถอดเสื้อออก อาจเห็นพวกเขาใช้ทะเมียนเป็นทุ่นลอยน้ำในแม่น้ำโดยกักอากาศไว้แล้วใช้มือรวบแน่นด้านล้าง พวกเขาใช้ผ้าปาโซของผู้ชายหรือผ้าชิ้นยาวม้วนและขดเป็นเบาะบนศีรษะสำหรับเทินหม้อน้ำ ฟืน ตะกร้า และถาด ซึ่งเป็นวิถีปกติของการขายสินค้าหาบเร่ริมถนน
การเปลี่ยนชุดทำได้ง่ายเพียงแค่ก้าวเข้าไปในโลนจีตัวใหม่และดึงขึ้น ในขณะเดียวกันก็คลายและปล่อยตัวเก่าออก หรือจะสวมตัวใหม่จากหัวลงมาก็ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ในที่ส่วนตัว ผู้หญิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ถอดชุดออกทั้งหมด พวกเธอจะสวมผ้าทะเมียนหนึ่งผืนในขณะเปลี่ยนชุดใหม่ อาจเห็นผู้หญิงบางคนดึงผ้าทะเมียนขึ้นทีละนิดในขณะลุยน้ำลึกลงแม่น้ำเพื่อไม่ให้เปียก การซักและรีดผ้าเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะผ้าเป็นทรงกระบอก แขวน รีด พับ และวางซ้อนกันได้ง่ายโดยใช้พื้นที่ในตู้เสื้อผ้าเพียงเล็กน้อย
และเหว่
ในสมัยโบราณ นักสู้และเหว่แบบดั้งเดิมจะสวมโลนจีในการแข่งขัน นักสู้จะสวมชุดขาสั้นที่เรียกว่า ปาโซ คาดองไจ (ပုဆိုးခါးတောင်းကျိုက်) เพื่อให้สามารถใช้ขาและเตะได้ ปัจจุบันการแข่งขันและเหว่นักสู้จะสวมกางเกงขาสั้น
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Matthew Carter (December 23, 2018). "Lethwei Fighters Wear Skirts!". Lethwei World.
- Thant Myint-U (2008). The River of Lost Footsteps: A Personal History of Burma. Macmillan. p. 182. ISBN .
- Judson, Adinoram (1893). Judson's Burmese-English dictionary. Government of Burma.
- Ferrars, Max; Bertha Ferrars (1900). Burma. S. Low, Marston and Company.
- Imperial gazetteer of India. Vol. 10. Superintendent of Government Printing. 1908. p. 46.
- Sir Henry Yule (1858). A narrative of the mission sent by the governor-general of India to the court of Ava in 1855: with notices of the country, government, and people. Smith, Elder and co. pp. 154.
- Bowie, Katherine A. (February 1993). "Assessing the Early Observers: Cloth and the Fabric of Society in 19th-Century Northern Thai Kingdoms". American Ethnologist. 20 (3): 138–158. doi:10.1525/ae.1993.20.1.02a00070. JSTOR 645416.
- Annie Brassey; Mary Anne Broome (23 December 2010). The Last Voyage, to India and Australia, in the Sunbeam. Cambridge University Press. p. 121. ISBN .
- "Myanmar Longyi". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-06-23.
- Bird, George W (1897). Wanderings in Burma. London: F J Bright & Son. p. 48.
- "Inle longyi inc. video". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-06.
- "Yaw longyi from Gangaw inc. video". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-13.
- "Dawei longyi from Tanintharyi inc. video". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-06.
- Marshall, Andrew (2002). The Trouser People. Washington DC: Counterpoint. jacket photo,30. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Burma Silks inc. video
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
olnci phma လ ခ ည lum hkyany xxkesiyng loʊɰ dʑi epnphunphathiichknaephrhlayinpraethsphma mikhwamyawraw 2 emtr 6 6 fut aelakwang 80 esntiemtr 2 6 fut mkeybepnrupthrngkrabxk swmrxbexw lakyawipthungetha aelayuddwykarphbphaaelwehnbodyimphukepnpm insmyobrannksu aelaehw caphukphaiwinewlaaekhng ethkhnikhkarphbniyngkhngichinpccubnemuxphukhneln chinolnolncichaychawphmaswmolncipraephthphanungwsduihm faythinkaenidpraethsphmaprawtisastrphaphsinaphmacakkhriststwrrsthi 19 thiaesdngphaphkarkhay olnciphaphsinaphmacakkhriststwrrsthi 19 phuhyingkalngthxpha paos khnathiphuchaysungswm paos kalngmxngduchaykhnhnungswmchud txngech paos chwngplaykhriststwrrsthi 1800strithiswm thaemiyn aebbdngedimsungaephrhlaycnthungchwngpi kh s 1900 olncismyihmsungepnphachinediywthrngkrabxk epnphathiephingnaekhamainphmaimnanni phachnidniidrbkhwamniyminchwngxananikhmkhxngxngkvs aethnthipha paos aela thaemiyn insmykxnxananikhmidsaerc khawa olnci edimhmaythung osrng thiphuchaychawmlayuswmis yukhkxnxananikhm paoskhxngphuchay phunphamikhwamyaw 9 1 emtr 30 fut eriykwa txngech paos တ င ရ ည ပ ဆ aelaimideyb echnediywkbthaemiynkhxngstri phunphamikhwamyaw 1 4 emtr 4 fut 7 niw miaethbphafayhruxkamahyisiekhmeybiwthikhxbdanbn phunphamilayxyuchwngklang aelamiphaaednghruxphakhaweybtidiwthichayphalakyawlngmadanlang paosepnthiniymswmisodyphuchayphmainkhriststwrrsthi 19 primanphakhxngpaosepnsylksnkhxngsthanathangsngkhm phumaeyuxnchawtawntkthimaeyuxnyangkunginkhriststwrrsthi 19 bnthukwa phuchayekuxbthukkhnepluxythungexw hruxswmesuxaeckektphalininsikhawtwelkaebbpha phrxmdwypaoskhnadhnaphnaennrxbexw aelamdrwmknepnmdihyhruxpmdanhna emuxipeyuxnemuxngxmrpura idbrryaythungpaoskhxngphuchayaelathaemiynkhxngstri waepnphlitphnththisakhythisudinthxngthin mikarcangngankhninphunthiepncanwnmak phaihmnaekhacakcin ekhabnthukwa phapaosmkcamikhwamyawpraman 9 thung 10 hla karthakhunephuxichngan canaphathxphunyawmatdaebngkhrung aelweybtxknihkwangkhunepnsxngetha phnrxbexwodyimtxngphukechuxk xyangirktam emuxerimkarpkkhrxngaebbxananikhm phmatxnlangaelaekhtemuxngkerimmikarnaolnciaebbmaelyaelaxinediyekhamaichmakkhun sungswmisidsadwkkwarupaebbaelakarxxkaebbinphmaolncithiphuchayswmiseriykwa paos ပ ဆ khnathiphuhyingswmiseriykwa thaemiyn hrux thabi ထဘ hakwaknxyangekhrngkhrdaelw chudehlaniimthuxepnchudthiswmisidthngchayaelahying enuxngcakwithikarswmis rwmthunglwdlayaelakaraetngchudcaaetktangknrahwangephs phuchaycaswmpaosaebbsmyihmodyrwbphathngsxngkhangaelwphbehnbthiexwitsaduxelknxy swnchudstrimkcamikhwamyaw 3 sxk 1 niw raw 1 5 emtr aetsmykxnkyngimideybechnediywkbchudphuchay mkswmhxrxbtwodyphbkwangkhrngediywdanhnaaelwehnbplayphaekhadanhnung hruxhxcakdanhlngchwngsaophkaelwehnbfngtrngkhamexw odypkticaswmthbdwyesuxphxditwyawthungchwngexw chayphacayawkhunhruxsnlngtamaefchninsmynn aemwacaimyawehnuxekhaktam odythwipaelwolncicakhayaebbimeyb aetpccubnmicahnayaebbphrxmis odyxaceybaebbediywkbkraoprngsitltawntk karkhlayaelakarehnbolncimkcaphbehnidinthisatharnathngkbphuchayaelaphuhying odyphuhyingcaduimsadudtaemuxethiybkbphuchaylwdlayaelaphapaoskhxngphuchayodythwipcaepnlaythanghruxlaytarang xactangkniptamsiphun aelaxacswmklbhwhruxklbdanidodyimmikhwamaetktang thaemiynkhxngstrimiaethbphadibsidaeriykwa xaetha sin အထက ဆင aeplwa aethbbn sahrbexw nxkcakniyngmihlaksisnaelalwdlaydxkimxikdwy phafayepnwsduphunthan aetphathukpraephththngnaekhaaelainpraeths samarththaepnolnciid phahlaychnidsamarththaepnphathaemiynid phabatikkhxngpraethsxinodniesiyaemcamirakhaaephng aetkidrbkhwamniymmahlaythswrrs chudphabatik ပ တ တ thimiswnbnaelaswnlangrupaebbediywkn idrbkhwamniymxyangmakinchwng kh s 1980 sahrbphithikaraelaoxkasphiess phuswmiscaichphaihmthidithisud phaihmthipranitthisuderiykwa xaecha အခ တ epnlaylxnkhlunthiswyngamaelaslbsbsxnhlaksisncakchangthxemuxngxmrpura phaihmmkcaswmisinnganaetngngan odyecabawaelaecasawmkcaswmchudthisiekhakn phuyakirxacekbphaihmaebbdngedimiwichsahrboxkasphiess insmyobran phaihmepnekhruxngaetngkaykhxngrachwngsaelakharachbriphar odyphapaosaelaphathaemiynkhxngrachwngscapklwdlayxyangwicitrdwythxng engin ikhmuk aelaxymnilakha pccubnsamarthphbehnkarcalxngehlaniidbnlakhrewthi sapew ဇ တ ပ phathxaelalwdlaykhxngchatiphnthuradbphumiphakhnnmimakmayaelaepnthiniym idaek yaikholnci mxyolnci kachinolnci xinelolnci yxolnci thwayolnci aelaxun paosphaihmaetimich xaecha thiphuchayswmisinoxkasphiesseriykwa bangekaapaos bangkxk kalapaos xinediy thimkcayawaelaswmisodykhnthitwsung kaka sin hmaythunglaytarangkwangsida sinatal aelasikhawthiecakhxngranchachawxinediyswmis olncithiphankrabwkkar Mercerisationfrom cakxinediyepnthiniymenuxngcakenuxphamikhwamthnthanmakkwapraoychnaelakhwamsadwkchaychawphmanung paos khadxngic kalngelnchinoln inyanyangkung olnciehmaakbsphaphxakasephraathaihmixakasthayeth aelachwykhlayrxncakaesngaedd phaihmmikhunsmbtiphiessinkarekbkhwamxbxunchwngvduhnaw aelaeynsbayinvdurxn olnciepnchudthiichnganidhlakhlay phuchaymkcaehnbswnlangkhxngpaosiwdanbn odyrwbdanhnaaelwsxdekharahwangkhathngsxngipdanhlngtrngexw eriykwa paos khadxngic ပ ဆ ခ တ င က က echnediywkb mkcaichswmiskhnapinpayhruxelnkilaaethnkarepliynepnkangekngkhasn thharinsmyobrancaswmpaosinlksnaniimwacaswmephiyngtwediywhruxswmthbkangekngkhayawktam inphunthichnbth mkphbehnphuchayphbphapaosiwbnihlkhanghnunginkhnaxabna hruxsahrbichepnebaarxngsaphaykhanghruxrxngkhxnghnkdanhlng striemuxxabnaephiyngaekhswmthaemiynihsungaelwehnbiwitrkaerephuxpkpidhnaxkkxncathxdesuxxxk xacehnphwkekhaichthaemiynepnthunlxynainaemnaodykkxakasiwaelwichmuxrwbaenndanlang phwkekhaichphapaoskhxngphuchayhruxphachinyawmwnaelakhdepnebaabnsirsasahrbethinhmxna fun takra aelathad sungepnwithipktikhxngkarkhaysinkhahaberrimthnn karepliynchudthaidngayephiyngaekhkawekhaipinolncitwihmaeladungkhun inkhnaediywknkkhlayaelaplxytwekaxxk hruxcaswmtwihmcakhwlngmakid xyangirktam aeminthiswntw phuhyingkepliynesuxphaodyimthxdchudxxkthnghmd phwkethxcaswmphathaemiynhnungphuninkhnaepliynchudihm xacehnphuhyingbangkhndungphathaemiynkhunthilanidinkhnaluynaluklngaemnaephuximihepiyk karskaelaridphaepneruxngngayday ephraaphaepnthrngkrabxk aekhwn rid phb aelawangsxnknidngayodyichphunthiintuesuxphaephiyngelknxy aelaehw insmyobran nksuaelaehwaebbdngedimcaswmolnciinkaraekhngkhn nksucaswmchudkhasnthieriykwa paos khadxngic ပ ဆ ခ တ င က က ephuxihsamarthichkhaaelaetaid pccubnkaraekhngkhnaelaehwnksucaswmkangekngkhasnduephimkaraetngkaykhxngphmaxangxingMatthew Carter December 23 2018 Lethwei Fighters Wear Skirts Lethwei World Thant Myint U 2008 The River of Lost Footsteps A Personal History of Burma Macmillan p 182 ISBN 9780374531164 Judson Adinoram 1893 Judson s Burmese English dictionary Government of Burma Ferrars Max Bertha Ferrars 1900 Burma S Low Marston and Company Imperial gazetteer of India Vol 10 Superintendent of Government Printing 1908 p 46 Sir Henry Yule 1858 A narrative of the mission sent by the governor general of India to the court of Ava in 1855 with notices of the country government and people Smith Elder and co pp 154 Bowie Katherine A February 1993 Assessing the Early Observers Cloth and the Fabric of Society in 19th Century Northern Thai Kingdoms American Ethnologist 20 3 138 158 doi 10 1525 ae 1993 20 1 02a00070 JSTOR 645416 Annie Brassey Mary Anne Broome 23 December 2010 The Last Voyage to India and Australia in the Sunbeam Cambridge University Press p 121 ISBN 978 1 108 02471 6 Myanmar Longyi khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2006 06 23 Bird George W 1897 Wanderings in Burma London F J Bright amp Son p 48 Inle longyi inc video khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 06 Yaw longyi from Gangaw inc video khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2005 03 13 Dawei longyi from Tanintharyi inc video khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 06 Marshall Andrew 2002 The Trouser People Washington DC Counterpoint jacket photo 30 ISBN 9781582431208 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb olnci Burma Silks inc video