บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่
|
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
โดโด ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยโฮโลซีน | |
---|---|
การฟื้นฟูโดโดสะท้อนงานวิจัยใหม่ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Columbiformes |
วงศ์: | Columbidae |
สกุล: | Raphus , พ.ศ. 2303 |
สปีชีส์: | R. cucullatus |
ชื่อทวินาม | |
Raphus cucullatus Linnaeus, พ.ศ. 2301 | |
Former range (in red) | |
ชื่อพ้อง | |
Struthio cucullatus Linnaeus, 1758 |
โดโด (อังกฤษ: Dodo) เป็นนกชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่แถบหมู่เกาะมอริเชียสในมหาสมุทรอินเดีย เป็นนกที่บินไม่ได้อยู่ในตระกูลเดียวกับนกพิราบ
ในปี พ.ศ. 2048 ชาวโปรตุเกสเป็นชาวยุโรปพวกแรกที่พบ และเพียงประมาณปี พ.ศ. 2224 มันก็สูญพันธุ์อย่างรวดเร็วโดยมนุษย์ รวมถึงสุนัขล่าเนื้อ หมู หนู ลิง ที่ถูกนำเข้าโดยชาวยุโรป
โดโด ไม่ใช่นกเพียงชนิดเดียวในมอริเชียสที่สูญพันธุ์ในศตวรรษนี้ จากนกกว่า 45 ชนิดที่พบบนเกาะ มีเพียง 21 ชนิดเท่านั้นที่เหลือรอด นกสองชนิดซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดกับโดโดก็สูญพันธุ์ไปเช่นกัน คือ Reunion solitaire (Raphus solitarius) ประมาณปี พ.ศ. 2289 และ Rodrigues solitaire (Pezophaps solitaria) ประมาณปี พ.ศ. 2333 เมื่อทศวรรษ พ.ศ. 2533 นำคณะสำรวจขึ้นค้นหาบนเขาบนเกาะมอริเชียส แต่ก็ไม่มีใครค้นพบ จึงประกาศการสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการ
ลักษณะทางกายภาพ
- น้ำหนัก : โตเต็มที่หนักประมาณ 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์)
- สูง : ประมาณ 1 เมตร
ความรู้ปัจจุบันเกี่ยวกับโดโด มาจากทั้งบันทึกและข้อเขียนของกะลาสีและกัปตันเรือที่ขึ้นฝั่งมอริเชียส เมื่อ พ.ศ. 2143-พ.ศ. 2243 ภาพวาดจากผู้คนน้อยนิดที่เคยเห็นขณะพวกมันมีชีวิต (แม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าศิลปินเหล่านั้นตอกไข่ใส่สีโดโดจากที่เห็นบ้างหรือไม่)
ซากฟอสซิลเล็กน้อยที่ขุดค้นได้จากเกาะถูกเก็บรักษาที่บริติชมิวเซียม รอยเท้ารอยจิกถูกเก็บรักษาไว้ที่ออกซฟอร์ด จากบันทึกและภาพเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์และนักปักษีวิทยาร่วมกันปะติดปะต่อรายละเอียดที่ประกอบขึ้นเป็นโดโด
ธันวาคม พ.ศ. 2548 พบหลักฐานสำคัญบนเกาะมอริเชียส พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งดับลินรวบรวมข้อมูลจากกระดูกเท้าและหัวที่ยังไม่บุบสลาย ซึ่งบรรจุเนื้อเยื่ออ่อนของสัตว์ชนิดนี้ ซากโดโดสต๊าฟชิ้นสุดท้ายที่พิพิธภัณฑ์ Ashmolean Museum ในออกซฟอร์ดถูกเผาในปี ค.ศ. 1755 โดยสามารถกู้เท้าและหัวได้และถูกจัดแสดงถึงปัจจุบัน
โดโด ตัวใหญ่ อ้วนปุ๊กลุก ตัวใหญ่มาก หนักถึง 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์) มีขนสีเทาถึงน้ำเงิน 23 เซนติเมตร (9 นิ้ว)
หัวมีสีเทาเทาอ่อนกว่าตัว ตาเล็กสีเหลือง ปากโต โค้งและเป็นตะขอ สีเขียวอ่อนหรือเหลืองเพล อันเป็นจุดเด่นที่สุด จะงอยปากค่อนข้างดำ มีจุดแดงเรื่อ ปกคลุมด้วยขนสีเทาอ่อนนุ่ม มีปุยสีขาวหยิกชูเชิดเป็นหาง
โครงสร้างหน้าอกไม่รองรับการบิน ปีกไร้ประโยชน์ที่เล็กมาก บอบบางเกินจะยกโดโดขึ้นจากพื้น จึงบินไม่ได้ ผู้คนที่เคยเห็นมักคิดว่ามันไม่มีปีก อย่างที่เขาเรียกว่า ปีกเล็กที่เล็ก (little winglets) เพราะเป็นนกบนพื้นดิน ที่วิวัฒนาการมาเฉพาะนิเวศวิทยาของเกาะ ซึ่งไม่เคยมีสัตว์นักล่า อย่างไรก็ตาม การศึกษาจากกระดูก โดโดอาจใช้ปีกง่ายกว่าการบิน นั่นคือใช้ว่ายอย่างปีกเพนกวิน
ขาสั้น อ้วนเตี้ย หนาแข็งแรง สีเหลือง มีนิ้วเท้าหนากลม 4 นิ้ว 3 นิ้วข้างหน้าและ 1 นิ้วโป้งอยู่ข้างหลัง มีเล็บสีดำ
แหล่งที่อยู่
หมู่เกาะแห่งมอริเชียส เป็นบ้านของแหล่งนิเวศหลากหลาย ทั้งที่ราบ ภูเขาลูกเล็ก ป่าโปร่ง ป่าดิบ และแนวปะการังขนานตลอดชายฝั่ง ป่าดงดิบเขตร้อน ป่าละเมาะเขตร้อน ทุ่งหญ้าสะวันนาเขตร้อน
แม้ว่าภาพและเรื่องประมาณมากมายจะสื่อว่าโดโดอยู่ตามชายฝั่งทะเลของมอริเชียส แต่ที่จริงมันเป็นนกป่า โดโดทำรังอย่างง่าย ๆ บนพื้นป่า
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อุปนิสัยการกิน
เชื่อว่า กินผลไม้เป็นอาหาร กะลาสีบางคนคุยว่าเคยเห็นโดโดลุยลงสระน้ำไปจับปลา อ้างว่า มันเป็นนักล่าที่แข็งแรงและจอมเขมือบ ซึ่งกล่าวเกินจริง
อย่างไรก็ตาม อาจเป็นความจริงที่ว่า โดโดกินหินและก้อนโลหะบ่อย ๆ อย่างไม่เดือดร้อน คาดว่าหินช่วยให้ย่อยง่าย (ซึ่งเป็นธรรมดาพบเห็นได้บ่อย ที่สัตว์กินพืชเช่นนกหรือวัว กลืนหินลงกระเพาะ เพื่อช่วยบดพืชซึ่งย่อยยาก)
ภาพของโดโดนั้น อ้วน งุ่มง่าม ถูกค้านโดย แอนดรูว์ คิทเชนเนอร์ นักชีววิทยาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ ในรายงานข่าวของเนชันแนลจีโอกราฟิก กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ใครจะเชื่อว่า วาดเขียนเก่าแก่ทั้งหลาย วาดเกินจริง
ขณะที่ มอริเชียส อยู่ระหว่างฤดูฝนและหนาว โดโดอาจจะอ้วนขึ้น ด้วยผลไม้สุกเมื่อปลายฤดูฝน เพื่อให้รอดตลอดฤดูหนาวที่อาหารขาดแคลน ในรายงานเดียวกัน อ้างถึงคำกล่าวอ้างที่ว่า นกพวกนี้กินอย่างตะกละตะกรามหิวกระหาย ด้วยเหตุนี้ ขณะที่นกยังหาอาหารได้ ก็จะกินเกินพิกัดได้ง่าย ๆ
พวกมันมีชีวิตอยู่เป็นเวลากว่า 1,000 ปี บนมอริเชียส โดยปราศจากนักล่า ซ้ำยังเป็นสัตว์ตัวใหญ่สุดบนเกาะ (ก่อนหน้านี้มอริเชียสไม่เคยมีมนุษย์ชนพื้นเมืองมาก่อน)
การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ค้านคำอธิบายที่สืบเนื่องกันมา จากการตรวจวัดกระดูกจาก oxford ร่วมกับอีกกว่า 100 ชิ้นที่สะสมใน Natural History Museum and the Cambridge Zoology Museum นำมาคำนวณว่า น้ำหนักเท่าไหร่ที่มันจะแบกไหว
พบว่า โดโดที่อ้วนมาก จะหนักเกินกว่ากระดูกจะรับได้ ถึงขั้นกระดูกหัก ปะติดปะต่อใหม่ได้ว่า โดโดต้องผอมบางกว่าที่จินตนาการ
การสืบพันธุ์
เฉพาะการจับคู่และระยะเวลาฟักไข่ ที่ไม่รู้ หลายคนอ้างว่า รังนกโดโด อยู่ลึกในป่า ในรังหญ้า
ที่นั่น ตัวเมียจะวางไข่ 1ฟอง ซึ่งมันจะปกป้องและเลี้ยงดู กะลาสีผู้หนึ่งเล่าว่า ได้ยินเสียงร้องของลูกโดโดที่อยู่ในรัง เสียงเหมือนลูกห่าน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พฤติกรรม
ที่มาของชื่อโดโดมีแนวคิด 2 ทาง ที่ยอมรับกันทั่วไปคือ ภาษาดัชท์ dodaar หมายถึง เฉื่อยชา
อีกแนวคิดหนึ่งว่า มาจาก ภาษาโปรตุเกส doudo หมายถึง โง่เง่าตัวตลก
กะลาสีที่ขึ้นฝั่ง มอริเชียส พบความขบขันยิ่งนัก เมื่อเฝ้าดูพฤติกรรมงุ่มง่ามของโดโด มีเรื่องเล่าถึง โดโดที่พยายามวิ่งลนลาน ขณะที่มันกำลังเดินโซเซ พุงของมันจะลากไปกับพื้น ทำให้มันวิ่งช้า ทั้งโดโดก็ไม่กลัวคนด้วย
ส่วนใหญ่แล้วโดโดถูกกล่าวถึงในแง่ความเฉื่อยชา ค่อนข้างไปทางตลกโง่เง่า มันไม่มี กลไกการป้องกันตัวจากผู้ล่า ที่เห็นได้ชัด เว้นแต่ จะงอยปากใหญ่โต ซึ่งกัดได้อย่างน่ากลัว ถ้ามีจังหวะ แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากเพื่อปกป้องตัวเองและลูกน้อย
ประกอบกับที่มันบินไม่ได้ด้วย เหตุผลเหล่านี้รวมกัน ทำให้ถูกล่าโดยง่าย
โดโดกับมนุษย์ และเหตุการณ์การสูญพันธุ์
กะลาสี ล่ามันมาเป็นอาหารอยู่บ่อย ๆ เมื่อครั้งยังไม่สูญพันธุ์บนเกาะมอริเชียส แม้จะมักถูกกล่าวถึงว่า เนื้อโดโด ไม่อร่อย แต่ก็ยังถูกล่ามากมาย เพราะจับง่าย บางครั้งกะลาสีนำกลับมาได้ถึง 50 ตัวในครั้งเดียว ถ้ากินไม่หมด ก็ดองและนำกลับไปด้วย
เกาะนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยชาวโปรตุเกส แต่ชาวดัตช์เป็นผู้ยึดครองอย่างถาวรแท้จริง เชื่อว่า กะลาสีกลุ่มแรกที่มาถึง มอริเชียส เป็นชาวโปรตุเกส นำโดยกัปตัน มาสคาแร็กนาส ใน พ.ศ. 2048-พ.ศ. 2050 พวกเขาตั้งใจไปตั้งถิ่นฐานด้วยความหวังในแอฟริกาใต้ แต่ติดพายุทำให้ติดเกาะและลงเอยที่ มอริเชียส คณะเดินทางอื่น ๆ หลังจากโปรตุเกสในปีต่อ ๆ มา มีทั้งดัทช์ บริติช และอื่น ๆ
นกโดโด กะลาสีได้พบขบขัน และเมื่อพวกเขาขาดอาหารประทังชีวิต ก็ได้อาหาร ชาวดัตช์ ประกาศ มอริเชียส เป็นอาณานิคม เรือนำแมว สุนัข หมู และลิง มาพร้อมกับผู้คนกลุ่มหนึ่ง สัตว์ต่างถิ่นแพร่พันธุ์และรุกรานป่าอย่างรวดเร็ว เหยียบย่ำรังนก ทำให้นกเสียขวัญ ล่าทำลายไข่กับลูกอ่อนของโดโด
ทั้งการล่าเป็นอาหารอย่างต่อเนื่องจากมนุษย์ ประกอบกับการแทรกแซงจากสัตว์ต่างถิ่น นำมาสู่การสูญพันธ์ ประมาณ พ.ศ. 2236
(David Roberts) แถลงการสูญพันธุ์ของโดโดอย่างเป็นทางการถึง ซึ่งยืนยันการพบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2205 ที่รายงานโดยกะลาสีเรืออับปาง (Volkert Evertsz) ซึ่งตรวจพบต่อมาใน พ.ศ. 2224 โรเบิร์ตชี้ว่า จากการที่คำบอกเล่าของอธิการโบสถ์ พ.ศ. 2181-พ.ศ. 2205 ดูเหมือนว่ามันจะหาได้ยากแล้วเมื่อ พ.ศ. 2203 อย่างไรก็ตาม ทางสถิติวิเคราะห์ จากบันทึกการล่าของ ไอแซค โจน ลาโมเทียส ได้คะเนเวลาที่สูญพันธุ์ ใน พ.ศ. 2236 และเชื่อมั่นถึง 95% ว่าเกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2231-พ.ศ. 2258
ที่แน่ชัดคือ โดโดถูกฆ่ามากภายใน 100 ปีหลังการค้นพบสปีชีส์นี้ ไม่มีตัวอย่างที่สมบูรณ์ถูกรักษาไว้ แม้แต่สักพิพิธภัณฑ์ที่จะเก็บกระดูกมันไว้ ไข่โดโดใบหนึ่งถูกจัดแสดงที่ East London museum ในแอฟริกาใต้
หลักฐานทางพันธุกรรมมาจากสิ่งนี้ เมื่อวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ยืนยันว่าโดโดเป็นญาติใกล้ชิดกับนกพิราบ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดคาบเกี่ยวกัน คือในแอฟริกาถึงเอเชียใต้
ไม่มีใครสนใจอย่างจริงจังในการสูญพันธุ์ของมัน กระทั่งถูกเอาชื่อไปเป็นตัวละครในนิยาย ของ ลูอิส คาร์รอลล์ ทำให้เกิดคำสแลงว่า "ตายอย่างโดโด"
มีความพยายามที่จะนำโดโดกลับมามีชีวิต ถ้าสำเร็จผู้ดำเนินการจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวดูนกที่ไม่เหมือนใครทั่วยุโรป แสดงพวกมันในกรงและสาธิตนกกินหินกินเหล็กดังที่ตำนานอ้างไว้
วงศ์ ราฟิเด และนกสายพันธุ์ใกล้กัน
โดโดถูกจัดหมวดหมู่ไว้ในตระกูล Raphidae แบ่งย่อยมาอยู่ในวงศ์ Columbiformes ซึ่งเป็นวงศ์หนึ่งจาก 2 วงศ์ที่อยู่ในตระกูลนี้ อีกวงศ์หนึ่งคือ Columbidae ซึ่งได้แก่ นกพิราบและนกเขาทั้งหลาย
นกตระกูลเดียวกับโดโด ที่เรียกว่า หรือ โซลิแตร์ ถูกรายงานโดยกะลาสีที่อาศัยบนเกาะใกล้ ๆ มอริเชียส ปี พ.ศ. 2156 พบ Reunion solitaire หรือ Raphus solitarius บนเกาะเรอูว์นียง (reunion) และปี พ.ศ. 2234 พบ Rodrigues solitaire หรือ Pezophaps solitarius บนเกาะร๊อดริเกส (rodrigues) ซึ่งพันธุ์หลังได้สูญพันธ์เช่นกัน ระหว่างปี พ.ศ. 2303 ไม่มีหลักฐานใดรองรับการมีอยู่ของ Reunion solitaire นักปักษีวิทยาเชื่อว่า นกที่เห็นแท้จริงคือนกช้อนบินไม่ได้บนเกาะเรอูว์นียง หรือ Threskiornis solitarius ซึ่งก็สูญพันธุ์ไปเช่นกัน เพราะมันสืบพันธุ์ด้วยกัน จึงถูกเรียกว่า โดโดสีขาว อย่างที่นักเดินทางอธิบายว่า นกช้อนบินไม่ได้ ที่ถูกต้องเป็นสีขาวเป็นหลัก และอย่างที่ปรากฏในภาพเขียนบางชิ้นของโดโดสีขาว เชื่อว่าแสดงถึง โดโดตัวปลอมที่ถูกทึกทักแห่งเกาะเรอูว์นียง
อย่างไรก็ตาม คำพรรณนาน้อยนิดที่ให้ความชัดเจนว่า ปีกและหางของ Reunion solitaire มีสีดำ เหมือนที่พบได้ใน นกช้อนคอถุง (Sacred Ibis) ญาติใกล้ชิด ขณะที่ภาพวาดแสดงให้เห็นว่านกเป็นสีขาวทั้งตัว (ไม่นับว่ากรณีเป็นไปได้ว่าเป็นรอยเปื้อนสกปรกของขน)
ภาพวาดส่วนมาก เป็นนกที่ขังในโรงเลี้ยงชาวยุโรป จะแสดงปากที่เป็นวง ไม่ใช่แค่ตะขอ ดูเหมือนใช้เป็นสัญญาณเตือนป้องกันผู้บุกรุก (นักเดินทางอ้างว่า ถ้าต้อนเข้ามุมโดโดจะกัดโมโหร้ายทีเดียว ขนาดคาดหวังให้เฝ้าสินค้าสำคัญทั้งกองได้)
ภาพวาดโดโดสีขาวจากแหล่งที่คล้ายกันส่วนใหญ่มี โดโดเผือก เพียงน้อย บางทีอาจมีเพียงหนึ่ง ที่ถึงมือชาวยุโรปและถูกเก็บรักษาอย่างสนใจใคร่รู้
ดร.อลัน คูเปอร์ กับ ดร.เบธ ชาปิโร จาก ศูนย์ชีวโมเลกุลโบราณเฮนรีเวลคัมแห่งออกซฟอร์ด, ดร.ดีแอน ซิบธอร์ปี, แอนดรูว์ แรมบอต, ดร.แกรแฮม แวรกก์, ดร.โอลาฟ บ.อีมอนด์ส กับ ดร.แพทรีเซีย ลี จากภาควิชาสัตววิทยาแห่งออกซฟอร์ด, และ ดร.เจเรมี ออสติน จากพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติลอนดอน ร่วมกันวิจัย ในปี พ.ศ. 2545 สกัดชิ้นส่วนเล็กน้อยของดีเอ็นเอโดโด ตัวอย่างถูกนำมาจาก หลักฐานชิ้นเดียวซึ่งมีเนื้อเยื่ออ่อน อายุ 300 ปีที่หลงเหลือ จากพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
ทั้งสกัดดีเอ็นเอจากกระดูกของโซลิแตร์ด้วย กระดูกขุดจากถ้ำบนเกาะร็อดริเกส ผลลัพธ์การวิเคราะห์แสดงว่าโดโดและ โซลิแตร์ เป็นญาติใกล้ชิดกันมาก และแยกมาเล็กน้อยจากวงศ์ของ นกพิราบ
ผลของดีเอ็นเอสรุปว่าโดโดและโซลิแตร์ ที่จริงเป็นอยู่ในตระกูลเดียวกับตระกูลนกพิราบ และเป็นญาติใกล้ชิดกับพิราบนิโคบาร์ หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Caloenus nicobarica
ในปี พ.ศ. 2516 นักวิทยาศาสตร์พบว่า พันธุ์ไม้บนมอริเชียสที่ชื่อ ต้นโดโด หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Sideroxylon grandiflorum หรือ Calvaria major กำลังผลัดใบ มีเพียง 13 ตัวอย่าง ที่ไม่พบรายงาน และพวกมันทั้งหมดอายุประมาณ 300 ปี นับจากโดโดตัวสุดท้ายถูกฆ่า พบว่านกโดโดกินเมล็ดของต้นโดโดแล้วเมล็ดก็ผ่านทางเดินอาหารของโดโด ออกมาทางอุจจาระ และตื่นตัวเริ่มงอก หลังจากที่พบว่าเกิดผลแบบเดียวกันกับการให้ไก่งวงกินเมล็ดนี้ พันธุ์ไม้นี้จึงยังคงอยู่รอด
อย่างไรก็ตาม รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้สืบพบว่า ตัวอย่างพืชรุ่นใหม่ ไม่ได้ด้อยลง อาจเป็นไปได้ที่ นกแก้วจะงอยกว้างที่สูญพันธุ์แล้ว หรือ Lophopsittacus mauritianus ต่างหาก ที่มีความสำคัญต่อการกระจายเมล็ด ยิ่งกว่าโดโด รายละเอียดเพิ่มเติม ให้ศึกษาจากบทความเกี่ยวกับ ต้นโดโด (dodo tree)
กลายเป็น สัญลักษณ์ และความนิยม
- ปรากฏอยู่บน เสื้อเกราะของกองกำลังแห่งมอรีเชียส
- เป็นตรายี่ห้อของ Brasseries de Bourbon ผู้ผลิตเบียร์ยอดนิยมบนเกาะเรอูว์นียง
- เป็นสัญลักษณ์ และ มาสคอตนำโชคของ กองทุนอนุรักษ์สัตว์ป่าเดอร์เรล และเขตสงวนสัตว์ป่าเจอร์ซี่ ที่ก่อตั้งโดย
- เป็นชื่อเล่น, สัญลักษณ์ และมาสคอตนำโชคของ องค์กรสิ่งแวดล้อมฟินนิช
- ปรากฏเป็นที่รู้จักครั้งแรก ในนิยาย Alice's Adventures in Wonderland ของ Lewis Carroll ในปี พ.ศ. 2408 หนังสือมีตัวละครเป็นนกโดโด ที่ชื่อเรียบ ๆ ว่าโดโด ตัวละครนี้สะท้อนถึงตัวผู้ประพันธ์เอง
- ปี พ.ศ. 2481 Bob Clampett กำกับการ์ตูนของ Looney Tunes ชื่อ Porky in Wackyland มีเจ้าหมูกำลังล่าโดโดตัวสุดท้ายไปทั่วทั้งดินแดนพิสดาร wackyland เจ้าโดโดในเรื่องสติเฟื่องพอกับถิ่นของมัน และมันก็หนีเจ้าหมูได้ทั้งเรื่อง ทศวรรษ พ.ศ. 2533 การ์ตูน Tiny Toon Adventures มีตัวละครเป็นนกโดโดชื่อ Gogo Dodo เป็นตัวละครที่ค่อนข้างเถื่อนและชอบรัดกอด และเป็นลูกชายของเจ้าโดโดจากเรื่อง Porky in Wackyland
- หนึ่งในทีมแพทย์ จากเรื่อง Doctor Who ในปี 3 (พ.ศ. 2509) มีชื่อเล่นว่า Dodo เธอฉลาดและร่าเริง ไร้เดียงสา เป็นตัวของตัวเอง ทำให้นึกถึงบุคลิกของนกโดโด
- ปี พ.ศ. 2530 หนังสือเรื่อง Dirk Gently's Holistic Detective Agency โดย Douglas Adams ในเรื่อง ศาสตราจารย์ Chronotis ว่าการที่โดโดสูญพันธุ์ เพราะเขาเอาเวลาไปโหมให้กับการอนุรักษ์ ปลาซีลาแคนธ์
- ตอนหนึ่งของเรื่อง The Goodies ตัวละคร Bill Oddie ค้นพบสาเหตุการสูญพันธุ์ของโดโด คือพวกมันอร่อย
- การ์ตูนเรื่องยาวของดัชท์ เจ้าโดโด Douwe Dabbert เปิดบริษัทท่องเที่ยว ในที่สุดก็พบ โดโดตัวเมียตัวสุดท้าย
- ตอนท้ายของการ์ตูนดัชท์-ญี่ปุ่นเรื่องยาวเรื่อง Alfred J.Kwak Alfred เจอความลับ ใต้ทะเลเป็นแหล่งอพยพโดโดจากการสูญพันธุ์
- ปี พ.ศ. 2524 วง Genesis แต่งเพลงในอัลบั้ม Abacab ชื่อเพลง โดโด/นักซุ่ม ปี พ.ศ. 2538 อัลบั้มรวมชุด Sound+Vision ของ David Bowie ซึ่งรวมเพลงเก่าที่ยังไม่เคยจำหน่ายตั้งแต่ พ.ศ. 2516-พ.ศ. 2527
พร้อมเพลงใหม่ชื่อโดโดชุดนี้จำหน่ายซ้ำในปี 2003 * ปี 1996 ตอนหนึ่งของการ์ตูนเรื่องยาว The Simpsons (ตอน Homer the Smithers) คุณเบิร์น สั่งให้ โฮเมอร์ เตรียมไข่โดโดเป็นอาหารกลางวัน เป็นมุกหนึ่งที่สื่อว่าตัวละคร คุณเบิร์น หลุดโลกาภิวัฒน์
- ปี พ.ศ. 2542 Aimee Mann เขียนถึงโดโดในอัลบั้ม Bachelor No.2 หรือ The Last Remains of the Dodo แต่ไม่มีเพลงใดเกี่ยวกับโดโดเลย
- ปี พ.ศ. 2544 วิดีโอเกม Grand Theft Auto III เครื่องบินชื่อ Fully-winged Dodo บินอยู่เหนือเมือง ณ สนามบิน Liberty City แม้ว่าจะดูบินไม่ได้ เพราะปีกหัก เป็นมุกล้อนกโดโด แต่เครื่องนี้ผู้เล่นก็ขับบินได้ (อย่างยากเย็น)
เครื่องบินโดโด ปรากฏตัวอีกครั้งใน The Dodo reappears in Grand Theft Auto: San Andreas เป็นฉากสนามบิน Las Venturas
- ปี พ.ศ. 2545 ภาพยนตร์การ์ตูน Ice Age กล่าวถึง กองทัพโดโด ในยุคน้ำแข็ง ที่พยายามเอาตัวรอดจากการสูญพันธุ์ โดยสะสมแตงโมในยามฉุกเฉิน ปรากฏว่าเหลือแตงโมแค่ 3 ลูก ในที่สุดทั้งหมดก็ตกลงเหวไป พร้อมโดโดจำนวนหนึ่งที่พยายามปกป้องแตงโม เป็นมุกว่าความเซ่อซ่าของมัน เป็นเหตุให้ใกล้สูญพันธุ์
- ปี พ.ศ. 2546 อัลบั้มของ Dave Matthews ชุด Some Devil begins มีเพลงชื่อ Dodo เป็นฮาร์โมนิกนุ่ม ๆ เนื้อเพลงทำให้เป็นไปได้ว่ารู้สึกถึง อารมณ์ของโดโดตัวสุดท้ายมีชีวิตในโลก ไม่มีการสื่อถึงนัยลักษณะของโดโด แต่ก็เป็นเพลงเปิดอัลบัมที่ดีทีเดียว
- ในหนังสือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (Fantastic Beasts and Where to Find them) ซึ่งสมมติว่าเป็นหนังสือจากห้องสมุดของโรงเรียนพ่อมด จากนิยาย Harry Potter โดโดถูกเขียนถึงในชื่อ ดิริคอว์ล (Diricawl) หนังสืออ้างว่า มันเป็นสัตว์วิเศษ ที่สามารถหายตัวจากที่หนึ่ง ไปปรากฏอีกที่ได้ ทำให้ มักเกิ้ล (คนที่ไม่มีเวทมนตร์) เข้าใจผิดว่าว่า ดิดริคอว์ลหรือโดโด สูญพันธ์ และพ่อมดก็เก็บความลับไว้ต่อไป เพราะความเชื่อเรื่องการสูญพันธุ์ ทำให้มักเกิ้ลระมัดระวังในการล่าสัตว์
- ในตอนหนึ่งของการ์ตูน Superman: The Animated Series ชื่อตอน The Main Man ตัวร้ายชื่อ The Preserver มีโดโดที่มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมจำลอง ตอนจบ ซุปเปอร์แมนนำโดโดกลับสู่เขตสงวน
- สำนักพิมพ์ DC Comics ทำการ์ตูนเรื่องยาว ตั้งแต่ทศวรรษ พ.ศ. 2483-พ.ศ. 2503 ในชื่อ The Dodo and the Frog มีโดโดชื่อ Dunbar ที่ทึ่มและทำตามแผนของกบชื่อ Fennimore อยู่บ่อย ๆ ภาค2 ในทศวรรษ 1980 เกี่ยวกับ กัปตัน Carrot และลูกเรือสวนสัตว์อัศจรรย์ของเขา
- ใน Underground Humor magazine เรียก กองทัพอากาศสหรัฐว่าโดโดซึ่งล้อตรามาสคอตนำโชครูปนกอินทรี ปีต่อ ๆ มา คำว่าโดโดก็ถูกเซ็นเซอร์และสงวนโดย ผู้นำกองทัพ ตั้งแต่นิตยสารดีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2500 แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือในอินเทอร์เน็ต eDoDo ที่ถูกใช้ไม่ขาดโดย บัณฑิตและนักเรียนนายร้อยที่เล่นเว็บบอร์ด
- ในการ์ตูนเรื่องยาวเรื่อง โปเกมอน มีตัวละครหนึ่งเป็นนกโดโด ชื่อว่า มีสองหัว และสามารถวิวัฒนาการเป็นสามหัว ชื่อว่า
- ในวิดีโอเกม Blazing Dragons หนึ่งในตัวร้ายใช้โดโดขนส่งภาคพื้นดิน เพื่อนำเครื่องบินเครื่องจักรไอน้ำของ Flicker ไปยังปราสาทของ Sir George หลังจากนกอินทรีขนส่งทางอากาศของเขาออกจาหน้าต่าง โดยไม่ได้นำเครื่องบินของเขาไปด้วย
- ในนิยาย The Thursday Next ของ Jasper Fforde Thursday โลกในนิยาย โดโดถูกเพาะเป็นสัตว์เลี้ยง ด้วยการโคลนจากดีเอ็นเอ
อ้างอิง
- http://www.encyclopedia.mu/Nature/Fauna/Birds/Extinct/Dodo.htm 2007-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Encyclopaedia Britannica. 1986. Volumes 4 and 7. Encyclopaedia Britannica, Inc., Chicago.
- Fuller, Errol. 1987. Extinct Birds. Facts on File Publications, New York.
- Greenway, James C. Jr. 1958. Extinct and Vanishing Birds of the World. Americal Committee for International Wild Life Protection, New York.
- Strickland, H.E. and Melville, A.G. 1848. The Dodo and Its Kindred. Reeve, Benham, and Reeve, London.
- BirdLife International (2004). Raphus cucullatus. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. IUCN 2006. Retrieved on . Database entry includes justification for why this species is listed as extinct
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Raphus cucullatus ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathi bthkhwamnimienuxhahruxrupaebbkhlaytara nganwicy khxesnxokhrngkar hruxlksnaxunthiimepnsaranukrm bthkhwamnitxngkarcdrupaebbkhxkhwam karcdhna karaebnghwkhx karcdlingkphayin aelaxun bthkhwamniyngkhadaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxnglingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud odod chwngewlathimichiwitxyu smyoholsinkarfunfuododsathxnnganwicyihmthiphiphithphnthprawtisastrthrrmchatimhawithyalyxxksfxrdsthanakarxnurkssuyphnthu praman ph s 2243 IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb Columbiformeswngs Columbidaeskul Raphus ph s 2303spichis R cucullatuschuxthwinamRaphus cucullatus Linnaeus ph s 2301Former range in red chuxphxngStruthio cucullatus Linnaeus 1758 Didus ineptus Linnaeus 1766 odod xngkvs Dodo epnnkchnidhnung xasyxyuaethbhmuekaamxriechiysinmhasmuthrxinediy epnnkthibinimidxyuintrakulediywkbnkphirab inpi ph s 2048 chawoprtueksepnchawyuorpphwkaerkthiphb aelaephiyngpramanpi ph s 2224 mnksuyphnthuxyangrwderwodymnusy rwmthungsunkhlaenux hmu hnu ling thithuknaekhaodychawyuorp odod imichnkephiyngchnidediywinmxriechiysthisuyphnthuinstwrrsni caknkkwa 45 chnidthiphbbnekaa miephiyng 21 chnidethannthiehluxrxd nksxngchnidsungepnyatiiklchidkbododksuyphnthuipechnkn khux Reunion solitaire Raphus solitarius pramanpi ph s 2289 aela Rodrigues solitaire Pezophaps solitaria pramanpi ph s 2333 emuxthswrrs ph s 2533 nakhnasarwckhunkhnhabnekhabnekaamxriechiys aetkimmiikhrkhnphb cungprakaskarsuyphnthuxyangepnthangkarlksnathangkayphaphnahnk otetmthihnkpraman 23 kiolkrm 50 pxnd sung praman 1 emtr khwamrupccubnekiywkbodod macakthngbnthukaelakhxekhiynkhxngkalasiaelakptneruxthikhunfngmxriechiys emux ph s 2143 ph s 2243 phaphwadcakphukhnnxynidthiekhyehnkhnaphwkmnmichiwit aemwacaimsamarthphisucnidwasilpinehlanntxkikhissiododcakthiehnbanghruxim sakfxssilelknxythikhudkhnidcakekaathukekbrksathibritichmiwesiym rxyetharxycikthukekbrksaiwthixxksfxrd cakbnthukaelaphaphehlani nkwithyasastraelankpksiwithyarwmknpatidpatxraylaexiydthiprakxbkhunepnodod thnwakhm ph s 2548 phbhlkthansakhybnekaamxriechiys phiphithphnthprawtisastrthrrmchatiaehngdblinrwbrwmkhxmulcakkradukethaaelahwthiyngimbubslay sungbrrcuenuxeyuxxxnkhxngstwchnidni sakododstafchinsudthaythiphiphithphnth Ashmolean Museum inxxksfxrdthukephainpi kh s 1755 odysamarthkuethaaelahwidaelathukcdaesdngthungpccubn odod twihy xwnpukluk twihymak hnkthung 23 kiolkrm 50 pxnd mikhnsiethathungnaengin 23 esntiemtr 9 niw hwmisiethaethaxxnkwatw taelksiehluxng pakot okhngaelaepntakhx siekhiywxxnhruxehluxngephl xnepncudednthisud cangxypakkhxnkhangda micudaedngerux pkkhlumdwykhnsiethaxxnnum mipuysikhawhyikchuechidepnhang okhrngsranghnaxkimrxngrbkarbin pikirpraoychnthielkmak bxbbangekincaykododkhuncakphun cungbinimid phukhnthiekhyehnmkkhidwamnimmipik xyangthiekhaeriykwa pikelkthielk little winglets ephraaepnnkbnphundin thiwiwthnakarmaechphaaniewswithyakhxngekaa sungimekhymistwnkla xyangirktam karsuksacakkraduk ododxacichpikngaykwakarbin nnkhuxichwayxyangpikephnkwin khasn xwnetiy hnaaekhngaerng siehluxng miniwethahnaklm 4 niw 3 niwkhanghnaaela 1 niwopngxyukhanghlng mielbsidaaehlngthixyuhmuekaaaehngmxriechiys epnbankhxngaehlngniewshlakhlay thngthirab phuekhalukelk paoprng padib aelaaenwpakarngkhnantlxdchayfng padngdibekhtrxn palaemaaekhtrxn thunghyasawnnaekhtrxn aemwaphaphaelaeruxngpramanmakmaycasuxwaododxyutamchayfngthaelkhxngmxriechiys aetthicringmnepnnkpa ododtharngxyangngay bnphunpa swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxupnisykarkinechuxwa kinphlimepnxahar kalasibangkhnkhuywaekhyehnododluylngsranaipcbpla xangwa mnepnnklathiaekhngaerngaelacxmekhmuxb sungklawekincring xyangirktam xacepnkhwamcringthiwa ododkinhinaelakxnolhabxy xyangimeduxdrxn khadwahinchwyihyxyngay sungepnthrrmdaphbehnidbxy thistwkinphuchechnnkhruxww klunhinlngkraephaa ephuxchwybdphuchsungyxyyak phaphkhxngododnn xwn ngumngam thukkhanody aexndruw khithechnenxr nkchiwwithyacakphiphithphnthaehngchatiskxtaelnd inrayngankhawkhxngenchnaenlcioxkrafik kumphaphnth ph s 2545 ikhrcaechuxwa wadekhiynekaaekthnghlay wadekincring khnathi mxriechiys xyurahwangvdufnaelahnaw ododxaccaxwnkhun dwyphlimsukemuxplayvdufn ephuxihrxdtlxdvduhnawthixaharkhadaekhln inraynganediywkn xangthungkhaklawxangthiwa nkphwknikinxyangtaklatakramhiwkrahay dwyehtuni khnathinkynghaxaharid kcakinekinphikdidngay phwkmnmichiwitxyuepnewlakwa 1 000 pi bnmxriechiys odyprascaknkla sayngepnstwtwihysudbnekaa kxnhnanimxriechiysimekhymimnusychnphunemuxngmakxn karwicyemuxerw niidkhankhaxthibaythisubenuxngknma cakkartrwcwdkradukcak oxford rwmkbxikkwa 100 chinthisasmin Natural History Museum and the Cambridge Zoology Museum namakhanwnwa nahnkethaihrthimncaaebkihw phbwa ododthixwnmak cahnkekinkwakradukcarbid thungkhnkradukhk patidpatxihmidwa ododtxngphxmbangkwathicintnakarkarsubphnthuechphaakarcbkhuaelarayaewlafkikh thiimru hlaykhnxangwa rngnkodod xyulukinpa inrnghya thinn twemiycawangikh 1fxng sungmncapkpxngaelaeliyngdu kalasiphuhnungelawa idyinesiyngrxngkhxnglukododthixyuinrng esiyngehmuxnlukhan swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidphvtikrrmthimakhxngchuxododmiaenwkhid 2 thang thiyxmrbknthwipkhux phasadchth dodaar hmaythung echuxycha xikaenwkhidhnungwa macak phasaoprtueks doudo hmaythung ongengatwtlk kalasithikhunfng mxriechiys phbkhwamkhbkhnyingnk emuxefaduphvtikrrmngumngamkhxngodod mieruxngelathung ododthiphyayamwinglnlan khnathimnkalngedinoses phungkhxngmncalakipkbphun thaihmnwingcha thngododkimklwkhndwy swnihyaelwododthukklawthunginaengkhwamechuxycha khxnkhangipthangtlkongenga mnimmi klikkarpxngkntwcakphula thiehnidchd ewnaet cangxypakihyot sungkdidxyangnaklw thamicnghwa aetpktikimkhxyidich nxkcakephuxpkpxngtwexngaelaluknxy prakxbkbthimnbinimiddwy ehtuphlehlanirwmkn thaihthuklaodyngayododkbmnusy aelaehtukarnkarsuyphnthukalasi lamnmaepnxaharxyubxy emuxkhrngyngimsuyphnthubnekaamxriechiys aemcamkthukklawthungwa enuxodod imxrxy aetkyngthuklamakmay ephraacbngay bangkhrngkalasinaklbmaidthung 50 twinkhrngediyw thakinimhmd kdxngaelanaklbipdwy ekaanithukkhnphbkhrngaerkodychawoprtueks aetchawdtchepnphuyudkhrxngxyangthawraethcring echuxwa kalasiklumaerkthimathung mxriechiys epnchawoprtueks naodykptn maskhaaerknas in ph s 2048 ph s 2050 phwkekhatngiciptngthinthandwykhwamhwnginaexfrikait aettidphayuthaihtidekaaaelalngexythi mxriechiys khnaedinthangxun hlngcakoprtueksinpitx ma mithngdthch britich aelaxun nkodod kalasiidphbkhbkhn aelaemuxphwkekhakhadxaharprathngchiwit kidxahar chawdtch prakas mxriechiys epnxananikhm eruxnaaemw sunkh hmu aelaling maphrxmkbphukhnklumhnung stwtangthinaephrphnthuaelarukranpaxyangrwderw ehyiybyarngnk thaihnkesiykhwy lathalayikhkblukxxnkhxngodod thngkarlaepnxaharxyangtxenuxngcakmnusy prakxbkbkaraethrkaesngcakstwtangthin namasukarsuyphnth praman ph s 2236 David Roberts aethlngkarsuyphnthukhxngododxyangepnthangkarthung sungyunynkarphbehnkhrngsudthayemux ph s 2205 thiraynganodykalasieruxxbpang Volkert Evertsz sungtrwcphbtxmain ph s 2224 orebirtchiwa cakkarthikhabxkelakhxngxthikarobsth ph s 2181 ph s 2205 duehmuxnwamncahaidyakaelwemux ph s 2203 xyangirktam thangsthitiwiekhraah cakbnthukkarlakhxng ixaeskh ocn laomethiys idkhaenewlathisuyphnthu in ph s 2236 aelaechuxmnthung 95 waekidkhuninchwng ph s 2231 ph s 2258 thiaenchdkhux ododthukkhamakphayin 100 pihlngkarkhnphbspichisni immitwxyangthismburnthukrksaiw aemaetskphiphithphnththicaekbkradukmniw ikhododibhnungthukcdaesdngthi East London museum inaexfrikait hlkthanthangphnthukrrmmacaksingni emuxwiekhraahdiexnex yunynwaododepnyatiiklchidkbnkphirab sungmithinkaenidkhabekiywkn khuxinaexfrikathungexechiyit immiikhrsnicxyangcringcnginkarsuyphnthukhxngmn krathngthukexachuxipepntwlakhrinniyay khxng luxis kharrxll thaihekidkhasaelngwa tayxyangodod mikhwamphyayamthicanaododklbmamichiwit thasaercphudaeninkarcaidpraoychncakkarthxngethiywdunkthiimehmuxnikhrthwyuorp aesdngphwkmninkrngaelasathitnkkinhinkinehlkdngthitananxangiwwngs rafied aelanksayphnthuiklknododthukcdhmwdhmuiwintrakul Raphidae aebngyxymaxyuinwngs Columbiformes sungepnwngshnungcak 2 wngsthixyuintrakulni xikwngshnungkhux Columbidae sungidaek nkphirabaelankekhathnghlay nktrakulediywkbodod thieriykwa hrux osliaetr thukraynganodykalasithixasybnekaaikl mxriechiys pi ph s 2156 phb Reunion solitaire hrux Raphus solitarius bnekaaerxuwniyng reunion aelapi ph s 2234 phb Rodrigues solitaire hrux Pezophaps solitarius bnekaarxdrieks rodrigues sungphnthuhlngidsuyphnthechnkn rahwangpi ph s 2303 immihlkthanidrxngrbkarmixyukhxng Reunion solitaire nkpksiwithyaechuxwa nkthiehnaethcringkhuxnkchxnbinimidbnekaaerxuwniyng hrux Threskiornis solitarius sungksuyphnthuipechnkn ephraamnsubphnthudwykn cungthukeriykwa ododsikhaw xyangthinkedinthangxthibaywa nkchxnbinimid thithuktxngepnsikhawepnhlk aelaxyangthipraktinphaphekhiynbangchinkhxngododsikhaw echuxwaaesdngthung ododtwplxmthithukthukthkaehngekaaerxuwniyng xyangirktam khaphrrnnanxynidthiihkhwamchdecnwa pikaelahangkhxng Reunion solitaire misida ehmuxnthiphbidin nkchxnkhxthung Sacred Ibis yatiiklchid khnathiphaphwadaesdngihehnwankepnsikhawthngtw imnbwakrniepnipidwaepnrxyepuxnskprkkhxngkhn phaphwadswnmak epnnkthikhnginorngeliyngchawyuorp caaesdngpakthiepnwng imichaekhtakhx duehmuxnichepnsyyanetuxnpxngknphubukruk nkedinthangxangwa thatxnekhamumododcakdomohraythiediyw khnadkhadhwngihefasinkhasakhythngkxngid phaphwadododsikhawcakaehlngthikhlayknswnihymi ododephuxk ephiyngnxy bangthixacmiephiynghnung thithungmuxchawyuorpaelathukekbrksaxyangsnicikhrru dr xln khuepxr kb dr ebth chapior cak sunychiwomelkulobranehnriewlkhmaehngxxksfxrd dr diaexn sibthxrpi aexndruw aermbxt dr aekraehm aewrkk dr oxlaf b ximxnds kb dr aephthriesiy li cakphakhwichastwwithyaaehngxxksfxrd aela dr ecermi xxstin cakphiphithphnthprawtithrrmchatilxndxn rwmknwicy inpi ph s 2545 skdchinswnelknxykhxngdiexnexodod twxyangthuknamacak hlkthanchinediywsungmienuxeyuxxxn xayu 300 pithihlngehlux cakphiphithphnthprawtithrrmchatimhawithyalyxxksfxrd thngskddiexnexcakkradukkhxngosliaetrdwy kradukkhudcakthabnekaarxdrieks phllphthkarwiekhraahaesdngwaododaela osliaetr epnyatiiklchidknmak aelaaeykmaelknxycakwngskhxng nkphirab phlkhxngdiexnexsrupwaododaelaosliaetr thicringepnxyuintrakulediywkbtrakulnkphirab aelaepnyatiiklchidkbphirabniokhbar hruxchuxwithyasastr Caloenus nicobarica inpi ph s 2516 nkwithyasastrphbwa phnthuimbnmxriechiysthichux tnodod hruxchuxwithyasastr Sideroxylon grandiflorum hrux Calvaria major kalngphldib miephiyng 13 twxyang thiimphbrayngan aelaphwkmnthnghmdxayupraman 300 pi nbcakododtwsudthaythukkha phbwankododkinemldkhxngtnododaelwemldkphanthangedinxaharkhxngodod xxkmathangxuccara aelatuntwerimngxk hlngcakthiphbwaekidphlaebbediywknkbkarihikngwngkinemldni phnthuimnicungyngkhngxyurxd xyangirktam raynganemuxerw nisubphbwa twxyangphuchrunihm imiddxylng xacepnipidthi nkaekwcangxykwangthisuyphnthuaelw hrux Lophopsittacus mauritianus tanghak thimikhwamsakhytxkarkracayemld yingkwaodod raylaexiydephimetim ihsuksacakbthkhwamekiywkb tnodod dodo tree klayepn sylksn aelakhwamniympraktxyubn esuxekraakhxngkxngkalngaehngmxriechiys epntrayihxkhxng Brasseries de Bourbon phuphlitebiyryxdniymbnekaaerxuwniyng epnsylksn aela maskhxtnaochkhkhxng kxngthunxnurksstwpaedxrerl aelaekhtsngwnstwpaecxrsi thikxtngody epnchuxeln sylksn aelamaskhxtnaochkhkhxng xngkhkrsingaewdlxmfinnich praktepnthiruckkhrngaerk inniyay Alice s Adventures in Wonderland khxng Lewis Carroll inpi ph s 2408 hnngsuxmitwlakhrepnnkodod thichuxeriyb waodod twlakhrnisathxnthungtwphupraphnthexng pi ph s 2481 Bob Clampett kakbkartunkhxng Looney Tunes chux Porky in Wackyland miecahmukalnglaododtwsudthayipthwthngdinaednphisdar wackyland ecaododineruxngstiefuxngphxkbthinkhxngmn aelamnkhniecahmuidthngeruxng thswrrs ph s 2533 kartun Tiny Toon Adventures mitwlakhrepnnkododchux Gogo Dodo epntwlakhrthikhxnkhangethuxnaelachxbrdkxd aelaepnlukchaykhxngecaododcakeruxng Porky in Wackyland hnunginthimaephthy cakeruxng Doctor Who inpi 3 ph s 2509 michuxelnwa Dodo ethxchladaelaraering irediyngsa epntwkhxngtwexng thaihnukthungbukhlikkhxngnkodod pi ph s 2530 hnngsuxeruxng Dirk Gently s Holistic Detective Agency ody Douglas Adams ineruxng sastracary Chronotis wakarthiododsuyphnthu ephraaekhaexaewlaipohmihkbkarxnurks plasilaaekhnth txnhnungkhxngeruxng The Goodies twlakhr Bill Oddie khnphbsaehtukarsuyphnthukhxngodod khuxphwkmnxrxy kartuneruxngyawkhxngdchth ecaodod Douwe Dabbert epidbrisththxngethiyw inthisudkphb ododtwemiytwsudthay txnthaykhxngkartundchth yipuneruxngyaweruxng Alfred J Kwak Alfred ecxkhwamlb itthaelepnaehlngxphyphododcakkarsuyphnthu pi ph s 2524 wng Genesis aetngephlnginxlbm Abacab chuxephlng odod nksum pi ph s 2538 xlbmrwmchud Sound Vision khxng David Bowie sungrwmephlngekathiyngimekhycahnaytngaet ph s 2516 ph s 2527 phrxmephlngihmchuxododchudnicahnaysainpi 2003 pi 1996 txnhnungkhxngkartuneruxngyaw The Simpsons txn Homer the Smithers khunebirn sngih ohemxr etriymikhododepnxaharklangwn epnmukhnungthisuxwatwlakhr khunebirn hludolkaphiwthn pi ph s 2542 Aimee Mann ekhiynthungododinxlbm Bachelor No 2 hrux The Last Remains of the Dodo aetimmiephlngidekiywkbododely pi ph s 2544 widioxekm Grand Theft Auto III ekhruxngbinchux Fully winged Dodo binxyuehnuxemuxng n snambin Liberty City aemwacadubinimid ephraapikhk epnmuklxnkodod aetekhruxngniphuelnkkhbbinid xyangyakeyn ekhruxngbinodod prakttwxikkhrngin The Dodo reappears in Grand Theft Auto San Andreas epnchaksnambin Las Venturas pi ph s 2545 phaphyntrkartun Ice Age klawthung kxngthphodod inyukhnaaekhng thiphyayamexatwrxdcakkarsuyphnthu odysasmaetngominyamchukechin praktwaehluxaetngomaekh 3 luk inthisudthnghmdktklngehwip phrxmododcanwnhnungthiphyayampkpxngaetngom epnmukwakhwamesxsakhxngmn epnehtuihiklsuyphnthu pi ph s 2546 xlbmkhxng Dave Matthews chud Some Devil begins miephlngchux Dodo epnharomniknum enuxephlngthaihepnipidwarusukthung xarmnkhxngododtwsudthaymichiwitinolk immikarsuxthungnylksnakhxngodod aetkepnephlngepidxlbmthidithiediywinhnngsux stwmhscrryaelathinthixyu Fantastic Beasts and Where to Find them sungsmmtiwaepnhnngsuxcakhxngsmudkhxngorngeriynphxmd cakniyay Harry Potter ododthukekhiynthunginchux dirikhxwl Diricawl hnngsuxxangwa mnepnstwwiess thisamarthhaytwcakthihnung ippraktxikthiid thaih mkekil khnthiimmiewthmntr ekhaicphidwawa didrikhxwlhruxodod suyphnth aelaphxmdkekbkhwamlbiwtxip ephraakhwamechuxeruxngkarsuyphnthu thaihmkekilramdrawnginkarlastw intxnhnungkhxngkartun Superman The Animated Series chuxtxn The Main Man twraychux The Preserver miododthimichiwitxyuinsingaewdlxmcalxng txncb supepxraemnnaododklbsuekhtsngwn sankphimph DC Comics thakartuneruxngyaw tngaetthswrrs ph s 2483 ph s 2503 inchux The Dodo and the Frog miododchux Dunbar thithumaelathatamaephnkhxngkbchux Fennimore xyubxy phakh2 inthswrrs 1980 ekiywkb kptn Carrot aelalukeruxswnstwxscrrykhxngekha in Underground Humor magazine eriyk kxngthphxakasshrthwaododsunglxtramaskhxtnaochkhrupnkxinthri pitx ma khawaododkthukesnesxraelasngwnody phunakxngthph tngaetnitysardiphimphinpi ph s 2500 aetthiehnchdthisudkhuxinxinethxrent eDoDo thithukichimkhadody bnthitaelankeriynnayrxythielnewbbxrdinkartuneruxngyaweruxng opekmxn mitwlakhrhnungepnnkodod chuxwa misxnghw aelasamarthwiwthnakarepnsamhw chuxwa inwidioxekm Blazing Dragons hnungintwrayichododkhnsngphakhphundin ephuxnaekhruxngbinekhruxngckrixnakhxng Flicker ipyngprasathkhxng Sir George hlngcaknkxinthrikhnsngthangxakaskhxngekhaxxkcahnatang odyimidnaekhruxngbinkhxngekhaipdwy inniyay The Thursday Next khxng Jasper Fforde Thursday olkinniyay ododthukephaaepnstweliyng dwykarokhlncakdiexnexxangxinghttp www encyclopedia mu Nature Fauna Birds Extinct Dodo htm 2007 02 10 thi ewyaebkaemchchin Encyclopaedia Britannica 1986 Volumes 4 and 7 Encyclopaedia Britannica Inc Chicago Fuller Errol 1987 Extinct Birds Facts on File Publications New York Greenway James C Jr 1958 Extinct and Vanishing Birds of the World Americal Committee for International Wild Life Protection New York Strickland H E and Melville A G 1848 The Dodo and Its Kindred Reeve Benham and Reeve London BirdLife International 2004 Raphus cucullatus 2006 IUCN Red List of Threatened Species IUCN 2006 Retrieved on Database entry includes justification for why this species is listed as extinctduephimsuyphnthuaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Raphus cucullatus thiwikispichis wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb odod http animaldiversity ummz umich edu accounts raphus r cucullatus narrative html http www davidreilly com dodo 2006 12 01 thi ewyaebkaemchchin http www dodoisland com http www potomitan info dodo c25 php