บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
เอฟ-15 อีเกิล (อังกฤษ: F-15 Eagle) เป็นเครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์ทางยุทธวิธีทุกสภาพอากาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่ครองความได้เปรียบทางอากาศ มันถูกพัฒนาให้กับกองทัพอากาศสหรัฐและได้ทำการบินครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1975 มันเป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่โดดเด่นที่สุดในสมัยใหม่ เอฟ-15อี สไตรค์อีเกิลเป็นแบบดัดแปลงสำหรับทำหน้าที่.ขับไล่.และ.โจมตีทุกสภาพซึ่งได้เข้าประจำการในปี 1976 กองทัพอากาศสหรัฐฯ วางแผนที่จะใช้ F-15 ไปจนถึงปี 2025
บทบาท | เครื่องบินขับไล่ครองความได้เปรียบทางอากาศ |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหรัฐ |
บริษัทผู้ผลิต | / |
เริ่มใช้ | 9 มกราคม |
สถานะ | อยู่ในประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | กองทัพอากาศสหรัฐ กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น |
มูลค่า | F-15A/B 27.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2542) F-15C/D 29.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2542) |
แบบอื่น | |
การพัฒนา
ในช่วงสงครามเวียดนาม เมือกองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐกำลังแข่งขันกันเพื่อกำหนดอนาคตของเครื่องบินขับไล่ ทางยุทธวิถี เมื่อรัฐมนตรีกลาโหม Robert McNamara กดดันให้สองเล่าทัพใช่อากาศที่เป็น Common Fleet > (การใช้งานอากาศยานแบบเดียวกันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในการใช้งาน ที่ถึงแม้จะกระทบถึงความสามารถในการรบ).และในช่วงนันต้องการหา.เครื่องบินขับไล่มาต่อกรกับ MIG-25 ของโซเวียต.
ด้วยนโยบายของ กลาโหม กองทัพเรือและกองทัพอากาศจึงดำเนินโครงการ TF-X จึงกล้ายมาเป็นเครืองบิน F-111 แต่ในเดือนมกราคมปี 1965 รัฐมนตรีกลาโหม Robert McNamara ได้ให้กองทัพอากาศตัดสินใจ สำหรับโครงการเครื่องบินขับไล่ราคาประหยัดแบบใหม่ ที่มีระยะทำการสันลง และรองรับภารกิจ Close air support ที่จะมาแทนที่เครืองบินหลายๆแบบ ทั่ง
NORTH AMERICA F-100D SUPER SADRE และเครื้องบินทิ้งระเบิดเบาอีกหลายๆแบบ โดยในการทดแทนนี้มีเครื่องบินหลายลำที่ถูกเลือกเข้ามา. กองทัพเรือได้เลือก Douglas A-4 SKYHAWK และ LTV A-7 CORSAIR II ที่เป็นเครื่องบินโจมตีเบาแบบเพียวๆ แต่กองทัพอากาศ กลับให้ความสนใจกับ Northrop F-5 ที่เป็นเครืองบินขับไล่และสามารถทำภารกิจโจมตีภาคพื่นได้เป็นภารกิจรอง เนื่องจากถ้ากองทัพอากาศเลือกเครื่องบินทำภารกิจโจมตีภาคพื่นเป็นภารกิจหลัก พวกเขาจำเป็นต้องหาเครื่องบินขับไล่อีกแบบหนึ่ง เพื่อความเป็นต่อในการครองอากาศ แต่ในท้ายที่สุด ก็เหลือตัวเลือกเครืองบินขนาดเบาทางยุทธวิถี แบบ F-5 และ A-7 เท่านันที่จะถูกตัดสินใจ โดยไปให้ความสัมพันธ์กับการออกแบบเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ ที่มี สมรรถนะสูงกว่านี้ เนื่องจากตั่งแต่เหตุการณ์ที่ F-105 ถูกยิงตกโดยเครื่องบินขับไล่อย่าง MIG-17 ในปี 1965
เดือน เมษายนปี 1965 Harold Brown ผู้อำนวยการ Director of Department Of Defense Research and Engineering ได้ให้มีการเริ่มต้นศึกษาโครงการ เครื่องบินขับไล่ F-X ที่ได้คาดหวังไว้ว่า จะถูกผลิตออกมา 800 ถึง 1000 ลำ โดยถูกเน้นไปที่ความคล่องตัวแทนความเร็วที่สูงและจะไม่สามารถการโจมตีภาคพื่นดิน โดยความต้งการของโครงการ F-X ถูกกำหนดขึ้นในเดือน ตุลาคมปี 1965 และถูกไปเป็น คำร้องขอข้อเสนอ Request For Proposals ถึง 13 บริษัท ผู้พัฒนาอากาศยาน. ในวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1965 ในตอนนันเองกองทัพอากาศก็ได้เลือกเครื่องบิน A-7 ในการที่เป็นเครื่องบินที่ขาดคุณลักษณะในการต่อสู้ทางอากาศ และมาคาดหวังความสามารถใยการครองอากาศจากโครงการ F-X แทน
มี 8 บริษัทที่ตอบรับข้อเสนอในครั้งนี้.แต่จากการคัดเลือกมีเพียง 4 บริษัทที่ให้ดำเนินการต่อในการเสนอเครื้องบินต้นแบบ มีการออกแบบที้มากถึง 500 แบบ ในช่วงเวลานี้.โดยการออกแบบส่วนใหญ่จะใช่เครื่องบินที่สามารถพับปีกได้.มีน้ำหนักลำตัวมากกว่า 60000 ปอนด์และมีความเร็วที้มากกว่ามัค 2.7 และมีอัตราสวน TTVLS อยู่ที่ 0.75 การศึกษาดำเนินการมาจนถึงปี 1966 ตัวเครื่องบินนันดูจะมีน้ำหนักมากๆพอกับ F-111 AARDVARK
ซึ่งนันจะทำให้มันไม่มีคุณสมบัติมากพอสำหรับเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ ช่วงที่กำลังวิจัยโครงการ บทเรียนจากการรบในสงครามเวียดนาม..ได้ก่อให้เกิดเป็นความกังวลจำนวนมาก.โดยกำหนดให้เครื่องบินเน้นไปที่การต่อสู้โจมตีอากาศสู้อากาศตั่งแต่ระยะไกล โดยทำให้เครื่องบินขับไล่ยุคก่อนนันถูกออกแบบมาให้มีเรดาห์ขนาดใหญ่ และมีความเร็วที่สูง แต่ก็มีข้อจำกัดในความคล่องตัว.และขาดการติดตั่งอาวุธดังเดิมอย่างปืนกลอากาศ ดังตัวอย่างที่เครื่องบินขับไล่ที่สหรัฐใช่อย่าง MCDONNELL DOUGLAS F-4 PHANTOM II ที่ใช่งานทั้งในกองทัพอากาศ กองทัพเรือ.และนาวิกโยธิน.สหรัฐ มีนเป็นเครื่องบินเพียงแบบเดียวที่พอจะรับมือกับภัยคุมคามอย่างเครื่องบินขับไล่ MIG ในสงครามเวียดนาม.แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ของ PHANTOM ทำให้เสียเปลี่ยนกับเครื่องบินขับไล่ที่เล็งอย่าง MIG-21 MIG-17 และ MIG-15 ในการรบระยะประชิด และจรวดนำวิถีอากาศสู้อากาศในขณะนันมีผลงานต้ำกว่าที่ขาดไว้.จึงถือกำเนิดและหลักการฝึกแบบใหม่ของนักบินเครื่องบินขับไล่สหรัฐที่ถูกสอนหลังจากช่วงเวลานัน รวมถึงการนำปืนใหญ่อากาศแบบ M61 VULCAN มาติดตั่ง กลับมาติดตั่งบนเครื่องบิน F-4
จากปัญหานี้ JOHN BOYD อดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐ จึงได้ตั่งทฎษภี Energy-Maneuverubility(U) ที่ได้กล่าวไว้ว่า
"พลังงานที่มากกว่า และความคล่องตัวจะเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบเครื่องบินขับไล่ที่สูงกว่าของเครื่องบินนัน."
ทำให้ในต้นปี 1967 ความต้องการของโครงการ ได้ถูกเปลียนให้ เปลี่ยนให้มี
อัตราส่วนแรงขับต่อน้ำหนักเท่าก้บ 1.1
ความเร็วสูงสุด มัค 2.3
น้ำหนัก 40,000 ปอนด์
ปีกรองรับน้ำหนักบรรทุดได้สูงสุด 80 ปอนด์/ต่อตารางฟุต
ในช่วงเวลาเดียวกับกาาพัฒนา สหภาพโซเวียตก็ได้เผยให้เห็นถึงเครื่องบินขับไล่ MIG-25 ที่สนามบิน โดโมเดโดโว่ ใกล้กับ Moscow โดยเครื่องบิน MIG-25 นี้
ถูกออกแบบให้มีความเร็วและเพดานสูงสำหรับการเป็นเครื่องบินขับไล่สกัดกันโดยการออกแบบของเครื่องบินที่มีความเร็วมากกว่ามัค 2.8 ทำให้เครื่องบินลำนี้ต้องใช่วัสดุอย่างสแตนเลส steel แทนที่เครื่องบินขับไล่ปกติเขาใช้กันในการสร้างเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบาและมีปีกขนาดใหญ่สำหรับเพดานบินที่สูง ลักษณะภายนอกของ mig-25 มันมีลักษณะคล้ายกับเครื่องบินต้นแบบในโครงการ F-X แต่มีขนาดใหญ่กว่าจึงนำไปสู้ความกังวลร้ายแรงทั่วกระทรวงกลาโหมสหรัฐ.ในเวลานัน.
เดือนกันยายนปี 1968 คำขอข้อเสนอได้ถูกส่งให้ไปย้ง บริษัทผลิตอากาศยาน 4 บริษัทด้วยกัน โดย กำหนดไว้ว่า เป็น
เครื่องบินขับไล่ครองอากาศ ที่นั่งเดียว
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด. คือ 40,000 ปอนด์
มีความเร็วสูงสุดคือ มัค 2.5
อัตราส่วนแรงขับต่อน้ำหนัก 1.1
มีเครื่องยนต์ 2 ตัว ในเครื่องบิน 1 ลำ ที่คล้ายกับโครงการ VF-X ของกองทัพเรือ
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้ร้องของให้ NASA ตอบรับข้อเสนอของโครงการ VF-X ในลักษณะของคู่สัญญาจ้าง ทางอุตสาหกรรมโดยผู้อยู่เบื่องหลังกับการทำงานของนาซ่านี้คือ
John Foster ผู้อำนวยการ Defense Department Reseearch and Engineering ด้วยเหตุผลสองข้อ โดยประการแรกการออกแบบจาก Nasa จะเป็นการรวมเอาเทคโนโลยี ขั้นก้าวหน้า อุตสาหกรรม มาปรับใช่ สอง ด้วยประสบการณ์ ของ Nasa อาจจะช่วยให้ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการพัฒนาภายหลังได้
การออกแบบคอนเซป 4 ตัว สำหรับเครื่องบินขับไล่นี้ มีชื่อว่า Langley Fighter/Attack Experimental หรือ [LFAX]
ซึ่ง มีต้นแบบทั่ง 4 แบบคือ
LFAX-4 (แบบที่ใช้ปีกพับปรับองศาได้)
LFAX-8 เครื่องต่อยอดมาจาก LFAX-4 แต่มีปีกแบบตายตัว
LFAX-9 มีแบบเครื่องยนต์ที่ติดตั่งทีาใต้ปีก
LFAX-10 มีรูปร่างภายนอกคล้ายกับ MIG-25 ของโซเวียต
ทีมพัฒนาของ McDonnell Douglas ได้ให้ความสนใจ LFAX-8 เป็นพิเศษ และมีผลต่อการออกแบบเครื่องบินของบริษัทนี้ โดย McDonnell Douglas ได้ทำการดัดแปลงรูปทรงของปีกเครื่องบินเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบังคับทิศทางในช่วงความเร็วต่ำกว่าเสียง
ในเดือนตุลาคมปี 1969 กองทัพอากาศสหรัฐ ได้เปลี่ยนชื่อโครงการ F-X เป็น ZF-15A จาก 4 บริษัท ที่ตอบรับมา กองทัพอากาศ ได้ตัด General Dynamics ออก จึงเหลือเพียง Fairchild Republic
North America Rockwell และ MCDONNELL DOUGLAS เพื่อให้ทั่ง 3 บริษัทส่งข้อเสนอทางด้านเทคโนโลยี.ในเดือนมิถุนายนปี 1969 และในวันที่ 23 ธันวาคม 1969 กองทัพอากาศก็ได้ประกาศให้ MCDonnell Douglas เป็นผู้ชนะโครงการ F-15
การเข้าร่วม.ปฎิบัติการของ F-15
แต้มการสอยแรกเครื่องบินของ F-15 เริ่มต้นโดยกองทัพอากาศอิสราเอล ในปี 1979 ในการบุกโจมตีกรุงปาเลนสไตน์ ในเลบาลอน ปี 1979 ถึง 1981 โดยยิงเครื่องบินของซีเรียตกที่ประกอบไปด้วย MIG-21 13 ลำ และ MIG-25 อีก 2 ลำ ในสงครามเลบาบอนปี 1982 ก็ยังมีแต้มสังหาเครื่องบินรบของซีเรียอีกกว่า 40 ลำ อีกทั่งอิสราเอล และ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ดัดแปลง F-15 ให้สามารถทำภารกิจโจมตีภาคพื่นได้
ในปี 1984 มีรายงานว่า F-15C ของซาอุได้ยิง F-4E PHAMTON II สองลำของอิหร่านตก
ในช่วงปี 1984 ถึง 1986 มีการนำจรวดต่อต้านดาวเทียมมีติดตั้งบน F-15 อย่าง ASM-135 ASAT โดยติดตั้งที่กึ่งกลางใต้ท้อง เพื่อหวังทำลายดาวเทียมสอดแนมวงโครงจรต่ำ ในการทดสอบนักบินจะไต่ระดับขึ้น 65 องศา ไปยังจุดที่คำนวณไว้ เมื่อถึงระดับความสูง 38,100 ฟุต และความเร็วมัค 1.22 นักบินจะยิงลูกจรวดออกไปใส่ยังดาวเทียม ในการทดสอบคร้งที่ 3 ในการยิงดาวเทียมปลดประจำการ T-78-1 หรือโซวิน ที่อยู่ห่างจากพื่นโลก 555 กิโลเมตรจากพื่นดิน ทำให้นักบินนาวาอากาศตรี Wilbert D. "Doug" Pearson เป็นนักบินเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จ ในการยิงดาวเทียมด้วย F-15 เพราะหลังจากนันไม่นานโครงการนี้ก็ได้ถูกปิดตัวลง
ในปฎิบัติการพายุทะเลทรายสงครามอ่าวในปี 1991 F-15C/D ของสหรัฐ ได้เข้าร่วมรบทางอากาศ 36 ครั้งจากทังหมด 39 ครั่งตลอดช่วงของสงคราม ข้อมูลจากกองทัพอากาศสหรัฐ ยื่นยันว่าเครื่องบินอิรักถูกทำลายโดย F-15C จำนวน 34 ลำ ซึงประกอบไปด้วย MIG-29 MIG-25 MIG-21 SU-25 SU-22 SU-7 Mirage F-1 รวมไปถึงเครื่องบินลำเลียง เครื่องบินฝึกและ ฮอ
ในส่วน ซาอุ อาจเป็นผู้ใช้งาน F-15 ที่ใช้ไม่ได้เต็มดีพอสมควร โดยวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 1990 มีนักบินของซาอุที่แปรพันต์นำเครื่องบินของ F-15C ไปลงจอดที่ซูดาน ทางรัฐบาลซาอุได้จ่ายเงินถึง 50 ล้านเหรียญ เพื่อขอซื้อเครื่องบิน คืน และในช่วงสงครามอ่าว วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี 1991 มีรายงานว่า F-15 ของซาอุ ตกที่สนามบิน คามิมูซาอิ โดยในภายหลังอิรักอ้างว่า เป็นผู้ที่ยิงเครื่องบินลำนี้ด้วย MIG-25PD แต่ข้อมูลนี้ไม่มีการยื่นยันอีกทั้งในช่วง เวลานันกองกำลังพันธมิตร ของสหรัฐ ได้ทำรายระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิรักไปจนหมดแล้ว
ในสงครามโคโซโว F-15C ของกองทัพอากาศสหรัฐ ยังมีผลงานในการสอยเครื่องบิน MIG-29 อีก 1 ลำ
แบบต่างๆ
แบบต่างๆของ F-15
- F-15A
- เป็นเครื่องบินขับไล่แบบหนึ่งที่นั่ง รุ่นแรก. สร้างออกมา 384 ลำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515-2522
- F-15B
- แบบสองที่นั่งสำหรับการฝึก เดิมทีใช้ชื่อ TF-15A สร้างออกมา 61 ลำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515-2522
- F-15C
- เป็นเครื่องบินขับไล่ครองความได้เปรียบทางอากาศในทุกสภาพอากาศแบบหนึ่งที่นั่งที่ได้รับการพัฒนาเพิ่ม สร้างออกมา 483 ลำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522-2528
- F-15D
- แบบสองที่นั่งสำหรับการฝึก สร้างออกมา 92 ลำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2528
- F-15J
- เป็นเครื่องบินขับไล่แบบหนึ่งที่นั่งสำหรับ สร้างออกมา 139 ลำภายใต้ใบอนุญาตโดยบริษัท มิตซูบิชิตั้งแต่ปีพ.ศ. 2524-2540
- F-15DJ
- แบบเครื่องบินรุ่นสองที่นั่งที่ออกแบบ.มาใช้ในฝูงบินข้าศึกสมมุติของญี่ปุ่น.และเป็นรุ่นฝึกของญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน
- F-15NPS
- เป็นแบบที่เสนอให้ในปี 1970 ให้กับกองทัพเรือสหรัฐ F-15NPS ที่สามารถติดขีปนาวุธเอไอเอ็ม-54 ฟีนิกซ์. ได้เหมือนกับ F-14 TOMCAT ทุกรุ่น.แต่กองทัพเรือสหรัฐก็ปฎิเสธ.
- F-15E STRIKE EAGLE
- เอฟ-15อี สไตรค์อีเกิล เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจากF-15C EAGLE ให้สามารถทำภารกิจได้หลากหลายนอกจากการเป็นเครื่องบินขับไล่.แต่ต่างประเทศนันสนใจในรุ่นนี้...ก็เลยมีรุ่นแยกย่อยเช่น F-15K F-15I
แบบการวิจัยและทดสอบ
- เอฟ-15 สตรีคอีเกิล (72-0119)
- เป็นเอฟ-15เอที่ใช้เพื่อสาธิตการเร่งความเร็วของเครื่องบิน มันได้ทำลายสถิติการไต่ระดับด้วยเวลาไป 8 ครั้งระหว่างวันที่ 16 มกราคมและ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 มันถูกส่งมอบให้กับพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2523
- (71-0290)
- เป็นเอฟ-15บีลำแรกที่ถูกดัดแปลงให้วิ่งขึ้นและลงจอดในระยะสั้น มันเป็นเครื่องบินสาธิตเทคโนโลยีกระบวนท่า ในปลายทศวรรษที่ 1980 มันได้รับการติดตั้งปีกเสริมพร้อมกับท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยม มันใช้เทคโนโลยีกระบวนท่าและวิ่งขึ้นระยะสั้นหรือเอสเอ็มทีดี (short-takeoff/maneuver-technology, SMTD)
- (71-0290)
- เอฟ-15 เอส/เอ็มทีดีที่ต่อมาถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินวิจัยเทคโนโลยีควบคุมการบิน
- เอฟ-15 ไอเอฟซีเอส (71-0290)
- เอฟ-15 แอคทีฟต่อมาถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินวิจัยระบบควบคุมการบินด้วยปัญญาประดิษฐ์ เอฟ-15บี หมายเลขเครื่อง 71-0290 เป็นเอฟ-15 ที่ยังทำการบินอยู่โดยมีอายุมากที่สุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2551
- เอฟ-15 เอ็มเอเอ็นเอ็กซ์
- เป็นชื่อของเอฟ-15 แอคทีฟที่ไม่มีหาง แต่ก็ไม่เคยถูกสร้างขึ้นมา
- เอฟ-15 สำหรับวิจัยการบิน (71-0281 และ 71-0287)
- เอฟ-15เอสองลำถูกใช้ทดลองโดยศูนย์วิจัยการบินดรายเดนของนาซ่า การทดลองรวมทั้ง การควบคุมอิเลคทรอนิกดิจิตอลรวมหรือไฮเดก (Highly Integrated Digital Electronic Control, HiDEC) ระบบควบคุมเครื่องยนต์หรือเอเดกส์ (Adaptive Engine Control System, ADECS) ระบบควบคุมการบินค้นหาและซ่อมแซมตัวเองหรือเอสอาร์เอฟซีเอส (Self-Repairing and Self-Diagnostic Flight Control System, SRFCS) และระบบเครื่องบินควบคุมการเคลื่อนที่หรือพีซีเอ (Propulsion Controlled Aircraft System, PCA) เครื่องหมายเลข 71-0281 ถูกส่งกลับให้กองทัพอากาศและถูกนำไปจัดแสดงที่ฐานทัพอากาศแลงลีย์ในปีพ.ศ. 2526
- เอฟ-15บี รีเซิร์จเทสท์เบด (74-0141)
- ในปีพ.ศ. 2536 เอฟ-15บีลำหนึ่งถูกดัดแปลงและใช้โดยนาซ่าเพื่อทำการทดสอบการบิน
ประเทศผู้ใช้งาน
สำหรับแบบที่มาจากเอฟ-15อีดูที่เอฟ-15อี สไตรค์อีเกิล
- ใช้เอฟ-15 มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2520 ในปัจจุบันเครื่องบินเหล่านี้จัดเป็นเอฟ-15/เอบีสองฝูงบินและเอฟ-15ซี/ดี หนึ่งฝูงบิน เอฟ-15เอ/บี 15 ลำแรกมีโครงสร้างที่ผลิตโดยสหรัฐอเมริกา การส่งครั้งที่สองถูกหยุดชั่วคราวเพราะได้รับผลกระทบจากสงครามเลบานอน
- ได้รับเอฟ-15เจ 202 ลำและเอฟ-15ดี 20 ลำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2524 ซึ่งเอฟ-15เจสองลำและเอฟ-15ดีเจ 12 ลำถูกสร้างขึ้นในสหรัฐและที่เหลือถูกสร้างโดยมิตซูบิชิ ในปัจจุบันเครื่องบินเหล่านี้ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 กองกำลังป้องกันทางอากาศได้ตัดสินใจที่จะพัฒนาเอฟ-15 ให้ใช้กระเปาะเรดาร์สังเคราะห์ เครื่องบินเหล่านี้จะถูกแทนที่โดยอาร์เอฟ-4 ที่ในปัจจุบันอยู่ในประจำการ
- มีเอฟ-15ซี/ดี 4 ฝูงบินตั้งแต่ปีพ.ศ. 2524 พวกมันประจำการอยู่ที่ฐานบินในดาราน คามิสมูเชท และทาอิฟ
- กองทัพอากาศสหรัฐมีเอฟ-15 630 ลำในเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 เอฟ-15 นั้นกำลังจะถูกแทนที่โดยเอฟ-22 แร็พเตอร์
เหตุการณ์และอุบัติเหตุครั้งสำคัญ
- เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 ขณะที่กำลังทำการซ้อมรบทางอากาศ เอฟ-15ดีหนึ่งลำได้ชนเข้ากับเอ-4 สกายฮอว์ค นักบินซิวิ เนดิวิและนักบินร่วมของเขาไม่รู้ว่าปีกของเอฟ-15นั้นถูกฉีกออกสองฟุตจากตัวถัง เอฟ-15 หมุนอย่างควบคุมไม่ได้หลังจากถูกชน ซิวิตัดสินใจที่จะพยายามควบคุมเครื่องและใช้สันดาปท้ายเพื่อเพิ่มความเร็ว ทำให้เขาควบคุมเครื่องได้อีกครั้ง เพราะว่าการยกตัวที่เกิดจากพื้นที่ผิวหน้าขนาดใหญ่ของตัวถัง ปีหส่วนหาง และพื้นที่ปีกที่เหลือ เอฟ-15 ได้ลงจอดด้วยความเร็วสองเท่าจากปกติเพื่อสร้างแรงยกและตะขอที่หางของมันหลุดออกไปในตอนที่ลงจอด นักบินสามารถหยุดเอฟ-15 6 เมตรก่อนสุดทางวิ่ง ต่อมาเขาได้กล่าวว่า "ผมน่าจะดีดตัวออกมาถ้ารู้ว่ามันเกิดขึ้น"
- ในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2533 เอฟ-15 ลำหนึ่งที่ฐานทัพอากาศเอลเมนดอล์ฟ ได้เกิดยิงเอไอเอ็ม-9เอ็มใส่เอฟ-15 อีกลำหนึ่งโดยอุบัติเหตุ เครื่องบินที่ได้รับความเสียหายสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ต่อมามันได้รับการซ่อมแซมและเข้าประจำการต่อ
- ในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 ในขณะซ้อมการเข้าสกัดกั้นเหนือทะเลญี่ปุ่น เอฟ-15เจลำหนึ่งถูกยิงตกโดยขีปนาวุธเอไอเอ็ม-9 ที่ยิงโดยลูกหมู่ของเขาโดยอุบัติเหตุเหมือนกับที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2533 นักบินดีดตัวได้อย่างปลอดภัย
- เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2544 ขณะการซ้อมบินระดับต่ำเหนือสกอตแลนด์ เอฟ-15ซีสองลำของกองทัพอากาศสหรัฐได้ตกลงใกล้กับยอดเขาแห่งหนึ่ง นักบินทั้งสองเสียชีวิตในอุบัติเหตุซึ่งต่อมาส่งผลต้องนำตัวผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษไปขึ้นศาล แต่เขาก็บริสุทธิ์
- ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เอฟ-15ซีตกลงขณะทำการซ้อมรบใกล้กับเซนท์หลุยส์รัฐมิสซูรี นักบินดีดตัวได้แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส การตกมาจากโครงสร้างที่เกิดเสียหายขณะทำการบิน ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เอฟ-15 ทั้งหมดถูกระงับการบินหลังจากทำการสืบสวนหาสาเหตุของการตก และวันต่อมาก็ได้ทำการระงับเอฟ-15 ที่ทำการรบอยู่ในตะวันออกกลาง เมื่อถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เอฟ-15 มากกว่า 1,100 ลำถูกระงับการบินทั่วโลกเช่นเดียวกับอิสราเอล ญี่ปุ่น และซาอุดิอาระเบีย เอฟ-15 ได้รับการอนุญาตให้บินขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551 กองทัพอากาศสหรัฐให้เครื่องเอฟ-15เอ-ดี 60% กลับไปทำการบินได้ ในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2551 มีการเปิดเผยว่าเกิดจากโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน กองทัพอากาศอนุญาตให้เอฟ-15เอ-ดีทั้งหมดขึ้นบินอีกครั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 นักบินที่ได้รับบาดเจ็บได้ทำการฟ้องบริษัทโบอิงที่ผลิตเอฟ-15
รายละเอียด เอฟ-15ซี อีเกิล
- ลูกเรือ นักบิน 1 นาย
- ความยาว 19.43 เมตร
- ระยะระหว่างปลายปีกทั้งสองข้าง 13.05 เมตร
- ความสูง 5.63 เมตร
- พื้นที่ปีก 56.5 ตารางเมตร
- น้ำหนักเปล่า 12,700 กิโลกรัม
- น้ำหนักบรรทุก 20,200 กิโลกรัม
- น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 30,845 กิโลกรัม
- ขุมกำลัง เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแพรทท์แอนด์วิทนีย์ เอฟ100-100 หรือ-220 จำนวน 2 เครื่อง ให้แรงขับเครื่องละ 17,450 ปอนด์ เมื่อไม่ใช้สันดาปท้าย, 25,000 ปอนด์ เมื่อใช้สันดาปท้าย
- ความเร็วสูงสุด
- ระดับสูง 2.5 มัค (2,650 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
- ระดับต่ำ 1.2 มัค (1,470 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
- รัศมีทำการรบ 1,967 กิโลเมตร
- ระยะทำการขนส่ง 5,550 กิโลเมตร (มีถังเชื้อเพลิงเพิ่ม)
- เพดานบินทำการ 65,000 ฟุต
- อัตราการไต่ระดับ 50,000 ฟุตต่อนาที
- บินทน: 5.25 ขั้วโมง เมื่อไม่ได้เติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ และ 9.7 ชั่วโมง เมื่อเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ
- อาวุธ
- ปืน เอ็ม61เอ1 ขนาด 20 ม.ม.หนึ่งกระบอกพร้อมกระสุน 960 นัด
- ขีปนาวุธ เอไอเอ็ม-7เอฟ สแปร์โรว์ เอไอเอ็ม-120 แอมแรม เอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์
ดูเพิ่ม
การพัฒนาที่เกี่ยวข้อง
เครื่องบินที่เทียบเท่า
อ้างอิง
- Tirpak, John A. "Making the Best of the Fighter Force". Air Force magazine, March 2007.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อdavies_2002
- Jenkins 1998, pp. 71–72.
- McDonnell Douglas F-15 Streak Eagle fact sheet, National Museum of the United States Air Force.
- Jenkins 1998, pp. 65–70.
- "Sonic Solutions". Aviation Week & Space Technology, 5 January 2009, p. 53. (online version, subscription required)[]
- F-15 Flight Research Facility fact sheet 2011-01-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Dryden Flight Research Center.
- F-15B Research Testbed fact sheet 2010-12-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Dryden Flight Research Center.
- "An Eagle evolves", Boeing, January 2004.
- Gething 1983
- "Lockheed Martin to Upgrade Radar for Reconnaissance Version of Japan's F-15" 2007-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Lockheed Martin press release, June 19, 2007.
- Mehuron, Tamar A., Assoc. Editor. 2009 USAF Almanac, Fact and Figures. Air Force Magazine, May 2009.
- No Wing F15 - crew stories - USS Bennington Retrieved 31 July 2006.
- F-15 flying with one wing by an Israeli pilot
- Jet Pilot Accidentally Fired Live Missile, Air Force Says. New York Times
- F-15 Eagle Losses and Ejections 2018-02-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved: 2 March 2008.
- body found at F-15 crash site Retrieved 8 March 2009.
- controller found not guilty Retrieved 8 March 2009.
- Air Force suspends some F-15 operations, U.S. Air Force, 4 November 2007.
- "Air Force grounds F-15s in Afghanistan after Missouri crash", CNN, 5 November 2007.
- Warwick, Graham. "F-15 operators follow USAF grounding after crash." Flight International, 14 November 2007.
- "Officials begin to clear F-15Es to full-mission status", U.S. Air Force, 15 November 2007.
- "Air Combat Command clears selected F-15s for flight", Air Force, January 9, 2008.
- "F-15 Eagle accident report released", US Air Force, 10 January 2008. Retrieved 26 January 2008.
- "ACC issues latest release from stand down for F-15s", Air Force, 15 February 2008.
- Lawsuit
- อภิวัตน์ โควินทรานนท์,อากาศยาน1979ฉบับเครื่องบิน,เอวิเอชั่น ออบเซิร์ฟเวอร์,กรุงเทพ,2522
- , USAF, March 2008.
- Lambert 1993, p. 522.
- Davies 2002, Appendix 1.
- F-15 Eagle GlobalSecurity.org. Retrieved 27 January 2008.
บรรณานุกรม
- Bowman, Martin W. US Military Aircraft. London: Bison Books Ltd., 1980. .
- Braybrook, Roy. F-15 Eagle. London: Osprey Aerospace, 1991. .
- Crickmore, Paul. McDonnell Douglas F-15 Eagle (Classic Warplanes series). New York: Smithmark Books, 1992. .
- Davies, Steve. Combat Legend, F-15 Eagle and Strike Eagle. London: Airlife Publishing, Ltd., 2002. .
- Davies, Steve and Doug Dildy. F-15 Eagle Engaged, The World's Most Successful Jet Fighter. Osprey Publishing, 2007. .
- Drendel, Lou. Eagle (Modern Military Aircraft Series). Carrollton, Texas: Squadron/Signal Publications, 1985.
- Drendel, Lou and Don Carson. F-15 Eagle in action. Carrollton, Texas: Squadron/Signal Publications, 1976. .
- Eden, Paul and Soph Moeng, eds. The Complete Encyclopedia of World Aircraft. London: Amber Books Ltd., 2002. .
- Fitzsimons, Bernard. Modern Fighting Aircraft, F-15 Eagle. London: Salamander Books Ltd., 1983. .
- Gething, Michael J. F-15 Eagle (Modern Fighting Aircraft). New York: Arco, 1983. .
- Gething, Michael J. and Paul Crickmore. F-15 (Combat Aircraft series). New York: Crescent Books, 1992. .
- Green, William and Gordon Swanborough. The Complete Book of Fighters. New York: Barnes & Noble Inc., 1988. -1.
- Gunston, Bill. American Warplanes. New York: Crescent Books. 1986. .
- Huenecke, Klaus. Modern Combat Aircraft Design. Annapolis, Maryland: Naval Institute Press, 1987. .
- Jenkins, Dennis R. McDonnell Douglas F-15 Eagle, Supreme Heavy-Weight Fighter. Arlington, TX: Aerofax, 1998. .
- Kinzey, Bert. The F-15 Eagle in Detail & Scale (Part 1, Series II). El Paso, Texas: Detail & Scale, Inc., 1978. .
- Lambert, Mark, ed. Jane's All the World's Aircraft 1993-94. Alexandria, Virginia: Jane's Information Group Inc., 1993. .
- Scutts, Jerry. Supersonic Aircraft of USAF. New York: Mallard Press, 1989. .
- Spick, Mike. The Great Book of Modern Warplanes. St. Paul Minnesota: MBI, 2000. .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxng exf 15 xiekil xngkvs F 15 Eagle epnekhruxngbinkhbilsxngekhruxngyntthangyuththwithithuksphaphxakasthithukxxkaebbmaephuxthahnathikhrxngkhwamidepriybthangxakas mnthukphthnaihkbkxngthphxakasshrthaelaidthakarbinkhrngaerkemuxeduxnmithunayn pi 1975 mnepnhnunginekhruxngbinkhbilthioddednthisudinsmyihm exf 15xi sitrkhxiekilepnaebbddaeplngsahrbthahnathi khbil aela ocmtithuksphaphsungidekhapracakarinpi 1976 kxngthphxakasshrth wangaephnthicaich F 15 ipcnthungpi 2025F 15 EAGLEbthbathekhruxngbinkhbilkhrxngkhwamidepriybthangxakaschatikaenid shrthbristhphuphlit erimich9 mkrakhmsthanaxyuinpracakarphuichnganhlkkxngthphxakasshrth kxngkalngpxngkntnexngthangxakasyipunmulkhaF 15A B 27 9 landxllarshrth ph s 2542 F 15C D 29 9 landxllarshrth ph s 2542 aebbxunkarphthnainchwngsngkhramewiydnam emuxkxngthpheruxaelakxngthphxakasshrthkalngaekhngkhnknephuxkahndxnakhtkhxngekhruxngbinkhbil thangyuththwithi emuxrthmntriklaohm Robert McNamara kddnihsxngelathphichxakasthiepn Common Fleet gt karichnganxakasyanaebbediywknephuxldkhaichcay inkarichngan thithungaemcakrathbthungkhwamsamarthinkarrb aelainchwngnntxngkarha ekhruxngbinkhbilmatxkrkb MIG 25 khxngosewiyt dwynoybaykhxng klaohm kxngthpheruxaelakxngthphxakascungdaeninokhrngkar TF X cungklaymaepnekhruxngbin F 111 aetineduxnmkrakhmpi 1965 rthmntriklaohm Robert McNamara idihkxngthphxakastdsinic sahrbokhrngkarekhruxngbinkhbilrakhaprahydaebbihm thimirayathakarsnlng aelarxngrbpharkic Close air support thicamaaethnthiekhruxngbinhlayaebb thng NORTH AMERICA F 100D SUPER SADRE aelaekhruxngbinthingraebidebaxikhlayaebb odyinkarthdaethnnimiekhruxngbinhlaylathithukeluxkekhama kxngthpheruxideluxk Douglas A 4 SKYHAWK aela LTV A 7 CORSAIR II thiepnekhruxngbinocmtiebaaebbephiyw aetkxngthphxakas klbihkhwamsnickb Northrop F 5 thiepnekhruxngbinkhbilaelasamarththapharkicocmtiphakhphunidepnpharkicrxng enuxngcakthakxngthphxakaseluxkekhruxngbinthapharkicocmtiphakhphunepnpharkichlk phwkekhacaepntxnghaekhruxngbinkhbilxikaebbhnung ephuxkhwamepntxinkarkhrxngxakas aetinthaythisud kehluxtweluxkekhruxngbinkhnadebathangyuththwithi aebb F 5 aela A 7 ethannthicathuktdsinic odyipihkhwamsmphnthkbkarxxkaebbekhruxngbinkhbilkhrxngxakas thimi smrrthnasungkwani enuxngcaktngaetehtukarnthi F 105 thukyingtkodyekhruxngbinkhbilxyang MIG 17 inpi 1965 eduxn emsaynpi 1965 Harold Brown phuxanwykar Director of Department Of Defense Research and Engineering idihmikarerimtnsuksaokhrngkar ekhruxngbinkhbil F X thiidkhadhwngiwwa cathukphlitxxkma 800 thung 1000 la odythukennipthikhwamkhlxngtwaethnkhwamerwthisungaelacaimsamarthkarocmtiphakhphundin odykhwamtngkarkhxngokhrngkar F X thukkahndkhunineduxn tulakhmpi 1965 aelathukipepn kharxngkhxkhxesnx Request For Proposals thung 13 bristh phuphthnaxakasyan inwnthi 8 thnwakhm pi 1965 intxnnnexngkxngthphxakaskideluxkekhruxngbin A 7 inkarthiepnekhruxngbinthikhadkhunlksnainkartxsuthangxakas aelamakhadhwngkhwamsamarthiykarkhrxngxakascakokhrngkar F X aethn mi 8 brisththitxbrbkhxesnxinkhrngni aetcakkarkhdeluxkmiephiyng 4 brisththiihdaeninkartxinkaresnxekhruxngbintnaebb mikarxxkaebbthimakthung 500 aebb inchwngewlani odykarxxkaebbswnihycaichekhruxngbinthisamarthphbpikid minahnklatwmakkwa 60000 pxndaelamikhwamerwthimakkwamkh 2 7 aelamixtraswn TTVLS xyuthi 0 75 karsuksadaeninkarmacnthungpi 1966 twekhruxngbinnnducaminahnkmakphxkb F 111 AARDVARK sungnncathaihmnimmikhunsmbtimakphxsahrbekhruxngbinkhbilkhrxngxakas chwngthikalngwicyokhrngkar btheriyncakkarrbinsngkhramewiydnam idkxihekidepnkhwamkngwlcanwnmak odykahndihekhruxngbinennipthikartxsuocmtixakassuxakastngaetrayaikl odythaihekhruxngbinkhbilyukhkxnnnthukxxkaebbmaihmierdahkhnadihy aelamikhwamerwthisung aetkmikhxcakdinkhwamkhlxngtw aelakhadkartidtngxawuthdngedimxyangpunklxakas dngtwxyangthiekhruxngbinkhbilthishrthichxyang MCDONNELL DOUGLAS F 4 PHANTOM II thiichnganthnginkxngthphxakas kxngthpherux aelanawikoythin shrth minepnekhruxngbinephiyngaebbediywthiphxcarbmuxkbphykhumkhamxyangekhruxngbinkhbil MIG insngkhramewiydnam aetdwykhnadthiihykhxng PHANTOM thaihesiyepliynkbekhruxngbinkhbilthielngxyang MIG 21 MIG 17 aela MIG 15 inkarrbrayaprachid aelacrwdnawithixakassuxakasinkhnannmiphlngantakwathikhadiw cungthuxkaenidaelahlkkarfukaebbihmkhxngnkbinekhruxngbinkhbilshrththithuksxnhlngcakchwngewlann rwmthungkarnapunihyxakasaebb M61 VULCAN matidtng klbmatidtngbnekhruxngbin F 4 cakpyhani JOHN BOYD xditnkbinekhruxngbinkhbilkhxngshrth cungidtngthdsphi Energy Maneuverubility U thiidklawiwwa phlngnganthimakkwa aelakhwamkhlxngtwcaepnpccysakhyinkarxxkaebbekhruxngbinkhbilthisungkwakhxngekhruxngbinnn thaihintnpi 1967 khwamtxngkarkhxngokhrngkar idthukepliynih epliynihmi xtraswnaerngkhbtxnahnkethakb 1 1 khwamerwsungsud mkh 2 3 nahnk 40 000 pxnd pikrxngrbnahnkbrrthudidsungsud 80 pxnd txtarangfut inchwngewlaediywkbkaaphthna shphaphosewiytkidephyihehnthungekhruxngbinkhbil MIG 25 thisnambin odomedodow iklkb Moscow odyekhruxngbin MIG 25 ni thukxxkaebbihmikhwamerwaelaephdansungsahrbkarepnekhruxngbinkhbilskdknodykarxxkaebbkhxngekhruxngbinthimikhwamerwmakkwamkh 2 8 thaihekhruxngbinlanitxngichwsduxyangsaetnels steel aethnthiekhruxngbinkhbilpktiekhaichkninkarsrangekhruxngbinkhbilnahnkebaaelamipikkhnadihysahrbephdanbinthisung lksnaphaynxkkhxng mig 25 mnmilksnakhlaykbekhruxngbintnaebbinokhrngkar F X aetmikhnadihykwacungnaipsukhwamkngwlrayaerngthwkrathrwngklaohmshrth inewlann eduxnknyaynpi 1968 khakhxkhxesnxidthuksngihipyng bristhphlitxakasyan 4 bristhdwykn ody kahndiwwa epn ekhruxngbinkhbilkhrxngxakas thinngediyw nahnkwingkhunsungsud khux 40 000 pxnd mikhwamerwsungsudkhux mkh 2 5 xtraswnaerngkhbtxnahnk 1 1 miekhruxngynt 2 tw inekhruxngbin 1 la thikhlaykbokhrngkar VF X khxngkxngthpherux inewlaediywkn krathrwngklaohmkhxngshrthidrxngkhxngih NASA txbrbkhxesnxkhxngokhrngkar VF X inlksnakhxngkhusyyacang thangxutsahkrrmodyphuxyuebuxnghlngkbkarthangankhxngnasanikhux John Foster phuxanwykar Defense Department Reseearch and Engineering dwyehtuphlsxngkhx odyprakaraerkkarxxkaebbcak Nasa caepnkarrwmexaethkhonolyi khnkawhna xutsahkrrm maprbich sxng dwyprasbkarn khxng Nasa xaccachwyihldkhwamesiyngtang thixacekidkhuninkarphthnaphayhlngid karxxkaebbkhxnesp 4 tw sahrbekhruxngbinkhbilni michuxwa Langley Fighter Attack Experimental hrux LFAX sung mitnaebbthng 4 aebbkhux LFAX 4 aebbthiichpikphbprbxngsaid LFAX 8 ekhruxngtxyxdmacak LFAX 4 aetmipikaebbtaytw LFAX 9 miaebbekhruxngyntthitidtngthiaitpik LFAX 10 miruprangphaynxkkhlaykb MIG 25 khxngosewiyt thimphthnakhxng McDonnell Douglas idihkhwamsnic LFAX 8 epnphiess aelamiphltxkarxxkaebbekhruxngbinkhxngbristhni ody McDonnell Douglas idthakarddaeplngrupthrngkhxngpikekhruxngbinephimetim ephuxephimkhidkhwamsamarthinkarbngkhbthisthanginchwngkhwamerwtakwaesiyng ineduxntulakhmpi 1969 kxngthphxakasshrth idepliynchuxokhrngkar F X epn ZF 15A cak 4 bristh thitxbrbma kxngthphxakas idtd General Dynamics xxk cungehluxephiyng Fairchild Republic North America Rockwell aela MCDONNELL DOUGLAS ephuxihthng 3 bristhsngkhxesnxthangdanethkhonolyi ineduxnmithunaynpi 1969 aelainwnthi 23 thnwakhm 1969 kxngthphxakaskidprakasih MCDonnell Douglas epnphuchnaokhrngkar F 15karekharwm pdibtikarkhxng F 15aetmkarsxyaerkekhruxngbinkhxng F 15 erimtnodykxngthphxakasxisraexl inpi 1979 inkarbukocmtikrungpaelnsitn inelbalxn pi 1979 thung 1981 odyyingekhruxngbinkhxngsieriytkthiprakxbipdwy MIG 21 13 la aela MIG 25 xik 2 la insngkhramelbabxnpi 1982 kyngmiaetmsnghaekhruxngbinrbkhxngsieriyxikkwa 40 la xikthngxisraexl aela yipun epnpraethsthiddaeplng F 15 ihsamarththapharkicocmtiphakhphunid inpi 1984 miraynganwa F 15C khxngsaxuidying F 4E PHAMTON II sxnglakhxngxihrantk inchwngpi 1984 thung 1986 mikarnacrwdtxtandawethiymmitidtngbn F 15 xyang ASM 135 ASAT odytidtngthikungklangitthxng ephuxhwngthalaydawethiymsxdaenmwngokhrngcrta inkarthdsxbnkbincaitradbkhun 65 xngsa ipyngcudthikhanwniw emuxthungradbkhwamsung 38 100 fut aelakhwamerwmkh 1 22 nkbincayinglukcrwdxxkipisyngdawethiym inkarthdsxbkhrngthi 3 inkaryingdawethiympldpracakar T 78 1 hruxoswin thixyuhangcakphunolk 555 kiolemtrcakphundin thaihnkbinnawaxakastri Wilbert D Doug Pearson epnnkbinephiyngkhnediywthiprasbkhwamsaerc inkaryingdawethiymdwy F 15 ephraahlngcaknnimnanokhrngkarnikidthukpidtwlng inpdibtikarphayuthaelthraysngkhramxawinpi 1991 F 15C D khxngshrth idekharwmrbthangxakas 36 khrngcakthnghmd 39 khrngtlxdchwngkhxngsngkhram khxmulcakkxngthphxakasshrth yunynwaekhruxngbinxirkthukthalayody F 15C canwn 34 la sungprakxbipdwy MIG 29 MIG 25 MIG 21 SU 25 SU 22 SU 7 Mirage F 1 rwmipthungekhruxngbinlaeliyng ekhruxngbinfukaela hx inswn saxu xacepnphuichngan F 15 thiichimidetmdiphxsmkhwr odywnthi 11 phvscikayn pi 1990 minkbinkhxngsaxuthiaeprphntnaekhruxngbinkhxng F 15C iplngcxdthisudan thangrthbalsaxuidcayenginthung 50 lanehriyy ephuxkhxsuxekhruxngbin khun aelainchwngsngkhramxaw wnthi 13 kumphaphnth pi 1991 miraynganwa F 15 khxngsaxu tkthisnambin khamimusaxi odyinphayhlngxirkxangwa epnphuthiyingekhruxngbinlanidwy MIG 25PD aetkhxmulniimmikaryunynxikthnginchwng ewlannkxngkalngphnthmitr khxngshrth idtharayrabbpxngknphythangxakaskhxngxirkipcnhmdaelw insngkhramokhosow F 15C khxngkxngthphxakasshrth yngmiphlnganinkarsxyekhruxngbin MIG 29 xik 1 laaebbtangaebbtangkhxng F 15 F 15A epnekhruxngbinkhbilaebbhnungthinng runaerk srangxxkma 384 latngaetpiph s 2515 2522 F 15B aebbsxngthinngsahrbkarfuk edimthiichchux TF 15A srangxxkma 61 latngaetpiph s 2515 2522 F 15C epnekhruxngbinkhbilkhrxngkhwamidepriybthangxakasinthuksphaphxakasaebbhnungthinngthiidrbkarphthnaephim srangxxkma 483 latngaetpiph s 2522 2528 F 15D aebbsxngthinngsahrbkarfuk srangxxkma 92 latngaetpi ph s 2522 2528 F 15J epnekhruxngbinkhbilaebbhnungthinngsahrb srangxxkma 139 laphayitibxnuyatodybristh mitsubichitngaetpiph s 2524 2540 F 15DJ aebbekhruxngbinrunsxngthinngthixxkaebb maichinfungbinkhasuksmmutikhxngyipun aelaepnrunfukkhxngyipuninewlaediywkn F 15NPS epnaebbthiesnxihinpi 1970 ihkbkxngthpheruxshrth F 15NPS thisamarthtidkhipnawuthexixexm 54 finiks idehmuxnkb F 14 TOMCAT thukrun aetkxngthpheruxshrthkpdiesth F 15E STRIKE EAGLE exf 15xi sitrkhxiekil epnrunthiphthnatxmacakF 15C EAGLE ihsamarththapharkicidhlakhlaynxkcakkarepnekhruxngbinkhbil aettangpraethsnnsnicinrunni kelymirunaeykyxyechn F 15K F 15Iaebbkarwicyaelathdsxb exf 15 strikhxiekil 72 0119 epnexf 15exthiichephuxsathitkarerngkhwamerwkhxngekhruxngbin mnidthalaysthitikaritradbdwyewlaip 8 khrngrahwangwnthi 16 mkrakhmaela 1 kumphaphnth ph s 2518 mnthuksngmxbihkbphiphithphnthkxngthphxakasaehngchatikhxngshrthxemrikaineduxnthnwakhm ph s 2523 71 0290 epnexf 15bilaaerkthithukddaeplngihwingkhunaelalngcxdinrayasn mnepnekhruxngbinsathitethkhonolyikrabwntha inplaythswrrsthi 1980 mnidrbkartidtngpikesrimphrxmkbthxixesiythrngsiehliym mnichethkhonolyikrabwnthaaelawingkhunrayasnhruxexsexmthidi short takeoff maneuver technology SMTD 71 0290 exf 15 exs exmthidithitxmathukddaeplngihepnekhruxngbinwicyethkhonolyikhwbkhumkarbin exf 15 ixexfsiexs 71 0290 exf 15 aexkhthiftxmathukddaeplngihepnekhruxngbinwicyrabbkhwbkhumkarbindwypyyapradisth exf 15bi hmayelkhekhruxng 71 0290 epnexf 15 thiyngthakarbinxyuodymixayumakthisudineduxnmkrakhm ph s 2551 exf 15 exmexexnexks epnchuxkhxngexf 15 aexkhthifthiimmihang aetkimekhythuksrangkhunma exf 15 sahrbwicykarbin 71 0281 aela 71 0287 exf 15exsxnglathukichthdlxngodysunywicykarbindrayednkhxngnasa karthdlxngrwmthng karkhwbkhumxielkhthrxnikdicitxlrwmhruxihedk Highly Integrated Digital Electronic Control HiDEC rabbkhwbkhumekhruxngynthruxexedks Adaptive Engine Control System ADECS rabbkhwbkhumkarbinkhnhaaelasxmaesmtwexnghruxexsxarexfsiexs Self Repairing and Self Diagnostic Flight Control System SRFCS aelarabbekhruxngbinkhwbkhumkarekhluxnthihruxphisiex Propulsion Controlled Aircraft System PCA ekhruxnghmayelkh 71 0281 thuksngklbihkxngthphxakasaelathuknaipcdaesdngthithanthphxakasaelngliyinpiph s 2526 exf 15bi riesircethsthebd 74 0141 inpiph s 2536 exf 15bilahnungthukddaeplngaelaichodynasaephuxthakarthdsxbkarbinpraethsphuichnganpraethsphuichnganexf 15 xiekil inpiph s 2550 sahrbaebbthimacakexf 15xiduthiexf 15xi sitrkhxiekil xisraexlichexf 15 matngaetpiph s 2520 inpccubnekhruxngbinehlanicdepnexf 15 exbisxngfungbinaelaexf 15si di hnungfungbin exf 15ex bi 15 laaerkmiokhrngsrangthiphlitodyshrthxemrika karsngkhrngthisxngthukhyudchwkhrawephraaidrbphlkrathbcaksngkhramelbanxn yipunidrbexf 15ec 202 laaelaexf 15di 20 latngaetpiph s 2524 sungexf 15ecsxnglaaelaexf 15diec 12 lathuksrangkhuninshrthaelathiehluxthuksrangodymitsubichi inpccubnekhruxngbinehlani ineduxnmithunayn ph s 2550 kxngkalngpxngknthangxakasidtdsinicthicaphthnaexf 15 ihichkraepaaerdarsngekhraah ekhruxngbinehlanicathukaethnthiodyxarexf 4 thiinpccubnxyuinpracakar saxudixaraebiymiexf 15si di 4 fungbintngaetpiph s 2524 phwkmnpracakarxyuthithanbinindaran khamismuechth aelathaxif shrthkxngthphxakasshrthmiexf 15 630 laineduxnknyayn ph s 2551 exf 15 nnkalngcathukaethnthiodyexf 22 aerphetxrehtukarnaelaxubtiehtukhrngsakhyemuxwnthi 1 phvsphakhm ph s 2526 khnathikalngthakarsxmrbthangxakas exf 15dihnunglaidchnekhakbex 4 skayhxwkh nkbinsiwi endiwiaelankbinrwmkhxngekhaimruwapikkhxngexf 15nnthukchikxxksxngfutcaktwthng exf 15 hmunxyangkhwbkhumimidhlngcakthukchn siwitdsinicthicaphyayamkhwbkhumekhruxngaelaichsndapthayephuxephimkhwamerw thaihekhakhwbkhumekhruxngidxikkhrng ephraawakaryktwthiekidcakphunthiphiwhnakhnadihykhxngtwthng pihswnhang aelaphunthipikthiehlux exf 15 idlngcxddwykhwamerwsxngethacakpktiephuxsrangaerngykaelatakhxthihangkhxngmnhludxxkipintxnthilngcxd nkbinsamarthhyudexf 15 6 emtrkxnsudthangwing txmaekhaidklawwa phmnacadidtwxxkmatharuwamnekidkhun inwnthi 19 minakhm ph s 2533 exf 15 lahnungthithanthphxakasexlemndxlf idekidyingexixexm 9exmisexf 15 xiklahnungodyxubtiehtu ekhruxngbinthiidrbkhwamesiyhaysamarthlngcxdidxyangplxdphy txmamnidrbkarsxmaesmaelaekhapracakartxinwnthi 22 phvscikayn ph s 2538 inkhnasxmkarekhaskdknehnuxthaelyipun exf 15eclahnungthukyingtkodykhipnawuthexixexm 9 thiyingodylukhmukhxngekhaodyxubtiehtuehmuxnkbthiekidkhuninwnthi 19 minakhm ph s 2533 nkbindidtwidxyangplxdphyemuxwnthi 23 minakhm ph s 2544 khnakarsxmbinradbtaehnuxskxtaelnd exf 15sisxnglakhxngkxngthphxakasshrthidtklngiklkbyxdekhaaehnghnung nkbinthngsxngesiychiwitinxubtiehtusungtxmasngphltxngnatwphukhwbkhumkarcracrthangxakaskhxngkxngthphxakasxngkvsipkhunsal aetekhakbrisuththiinwnthi 2 phvscikayn ph s 2550 exf 15sitklngkhnathakarsxmrbiklkbesnthhluysrthmissuri nkbindidtwidaetidrbbadecbsahs kartkmacakokhrngsrangthiekidesiyhaykhnathakarbin inwnthi 3 phvscikayn ph s 2550 exf 15 thnghmdthukrangbkarbinhlngcakthakarsubswnhasaehtukhxngkartk aelawntxmakidthakarrangbexf 15 thithakarrbxyuintawnxxkklang emuxthungwnthi 13 phvscikayn ph s 2550 exf 15 makkwa 1 100 lathukrangbkarbinthwolkechnediywkbxisraexl yipun aelasaxudixaraebiy exf 15 idrbkarxnuyatihbinkhunxikkhrnginwnthi 15 phvscikayn ph s 2550 inwnthi 8 mkrakhm ph s 2551 kxngthphxakasshrthihekhruxngexf 15ex di 60 klbipthakarbinid inwnthi 10 mkrakhm ph s 2551 mikarepidephywaekidcakokhrngsrangthiimidmatrthan kxngthphxakasxnuyatihexf 15ex dithnghmdkhunbinxikkhrnginwnthi 15 kumphaphnth ph s 2551 ineduxnminakhm ph s 2551 nkbinthiidrbbadecbidthakarfxngbristhobxingthiphlitexf 15raylaexiyd exf 15si xiekillukerux nkbin 1 nay khwamyaw 19 43 emtr rayarahwangplaypikthngsxngkhang 13 05 emtr khwamsung 5 63 emtr phunthipik 56 5 tarangemtr nahnkepla 12 700 kiolkrm nahnkbrrthuk 20 200 kiolkrm nahnkwingkhunsungsud 30 845 kiolkrm khumkalng ekhruxngyntethxrobaefnaephrththaexndwithniy exf100 100 hrux 220 canwn 2 ekhruxng ihaerngkhbekhruxngla 17 450 pxnd emuximichsndapthay 25 000 pxnd emuxichsndapthay khwamerwsungsud radbsung 2 5 mkh 2 650 kiolemtrtxchwomng radbta 1 2 mkh 1 470 kiolemtrtxchwomng rsmithakarrb 1 967 kiolemtr rayathakarkhnsng 5 550 kiolemtr mithngechuxephlingephim ephdanbinthakar 65 000 fut xtrakaritradb 50 000 futtxnathi binthn 5 25 khwomng emuximidetimechuxephlingklangxakas aela 9 7 chwomng emuxetimechuxephlingklangxakas xawuth pun exm61ex1 khnad 20 m m hnungkrabxkphrxmkrasun 960 nd khipnawuth exixexm 7exf saeprorw exixexm 120 aexmaerm exixexm 9 isdiwnedxr ekhruxngyntethxrobaefnaephrththaexndwithniy exf100 khxngexf 15si xiekilduephimkarphthnathiekiywkhxng exf 15xi sitrkhxiekil ekhruxngbinthiethiybetha exf 14 thxmaekhth yuoriftetxr ithfun phanaewiy thxrnaod exdiwi sukhhxy su 27xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb exf 15 xiekil Tirpak John A Making the Best of the Fighter Force Air Force magazine March 2007 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux davies 2002 Jenkins 1998 pp 71 72 McDonnell Douglas F 15 Streak Eagle fact sheet National Museum of the United States Air Force Jenkins 1998 pp 65 70 Sonic Solutions Aviation Week amp Space Technology 5 January 2009 p 53 online version subscription required lingkesiy F 15 Flight Research Facility fact sheet 2011 01 28 thi ewyaebkaemchchin Dryden Flight Research Center F 15B Research Testbed fact sheet 2010 12 06 thi ewyaebkaemchchin Dryden Flight Research Center An Eagle evolves Boeing January 2004 Gething 1983 Lockheed Martin to Upgrade Radar for Reconnaissance Version of Japan s F 15 2007 11 02 thi ewyaebkaemchchin Lockheed Martin press release June 19 2007 Mehuron Tamar A Assoc Editor 2009 USAF Almanac Fact and Figures Air Force Magazine May 2009 No Wing F15 crew stories USS Bennington Retrieved 31 July 2006 F 15 flying with one wing by an Israeli pilot Jet Pilot Accidentally Fired Live Missile Air Force Says New York Times F 15 Eagle Losses and Ejections 2018 02 22 thi ewyaebkaemchchin Retrieved 2 March 2008 body found at F 15 crash site Retrieved 8 March 2009 controller found not guilty Retrieved 8 March 2009 Air Force suspends some F 15 operations U S Air Force 4 November 2007 Air Force grounds F 15s in Afghanistan after Missouri crash CNN 5 November 2007 Warwick Graham F 15 operators follow USAF grounding after crash Flight International 14 November 2007 Officials begin to clear F 15Es to full mission status U S Air Force 15 November 2007 Air Combat Command clears selected F 15s for flight Air Force January 9 2008 F 15 Eagle accident report released US Air Force 10 January 2008 Retrieved 26 January 2008 ACC issues latest release from stand down for F 15s Air Force 15 February 2008 Lawsuit xphiwtn okhwinthrannth xakasyan1979chbbekhruxngbin exwiexchn xxbesirfewxr krungethph 2522 USAF March 2008 Lambert 1993 p 522 Davies 2002 Appendix 1 F 15 Eagle GlobalSecurity org Retrieved 27 January 2008 brrnanukrm Bowman Martin W US Military Aircraft London Bison Books Ltd 1980 ISBN 0 89009 292 3 Braybrook Roy F 15 Eagle London Osprey Aerospace 1991 ISBN 1 85532 149 1 Crickmore Paul McDonnell Douglas F 15 Eagle Classic Warplanes series New York Smithmark Books 1992 ISBN 0 8317 1408 5 Davies Steve Combat Legend F 15 Eagle and Strike Eagle London Airlife Publishing Ltd 2002 ISBN 1 84037 377 6 Davies Steve and Doug Dildy F 15 Eagle Engaged The World s Most Successful Jet Fighter Osprey Publishing 2007 ISBN 978 1 84603 169 4 Drendel Lou Eagle Modern Military Aircraft Series Carrollton Texas Squadron Signal Publications 1985 ISBN 0 89747 168 1 Drendel Lou and Don Carson F 15 Eagle in action Carrollton Texas Squadron Signal Publications 1976 ISBN 0 89747 023 0 Eden Paul and Soph Moeng eds The Complete Encyclopedia of World Aircraft London Amber Books Ltd 2002 ISBN 0 7607 3432 1 Fitzsimons Bernard Modern Fighting Aircraft F 15 Eagle London Salamander Books Ltd 1983 ISBN 0 86101 182 1 Gething Michael J F 15 Eagle Modern Fighting Aircraft New York Arco 1983 ISBN 0 668 05902 8 Gething Michael J and Paul Crickmore F 15 Combat Aircraft series New York Crescent Books 1992 ISBN 0 517 06734 X Green William and Gordon Swanborough The Complete Book of Fighters New York Barnes amp Noble Inc 1988 ISBN 0 07607 0904 1 Gunston Bill American Warplanes New York Crescent Books 1986 ISBN 0 517 61351 4 Huenecke Klaus Modern Combat Aircraft Design Annapolis Maryland Naval Institute Press 1987 ISBN 0 87021 426 8 Jenkins Dennis R McDonnell Douglas F 15 Eagle Supreme Heavy Weight Fighter Arlington TX Aerofax 1998 ISBN 1 85780 081 8 Kinzey Bert The F 15 Eagle in Detail amp Scale Part 1 Series II El Paso Texas Detail amp Scale Inc 1978 ISBN 0 8168 5028 3 Lambert Mark ed Jane s All the World s Aircraft 1993 94 Alexandria Virginia Jane s Information Group Inc 1993 ISBN 0 7106 1066 1 Scutts Jerry Supersonic Aircraft of USAF New York Mallard Press 1989 ISBN 0 7924 5013 2 Spick Mike The Great Book of Modern Warplanes St Paul Minnesota MBI 2000 ISBN 0 7603 0893 4