จำนวนฟีโบนัชชี หรือ เลขจำนวนฟีโบนัชชี (อังกฤษ: Fibonacci number) คือจำนวนเต็มที่อยู่ในดังต่อไปนี้
- 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, , , 377, 610, 987, 1597, 2584, 4181, 6765, 10946 ... (ลำดับ A000045)
โดยนิยามความสัมพันธ์ว่า จำนวนถัดไปเท่ากับผลบวกของจำนวนสองจำนวนก่อนหน้า และสองจำนวนแรกก็คือ 0 และ 1 ตามลำดับ ลำดับของจำนวนดังกล่าวเรียกว่า ลำดับจำนวนฟีโบนัชชี (อังกฤษ: Fibonacci sequence)
หากเขียนให้อยู่ในรูปของสัญลักษณ์ ลำดับ Fn ของจำนวนฟีโบนัชชีนิยามด้วยความสัมพันธ์เวียนเกิดดังนี้
โดยกำหนดค่าเริ่มแรกให้
ชื่อของจำนวนฟีโบนัชชีตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ เลโอนาร์โดแห่งปีซา (Leonardo de Pisa) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามฟีโบนัชชี (Fibonacci) ผู้ค้นพบจำนวนฟีโบนัชชีในต้นศตวรรษที่ 13
รูปปิด
เนื่องจากลำดับฟีโบนัชชีเป็นลำดับที่นิยามด้วยความสัมพันธ์เวียนเกิดเชิงเส้น เราจึงสามารถหาของจำนวนฟีโบนัชชีได้ โดยสมการแสดงรูปปิดของจำนวนฟีโบนัชชี มีชื่อเรียกว่า สูตรของ มีดังต่อไปนี้
โดย เป็นตัวเลขที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าอัตราส่วนทอง
พิจารณาสมการพหุนาม เมื่อคูณทั้งสองข้างด้วย เราได้ว่า
ผลเฉลยของสมการ ได้แก่ และ ดังนั้น
= และ =
พิจารณาฟังก์ชัน
- เมื่อ และ เป็นจำนวนจริงใดๆ
เราได้ว่าฟังก์ชันเหล่านี้สอดคล้องกับความสัมพันธ์เวียนเกิดที่ใช้นิยมเลขฟีโบนัชชี
เลือก and เราได้ว่า
และ
เราสามารถใช้ข้อความนี้เป็นขั้นฐานของของข้อความ และใช้เอกลักษณ์ของ พิสูจน์ขั้นอุปนัยได้ เราจึงสามารถสรุปว่า
- สำหรับจำนวนเต็มที่ไม่เป็นลบ ทุกตัว
เนื่องจาก สำหรับทุกๆ เราจึงได้ว่า จึงเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ ที่สุด หรือเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์โดยใช้ฟังก์ชันพื้น (floor function) ได้ว่า
ความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทอง
โยฮันเนส เคปเลอร์ ค้นพบว่าอัตราส่วนของจำนวนฟีโบนัชชีที่ติดกันลู่เข้าสู่อัตราส่วนทอง กล่าวคือ
- ลู่เข้าสู่อัตราส่วนทอง
การพิสูจน์:
สำหรับจำนวนจริง เราได้ว่า
,
เนื่องจาก ดังนั้น
เนื่องจากจำนวนฟีโบนัชชีคือ เมื่อ และ ลิมิตของอัตราส่วนของเลขฟีโบนัชชีที่ติดกันจึงสอดคล้องกับสมการข้างบนด้วย
รูปเมทริกซ์(Matrix)
ระบบสมการความแตกต่างเชิงเส้นที่อธิบายลำดับฟีโบนัชชีได้คือ
และมีรูปปิดคือ
ด้วยรูปปิดดังกล่าว การคำนวณค่าฟีโบนัชชีจึงสามารถคำนวณได้โดยใช้จำนวนการดำเนินการเลขคณิต O(log n) หรือใช้เวลา O(M(n) log(n)) โดยที่ M(n) คือเวลาในการคูณเลข n หลัก 2 ตัว โดยใช้วิธี กล่าวคือ
เมื่อให้ x เป็นเมทริกซ์ จึงสามารถหาค่า Fn ได้ในเวลาที่กล่าวไว้แล้ว
ลำดับฟีโบนัชชีในธรรมชาติ
สิ่งที่ปรากฏตามธรรมชาติมิได้มีแต่รูปร่างง่ายๆ เท่านั้น บางอย่างมีรูปร่างที่มีแบบแผนทางคณิตศาสตร์ที่ยุ่งยากขึ้นไปอีก ตัวอย่างที่น่าสนใจของธรรมชาติที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของ คณิตศาสตร์ชั้นสูง ได้แก่ เส้นโค้งก้นหอย ซึ่งมีคุณสมบัติว่า ถ้าลากเส้นตรงจากจุดหลายของเกลียวข้างในสุดไปตัดกับเส้นโค้งแล้ว มุมที่เกิดจากเส้นตรงนั้นกับเส้นสัมผัสกับเส้นโค้ง ณ จุดตัดจะเท่ากันเสมอดังรูป มุม A = มุม B = มุม C เส้นโคังที่มีลักษณะเป็นก้นหอยจะพบได้ในหอยบางชนิด เช่น หอยทาก
นอกจากนี้ยังมีความโค้งของงาช้าง ความโค้งของเกสรดอกทานตะวัน ตาสับปะรดและตาลูกสน ก็มีลักษณะคล้ายส่วนของเส้นโค้งก้นหอยด้วย ยังมีเรื่องที่น่าสนใจในธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์อีก จากการศึกษาเส้นโค้งของตาลูกสน ตาสับปะรด และเกสรดอกทานตะวัน จะเห็นว่าเส้นโค้งที่หมุนตามเข็มนาฬิกาของตาลูกสนมีจำนวน 5 เส้น และหมุนทวนเข็มนาฬิกามีจำนวน 3 เส้น หรืออาจกล่าวได้ว่า จำนวนเส้นโค้งสองแบบมีอัตราส่วนเป็น 5 ต่อ 8 สำหรับตาสับปะรด เส้นโค้งตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา มีอัตราส่วนเป็น 8 ต่อ 13 เส้นโค้งที่เกิดจากเกสรดอกทานตะวันตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกามีอัตราส่วนเป็น 21 ต่อ 34 ปรากฏการณ์นี้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของเลขฟีโบนัชชี
การนำไปใช้
จำนวนฟีโบนัชชีมีความสำคัญในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของซึ่งใช้ในการหาตัวหารร่วมมากของจำนวนเต็มสองจำนวน โดยยูคลิเดียนอัลกอริทึมจะทำงานได้ช้าที่สุดถ้าข้อมูลเข้าเป็นจำนวนฟีโบนัชชีสองตัวที่ติดกัน
พิสูจน์ได้ว่าจำนวนฟีโบนัชชีมีนิยามในรูปของผลเฉลยของ ซึ่งความจริงข้อนี้นำไปสู่การแก้
จำนวนเต็มทุกจำนวนสามารถเขียนอยู่ในรูปของผลบวกของจำนวนฟีโบนัชชีที่ไม่ติดกินได้เพียงแบบเดียวเท่านั้น ความจริงข้อนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม การเขียนจำนวนเต็มในรูปดังกล่าวเรียกว่า การนำเสนอแบบเซคเคนดอร์ฟ
บางตัวใช้จำนวนฟีโบนัชชีเป็นเครื่องมือในการสร้างเลขสุ่ม
จำนวนฟีโบนัชชีถูกใช้กำหนดความยาวของส่วนประกอบต่างๆ ของงานศิลปะ และถูกใช้ในการเทียบเสียงเครื่องดนตรี ผลงานเพลงที่มีความเกี่ยวข้องกับจำนวนฟีโบนัชชี ได้แก่ เพลงสำหรับเครื่องสาย เครื่องประกอบจังหวะ และซีเลสตา ของ , และเพลง ของวงทูล ซึ่งมีจำนวนพยางค์ในวรรคของเนื้อร้องเท่ากับจำนวนฟีโบนัชชี ("Black/Then/White are/All I see/In my infancy/Red and yellow then came to be")
อ้างอิง
- Lucas p. 3
- (1978), In honour of Fibonacci (PDF).
- Ball, Keith M. (2003). "Chapter 8: Fibonacci's Rabbits Revisited". Strange Curves, Counting Rabbits, and Other Mathematical Explorations. . ISBN .
- Lucas, Édouard (1891). Théorie des nombres. Vol. 1. Gauthier-Villars.
- Arakelian, Hrant (2014), Mathematics and History of the Golden Section. Logos, 404 p. , (rus.)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
canwnfiobnchchi hrux elkhcanwnfiobnchchi xngkvs Fibonacci number khuxcanwnetmthixyuindngtxipnikarcderiyngsiehliymctursthimikhwamyawdanethakbcanwnfiobnchchi0 1 1 2 3 5 8 13 21 34 55 89 377 610 987 1597 2584 4181 6765 10946 ladb A000045 odyniyamkhwamsmphnthwa canwnthdipethakbphlbwkkhxngcanwnsxngcanwnkxnhna aelasxngcanwnaerkkkhux 0 aela 1 tamladb ladbkhxngcanwndngklaweriykwa ladbcanwnfiobnchchi xngkvs Fibonacci sequence hakekhiynihxyuinrupkhxngsylksn ladb Fn khxngcanwnfiobnchchiniyamdwykhwamsmphnthewiynekiddngni Fn Fn 1 Fn 2 displaystyle F n F n 1 F n 2 odykahndkhaerimaerkih F0 0 F1 1 displaystyle F 0 0 F 1 1 chuxkhxngcanwnfiobnchchitngkhunephuxepnekiyrtiaeknkkhnitsastrchawxitalichux eloxnarodaehngpisa Leonardo de Pisa sungepnthiruckkninnamfiobnchchi Fibonacci phukhnphbcanwnfiobnchchiintnstwrrsthi 13ruppidenuxngcakladbfiobnchchiepnladbthiniyamdwykhwamsmphnthewiynekidechingesn eracungsamarthhakhxngcanwnfiobnchchiid odysmkaraesdngruppidkhxngcanwnfiobnchchi michuxeriykwa sutrkhxng midngtxipni F n fn 1 f n5 displaystyle F left n right varphi n 1 varphi n over sqrt 5 ody f 1 5 2 1 618 displaystyle varphi 1 sqrt 5 2 approx 1 618 epntwelkhthiruckknodythwipwaxtraswnthxng phicarnasmkarphhunam x2 x 1 displaystyle x 2 x 1 emuxkhunthngsxngkhangdwy xn 1 displaystyle x n 1 eraidwa xn 1 xn xn 1 displaystyle x n 1 x n x n 1 phlechlykhxngsmkar x2 x 1 displaystyle x 2 x 1 idaek f displaystyle varphi aela 1 f displaystyle 1 varphi dngnn fn 1 displaystyle varphi n 1 fn fn 1 displaystyle varphi n varphi n 1 aela 1 f n 1 displaystyle 1 varphi n 1 1 f n 1 f n 1 displaystyle 1 varphi n 1 varphi n 1 phicarnafngkchn Fa b n afn b 1 f n displaystyle F a b n a varphi n b 1 varphi n emux a displaystyle a aela b displaystyle b epncanwncringid eraidwafngkchnehlanisxdkhlxngkbkhwamsmphnthewiynekidthiichniymelkhfiobnchchi Fa b n 1 displaystyle F a b n 1 afn 1 b 1 f n 1 displaystyle a varphi n 1 b 1 varphi n 1 a fn fn 1 b 1 f n 1 f n 1 displaystyle a varphi n varphi n 1 b 1 varphi n 1 varphi n 1 afn b 1 f n afn 1 b 1 f n 1 displaystyle a varphi n b 1 varphi n a varphi n 1 b 1 varphi n 1 Fa b n Fa b n 1 displaystyle F a b n F a b n 1 eluxk a 1 5 displaystyle a 1 sqrt 5 and b 1 5 displaystyle b 1 sqrt 5 eraidwa Fa b 0 15 15 0 F 0 displaystyle F a b 0 frac 1 sqrt 5 frac 1 sqrt 5 0 F 0 aela Fa b 1 f5 1 f 5 1 2f5 1 1 5 5 1 F 1 displaystyle F a b 1 frac varphi sqrt 5 frac 1 varphi sqrt 5 frac 1 2 varphi sqrt 5 frac 1 1 sqrt 5 sqrt 5 1 F 1 erasamarthichkhxkhwamniepnkhnthankhxngkhxngkhxkhwam Fa b n F n displaystyle F a b n F n aelaichexklksnkhxng Fa b displaystyle F a b phisucnkhnxupnyid eracungsamarthsrupwa F n fn 1 f n5 displaystyle F n varphi n 1 varphi n over sqrt 5 sahrbcanwnetmthiimepnlb n displaystyle n thuktw enuxngcak 1 f n 5 lt 1 2 displaystyle 1 varphi n sqrt 5 lt 1 2 sahrbthuk n gt 0 displaystyle n gt 0 eracungidwa Fn displaystyle F n cungepncanwnetmthiikl fn 5 displaystyle varphi n sqrt 5 thisud hruxekhiynepnpraoykhsylksnodyichfngkchnphun floor function idwa F n fn5 12 displaystyle F n bigg lfloor frac varphi n sqrt 5 frac 1 2 bigg rfloor khwamsmphnthkbxtraswnthxngoyhnens ekhpelxr khnphbwaxtraswnkhxngcanwnfiobnchchithitidknluekhasuxtraswnthxng klawkhux F n 1 F n displaystyle frac F n 1 F n luekhasuxtraswnthxng f displaystyle varphi karphisucn sahrbcanwncring a 0 b 0 displaystyle a neq 0 b neq 0 eraidwa limn Fa b n 1 Fa b n displaystyle lim n to infty frac F a b n 1 F a b n limn afn 1 b 1 f n 1afn b 1 f n displaystyle lim n to infty frac a varphi n 1 b 1 varphi n 1 a varphi n b 1 varphi n limn af b 1 f 1 ff na b 1 ff n displaystyle lim n to infty frac a varphi b 1 varphi frac 1 varphi varphi n a b frac 1 varphi varphi n f displaystyle varphi enuxngcak 1 ff lt 1 displaystyle left frac 1 varphi varphi right lt 1 dngnn limn 1 ff n 0 displaystyle lim n to infty frac 1 varphi varphi n 0 enuxngcakcanwnfiobnchchikhux Fa b displaystyle F a b emux a 1 5 displaystyle a 1 sqrt 5 aela b 1 5 displaystyle b 1 sqrt 5 limitkhxngxtraswnkhxngelkhfiobnchchithitidkncungsxdkhlxngkbsmkarkhangbndwyrupemthriks Matrix rabbsmkarkhwamaetktangechingesnthixthibayladbfiobnchchiidkhux Fk 2Fk 1 1110 Fk 1Fk F k 1 AF k displaystyle begin aligned F k 2 choose F k 1 amp begin pmatrix 1 amp 1 1 amp 0 end pmatrix F k 1 choose F k vec F k 1 amp A vec F k end aligned aelamiruppidkhux 1110 n Fn 1FnFnFn 1 displaystyle begin pmatrix 1 amp 1 1 amp 0 end pmatrix n begin pmatrix F n 1 amp F n F n amp F n 1 end pmatrix dwyruppiddngklaw karkhanwnkhafiobnchchicungsamarthkhanwnidodyichcanwnkardaeninkarelkhkhnit O log n hruxichewla O M n log n odythi M n khuxewlainkarkhunelkh n hlk 2 tw odyichwithi klawkhux xn x x2 n 12 if n is odd x2 n2 if n is even displaystyle x n begin cases x x 2 frac n 1 2 amp mbox if n mbox is odd x 2 frac n 2 amp mbox if n mbox is even end cases emuxih x epnemthriks cungsamarthhakha Fn idinewlathiklawiwaelwladbfiobnchchiinthrrmchatisingthiprakttamthrrmchatimiidmiaetruprangngay ethann bangxyangmiruprangthimiaebbaephnthangkhnitsastrthiyungyakkhunipxik twxyangthinasnickhxngthrrmchatithiepniptamkdeknthkhxng khnitsastrchnsung idaek esnokhngknhxy sungmikhunsmbtiwa thalakesntrngcakcudhlaykhxngekliywkhanginsudiptdkbesnokhngaelw mumthiekidcakesntrngnnkbesnsmphskbesnokhng n cudtdcaethaknesmxdngrup mum A mum B mum C esnokhngthimilksnaepnknhxycaphbidinhxybangchnid echn hxythak nxkcakniyngmikhwamokhngkhxngngachang khwamokhngkhxngeksrdxkthantawn tasbpardaelataluksn kmilksnakhlayswnkhxngesnokhngknhxydwy yngmieruxngthinasnicinthrrmchatithiekiywkhxngkbkhnitsastrxik cakkarsuksaesnokhngkhxngtaluksn tasbpard aelaeksrdxkthantawn caehnwaesnokhngthihmuntamekhmnalikakhxngtaluksnmicanwn 5 esn aelahmunthwnekhmnalikamicanwn 3 esn hruxxacklawidwa canwnesnokhngsxngaebbmixtraswnepn 5 tx 8 sahrbtasbpard esnokhngtamekhmnalikaaelathwnekhmnalika mixtraswnepn 8 tx 13 esnokhngthiekidcakeksrdxkthantawntamekhmnalika aelathwnekhmnalikamixtraswnepn 21 tx 34 praktkarnniepniptamkdeknthkhxngelkhfiobnchchikarnaipichcanwnfiobnchchimikhwamsakhyinkarwiekhraahprasiththiphaphkhxngsungichinkarhatwharrwmmakkhxngcanwnetmsxngcanwn odyyukhliediynxlkxrithumcathanganidchathisudthakhxmulekhaepncanwnfiobnchchisxngtwthitidkn phisucnidwacanwnfiobnchchiminiyaminrupkhxngphlechlykhxng sungkhwamcringkhxninaipsukaraek canwnetmthukcanwnsamarthekhiynxyuinrupkhxngphlbwkkhxngcanwnfiobnchchithiimtidkinidephiyngaebbediywethann khwamcringkhxniepnthiruckkninnam karekhiyncanwnetminrupdngklaweriykwa karnaesnxaebbeskhekhndxrf bangtwichcanwnfiobnchchiepnekhruxngmuxinkarsrangelkhsum canwnfiobnchchithukichkahndkhwamyawkhxngswnprakxbtang khxngngansilpa aelathukichinkarethiybesiyngekhruxngdntri phlnganephlngthimikhwamekiywkhxngkbcanwnfiobnchchi idaek ephlngsahrbekhruxngsay ekhruxngprakxbcnghwa aelasielsta khxng aelaephlng khxngwngthul sungmicanwnphyangkhinwrrkhkhxngenuxrxngethakbcanwnfiobnchchi Black Then White are All I see In my infancy Red and yellow then came to be xangxingLucas p 3 1978 In honour of Fibonacci PDF Ball Keith M 2003 Chapter 8 Fibonacci s Rabbits Revisited Strange Curves Counting Rabbits and Other Mathematical Explorations ISBN 0691113211 Lucas Edouard 1891 Theorie des nombres Vol 1 Gauthier Villars Arakelian Hrant 2014 Mathematics and History of the Golden Section Logos 404 p ISBN 978 5 98704 663 0 rus