เมืองมุกดาหาร เป็นหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขงภายใต้ปริมณฑลแห่งอำนาจของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ และได้รับการยกฐานะเป็นประเทศราชในบางช่วงเวลา ภายหลังถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลฝ่ายเหนือของสยาม
มุกดาหาร | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2313 – พ.ศ. 2442 | |||||||||||
เมืองหลวง |
| ||||||||||
การปกครอง | |||||||||||
• ประเภท | อาญาสี่ | ||||||||||
เจ้าเมือง | |||||||||||
• พ.ศ. 2313–2347 | พระยาจันทรศรีสุราช | ||||||||||
• พ.ศ. 2406–2412 | เจ้าจันทรเทพสุริยวงษ์ | ||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||
• การอพยพของกลุ่มเจ้าจันทร์สุริยวงษ์ | พ.ศ. 2256 | ||||||||||
• ตั้งนามเมืองมุกดาหาร | พ.ศ. 2313 | ||||||||||
• ยกเลิกตำแหน่งเจ้าเมือง | พ.ศ. 2442 | ||||||||||
|
ประวัติศาสตร์
การสร้างเมืองหลวงโพนสิม
อาณาจักรล้านช้างเกิดการแย่งชิงอำนาจกันภายหลังจากที่พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชสวรรคต กลุ่มพระยาแสน (พญาเมืองจันทน์) ยึดครองเวียงจันทน์ได้ เจ้าศรีวิชัยพร้อมด้วยเชื้อพระวงศ์หลบหนีภัยไปพึ่งบารมีอยู่กับเจ้าราชครูโพนสะเม็ก ในการหลบหนีครั้งนี้ เจ้าศรีวิชัยได้นำบุตรไปด้วย 2 คน คือ เจ้าแก้วมงคลและเจ้าจันทร์สุริยวงษ์
พระยาแสนเจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์ได้คิดที่จะกำจัดเชื้อพระวงศ์ที่หนีกันมาพึ่งบารมีของเจ้าราชครูโพนสะเม็ก รวมทั้งเจ้าราชครูฯ ซึ่งมีผู้ให้ความเคารพนับถือมากด้วย เจ้าราชครูโพนสะเม็กจึงนำชาวเวียงจันทน์อพยพเดินทางล่องน้ำโขงไปทางใต้ ในการอพยพคราวนี้เชื้อพระวงศ์ก็ได้หลบหนีออกมาด้วย
นางแพง ผู้ครองเมืองกาลจำบากนาคบุรีศรี ได้ทราบข่าวว่าเจ้าราชครูโพนสะเม็ก จึงถวายอาณาจักรให้ราชครูฯ ปกครอง ในปี พ.ศ. 2256 ท่านราชครูฯ พิจารณาแล้วจึงเห็นว่า เจ้าหน่อกษัตริย์เป็นเชื้อกษัตริย์กรุงเวียงจันทน์ จึงได้เชิญมาเป็นประมุขฝ่ายอาณาจักร ถวายนามว่า "เจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร" และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่จาก กาลจำบากนาคบุรี เป็น "นครจำปาศักดิ์" แยกออกจากอาณาเขตของกรุงเวียงจันทน์
ต่อมาพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรได้แต่งตั้งให้ เจ้าแก้วมงคลอพยพไพร่พลลงไปสร้างเมืองท่งศรีภูมิ ส่วนเจ้าจันทร์สุริยวงษ์ให้อพยพไพร่พลไปสร้างเมืองหลวงโพนสิม อยู่แถวบริเวณพระธาตุอิงฮัง (แขวงสุวรรณเขต) ซึ่งตรงกับปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา
การสร้างเมืองมุกดาหาร
ภายหลังจากเจ้าจันทร์สุริยวงษ์พิราลัยแล้ว พระโอรสทั้ง 2 พระองค์ได้แยกย้ายกันออกไปปกครองบ้านเมืองแถบริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้แก่ เจ้าราชาบุตรโคตร (ท้าวราชบุตรโคตร) ได้อพยพไพร่พลจากเวียงดงเขนยและเมืองแก้งกอก ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง มาตั้งเมืองที่บ้านดอนตาล เรียกว่า เมืองดอนตาล[] และฝ่ายพระอนุชาคือ เจ้าจันทกินรี (ท้าวกินรี) ได้ครองเมืองหลวงโพนสิมต่อจากพระบิดา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2310 ได้มีนายพรานในหมู่บ้านข้ามลำน้ำโขงมาทางฝั่งขวาของปากห้วยบังมุก และได้พบเมืองร้าง วัดร้าง และต้นตาลจำนวน 7 ยอดอยู่ริมฝั่งโขง เห็นว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์กว่าบริเวณฝั่งซ้ายที่พวกตนอาศัยอยู่มาก เนื่องจากอุดมไปด้วยปลา ที่ดิน และทรัพยากรต่าง ๆ จึงกลับไปรายงานให้เจ้าจันทกินรีทราบ เจ้าจันทกินรีจึงพาพรรคพวกข้ามน้ำโขงมาและพิเคราะห์ดูว่าที่ตั้งบริเวณนี้คงเป็นเมืองโบราณมาก่อน และประทับใจในความอุดมสมบูรณ์เหมาะที่จะตั้งถิ่นฐาน จึงได้พากันอพยพจากบ้านหลวงโพนสินมาตั้งบ้านเรือนอยู่ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงบริเวณปากห้วยบังมุกที่นายพรานเป็นผู้พบ
ในขณะที่กำลังจัดเตรียมพื้นที่เพื่อตั้งเมืองใหม่ ได้พบพระพุทธรูป 2 องค์อยู่ใต้ต้นโพธิ์ริมฝั่งโขง พระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ส่วนพระพุทธรูปองค์เล็กเป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อด้วยเหล็กเนื้อดี จึงได้พร้อมกันสร้างวัดขึ้นใหม่ในบริเวณวัดร้างริมฝั่งโขง และขนานนามว่า วัดศรีมุงคุณ (ศรีมงคล) รวมทั้งก่อสร้างกุฏิวิหารขึ้น พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสององค์ขึ้นไปประดิษฐานบนพระวิหาร แต่ปรากฏว่าพระพุทธรูปองค์เล็ก เกิดปาฎิหาริย์กลับลงไปประดิษฐานอยู่ใต้ต้นโพธิ์ที่ตั้งเดิมหลายครั้ง และค่อย ๆ จมหายลงไปใต้ดิน คงเห็นแต่ยอดพระเกศโผล่ขึ้นมาให้เห็น จึงมีการสร้างแท่นสักการะบูชาครอบไว้ในบริเวณนั้น และขนานนามพระพุทธรูปองค์นั้นว่า พระหลุบเหล็ก ปัจจุบันบริเวณที่พระหลุบเหล็กจมดินได้ถูกกระแสน้ำเซาะตลิ่งโขงพังลงไปหมดแล้ว (คงเหลือแต่แท่นสักการะบูชาที่ยกเข้ามาเก็บรักษาไว้หน้าพระวิหารของวัดศรีมงคลใต้ในปัจจุบัน)
ส่วนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ก่ออิฐถือปูน ชาวเมืองได้ขนานนามว่า "พระเจ้าองค์หลวง" เป็นพระประธานของวัดศรีมุงคุณ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น วัดศรีมงคลใต้ ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดมุกดาหารนับแต่นั้นมา
ในเวลาต่อมา มักมีผู้พบเห็นแก้วดวงหนึ่งมีสีสดใสเป็นประกายลอยออกจากต้นตาลริมฝั่งโขง และลอยไปตามลำน้ำโขงทุกคืน จนถึงช่วงใกล้สว่างจึงลอยกลับมาที่ต้นตาลเช่นเดิม เจ้าจันทกินรีจึงได้ขนานนามแก้วดวงนี้ว่า แก้วมุกดาหาร เนื่องจากได้ตั้งเมืองขึ้นริมฝั่งโขงตรงปากห้วยบังมุกอีกทั้งได้มีผู้พบเห็นไข่มุกในแม่น้ำโขงอีกด้วย และให้ขนานนามเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ว่า เมืองมุกดาหาร ตั้งแต่เดือน 4 ปีกุน จุลศักราช 1132 (กุมภาพันธ์ถึงมีนาคม พ.ศ. 2314 ไทยสากล) มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำโขงรวมถึงแขวงสุวรรณเขตของประเทศลาว
การเข้าสู่ปริมณฑลแห่งอำนาจของสยาม
ครั้นถึงสมัยอาณาจักรธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ยกกองทัพขึ้นมาปราบปรามและรวบรวมหัวเมืองใหญ่น้อยในสองฝั่งแม่น้ำโขง และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ เจ้าจันทกินรี เป็น พระยาจันทรศรีสุราชอุปราชามันธาตุราช ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองมุกดาหารภายใต้ขัณฑสีมาของอาณาจักรธนบุรี
ภายใต้การปกครองของสยาม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (ธันวาคม 2024) |
รายพระนามและรายนามเจ้าเมือง
ลำดับ | ชื่อ | เริ่มต้น (พ.ศ.) | สิ้นสุด (พ.ศ.) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
เมืองหลวงโพนสิม | ||||
- | เจ้าจันทร์สุริยวงษ์ | 2256 | ไม่ปรากฏ | |
- | เจ้ากินรี | ไม่ปรากฏ | 2313 | เริ่มสร้างเมืองมุกดาหารในปี พ.ศ. 2310 |
เมืองมุกดาหาร | ||||
1 | พระยาจันทรศรีสุราชอุปราชามันธาตุราช (เจ้าจันทกินรี) | 2313 | 2347 | |
2 | พระยาจันทร์สุริยวงษ์ (กิ่ง) | 2347 | 14 ธันวาคม 2383 (เดือนอ้าย แรม 5 ค่ำ) | |
3 | พระจันทร์สุริยวงษ์ (พรหม) | 2383 | 2405 | |
ว่างตำแหน่ง 2405–2407 | ||||
4 | เจ้าจันทรเทพสุริยวงษ์ดำรงรัฐสีมามุกดาธิบดี (เจ้าหนู) | 2407 | หลัง 5 สิงหาคม 2411 (หลังเดือน 9 แรม 2 ค่ำ) | เดินทางลงไปกรุงเทพฯ เมื่อแรม 2 ค่ำเดือน 9 |
5 | พระพฤติมนตรี (คำ) | 2411 | 2422 | |
6 | พระจันทร์สุริยวงษ์ (บุญเฮ้า) | 22 กรกฎาคม 2422 (เดือน 9 ขึ้น 4 ค่ำ) | 28 มีนาคม 2431 (เดือน 5 แรม 1 ค่ำ) | |
7 | พระยาศศิวงศ์ประวัติ (เมฆ) | 28 มีนาคม 2431 | 4 ตุลาคม 2434 | รักษาราชการแทน |
4 ตุลาคม 2434 | 2442 | |||
ยกเลิกตำแหน่งเจ้าเมือง (2442) |
การปกครอง
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- เทียบตามปฏิทินสุริยคติไทย โดยยึดวันปีใหม่คือ 1 มกราคม อนึ่ง ปี จ.ศ. 1132 เป็นปีขาลไม่ใช่ปีกุน
อ้างอิง
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระฯ (1934), "เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๔๐", จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาค ๗, พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, สืบค้นเมื่อ 2024-08-27
- "พระลับ". สารสนเทศด้านพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-14. สืบค้นเมื่อ 2024-12-01.
- ชีวะประเสริฐ, สัญญา (2014). "ความทรงจำของเมืองสองฝั่งแม่น้ำโขง: มุกดาหาร และสะหวันนะเขด". วารสารประวัติศาสตร์: 54. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-22. สืบค้นเมื่อ 2024-12-01.
- "เกี่ยวกับจังหวัด". สำนักงานธนารักษ์พื้นที่มุกดาหาร. 10 July 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-24. สืบค้นเมื่อ 2024-12-01.
- มุกดาหาร, จังหวัด (1986), ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดมุกดาหาร, ขอนแก่น: สำนักงานจังหวัดมุกดาหาร, pp. 15–23, สืบค้นเมื่อ 2024-12-01
- "ตั้งตำแหน่งหัวเมือง" (PDF), ราชกิจจานุเบกษา, vol. 1, 1 February 1885, p. 52, สืบค้นเมื่อ 2024-12-02
- "ข่าวตาย" (PDF), ราชกิจจานุเบกษา, vol. 5, 3 December 1888, p. 315, สืบค้นเมื่อ 2024-12-02
- "พระราชทานสัญญาบัตร" (PDF), ราชกิจจานุเบกษา, vol. 8, 4 October 1891, p. 248, สืบค้นเมื่อ 2024-12-01
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emuxngmukdahar epnhwemuxngfngkhwaaemnaokhngphayitprimnthlaehngxanackhxngxanackrrtnoksinthr aelaidrbkarykthanaepnpraethsrachinbangchwngewla phayhlngthukphnwkepnswnhnungkhxngmnthlfayehnuxkhxngsyammukdaharph s 2313 ph s 2442emuxnghlwngemuxnghlwngophnsim ph s 2256 2313 emuxngmukdahar ph s 2313 2442 karpkkhrxng praephthxayasiecaemuxng ph s 2313 2347phrayacnthrsrisurach ph s 2406 2412ecacnthrethphsuriywngsprawtisastr karxphyphkhxngklumecacnthrsuriywngsph s 2256 tngnamemuxngmukdaharph s 2313 ykeliktaaehnngecaemuxngph s 2442kxnhna thdipxanackrlanchangcapaskdi 2436 xanackrhlwngphrabangphayitxinodcinkhxngfrngess2442 emuxngmukdaharphayitmnthlfayehnuxprawtisastrkarsrangemuxnghlwngophnsim xanackrlanchangekidkaraeyngchingxanacknphayhlngcakthiphraecasuriywngsathrrmikrachswrrkht klumphrayaaesn phyaemuxngcnthn yudkhrxngewiyngcnthnid ecasriwichyphrxmdwyechuxphrawngshlbhniphyipphungbarmixyukbecarachkhruophnsaemk inkarhlbhnikhrngni ecasriwichyidnabutripdwy 2 khn khux ecaaekwmngkhlaelaecacnthrsuriywngs phrayaaesnecaphukhrxngnkhrewiyngcnthnidkhidthicakacdechuxphrawngsthihniknmaphungbarmikhxngecarachkhruophnsaemk rwmthngecarachkhru sungmiphuihkhwamekharphnbthuxmakdwy ecarachkhruophnsaemkcungnachawewiyngcnthnxphyphedinthanglxngnaokhngipthangit inkarxphyphkhrawniechuxphrawngskidhlbhnixxkmadwy nangaephng phukhrxngemuxngkalcabaknakhburisri idthrabkhawwaecarachkhruophnsaemk cungthwayxanackrihrachkhru pkkhrxng inpi ph s 2256 thanrachkhru phicarnaaelwcungehnwa ecahnxkstriyepnechuxkstriykrungewiyngcnthn cungidechiymaepnpramukhfayxanackr thwaynamwa ecasrxysrismuthrphuththangkur aelaepliynchuxemuxngihmcak kalcabaknakhburi epn nkhrcapaskdi aeykxxkcakxanaekhtkhxngkrungewiyngcnthn txmaphraecasrxysrismuthrphuththangkuridaetngtngih ecaaekwmngkhlxphyphiphrphllngipsrangemuxngthngsriphumi swnecacnthrsuriywngsihxphyphiphrphlipsrangemuxnghlwngophnsim xyuaethwbriewnphrathatuxinghng aekhwngsuwrrnekht sungtrngkbplaysmykrungsrixyuthya karsrangemuxngmukdahar phayhlngcakecacnthrsuriywngsphiralyaelw phraoxrsthng 2 phraxngkhidaeykyayknxxkippkkhrxngbanemuxngaethbrimfngaemnaokhng idaek ecarachabutrokhtr thawrachbutrokhtr idxphyphiphrphlcakewiyngdngekhnyaelaemuxngaekngkxk fngsayaemnaokhng matngemuxngthibandxntal eriykwa emuxngdxntal txngkarxangxing aelafayphraxnuchakhux ecacnthkinri thawkinri idkhrxngemuxnghlwngophnsimtxcakphrabida cnkrathnginpi ph s 2310 idminayphraninhmubankhamlanaokhngmathangfngkhwakhxngpakhwybngmuk aelaidphbemuxngrang wdrang aelatntalcanwn 7 yxdxyurimfngokhng ehnwaepnthaelthixudmsmburnkwabriewnfngsaythiphwktnxasyxyumak enuxngcakxudmipdwypla thidin aelathrphyakrtang cungklbipraynganihecacnthkinrithrab ecacnthkinricungphaphrrkhphwkkhamnaokhngmaaelaphiekhraahduwathitngbriewnnikhngepnemuxngobranmakxn aelaprathbicinkhwamxudmsmburnehmaathicatngthinthan cungidphaknxphyphcakbanhlwngophnsinmatngbaneruxnxyuthangfngkhwaaemnaokhngbriewnpakhwybngmukthinayphranepnphuphb inkhnathikalngcdetriymphunthiephuxtngemuxngihm idphbphraphuththrup 2 xngkhxyuittnophthirimfngokhng phraphuththrupxngkhihyepnphraphuththrupkxxiththuxpun swnphraphuththrupxngkhelkepnphraphuththrupolhahlxdwyehlkenuxdi cungidphrxmknsrangwdkhunihminbriewnwdrangrimfngokhng aelakhnannamwa wdsrimungkhun srimngkhl rwmthngkxsrangkutiwiharkhun phrxmxyechiyphraphuththrupthngsxngxngkhkhunippradisthanbnphrawihar aetpraktwaphraphuththrupxngkhelk ekidpadihariyklblngippradisthanxyuittnophthithitngedimhlaykhrng aelakhxy cmhaylngipitdin khngehnaetyxdphraeksophlkhunmaihehn cungmikarsrangaethnskkarabuchakhrxbiwinbriewnnn aelakhnannamphraphuththrupxngkhnnwa phrahlubehlk pccubnbriewnthiphrahlubehlkcmdinidthukkraaesnaesaatlingokhngphnglngiphmdaelw khngehluxaetaethnskkarabuchathiykekhamaekbrksaiwhnaphrawiharkhxngwdsrimngkhlitinpccubn swnphraphuththrupxngkhihythikxxiththuxpun chawemuxngidkhnannamwa phraecaxngkhhlwng epnphraprathankhxngwdsrimungkhun sungtxmaidepliynepn wdsrimngkhlit thuxepnphraphuththrupkhubankhuemuxngkhxngcnghwdmukdaharnbaetnnma inewlatxma mkmiphuphbehnaekwdwnghnungmisisdisepnprakaylxyxxkcaktntalrimfngokhng aelalxyiptamlanaokhngthukkhun cnthungchwngiklswangcunglxyklbmathitntalechnedim ecacnthkinricungidkhnannamaekwdwngniwa aekwmukdahar enuxngcakidtngemuxngkhunrimfngokhngtrngpakhwybngmukxikthngidmiphuphbehnikhmukinaemnaokhngxikdwy aelaihkhnannamemuxngthitngkhunihmniwa emuxngmukdahar tngaeteduxn 4 pikun culskrach 1132 kumphaphnththungminakhm ph s 2314 ithysakl mixanaekhtkhrxbkhlumthngsxngfngkhxngaemnaokhngrwmthungaekhwngsuwrrnekhtkhxngpraethslaw karekhasuprimnthlaehngxanackhxngsyam khrnthungsmyxanackrthnburi smedcphraecakrungthnburiidthrngphrakrunaoprdekla ihsmedcecaphrayamhakstriysuk aelaecaphrayasursih buyma ykkxngthphkhunmaprabpramaelarwbrwmhwemuxngihynxyinsxngfngaemnaokhng aelaidthrngphrakrunaoprdekla tngih ecacnthkinri epn phrayacnthrsrisurachxuprachamnthaturach darngtaaehnngecaemuxngmukdaharphayitkhnthsimakhxngxanackrthnburi phayitkarpkkhrxngkhxngsyam swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid thnwakhm 2024 rayphranamaelaraynamecaemuxngladb chux erimtn ph s sinsud ph s hmayehtuemuxnghlwngophnsim ecacnthrsuriywngs 2256 imprakt ecakinri imprakt 2313 erimsrangemuxngmukdaharinpi ph s 2310emuxngmukdahar1 phrayacnthrsrisurachxuprachamnthaturach ecacnthkinri 2313 23472 phrayacnthrsuriywngs king 2347 14 thnwakhm 2383 eduxnxay aerm 5 kha 3 phracnthrsuriywngs phrhm 2383 2405wangtaaehnng 2405 24074 ecacnthrethphsuriywngsdarngrthsimamukdathibdi ecahnu 2407 hlng 5 singhakhm 2411 hlngeduxn 9 aerm 2 kha edinthanglngipkrungethph emuxaerm 2 khaeduxn 95 phraphvtimntri kha 2411 24226 phracnthrsuriywngs buyeha 22 krkdakhm 2422 eduxn 9 khun 4 kha 28 minakhm 2431 eduxn 5 aerm 1 kha 7 phrayassiwngsprawti emkh 28 minakhm 2431 4 tulakhm 2434 rksarachkaraethn4 tulakhm 2434 2442ykeliktaaehnngecaemuxng 2442 karpkkhrxngduephimhwemuxnglawxisan mnthlethsaphibalhmayehtuethiybtamptithinsuriykhtiithy odyyudwnpiihmkhux 1 mkrakhm xnung pi c s 1132 epnpikhalimichpikunxangxingculcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra 1934 eduxn 7 culskrach 1240 cdhmayehtuphrarachkicraywn phrarachniphnthinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phakh 7 phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr subkhnemux 2024 08 27 phralb sarsnethsdanphraphuththsasnaaelasilpwthnthrrm mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly withyaekhtkhxnaekn ekbcakaehlngedimemux 2023 06 14 subkhnemux 2024 12 01 chiwapraesrith syya 2014 khwamthrngcakhxngemuxngsxngfngaemnaokhng mukdahar aelasahwnnaekhd warsarprawtisastr 54 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2023 11 22 subkhnemux 2024 12 01 ekiywkbcnghwd sanknganthnarksphunthimukdahar 10 July 2013 ekbcakaehlngedimemux 2024 05 24 subkhnemux 2024 12 01 mukdahar cnghwd 1986 prawtimhadithyswnphumiphakh cnghwdmukdahar khxnaekn sankngancnghwdmukdahar pp 15 23 subkhnemux 2024 12 01 tngtaaehnnghwemuxng PDF rachkiccanuebksa vol 1 1 February 1885 p 52 subkhnemux 2024 12 02 khawtay PDF rachkiccanuebksa vol 5 3 December 1888 p 315 subkhnemux 2024 12 02 phrarachthansyyabtr PDF rachkiccanuebksa vol 8 4 October 1891 p 248 subkhnemux 2024 12 01