บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช หรือเจ้าสุริยะ พระราชโอรสของเจ้าต่อนคำ ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2156 หลังจากที่พระเชษฐาของพระองค์แย่งชิงราชสมบัติกัน นับแต่พระบัณฑิตโพธิศาละราชสวรรคต พระองค์ได้ซ่องสุมกำลังอยู่ในป่าและได้ยกทัพเข้ามาตีเวียงจันทน์ ใน พ.ศ. 2181 และเป็นฝ่ายที่ยึดครองเวียงจันทน์ได้ และขึ้นครองราชย์ขณะที่พระชนม์ได้ 25 ชันษา[]
พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช | |
---|---|
พระมหากษัตริย์ล้านช้าง | |
รัชกาลก่อนหน้า | เจ้าต่อนคำ |
รัชกาลถัดไป | |
พระราชบุตร | เจ้าราชบุตร
|
พระมหากษัตริย์ล้านช้าง | |
ราชวงศ์ | |
พระราชบิดา | เจ้าต่อนคำ |
หลังจากขึ้นครองราชย์ได้ให้เจ้าชมพู พระเชษฐาไปอยู่เมืองเว้ในประเทศเวียดนาม เจ้าบุญชู พระเชษฐาอีกองค์หนึ่งออกผนวชตลอดชีวิต ส่วนพระโอรสของเจ้าไชยที่เป็นพระเชษฐาคือเจ้าปุให้ไปครองเมืองและเจ้าสร้อยให้ไปครองเมืองสะพือ พระองค์ครองราชย์สมบัติจนถึง พ.ศ. 2238 เป็นรัชกาลที่ยาวนานและสงบสุขรัชกาลหนึ่ง ในรัชสมัยของพระองค์มีชาวยุโรปเดินทางเข้ามาถึงล้านช้าง ดังที่ปรากฏในบันทึกของเจอร์ราด วาน วูสตอฟ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และบันทึกของบาทหลวงมาร์นี
พระองค์ได้มีการทำศึกสงครามครั้งใหญ่กับอาณาจักรอยุธยาอยู่หลายครั้ง และสุดท้ายล้านช้างเป็นฝ่ายชนะ ส่งผลให้อยุธยาสูญเสียเสบียงและกำลังพลไปอย่างมหาศาลกับการทำสงครามพ่ายแพ้ต่อล้านช้างซึ่งส่งผลให้อยุธยาบอบช้ำอย่างหนักไม่สามารถขยายอิทธิพลไปยังหัวเมืองอื่นๆได้อีก อีกทั้งยังสูญเสียประเทศราชภายใต้อำนาจบางแห่งอีกด้วย นอกจากนี้ท่านยังนำทัพล้านช้างได้ไปตีเมืองพวนและกวาดต้อนไทพวนเข้ามาไว้ในเวียงจันทน์เป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งยังมีเมืองเชียงรุ่งเข้ามาสวามิภักดิ์ขอเป็นเมืองขึ้นกับท่านอีกด้วย
พระองค์ได้สั่งประหารเจ้าราชบุตร พระราชโอรสในข้อหาลักลอบเป็นชู้กับพระชายาของพระองค์ ทำให้เมื่อพระองค์สวรรคตจึงขาดรัชทายาทที่ชัดเจน มีแต่พระราชนัดดาที่ทรงพระเยาว์ ทำให้เกิดความปั่นป่วนและแย่งชิงเชื้อพระวงศ์มาเป็นพวกตน บางองค์ได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร การแย่งชิงราชสมบัติหลังการสวรรคตของพระเจ้าสุริยวงศานำไปสู่การแยกอาณาจักรล้านช้างเป็น 3 อาณาจักรในที่สุด
พระองค์ทรงเป็น 1 ใน 4 วีรกษัตริย์หรือมหาราชของประเทศลาว เนื่องจากทรงรักษาเอกราชอาณาจักรลาวจากกรุงศรีอยุธยาได้
พระราชสันตติวงศ์
ทรงมีราชบุตรราชธิดากับพระเทวี3องค์คือ
นอกจากนี้ท่านยังมีพระธิดานามว่า หรือมีอีกพระนามว่า นางคำ ซึ่งได้เสกสมรสกับเจ้าอินทกุมารเจ้าผู้ครอง (เชียงรุ่ง) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก ซึ่งได้อพยพเข้ามาพึ่งของพระเจ้ากรุงล้านช้างเมื่อครั้งเสียเมืองเชียงรุ่งให้จีนฮ่อ มีบุตรร่วมกัน พระนามว่า เจ้าองค์คำ ซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งล้านช้างหลวงพระบางและเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นเชียงใหม่ในภายหลัง
อ้างอิง
- พิกุล สมัครไทย. “พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช มหาธรรมิกราชแห่งยุคทองของล้านช้าง.” ใน กิตติพงษ์ ประพันธ์ (บก.), บทความสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ เวทีวิจัยมนุษยศาสตร์ไทย ครั้งที่ 13 “ภูมิภาคนิยม และท้องถิ่นนิยมสมัยใหม่ในโลกไร้พรมแดน”. น. 142-157. [มปท.]: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2562.
- มหาบุนมี เทบสีเมือง. ความเป็นมาของชนชาติลาว เล่ม 2 อาณาจักรลาวล้านช้างตอนต้น. แปลโดย ไผท ภูธา. กรุงเทพฯ: สุขภาพใจ. 2554.หน้า 334-349
- https://th.m.wikisource.org/wiki/พงศาวดารล้านช้าง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul phraecasuriywngsathrrmikrach khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phraecasuriywngsathrrmikrach hruxecasuriya phrarachoxrskhxngecatxnkha prasutiemux ph s 2156 hlngcakthiphraechsthakhxngphraxngkhaeyngchingrachsmbtikn nbaetphrabnthitophthisalarachswrrkht phraxngkhidsxngsumkalngxyuinpaaelaidykthphekhamatiewiyngcnthn in ph s 2181 aelaepnfaythiyudkhrxngewiyngcnthnid aelakhunkhrxngrachykhnathiphrachnmid 25 chnsa txngkarxangxing phraecasuriywngsathrrmikrachphramhakstriylanchangrchkalkxnhnaecatxnkharchkalthdipphrarachbutrecarachbutrphramhakstriylanchangrachwngsphrarachbidaecatxnkha hlngcakkhunkhrxngrachyidihecachmphu phraechsthaipxyuemuxngewinpraethsewiydnam ecabuychu phraechsthaxikxngkhhnungxxkphnwchtlxdchiwit swnphraoxrskhxngecaichythiepnphraechsthakhuxecapuihipkhrxngemuxngaelaecasrxyihipkhrxngemuxngsaphux phraxngkhkhrxngrachysmbticnthung ph s 2238 epnrchkalthiyawnanaelasngbsukhrchkalhnung inrchsmykhxngphraxngkhmichawyuorpedinthangekhamathunglanchang dngthipraktinbnthukkhxngecxrrad wan wustxf cakpraethsenethxraelnd aelabnthukkhxngbathhlwngmarni phraxngkhidmikarthasuksngkhramkhrngihykbxanackrxyuthyaxyuhlaykhrng aelasudthaylanchangepnfaychna sngphlihxyuthyasuyesiyesbiyngaelakalngphlipxyangmhasalkbkarthasngkhramphayaephtxlanchangsungsngphlihxyuthyabxbchaxyanghnkimsamarthkhyayxiththiphlipynghwemuxngxunidxik xikthngyngsuyesiypraethsrachphayitxanacbangaehngxikdwy nxkcaknithanyngnathphlanchangidiptiemuxngphwnaelakwadtxnithphwnekhamaiwinewiyngcnthnepncanwnmakthisudethathiekhymima xikthngyngmiemuxngechiyngrungekhamaswamiphkdikhxepnemuxngkhunkbthanxikdwy phraxngkhidsngpraharecarachbutr phrarachoxrsinkhxhalklxbepnchukbphrachayakhxngphraxngkh thaihemuxphraxngkhswrrkhtcungkhadrchthayaththichdecn miaetphrarachnddathithrngphraeyaw thaihekidkhwampnpwnaelaaeyngchingechuxphrawngsmaepnphwktn bangxngkhidhlbhnixxknxkrachxanackr karaeyngchingrachsmbtihlngkarswrrkhtkhxngphraecasuriywngsanaipsukaraeykxanackrlanchangepn 3 xanackrinthisud phraxngkhthrngepn 1 in 4 wirkstriyhruxmharachkhxngpraethslaw enuxngcakthrngrksaexkrachxanackrlawcakkrungsrixyuthyaidphrarachsnttiwngsthrngmirachbutrrachthidakbphraethwi3xngkhkhux ecarachbutr nxkcaknithanyngmiphrathidanamwa hruxmixikphranamwa nangkha sungidesksmrskbecaxinthkumarecaphukhrxng echiyngrung sungsubechuxsaymacak sungidxphyphekhamaphungkhxngphraecakrunglanchangemuxkhrngesiyemuxngechiyngrungihcinhx mibutrrwmkn phranamwa ecaxngkhkha sungtxmaidepnkstriyxngkhthi 2 aehnglanchanghlwngphrabangaelaepnecaphukhrxngaekhwnechiyngihminphayhlngxangxingphikul smkhrithy phraecasuriywngsathrrmikrach mhathrrmikrachaehngyukhthxngkhxnglanchang in kittiphngs praphnth bk bthkhwamsubenuxngcakkarprachumwichakarradbchati ewthiwicymnusysastrithy khrngthi 13 phumiphakhniym aelathxngthinniymsmyihminolkirphrmaedn n 142 157 mpth khnamnusysastraelasngkhmsastr mhawithyalymhasarkham 2562 mhabunmi ethbsiemuxng khwamepnmakhxngchnchatilaw elm 2 xanackrlawlanchangtxntn aeplody iphth phutha krungethph sukhphaphic 2554 hna 334 349 https th m wikisource org wiki phngsawdarlanchang