บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เฟอร์โรซีน (อังกฤษ: Ferrocene) เป็นสารประกอบโลหอินทรีย์ที่มีสูตรเป็น Fe(C5H5)2 เป็นต้นแบบของ metallocene (สารประกอบ organometallic ที่ประกอบด้วยวง cyclopentadienyl สองวง ซึ่งประกบอะตอมกลางโลหะไว้ ซึ่งอาจเรียนได้อีกอย่างหนึ่งว่า sandwich compound)
| |||
| |||
ชื่อ | |||
---|---|---|---|
Ferrocene | |||
ชื่ออื่น
| |||
เลขทะเบียน | |||
| |||
3D model () |
| ||
| |||
เคมสไปเดอร์ |
| ||
100.002.764 | |||
ผับเคม CID |
| ||
| |||
(EPA) |
| ||
| |||
| |||
คุณสมบัติ | |||
C10H10Fe | |||
มวลโมเลกุล | 186.04 g/mol | ||
ลักษณะทางกายภาพ | ผงสีส้มอ่อน | ||
กลิ่น | คล้ายการบูร | ||
ความหนาแน่น | 1.107 g/cm3 (0 °C), 1.490 g/cm3 (20 °C) | ||
จุดหลอมเหลว | 172.5 องศาเซลเซียส (342.5 องศาฟาเรนไฮต์; 445.6 เคลวิน) | ||
จุดเดือด | 249 องศาเซลเซียส (480 องศาฟาเรนไฮต์; 522 เคลวิน) | ||
ไม่ละลายในน้ำ ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ส่วนใหญ่ | |||
2.04050 | |||
โครงสร้าง | |||
D5d / D5h / D5 | |||
Metallocene | |||
ไม่มีไดโพลโมเมนต์ถาวรเพราะการหมุนอย่างรวดเร็วของ Cp | |||
ความอันตราย | |||
NFPA 704 (fire diamond) | |||
(US health exposure limits): | |||
(Permissible) | TWA 15 mg/m3 (รวม) TWA 5 mg/m3 (resp) | ||
(Recommended) | TWA 10 mg/m3 (รวม) TWA 5 mg/m3 (resp) | ||
(Immediate danger) | N.D. | ||
สารประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องกัน | |||
สารประกอบที่เกี่ยวข้อง |
| ||
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa อ้างอิงกล่องข้อมูล |
ประวัติ
เช่นเดียวกับสารสังเคราะห์ตัวอื่น Ferrocene ถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยบังเอิญ ในปี 1951 Pauson และ Kealy แห่ง Duquesne University รายงานปฏิกิริยาระหว่าง magnesium bromide และ ferric chloride ซึ่งเดิมมีจุดประสงค์จะทำให้เกิด coupling ของ diene แต่กลับได้สารเป็นผงสีส้มอ่อนที่มีความเสถียรสูงมาก อย่างไรก็ตาม Ferrocene สามารถเตรียมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโดยใช้ sodium cyclopentadienyl และ anhydrous ferrous chloride ใน ether
โครงสร้างของ Ferrocene ได้รับการยืนยันโดย NMR และ X-Ray crystallography โดยลักษณะโครงสร้าง sandwich ได้ปลุกความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ให้มาศึกษาสารประกอบของโลหะในกลุ่ม d-block และ hydrocarbons และนำมาสู่ความรู้อันก้าวหน้าในสาขา organometallic chemistry ได้มีการใช้โลหะหลายชนิดแทน Fe และ hydrocarbons อื่นๆ แทน cyclopentadienyl
การจัดเรียงอิเล็กตรอนใน Ferrocene ประกอบด้วย 6-π electrons จาก cyclopentadienyl anion ซึ่งจะนำไปใช้ร่วมกับไอออน Fe2+ ตรงกลาง ทำให้กลายเป็นการจัดอิเล็กตรอนแบบแก๊สมีสกุล (ก๊าซเฉื่อย) ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสถียรของสาร
สมบัติทางกายภาพ
Ferrocene เป็นของแข็งสีส้มที่มีความเสถียรในบรรยากาศปกติ และจะระเหิดได้ทันทีในสภาวะสุญญกาศ จากสมมาตรและความไม่มีประจุ Ferrocene ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น benzene แต่ไม่ละลายในน้ำ[]
สมบัติทางเคมี
Ferrocene เกิดปฏิกิริยาเคมีหลายอย่างอันเป็นลักษณะเฉพาะของสาร aromatic ทำให้สามารถเตรียมสารอนุพันธ์ได้ (substituted ferrocenes) ซึ่งที่พบได้มากคือ 1-substituted (มีการแทนที่หนึ่งตำแหน่งบนวงหนึ่ง) 1,1'-disubstituted (H ขอวงบนและล่างถูกแทนที่ไปอย่างละหนึ่งตำแหน่ง) 1,2-disubstituted (H ที่อยู่ติดกันในวงเดียวกันสองตัวถูกแทนที่) ในการทดลอง Ferrocene จะถูกเติมหมู่ acetyl เมื่อทำปฏิกิริยากับ (หรือ ) เมื่อมี phosphoric acid เป็นตัวเร่งปฏิริยา:
- Fe (C5H5) 2 + (CH3CO) 2O → Fe (C5H5) (C5H4C (O) CH3) + CH3CO2H
- Fe (C5H5) (C5H4C (O) CH3) + (CH3CO) 2O → Fe (C5H4C (O) CH3) 2 + CH3CO2H
Ferrocene สามารถเสียไฮโดรเจนไปได้ง่าย เช่น เมื่อทำปฏิกิริยากบั จะให้ 1,1'-dilithioferrocene, ซึ่งเป็น ที่มีการใช้งานได้กว้างขวาง
- Fe (C5H5) 2 + 2 C4H9Li → Fe (C5H4Li) 2 + 2 C4H10
- Fe (C5H4Li) 2 + 2 (C6H5) 2PCl → Fe (C5H4P (C6H5) 2) 2 + 2 LiCl
สมบัติเฉพาะที่ต่างจาก organo-aromatic compounds ทั่วไปคือความสามารถในการเกิด one-electron oxidation ที่ศักย์ไฟฟ้าต่ำประมาณ 0.4 V เมื่อเทียบกับ (SCE) ปฏิกิริยา Oxidation นี้มักจะใช้ FeCl3 เพื่อทำให้เกิด ferrocenium ion สีน้ำเงิน และ [Fe (C5H5) 2]+ ซึ่งมักจะสามารถแยกออกมาได้ในรูปเกลือ [PF6]−เกลือ Ferrocenium เป็น oxidising agent ที่นิยทใช้กันส่วนหนึ่งเพราะงว่าผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยารีดอกซ์เฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยาและสามารถแยกออกได้ง่าย
ประโยชน์ใช้งานของ Ferrocene และสารอนุพันธ์
ตัว Ferrocene เองมีประโยชน์ใช้งานน้อย อย่างไรก็ตามวิธีการสังเคราะห์อนุพันธืจำนวนนำไม่ถ้วน เช่น mono- และ disubstituted ferrocenes ซึ่งขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างขวางออกไป
สารเติมแต่งในน้ำมันเชื้อเพลิง
Ferrocene และสารอนุพันธ์มีสมบัติเป็น anti-knock agents สามารถใช้ในเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งปลอดภับกว่าการใช้ tetraalkyl lead additives. ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ (ร้านค้าย่อยในสหราชอาณาจักร) , สารเติมแต่งในน้ำมันมีส่วนประกอบของ ferrocene สามารถเติมลงในน้ำมันไร้สารตะกั่วเพื่อการใช้งานในรถเก่าที่ออกแบบมาใช้กับน้ำมันมีสารตะกั่ว รายละเอียดการใช้เป็น antiknocking agent สามารถดูเพิ่มเติมได้จากสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาเลขที่ 4104036 อย่างไรก็ตามการจับตัวของเหล็กซึ่งมาจาก Ferrocene จะทำให้เกิดผิวนำไฟฟ้าเคลือยอยู่บนหัวเทียบทำให้เกิดความผิดพลาดในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์
ในเครื่องยนต์ดีเซลล์ Ferrocene ช่วยลดควันดำได้[]
การแพทย์
เกลือ ferrocenium บางชนิดแสดงสมบัติต้านมะเร็ง (anticancer activity) และมีการรายงานถึงยาที่อยู่ระหว่างการทดลองซึ่งเป็น ferrocenyl version of tamoxifen[1] แนวคิดสำคัญคือ tamoxifen จะจับตัวกับ estrogen binding sites ทำให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์ (cytotoxicity effect)
วัสดุศาสตร์
Ferrocene สามารถระเหิดได้ง่าย จึงสามารถใช้ deposit fullerene บางชนิดได้
ใช้เป็น ligand scaffold
Chiral ferrocenyl สามารถใช้เป็น ligand ใน transition-metal catalyzed reactions บางชนิดมีประโยชน์ใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมการสังเคราะห์ยาและเคมีเกษตร
1,1'-bis-diphenylphosphinoferrocene เป็น ligand ที่มีความสำคัญใน palladium .
สารอนุพันธ์
เนื่องจากปฏิกิริยาการแทนที่เกิดได้ง่าย โครงสร้างอนุพันธ์ Ferrocene ที่แปลกๆ จึงถูกเตรียมขึ้นจำนวนมาก อาทิเช่น penta (ferrocenyl) cyclopentadienyl ligand , ซึ่งเป็น cyclopentadiene ที่ประกอบไปด้วยหมู่แทนที่ 5 หมู่ (5 ferrocene substituents)
อ้างอิง
- International Union of Pure and Applied Chemistry (2014). Nomenclature of Organic Chemistry: IUPAC Recommendations and Preferred Names 2013. . p. 1041. doi:10.1039/9781849733069. ISBN .
- "Ferrocene (102-54-5)". ChemicalBook. สืบค้นเมื่อ 3 February 2010.
- "FERROCENE Material safety data sheet". ChemSrc.
- Lide, D. R., บ.ก. (2005). CRC Handbook of Chemistry and Physics (86th ed.). Boca Raton (FL): CRC Press. p. 3.258. ISBN .
- Mohammadi N, Ganesan A, Chantler CT, Wang F (2012). "Differentiation of ferrocene D5d and D5h conformers using IR spectroscopy". Journal of Organometallic Chemistry. 713: 51–59. doi:10.1016/j.jorganchem.2012.04.009.
- NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards. "#0205". (NIOSH).
- . ScienceLab. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-12. สืบค้นเมื่อ 2015-11-25.
- N. G. Connelly, W. E. Geiger, "Chemical Redox Agents for Organometallic Chemistry" Chemical Reviews 1996, vol. 96, pp. 877-910.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-05-05. สืบค้นเมื่อ 2007-01-14.
- Science Publication
- S. Top, B. Dauer, J. Vaissermann and G. Jaouen, Journal of Organometallic Chemistry, 1997, 541, 355-361.
- S. Top, A. Vessières, G. Leclercq, J. Quivy, J. Tang, J. Vaissermann, M. Huché and G. Jaouen, Chemistry, 2003, 9, 5223-5236.
- Y. Yu, A.D. Bond, P. W. Leonard, K. P. C. Vollhardt, G. D. WhitenerSyntheses, Structures, and Reactivity of Radial Oligocyclopentadienyl Metal Complexes: Penta (ferrocenyl) cyclopentadienyl and Congeners Volume 45, Issue 11 , Pages 1794 - 1799 2006 Abstract
แหล่งข้อมูลอื่น
- Ferrocene at (University of Nottingham)
- NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards (Centers for Disease Control and Prevention)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid efxrorsin xngkvs Ferrocene epnsarprakxbolhxinthriythimisutrepn Fe C5H5 2 epntnaebbkhxng metallocene sarprakxb organometallic thiprakxbdwywng cyclopentadienyl sxngwng sungprakbxatxmklangolhaiw sungxaceriynidxikxyanghnungwa sandwich compound efxrorsin chuxFerrocenechuxxun Dicyclopentadienyl ironBis h5 cyclopentadienyl ironIron II cyclopentadienideelkhthaebiynelkhthaebiyn CAS 102 54 5 Y3D model rupphaphaebbottxbCHEBI 30672 Nekhmsipedxr 7329 Y100 002 764phbekhm CID 11985121U96PKG90JQ Y EPA DTXSID9025326InChI 1S 2C5H5 Fe c2 1 2 4 5 3 1 h2 1 5H q2 1 2 YKey KTWOOEGAPBSYNW UHFFFAOYSA N YInChI 1 2C5H5 Fe c2 1 2 4 5 3 1 h2 1 5H q2 1 2Key KTWOOEGAPBSYNW UHFFFAOYAZ CH 1C CC C1 CH 1C CC C1 Fe 2 khunsmbtisutrekhmi C10H10Femwlomelkul 186 04 g mollksnathangkayphaph phngsismxxnklin khlaykarburkhwamhnaaenn 1 107 g cm3 0 C 1 490 g cm3 20 C cudhlxmehlw 172 5 xngsaeslesiys 342 5 xngsafaerniht 445 6 ekhlwin cudeduxd 249 xngsaeslesiys 480 xngsafaerniht 522 ekhlwin lalayinna imlalayinna lalayintwthalalayxinthriyswnihy2 04050okhrngsrangD5d D5h D5Metalloceneimmiidophlomemntthawrephraakarhmunxyangrwderwkhxng CpkhwamxntrayNFPA 704 fire diamond 321 US health exposure limits Permissible TWA 15 mg m3 rwm TWA 5 mg m3 resp Recommended TWA 10 mg m3 rwm TWA 5 mg m3 resp Immediate danger N D sarprakxbxunthiekiywkhxngknsarprakxbthiekiywkhxng Hassocenehakmiidrabuepnxun khxmulkhangtnnikhuxkhxmulsar n phawamatrthanthi 25 C 100 kPa xangxingklxngkhxmulprawtiechnediywkbsarsngekhraahtwxun Ferrocene thuksngekhraahkhunodybngexiy inpi 1951 Pauson aela Kealy aehng Duquesne University raynganptikiriyarahwang magnesium bromide aela ferric chloride sungedimmicudprasngkhcathaihekid coupling khxng diene aetklbidsarepnphngsismxxnthimikhwamesthiyrsungmak xyangirktam Ferrocene samarthetriymidxyangmiprasiththiphaphmakkwaodyich sodium cyclopentadienyl aela anhydrous ferrous chloride in ether okhrngsrangkhxng Ferrocene idrbkaryunynody NMR aela X Ray crystallography odylksnaokhrngsrang sandwich idplukkhwamsnickhxngnkwithyasastrihmasuksasarprakxbkhxngolhainklum d block aela hydrocarbons aelanamasukhwamruxnkawhnainsakha organometallic chemistry idmikaricholhahlaychnidaethn Fe aela hydrocarbons xun aethn cyclopentadienyl karcderiyngxielktrxnin Ferrocene prakxbdwy 6 p electrons cak cyclopentadienyl anion sungcanaipichrwmkbixxxn Fe2 trngklang thaihklayepnkarcdxielktrxnaebbaeksmiskul kasechuxy sungepnsaehtukhxngkhwamesthiyrkhxngsarsmbtithangkayphaphFerrocene epnkhxngaekhngsismthimikhwamesthiyrinbrryakaspkti aelacaraehididthnthiinsphawasuyykas caksmmatraelakhwamimmipracu Ferrocene lalayintwthalalayxinthriy echn benzene aetimlalayinna txngkarxangxing smbtithangekhmiFerrocene ekidptikiriyaekhmihlayxyangxnepnlksnaechphaakhxngsar aromatic thaihsamarthetriymsarxnuphnthid substituted ferrocenes sungthiphbidmakkhux 1 substituted mikaraethnthihnungtaaehnngbnwnghnung 1 1 disubstituted H khxwngbnaelalangthukaethnthiipxyanglahnungtaaehnng 1 2 disubstituted H thixyutidkninwngediywknsxngtwthukaethnthi inkarthdlxng Ferrocene cathuketimhmu acetyl emuxthaptikiriyakb hrux emuxmi phosphoric acid epntwerngptiriya Fe C5H5 2 CH3CO 2O Fe C5H5 C5H4C O CH3 CH3CO2H Fe C5H5 C5H4C O CH3 CH3CO 2O Fe C5H4C O CH3 2 CH3CO2H dd Ferrocene samarthesiyihodrecnipidngay echn emuxthaptikiriyakb caih 1 1 dilithioferrocene sungepn thimikarichnganidkwangkhwang Fe C5H5 2 2 C4H9Li Fe C5H4Li 2 2 C4H10 Fe C5H4Li 2 2 C6H5 2PCl Fe C5H4P C6H5 2 2 2 LiCl dd smbtiechphaathitangcak organo aromatic compounds thwipkhuxkhwamsamarthinkarekid one electron oxidation thiskyiffatapraman 0 4 V emuxethiybkb SCE ptikiriya Oxidation nimkcaich FeCl3 ephuxthaihekid ferrocenium ion sinaengin aela Fe C5H5 2 sungmkcasamarthaeykxxkmaidinrupeklux PF6 eklux Ferrocenium epn oxidising agent thiniythichknswnhnungephraangwaphlitphnthcakptikiriyaridxksechuxytxkarekidptikiriyaaelasamarthaeykxxkidngaypraoychnichngankhxng Ferrocene aelasarxnuphnthtw Ferrocene exngmipraoychnichngannxy xyangirktamwithikarsngekhraahxnuphnthucanwnnaimthwn echn mono aela disubstituted ferrocenes sungkhyaykhxbekhtkarichnganihkwangkhwangxxkip saretimaetnginnamnechuxephling Ferrocene aelasarxnuphnthmismbtiepn anti knock agents samarthichinekhruxngyntthiichnamn sungplxdphbkwakarich tetraalkyl lead additives sungsamarthhasuxidthi rankhayxyinshrachxanackr saretimaetnginnamnmiswnprakxbkhxng ferrocene samarthetimlnginnamnirsartakwephuxkarichnganinrthekathixxkaebbmaichkbnamnmisartakw raylaexiydkarichepn antiknocking agent samarthduephimetimidcaksiththibtrshrthxemrikaelkhthi 4104036 xyangirktamkarcbtwkhxngehlksungmacak Ferrocene cathaihekidphiwnaiffaekhluxyxyubnhwethiybthaihekidkhwamphidphladinkarcudraebidkhxngekhruxngynt inekhruxngyntdiesll Ferrocene chwyldkhwndaid txngkarxangxing karaephthy eklux ferrocenium bangchnidaesdngsmbtitanmaerng anticancer activity aelamikarraynganthungyathixyurahwangkarthdlxngsungepn ferrocenyl version of tamoxifen 1 aenwkhidsakhykhux tamoxifen cacbtwkb estrogen binding sites thaihekidkhwamepnphistxesll cytotoxicity effect wsdusastr Ferrocene samarthraehididngay cungsamarthich deposit fullerene bangchnidid ichepn ligand scaffold Chiral ferrocenyl samarthichepn ligand in transition metal catalyzed reactions bangchnidmipraoychnichnganinechingxutsahkrrmkarsngekhraahyaaelaekhmiekstr 1 1 bis diphenylphosphinoferrocene epn ligand thimikhwamsakhyin palladium sarxnuphnthenuxngcakptikiriyakaraethnthiekididngay okhrngsrangxnuphnth Ferrocene thiaeplk cungthuketriymkhuncanwnmak xathiechn penta ferrocenyl cyclopentadienyl ligand sungepn cyclopentadiene thiprakxbipdwyhmuaethnthi 5 hmu 5 ferrocene substituents xangxingInternational Union of Pure and Applied Chemistry 2014 Nomenclature of Organic Chemistry IUPAC Recommendations and Preferred Names 2013 p 1041 doi 10 1039 9781849733069 ISBN 978 0 85404 182 4 Ferrocene 102 54 5 ChemicalBook subkhnemux 3 February 2010 FERROCENE Material safety data sheet ChemSrc Lide D R b k 2005 CRC Handbook of Chemistry and Physics 86th ed Boca Raton FL CRC Press p 3 258 ISBN 0 8493 0486 5 Mohammadi N Ganesan A Chantler CT Wang F 2012 Differentiation of ferrocene D5d and D5h conformers using IR spectroscopy Journal of Organometallic Chemistry 713 51 59 doi 10 1016 j jorganchem 2012 04 009 NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards 0205 NIOSH ScienceLab khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 12 12 subkhnemux 2015 11 25 N G Connelly W E Geiger Chemical Redox Agents for Organometallic Chemistry Chemical Reviews 1996 vol 96 pp 877 910 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2006 05 05 subkhnemux 2007 01 14 Science Publication S Top B Dauer J Vaissermann and G Jaouen Journal of Organometallic Chemistry 1997 541 355 361 S Top A Vessieres G Leclercq J Quivy J Tang J Vaissermann M Huche and G Jaouen Chemistry 2003 9 5223 5236 Y Yu A D Bond P W Leonard K P C Vollhardt G D WhitenerSyntheses Structures and Reactivity of Radial Oligocyclopentadienyl Metal Complexes Penta ferrocenyl cyclopentadienyl and Congeners Volume 45 Issue 11 Pages 1794 1799 2006 Abstractaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb efxrorsin Ferrocene at University of Nottingham NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards Centers for Disease Control and Prevention