พญาภูคา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ภูคา ทรงปกครองเมืองย่าง ครองราชย์ พ.ศ. 1812 - พ.ศ. 1880 ดำรงราชย์สมบัติ 68 ปี
พญาภูคา | |
---|---|
ปฐมวงศ์กษัตริย์นครรัฐน่าน | |
เจ้าผู้ครองเมืองย่าง | |
ราชาภิเศก | ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3 พ.ศ. 1812 |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1812 - พ.ศ. 1880 |
รัชกาล | 68 ปี |
ก่อนหน้า | สถาปนาราชวงศ์ |
ถัดไป | พญาเก้าเกื่อน |
ประสูติ | พ.ศ. 1800 ณ เมืองเงินยาง |
พิราลัย | พ.ศ. 1880 พระชนมายุ 80 พรรษา |
พระชายา | พระนางจำปาชายา |
พระราชบุตร | 2 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ภูคา |
พระประวัติ
ตามตำนานพงศาวดารเมืองย่างเจ้าหลวงพญาภูคาเดิมเป็นชาวเมืองเงินยาง (สันนิษฐานว่าสืบเชื้อสายมาจากอาณาจักรหิรัญเงินยาง หรืออำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย) ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 พญาภูคา และชายา ชื่อนางพญาจำปา หรือแก้วฟ้า พร้อมด้วยราษฏรประมาณ 220 คน ได้อพยพจากเมืองเงินยางลงมาทางใต้ มาหยุดพักตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ห้วยเฮี้ย (น้ำกูน) (ปัจจุบัน ต.ศิลาเพชร)แล้วให้ราษฎรเหล่านั้นไปสำรวจพื้นที่ดูว่า ที่ไหนเห็นสมควรที่จะตั้งเมืองได้ พวกราษฏรเหล่านั้นได้เดินไปสำรวจจนถึงเมืองล่าง (ปัจจุบัน ต.ศิลาเพชร) ในเมืองล่างแห่งนี้ได้มีพวกเขมรมาก่อตั้งเมืองอยู่ก่อนแล้ว แล้วก็เป็นเมืองที่ร้างไปคงเหลืออยู่ขณะนั้นหมู่บ้านเดียว คือ บ้านกำปุง หรือบ่อตอง (ปัจจุบันคือ บ้านป่าตอง) มีประมาณ 40 หลังคาเรือน พลเมืองส่วนมาก เป็นพวก ลัวะ หรือเขมร ซึ่งพวกเขมรได้พร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นมาวัดหนึ่ง ตั้งชื่อว่า วัดมณีขณะนี้เป็นวัดร้างไปแล้วคง เหลือแต่ซากอิฐผุพังให้เห็นเท่านั้น
พระกรณียกิจ
ด้านการเมือง/การปกครอง
เจ้าหลวงพญาภูคา ได้ขยายอาณาเขตการปกครองโดยส่งราชบุตรบุญธรรมสององค์ คือ ให้เจ้าขุนนุ่นผู้พี่ไปสร้างเมืองจันทบุรี หลวงพระบาง ส่วนเจ้าขุนฟองผู้น้องไปสร้าง เมืองวรนคร และในสมัย หลานเจ้าหลวงพญาภูคาได้ย้ายเมืองจากวรนครไปสร้างเมืองที่เมื่อ ปี พ.ศ. 1902 และก็ได้มีการโยกย้ายเมืองอีกครั้งไปสร้างที่บ้านห้วยใคร้ นั่นก็คือเมืองน่าน ในปัจจุบัน ในรัชกาลของ เจ้าหลวงภูคาได้ขยายเขตการปกครองออกไปดังนี้
- ทิศเหนือถือเอาศาลเมืองล่างเป็นเขต
- ทิศใต้จรดเมืองสุโขทัย
- ทิศตะวันออกจรดเขตเมืองหลวงพระบาง
- ทิศตะวันตกจรดเขตพม่า
ด้านศาสนา
1. สร้างวัดมณี ปี พ.ศ. 1816 พญาภูคา นำราษฎรปฏิสังขรณ์ และบูรณะวัดมณี เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองย่าง รวมทั้งได้นิมนต์พระมหาเถระองค์หนึ่งซึ่งจาริกมาจากกรุงสุโขทัย ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดมณี แล้วต่อให้จัดทำเหมืองนาทุ่งแหนและนามุขขึ้น เมื่อทำเหมืองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เกณฑ์เอาราษฎร ถางป่าทางทิศตะวันตกเฉียงบ้านกำปุงขึ้นไป และพากันบุกเบิกทำเป็นนาขึ้น เรียกว่าทุ่งแหนและนามุขจนทุกวันนี้ สถานที่นั้นเป็นสระน้ำใหญ่ มีปลาและเต่าและสัตว์น้ำต่าง ๆ มีเป็นอันมากซึ่งพญาภูคาหวงแหนไว้มิให้คนใดทำอันตรายสัตว์น้ำที่มีอยู่ในสระ นี้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นจะทำอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้นในปีหนึ่งจะมีการจับปลาในสระนี้ครั้งหนึ่ง ถ้าจะจับปลาในสระนี้แล้วจำเป็นต้องหาท้าวขุนหมื่นขุนแสนมาเป็นผู้ดูแล และเก็บเอาปลาจากผู้ที่จับได้ครั้งหนึ่งในขณะนั้นยังมีนางคนหนึ่งชื่อนางมุข จับปลาได้มาก แต่ได้เอาปลาไปช่อนไว้ที่บ่อน้ำหมายว่าจะไม่ให้ใครเห็น ในเมื่อคนทั้งหลายได้หนีหมดแล้ว นางก็ได้เอาปลาจากบ่อน้ำขึ้นมา มีชายคนหนึ่งเห็นเข้าจึงถามว่า นางเอาปลาซ่อนไว้ที่ไหนนางบอกว่าซ่อนไว้ในบ่อน้ำ ถ้าอย่างนั้นท่านจงชำระบ่อน้ำให้สะอาดดีกว่าเดิม นับแต่นั้นมาจึงได้เรียกว่า "บ่อน้ำนางมุข" หรือ เรียกว่า "บ่อน้ำนามุข" จนทุกวันนี้
2. สร้างวัดวัดพระธาตุเบ็งสกัด พ.ศ.1826
มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับองค์พระธาตุซึ่งปรากฏในสมุดข่อย กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พญาภูคาต้องการจะสร้างเมืองขึ้นใหม่ให้แก่บุตรบุญธรรม จึงได้ให้ผู้คนไปหาชัยภูมิสร้างเมืองใหม่ จนกระทั่งได้ที่บริเวณแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พอพระทัย แล้วสร้างเมืองขึ้นใหม่ ตั้งให้ขุนฟองเป็นผู้ครองเมือง ขนานนามว่า “เมืองวรนคร” พญาภูคาทรงมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ประสงค์จะสร้างเจดีย์ไว้ใกล้กับเมืองใหม่ จึงได้ให้ผู้คนไปหาบริเวณที่เหมาะสมเพื่อสร้างเจดีย์ จึงพบบริเวณที่ดินเป็นลานกว้างมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางกว้างประมาณ 1.5 เมตร
พญาภูคาได้เสด็จไปดูและนำไม้รวกแหย่ลงไปในบ่อนั้น ปรากฏว่าไม้ที่แหย่ลงไปขาดเป็นท่อน ๆ เมื่อเห็นอัศจรรย์จึงรับสั่งให้สร้างพระเจดีย์ครอบบ่อน้ำ ซึ่งสร้างขึ้นแบบธรรมดาขนาดกว้าง 7 เมตร สูง 20 เมตร พร้อมกับสร้างวิหารหลังหนึ่งอยู่ในแนวเดียวกับองค์เจดีย์เมื่อสร้างเจดีย์แล้วเสร็จในปี พ.ศ.1826 จึงได้เชิญนายญาณะ อุปสมบทเป็นเจ้าอาวาส ทำพิธีฉลองพร้อมเมืองใหม่ ในตอนกลางคืนของงานฉลองนั้นได้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น ปรากฏแสงไฟเรืองรองพุ่งออกมาจากยอดพระธาตุ เมื่อเห็นดังนั้น พญาภูคาจึงได้ตั้งชื่อวัดแห่งนี้ว่า “วัดพระธาตุเบ็งสกัด” หลังจากนั้นมาสมัยขุนฟองครองเมืองวรนคร ท่านก็ได้บำนุบำรุงวัดพระธาตุเบ็งสกัดจนสิ้นรัชสมัย
เมื่อเข้าไปในบริเวณวัดพระธาตุเบ็งสกัด จะพบโบราณสถานของวัด ได้แก่ พระวิหาร ซึ่งสร้างอยู่ติดกับองค์เจดีย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารปิดมีหลังคา 2 ชั้น 2 ตับ มุงด้วยแป้นเกล็ดเป็นศิลปะแบบไตลื้อ ส่วนองค์เจดีย์เป็นงานสถาปัตยกรรมของช่างชาวน่าน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยของพญาภูคา ประมาณปี พ.ศ.1826 องค์พระธาตุได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยของพญาอนันตยศ มีการบูรณะลายทองเสาวิหารและเพดาน แท่นพระประธาน รวมถึงสร้างกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2400 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2487 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดพระธาตุเบ็งสกัดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 61 ตอนที่ 65 ต่อมาในปี พ.ศ.2533 คณะกรรมการหมู่บ้านโดยนายสุชาติ พลจร ผู้ใหญ่บ้านแก้ม ได้ทูลเกล้าถวายฏีกาแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อขอพระราชทานจัดหาทุนทรัพย์ซ่อมแซมพระวิหารซึ่งชำรุดทรุดโทรมมาก จนกระทั่งปี พ.ศ.2536 กรมศิลปากร ได้ทำการตรวจสอบและทำโครงการบูรณะวิหารวัดพระธาตุเบ็งสกัด จนได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2538 หากมีโอกาสเดินทางไปยังอำเภอปัว จังหวัดน่าน ลองแวะไปนมัสการองค์พระธาตุเบ็งสกัด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวไตลื้อแห่งเมืองปัว
บทความโดย จักรพงษ์ คำบุญเรือง
ด้านการพัฒนา
ได้ฟื้นฟูบูรณะเมืองล่างซึ่งเป็นเมืองร้างให้เจริญรุ่งเรือง ขุดสระเก็บน้ำ และขุดเหมืองฝาย เพื่อให้มีน้ำเพียงพอแก่การอุปโภคบริโภคและการเกษตร ประชาชนอยู่ดีกินดีบารมีแผ่ไปทั่วสารทิศ ทำให้ชาวเชียงแสน และชาวไทยลื้อสิบสองปันนาอพยพมาพึ่งบารมี และอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และใน ปี พ.ศ. 1870 พญาภูคา และเสนาอำมาตย์ ได้เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงสุโขทัยได้เข้าเฝ้าพระร่วงเจ้า พระร่วงเจ้าทรงพอพระทัย จึงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พญาภูคา เป็นพ่อพญาภูคาครองเมืองล่าง นับแต่นั้นมากรุงสุโขทัย และเมืองล่าง จึงมีความสัมพันธ์อย่างดียิ่ง
อ้างอิง
- http://historicallanna01.blogspot.com/2011/05/ blog-post_20.html?m=0
- http://historicallanna01.blogspot.com/2011/05/blog-post_20.html?m=0
- http://historicallanna01[]. blogspot.com/2011/05/blog-post_20.htmlm=0
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-10. สืบค้นเมื่อ 2019-08-10.
- https://identitynan.com/wp-content/uploads/2020/05/academic-info-1.pdf
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-07. สืบค้นเมื่อ 2019-08-10.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-10. สืบค้นเมื่อ 2019-08-10.
- http://tumbonsilapet.blogspot.com/2015/02/blog-post_24.html?m=1
- https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1112593
ก่อนหน้า | พญาภูคา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าผู้ครองเมืองย่าง รัชกาลที่ 1 ราชวงศ์ภูคา | พญาเก้าเกื่อน รัชกาลที่ 2 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phyaphukha pthmkstriyaehngrachwngsphukha thrngpkkhrxngemuxngyang khrxngrachy ph s 1812 ph s 1880 darngrachysmbti 68 piphyaphukhapthmwngskstriynkhrrthnanecaphukhrxngemuxngyangrachaphieskkhun 2 kha eduxn 3 ph s 1812khrxngrachyph s 1812 ph s 1880rchkal68 pikxnhnasthapnarachwngsthdipphyaekaekuxnprasutiph s 1800 n emuxngenginyangphiralyph s 1880 phrachnmayu 80 phrrsaphrachayaphranangcapachayaphrarachbutr2 phraxngkhrachwngsrachwngsphukhaphraprawtitamtananphngsawdaremuxngyangecahlwngphyaphukhaedimepnchawemuxngenginyang snnisthanwasubechuxsaymacakxanackrhiryenginyang hruxxaephxechiyngaesn cnghwdechiyngray rawplayphuththstwrrsthi 18 phyaphukha aelachaya chuxnangphyacapa hruxaekwfa phrxmdwyrastrpraman 220 khn idxphyphcakemuxngenginyanglngmathangit mahyudphktngthinthanxyu n thihwyehiy nakun pccubn t silaephchr aelwihrasdrehlannipsarwcphunthiduwa thiihnehnsmkhwrthicatngemuxngid phwkrastrehlannidedinipsarwccnthungemuxnglang pccubn t silaephchr inemuxnglangaehngniidmiphwkekhmrmakxtngemuxngxyukxnaelw aelwkepnemuxngthirangipkhngehluxxyukhnannhmubanediyw khux bankapung hruxbxtxng pccubnkhux banpatxng mipraman 40 hlngkhaeruxn phlemuxngswnmak epnphwk lwa hruxekhmr sungphwkekhmridphrxmicknsrangwdkhunmawdhnung tngchuxwa wdmnikhnaniepnwdrangipaelwkhng ehluxaetsakxithphuphngihehnethannphrakrniykicdankaremuxng karpkkhrxng ecahlwngphyaphukha idkhyayxanaekhtkarpkkhrxngodysngrachbutrbuythrrmsxngxngkh khux ihecakhunnunphuphiipsrangemuxngcnthburi hlwngphrabang swnecakhunfxngphunxngipsrang emuxngwrnkhr aelainsmy hlanecahlwngphyaphukhaidyayemuxngcakwrnkhripsrangemuxngthiemux pi ph s 1902 aelakidmikaroykyayemuxngxikkhrngipsrangthibanhwyikhr nnkkhuxemuxngnan inpccubn inrchkalkhxng ecahlwngphukhaidkhyayekhtkarpkkhrxngxxkipdngni thisehnuxthuxexasalemuxnglangepnekht thisitcrdemuxngsuokhthy thistawnxxkcrdekhtemuxnghlwngphrabang thistawntkcrdekhtphmadansasna 1 srangwdmni pi ph s 1816 phyaphukha narasdrptisngkhrn aelaburnawdmni ephuxihepnsunyrwmcitickhxngchawemuxngyang rwmthngidnimntphramhaethraxngkhhnungsungcarikmacakkrungsuokhthy ihepnecaxawaswdmni aelwtxihcdthaehmuxngnathungaehnaelanamukhkhun emuxthaehmuxngesrceriybrxyaelwkeknthexarasdr thangpathangthistawntkechiyngbankapungkhunip aelaphaknbukebikthaepnnakhun eriykwathungaehnaelanamukhcnthukwnni sthanthinnepnsranaihy miplaaelaetaaelastwnatang miepnxnmaksungphyaphukhahwngaehniwmiihkhnidthaxntraystwnathimixyuinsra ni ephraaepnsingthiimcaepncathaxntrayid thngsininpihnungcamikarcbplainsranikhrnghnung thacacbplainsraniaelwcaepntxnghathawkhunhmunkhunaesnmaepnphuduael aelaekbexaplacakphuthicbidkhrnghnunginkhnannyngminangkhnhnungchuxnangmukh cbplaidmak aetidexaplaipchxniwthibxnahmaywacaimihikhrehn inemuxkhnthnghlayidhnihmdaelw nangkidexaplacakbxnakhunma michaykhnhnungehnekhacungthamwa nangexaplasxniwthiihnnangbxkwasxniwinbxna thaxyangnnthancngcharabxnaihsaxaddikwaedim nbaetnnmacungideriykwa bxnanangmukh hrux eriykwa bxnanamukh cnthukwnni 2 srangwdwdphrathatuebngskd ph s 1826 mitananeruxngelaekiywkbxngkhphrathatusungpraktinsmudkhxy klawwa emuxkhrngthiphyaphukhatxngkarcasrangemuxngkhunihmihaekbutrbuythrrm cungidihphukhniphachyphumisrangemuxngihm cnkrathngidthibriewnaehnghnungsungepnthiphxphrathy aelwsrangemuxngkhunihm tngihkhunfxngepnphukhrxngemuxng khnannamwa emuxngwrnkhr phyaphukhathrngmikhwameluxmisinphuththsasna prasngkhcasrangecdiyiwiklkbemuxngihm cungidihphukhniphabriewnthiehmaasmephuxsrangecdiy cungphbbriewnthidinepnlankwangmibxnaxyutrngklangkwangpraman 1 5 emtr phyaphukhaidesdcipduaelanaimrwkaehylngipinbxnn praktwaimthiaehylngipkhadepnthxn emuxehnxscrrycungrbsngihsrangphraecdiykhrxbbxna sungsrangkhunaebbthrrmdakhnadkwang 7 emtr sung 20 emtr phrxmkbsrangwiharhlnghnungxyuinaenwediywkbxngkhecdiyemuxsrangecdiyaelwesrcinpi ph s 1826 cungidechiynayyana xupsmbthepnecaxawas thaphithichlxngphrxmemuxngihm intxnklangkhunkhxngnganchlxngnnidekidsingmhscrrykhun praktaesngiferuxngrxngphungxxkmacakyxdphrathatu emuxehndngnn phyaphukhacungidtngchuxwdaehngniwa wdphrathatuebngskd hlngcaknnmasmykhunfxngkhrxngemuxngwrnkhr thankidbanubarungwdphrathatuebngskdcnsinrchsmy emuxekhaipinbriewnwdphrathatuebngskd caphbobransthankhxngwd idaek phrawihar sungsrangxyutidkbxngkhecdiy sungmilksnaepnwiharpidmihlngkha 2 chn 2 tb mungdwyaepnekldepnsilpaaebbitlux swnxngkhecdiyepnngansthaptykrrmkhxngchangchawnan snnisthanwasrangkhuninsmykhxngphyaphukha pramanpi ph s 1826 xngkhphrathatuidrbkarburnaptisngkhrninsmykhxngphyaxnntys mikarburnalaythxngesawiharaelaephdan aethnphraprathan rwmthungsrangkaaephngaekwrxbxngkhphrathatu emuxpi ph s 2400 emuxwnthi 24 tulakhm 2487 krmsilpakridkhunthaebiynwdphrathatuebngskdihepnobransthanaehngchati prakasinrachkiccanuebksa elmthi 61 txnthi 65 txmainpi ph s 2533 khnakrrmkarhmubanodynaysuchati phlcr phuihybanaekm idthuleklathwaytikaaedsmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari ephuxkhxphrarachthancdhathunthrphysxmaesmphrawiharsungcharudthrudothrmmak cnkrathngpi ph s 2536 krmsilpakr idthakartrwcsxbaelathaokhrngkarburnawiharwdphrathatuebngskd cnidrbkarburnakhrngihyinpi ph s 2538 hakmioxkasedinthangipyngxaephxpw cnghwdnan lxngaewaipnmskarxngkhphrathatuebngskd singskdisiththikhxngchawitluxaehngemuxngpw bthkhwamody ckrphngs khabuyeruxng dankarphthna idfunfuburnaemuxnglangsungepnemuxngrangihecriyrungeruxng khudsraekbna aelakhudehmuxngfay ephuxihminaephiyngphxaekkarxupophkhbriophkhaelakarekstr prachachnxyudikindibarmiaephipthwsarthis thaihchawechiyngaesn aelachawithyluxsibsxngpnnaxphyphmaphungbarmi aelaxyuxyangrmeynepnsukh aelain pi ph s 1870 phyaphukha aelaesnaxamaty idedinthangipecriysmphnthimtrikbkrungsuokhthyidekhaefaphrarwngeca phrarwngecathrngphxphrathy cungoprdekla aetngtngihphyaphukha epnphxphyaphukhakhrxngemuxnglang nbaetnnmakrungsuokhthy aelaemuxnglang cungmikhwamsmphnthxyangdiyingxangxinghttp historicallanna01 blogspot com 2011 05 blog post 20 html m 0 http historicallanna01 blogspot com 2011 05 blog post 20 html m 0 http historicallanna01 lingkesiy blogspot com 2011 05 blog post 20 htmlm 0 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 08 10 subkhnemux 2019 08 10 https identitynan com wp content uploads 2020 05 academic info 1 pdf khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 07 subkhnemux 2019 08 10 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 08 10 subkhnemux 2019 08 10 http tumbonsilapet blogspot com 2015 02 blog post 24 html m 1 https www chiangmainews co th page archives 1112593 kxnhna phyaphukha thdipecaphukhrxngemuxngyang rchkalthi 1 rachwngsphukha phuththstwrrsthi 18 phyaekaekuxn rchkalthi 2bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk