ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เจ้าหญิงวิคโทรีอา อัลแบร์ทา เอลีซาเบ็ท มาทิลเดอ มารี แห่งเฮ็สเซินและริมไรน์ (เยอรมัน: Viktoria Alberta Elisabeth Mathilde Marie von Hessen und bei Rhein) หรือพระนามหลังการสมรสคือ วิกตอเรีย เมานต์แบ็ทแตน มาร์เชอเนสแห่งมิลด์ฟอร์ดเฮเวน (อังกฤษ: Victoria Mountbatten, Marchioness of Milford Haven) เป็นเจ้าหญิงเยอรมันจากแกรนด์ดัชชีเฮ็สเซิน ซึ่งสมรสเข้าสู่พระราชวงศ์อังกฤษ เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของลูทวิชที่ 4 แกรนด์ดยุกแห่งเฮ็สเซิน กับเจ้าหญิงอลิซแห่งสหราชอาณาจักร ทำให้ทรงมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร
เจ้าหญิงวิคโทรีอา | |||||
---|---|---|---|---|---|
มาร์เชอเนสแห่งมิลฟอร์ดเฮเวน | |||||
ประสูติ | 5 เมษายน ค.ศ. 1863 วินด์เซอร์ บาร์กเซอร์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร | ||||
สิ้นพระชนม์ | 24 กันยายน ค.ศ. 1950 ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร | (87 ปี)||||
ฝังพระศพ | 28 กันยายน ค.ศ. 1950 St. Mildred's Church, Whippibgham ไอล์ออฟไวต์ | ||||
พระสวามี | เจ้าชายลูทวิชแห่งบัทเทินแบร์ค | ||||
| |||||
พระบุตร | เจ้าหญิงอลิซแห่งบัทเทินแบร์ค ลุยส์ เมานต์แบ็ทแตน หลุยส์ เมานต์แบ็ทแตน | ||||
ราชวงศ์ | เฮ็สเซิน-ดาร์มชตัท | ||||
พระบิดา | ลูทวิชที่ 4 แกรนด์ดยุกแห่งเฮ็สเซิน | ||||
พระมารดา | เจ้าหญิงอลิซแห่งสหราชอาณาจักร |
พระชนนีของพระองค์สิ้นพระชนม์ขณะที่พระขนิษฐาและพระอนุชายังทรงพระเยาว์ จึงทำให้ทรงมีภาระความรับผิดชอบต่อทุกพระองค์ก่อนเวลาอันควร พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายลูทวิชแห่งบัทเทินแบร์ค พระญาติชั้นที่หนึ่งซึ่งทรงรับราชการอยู่ในราชนาวีแห่งอังกฤษด้วยความรักและทรงมีชีวิตสมรสในสถานที่ต่างๆ ของทวีปยุโรป อันเป็นสถานที่ปฏิบัติราชการในราชนาวีของพระสวามี และได้เสด็จเยี่ยมพระประยูรญาติด้วย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เจ้าหญิงและพระสวามีทรงสละพระอิสริยยศเยอรมันและใช้ราชสกุลที่ฟังดูเป็นอังกฤษว่า เมานต์แบ็ตเทน พระขนิษฐาสองพระองค์ซึ่งได้อภิเษกสมรสเข้าไปยังทรงถูกปลงพระชนม์โดยกลุ่มปฏิวัติคอมมิวนิสต์ พระองค์ทรงมีทัศนคติแบบเสรีนิยม เปิดเผย ชอบปฏิบัติ และฉลาด
นอกจากนี้พระองค์ยังได้เป็นพระอัยยิกาของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อีกด้วย
ชีวิตในวัยเยาว์
เจ้าหญิงวิคโทรีอาประสูติในวันอีสเตอร์ ณ ปราสาทวินด์เซอร์ โดยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย พระอัยยิกาได้เสด็จมาประทับอยู่ด้วย พระองค์ทรงเข้ารับศีลจุ่มตามแบบนิกายลูเธอรันภายในอ้อมพระกรของสมเด็จพระราชินีนาถในวันที่ 27 เมษายน พระองค์ทรงมีชีวิตในวัยเยาว์ที่เมืองเบสซุนเกิน ประเทศเยอรมนี เมื่อมีพระชนมายุได้ 3 พรรษา ครอบครัวของพระองค์ได้ย้ายไปประทับยังพระราชวังใหม่ เมืองดาร์มชตัท ซึ่งเจ้าหญิงประทับในห้องเดียวกับเจ้าหญิงเอลลา พระขนิษฐาจนกระทั่งเจริญพระชนม์เข้าสู่วัยดรุณี ในช่วงการบุกแคว้นเฮ็สเซินในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1866 พระองค์พร้อมด้วยเจ้าหญิงเอลลา พระขนิษฐาทรงถูกส่งไปยังประเทศอังกฤษเพื่อไปประทับกับพระอัยยิกาจนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลงโดยการรวมแคว้นเฮ็สเซินเป็นส่วนหนึ่งของปรัสเซีย พระองค์ทรงได้รับการศึกษาในแบบส่วนพระองค์ถึงในระดับมาตรฐานที่สูงมาก และยังทรงเป็นนักอ่านหนังสืออยู่ตลอดพระชนม์ชีพอีกด้วย
ในช่วงสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียในปี ค.ศ. 1870 พระองค์จำได้ว่าในขณะทรงช่วยทำซุปอยู่ในครัวกับพระชนนี ซึ่งทรงถูกซุปร้อนลวกที่แขน โรงพยาบาลสำหรับทหารได้ตั้งขึ้นอยู่ในเขตพระราชวังและท่ามกลางความหนาวเหน็บของฤดูหนาว เมื่อปี ค.ศ. 1872 พระอนุชาชันษา 18 เดือนทรงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น การวินิจฉัยดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่ราชวงศ์ทั่วทั้งทวีปยุโรป เนื่องจากว่าเป็นเวลายี่สิบปีมาแล้วที่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงมีประสูติกาลเจ้าชายลีโอโพลด์ ดยุกแห่งออลบานี พระราชโอรสที่เป็นโรคเฮโมฟีเลีย เป็นการชี้ให้เห็นครั้งแรกว่าความผิดปกติของการหลั่งเลือดในพระราชวงศ์เป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ในปีต่อมา "เจ้าชายฟริตตี้" ทรงตกลงมาจากพระบัญชรลงสู่บันไดหินและสิ้นพระชนม์ในที่สุด นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งแรกในหลายๆ ครั้งที่รุมเร้าเจ้าหญิงวิคโทรีอา
เมื่อปี ค.ศ. 1978 เจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงได้รับเชื้อโรคคอตีบ เจ้าหญิงเอลลาทรงย้ายออกจากห้องทันที พระองค์ทรงเป็นสมาชิกในครอบครัวพระองค์เดียวที่รอดพ้นจากโรคดังกล่าว พระชนนีได้พยาบาลดูแลเจ้าหญิงวิคโทรีอาและสมาชิกพระองค์อื่นๆ อยู่เป็นเวลาหลายวัน และในที่สุด พระขนิษฐาองค์เล็กของเจ้าหญิงได้สิ้นพระชนม์ลง เมื่อครอบครัวดูเหมือนว่าอาการดีขึ้น พระชนนีของเจ้าหญิงวิคโทรีอาเริ่มประชวร พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันครอบรอบการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ต ในฐานะพระธิดาองค์ใหญ่ เจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงรับหน้าที่เหมือนเป็นมารดาให้กับพระโอรสและธิดาองค์เล็กๆ และเสด็จเคียงข้างพระชนก พระองค์ทรงเขียนว่า "การสิ้นพระชนม์ของพระมารดาเป็นการสูญเสียที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ ช่วงวัยเด็กของเราจบสิ้นลงพร้อมกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เพราะว่าเราได้กลายเป็นพี่ใหญ่สุดและมีความรับผิดชอบมากที่สุด"
อภิเษกสมรส และ ครอบครัว
ในการรวมตัวกันของสมาชิกในพระราชวงศ์ เจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงพบกับพระญาติชั้นที่หนึ่งของพระองค์อยู่เป็นประจำคือ เจ้าชายลูทวิชแห่งบัทเทินแบร์ค เจ้าชายจากรัฐเยอรมันเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งทรงเปลี่ยนสัญชาติมาเป็นชาวอังกฤษและรับราชการเป็นทหารอยู่ในราชนาวีอังกฤษ ในช่วงฤดูหนาวปี ค.ศ. 1882 ทั้งสองพระองค์ทรงพบกันอีกครั้งที่เมืองดาร์มชตัทและหมั้นกันในฤดูร้อนปีถัดมา
หลังจากการเลื่อนออกไปเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ อันเนื่องมาจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเลโอโพลด์ เจ้าหญิงได้ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายลูทวิชในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1884 ณ เมืองดาร์มชตัท พระชนกของพระองค์ไม่ทรงเห็นด้วยกับการเลือกอภิเษกสมรส โดยในมุมมองของพระชนก เจ้าชายลูทวิชไม่ทรงร่ำรวยเงินทองมากนักและจะพรากเจ้าหญิงไปจากการเป็นเพื่อนเคียงข้าง เพราะทั้งสองพระองค์จำเป็นต้องเสด็จไปประทับอยู่ในต่างแดนที่ประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงเป็นตัวของตัวเองและไม่ได้ทรงใส่พระทัยกับความไม่พอใจของพระชนกมากนัก ยิ่งน่าแปลกใจไปกว่านั้น พระชนกของเจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงอภิเษกสมรสอย่างลับๆ ในตอนเย็นวันเดียวกันกับอเล็กซานดรีน เด โคเลมีเน นางสนมที่ไร้ยศศักดิ์ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของอุปทูตชาวรัสเซียประจำเมืองดาร์มชตัท การอภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชนที่หย่าร้างมาแล้วสร้างความตกใจกับพระราชวงศ์อื่นๆ ในทวีปยุโรป และด้วยความกดดันทางครอบครัวและการทูต จึงทำให้ต้องทรงยกเลิกการอภิเษกสมรส
เจ้าหญิงวิคโทรีอาและเจ้าชายลูทวิช มีพระโอรสและธิดารวม 4 พระองค์ คือ
- เจ้าหญิงอลิซแห่งบัทเทินแบร์ค (วิกตอเรีย อลิซ เอลิซาเบธ จูลี มารี; 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1885 - 5 ธันวาคม ค.ศ. 1969)
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1903 ณ เมืองดาร์มชตัท กับ เจ้าชายแอนดรูว์แห่งกรีซและเดนมาร์ก (1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1882 - 3 ธันวาคม ค.ศ. 1944)
- พระชนนีในเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ
- เจ้าหญิงลูอีเซอแห่งบัทเทินแบร์ค (หลุยส์ อเล็กซานดรา มารี ไอรีน; 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1889 - 7 มีนาคม ค.ศ. 1965)
- ทรงอภิเษกสมรสกันเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 ณ พระราชวังเซนต์เจมส์ กับ เจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งสวีเดน (11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1882 - 15 กันยายน ค.ศ. 1973) ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน หลังการเสวยราชสมบัติของพระสวามี
- เจ้าชายจอร์จแห่งบัทเทินแบร์ค (จอร์จ หลุยส์ วิกเตอร์ เฮนรี เซอร์จ; 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1892 - 8 เมษายน ค.ศ. 1938)
- ทรงดำรงตำแหน่ง มาร์ควิสที่ 2 แห่งมิลฟอร์ดฮาเว็น เอิร์ลแห่งเมดินา และไวส์เค้านท์อัลเดอร์เนย์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1921
- ทรงอภิเษกสมรสวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน กับ เค้านท์เตส นาเด็จดา มิคาอิลอฟนา เดอ ทอร์บี้ (28 มีนาคม ค.ศ. 1896 - 22 มกราคม ค.ศ. 1963)
- เจ้าชายลูทวิชแห่งบัทเทินแบร์ค (หลุยส์ ฟรานซิส อัลเบิร์ต วิกเตอร์ นิโคลาส; 25 มิถุนายน ค.ศ. 1900 - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1979)
- ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น เอิร์ลเมานต์แบ็ทแตนแห่งพม่า และบารอนรอมซีย์ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1947
- ทรงดำรงตำแหน่งเป็น อุปราชแห่งอินเดีย ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1947
- ทรงดำรงตำแหน่งเป็น ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1947 ถึงวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1948
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1922 ณ กรุงลอนดอน กับ เอ็ดวินา ซินเธีย แอนเน็ต แอชลีย์ (28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1901 - 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1960)
พระสวามีของเจ้าหญิงทรงปฏิบัติราชการทหารอยู่ในราชนาวีอังกฤษและทั้งสองพระองค์ก็ได้ประทับอยู่ในตำหนักหลายที่ และ เมืองยูเก็นไฮม์ เมื่อเจ้าชายลูทวิชทรงรับราชการอยุ่ในกองทัพเรือเมดิเตอร์เรเนียน เจ้าหญิงก็ยังทรงประทับในมอลตาในบางฤดูหนาวด้วย
ปลายพระชนม์ชีพ
เจ้าชายลูทวิชทรงถูกบังคับให้ลาออกจากราชนาวีอังกฤษในช่วงเริ่มแรกของสงครามโลกครั้งที่ 1เมื่อภูมิหลังเยอรมันของพระองค์กลายเป็นความลำบากใจ และทั้งสองพระองค์จึงเสด็จไปอยู่ บนในช่วงสงคราม ความเป็นปรปักษ์ของสาธารณชนอย่างไม่หยุดยั้งต่อเยอรมนี ทำให้พระมหากษัตริย์ (สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร) ทรงสละพระอิสรยยศเยอรมันทั้งหมด ขณะเดียวกันเจ้าชายลูทวิชและเจ้าหญิงวิคโทรีอาก็ทรงสละพระอิสริยยศของพระองค์ และทรงเปลี่ยนชื่อราชสกุลบัทเทินแบร์คให้เป็นภาษาอังกฤษว่า เมานต์แบ็ทแตน ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1917 อีกสามวันต่อมาเจ้าชายทรงได้รับพระราชทานยศขุนนางจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ให้ดำรงพระอิสริยยศเป็นมาร์ควิสแห่งมิลฟอร์ดฮาเว็น หลังจากการปฏิวัติรัสเซียเดือนตุลาคมพวกบอลเชวิคได้ปลงพระชนม์พระขนิษฐาในเจ้าหญิงวิคโทรีอาสองพระองค์คือ สมเด็จพระจักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย และ แกรนด์ดัชเชสเอลิซาเบธ เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย พระชายาใน
การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายลูทวิชหลังจากสงครามสิ้นสุดลงสามปี เจ้าหญิงวิคโทรีอาทรงย้ายไปประทับยังพระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งได้รับพระราชทานจากองค์พระประมุขแห่งอักฤษ ในช่วงปี ค.ศ. 1930 พระองค์ทรงดูแลเกี่ยวกับการศึกษาและการเลี้ยงดูเจ้าชายฟิลิป พระนัดดาระหว่างการแยกกันอยู่ของพระชนกและพระชนนีและการดูแลสาธารณประโยชน์ของพระชนนี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพอากาศของนาซีเยอรมันทิ้งระเบิดที่พระราชวังเคนซิงตัน ทำให้เจ้าหญิงวิคโทรีอาเสด็จไปประทับยังปราสาทวินด์เซอร์กับสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ในช่วงเวลาหนึ่ง
เจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรียสิ้นพระชนม์ ณ พระราชวังเคนซิงตัน กรุงลอนดอน โดยพระศพฝังอยู่ที่ บน
พระอิสริยยศ
- 5 เมษายน ค.ศ. 1863 - 30 เมษายน ค.ศ. 1883: เฮอร์แกรนด์ดิวคัลไฮเนส เจ้าหญิงวิคโทรีอาแห่งเฮ็สเซินและไรน์ (Her Grand Ducal Highness Princess Victoria of Hesse and by Rhine)
- 30 เมษายน ค.ศ. 1883 - 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1917: เฮอร์แกรนด์ดิวคัลไฮเนส เจ้าหญิงลูทวิชแห่งบัทเทินแบร์ค (Her Grand Ducal Highness Princess Louis of Battenberg)
- 14 - 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1917: เลดี้เมานต์แบ็ทแตน (Lady Mountbatten)
- 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1917 - 11 กันยายน ค.ศ. 1921: ท่านผู้หญิงมาร์ชเนสแห่งมิลด์ฟอร์ดฮาเว็น (The Most Honourable The Marchioness of Milford Haven)
- 11 กันยายน ค.ศ. 1921 - 24 กันยายน ค.ศ. 1950: ท่านผู้หญิงมาร์ชเนสหม้ายแห่งมิลด์ฟอร์ดฮาเว็น (The Most Honourable The Dowager Marchioness of Milford Haven)
อ้างอิง
- (1984). Louis and Victoria: The Family History of the Mountbattens. Second edition. London: Weidenfeld and Nicolson. p. 28. ISBN .
- Hough, p.29
- Hough, p.30
- Hough, p.34
- Hough, p.36
- Hough, pp.46–48
- Vickers, Hugo (2004), "Mountbatten, Victoria Alberta Elisabeth Mathilde Marie, marchioness of Milford Haven (1863–1950)", Oxford Dictionary of National Biography, Oxford University Press
- Hough, p.50
- Hough, p.57
- Hough, p.114
- (1985). Mountbatten. London: Collins. p. 24. ISBN .
- Hough, pp.117–122
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud ecahyingwikhothrixa xlaebrtha exlisaebth mathiledx mari aehngehsesinaelarimirn eyxrmn Viktoria Alberta Elisabeth Mathilde Marie von Hessen und bei Rhein hruxphranamhlngkarsmrskhux wiktxeriy emantaebthaetn marechxensaehngmildfxrdehewn xngkvs Victoria Mountbatten Marchioness of Milford Haven epnecahyingeyxrmncakaekrnddchchiehsesin sungsmrsekhasuphrarachwngsxngkvs epnphrathidaxngkhihykhxngluthwichthi 4 aekrnddyukaehngehsesin kbecahyingxlisaehngshrachxanackr thaihthrngmiskdiepnphrarachnddainsmedcphrarachininathwiktxeriyaehngshrachxanackrecahyingwikhothrixamarechxensaehngmilfxrdehewnprasuti5 emsayn kh s 1863 1863 04 05 windesxr barkesxr praethsxngkvs shrachxanackrsinphrachnm24 knyayn kh s 1950 1950 09 24 87 pi lxndxn praethsxngkvs shrachxanackrfngphrasph28 knyayn kh s 1950 St Mildred s Church Whippibgham ixlxxfiwtphraswamiecachayluthwichaehngbthethinaebrkhphranametmwikhothrixa xlaebrtha exlisaebth mathiledx mariphrabutrecahyingxlisaehngbthethinaebrkh luys emantaebthaetn hluys emantaebthaetnrachwngsehsesin darmchtthphrabidaluthwichthi 4 aekrnddyukaehngehsesinphramardaecahyingxlisaehngshrachxanackr phrachnnikhxngphraxngkhsinphrachnmkhnathiphrakhnisthaaelaphraxnuchayngthrngphraeyaw cungthaihthrngmipharakhwamrbphidchxbtxthukphraxngkhkxnewlaxnkhwr phraxngkhthrngxphiesksmrskbecachayluthwichaehngbthethinaebrkh phrayatichnthihnungsungthrngrbrachkarxyuinrachnawiaehngxngkvsdwykhwamrkaelathrngmichiwitsmrsinsthanthitang khxngthwipyuorp xnepnsthanthiptibtirachkarinrachnawikhxngphraswami aelaidesdceyiymphraprayuryatidwy inchwngsngkhramolkkhrngthi 1 ecahyingaelaphraswamithrngslaphraxisriyyseyxrmnaelaichrachskulthifngduepnxngkvswa emantaebtethn phrakhnisthasxngphraxngkhsungidxphiesksmrsekhaipyngthrngthukplngphrachnmodyklumptiwtikhxmmiwnist phraxngkhthrngmithsnkhtiaebbesriniym epidephy chxbptibti aelachlad nxkcakniphraxngkhyngidepnphraxyyikakhxngecachayfilip dyukaehngexdinbara phrarachswamiinsmedcphrarachininathexlisaebththi 2 xikdwychiwitinwyeyawecahyingwikhothrixaprasutiinwnxisetxr n prasathwindesxr odysmedcphrarachininathwiktxeriy phraxyyikaidesdcmaprathbxyudwy phraxngkhthrngekharbsilcumtamaebbnikayluethxrnphayinxxmphrakrkhxngsmedcphrarachininathinwnthi 27 emsayn phraxngkhthrngmichiwitinwyeyawthiemuxngebssunekin praethseyxrmni emuxmiphrachnmayuid 3 phrrsa khrxbkhrwkhxngphraxngkhidyayipprathbyngphrarachwngihm emuxngdarmchtth sungecahyingprathbinhxngediywkbecahyingexlla phrakhnisthacnkrathngecriyphrachnmekhasuwydruni inchwngkarbukaekhwnehsesinineduxnminakhm kh s 1866 phraxngkhphrxmdwyecahyingexlla phrakhnisthathrngthuksngipyngpraethsxngkvsephuxipprathbkbphraxyyikacnkrathngsngkhramsinsudlngodykarrwmaekhwnehsesinepnswnhnungkhxngprsesiy phraxngkhthrngidrbkarsuksainaebbswnphraxngkhthunginradbmatrthanthisungmak aelayngthrngepnnkxanhnngsuxxyutlxdphrachnmchiphxikdwy inchwngsngkhramfrngess prsesiyinpi kh s 1870 phraxngkhcaidwainkhnathrngchwythasupxyuinkhrwkbphrachnni sungthrngthuksuprxnlwkthiaekhn orngphyabalsahrbthharidtngkhunxyuinekhtphrarachwngaelathamklangkhwamhnawehnbkhxngvduhnaw emuxpi kh s 1872 phraxnuchachnsa 18 eduxnthrngidrbkarwinicchywaepn karwinicchydngklawsrangkhwamtktalungaekrachwngsthwthngthwipyuorp enuxngcakwaepnewlayisibpimaaelwthismedcphrarachininathwiktxeriythrngmiprasutikalecachaylioxophld dyukaehngxxlbani phrarachoxrsthiepnorkhehomfieliy epnkarchiihehnkhrngaerkwakhwamphidpktikhxngkarhlngeluxdinphrarachwngsepnkarthaythxdthangphnthukrrm inpitxma ecachayfritti thrngtklngmacakphrabychrlngsubnidhinaelasinphrachnminthisud nbepnosknatkrrmkhrngaerkinhlay khrngthirumeraecahyingwikhothrixa emuxpi kh s 1978 ecahyingwikhothrixathrngidrbechuxorkhkhxtib ecahyingexllathrngyayxxkcakhxngthnthi phraxngkhthrngepnsmachikinkhrxbkhrwphraxngkhediywthirxdphncakorkhdngklaw phrachnniidphyabalduaelecahyingwikhothrixaaelasmachikphraxngkhxun xyuepnewlahlaywn aelainthisud phrakhnisthaxngkhelkkhxngecahyingidsinphrachnmlng emuxkhrxbkhrwduehmuxnwaxakardikhun phrachnnikhxngecahyingwikhothrixaerimprachwr phraxngkhsinphrachnmemuxwnthi 14 thnwakhm sungepnwnkhrxbrxbkarsinphrachnmkhxngecachayxlebirt inthanaphrathidaxngkhihy ecahyingwikhothrixathrngrbhnathiehmuxnepnmardaihkbphraoxrsaelathidaxngkhelk aelaesdcekhiyngkhangphrachnk phraxngkhthrngekhiynwa karsinphrachnmkhxngphramardaepnkarsuyesiythiimsamartheriykkhunid chwngwyedkkhxngeracbsinlngphrxmkbkarsinphrachnmkhxngphraxngkh ephraawaeraidklayepnphiihysudaelamikhwamrbphidchxbmakthisud xphiesksmrs aela khrxbkhrwinkarrwmtwknkhxngsmachikinphrarachwngs ecahyingwikhothrixathrngphbkbphrayatichnthihnungkhxngphraxngkhxyuepnpracakhux ecachayluthwichaehngbthethinaebrkh ecachaycakrtheyxrmnelk aehnghnungsungthrngepliynsychatimaepnchawxngkvsaelarbrachkarepnthharxyuinrachnawixngkvs inchwngvduhnawpi kh s 1882 thngsxngphraxngkhthrngphbknxikkhrngthiemuxngdarmchtthaelahmnkninvdurxnpithdma hlngcakkareluxnxxkipepnchwngrayaewlasn xnenuxngmacakkarsinphrachnmkhxngecachayeloxophld ecahyingidthrngxphiesksmrskbecachayluthwichinwnthi 30 emsayn kh s 1884 n emuxngdarmchtth phrachnkkhxngphraxngkhimthrngehndwykbkareluxkxphiesksmrs odyinmummxngkhxngphrachnk ecachayluthwichimthrngrarwyenginthxngmaknkaelacaphrakecahyingipcakkarepnephuxnekhiyngkhang ephraathngsxngphraxngkhcaepntxngesdcipprathbxyuintangaednthipraethsxngkvs xyangirktam ecahyingwikhothrixathrngepntwkhxngtwexngaelaimidthrngisphrathykbkhwamimphxickhxngphrachnkmaknk yingnaaeplkicipkwann phrachnkkhxngecahyingwikhothrixathrngxphiesksmrsxyanglb intxneynwnediywknkbxelksandrin ed okhelmien nangsnmthiirysskdisungepnxditphrryakhxngxupthutchawrsesiypracaemuxngdarmchtth karxphiesksmrskbhyingsamychnthihyarangmaaelwsrangkhwamtkickbphrarachwngsxun inthwipyuorp aeladwykhwamkddnthangkhrxbkhrwaelakarthut cungthaihtxngthrngykelikkarxphiesksmrs ecahyingwikhothrixaaelaecachayluthwich miphraoxrsaelathidarwm 4 phraxngkh khux ecahyingxlisaehngbthethinaebrkh wiktxeriy xlis exlisaebth culi mari 25 kumphaphnth kh s 1885 5 thnwakhm kh s 1969 thrngxphiesksmrsemuxwnthi 7 tulakhm kh s 1903 n emuxngdarmchtth kb ecachayaexndruwaehngkrisaelaednmark 1 kumphaphnth kh s 1882 3 thnwakhm kh s 1944 phrachnniinecachayfilip dyukaehngexdinbara ecahyingluxiesxaehngbthethinaebrkh hluys xelksandra mari ixrin 13 krkdakhm kh s 1889 7 minakhm kh s 1965 thrngxphiesksmrsknemuxwnthi 3 phvscikayn kh s 1923 n phrarachwngesntecms kb ecachaykustaf xdxlf mkudrachkumaraehngswiedn 11 phvscikayn kh s 1882 15 knyayn kh s 1973 thrngdarngphraxisriyysepn smedcphrarachiniaehngswiedn hlngkareswyrachsmbtikhxngphraswami ecachaycxrcaehngbthethinaebrkh cxrc hluys wiketxr ehnri esxrc 6 phvscikayn kh s 1892 8 emsayn kh s 1938 thrngdarngtaaehnng markhwisthi 2 aehngmilfxrdhaewn exirlaehngemdina aelaiwsekhanthxledxreny emuxwnthi 11 knyayn kh s 1921 thrngxphiesksmrswnthi 15 phvscikayn kh s 1916 n obsthhlwng phrarachwngesntecms krunglxndxn kb ekhanthets naedcda mikhaxilxfna edx thxrbi 28 minakhm kh s 1896 22 mkrakhm kh s 1963 ecachayluthwichaehngbthethinaebrkh hluys fransis xlebirt wiketxr niokhlas 25 mithunayn kh s 1900 27 singhakhm kh s 1979 thrngidrbkarechlimphraxisriyysepn exirlemantaebthaetnaehngphma aelabarxnrxmsiy emuxwnthi 28 tulakhm kh s 1947 thrngdarngtaaehnngepn xuprachaehngxinediy rahwangwnthi 21 kumphaphnth thungwnthi 15 singhakhm kh s 1947 thrngdarngtaaehnngepn rahwangwnthi 15 singhakhm kh s 1947 thungwnthi 21 mithunayn kh s 1948 thrngxphiesksmrsemuxwnthi 22 krkdakhm kh s 1922 n krunglxndxn kb exdwina sinethiy aexnent aexchliy 28 phvscikayn kh s 1901 21 kumphaphnth kh s 1960 phraswamikhxngecahyingthrngptibtirachkarthharxyuinrachnawixngkvsaelathngsxngphraxngkhkidprathbxyuintahnkhlaythi aela emuxngyueknihm emuxecachayluthwichthrngrbrachkarxyuinkxngthpheruxemdietxrereniyn ecahyingkyngthrngprathbinmxltainbangvduhnawdwyplayphrachnmchiphecachayluthwichthrngthukbngkhbihlaxxkcakrachnawixngkvsinchwngerimaerkkhxngsngkhramolkkhrngthi 1emuxphumihlngeyxrmnkhxngphraxngkhklayepnkhwamlabakic aelathngsxngphraxngkhcungesdcipxyu bninchwngsngkhram khwamepnprpkskhxngsatharnchnxyangimhyudyngtxeyxrmni thaihphramhakstriy smedcphraecacxrcthi 5 aehngshrachxanackr thrngslaphraxisryyseyxrmnthnghmd khnaediywknecachayluthwichaelaecahyingwikhothrixakthrngslaphraxisriyyskhxngphraxngkh aelathrngepliynchuxrachskulbthethinaebrkhihepnphasaxngkvswa emantaebthaetn inwnthi 14 krkdakhm kh s 1917 xiksamwntxmaecachaythrngidrbphrarachthanyskhunnangcaksmedcphraecacxrcthi 5 ihdarngphraxisriyysepnmarkhwisaehngmilfxrdhaewn hlngcakkarptiwtirsesiyeduxntulakhmphwkbxlechwikhidplngphrachnmphrakhnisthainecahyingwikhothrixasxngphraxngkhkhux smedcphrackrphrrdinixelksandra efoxodrxfnaaehngrsesiy aela aekrnddchechsexlisaebth efoxodrxfnaaehngrsesiy phrachayain karsinphrachnmkhxngecachayluthwichhlngcaksngkhramsinsudlngsampi ecahyingwikhothrixathrngyayipprathbyngphrarachwngekhnsingtn sungidrbphrarachthancakxngkhphrapramukhaehngxkvs inchwngpi kh s 1930 phraxngkhthrngduaelekiywkbkarsuksaaelakareliyngduecachayfilip phranddarahwangkaraeykknxyukhxngphrachnkaelaphrachnniaelakarduaelsatharnpraoychnkhxngphrachnni inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 kxngthphxakaskhxngnasieyxrmnthingraebidthiphrarachwngekhnsingtn thaihecahyingwikhothrixaesdcipprathbyngprasathwindesxrkbsmedcphraecacxrcthi 6 inchwngewlahnung ecafahyingwiktxeriysinphrachnm n phrarachwngekhnsingtn krunglxndxn odyphrasphfngxyuthi bnphraxisriyys5 emsayn kh s 1863 30 emsayn kh s 1883 ehxraekrnddiwkhlihens ecahyingwikhothrixaaehngehsesinaelairn Her Grand Ducal Highness Princess Victoria of Hesse and by Rhine 30 emsayn kh s 1883 14 krkdakhm kh s 1917 ehxraekrnddiwkhlihens ecahyingluthwichaehngbthethinaebrkh Her Grand Ducal Highness Princess Louis of Battenberg 14 17 krkdakhm kh s 1917 eldiemantaebthaetn Lady Mountbatten 17 krkdakhm kh s 1917 11 knyayn kh s 1921 thanphuhyingmarchensaehngmildfxrdhaewn The Most Honourable The Marchioness of Milford Haven 11 knyayn kh s 1921 24 knyayn kh s 1950 thanphuhyingmarchenshmayaehngmildfxrdhaewn The Most Honourable The Dowager Marchioness of Milford Haven xangxing 1984 Louis and Victoria The Family History of the Mountbattens Second edition London Weidenfeld and Nicolson p 28 ISBN 0297784706 Hough p 29 Hough p 30 Hough p 34 Hough p 36 Hough pp 46 48 Vickers Hugo 2004 Mountbatten Victoria Alberta Elisabeth Mathilde Marie marchioness of Milford Haven 1863 1950 Oxford Dictionary of National Biography Oxford University Press Hough p 50 Hough p 57 Hough p 114 1985 Mountbatten London Collins p 24 ISBN 0002165430 Hough pp 117 122