เจ้าหญิงชามส์ ปาห์ลาวี (เปอร์เซีย:شمس پهلوی, ประสูติ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1917 - สิ้นพระชนม์ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996) พระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก และเป็นพระเชษฐภคินีในพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ชาห์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ปาห์ลาวี และระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในประเทศอิหร่าน
เจ้าหญิงชามส์ ปาห์ลาวี | |
---|---|
เจ้าหญิงแห่งอิหร่าน | |
ประสูติ | 18 ตุลาคม ค.ศ. 1917 กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน |
สิ้นพระชนม์ | 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 (79 ปี) เมืองซานตาบาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา |
พระสวามี | เฟเรย์ดัน แจม (หย่า) เมหร์ดาด ปาหร์บอด |
พระบุตร | ชาห์บอซ ปาหร์บอด ชาห์ยาร์ ปาหร์บอด ชาห์ราซาด ปาหร์บอด |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ปาห์ลาวี |
พระบิดา | พระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี |
พระมารดา | สมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก |
พระประวัติ
เจ้าหญิงชามส์ ปาห์ลาวี ประสูติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1917 ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ทรงพระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก พระองค์มีพระอนุชา 2 พระองค์ และพระขนิษฐา 1 พระองค์ คือ มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด เรซา เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี และเจ้าชายอาลี เรซา ปาห์ลาวีที่ 1
ในระหว่างการเสด็จประพาสทวีปยุโรปใน ค.ศ. 1936 เจ้าหญิงชามส์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก และพระขนิษฐา ได้ประทับอยู่ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน โดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำในขณะนั้น ได้ให้ความเป็นมิตรแก่พระราชวงศ์อิหร่านขณะที่พำนักอยู่ โดยประเทศอิหร่านในขณะนั้น เป็นหนึ่งในกว่า 10 ประเทศ ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศเยอรมัน โดยมีการรับคนจำนวนมากเพื่อมาทำงานในอุตสาหกรรมตั๋วเดินทาง และศิลปศาสตร์การบิน
เสกสมรส
เจ้าหญิงชามส์ได้เสกสมรสครั้งแรกกับนายเฟเรย์ดัน แจม (Fereydoun Jam) บุตรของนายมะห์มุด แจม (Mahmood Jam) อดีตนายกรัฐมนตรีของอิหร่าน ภายใต้การคลุมถุงชนของพระราชบิดา แต่ภายหลังจากการสวรรคตของพระราชบิดา เจ้าหญิงชามส์ และพระสวามีจึงได้หย่าขาดจากกัน
ขณะที่พระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี พระราชบิดา ถูกบังคับให้สละราชสมบัติ เจ้าหญิงชามส์พร้อมด้วยพระราชวงศ์จำนวนหนึ่งได้เสด็จลี้ภัยในกรุงพอร์ตลูอิส ประเทศมอริเชียส และเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ตามลำดับ โดยขณะที่เจ้าหญิงชามได้ประทับนอกพระราชอาณาจักร เจ้าหญิงชามส์ได้เขียนบันทึกประจำวัน และได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เอตตาลาอัต (Ettela'at) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายเดือน ในปี ค.ศ. 1948
เจ้าหญิงชามส์ที่ปราศจากพระยศได้เสกสมรสอีกครั้งกับนายเมหร์ดาด ปาหร์บอด และเจ้าหญิงได้เสด็จไปประทับในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1945 จนถึง ค.ศ. 1947 อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหญิงชามส์ และพระสวามีได้เสด็จนิวัตประเทศอิหร่านในกรุงเตหะราน ก่อนที่จะเกิดเหตุความวุ่ยวายที่เมืองอะบาดาน เจ้าหญิงชามส์มีพระโอรส-ธิดากับนายเมหร์ดาด จำนวน 3 องค์ คือ เจ้าชายชาห์บอซ ปาหร์บอด (ประสูติ ธันวาคม ค.ศ. 1946), เจ้าชายชาห์ยาร์ ปาหร์บอด (ประสูติ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1949) และเจ้าหญิงชาห์ราซาด ปาหร์บอด (ประสูติ 12 กันยายน ค.ศ. 1952) ต่อมาเจ้าหญิงชามส์ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในปี ค.ศ. 1940 และได้สร้างโบสถ์ส่วนพระองค์ที่พระตำหนักในเมืองเมหร์ชาหร์ โดยพระสวามี และพระโอรสธิดาก็หันมานับถือศาสนาคริสต์ตามพระองค์ และพระองค์เสด็จไปยังประเทศอิตาลี และนครรัฐวาติกันหลายครั้ง เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งถือเป็นประมุขแห่งคริสตจักร
หลังการก่อรัฐประหารในสมัยของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์ เจ้าหญิงชามส์ได้มีความขัดแย้งกับเจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี ซึ่งเป็นพระขนิษฐา ในเรื่องของการเป็นผู้จัดการมรดก และสมบัติมากมายที่ได้มาจากพระราชบิดา ในปลายปี ค.ศ. 1960 เจ้าหญิงได้พระราชวังโมราวิด ในเมืองการาจ ใกล้เมืองเมหร์ชาหร์ และพระตำหนักวิลล่า เมห์ราฟารีน ในเมืองคาเลาส์ จังหวัดมาซานดาราน
เสด็จเยือนไทย
เจ้าหญิงชามส์ เคยเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ 15-19 เมษายน พ.ศ. 2507 โดยพระยาศัลวิธานนิเทศสมุหราชพระมณเฑียร เป็นผู้แทนพระองค์รับเสด็จ ณ สนามบินดอนเมือง และประทับในพระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ก่อนที่จะเสด็จไปประพาสท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหญิง และพระสวามี พร้อมด้วยบุคคลในคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
สิ้นพระชนม์
ภายหลังจากการยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แล้วเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐอิสลาม เจ้าหญิงชามส์ได้เสด็จลี้ภัย โดยประทับในสหรัฐอเมริกา และภายหลังเจ้าชามส์ได้สิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 สิริรวมพระชนมายุได้ 79 พรรษา
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-15. สืบค้นเมื่อ 2010-02-19.
- Institute for Iranian Contemporary Historical Study
- สำนักราชเลขาธิการ[]
แหล่งข้อมูลอื่น
- Genealogy of the Pahlavi Dynasty
- Picture of a young Princess Shams Pahlavi
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha ecahyingchams pahlawi epxresiy شمس پهلوی prasuti 18 tulakhm kh s 1917 sinphrachnm 29 kumphaphnth kh s 1996 phrarachthidainphraecachah ersa pahlawi kbsmedcphrarachinitac xl omluk aelaepnphraechsthphkhiniinphraecachah omhmhmd ersa pahlawi chahxngkhsudthayaehngrachwngspahlawi aelarabxbsmburnayasiththirachyinpraethsxihranecahyingchams pahlawiecahyingaehngxihranprasuti18 tulakhm kh s 1917 krungetharan praethsxihransinphrachnm29 kumphaphnth kh s 1996 79 pi emuxngsantabarbara rthaekhlifxreniy shrthxemrikaphraswamieferydn aecm hya emhrdad pahrbxdphrabutrchahbxs pahrbxd chahyar pahrbxd chahrasad pahrbxdrachwngsrachwngspahlawiphrabidaphraecachah ersa pahlawiphramardasmedcphrarachinitac xl omlukphraprawtiecahyingchams pahlawi prasutiemuxwnthi 18 tulakhm kh s 1917 n krungetharan praethsxihran thrngphrarachthidainphraecachah ersa pahlawi kbsmedcphrarachinitac xl omluk phraxngkhmiphraxnucha 2 phraxngkh aelaphrakhnistha 1 phraxngkh khux mkudrachkumaromhmhmd ersa ecahyingxchraf pahlawi aelaecachayxali ersa pahlawithi 1 inrahwangkaresdcpraphasthwipyuorpin kh s 1936 ecahyingchams phrxmdwysmedcphrarachinitac xl omluk aelaphrakhnistha idprathbxyuinkrungebxrlin praethseyxrmn odyxdxlf hitelxr phunainkhnann idihkhwamepnmitraekphrarachwngsxihrankhnathiphankxyu odypraethsxihraninkhnann epnhnunginkwa 10 praeths thimikhwamsmphnthiklchidkbpraethseyxrmn odymikarrbkhncanwnmakephuxmathanganinxutsahkrrmtwedinthang aelasilpsastrkarbinesksmrsecahyingchams aelaphraswami ecahyingchamsidesksmrskhrngaerkkbnayeferydn aecm Fereydoun Jam butrkhxngnaymahmud aecm Mahmood Jam xditnaykrthmntrikhxngxihran phayitkarkhlumthungchnkhxngphrarachbida aetphayhlngcakkarswrrkhtkhxngphrarachbida ecahyingchams aelaphraswamicungidhyakhadcakkn khnathiphraecachah ersa pahlawi phrarachbida thukbngkhbihslarachsmbti ecahyingchamsphrxmdwyphrarachwngscanwnhnungidesdcliphyinkrungphxrtluxis praethsmxriechiys aelaemuxngoyhnensebirk praethsaexfrikaittamladb odykhnathiecahyingchamidprathbnxkphrarachxanackr ecahyingchamsidekhiynbnthukpracawn aelaidtiphimphinhnngsuxphimphexttalaxt Ettela at sungepnhnngsuxphimphrayeduxn inpi kh s 1948 ecahyingchamsthiprascakphraysidesksmrsxikkhrngkbnayemhrdad pahrbxd aelaecahyingidesdcipprathbinshrthxemrikainpi kh s 1945 cnthung kh s 1947 xyangirktam phayhlngecahyingchams aelaphraswamiidesdcniwtpraethsxihraninkrungetharan kxnthicaekidehtukhwamwuywaythiemuxngxabadan ecahyingchamsmiphraoxrs thidakbnayemhrdad canwn 3 xngkh khux ecachaychahbxs pahrbxd prasuti thnwakhm kh s 1946 ecachaychahyar pahrbxd prasuti 21 krkdakhm kh s 1949 aelaecahyingchahrasad pahrbxd prasuti 12 knyayn kh s 1952 txmaecahyingchamsidepliynipnbthuxsasnakhristnikayormnkhathxlik inpi kh s 1940 aelaidsrangobsthswnphraxngkhthiphratahnkinemuxngemhrchahr odyphraswami aelaphraoxrsthidakhnmanbthuxsasnakhristtamphraxngkh aelaphraxngkhesdcipyngpraethsxitali aelankhrrthwatiknhlaykhrng ephuxekhaefasmedcphrasntapapa sungthuxepnpramukhaehngkhristckr hlngkarkxrthpraharinsmykhxngphraecachah omhmhmd ersa pahlawi sungepnphraxnuchakhxngphraxngkh ecahyingchamsidmikhwamkhdaeyngkbecahyingxchraf pahlawi sungepnphrakhnistha ineruxngkhxngkarepnphucdkarmrdk aelasmbtimakmaythiidmacakphrarachbida inplaypi kh s 1960 ecahyingidphrarachwngomrawid inemuxngkarac iklemuxngemhrchahr aelaphratahnkwilla emhrafarin inemuxngkhaelas cnghwdmasandaranesdceyuxnithyecahyingchams ekhyesdceyuxnpraethsithyepnkarswnphraxngkh emuxwnthi 15 19 emsayn ph s 2507 odyphrayaslwithanniethssmuhrachphramnethiyr epnphuaethnphraxngkhrbesdc n snambindxnemuxng aelaprathbinphrathinngbrmphiman inphrabrmmharachwng kxnthicaesdcippraphasthxngethiywinemuxngechiyngihm odyphrabathsmedcphraecaxyuhw oprdekla ihecahying aelaphraswami phrxmdwybukhkhlinkhna efathullaxxngphrabath n phratahnkphuphingkhrachniewsnsinphrachnmphayhlngcakkarykelikrabxbsmburnayasiththirachy aelwepliynaeplngkarpkkhrxngepnsatharnrthxislam ecahyingchamsidesdcliphy odyprathbinshrthxemrika aelaphayhlngecachamsidsinphrachnmlngdwyorkhmaerngemuxwnthi 29 kumphaphnth kh s 1996 sirirwmphrachnmayuid 79 phrrsaxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 05 15 subkhnemux 2010 02 19 Institute for Iranian Contemporary Historical Study sankrachelkhathikar lingkesiy aehlngkhxmulxunGenealogy of the Pahlavi Dynasty Picture of a young Princess Shams Pahlavi