อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส (Eleftherios Venizelos; ชื่อเต็ม : อีเลฟเทรีออส คีรีอาคู เวนิเซลอส ;Elefthérios Kyriákou Venizélos, กรีก: Ἐλευθέριος Κυριάκου Βενιζέλος ; 23 สิงหาคม ค.ศ. 1864 - 18 มีนาคม ค.ศ. 1936) เป็นผู้นำชาวกรีกที่ประสบความสำเร็จในขบวนการปลดปล่อยชาติกรีกและเป็นรัฐบุรุษที่มีเสน่ห์ในช่วงยุคต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นที่จดจำจากการส่งเสริมนโยบายแนวเสรีนิยมประชาธิปไตย เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งกรีซหลายสมัย โดยดำรงตำแหน่งระหว่างค.ศ. 1910 ถึงค.ศ. 1920 และตั้งแต่ค.ศ. 1928 ถึงค.ศ. 1932 เวนิเซลอสเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในกิจการทั้งภายในและภายนอกของกรีซ ซึ่งทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "ผู้สร้างกรีซสมัยใหม่" และยังคงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะ "" (Ethnarch)
อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส Ελευθέριος Βενιζέλος | |
---|---|
นายกรัฐมนตรีกรีซ | |
ดำรงตำแหน่ง 19 ตุลาคม ค.ศ. 1910 – 10 มีนาคม ค.ศ. 1915 (4 ปี 142 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 1 พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 23 สิงหาคม ค.ศ. 1915 – 7 ตุลาคม ค.ศ. 1915 (0 ปี 45 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 27 มิถุนายน ค.ศ. 1917 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920 (3 ปี 143 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 11 มกราคม ค.ศ. 1924 – 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1924 (0 ปี 26 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 2 |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1928 – 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1932 (3 ปี 327 วัน) | |
ประธานาธิบดี | |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 5 มิถุนายน ค.ศ. 1932 – 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1932 (0 ปี 152 วัน) | |
ประธานาธิบดี | |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 16 มกราคม ค.ศ. 1933 – 6 มีนาคม ค.ศ. 1933 (0 ปี 49 วัน) | |
ประธานาธิบดี | |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1910 – 6 ตุลาคม ค.ศ. 1910 (0 ปี 157 วัน) | |
ก่อนหน้า | (ในฐานะข้าหลวงใหญ่) |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1908 – ค.ศ. 1910 | |
ดำรงตำแหน่ง 17 เมษายน ค.ศ. 1899 – 18 มีนาคม ค.ศ. 1901 (1 ปี 335 วัน) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 สิงหาคม ค.ศ. 1864 ครีต จักรวรรดิออตโตมัน |
เสียชีวิต | 18 มีนาคม ค.ศ. 1936 (อายุ 71 ปี) ปารีส ฝรั่งเศส |
ศาสนา | |
พรรคการเมือง | |
คู่สมรส | มาเรีย คาเตลูซู (ค.ศ. 1891 - 1894) เอเลนา สกีลิตซี (ค.ศ. 1921 - 1936) |
บุตร | คีรีอาคอส เวนิเซลอส |
ญาติ | (หลาน) |
ศิษย์เก่า | (National and Kapodistrian University of Athens) |
วิชาชีพ | นักการเมือง ทนายความ นักกฎหมาย สื่อมวลชน นักแปล |
ลายมือชื่อ | |
การเข้ามามีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศครั้งแรกของเขาคือการที่เขามีบทบาทสำคัญในการดำเนินการความเป็นอิสระของและหลังจากนั้นได้รวมเกาะครีตเข้ากับกรีซ ในเวลาโดยเร็ว เขาถูกเชิญไปยังกรีซเพื่อแก้ไขปัญหาการชะงักงันทางการเมืองและกลายเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ไม่เพียงแต่เขาเริ่มต้นการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำให้สังคมกรีกมีความเป็นสมัยใหม่ และยังได้จัดตั้งทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือขึ้นมาใหม่เพื่อเตรียมการกับความขัดแย้งในอนาคต ก่อนสงครามบอลข่านในปีค.ศ. 1912 - 1913 บทบาทที่เป็นตัวเร่งของเวนิเซลอสได้ชาวยให้กรีซสามารถเข้าร่วมสันนิบาตบอลข่าน ซึ่งเป็นกลุ่มสัมพันธมิตรของรัฐบอลข่านเพื่อต่อต้านจักรวรรดิออตโตมัน โดยผ่านความเฉียบแหลมทางการทูต พื้นที่และประชากรของกรีซได้เพิ่มทวีมากขึ้นจากการปลดปล่อยมาซิโดเนีย, และส่วนที่เหลือของหมู่เกาะอีเจียน
ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 1914 - 1918) เขาได้นำกรีซไปเข้ากับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อขยายพรมแดนกรีก อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายต่างประเทศที่สนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำให้เขามีความขัดแย้งโดยตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก่อให้เกิด ความแตกแยกนี้ได้ก่อให้เกิดการแบ่งขั้วในหมู่ประชาชนระหว่างฝ่ายกษัตริย์นิยมและ (Venizelists; เวนิเซลิสต์) และเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจระหว่างทั้งสองกลุ่มที่ได้บั่นทอนทำลายการเมืองและชีวิตทางสังคมของกรีซมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ ต่อมาฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ เวนิเซลอสได้รับดินแดนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอานาโตเลีย ซึ่งทำให้ใกล้เคียงความเป็นจริงยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่เวนิเซลอสได้พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปีค.ศ. 1920 ซึ่งในที่สุดทำให้กรีซพ่ายแพ้ใน เวนิเซลอสซึ่งได้เนรเทศตัวเองออกไป ได้เป็นตัวแทนของกรีซในการเจรจาที่นำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาโลซานและข้อตกลงการแลกเปลี่ยนร่วมกันในระดับประชากรระหว่างกรีซและตุรกี
ในช่วงเวลาที่เวนิเซลอสยังดำรงตำแหน่งอยู่ ได้ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในระดับปกติกับประเทศเพื่อนบ้านของกรีซและได้ขยายการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและเศรษฐกิจ ในปีค.ศ. 1935 เวนิเซลอสได้เปลี่ยนแนวคิดหลังจากการเกษียณอายุราชการโดยการสนับสนุนการรัฐประหารโดยกองทัพ และเขาได้จัดตั้งที่มีความอ่อนแอและล้มเหลวอย่างรุนแรง
ต้นกำเนิดและช่วงต้นของชีวิต
บรรพบุรุษ
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 บรรพบุรุษของเวนิเซลอส ชื่อว่า คราฟวาตัส อาศัยอยู่ที่เมือง ในเพโลพอนนีสตอนใต้ ในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันเข้ารุกรานคาบสมุทรในปีค.ศ. 1770 สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวคราฟวาตัส นามว่า เวนิเซลอส คราฟวาตัส ซึ่งเป็นน้องชายคนสุดท้องของครอบครัว ได้เตรียมการหลบหนีไปยังครีตและลงหลักปักฐานที่นั่นด้วยตัวเอง ลูกชายของเขาไเละงนามสกุลของบรรพบุรุษและเรียกนามสกุลตนเองว่า เวนิเซลอส ครอบครัวมีต้นกำเนิดเป็นชาว, และชาวครีตัน
ครอบครัวและการศึกษา
อีเลฟเทริออสเกิดที่ ใกล้เมือง (มักรู้จักในนามว่า คาเนีย) ครีต ในสมัยที่ออตโตมันครอบครอง เป็นบุตรของ พ่อค้าและนักปฏิวัติชาวครีต เมื่อเกิด ครอบครัวเวนิเซลอสได้หลบหนีไปยังเกาะ เนื่องจากการที่บิดาของเขามีส่วนร่วมในการก่อการปฏิวัติ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมายังครีตและอาศัยอยูที่ซีรอสจนถึงปีค.ศ. 1872 เมื่อสุลต่านอับดุล อะซีซทรงพระราชทานอภัยโทษ
เขาใช้เวลาในปีสุดท้ายของการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนใน เกาะซีรอส ซึ่งเขาได้รับประกาศนียบัตรในปีค.ศ. 1880 ในปีค.ศ. 1881 เขาเข้าศึกษาที่ ในสำนักนิติศาสตร์ และได้รับปริญญาในด้านนิติศาสตร์ด้วยคะแนนยอดเยี่ยม เขาได้กลับมายังครีตในปีค.ศ. 1886 และทำงานในฐานะทนายความที่ชาเนีย ตลอดชีวิตของเขาเขายังคงรักในการอ่านอย่างต่อเนื่องและได้รับการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ, ภาษาอิตาเลียน, ภาษาเยอรมันและภาษาฝรั่งเศส
เข้าสู่การเมือง
สถานการณ์ในครีตช่วงต้นชีวิตของเวนิเซลอสเป็นที่ราบรื่น จักรวรรดิออตโตมันถูกบั่นทอนทำลายด้วยการปฏิรูปซึ่งอยู่ภายใต้ความกดดันของนานาชาติ ในขณะที่ชาวครีตปรารถนาที่จะเห็นสุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 ทรงละทิ้ง "พวกนอกรีตที่น่ารังเกียจ" ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ เวนิเซลอสได้เข้าสู่วงการการเมืองด้วยการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1889 ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคเสรีนิยมของเกาะ ในฐานะผู้แทน เขาได้ประสบความสำเร็จจากการพูดที่มีคารมคมคายและความคิดเห็นที่รุนแรงของเขา
อาชีพทางการเมืองในครีต
การลุกฮือของชาวครีตัน
เบื้องหลัง
การปฏิวัติหลายครั้งในครีต ในช่วงระหว่างและหลังสงครามประกาศอิสรภาพกรีซ (ค.ศ. 1821, 1833, 1841, 1858, 1866, 1878, 1889, 1895, 1897) เป็นผลมาจากความปรารถนาของชาวครีตันสำหรับการทำอีโนซิส (Enosis) คือการรวมเข้ากับกรีซ ใน ทั้งสองฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันภายใต้แรงกดดันของมหาอำนาจ ซึ่งถึงที่สุดด้วยการทำ หลังจากนั้นข้อตกลงได้ถูกรวมอบู่ในบทบัญญัติของสนธิสัญญาเบอร์ลิน ซึ่งในส่วนภาคผนวกได้มีการยอมให้กับชาวครีตันก่อนหน้านี้ เช่นใน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เป็นพื้นฐานของรัฐ (ค.ศ. 1868) ที่ร่างโดย ในส่วนสรุปของข้อตกลงได้อนุญาตให้มีรัฐบาลชาวกรีกที่มีระดับขนาดใหญ่ในครีตเป็นวิธีการจำกัดความปรารถนาของพวกเขาที่จะลุกขึ้นต่อต้านเจ้านายออตโตมันของพวกเขา แต่ ผู้ซึ่งขึ้นตรงต่อออตโตมันตุรกี ไม่พอใจการปฏิรูปเหล่านี้ ในฐานะที่พวกเขาได้มองว่าการบริหารเกาะได้ถูกส่งผ่านไปยังมือของประชาชนชาวกรีกที่นับถือศาสนาคริสต์ ในทางปฏิบัติ จักรวรรดิออตโตมันมีความล้มเหลวในการบังคับใช้บทบัญญัติของข้อตกลง ดังนั้นจึงเป็นการเติมเชื้อไฟความตึงเครียดที่มีอยู่ระหว่างสองชุมชน ผู้มีอำนาจออตโตมันจะพยายามรักษาความสงบเรียบร้อยโดยการจัดส่งการเพิ่มกำลังทหารอย่างมากในช่วงค.ศ. 1880 - 1896 ตลอดระยะเวลานั้น ปัญหาชาวครีตัน ได้เป็นประเด็นหลักของความขัดแย้งในความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรกรีซกับจักรวรรดิออตโตมัน
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1897 ความรุนแรงและความวุ่นวายได้ทวีมากขึ้นบนเกาะ ทำให้เกิดการแบ่งเป็นสองขั้ว การสังหารหมู่ประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์ได้เกิดขึ้นในและ รัฐบาลกรีกได้รับแรงกดดันจากประชาชน การไม่ยอมอ่อนข้อกับสถานะทางการเมือง กลุ่มชาตินิยมแบบสุดโต่งคือกลุ่ม (Ethniki Etaireia)ที่เกิดขึ้น และความไม่พอใจที่มหาอำนาจไม่เต็มใจเข้าแทรกแซง ทำให้รัฐบาลกรีกได้ตัดสินใจที่จะส่งเรือรบและบุคลากรทางกองทัพเพื่อปกป้องชาวกรีกครีตัน มหาอำนาจไม่มีทางเลือกอื่นและจะดำเนินการยึดครองเกาะ แต่ก็สายไปแล้ว กองทัพกรีกประมาณ 2,000 นายได้ขึ้นฝั่งที่ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1897 และภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอก ได้ประกาศว่าเขายึดเกาะนี้ "ในนามของพระมหากษัตริย์แห่งเฮลลีนส์" และนั่นคือการประกาศรวมครีตเข้ากับกรีซ สิ่งนี้ทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นทั่วทั้งเกาะในทันที มหาอำนาจตัดสินใจปิดล้อมครีตด้วยกองทัพเรือและกองทัพบก ดังนั้นจึงสามารถหยุดกองทัพกรีกที่กำลังจะเข้าเมืองชาเนียได้
เหตุการณ์ที่อาโกรตีรี
เวนิเซลอสในขณะนั้นได้เดินทางหาเสียงเลือกตั้งไปทั่วเกาะ ครั้งหนี่งเขา"เห็นคาเนียในเปลวเพลิง" เขารีบเดินทางไปที่หมู่บ้าน ใกล้เมืองคาเนีย ที่ซึ่งมีการเรียกประชุมพลกลุ่มกบฏประมาณ 2,000 คน และตั้งให้เขาขึ้นเป็นหัวหน้า เขาเสนอการโจมตีพร้อมๆกับกบฏคนอื่นๆโดยโจมตีกองทัพเติร์กที่เพื่อที่จะขับไล่กองทัพออกไปจากที่ราบ (หมู่บ้านมาลาซาอยู่ในที่สูง) ปฏิบัติการของเวนิเซลอสที่อาโกรตีรีได้เป็นการกำหนดตำนานของเขา ผู้คนได้แต่งบทกวีถึงอาโกรตีรีและบทบาทของเขาที่นั่น มีบทบรรณาธิการและบทความที่กล่าวเกี่ยวกับความกล้าหาญของเขา วิสัยทัศน์และความอัจฉริยะทางการทูตของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในความยิ่งใหญ่หลังจากนี้ เวนิเซลอสใช้เวลาทั้งคืนที่อาโกรตีรีและธงชาติกรีซได้ถูกเชิญขึ้น ได้ขอความช่วยเหลือจากผู้บัญชาการกองทัพเรือต่างชาติให้โจมตีกลุ่มกบฏ โดยกองเรือของมหาอำนาจได้ยิงถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏที่อาโกรตีรี ลูกปืนใหญ่ทำให้ธงร่วงหล่นลงมา ซึ่งธงได้ถูกเชิญขึ้นอีกครั้งในทันที มีการเล่าลือเชิงตำนานได้ประกาศถึงปฏิบัติการของเขาในเดือนกุมภาพันธ์นั้น เป็นคำกล่าวต่อไปนี้
“ | ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ [เขา]ได้ถูกสั่งจากผู้บัญชาการเรือให้ลดธงลง และให้สลายกองทัพกบฏ เขาปฏิเสธ! | ” |
“ | เวนิเซลอสมุ่งหน้าสู่ท่า ที่ซึ่งเรือรบจอดทอดสมออยู่และเขาได้อธิบายว่า "คุณมีปืนใหญ่ ก็ยิงไป! แต่ธงของเราจะไม่ลดลงมา"... [หลังจากธงถูกยิง] เวนิเซลอสได้วิ่งไปข้างหน้าแต่เพื่อนของเขาได้หยุดเขาไว้ ทำไมถึงเสี่ยงชีวิตที่มีค่าอย่างไร้ประโยชน์ด้วยเล่า? | ” |
“ | เป็นวันที่สำคัญในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1897 เมื่อ...เขาปฏิเสธคำสั่งของมหาอำนาจผู้ปกครองและมีวลีที่งดงามในหนังสือพิมพ์กรีกว่า "ท้าทายกองทัพเรือแห่งยุโรป" | ” |
“ | ภายใต้การทูตที่ราบรื่นของวันนี้คือ นักปฏิวัติ ผู้ซึ่งแหย่ให้พวกเติร์กออกจากเกาะครีต และหัวหน้าผู้กล้าซึ่งพักอยู่กับกลุ่มกบฏน้อยๆบนยอดเนินเขาคาเนีย และเขาทำการท้าทายกงสุลและกองทัพเรือของทุก[มหา]อำนาจ! | ” |
ในเย็นวันเดียวกันกับการยิงปืนถล่ม เวนิเซลอสได้เขียนข้อความประท้วงไปยังผู้บัญชาการกองทัพเรือต่างชาติ ซึ่งลงนามโดยหัวหน้าทั้งหมดที่อยู่ที่อาโกรตีรี เขาเขียนว่ากลุ่มกบฏจะคงรักษาฐานที่มั่นไว้จนกว่าทุกๆคนถูกฆ่าโดยการสุนปืนใหญ่ของกองทัพเรือยุโรปจนหมดสิ้นแล้วเพื่อจะไม่ยอมให้พวกเติร์กยังคงดำรงอยู่ในครีต ข้อความได้รั่วไหลอย่างจงใจไปยังหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ซึ่งได้สร้างความรู้สึกทั้งในกรีซและในยุโรป ที่ซึ่งมีความคิดในเรื่องของชาวคริสต์ ผู้ต้องการเสรีภาพของเขา ได้ถูกโจมตีโดยกองทัพเรือของชาวคริสต์ด้วยกัน ทำให้เกิดความขุ่นเคืองเป็นอันมาก ความเห็นใจทั่วทั้งยุโรปตะวันตกต่อคริสต์ศาสนิกชนในครีตได้เป็นที่ประจักษ์และได้เกิดเสียงปรบมือสรรเสริญแก่ชาวกรีกเป็นจำนวนมาก
สงครามในเทสซาลี
มหาอำนาจได้ส่งบันทึกข้อความทางวาจาไปยังรัฐบาลกรีซและจักรวรรดิออตโตมันในวันที่ 2 มีนาคม เพื่อเสนอหนทางที่เป็นไปได้ในการแก้ไข "ปัญหาครีตัน" ซึ่งครีตจะกลายเป็นรัฐอิสระภายใต้อำนาจของสุลต่าน ทางของออตโตมันได้ตอบรับในวันที่ 5 มีนาคม โดยยอมรับข้อเสนอในหลักการ แต่ในวันที่ 8 มีนาคม รัฐบาลกรีซได้ปฏิเสธข้อเสนอที่ไม่น่าพอใจและยืนยันว่าการรวมครีตเข้ากับกรีซคือหนทางเดียวเท่านั้น
เวนิเซลอสในฐานะที่เป็นตัวแทนของกองกำลังกบฏได้พบกับนายพลเรือของมหาอำนาจบนเรือรบรัสเซียในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1897 แม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้าในการพบปะกันครั้งนี้ เขาได้ชักชวนให้นายพลพาเขาไปรอบเกาะภายใต้การคุ้มครองเพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับคำถามว่าความเป็นอิสระหรือการรวมเป็นสหภาพเดียวกับกรีซ ในขณะที่ประชากรชาวครีตันส่วนใหญ่แรกเริ่มสนับสนุนการรวมเป็นสหภาพ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเทสซาลีได้เปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชนไปเป็นการเป็นรัฐอิสระโดยทันที
ในปฏิกิริยาต่อการกบฏในครีตและความช่วยเหลือที่ส่งมาจากกรีซ จักรวรรดิออตโตมันได้ย้ายกองทัพส่วนที่สำคัญในคาบสมุทรบอลข่านมายังทางตอนเหนือของ ใกล้กับพรมแดนกรีซ กรีซได้ตอบรับด้วยการเสริมกำลังไปที่พรมแดนเทสซาลี อย่าไรก็ตาม ความผิดปกติของกองทัพกรีซ ที่ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม (ผู้สนับสนุน) ได้ปฏิบัติการโดยไม่มีคำสั่งและบุกเข้าไปที่ด่านหน้าของกองทัพเติร์ก ทำให้จักรวรรดิออตโตมันประกาศสงครามกับกรีซในวันที่ 17 เมษายน สงครามนี้เป็นหายนะของกรีซ ทหารเติร์กมีการเตรียมพร้อมดีกว่า โดยส่วนใหญ่เนื่องจากการปฏิรูปที่ผ่านมาที่ดำเนินการโดยชาวเยอรมันคือ และกองทัพกรีซได้ล่าถอยภายในไม่กี่สัปดาห์ มหาอำนาจได้เข้าแทรกแซงอีกครั้งและได้มีการลงนามสนธิสัญญาสงบศึกในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1897
ผลสรุป
การพ่ายแพ้ของกรีซใน ได้สูญเสียพื้นที่ขนาดเล็กที่เส้นพรมแดนเทสซาลีตอนเหนือและชดใช้ค่าปฏิกรรมสงคราม 4,000,000 ปอนด์ ซึ่งกลายเป็นชัยชนะทางการทูต กลุ่มมหาอำนาจ (สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และอิตาลี) ตามมาด้วยเกิดการสังหารหมู่ในฮีราคลีออนในวันที่ 25 สิงหาคมได้กำหนดทางออกสุดท้ายของ "ปัญหาครีตัน" คือ ครีตได้ถูกประกาศเป็นภายใต้อำนาจของออตโตมัน
เวนิเซลอสมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหานี้ ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำกบฏครีตันแต่ยังเป็นนักการทูตที่เชี่ยวชาญโดยการสื่อสารกับนายพลเรือของมหาอำนาจบ่อยๆ มหาอำนาจทั้งสี่ยอมรับการบริหารของครีต และ พระโอรสองค์ที่สองในพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ ทรงเป็นข้าหลวงใหญ่ โดยเวนิเซลอสดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่ค.ศ. 1899 ถึงค.ศ. 1901
รัฐอิสระครีต
เจ้าชายจอร์จทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงใหญ่แห่งครีตเป็นระยะเวลา 3 ปี ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1898 พระองค์ได้เสด็จมาถึงชาเนีย ที่ซึ่งทรงได้รับการต้อนรับอย่างคาดไม่ถึง ในวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1899 ข้าหลวงใหญ่ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารอันประกอบด้วยผู้นำชาวครีตัน เวนิเซลอสได้ดำรงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการที่เหลือได้เริ่มต้นที่จะก่อตั้งรัฐขึ้นมา หลังจากที่เวนิเซลอสได้ผ่านตัวบทกฎหมายออกมาในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1900 ความขัดแย้งระหว่างเขาและเจ้าชายจอร์จได้เกิดขึ้น
เจ้าชายจอร์จทรงตัดสินพระทัยเดินทางไปยังยุโรปและทรงประกาศจ่อประชาชนชาวครีตันว่า "เมื่อข้าพเจ้าเดินทางไปยุโรป ข้าพเจ้าจะทวงถามมหาอำนาจถึงเรื่องการผนวก และข้าพเจ้าหวังว่าจะประสบความสำเร็จได้ด้วยเครือข่ายครอบครัวของข้าพเจ้า" แถลงการณ์นี้ทรงมีถึงประชาชนโดยไม่ผ่านการรับรู้หรือความเห็นชอบจากคณะกรรมการ เวนิเซลอสได้กล่าวว่าเจ้าชายทรงปฏิบัติพระองค์ไม่เป็นที่เหมาะสมในการที่ทรงให้ความหวังแก่ประชาชนในบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ในขณะนั้น ซึ่งเป็นไปตามที่เวนิเซลอสคาดการณ์ไว้ ในช่วงที่เจ้าชายเสด็จประพาส มหาอำนาจได้ปฏิเสธตำร้องขอของพระองค์
ความขัดแย้งยังคงเกิดขึ้นในประเด็นอื่นอีกเมื่อ เจ้าชายมีพระประสงค์ที่จะสร้างพระราชวัง แต่เวนิเซลอสได้คัดค้านอย่างแข็งขันเพราะนั่นหมายถึงการทำให้การปกครองจะถูกจัดการอย่างถาวร ชาวครีตันได้ยอมรับเพียงชั่วคราวจนกว่าจะพบทางออกสุดท้าย ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นที่ขุ่นเคืองมากขึ้นและเวนิเซลอสได้ยืนยันอีกครั้งในการลาออกจากตำแหน่งของเขา
ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร เวนิเซลอสได้แสดงความคิดเห็นว่าเกาะไม่ได้เป็นอิสระอย่างเป็นสาระสำคัญ ตั้งแต่กำลังทหารของมหาอำนาจยังคงอยู่และมหาอำนาจยังปกครองโดยผ่านตัวแทนคือเจ้าชาย เวนิเซลลอสแนะนำว่าครั้งหนึ่งระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าชายก็ต้องหมดไป จากนั้นมหาอำนาจควรจะเชิญคณะกรรมการซึ่งเป็นไปตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญ (ซึ่งถูกระงับในการประชุมที่โรม) ในการเลือกประมุขคนใหม่ โดยการนำเอาอำนาจของมหาอำนาจออกไป เมื่อกองกำลังทหารของมหาอำนาจถอนออกไปจากเกาะแล้วพร้อมกับผู้แทนของพวกเขา การรวมเข้ากับกรีซจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสำเร็จ ข้อเสนอนี้ถูกแย่งนำไปใช้ประโยชน์โดยฝ่ายตรงข้ามของเวนิเซลอสที่กล่าวหาเขาว่า เขาอยากให้ครีตมีอำนาจอิสระ เวนิเซลอสโต้ตอบผู้กล่าวหาด้วยการยืนยันที่จะลาออกอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าสำหรับเขามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานร่วมกับสมาชิกของคณะกรรมการ เขามั่นใจในข้าหลวงใหญ่แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าร่วมฝ่ายค้าน
ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1901 ในรายงาน เขาได้เปิดเผยเหตุผลที่บังคับให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อได้เป็นข้าหลวงใหญ่ แต่ข่าวได้ถูกแพร่ออกไป ในวันที่ 20 มีนาคม เวนิเซลอสถูกปลดเพราะ "เขาไม่ได้มีอำนาจในการสนับสนุนในความคิดที่ตรงข้ามกับของข้าหลวง" ต่อจากนี้ เวนิเซลอสได้ยอมรับเป็นหัวหน้าฝ่ายตรงข้ามของเจ้าชาย ต่อไปอีกสามปี เขาดำเนินการทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนักจนการบริหารกลายเป็นอัมพาตจริงๆและเกิดความตึงเครียดครอบงำเกาะ ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1905 เกิดการปฏิวัติ ที่ซึ่งเขาได้เป็นหัวหน้าผู้ก่อการ
การปฏิวัติเทริโซ
ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1905 กลุ่มกบฏได้รวมตัวกันที่เทริโซและประกาศ "การรวมสหภาพทางการเมืองกับกรีซภายใต้รัฐธรรมนูญเสรีฉบับเดียว" การแก้ไขปัญหาได้ถูกส่งไปยังมหาอำนาจ ที่ซึ่งกำลังถกเถียงถึงข้อตกลงชั่วคราวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งกำลังขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาะ และทางออกเดียวในการแก้ไข "ปัญหาครีตัน" คือการรวมเข้ากับกรีซ ข้าหลวงใหญ่พร้อมความเห็นชอบจากมหาอำนาจได้ตอบไปยังกลุ่มกบฏว่าจะนำกำลังทหารเข้ามาปราบปราม อย่างไรก็ตาม ผู้แทนหลายคนได้มาเข้าร่วมกับเวนิเซลอส กงสุลของมหาอำนาจหลังได้พบกับเวนิเซลอสที่มอร์นีส์โดยพยายามจะบรรลุข้อตกลงการเจรจา แต่ก็ไม่เป็นผล
คณะรัฐบาลปฏิวัติได้เรียกร้องว่าครีตควรจะมีระบอบการปกครองที่คล้ายคลึงกับ ในวันที่ 18 กรกฎาคม มหาอำนาจได้ประกาศกฎอัยการศึก แต่นั่นก็ไม่สามารถยับยั้งกลุ่มกบฏได้ ในวันที่ 15 สิงหาคม การประชุมประจำที่ชาเนียได้ลงมติเห็นชอบการปฏิรูปที่เวนิเซลอสเสนอมากที่สุด กงสุลของมหาอำนาจได้พบกับเวนิเซลอสอีกครั้งและยอมรับการปฏิรูปที่เขาเสนอ สิ่งนี้นำไปสู่จุดสิ้นสุดกบฏเทริโซ และการลาออกจากตำแหน่งของเจ้าชายจอร์จในฐานะข้าหลวงใหญ่ มหาอำนาจได้มอบหมายอำนาจในการเลือกข้าหลวงของเกาะคนใหม่แก่พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ ทำให้อำนาจในการปกครองโดยพฤตินัยของจักรวรรดิออตโตมันเป็นอันโมฆะ อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซ ได้ถูกเลือกให้เป็นข้าหลวงใหญ่ และเจ้าหน้าที่และนายทหารชั้นประทวนชาวกรีกได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในองค์กร ทันทีที่องค์กรกองทหารได้รับการจัดตั้ง ทหารต่างชาติได้ถอนกำลังออกจากเกาะ นี้ถือเป็นชัยชนะส่วนบุคคลของเวนิเซลอส ที่ได้มีชื่อเสียงไม่เพียงแต่ในกรีซแต่ในยุโรปด้วย
จาก บัลแกเรียได้ประกาศเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมันในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1908 และในวันถัดมา จักรพรรดิออสเตรีย จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 ทรงประกาศ ด้วยเหตุการณ์เหล่านี้ ในวันเดียวกัน ชาวครีตันได้ลุกฮือขึ้น พลเรือนหลายพันคนในชาเนียและพื้นที่รอบๆได้ชุมนุมกัน ซึ่งเวนิเซลอสได้ประกาศรวมครีตเข้ากับกรีซ โดยมีการติดต่อกับรัฐบาลที่เอเธนส์ ไซมิสได้เดินทางไปยังกรีซก่อนที่จะเกิดการชุมนุม
การชุมนุมได้ถูกเรียกรวมพลขึ้นและประกาศความเป็นอิสระของครีต ข้าราชการได้สาบานตนต่อหน้าพระนามพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ ในขณะที่สมาชิกทั้งห้าของคณะกรรมการบริหารได้ถูกจัดตั้งขึ้น ด้วยอำนาจในการควบคุมเกาะนี้ในพระนามของพระมหากษัตริย์ และด้วยกฎหมายของรัฐกรีก ประธานคณะกรรมการคือ อันโตนิออส มิเชลิดากิส และเวนิเซลอสได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและการต่างประเทศ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1910 ได้มีการประชุมครั้งใหม่และเวนิเซลอสได้รับเลือกให้เป็นประธานและจากนั้นคือนายกรัฐมนตรี ทหารต่างชาติทั้งหมดได้ออกไปจากครีตและอำนาจทั้งหมดได้ถ่ายโอนมายังรัฐบาลของเวนิเซลอส
อาชีพทางการเมืองในกรีซ
การปฏิวัติโกวดีปีค.ศ. 1909
เวนิเซลอสกล่าวปาฐกถาในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาโดยสื่อต่างประเทศในการประชุมสันติภาพ ปีค.ศ. 1919
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1909 จำนวนเจ้าหน้าที่ในกองทัพกรีกได้ลอกเลียนแบบมาจากกลุ่มใน ที่พยายามจะปฏิรู๔ปรัฐบาลแห่งชาติของประเทศและจัดระเบียบกองทัพ ดังนั้นจึงเป็นการสร้าง สันนิบาตนี้ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1909 ย้ายตั้งพักแรมอยู่ชานกรุงเอเธนส์ที่ ด้วยกันกับผู้สนับสนุนของพวกเขาได้บีบบังคับให้รัฐบาลของลาออก และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้นายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ เป็นการเข้ารับตำแหน่งภายใต้แรงกดดันทางทหารโดยตรงเหนือสภา แต่การสนับสนุนของสาธารณชนต่อสันนิบาตได้จางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทราบถึงวิธีการที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขา ภาวะทางตันทางการเมืองยังคงดำรงอยู่ต่อไปจนกระทั่งสันนิบาตได้เชิญเวนิเซลอสจากเกาะครีตเข้ามาดำเนินการในฐานะผู้นำ
เวนิเซลอสไปยังเอเธนส์หลังจากปรึกษาหารือกับสันนิบาตและกับผู้แทนในการเมืองโลก เขาเสนอจัดตั้งรัฐบาลใหม่และปฏิรูป ข้อเสนอของเขาได้รับการพิจารณาจากพระมหากษัตริย์และนักการเมืองกรีกที่เป็นอันตรายต่อการสถาปนาการเมือง อย่างไรก็ตาม พระเจ้าจอร์จที่ 1 ทรงเกรงว่าจะเกิดวิกฤตการณ์มากขึ้น ทรงเรียกประชุมสภาและผู้นำทางการเมือง และทรงแนะนำให้พวกเขายอมรับข้อเสนอของเวนิเซลอส หลังจากมีการเลื่อนเวลาออกไปมาก พระมหากษัตริย์ทรงเห็นชอบที่จะแต่งตั้งให้ (ซึ่งได้รับการชี้นำจากเวนิเซลอส) จัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะนำประเทศไปสู่การเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อสันนิบาตได้ถูกยุบเลิกไป ในการเลือกตั้งวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1910 เหล่าผู้สมัครอิสระได้ที่นั่งในรัฐสภาเกือบครึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นผู้มาใหม่ในฉากการเมืองกรีก แม้จะมีข้อสงสัยในการเป็นพลเมืองกรีกที่ถูกต้องของเวนิเซลอส และด้วยไม่มีการเลือกตั้งในแบบรายบุคคลที่สิ้นสุดที่ผู้เลือกตั้งสูงสุดใน เขาได้รับการจัดตั้งให้เป็นผู้นำของฝ่ายอิสระในทันทีและดังนั้นเขาจึงตั้งพรรคการเมือง คือ พรรค (พรรคเสรินิยม) ไม่นานหลังจากการเลือกตั้ง เขาเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ด้วยหวังที่จะชนะ พรรคเก่าได้ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งใหม่และในวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1910 พรรคของเวนิเซลอสชนะการเลือกตั้ง 300 ที่นั่งจาก 362 ที่นั่งในรัฐสภา โดยเป็นการที่พลเรือนได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในฉากการเมืองใหม่มากที่สุด เวนิเซลอสจัดตั้งรัฐบาลและเริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ, การเมืองและกิจการระดับประเทศ
การปฏิรูปในปีค.ศ. 1910 - 1914
เวนิเซลอสพยายามเดินหน้าตามโครงการปฏิรูปของเขาในด้านอุดมการณ์ทางการเมืองและสังคม, การศึกษาและวรรณกรรม โดยการประนีประนอมความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างเป็นรูปธรรม ในด้านการศึกษา ตัวอย่างเช่นพลวัตในปัจจุบันได้นิยมใช้ภาษาพูด ได้กระตุ้นปฏิกิริยาอนุรักษนิยม ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจในรัฐธรรมนูญ (มาตรา 107) ที่เห็นด้วยกับภาษาทางการที่ "บริสุทธิ์" คือ ภาษา ซึ่งมีลักษณะกลับไปยังยุคคลาสสิก
ในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1911 กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เสร็จสิ้นซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างเสรีภาพส่วนบุคคล ด้วยมาตรการที่อำนวยความสะดวกแก่ฝ่ายนิติบัญญัติในรัฐสภา และการสร้างระบบการศึกษาระดับประถมศึกษาภาคบังคับ และสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย ความมั่นใจในการแต่งตั้งข้าราชการระดับถาวร สิทธิในการเชิญบุคลากรชาวต่างชาติในการดำเนินการปรับโครงสร้างการบริหารและการทหาร การสร้างสภาแห่งรัฐอีกครั้งและความเรียบง่ายในการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ จุดมุ่งหมายของการปฏิรูปคือการรักษาความปลอดภัยโดยรวมของประชาชนและการปกครองด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกับการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการผลิตเศรษฐทรัพย์ของประเทศ ในบริบทนี้วางแผนโดยกระทรวงทั้งแปด กระทรวงเศรษฐกิจแห่งชาติได้มีบทบาทนำ นับตั้งแต่ต้นปีค.ศ. 1911 กระทรวงนำโดย พ่อค้าผู้มั่งคั่งชาวกรีกที่มาจากอียิปต์และเป็นเพื่อนของเวนิเซลอส ในระหว่างปีค.ศ. 1911 และ 1912 จำนวนของกฎหมายมากมายที่มุ่งเน้นกรรมกรในกรีซได้รับการประกาศใช้ มาตรการที่เฉพาะเจาะจงได้มีข้อห้ามใช้แรงงานเด็ก และการทำงานของผู้หญิงในเวลากลางคืน ที่ซึ่งใช้เวลาในการทำงานและวันหยุด และนำไปสู่การก่อตั้งองค์กรแรงงาน เวนิเซลอสยังคงใช้มาตรการในการปรับปรังุการบริหารจัดการ ความยุติธรรมและการรักษาควมสงบ และมีการจัดตั้งกลุ่มคนที่ไร้ที่ดินให้ตั้งถิ่นฐานที่เทสซาลี
เชิงอรรถ
- Kitromilides, 2006, p. 178
- 'Liberty Still Rules' 2013-05-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Time, Feb.18,1924
- "Venizélos, Eleuthérios". . 2008.
- Duffield J. W., The New York Times, October 30, 1921, Sunday link
- "Intrigue in Greece". . Melbourne, Vic.: National Library of Australia. 4 July 1916. p. 7. สืบค้นเมื่อ 29 November 2012.
- Chester, 1921, p. 4
- Mitsotaki, Zoi (2008). . National Foundation Research. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-18. สืบค้นเมื่อ 2014-08-25.
- Ion, 1910, p. 277
- Kitromilides, 2006, p. 45, 47
- Kitromilides, 2006, p. 16
- Clogg, 2002, p. 65
- "Pact of Halepa". Encyclopædia Britannica Online. 2008.
- Kitromilides, 2006, p. 58
- Lowell Sun (newspaper), 6/2/1897, p. 1
- Holland, 2006, p. 87
- Papadakis, Nikolaos E. (2008). "Eleftherios Venizelos His path between two revolutions 1889–1897". National Foundation Research. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-18. สืบค้นเมื่อ 2014-08-26.
- Holland, 2006, p. 91
- Chester, 1921, p. 35
- Chester, 1921, p. 34
- Kitromilides, 2006, p. 30
- Kitromilides, 2006, p. 62
- Kerofilias, 1915, p. 14
- Dunning, Jun. 1987, p. 367
- Chester, 1921, pp. 35–36
- Gibbons, p. 24
- Kerofilias, 1915, pp. 13–14
- Leeper, 1916, pp. 183–184
- Anne O'Hare, McCormark, Venizelos the new Ulysses of Hellas, The New York Times Magazine, 2 September, p. 14
- Kitromilides, 2006, pp. 63–64
- Kitromilides, 2006, p. 65
- Rose, 1897, pp. 2–3
- Dunning, June 1897, p. 368
- Dunning Dec. 1897, p. 744
- Understanding life in the borderlands: boundaries in depth and in motion, I. William Zartman, 2010, p.169
- Ion, 1910, p. 278
- Kitromilides, 2006, p. 68
- Manousakis, George (2008). . National Foundation Research. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 2014-09-01.
- Kerofilias, 1915, pp. 30–31
- Kerofilias, 1915, p. 33
- Chester, 1921, p. 82
- Chester, 1921, p. 95
- Gibbons pp. 35–7
- Alastos p. 38
- Mazower, 1992, p. 886
- "Military League". Encyclopædia Britannica Online. 2008.
- Chester, 1921, pp. 129–133
- Gardika-Katsiadaki, Eleni (2008). "Period 1910 – 1914". National Foundation Research. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-18. สืบค้นเมื่อ 2014-11-27.
- Kyriakou, 2002, pp. 491–492
อ้างอิง
- หนังสือ
- Abbott, G. F. (2008). Greece and the Allies 1914–1922. London: Methuen & co. ltd. ISBN .
- Alastos, D. (1942). Venizelos, Patriot, Statesman, Revolutionary. London: P. Lund, Humphries & co.
- Bagger, E. S. (1922). Eminent Europeans; studies in continental reality (PDF). G.P. Putnam's Sons.
- Burg, D. F. (1998). Almanac of World War I. Lexington: University Press of Kentucky. ISBN .
- Chester, S. M. (1921). Life of Venizelos, with a letter from His Excellency M. Venizelos (PDF). London: Constable.
- Clogg, R. (2002). A Concise History of Greece. London: Cambridge University Press. ISBN .
- Contogeorgis, G. (1996). Histoire de la Grèce. Nations d'Europe. ISBN .
- Dutton, D. (1998). The Politics of Diplomacy: Britain and France in the Balkans in the First World War. I.B. Tauris. ISBN .
- Fotakis, Z. (2005). Greek naval strategy and policy, 1910–1919. London: Routledge. ISBN .
- Gibbons, H. A. (1920). Venizelos. Houghton Mifflin Company.
- Hall, Richard C. (2000). The Balkan Wars, 1912–1913: Prelude to the First World War. Routledge. ISBN .
- Hickey, M. (2007). First World War: Volume 4 The Mediterranean Front 1914–1923. Taylor & Francis. ISBN .[]
- Holland, R. F.; Makrides D. (2006). The British and the Hellenes: Struggles for mastery in the Eastern Mediterranean 1850–1960. Oxford University Press. ISBN .
- (1995). Eleftherios Venizelos and the External Relations of Greece 1928–1930 (ภาษากรีก). Athens: Papazisis' Editions.
- (1974). The History of the Greek Nation (Volume XVI) (ภาษากรีก). Athens: Ekdotike Athenon. ISBN .
- Kerofilias, C. (1915). Eleftherios Venizelos, his life and work (PDF). John Murray.
- Kitromilides, P. (2006). Eleftherios Venizelos: The Trials of Statesmanship. Edinburgh: Edinburgh University Press. ISBN .
- Koliopoulos, G.; Veremis, T. (2002). Greece : the modern sequel : from 1831 to the present. New York: NYU Press. ISBN .
- Legg, K. R. (1969). Politics in modern Greece. Stanford University Press. ISBN .
- Leon, G. B. (1974). Greece and the Great Powers 1914–17. Thessaloniki: Institute of Balkan Studies.
- Manolikakis, Giannis (1985). Eleftherios Venizelos: his unknown life. Athens.
- Markezinis, S. (1968). Political History of modern Greece, Volume 4 (ภาษากรีก). Athens: Papyros.
- Paxton, Hibben (1920). Constantine I and the Greek People. New York: The Century Co. ISBN .
- Pentzopoulos, D.; Smith M. L. (2002). The Balkan exchange of minorities and its impact on Greece. C. Hurst & Co Publishers. ISBN .
- Price, Crawfurd (1917). Venizelos and the war, a sketch of personalities and politics (PDF). London: Simpkin.
- Rose, W. K. (2003, with 1st ed. 1987). With the Greeks in Thessaly. Adamant Media Corporation. ISBN .
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - Seligman, V. J. (1920). Victory of Venizelos (PDF).
- Tsichlis, Vasileios S. E. (2007). The Goudi movement and Eleutherios Venizelos (ภาษากรีก). Polytropon. ISBN .
- Tucker, Spencer C.
{{}}
: line feed character ใน |first=
ที่ตำแหน่ง 11 ((help))- Vatikotes, P. (1998). Popular autocracy in Greece, 1936–41: a political biography of general Ioannis Metaxas. London: Routledge. ISBN .
- Venizelos, E. (1916). Greece in Her True Light: Her Position in the World-wide War as Expounded by E. Venizelos (PDF). New York.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help))
- เอกสาร
- Black, Cyril E. (January 1948). "The Greek Crisis: Its Constitutional Background". The Review of Politics. 10 (1): 84–99. doi:10.1017/S0034670500044521. JSTOR 1404369.
- Dunning, Wm. A. (June 1897). "Record of Political Events". Political Science Quarterly. The Academy of Political Science. 12 (3): 352–380. doi:10.2307/2140141. JSTOR 2140141.
- Dunning, Wm. A. (December 1897). "Record of Political Events". Political Science Quarterly. The Academy of Political Science. 12 (4): 734–756. doi:10.2307/2139703. JSTOR 2139703.
- Ion, Theodore P. (April 1910). "The Cretan Question". The American Journal of International Law. American Society of International Law. 4 (2): 276–284. doi:10.2307/2186614. JSTOR 2186614.
- Kyriakidou, Maria (2002). (PDF). European History Quarterly. 32 (4): 489. doi:10.1177/0269142002032004147. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-27. สืบค้นเมื่อ 2014-08-25.
- Leeper, A. W. A. (1916). "Allied Portraits: Eleftherios Venizelos". The New Europe I.
- Mazower, M. (December 1992). "The Messiah and the Bourgeoisie: Venizelos and Politics in Greece, 1909–1912". The Historical Journal. 35 (4): 885–904. doi:10.1017/S0018246X00026200. JSTOR 2639443.
เว็บไซต์อ้างอิง
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Eleftherios Venizelos
ก่อนหน้า | อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 1) (19 ตุลาคม ค.ศ. 1910 – 10 มีนาคม ค.ศ. 1915) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 2) (23 สิงหาคม ค.ศ. 1915 – 7 ตุลาคม ค.ศ. 1915) | ||||
(23 สิงหาคม ค.ศ. 1915 – 7 ตุลาคม ค.ศ. 1915) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 3) (27 มิถุนายน ค.ศ. 1917 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920) | ||||
(27 มิถุนายน ค.ศ. 1917 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 4) (11 มกราคม ค.ศ. 1924 – 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1924) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 5) (4 กรกฎาคม ค.ศ. 1928 – 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1932) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 6) (5 มิถุนายน ค.ศ. 1932 – 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1932) | ||||
นายกรัฐมนตรีกรีซ (สมัยที่ 7) (16 มกราคม ค.ศ. 1933 – 6 มีนาคม ค.ศ. 1933) | ||||
ก่อตั้ง | (ค.ศ. 1910 – ค.ศ. 1936) | |||
(18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1924) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xielfethrixxs ewnieslxs Eleftherios Venizelos chuxetm xielfethrixxs khirixakhu ewnieslxs Eleftherios Kyriakou Venizelos krik Ἐley8erios Kyriakoy Benizelos 23 singhakhm kh s 1864 18 minakhm kh s 1936 epnphunachawkrikthiprasbkhwamsaercinkhbwnkarpldplxychatikrikaelaepnrthburusthimiesnhinchwngyukhtnkhriststwrrsthi 20 sungepnthicdcacakkarsngesrimnoybayaenwesriniymprachathipity ekhaidrbkareluxktngepnnaykrthmntriaehngkrishlaysmy odydarngtaaehnngrahwangkh s 1910 thungkh s 1920 aelatngaetkh s 1928 thungkh s 1932 ewnieslxsepnphumixiththiphlxyangluksunginkickarthngphayinaelaphaynxkkhxngkris sungthaihekhaidrbkarkhnannamwaepn phusrangkrissmyihm aelayngkhngepnthiruckknxyangkwangkhwanginthana Ethnarch xielfethrixxs ewnieslxs Eley8erios Benizelosnaykrthmntrikrisdarngtaaehnng 19 tulakhm kh s 1910 10 minakhm kh s 1915 4 pi 142 wn kstriyphraecacxrcthi 1 phraecakhxnsaetntinthi 1kxnhnathdipdarngtaaehnng 23 singhakhm kh s 1915 7 tulakhm kh s 1915 0 pi 45 wn kstriyphraecakhxnsaetntinthi 1kxnhnathdipdarngtaaehnng 27 mithunayn kh s 1917 17 phvscikayn kh s 1920 3 pi 143 wn kstriyphraecaxelksanedxrkxnhnathdipdarngtaaehnng 11 mkrakhm kh s 1924 6 kumphaphnth kh s 1924 0 pi 26 wn kstriyphraecacxrcthi 2kxnhnathdipdarngtaaehnng 4 krkdakhm kh s 1928 26 phvsphakhm kh s 1932 3 pi 327 wn prathanathibdikxnhnathdipdarngtaaehnng 5 mithunayn kh s 1932 4 phvscikayn kh s 1932 0 pi 152 wn prathanathibdikxnhnathdipdarngtaaehnng 16 mkrakhm kh s 1933 6 minakhm kh s 1933 0 pi 49 wn prathanathibdikxnhnathdipdarngtaaehnng 2 phvsphakhm kh s 1910 6 tulakhm kh s 1910 0 pi 157 wn kxnhna inthanakhahlwngihy darngtaaehnng kh s 1908 kh s 1910darngtaaehnng 17 emsayn kh s 1899 18 minakhm kh s 1901 1 pi 335 wn khxmulswnbukhkhlekid23 singhakhm kh s 1864 khrit ckrwrrdixxtotmnesiychiwit18 minakhm kh s 1936 xayu 71 pi paris frngesssasnaphrrkhkaremuxngkhusmrsmaeriy khaetlusu kh s 1891 1894 exelna skilitsi kh s 1921 1936 butrkhirixakhxs ewnieslxsyati hlan sisyeka National and Kapodistrian University of Athens wichachiphnkkaremuxng thnaykhwam nkkdhmay suxmwlchn nkaepllaymuxchux karekhamamibthbathinewthirahwangpraethskhrngaerkkhxngekhakhuxkarthiekhamibthbathsakhyinkardaeninkarkhwamepnxisrakhxngaelahlngcaknnidrwmekaakhritekhakbkris inewlaodyerw ekhathukechiyipyngkrisephuxaekikhpyhakarchangkngnthangkaremuxngaelaklayepnnaykrthmntrikhxngpraeths imephiyngaetekhaerimtnkarptiruprththrrmnuyaelaesrsthkicthitngxyubnphunthankhxngkarthaihsngkhmkrikmikhwamepnsmyihm aelayngidcdtngthngkxngthphbkaelakxngthpheruxkhunmaihmephuxetriymkarkbkhwamkhdaeynginxnakht kxnsngkhrambxlkhaninpikh s 1912 1913 bthbaththiepntwerngkhxngewnieslxsidchawyihkrissamarthekharwmsnnibatbxlkhan sungepnklumsmphnthmitrkhxngrthbxlkhanephuxtxtanckrwrrdixxtotmn odyphankhwamechiybaehlmthangkarthut phunthiaelaprachakrkhxngkrisidephimthwimakkhuncakkarpldplxymasiodeniy aelaswnthiehluxkhxnghmuekaaxieciyn insngkhramolkkhrngthihnung kh s 1914 1918 ekhaidnakrisipekhakbfaysmphnthmitr ephuxkhyayphrmaednkrik xyangirktam dwynoybaytangpraethsthisnbsnunfaysmphnthmitridthaihekhamikhwamkhdaeyngodytrngkbsthabnphramhakstriy sungkxihekid khwamaetkaeykniidkxihekidkaraebngkhwinhmuprachachnrahwangfaykstriyniymaela Venizelists ewnieslist aelaekidkartxsuephuxaeyngchingxanacrahwangthngsxngklumthiidbnthxnthalaykaremuxngaelachiwitthangsngkhmkhxngkrismaepnewlananhlaythswrrs txmafaysmphnthmitridrbchychna ewnieslxsidrbdinaednihm odyechphaaxyangyinginxanaoteliy sungthaihiklekhiyngkhwamepncringyingkhun aemwaekhacaprasbkhwamsaerc aetewnieslxsidphayaephkareluxktnginpikh s 1920 sunginthisudthaihkrisphayaephin ewnieslxssungidenrethstwexngxxkip idepntwaethnkhxngkrisinkarecrcathinaipsukarlngnaminsnthisyyaolsanaelakhxtklngkaraelkepliynrwmkninradbprachakrrahwangkrisaelaturki inchwngewlathiewnieslxsyngdarngtaaehnngxyu idprasbkhwamsaercinkarfunfukhwamsmphnthinradbpktikbpraethsephuxnbankhxngkrisaelaidkhyaykarptiruprththrrmnuyaelaesrsthkic inpikh s 1935 ewnieslxsidepliynaenwkhidhlngcakkareksiynxayurachkarodykarsnbsnunkarrthpraharodykxngthph aelaekhaidcdtngthimikhwamxxnaexaelalmehlwxyangrunaerngtnkaenidaelachwngtnkhxngchiwitbrrphburus bankhxngewnieslxsinmxrnis inkhriststwrrsthi 18 brrphburuskhxngewnieslxs chuxwa khrafwats xasyxyuthiemuxng inepholphxnnistxnit inchwngthickrwrrdixxtotmnekharukrankhabsmuthrinpikh s 1770 smachikkhnhnungkhxngkhrxbkhrwkhrafwats namwa ewnieslxs khrafwats sungepnnxngchaykhnsudthxngkhxngkhrxbkhrw idetriymkarhlbhniipyngkhritaelalnghlkpkthanthinndwytwexng lukchaykhxngekhaielangnamskulkhxngbrrphburusaelaeriyknamskultnexngwa ewnieslxs khrxbkhrwmitnkaenidepnchaw aelachawkhritn khrxbkhrwaelakarsuksa khirixakhxs ewnieslxs phuepnbidakhxngxielfethrixxs xielfethrixxsekidthi iklemuxng mkruckinnamwa khaeniy khrit insmythixxtotmnkhrxbkhrxng epnbutrkhxng phxkhaaelankptiwtichawkhrit emuxekid khrxbkhrwewnieslxsidhlbhniipyngekaa enuxngcakkarthibidakhxngekhamiswnrwminkarkxkarptiwti phwkekhaimidrbxnuyatihklbmayngkhritaelaxasyxyuthisirxscnthungpikh s 1872 emuxsultanxbdul xasisthrngphrarachthanxphyoths ekhaichewlainpisudthaykhxngkarsuksainradbmthymsuksathiorngeriynin ekaasirxs sungekhaidrbprakasniybtrinpikh s 1880 inpikh s 1881 ekhaekhasuksathi insanknitisastr aelaidrbpriyyaindannitisastrdwykhaaennyxdeyiym ekhaidklbmayngkhritinpikh s 1886 aelathanganinthanathnaykhwamthichaeniy tlxdchiwitkhxngekhaekhayngkhngrkinkarxanxyangtxenuxngaelaidrbkarphthnathksadanphasaxngkvs phasaxitaeliyn phasaeyxrmnaelaphasafrngess ekhasukaremuxng sthankarninkhritchwngtnchiwitkhxngewnieslxsepnthirabrun ckrwrrdixxtotmnthukbnthxnthalaydwykarptirupsungxyuphayitkhwamkddnkhxngnanachati inkhnathichawkhritprarthnathicaehnsultanxbdul hamidthi 2 thrnglathing phwknxkritthinarngekiyc phayitenguxnikhthiimaennxnehlani ewnieslxsidekhasuwngkarkaremuxngdwykareluxktnginwnthi 2 emsayn kh s 1889 inthanathiepnsmachikphrrkhesriniymkhxngekaa inthanaphuaethn ekhaidprasbkhwamsaerccakkarphudthimikharmkhmkhayaelakhwamkhidehnthirunaerngkhxngekhaxachiphthangkaremuxnginkhritkarlukhuxkhxngchawkhritn ebuxnghlng karptiwtihlaykhrnginkhrit inchwngrahwangaelahlngsngkhramprakasxisrphaphkris kh s 1821 1833 1841 1858 1866 1878 1889 1895 1897 epnphlmacakkhwamprarthnakhxngchawkhritnsahrbkarthaxionsis Enosis khuxkarrwmekhakbkris in thngsxngfayidthakhxtklngknphayitaerngkddnkhxngmhaxanac sungthungthisuddwykartha hlngcaknnkhxtklngidthukrwmxbuinbthbyytikhxngsnthisyyaebxrlin sunginswnphakhphnwkidmikaryxmihkbchawkhritnkxnhnani echnin phrarachbyytiprakxbrththrrmnuythiepnphunthankhxngrth kh s 1868 thirangody inswnsrupkhxngkhxtklngidxnuyatihmirthbalchawkrikthimiradbkhnadihyinkhritepnwithikarcakdkhwamprarthnakhxngphwkekhathicalukkhuntxtanecanayxxtotmnkhxngphwkekha aet phusungkhuntrngtxxxtotmnturki imphxickarptirupehlani inthanathiphwkekhaidmxngwakarbriharekaaidthuksngphanipyngmuxkhxngprachachnchawkrikthinbthuxsasnakhrist inthangptibti ckrwrrdixxtotmnmikhwamlmehlwinkarbngkhbichbthbyytikhxngkhxtklng dngnncungepnkaretimechuxifkhwamtungekhriydthimixyurahwangsxngchumchn phumixanacxxtotmncaphyayamrksakhwamsngberiybrxyodykarcdsngkarephimkalngthharxyangmakinchwngkh s 1880 1896 tlxdrayaewlann pyhachawkhritn idepnpraednhlkkhxngkhwamkhdaeynginkhwamsmphnthrahwangrachxanackrkriskbckrwrrdixxtotmn ineduxnmkrakhm kh s 1897 khwamrunaerngaelakhwamwunwayidthwimakkhunbnekaa thaihekidkaraebngepnsxngkhw karsngharhmuprachakrthinbthuxsasnakhristidekidkhuninaela rthbalkrikidrbaerngkddncakprachachn karimyxmxxnkhxkbsthanathangkaremuxng klumchatiniymaebbsudotngkhuxklum Ethniki Etaireia thiekidkhun aelakhwamimphxicthimhaxanacimetmicekhaaethrkaesng thaihrthbalkrikidtdsinicthicasngeruxrbaelabukhlakrthangkxngthphephuxpkpxngchawkrikkhritn mhaxanacimmithangeluxkxunaelacadaeninkaryudkhrxngekaa aetksayipaelw kxngthphkrikpraman 2 000 nayidkhunfngthiinwnthi 3 kumphaphnth kh s 1897 aelaphayitkarbngkhbbychakhxngphnexk idprakaswaekhayudekaani innamkhxngphramhakstriyaehngehllins aelannkhuxkarprakasrwmkhritekhakbkris singnithaihekidkarlukhuxkhunthwthngekaainthnthi mhaxanactdsinicpidlxmkhritdwykxngthpheruxaelakxngthphbk dngnncungsamarthhyudkxngthphkrikthikalngcaekhaemuxngchaeniyid ehtukarnthixaokrtiri ewnieslxsinxaokrtiri kh s 1897 ewnieslxsinkhnannidedinthanghaesiyngeluxktngipthwekaa khrnghningekha ehnkhaeniyineplwephling ekharibedinthangipthihmuban iklemuxngkhaeniy thisungmikareriykprachumphlklumkbtpraman 2 000 khn aelatngihekhakhunepnhwhna ekhaesnxkarocmtiphrxmkbkbtkhnxunodyocmtikxngthphetirkthiephuxthicakhbilkxngthphxxkipcakthirab hmubanmalasaxyuinthisung ptibtikarkhxngewnieslxsthixaokrtiriidepnkarkahndtanankhxngekha phukhnidaetngbthkwithungxaokrtiriaelabthbathkhxngekhathinn mibthbrrnathikaraelabthkhwamthiklawekiywkbkhwamklahaykhxngekha wisythsnaelakhwamxcchriyathangkarthutkhxngekhaepnsingthihlikeliyngimidinkhwamyingihyhlngcakni ewnieslxsichewlathngkhunthixaokrtiriaelathngchatikrisidthukechiykhun idkhxkhwamchwyehluxcakphubychakarkxngthpheruxtangchatiihocmtiklumkbt odykxngeruxkhxngmhaxanacidyingthlmthanthimnkhxngklumkbtthixaokrtiri lukpunihythaihthngrwnghlnlngma sungthngidthukechiykhunxikkhrnginthnthi mikarelaluxechingtananidprakasthungptibtikarkhxngekhaineduxnkumphaphnthnn epnkhaklawtxipni inwnthi 20 kumphaphnth ekha idthuksngcakphubychakareruxihldthnglng aelaihslaykxngthphkbt ekhaptiesth ewnieslxsmunghnasutha thisungeruxrbcxdthxdsmxxyuaelaekhaidxthibaywa khunmipunihy kyingip aetthngkhxngeracaimldlngma hlngcakthngthukying ewnieslxsidwingipkhanghnaaetephuxnkhxngekhaidhyudekhaiw thaimthungesiyngchiwitthimikhaxyangirpraoychndwyela epnwnthisakhyineduxnkumphaphnth kh s 1897 emux ekhaptiesthkhasngkhxngmhaxanacphupkkhrxngaelamiwlithingdngaminhnngsuxphimphkrikwa thathaykxngthpheruxaehngyuorp phayitkarthutthirabrunkhxngwnnikhux nkptiwti phusungaehyihphwketirkxxkcakekaakhrit aelahwhnaphuklasungphkxyukbklumkbtnxybnyxdeninekhakhaeniy aelaekhathakarthathaykngsulaelakxngthpheruxkhxngthuk mha xanac ineynwnediywknkbkaryingpunthlm ewnieslxsidekhiynkhxkhwamprathwngipyngphubychakarkxngthpheruxtangchati sunglngnamodyhwhnathnghmdthixyuthixaokrtiri ekhaekhiynwaklumkbtcakhngrksathanthimniwcnkwathukkhnthukkhaodykarsunpunihykhxngkxngthpheruxyuorpcnhmdsinaelwephuxcaimyxmihphwketirkyngkhngdarngxyuinkhrit khxkhwamidrwihlxyangcngicipynghnngsuxphimphtangpraeths sungidsrangkhwamrusukthnginkrisaelainyuorp thisungmikhwamkhidineruxngkhxngchawkhrist phutxngkaresriphaphkhxngekha idthukocmtiodykxngthpheruxkhxngchawkhristdwykn thaihekidkhwamkhunekhuxngepnxnmak khwamehnicthwthngyuorptawntktxkhristsasnikchninkhritidepnthipracksaelaidekidesiyngprbmuxsrresriyaekchawkrikepncanwnmak sngkhraminethssali xngkhprakxbthangchatiphnthkhxngkhabsmuthrbxlkhan tamaephnthi Atlas General Vidal Lablache Librairie Armand Colin paris kh s 1898 mhaxanacidsngbnthukkhxkhwamthangwacaipyngrthbalkrisaelackrwrrdixxtotmninwnthi 2 minakhm ephuxesnxhnthangthiepnipidinkaraekikh pyhakhritn sungkhritcaklayepnrthxisraphayitxanackhxngsultan thangkhxngxxtotmnidtxbrbinwnthi 5 minakhm odyyxmrbkhxesnxinhlkkar aetinwnthi 8 minakhm rthbalkrisidptiesthkhxesnxthiimnaphxicaelayunynwakarrwmkhritekhakbkriskhuxhnthangediywethann ewnieslxsinthanathiepntwaethnkhxngkxngkalngkbtidphbkbnayphleruxkhxngmhaxanacbneruxrbrsesiyinwnthi 7 minakhm kh s 1897 aemwacaimmikhwamkhubhnainkarphbpaknkhrngni ekhaidchkchwnihnayphlphaekhaiprxbekaaphayitkarkhumkhrxngephuxsarwckhwamkhidehnprachachnekiywkbkhathamwakhwamepnxisrahruxkarrwmepnshphaphediywkbkris inkhnathiprachakrchawkhritnswnihyaerkerimsnbsnunkarrwmepnshphaph aetehtukarnthiekidkhuninethssaliidepliynkhwamkhidehnkhxngprachachnipepnkarepnrthxisraodythnthi inptikiriyatxkarkbtinkhritaelakhwamchwyehluxthisngmacakkris ckrwrrdixxtotmnidyaykxngthphswnthisakhyinkhabsmuthrbxlkhanmayngthangtxnehnuxkhxng iklkbphrmaednkris krisidtxbrbdwykaresrimkalngipthiphrmaednethssali xyairktam khwamphidpktikhxngkxngthphkris thisungepnsmachikkhxngklum phusnbsnun idptibtikarodyimmikhasngaelabukekhaipthidanhnakhxngkxngthphetirk thaihckrwrrdixxtotmnprakassngkhramkbkrisinwnthi 17 emsayn sngkhramniepnhaynakhxngkris thharetirkmikaretriymphrxmdikwa odyswnihyenuxngcakkarptirupthiphanmathidaeninkarodychaweyxrmnkhux aelakxngthphkrisidlathxyphayinimkispdah mhaxanacidekhaaethrkaesngxikkhrngaelaidmikarlngnamsnthisyyasngbsukineduxnphvsphakhm kh s 1897 phlsrup xngkhprakxbthangchatiphnthinbxlkhan wadodynkkarthutchawkrik exiynnis eknnadixus tiphimphody English cartographer E Stanford inpikh s 1877 karphayaephkhxngkrisin idsuyesiyphunthikhnadelkthiesnphrmaednethssalitxnehnuxaelachdichkhaptikrrmsngkhram 4 000 000 pxnd sungklayepnchychnathangkarthut klummhaxanac shrachxanackr frngess rsesiy aelaxitali tammadwyekidkarsngharhmuinhirakhlixxninwnthi 25 singhakhmidkahndthangxxksudthaykhxng pyhakhritn khux khritidthukprakasepnphayitxanackhxngxxtotmn ewnieslxsmibthbathsakhyinkaraekpyhani imephiyngaetepnphunakbtkhritnaetyngepnnkkarthutthiechiywchayodykarsuxsarkbnayphleruxkhxngmhaxanacbxy mhaxanacthngsiyxmrbkarbriharkhxngkhrit aela phraoxrsxngkhthisxnginphraecacxrcthi 1 aehngkris thrngepnkhahlwngihy odyewnieslxsdarngtaaehnngepnrthmntriwakarkrathrwngyutithrrmtngaetkh s 1899 thungkh s 1901 rthxisrakhrit sphakhnakrrmkaraehngkhritthisungewnieslxsmiswnrwmdwy ekhanngxyukhnthisxngcaksay ecachaycxrcthrngidrbkaraetngtngihepnkhahlwngihyaehngkhritepnrayaewla 3 pi inwnthi 13 thnwakhm kh s 1898 phraxngkhidesdcmathungchaeniy thisungthrngidrbkartxnrbxyangkhadimthung inwnthi 27 emsayn kh s 1899 khahlwngihythrngaetngtngkhnakrrmkarbriharxnprakxbdwyphunachawkhritn ewnieslxsiddarngepnrthmntriwakarkrathrwngyutithrrmaelakhnakrrmkarthiehluxiderimtnthicakxtngrthkhunma hlngcakthiewnieslxsidphantwbthkdhmayxxkmainwnthi 18 phvsphakhm kh s 1900 khwamkhdaeyngrahwangekhaaelaecachaycxrcidekidkhun ecachaycxrcthrngtdsinphrathyedinthangipyngyuorpaelathrngprakascxprachachnchawkhritnwa emuxkhaphecaedinthangipyuorp khaphecacathwngthammhaxanacthungeruxngkarphnwk aelakhaphecahwngwacaprasbkhwamsaerciddwyekhruxkhaykhrxbkhrwkhxngkhapheca aethlngkarnnithrngmithungprachachnodyimphankarrbruhruxkhwamehnchxbcakkhnakrrmkar ewnieslxsidklawwaecachaythrngptibtiphraxngkhimepnthiehmaasminkarthithrngihkhwamhwngaekprachachninbangsingbangxyangthiepnipimidinkhnann sungepniptamthiewnieslxskhadkarniw inchwngthiecachayesdcpraphas mhaxanacidptiesthtarxngkhxkhxngphraxngkh khwamkhdaeyngyngkhngekidkhuninpraednxunxikemux ecachaymiphraprasngkhthicasrangphrarachwng aetewnieslxsidkhdkhanxyangaekhngkhnephraannhmaythungkarthaihkarpkkhrxngcathukcdkarxyangthawr chawkhritnidyxmrbephiyngchwkhrawcnkwacaphbthangxxksudthay khwamsmphnthkhxngthngsxngepnthikhunekhuxngmakkhunaelaewnieslxsidyunynxikkhrnginkarlaxxkcaktaaehnngkhxngekha inkarprachumkhnakrrmkarbrihar ewnieslxsidaesdngkhwamkhidehnwaekaaimidepnxisraxyangepnsarasakhy tngaetkalngthharkhxngmhaxanacyngkhngxyuaelamhaxanacyngpkkhrxngodyphantwaethnkhuxecachay ewniesllxsaenanawakhrnghnungrayaewlakarptibtihnathikhxngecachayktxnghmdip caknnmhaxanackhwrcaechiykhnakrrmkarsungepniptammatra 39 khxngrththrrmnuy sungthukrangbinkarprachumthiorm inkareluxkpramukhkhnihm odykarnaexaxanackhxngmhaxanacxxkip emuxkxngkalngthharkhxngmhaxanacthxnxxkipcakekaaaelwphrxmkbphuaethnkhxngphwkekha karrwmekhakbkriscaepneruxngngaythicasaerc khxesnxnithukaeyngnaipichpraoychnodyfaytrngkhamkhxngewnieslxsthiklawhaekhawa ekhaxyakihkhritmixanacxisra ewnieslxsottxbphuklawhadwykaryunynthicalaxxkxikkhrng dwyehtuphlthiwasahrbekhamnepnipimidthicathanganrwmkbsmachikkhxngkhnakrrmkar ekhamnicinkhahlwngihyaetkimidtngicthicaekharwmfaykhan inwnthi 6 minakhm kh s 1901 inrayngan ekhaidepidephyehtuphlthibngkhbihekhalaxxkcaktaaehnngephuxidepnkhahlwngihy aetkhawidthukaephrxxkip inwnthi 20 minakhm ewnieslxsthukpldephraa ekhaimidmixanacinkarsnbsnuninkhwamkhidthitrngkhamkbkhxngkhahlwng txcakni ewnieslxsidyxmrbepnhwhnafaytrngkhamkhxngecachay txipxiksampi ekhadaeninkarthaihekidkhwamkhdaeyngthangkaremuxngxyanghnkcnkarbriharklayepnxmphatcringaelaekidkhwamtungekhriydkhrxbngaekaa thaihekidehtukarnthihlikeliyngimidineduxnminakhm kh s 1905 ekidkarptiwti thisungekhaidepnhwhnaphukxkar karptiwtiethrios ewnieslxsintnkhriststwrrsthi 20 inwnthi 10 minakhm kh s 1905 klumkbtidrwmtwknthiethriosaelaprakas karrwmshphaphthangkaremuxngkbkrisphayitrththrrmnuyesrichbbediyw karaekikhpyhaidthuksngipyngmhaxanac thisungkalngthkethiyngthungkhxtklngchwkhrawthiimchxbdwykdhmaysungkalngkhdkhwangkarecriyetibotthangesrsthkickhxngekaa aelathangxxkediywinkaraekikh pyhakhritn khuxkarrwmekhakbkris khahlwngihyphrxmkhwamehnchxbcakmhaxanacidtxbipyngklumkbtwacanakalngthharekhamaprabpram xyangirktam phuaethnhlaykhnidmaekharwmkbewnieslxs kngsulkhxngmhaxanachlngidphbkbewnieslxsthimxrnisodyphyayamcabrrlukhxtklngkarecrca aetkimepnphl karklawkhaprasrykhxngewnieslxsinwnthi 25 minakhm kh s 1905khnakrrmkarrangrththrrmnuyihmkhxngkhritinchwngpikh s 1906 1907 khnarthbalptiwtiideriykrxngwakhritkhwrcamirabxbkarpkkhrxngthikhlaykhlungkb inwnthi 18 krkdakhm mhaxanacidprakaskdxykarsuk aetnnkimsamarthybyngklumkbtid inwnthi 15 singhakhm karprachumpracathichaeniyidlngmtiehnchxbkarptirupthiewnieslxsesnxmakthisud kngsulkhxngmhaxanacidphbkbewnieslxsxikkhrngaelayxmrbkarptirupthiekhaesnx singninaipsucudsinsudkbtethrios aelakarlaxxkcaktaaehnngkhxngecachaycxrcinthanakhahlwngihy mhaxanacidmxbhmayxanacinkareluxkkhahlwngkhxngekaakhnihmaekphraecacxrcthi 1 aehngkris thaihxanacinkarpkkhrxngodyphvtinykhxngckrwrrdixxtotmnepnxnomkha xditnaykrthmntrikris idthukeluxkihepnkhahlwngihy aelaecahnathiaelanaythharchnprathwnchawkrikidrbxnuyatihdaeninkarinxngkhkr thnthithixngkhkrkxngthharidrbkarcdtng thhartangchatiidthxnkalngxxkcakekaa nithuxepnchychnaswnbukhkhlkhxngewnieslxs thiidmichuxesiyngimephiyngaetinkrisaetinyuorpdwy cak blaekeriyidprakasexkrachcakckrwrrdixxtotmninwnthi 5 tulakhm kh s 1908 aelainwnthdma ckrphrrdixxsetriy ckrphrrdifrns oyesfthi 1 thrngprakas dwyehtukarnehlani inwnediywkn chawkhritnidlukhuxkhun phleruxnhlayphnkhninchaeniyaelaphunthirxbidchumnumkn sungewnieslxsidprakasrwmkhritekhakbkris odymikartidtxkbrthbalthiexethns ismisidedinthangipyngkriskxnthicaekidkarchumnum karchumnumidthukeriykrwmphlkhunaelaprakaskhwamepnxisrakhxngkhrit kharachkaridsabantntxhnaphranamphraecacxrcthi 1 aehngkris inkhnathismachikthnghakhxngkhnakrrmkarbriharidthukcdtngkhun dwyxanacinkarkhwbkhumekaaniinphranamkhxngphramhakstriy aeladwykdhmaykhxngrthkrik prathankhnakrrmkarkhux xnotnixxs miechlidakis aelaewnieslxsidepnrthmntriwakarkrathrwngyutithrrmaelakartangpraeths ineduxnemsayn kh s 1910 idmikarprachumkhrngihmaelaewnieslxsidrbeluxkihepnprathanaelacaknnkhuxnaykrthmntri thhartangchatithnghmdidxxkipcakkhritaelaxanacthnghmdidthayoxnmayngrthbalkhxngewnieslxsxachiphthangkaremuxnginkriskarptiwtiokwdipikh s 1909 hlngcakthikhaphecasaerckarsuksainexethns khaphecaklbbanphrxmkbaebkaethbislukkrasunpunipdwy khaphecaimekhylxnghruxphyayammipyhakbsphabriharekaabanekidkhxngkhaphecamakxn kxnthimncaklayepnkhwamcaepnkhxngkhaphecathicacbxawuthkhunsutxtanrthbaletirk aemwabidakhxngkhaphecacaekidinkris aetkhaphecathukphicarnawaepnprachachnkhxngxxtotmn dngnncungepnkbt ephraawamardakhxngkhaphecaekidphayitthngkhxngetirk inchwngsinsudkarptiwti khaphecaklbipyngbanekidxikkhrngaelaerimpharkicihmxik khaphecaimmiewlaaetkipiklekinesiyaelw inkarthitxngcbxawuthkhunsuxikkhrngaelaedinthangipyngphuekha inerwni khaphecaidmacnthungcudthikhaphecatxngtdsinicaelwwakhwrepnthnaykhwamxachiphaelaepnnkptiwtitamchwngewla hrux epnnkptiwtixachiphaelaepnthnaykhwamtamchwngewla odythrrmchatiaelwkhaphecaklayepnnkptiwtixachiph ewnieslxsklawpathkthainnganeliyngthicdkhunephuxepnekiyrtiaekekhaodysuxtangpraethsinkarprachumsntiphaph pikh s 1919 ineduxnphvsphakhm kh s 1909 canwnecahnathiinkxngthphkrikidlxkeliynaebbmacakklumin thiphyayamcaptiru4prthbalaehngchatikhxngpraethsaelacdraebiybkxngthph dngnncungepnkarsrang snnibatniineduxnsinghakhm kh s 1909 yaytngphkaermxyuchankrungexethnsthi dwyknkbphusnbsnunkhxngphwkekhaidbibbngkhbihrthbalkhxnglaxxk aelacdtngrthbalihmphayitnaykrthmntrikhnihmkhux epnkarekharbtaaehnngphayitaerngkddnthangthharodytrngehnuxspha aetkarsnbsnunkhxngsatharnchntxsnnibatidcanghayipxyangrwderwemuxehnidchdwaecahnathiimidthrabthungwithikarthicatxbsnxngkhwamtxngkarkhxngphwkekha phawathangtnthangkaremuxngyngkhngdarngxyutxipcnkrathngsnnibatidechiyewnieslxscakekaakhritekhamadaeninkarinthanaphuna phaphphimphhinthiodngdngbrryaythung karechlimchlxngkhwamsaercinkarrthprahar epnchwngthikrisidrbchychnaehnuxstwprahladkhxngphrrkhkaremuxngrabxbekathitayaelw odymikarohrxngsrresriycakkxngthphaelaprachachn ewnieslxsipyngexethnshlngcakpruksaharuxkbsnnibataelakbphuaethninkaremuxngolk ekhaesnxcdtngrthbalihmaelaptirup khxesnxkhxngekhaidrbkarphicarnacakphramhakstriyaelankkaremuxngkrikthiepnxntraytxkarsthapnakaremuxng xyangirktam phraecacxrcthi 1 thrngekrngwacaekidwikvtkarnmakkhun thrngeriykprachumsphaaelaphunathangkaremuxng aelathrngaenanaihphwkekhayxmrbkhxesnxkhxngewnieslxs hlngcakmikareluxnewlaxxkipmak phramhakstriythrngehnchxbthicaaetngtngih sungidrbkarchinacakewnieslxs cdtngrthbalihmthicanapraethsipsukareluxktngxikkhrngemuxsnnibatidthukyubelikip inkareluxktngwnthi 8 singhakhm kh s 1910 ehlaphusmkhrxisraidthinnginrthsphaekuxbkhrung sungcaklayepnphumaihminchakkaremuxngkrik aemcamikhxsngsyinkarepnphlemuxngkrikthithuktxngkhxngewnieslxs aeladwyimmikareluxktnginaebbraybukhkhlthisinsudthiphueluxktngsungsudin ekhaidrbkarcdtngihepnphunakhxngfayxisrainthnthiaeladngnnekhacungtngphrrkhkaremuxng khux phrrkh phrrkhesriniym imnanhlngcakkareluxktng ekhaeriykrxngihcdkareluxktngihmdwyhwngthicachna phrrkhekaidprakaskhwabatrkareluxktngkhrngihmaelainwnthi 28 phvscikayn kh s 1910 phrrkhkhxngewnieslxschnakareluxktng 300 thinngcak 362 thinnginrthspha odyepnkarthiphleruxnidrbkareluxktngekhamainchakkaremuxngihmmakthisud ewnieslxscdtngrthbalaelaerimptirupesrsthkic karemuxngaelakickarradbpraeths karptirupinpikh s 1910 1914 ewnieslxsphyayamedinhnatamokhrngkarptirupkhxngekhaindanxudmkarnthangkaremuxngaelasngkhm karsuksaaelawrrnkrrm odykarpranipranxmkhwamkhdaeyngthiekidkhunbxykhrngxyangepnrupthrrm indankarsuksa twxyangechnphlwtinpccubnidniymichphasaphud idkratunptikiriyaxnurksniym sungnaipsukartdsinicinrththrrmnuy matra 107 thiehndwykbphasathangkarthi brisuththi khux phasa sungmilksnaklbipyngyukhkhlassik inwnthi 20 phvsphakhm kh s 1911 krabwnkaraekikhrththrrmnuyidesrcsinsungmungennipthikaresrimsrangesriphaphswnbukhkhl dwymatrkarthixanwykhwamsadwkaekfaynitibyytiinrthspha aelakarsrangrabbkarsuksaradbprathmsuksaphakhbngkhb aelasiththiinxsngharimthrphytamkdhmay khwammnicinkaraetngtngkharachkarradbthawr siththiinkarechiybukhlakrchawtangchatiinkardaeninkarprbokhrngsrangkarbriharaelakarthhar karsrangsphaaehngrthxikkhrngaelakhwameriybngayinkarptiruprththrrmnuy cudmunghmaykhxngkarptirupkhuxkarrksakhwamplxdphyodyrwmkhxngprachachnaelakarpkkhrxngdwykdhmay echnediywkbkarphthnaaelaephimskyphaphkarphlitesrsththrphykhxngpraeths inbribthniwangaephnodykrathrwngthngaepd krathrwngesrsthkicaehngchatiidmibthbathna nbtngaettnpikh s 1911 krathrwngnaody phxkhaphumngkhngchawkrikthimacakxiyiptaelaepnephuxnkhxngewnieslxs inrahwangpikh s 1911 aela 1912 canwnkhxngkdhmaymakmaythimungennkrrmkrinkrisidrbkarprakasich matrkarthiechphaaecaacngidmikhxhamichaerngnganedk aelakarthangankhxngphuhyinginewlaklangkhun thisungichewlainkarthanganaelawnhyud aelanaipsukarkxtngxngkhkraerngngan ewnieslxsyngkhngichmatrkarinkarprbprngukarbriharcdkar khwamyutithrrmaelakarrksakhwmsngb aelamikarcdtngklumkhnthiirthidinihtngthinthanthiethssaliechingxrrthKitromilides 2006 p 178 Liberty Still Rules 2013 05 25 thi ewyaebkaemchchin Time Feb 18 1924 Venizelos Eleutherios 2008 Duffield J W The New York Times October 30 1921 Sunday link Intrigue in Greece Melbourne Vic National Library of Australia 4 July 1916 p 7 subkhnemux 29 November 2012 Chester 1921 p 4 Mitsotaki Zoi 2008 National Foundation Research khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 05 18 subkhnemux 2014 08 25 Ion 1910 p 277 Kitromilides 2006 p 45 47 Kitromilides 2006 p 16 Clogg 2002 p 65 Pact of Halepa Encyclopaedia Britannica Online 2008 Kitromilides 2006 p 58 Lowell Sun newspaper 6 2 1897 p 1 Holland 2006 p 87 Papadakis Nikolaos E 2008 Eleftherios Venizelos His path between two revolutions 1889 1897 National Foundation Research cakaehlngedimemux 2007 05 18 subkhnemux 2014 08 26 Holland 2006 p 91 Chester 1921 p 35 Chester 1921 p 34 Kitromilides 2006 p 30 Kitromilides 2006 p 62 Kerofilias 1915 p 14 Dunning Jun 1987 p 367 Chester 1921 pp 35 36 Gibbons p 24 Kerofilias 1915 pp 13 14 Leeper 1916 pp 183 184 Anne O Hare McCormark Venizelos the new Ulysses of Hellas The New York Times Magazine 2 September p 14 Kitromilides 2006 pp 63 64 Kitromilides 2006 p 65 Rose 1897 pp 2 3 Dunning June 1897 p 368 Dunning Dec 1897 p 744 Understanding life in the borderlands boundaries in depth and in motion I William Zartman 2010 p 169 Ion 1910 p 278 Kitromilides 2006 p 68 Manousakis George 2008 National Foundation Research khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 27 subkhnemux 2014 09 01 Kerofilias 1915 pp 30 31 Kerofilias 1915 p 33 Chester 1921 p 82 Chester 1921 p 95 Gibbons pp 35 7 Alastos p 38 Mazower 1992 p 886 Military League Encyclopaedia Britannica Online 2008 Chester 1921 pp 129 133 Gardika Katsiadaki Eleni 2008 Period 1910 1914 National Foundation Research cakaehlngedimemux 2007 05 18 subkhnemux 2014 11 27 Kyriakou 2002 pp 491 492xangxinghnngsuxAbbott G F 2008 Greece and the Allies 1914 1922 London Methuen amp co ltd ISBN 978 0 554 39462 6 Alastos D 1942 Venizelos Patriot Statesman Revolutionary London P Lund Humphries amp co Bagger E S 1922 Eminent Europeans studies in continental reality PDF G P Putnam s Sons Burg D F 1998 Almanac of World War I Lexington University Press of Kentucky ISBN 0 8131 2072 1 Chester S M 1921 Life of Venizelos with a letter from His Excellency M Venizelos PDF London Constable Clogg R 2002 A Concise History of Greece London Cambridge University Press ISBN 0 521 00479 9 Contogeorgis G 1996 Histoire de la Grece Nations d Europe ISBN 2 218 03841 2 Dutton D 1998 The Politics of Diplomacy Britain and France in the Balkans in the First World War I B Tauris ISBN 978 1 86064 079 7 Fotakis Z 2005 Greek naval strategy and policy 1910 1919 London Routledge ISBN 978 0 415 35014 3 Gibbons H A 1920 Venizelos Houghton Mifflin Company Hall Richard C 2000 The Balkan Wars 1912 1913 Prelude to the First World War Routledge ISBN 0 415 22946 4 Hickey M 2007 First World War Volume 4 The Mediterranean Front 1914 1923 Taylor amp Francis ISBN 1 84176 373 X lingkesiy Holland R F Makrides D 2006 The British and the Hellenes Struggles for mastery in the Eastern Mediterranean 1850 1960 Oxford University Press ISBN 0 19 924996 2 1995 Eleftherios Venizelos and the External Relations of Greece 1928 1930 phasakrik Athens Papazisis Editions 1974 The History of the Greek Nation Volume XVI phasakrik Athens Ekdotike Athenon ISBN 960 213 101 2 Kerofilias C 1915 Eleftherios Venizelos his life and work PDF John Murray Kitromilides P 2006 Eleftherios Venizelos The Trials of Statesmanship Edinburgh Edinburgh University Press ISBN 0 7486 2478 3 Koliopoulos G Veremis T 2002 Greece the modern sequel from 1831 to the present New York NYU Press ISBN 0 8147 4767 1 Legg K R 1969 Politics in modern Greece Stanford University Press ISBN 0 8047 0705 7 Leon G B 1974 Greece and the Great Powers 1914 17 Thessaloniki Institute of Balkan Studies Manolikakis Giannis 1985 Eleftherios Venizelos his unknown life Athens Markezinis S 1968 Political History of modern Greece Volume 4 phasakrik Athens Papyros Paxton Hibben 1920 Constantine I and the Greek People New York The Century Co ISBN 978 1 110 76032 9 Pentzopoulos D Smith M L 2002 The Balkan exchange of minorities and its impact on Greece C Hurst amp Co Publishers ISBN 1 85065 674 6 Price Crawfurd 1917 Venizelos and the war a sketch of personalities and politics PDF London Simpkin Rose W K 2003 with 1st ed 1987 With the Greeks in Thessaly Adamant Media Corporation ISBN 1 4021 0628 9 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a trwcsxbkhawnthiin date help Seligman V J 1920 Victory of Venizelos PDF Tsichlis Vasileios S E 2007 The Goudi movement and Eleutherios Venizelos phasakrik Polytropon ISBN 960 8354 69 2 Tucker Spencer C Wood L M Murphy J D 1999 The European Powers in the First World War An Encyclopedia Taylor amp Francis ISBN 0 8153 3351 X a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a line feed character in first thitaaehnng 11 help Vatikotes P 1998 Popular autocracy in Greece 1936 41 a political biography of general Ioannis Metaxas London Routledge ISBN 978 0 7146 4869 9 Venizelos E 1916 Greece in Her True Light Her Position in the World wide War as Expounded by E Venizelos PDF New York a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help exksarBlack Cyril E January 1948 The Greek Crisis Its Constitutional Background The Review of Politics 10 1 84 99 doi 10 1017 S0034670500044521 JSTOR 1404369 Dunning Wm A June 1897 Record of Political Events Political Science Quarterly The Academy of Political Science 12 3 352 380 doi 10 2307 2140141 JSTOR 2140141 Dunning Wm A December 1897 Record of Political Events Political Science Quarterly The Academy of Political Science 12 4 734 756 doi 10 2307 2139703 JSTOR 2139703 Ion Theodore P April 1910 The Cretan Question The American Journal of International Law American Society of International Law 4 2 276 284 doi 10 2307 2186614 JSTOR 2186614 Kyriakidou Maria 2002 PDF European History Quarterly 32 4 489 doi 10 1177 0269142002032004147 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 27 subkhnemux 2014 08 25 Leeper A W A 1916 Allied Portraits Eleftherios Venizelos The New Europe I Mazower M December 1992 The Messiah and the Bourgeoisie Venizelos and Politics in Greece 1909 1912 The Historical Journal 35 4 885 904 doi 10 1017 S0018246X00026200 JSTOR 2639443 ewbistxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Eleftherios Venizeloskxnhna xielfethrixxs ewnieslxs thdipnaykrthmntrikris smythi 1 19 tulakhm kh s 1910 10 minakhm kh s 1915 naykrthmntrikris smythi 2 23 singhakhm kh s 1915 7 tulakhm kh s 1915 23 singhakhm kh s 1915 7 tulakhm kh s 1915 naykrthmntrikris smythi 3 27 mithunayn kh s 1917 17 phvscikayn kh s 1920 27 mithunayn kh s 1917 17 phvscikayn kh s 1920 naykrthmntrikris smythi 4 11 mkrakhm kh s 1924 6 kumphaphnth kh s 1924 naykrthmntrikris smythi 5 4 krkdakhm kh s 1928 26 phvsphakhm kh s 1932 naykrthmntrikris smythi 6 5 mithunayn kh s 1932 4 phvscikayn kh s 1932 naykrthmntrikris smythi 7 16 mkrakhm kh s 1933 6 minakhm kh s 1933 kxtng kh s 1910 kh s 1936 18 kumphaphnth kh s 1924