ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช (อังกฤษ: Alfred the Great; อังกฤษเก่า: Ælfrēd) (ค.ศ. 849 – 26 ตุลาคม ค.ศ. 899) เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรเวสเซ็กซ์ในสมัยราชวงศ์เวสเซ็กซ์ เสด็จพระราชสมภพที่ บาร์กเชอร์ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเอเธลวูล์ฟแห่งเวสเซกซ์และออสเบอร์กา ทรงเสกสมรสกับเอลสวิธ และทรงราชย์เป็นกษัตริย์ของชนแองโกล-แซ็กซอนภายใต้ราชอาณาจักรเวสเซกซ์ระหว่างวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 871 พระเจ้าอัลเฟรดทรงมีชื่อเสียงในการป้องกันราชอาณาจักร จากการรุกรานของชาวไวกิงจากเดนมาร์ก และเป็นพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษพระองค์เดียวที่รับสมญานามว่า “มหาราช”
อัลเฟรดมหาราช | |
---|---|
พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช จัดทำขึ้นเพื่อรำลึกในโอกาสวันครบรอบสหัสวรรษของการสวรรคต | |
กษัตริย์แห่งเวสเซกซ์ | |
ครองราชย์ | 23 เมษายน ค.ศ. 871 – ประมาณ ค.ศ. 886 |
ก่อนหน้า | เอเธลเร็ดที่ 1 |
ถัดไป | ตัวพระองค์เอง (ในฐานะกษัตริย์แห่งชนแองโกล-แซกซอน) |
กษัตริย์แห่งชนแองโกล-แซกซอน | |
ครองราชย์ | ราว ค.ศ. 886 – 26 ตุลาคม ค.ศ. 899 |
ก่อนหน้า | ตัวพระองค์เอง (ในฐานะกษัตริย์แห่งเวสเซกซ์) |
ถัดไป | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโส |
พระราชสมภพ | ราว ค.ศ. 847–849 แวนเทจ, บาร์กเชอร์ |
สวรรคต | 26 ตุลาคม ค.ศ. 899 (50 หรือ 51 พรรษา) |
ฝังพระศพ | ราว ค.ศ. 1100 , วินเชสเตอร์, แฮมป์เชอร์, ปัจจุบันพระศพสูญหาย |
คู่อภิเษก | เอลสวิธ |
พระราชบุตร | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโส , อธิการิณีแห่ง |
ราชวงศ์ | เวสเซกซ์ |
พระราชบิดา | เอเธล์วูลฟ์ กษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์ |
พระราชมารดา | ออสเบอร์ |
พระเจ้าอัลเฟรดทรงเป็นกษัตริย์แห่งแซกซันตะวันตกพระองค์แรก ที่ทรงแสดงพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์แห่งชาวแองโกล-แซกซัน ทรงเป็นผู้มีการศึกษาดี และทรงส่งเสริมการศึกษาและปรับปรุงทางด้านกฎหมายในราชอาณาจักรและระบบการทหาร พระราชประวัติของพระองค์ถูกกล่าวถึงในงานเขียนของ (Asser) นักปราชญ์ชาวเวลส์
เมื่อทรงพระเยาว์
พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช เสด็จพระราชสมภพประมาณระหว่างปี ค.ศ. 847 ถึง ปี ค.ศ. 849 ที่แวนเทจ ในปัจจุบันอยู่ในเทศมลฑลบาร์กเชอร์พระเจ้าอัลเฟรดเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 5 และองค์เล็กของพระเจ้าเอเธลวูล์ฟแห่งเวสเซ็กซ์ (Æthelwulf) และออสเบอร์กาพระชายาองค์แรก ในปี ค.ศ. 868 พระเจ้าอัลเฟรดทรงเสกสมรสกับ เอลสวิธ (Ealhswith) ธิดาของเอเธลเรด มูซิลล์ผู้ปกครองไกนิ (Gaini)
กล่าวกันว่าเมื่อพระเจ้าอัลเฟรดพระชนมายุได้ 5 พรรษาทรงถูกส่งตัวไปกรุงโรม และจากบันทึกเหตุการณ์แองโกล-แซกซัน ก็ประกาศยอมรับและ “เจิมว่าเป็นกษัตริย์” นักเขียนสมัยวิกตอเรียตีความเป็นสัญญาณถึงการที่จะได้สวมมงกุฏเป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งเวสเซกส์ต่อมา แต่อันที่จริงแล้วการที่ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าเช่นที่ว่าเป็นไปได้ยากเพราะในขณะนั้นพระเจ้าอัลเฟรดมีพระเชษฐาสามพระองค์ จดหมายของพระสันตะปาปาลีโอที่ 4 กล่าวว่าพระเจ้าอัลเฟรดได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “กงสุล” (consul) ซึ่งอาจจะเป็นการทำให้เข้าใจผิดไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ต่อมา หรืออาจจะมีสาเหตุมาจากการที่พระเจ้าอัลเฟรดเสด็จติดตามพระราชบิดาไปแสวงบุญที่โรมต่อมาและประทับที่ราชสำนักของพระเจ้าชาร์ลพระเศียรล้าน (Charles the Bald) พระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสอยู่ระยะหนึ่งราวปี ค.ศ. 854 หรือ ค.ศ. 855 เมื่อเสด็จกลับมาจากโรมในปี ค.ศ. 856 พระเจ้าเอเธลวูลฟ ถูกโค่นอำนาจโดยเอเธลบาลด์ (Æthelbald) พระโอรส เมื่อพระเจ้าเอเธลวูล์ฟสวรรคตเมื่อ ค.ศ. 858 เวสเซ็กซ์จึงปกครองโดยพระเชษฐาสามพระองค์ของพระเจ้าอัลเฟรดต่อเนื่องกันมา
กล่าวว่าเมื่อพระเจ้าอัลเฟรดยังทรงพระเยาว์ทรงได้รับรางวัลเป็นหนังสีอโคลงกลอนเป็นภาษาอังกฤษจากพระมารดาและเป็นพระโอรสองค์แรกที่ทรงจำโคลงกลอนจากหนังสือเล่มนั้นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงหรืออาจจะเป็นเรื่องที่เล่าเพื่อสร้างเสริมพระบารมีในความที่มีชื่อว่าเป็นผู้รักการศึกษาเล่าเรียนก็ได้
สมัยการปกครองของพระเจ้าเอเธลเรด
พระนามของพระเจ้าอัลเฟรดไม่ปรากฏในหลักฐานใดๆ ในช่วงระหว่างรัชสมัยการปกครองสั้นๆ ของพระเชษฐาสองพระองค์ของพระองค์ -- เอเธลบอลด์ (Ethelbald of Wessex) และ เอเธล์เบิร์ท (Ethelbert of Wessex) แต่เมื่อ พระเจ้าเอเธลเรดที่ 1 ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 866 พระเจ้าอัลเฟรดก็เริ่มมีบทบาททางการปกครอง ซึ่งเป็นช่วงที่ถวายตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ให้ว่า “secundarius” ซึ่งอาจจะเป็นตำแหน่งเทียบกับตำแหน่ง “tanist” ของชาวเคลต์ ซึ่งหมายถึง “ผู้สืบราชบัลลังก์” หรือผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์และเป็นผู้ที่ยอมรับกันว่าจะเป็นสืบราชบัลลังก์ต่อไป และอาจจะเป็นไปได้ว่าตำแหน่งนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาวิททัน เพื่อป้องกันความขัดแย้งว่าผู้ใดสมควรที่จะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่พระเจ้าเอเธลเรดที่ 1 เสียชีวิตในสงคราม ประเพณีการแต่งตั้งผู้สืบราชบัลลังก์ให้เป็นเจ้าชายและแม่ทัพเป็นประเพณีที่ทำกันในบรรดาชนชั้นปกครองชาวเจอร์มานิค เช่น (Swedes) และชาวแฟรงก์ ซึ่งเกี่ยวดองอย่างใกล้ชิดกับชนชาวแองโกล-แซ็กซอน
ตามหลักฐานกล่าวว่าในปี ค.ศ. 868 พระเจ้าอัลเฟรดทรงต่อสู้ร่วมกับพระเจ้าเอเธลเรดในสงครามต่อต้านการรุกรานของชาวเดนส์ในอาณาจักร์เมอร์เซียแต่มิได้ประสบความสำเร็จ ไวกิงมิได้รุกรานเวสเซกซ์ อยู่สองปีเพราะอัลเฟรดทรงจ้างไม่ให้รุกราน แต่ในปลายปี ค.ศ. 870 ชาวเดนส์ก็เข้ามารุกรานเวสเซ็กซ์อีกครั้ง ปีต่อมาเป็นปีที่รู้จักกันว่าเป็นปีแห่งการต่อสู้ของพระองค์ ระหว่างนั้นทรงเข้าศึกเก้าครั้งแพ้บ้างชนะบ้าง ที่บาร์คเชอร์ ทรงได้รับชัยชนะใน (Battle of Englefield) เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ปี ค.ศ. 870 ตามด้วยความพ่ายแพ้ที่ (Battle of Reading) เมื่อวันที่ 5 มกราคม ปี ค.ศ. 871 สี่วันต่อมาก็ทรงได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดที่ (Battle of Ashdown) ที่บาร์กเชอร์ดาวน์ที่อาจจะตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอมพ์ตันหรืออัลด์เวิร์ธ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 22 มกราคม ก็ทรงพ่ายแพ้ที่เบสซิง และอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ (Battle of Merton) (อาจจะเป็นมาร์เด็นในมณฑลวิลท์เชอร์ หรือ มาร์ตินในมณฑลดอร์เซ็ท) ซึ่งเป็นสนามรบที่พระเจ้าเอเธลเรดถูกปลงพระชนม์
สมัยสงคราม
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 871 พระเจ้าเอเธลเรดเสด็จสวรรคต อัลเฟรดขึ้นครองราชบัลลังก์เวสเซกซ์ต่อจากพระเชษฐาผู้มีมีพระโอรสของพระองค์เองที่ยังทรงพระเยาว์สองพระองค์ โดยปราศจากการประท้วงในสิทธิการสืบราชบัลลังก์ของพระองค์เพราะทรงเป็นผู้มีความปรีชาสามารถทางการทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่บ้านเมืองต้องการในขณะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาพที่ร้อนเป็นไฟ แต่พระเจ้าอัลเฟรดก็มิได้ทรงละเลยในการปกป้องสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ของพระนัดดา ขณะที่ทรงยุ่งกับพิธีทำพระศพของพระเชษฐา ชาวเดนส์ก็แอบโจมตีท้ายครัว และโจมตีต่อพระพักตร์ที่วิลต์ตันในแคว้นวิลท์เชอร์ในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นบ้านเมืองก็มีความสงบสุขอยู่ราวห้าปีขณะที่ชาวเดนส์ยึดครองส่วนอื่นของอังกฤษ แต่ในปี ค.ศ. 876 ภายใต้ (Guthrum the Old) ผู้นำคนใหม่ ชาวเดนส์ก็แอบโจมตีกองทัพอังกฤษอีก และโจมตีเวเร็มในแคว้นดอร์เซ็ท ต่อมาในปี ค.ศ. 877 ในขณะที่แสร้งทำการเจรจาเดนส์ก็กลับไปโจมตีและพยายามยึดครอง เอ็กซีเตอร์ ในแคว้นเดวอน แต่พระเจ้าอัลเฟรดทรงสามารถปิดท่าขณะที่กองเรือของชนชาวเดนส์ถูกพายุกระหน่ำจนจำต้องพ่ายแพ้และถอยทัพไปยังเมอร์เซีย แต่ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 878 ชาวเดนส์ก็กลับมาจู่โจมชิพเพ็นนัมที่เป็นที่มั่นและเป็นที่ประทับของพระเจ้าอัลเฟรดระหว่างคริสต์มาสโดยไม่รู้ตัว จนต้องทรงถอยไปตั้งหลักที่เอเธลนีย์เมื่ออีสเตอร์ (พงศาวดารแองโกล-แซกซัน)
ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันดีกล่าวว่าเมื่อพระเจ้าอัลเฟรดเสด็จหนีไปบริเวณ (Somerset Levels) ก็มีหญิงชาวบ้านถวายที่หลบภัยให้พระองค์และโดยไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใครก็ใช้ให้เฝ้าขนมเค้กในเตาอบ แต่พระเจ้าอัลเฟรดทรงหมกมุ่นอยู่กับสถานะการณ์บ้านเมืองก็เลยทรงทำเค้กไหม้ เมื่อหญิงชาวบ้านทราบว่าพระองค์เป็นใครก็ขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการใหญ่แต่พระเจ้าอัลเฟรดกลับทรงกล่าวว่าพระองค์เองต่างหากที่ควรจะเป็นผู้ขอโทษ ขณะที่หลบภัยจากข้าศึกพระเจ้าอัลเฟรดทรงตั้งที่มั่นเป็นที่ต่อต้านศัตรูอยู่ที่บริเวณเกาะเลนใกล้ (North Petherton) โดยใช้กองทหารท้องถิ่นจากเทศซัมเมอร์เซต วิลต์เชอร์ และแฮมป์เชอร์
ตำนานการปลอมพระองค์อีกเรื่องหนึ่งคือเมื่อทรงปลอมเป็นนักดนตรีเพื่อจะเข้าไปสืบแผนการโจมตีอังกฤษในค่ายของ ผลจากการกระทำครั้งนี้ทำให้เกิด (Battle of Edington) ใกล้เวสต์บรีในมณฑลวิลท์เชอร์ พระเจ้าอัลเฟรดทรงได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด ตามคำกล่าวของ ชนชาวเดนส์ยอมรับอำนาจของพระเจ้าอัลเฟรด และกูธรัมกับผู้นำอีก 29 คนยอมรับศีลล้างบาปหลังจากลงนามใน (Treaty of Wedmore) หลังจากการลงนามอังกฤษก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ด้านใต้อยู่ภายใต้การปกครองของแซ็กซอน และบริเวณทางเหนือรวมทั้งลอนดอนที่รู้จักกันในนาม “บริเวณเดนลอว์” อยู่ภายใต้การปกครองของไวกิง ในปีต่อมา ค.ศ. 879 ทั้งราชอาณาจักรเวสเซ็กซ์ และ ราชอาณาจักรเมอร์เซียทางตะวันตกชอง ก็ปราศจากผู้รุกราน (Watling Street)
ในช่วงสองสามปีต่อมาบ้านเมืองก็มีความสงบสุขเพราะชนชาวเดนส์มัวแต่ยุ่งทำสงครามบนผืนแผ่นดินใหญ่ยุโรป แต่ในปี ค.ศ. 884 หรือ ค.ศ. 885 ชนชาวเดนส์ก็กลับมาขึ้นฝั่งที่ราชอาณาจักรเคนต์ไม่ไกลจากพลัคส์กัตเตอร์ (Plucks Gutter) เพื่อจะยุยงให้ชนเดนส์ในราชอาณาจักรอีสต์อังเกลียแข็งข้อต่อพระเจ้าอัลเฟรดแต่ก็ไม่สำเร็จ พระเจ้าอัลเฟรดจึงทรงพยายามหยุดยั้งการรุกรานที่อาจจะเกิดขึ้นโดยทรงยึดลอนดอนใน ปี ค.ศ. 885 หรือ ค.ศ. 886 กูธรัมจึงยอมลงนามร่วมกับพระเจ้าอัลเฟรดใน (Treaty of Alfred and Guthrum) ซึ่งทำให้บ้านเมืองสงบสุขอยู่ระยะหนึ่งแต่ก็มาสิ้นสุดลงในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 892 หรือ ค.ศ. 893 เมื่ออำนาจในยุโรปเริ่มอ่อนแอลงชนชาวเดนส์ก็หันมารุกรานอังกฤษ ครั้งนี้มากับกองทัพเรือที่ประกอบด้วยเรือ 330 ลำ ที่แบ่งเป็นสองกองๆ ใหญ่ กองใหญ่ตั้งอยู่ที่มั่นอยู่ที่ (Appledore) และกองเล็กที่ (Milton) ภายใต้การนำของ (Haesten) กองกำลังรุกรานนำครอบครัวรวมทั้งผู้หญิงและเด็กมาด้วยเพื่อมาตั้งถิ่นฐานและยึดอังกฤษเป็นอาณานิคมถ้าได้รับชัยชนะ ในปี ค.ศ. 893 หรือ ค.ศ. 894 พระเจ้าอัลเฟรดทรงตั้งที่มั่นตรงจุดที่ทรงสามารถมองเห็นกองกำลังของศัตรูทั้งสองกองได้พร้อมกัน แต่ขณะที่ทรงทำการเจรจากับ กองกำลังที่ก็แยกตัวออกไปโจมตีทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ก็พ่ายแพ้ต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโสพระราชโอรสองค์โตของพระองค์ และมาพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่ (Farnham) ในมณฑลเซอร์รี (Surrey) จนต้องถอยไปหลบอยู่บนเกาะในแม่น้ำโคลนแต่ในที่สุดก็ต้องยอมพ่ายแพ้ และถอยไปที่เอสเซ็กส์แต่ก็ไปแพ้อีกครั้งหนึ่งที่เบ็นฟลีท หลังจากนั้นก็ไปถอยไปรวมตัวกับที่ (Shoebury)
ขณะที่พระเจ้าอัลเฟรดเสด็จนำทัพไปยังทอร์นีย์เพื่อไปช่วยพระราชโอรสก็ทรงได้รับข่าวว่าชนชาวเดนส์ในราชอาณาจักรนอร์ทธัมเบรียและราชอาณาจักรอีสต์อังเกลียเข้าล้อมเมือง เอ็กซีเตอร์และทางฝั่งทะเลทางด้านเหนือของแคว้นเดวอน พระเจ้าอัลเฟรดจึงหันทัพกลับไปทางตะวันตกเพื่อไปหยุดยั้งการรุกรานที่เอ็กซีเตอร์แต่ไม่มีหลักฐานบ่งถึงสถานะการณ์ทางเหนือของแคว้นเดวอน ขณะเดียวกันกองกำลังของก็เดินทัพขึ้นไปยัง (Thames Valley) เพื่ออาจจะไปช่วยพันธมิตรทางด้านตะวันตกแต่ไปปะทะกับกองกำลังใหญ่ของกลุ่มเอิร์ลสามคนจากแคว้นเมอร์เซีย เทศมณฑลวิลต์เชอร์ และเทศมณฑลซัมเมอร์เซต จนต้องถอยไปทางเหนือและในที่สุดก็ไปพ่ายแพ้ที่ (Buttington) ซึ่งบ้างก็ว่าอาจจะเป็นบัตติงตัน ทัมพ์ที่ปาก (River Wye) หรือ อาจจะเป็นบัตติงตัน ใกล้ (Welshpool) ก็ได้ กองทัพเดนส์พยายามหนีจากแนวแต่ไม่สำเร็จ ผู้ที่หนีได้ก็หนีไป หลังจากไปรวบรวมกำลังตั้งตัวได้ก็เดินทัพอย่างรวดเร็วข้ามแผ่นดินอังกฤษไปยึดซากกำแพงโรมันที่ เชสเตอร์ (Chester) กองทัพอังกฤษมิได้พยายามเข้าต่อสู้นอกไปจากทำลายกองเสบียง เมื่อต้นปี ค.ศ. 894 หรือ ค.ศ. 895 กองทัพเดนส์ก็ถอยทัพกลับไปมณฑลเอสเซ็กส์เพราะขาดเสบียง พอปลายปี หรือต้นปี ค.ศ. 895 หรือ ค.ศ. 896 กองกำลังของเดนส์ก็ล่องกองเรือขึ้นแม่น้ำเทมส์และและไปตั้งที่มั่นอยู่ราว 32 กิโลเมตรเหนือตัวเมืองลอนดอน การโจมตีแนวกองทัพของเดนส์โดยตรงประสพความล้มเหลว แต่ต่อมาในปีเดียวกันพระเจ้าอัลเฟรดทรงเห็นทางที่จะบั่นทอนกำลังของชนชาวเดนส์โดยการปิดแม่น้ำ เมื่อกองทัพเดนส์เห็นว่าจะเพลี่ยงพล้ำก็ถอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือไปตั้งหลักระหว่างฤดูหนาวที่ (Bridgenorth) ปีต่อมา ค.ศ. 896 หรือ ค.ศ. 897 กองทัพเดนส์ก็ถอยต่อไปยังราชอาณาจักรนอร์ธัมเบรียและบางส่วนไปยังราชอาณาจักรอีสต์อังเกลีย ผู้ที่ไม่มีถิ่นฐานในอังกฤษก็ถอยกลับไปผืนแผ่นดินใหญ่ยุโรป
การจัดระบบการปกครองแผ่นดิน
หลังจากที่กำจัดกองทัพเดนส์ จากอังกฤษแล้วพระเจ้าอัลเฟรดก็ทรงหันความสนพระทัยไปในการปรับปรุงราชนาวี เพื่อต่อต้านการรุกรานในบริเวณฝั่งทะเลเวสเซ็กซ์โดยชนชาวเดนส์จากราชอาณาจักรนอร์ธัมเบรียและแคว้นอีสต์อังเกลียและการขึ้นฝั่งจากทางยุโรปที่อาจจะเกิดขึ้นอีก การปรับปรุงทางนาวีครั้งนี้มิใช่การเริ่มก่อตั้งราชนาวีอังกฤษตามที่เข้าใจกัน พระเจ้าอัลเฟรดทรงเข้าร่วมสงครามทางทะเลหลายครั้งก่อนหน้านั้น เช่นทรงเข้าร่วมต่อสู้กับพระเจ้าเอเธลวูล์ฟแห่งเวสเซ็กซ์พระราชบิดาในปี ค.ศ. 851 และก่อนหน้านั้น ในปี ค.ศ. 833 และ ในปี ค.ศ. 840 พงศาวดารแองโกล-แซ็กซอนสรรเสริญว่าพระองค์เป็นผู้ก่อตั้งเรือแบบใหม่ตามแบบที่ทรงออกแบบเองซึ่งเป็นเรือที่เร็วกว่า มั่นคงกว่า และสูงกว่าเรือแบบที่เคยใช้กันมา แต่เรือแบบใหม่ที่ว่านี้มิได้ประสบความสำเร็จเท่าใดนักนอกไปจากว่ามีข่าวว่าติดเลนหรือโคลงเคลงระหว่างพายุ แต่จะอย่างไรก็ตามทั้งราชนาวีอังกฤษและกองทัพเรือสหรัฐยกย่องให้พระเจ้าอัลเฟรดเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวางพื้นฐานทางกองทัพเรือ
บันทึกเหตุการณ์แองโกล-แซกซันบันทึกว่าพระเจ้าอัลเฟรดทรงแบ่งกองทัพที่ในการต่อสู้เป็นสองกอง ที่เรียกว่าระบบ “Fyrd” เพื่อให้ “กองหนึ่งประจำอยู่ในที่ตั้งมั่นและอีกกองหนึ่งออกรบ” การจัดระบบสองกองทัพเช่นนี้เป็นการใช้กำลังคนเป็นจำนวนมาก ส่วนระบบการบริหารบ้านเมืองที่ซับซ้อนจะเห็นได้จากบันทึกที่พอน่าจะถือได้ ในปี ค.ศ. 892 ที่กล่าวถึงตำแหน่งต่างๆ เช่น “thesaurius” “cellararius” “pincerna”—เจ้ากรมคลัง นายเสบียง และผู้รับใช้ แม้ว่าในปี ค.ศ. 893 จะทรงพิโรธที่กองกำลังหนึ่งมายอมแพ้แก่กองทัพเดนส์เสียก่อนที่ทรงนำกองทัพที่สองขึ้นไปหนุนทัน แต่โดยทั่วไปแล้วระบบการปกครองและการบริหารของพระองค์ก็เป็นระบบที่มีสมรรถภาพดี
จุดอ่อนที่สุดจุดหนึ่งของระบบการป้องกันประเทศก่อนรัชสมัยของพระเจ้าอัลเฟรดก็คือเมื่อยามไม่มีศึกสงครามป้อมปราการต่างๆ ส่วนใหญ่ก็ถูกทิ้งร้างไว้โดยไม่มีทหารประจำการซึ่งทำให้ไวกิงเข้ายึดเป็นที่มั่นและตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้อย่างง่ายดาย พระเจ้าอัลเฟรดทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการป้องกันเวสเซ็กซ์อย่างสิ้นเชิงโดยการก่อสร้างป้อมปราการทั่วไปในราชอาณาจักร ที่เรียกกันว่า “บะระห์” หรือ “boroughs” (โบโรห์) ระหว่างการขุดค้นทางโบราณคดีที่ (Wareham) , (Cricklade), (Lydford) และ (Wallingford) พบว่าสถานที่ที่ขุดแต่ละแห่งเคยเป็นป้อมปราการหรือ “บะระห์” จากรัชสมัยของพระเจ้าอัลเฟรด หลักฐานเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการประจำการและการดูแลป้อมโดยทหารอาชีพพบในต้นฉบับการบริหารที่บันทึกไว้ภายในเวลาเพียงยี่สิบปีหลังจากที่พระเจ้าอัลเฟรดเสด็จสวรรคตที่เรียกว่า “Burghal Hidage” หรืออาจจะบันทึกภายในสมัยของพระองค์เองด้วยซ้ำ บันทึกที่ว่านี้ทำให้เราทราบถึงพระราชนโยบายทางด้านการบริหารของพระองค์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างผังเมืองของ และ กับ วินเชสเตอร์ แล้วจะเห็นว่าเป็นผังเมืองที่วางแบบเดียวกัน (วอร์มาลด์) ซึ่งสนับสนุนความคิดที่ว่าการวางผังเมืองใหม่นอกจากจะเป็นการวางผังเมืองสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและการค้าขายแล้วก็ยังคำนึงถึงความมั่นคงและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยจากอันตรายจากภายนอกด้วย ซึ่งเป็นการดึงดูดประชากรอังกฤษให้เข้าไปตั้งหลักฐานในเมืองเหล่านี้มากขึ้นเพราะเป็นที่ๆ ปลอดภัยจากไวกิง และนอกจากนั้นก็ยังเป็นที่ทำรายได้ให้แก่แผ่นดินโดยการเก็บภาษีให้แก่พระมหากษัตริย์
นอกจากนั้นแล้วพระเจ้าอัลเฟรดยังทรงมีบทบาทสำคัญในการจัดระบบชุมชนโดยเฉพาะในบริเวณที่ถูกทำลายโดยเดนส์ และถึงแม้ว่าเราจะไม่ยอมรับบันทึกเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจใน “Burghal Hidage” เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อทรงยึดแคว้นเมอร์เซียจากไวกิง ระบบการปกครองแบบ “ไชร์” เป็นระบบที่เริ่มก่อตั้งเป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของตำนานที่ว่าพระเจ้าอัลเฟรดทรงเป็นผู้ก่อตั้งระบบ “ระบบไชร์” ที่ประกอบด้วยจำนวนที่ที่ดินที่กำหนดไว้ () และ “” (Tithing) ความมีพระปรีชาสามารถในการบริหารและระบบยุติธรรมทำให้พระองค์ได้รับสมญานามว่า “ผู้พิทักษ์คนยาก” แต่ สภาวิททัน มิได้กล่าวถึงพระองค์เท่าใดนักแต่ที่แน่คือทรงยอมรับสิทธิของสภาแต่สภาวการณ์ในเวลานั้นจะเน้นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เป็นใหญ่ กฎหมายต่าง ๆ ของพระเจ้าอัลเฟรดเป็นกฎหมายที่ออกในปลายรัชสมัยหลังจากอันตรายจากเดนส์ลดน้อยลง นอกจากนั้นก็ยังทรงมีบทบาททางการเงินแต่ไม่มีรายละเอียดมากนัก
การปฏิรูปทางนิติบัญญัติ
พระราชกรณียกิจที่สำคัญที่สุดของพระเจ้าอัลเฟรดคือกฎหมายที่เรียกว่า “Deemings” หรือ “บันทึกกฎหมาย” (Book of “Dooms”) วินสตัน เชอร์ชิลล์เชื่อว่ารากฐานของกฎหมายของพระเจ้าอัลเฟรดมาจากการผสมผสานของ และวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของแองโกล-แซ็กซอน ด็อคเตอร์ เอฟ เอ็น ลีแสดงความคล้ายคลึงระหว่างกฎหมายของพระเจ้าอัลเฟรดกับ แต่ ทอมัส เจฟเฟอร์สัน สรุปหลังจากศึกษาประวัติของกฎหมายอังกฤษว่า “กฎหมายมีมาตั้งแต่ชาวแองโกล-แซกซันยังเป็นผู้นอกรีต, เมื่อยังไม่เคยได้ยินพระนามของพระเยซูหรือไม่รู้ว่าพระเยซูมีตัวตน” วินสตัน เชอร์ชิลล์กล่าวว่ากฎหมายของพระเจ้าอัลเฟรดมาขยายความโดยชนรุ่นหลังจนกลายมาเป็นกฎหมายที่ใช้ในการบริหารและ “ระบบศาลฮันเดรด” (The Hundred Courts) ซึ่งในที่สุดก็นำมาสู่ (Charter of Liberties) พระราชทานโดยพระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1100
การต่างประเทศ
สรรเสริญพระเจ้าอัลเฟรดในด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศอย่างเลิศเลอแต่ก็มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยสนับสนุนพระปรีชาสามารถทางด้านนี้ ตัวอย่างของความสนพระทัยในด้านนี้คือที่ทรงแปลหนังสือของ (Orosius) และที่แน่คือทรงเขียนพระสาส์นติดต่อกับพระสังฆราชอีไลอัสที่ 3 พระสังฆราชออร์ธอด็อกซ์แห่งเยรูซาเลมและอาจจะทรงส่งผู้แทนไปประเทศอินเดีย นอกจากนั้นก็ยังทรงการติดต่อกับกาหลิปที่แบกแดด สถานทูตที่โรมบันทึกถึงทานที่ทรงส่งมาจากอังกฤษมาให้พระสันตะปาปาอย่างสม่ำเสมอ ประมาณปี ค.ศ. 890 (Wulfstan of Haithabu) เดินทางจากไฮธาบูที่เลียบฝั่งทะเลบอลติคไปยังเมืองพานิชย์ในปรัสเซียโดยที่พระเจ้าอัลเฟรดทรงกำชับให้ส่งรายงานการเดินทางอย่างละเอียดกลับมาถึงพระองค์
หลักฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าอัลเฟรดกับเจ้าชายเคลติคทางตะวันตกของอังกฤษเห็นได้ชัดกว่า เมื่อต้นรัชสมัยตามคำกล่าวของเจ้าผู้ครองบริเวณต่าง ๆ ในเวลส์ตอนใต้ และแคว้นเมอร์เซีย เข้าเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าอัลเฟรด ต่อมาในปลายรัชสมัยเจ้าผู้ครองในเวลส์ทางตอนเหนือก็ทำเช่นเดียวกันและต่อมาเข้าร่วมรบกับอังกฤษในปี ค.ศ. 893 หรือ ปี ค.ศ. 894 นอกไปจากนั้นก็ยังทรงส่งทานไปยังสำนักสงฆ์ต่างๆ ในไอร์แลนด์และยุโรป ซึ่งอาจจะเป็นเพียงข้อเขียนของเท่านั้น แต่การมาเยือนของนักแสวงบุญไอริชสามคนในปี ค.ศ. 891 เป็นเรื่องจริง ตำนานที่ว่าพระองค์ถูกส่งไปให้นักบุญมอดเว็นนารักษาที่ไอร์แลนด์อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มีความผูกพันกับเกาะนี้
ศาสนาและวัฒนธรรม
หลักฐานเกี่ยวกับพระเจ้าอัลเฟรดและคริสต์ศาสนามีเพียงเล็กน้อย การรุกรานของชนชาวเดนส์ทำความเสียหายแก่อารามเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะทรงสร้างอารามสองสามแห่งและเชิญนักพรตจากยุโรปมาอังกฤษก็มิได้ทำให้อารามในอังกฤษฟื้นตัวขึ้นเท่าใดนัก นอกไปจากการทำลายคริสตจักรแลัวก็ยังมีผลกระทบกระเทือนต่อการศึกษา โดยเฉพาะทำให้อังกฤษขาดแคลนผู้รู้ภาษาละติน ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้พระเจ้าอัลเฟรดทรงเริ่มการแปลหนังสือ
พระเจ้าอัลเฟรดทรงก่อตั้งสถานศึกษาในราชสำนักตามรอยพระบาทของ ชาร์เลอมาญ โดยทรงนำนักปราชญ์จากยุโรปมายังราชสำนักเช่น (Grimbald) และจอห์นแห่งแซ็กส์ตัน (John the Saxon) และ (Asser) จากตอนใต้ของเวลส์
นอกไปจาก “Handboc” หรือ “Encheiridion” ที่สูญหายไปที่เป็นหนังสือที่ทรงเป็นเจ้าของแล้วงานแปลชิ้นแรกที่สุดในรัชสมัยคือ “บทสนทนาของนักบุญเกรกอรี” (Dialogues of Gregory) ซึ่งเป็นหนังสือที่นิยมกันในยุคกลาง ผู้แปลคือ (Werferth) บาทหลวงแห่งวูสเตอร์พระสหายสนิทของพระองค์ ส่วนพระองค์เองเพียงทรงประพันธ์คำนำ งานชิ้นต่อมาคือ “Pastoral Care” แปลโดยเฉพาะสำหรับนักบวชประจำท้องถิ่น หนังสือแปลฉบับนี้แปลตรงกับต้นฉบับอย่างใกล้ชิดแต่ที่สำคัญก็คือบทนำที่ทรงประพันธ์ที่ถือกันว่าเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุดในรัชสมัยหรือสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของประวัติศาสตร์อังกฤษ งานอีกสองชิ้นต่อมา “ประวัติศาสตร์ทั่วไป” ของ และ “ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาสนาของชนอังกฤษ” (Historia ecclesiastica gentis Anglorum) โดยนักบุญบีด เล่มแรก “ประวัติศาสตร์ทั่วไป” พระเจ้าอัลเฟรดทรงแก้ไขต่อเติมจากต้นฉบับมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นงานชิ้นใหม่ แต่งานแปลจากบันทึกของบีดทรงยึดต้นฉบับอย่างใกล้เคียงและมิได้ทรงต่อเติมเนื้อหาใดๆ แต่ความเชื่อที่ว่าพระเจ้าอัลเฟรดทรงเป็นผู้แปลหนังสือของบีดจริงหรือไม่ยังเป็นที่น่าเคลือบแคลง
งานแปลของพระองค์ “ปรัชญาทั่วไป” (The Consolation of Philosophy) โดย (Anicius Manlius Severinus Boethius) ถือกันว่าเป็นงานแปลคู่มือปรัชญาชิ้นที่นิยมกันที่สุดในยุคกลาง งานแปลฉบับนี้เป็นฉบับที่ไม่ทรงแปลตรงตามต้นฉบับทั้งหมดแต่ด็อคเตอร์ จี เช็พส์แสดงให้เห็นว่าส่วนที่แตกต่างไปจากต้นฉบับมิได้มาจากคำแปลของพระองค์ แต่มาจากความเห็นของหนังสือที่ทรงใช้ แต่อย่างไรก็ตามผลงานนี้ก็ยังแสดงถึงความมีพระปรีชาสามารถของพระองค์ หนังสือที่ตกมาถึงปัจจุบันเป็นต้นฉบับสองเล่ม ในเล่มหนึ่ง เป็นงานร้อยแก้วอีกฉบับหนึ่งเป็นงานผสมระหว่างร้อยแก้วและร้อยกรอง งานชิ้นหลังได้รับความเสียหายมากในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 แต่ผู้แปลส่วนที่เป็นร้อยกรองที่แท้จริงเป็นใครก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่เชื่อกันว่าเป็นงานของพระเจ้าอัลเฟรด ในบทนำทรงบันทึกว่าทรงเขียนส่วนที่เป็นร้อยแก้วก่อนและใช้เป็นฐานในการเขียนส่วนที่เป็นร้อยกรอง “Lays of Boethius” ซึ่งถือว่าเป็นงานทางวรรณกรรมที่สำคัญที่สุดของพระองค์ พระเจ้าอัลเฟรดทรงใช้การเขียนหนังสือเป็นการผ่อนคลายในยามที่ทรงเครียดกับสถานะการณ์บ้านเมือง
งานชิ้นสุดท้ายของพระเจ้าอัลเฟรดมีชื่อว่า “Blostman” หรือ “Blooms” หรือ “หนังสือรวมบทประพันธ์” (Anthology) ครึ่งแรกมีพื้นฐานมาจากข้อเขียนของนักบุญออกัสตินแห่งฮิปโป ที่เหลือมาจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ และเป็นบทประพันธ์ที่บ่งบอกถึงลักษณะส่วนพระองค์ของพระองค์อย่างเด่นชัด ข้อเขียนสุดท้ายคำกล่าวที่เหมาะสมกับผู้เป็นวีรบุรุษเช่นพระองค์ “Therefore he seems to me a very foolish man, and truly wretched, who will not increase his understanding while he is in the world, and ever wish and long to reach that endless life where all shall be made clear.”
นอกจากงานที่กล่าวมาแล้วก็ยังทรงมีส่วนในการประพันธ์บันทึกเหตุการณ์แองโกล-แซกซัน และทรงประพันธ์หรือทรงมีอิทธิพลในการเขียน “รายชื่อนักบุญผู้พลีชีพแซ็กซอน” (Saxon Martyrology) ที่ยังหลงเหลือแต่เพียงเล็กน้อย บทร้อยแก้วของเพลงสดุดีห้าสิบบทเชื่อกันว่าเขียนโดยพระองค์ นอกจากนั้นพระเจ้าอัลเฟรดยังทรงปรากฏใน “” (The Owl and the Nightingale) “” (The Proverbs of Alfred) ก็เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ตกมาถึงปัจจุบันจากคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งเนื้อหาน่าจะมีต้นตอบางส่วนมาจากพระองค์
นักบุญ
นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์นับถือว่าพระเจ้าอัลเฟรดเป็นนักบุญและเป็นวีรบุรุษใน “แองกลิคันคอมมิวเนียน” (Anglican Communion) โดยมีวันสมโภชน์ตรงกับวันที่ 26 ตุลาคม,
ครอบครัว
ในปี ค.ศ. 868 พระเจ้าอัลเฟรดทรงเสกสมรสกับเอลสวิธธิดาของเอเธลเรด มูซิลล์ผู้ปกครองไกนิ (Gaini) จากในบริเวณ และอาจจะเป็นพระนัดดาของ พระเจ้าอัลเฟรดและพระชายาทรงมีโอรสธิดาด้วยกันหกพระองค์รวมทั้งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโสผู้ครองราชบัลลังก์สืบต่อจากพระองค์, (Ethelfleda) ผู้ต่อมาเป็นพระราชินีแห่งราชอาณาจักรเมอร์เซีย และ (Ælfthryth, Countess of Flanders) ผู้ต่อมาแต่งงานกับ (Baldwin II, Count of Flanders) ออสเบอร์กาพระมารดของพระองค์เป็นบุตรีของออสลาคแห่งเกาะไวท์ ซึ่งกล่าวไว้ในหนังสือพระราชประวัติว่าแสดงให้เห็นว่าทรงสืบเชื้อสายมาจากชาวจูต (Jutes) แห่งเกาะไวท์ แต่ข้อสันนิษฐานนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะกล่าวว่าถูกสังหารโดยชาวแซกซันไปหมดภายใต้การนำของ (Caedwalla) แต่เชื้อสายของพระองค์สืบได้ว่ามาจากราชวงศ์เวสเซ็กซ์จากพระเจ้าวิห์เทรดแห่งเค้นท์ผู้มีพระมารดาเป็นพระขนิษฐาของอาร์วอลด์ (Arwald) ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้ายของเกาะไวท์
พระนาม | พระราชสมภพ | สวรรคต | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
(Æthelflæd) | ค.ศ. 918 | เสกสมรส ค.ศ. 889, เอเธลเรด ขุนนางแห่งเมอร์เซีย เสียชีวิต ค.ศ. 910 มีโอรสธิดาด้วยกัน | |
เอ็ดเวิร์ด | ค.ศ. 870 | 17 กรกฎาคม ค.ศ. 924 | เสกสมรส (1) เอ็กวิน (2) เอลฟฟาเอด (3) ค.ศ. 919 อีดกิฟูแห่งเคนต์ (Eadgifu of Kent) |
เอเธลจิวา (Æthelgiva) | อธิการิณีอารามชาฟสบรี | ||
(Ælfthryth) | ค.ศ. 929 | เสกสมรส มีโอรสธิดาด้วยกัน | |
(Æthelwærd) | 16 ตุลาคม ค.ศ. 922 | เสกสมรสและมีโอรสธิดาด้วยกัน |
ราชตระกูล
16. | ||||||||||||||||
8. | ||||||||||||||||
4. เอ็กเบิรต์แห่งเวสเซ็กซ์ | ||||||||||||||||
2. พระเจ้าเอเธลวูล์ฟแห่งเวสเซกซ์ | ||||||||||||||||
5. | ||||||||||||||||
1. พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช | ||||||||||||||||
6. ออสแล็ก | ||||||||||||||||
3. ออสเบอร์ | ||||||||||||||||
บั้นปลายพระชนม์ชีพ
พระเจ้าอัลเฟรดเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม แต่จะในปีใดนักประวัติศาสตร์ไม่ทราบแน่นอน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ ค.ศ. 901 ดังที่เขียนไว้ในบันทึกเหตุการณ์แองโกล-แซกซัน และจะด้วยสาเหตใดก็ไม่เป็นที่ทราบแน่นอนเช่นกัน แต่ตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ก็ประชวรด้วยพระอาการหลายอย่างซี่งอาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารก็ได้ หลังจากเสด็จสวรรคตพระบรมศพถูกนำไปเก็บไว้ชั่วคราวที่มินส์เตอร์เก่าที่วินเชสเตอร์ ต่อมาก็อัญเชิญไปที่มินสเตอร์ใหม่ซึ่งอาจจะสร้างสำหรับบรรจุพระบรมศพโดยเฉพาะ เมื่อมินส์เตอร์ใหม่ย้ายไปตั้งอยู่ที่ไฮด์ทางด้านเหนือของตัวเมืองในปี ค.ศ. 1110 พระจากวัดใหม่ก็ย้ายตามไปที่ด้วยพร้อมกับพระบรมศพ ในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ที่ฝังพระศพก็ถูกปล้นโดยเจ้าของวัดใหม่ โลงพระศพถูกหลอมเอาตะกั่ว พระศพที่เหลือก็ถูกฝังอย่างไม่มีพิธีรีตองในลานวัด แต่หลุมพระศพถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งระหว่างการสร้างคุกใหม่ในปี ค.ศ. 1788 ทำให้กระดูกกระจัดกระจายไปหมด แต่กระดูกที่พบในบริเวณคล้ายเคียงกันในคริสต์ทศวรรษ 1860 ได้รับการประกาศว่าเป็นกระดูกของพระองค์ ในการขุดค้นทางโบราณคดีในปี ค.ศ. 1999 ในหลุมที่เชื่อว่าเป็นหลุมของพระองค์ พระชายาและพระโอรสแทบจะไม่พบซากใด ๆ ในหลุม
สถาบันการศึกษาหลายแห่งในอังกฤษใช้พระนามของพระองค์เป็นชื่อสถาบัน ซึ่งได้แก่:
- ใช้ชื่อ King Alfred's College, Winchester ระหว่างปี ค.ศ. 1840 ถึงปี ค.ศ. 2004 แต่มาเปลี่ยนเป็น “University College Winchester”
- และ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอัลเฟรดที่นิวยอร์ก
- เพื่อเป็นเกียรติให้แก่พระองค์มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลก่อตั้งตำแหน่ง King Alfred Chair of English Literature
- เป็นชื่อโรงเรียนมัธยมที่แวนเทจในอ็อกฟอร์ดเชอร์ที่เกิดของอัลเฟรด
- King's Lodge School ที่ใน เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่ทรงใช้ล่าสัตว์
- King Alfred School ที่, ลอนดอนเหนือ
หมายเหตุ
- แวนเทจเคยอยู่ในเขตมณฑลบาร์กเชอร์ แต่นับตั้งแต่ ค.ศ. 1974 อยู่ในเขตมณทล ออกซฟอร์ดเชอร์
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยสถาน, สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 242
- พระเจ้าอัลเฟรดเป็นพระราชโอรสองค์เล็กที่สุดในบรรดาพระอนุชาและขนิษฐาห้าพระองค์ [1]
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-02. สืบค้นเมื่อ 2008-04-05.
- วอร์มาลด์, แพททริค, 'อัลเฟรด (848/9-899) ', พจนานุกรมชีวประวัติแห่งชาติออกซฟอร์ด (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด, 2004)
- เชอร์ชิลล์, วินสตัน: ชนชาติชาวเกาะ (The Island Race) , คอร์กิ, ลอนดอน, 1964, 2, หน้า 219
- เอฟ เอ็น ลี, พระเจ้าอัลเฟรดมหาราชและกฎหมาย Common Law 2009-02-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน คณะประวัติศาสตร์ศาสนา สถาบันฝึกนักบวชเพรสไบทีเรียนแห่งควีนสแลนด์, บริสเบน, ออสเตรเลีย, สิงหาคม 2000
- รายงานเกี่ยวกับกรณีที่ตัดสินโดยศาลทั่วไป ทอมัส เจฟเฟอร์สัน
- “กฎบัตรของสถานศึกษาในราชสำนักของชาร์เลอมาญ: การคัดลอกพระวรสารและการประดิษฐ์หนังสือวิจิตร” (หนังสือชุดการศึกษามหาวิทยาลัยยุโรป. ชุดที่ 28, ประวัติศาสตร์ศิลปะ)
- Oxford Bodleian Library MS Bodley 180
- British Library Cotton MS Otho A. vi
- เควิน เอส เคียร์นัน “Alfred the Great's Burnt Boethius” ในบอร์นสไตน์, จอร์จและเทรีซา ทิงเคิล, บรรณาธิการ “หน้าสำคัญในวัฒนธรรมต้นฉบับ, สิ่งพิมพ์ และดิจิตัล” (The Iconic Page in Manuscript, Print, and Digital Culture) (แอน์ อาร์เบอร์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมิชิแกน, 1998)
- โกรส, เออร์นี (1990). This Day In Religion. นิวยอร์ก: สำนักพิมพ์นีล-ชู.
- ดอดสัน, ไอดัน (2004). ที่ฝังพระศพหลวงในสหราชอาณาจักร. ลอนดอน: ดัคเวิร์ธ.
บรรณานุกรม
- แพรท, เดวิด: “ความคิดเห็นทางการเมืองของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช” (ชุดการศึกษาเกี่ยวกับชีวิตและความคิดในยุคกลาง (เคมบริดจ์) : ชุดที่ 4, ค.ศ. 2007)
- พาร์เคอร์, โจแอนน์: “ดาราที่รักของอังกฤษ: ลัทธิบูชาพระเจ้าอัลเฟรดมหาราชในสมัยวิกตอเรีย”, ค.ศ. 2007,
- พอลลาร์ด, จัสติน: “อัลเฟรดมหาราช: ผู้สร้างอังกฤษ”, ค.ศ. 2006,
- ฟราย, เฟรด: “โครงสร้างของอำนาจ: ยุทธการทางการทหารของอัลเฟรดมหาราช”, ค.ศ. 2006,
- จาล์ยส์, เจ เอ (บรรณาธิการ) : “พระราชกรณียกิจของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช” (ฉบับจูบิลี, 3 เล่ม, อ็อกฟอร์ดและเคมบริดจ์, ค.ศ. 1858)
- “พระราชกรณียกิจของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช, พร้อมทั้งบทความที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์, ศิลปะ และ ความเป็นอยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 9”, ค.ศ. 1969, OCLC 28387
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- พระราชประวัติของพระเจ้าอัลเฟรดแปลโดยด็อคเตอร์ เจ เอ จาล์ยส์ (ลอนดอน, 1847) 2008-06-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติศาสตร์บริทานเนีย พระราชประวัติของพระเจ้าอัลเฟรดโดยบาทหลวงแอสเซอร์
- สารคดี - การก่อตั้งอังกฤษ:พระเจ้าอัลเฟรด 2008-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระราชประวัติของพระเจ้าอัลเฟรดพร้อมภาพประกอบ
- พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช
- เว็บไซต์ทางการของพระราชวงศ์อังกฤษ
- พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช 2008-05-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- อัญมณีของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติศาสตร์บาร์คเชอร์: พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช
- พระราชวังของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช 2008-02-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ก่อนหน้า | พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าเอเธลวูล์ฟแห่งเวสเซกซ์ | กษัตริย์แห่งเวสเซกซ์ (ราชวงศ์เวสเซ็กซ์) (ค.ศ. 871 – ค.ศ. 899) | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโส | ||
พระอิสริยยศสถาปนาใหม่ | พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ (ราชวงศ์เวสเซ็กซ์) (ค.ศ. 878 – ค.ศ. 899) | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้อาวุโส |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud phraecaxlefrdmharach xngkvs Alfred the Great xngkvseka AElfred kh s 849 26 tulakhm kh s 899 epnphraecaaephndinaehngrachxanackrewsesksinsmyrachwngsewsesks esdcphrarachsmphphthi barkechxr epnphrarachoxrskhxngphraecaexethlwulfaehngewsesksaelaxxsebxrka thrngesksmrskbexlswith aelathrngrachyepnkstriykhxngchnaexngokl aesksxnphayitrachxanackrewsesksrahwangwnthi 23 emsayn kh s 871 phraecaxlefrdthrngmichuxesiynginkarpxngknrachxanackr cakkarrukrankhxngchawiwkingcakednmark aelaepnphraecaaephndinxngkvsphraxngkhediywthirbsmyanamwa mharach xlefrdmharachphrabrmrachanusawriyphraecaxlefrdmharach cdthakhunephuxralukinoxkaswnkhrbrxbshswrrskhxngkarswrrkhtkstriyaehngewseskskhrxngrachy23 emsayn kh s 871 praman kh s 886kxnhnaexethlerdthi 1thdiptwphraxngkhexng inthanakstriyaehngchnaexngokl aesksxn kstriyaehngchnaexngokl aesksxnkhrxngrachyraw kh s 886 26 tulakhm kh s 899kxnhnatwphraxngkhexng inthanakstriyaehngewsesks thdipphraecaexdewirdphuxawuosphrarachsmphphraw kh s 847 849 aewnethc barkechxrswrrkht26 tulakhm kh s 899 50 hrux 51 phrrsa fngphrasphraw kh s 1100 winechsetxr aehmpechxr pccubnphrasphsuyhaykhuxphieskexlswithphrarachbutrphraecaexdewirdphuxawuos xthikariniaehngrachwngsewsesksphrarachbidaexethlwulf kstriyaehngewsesksphrarachmardaxxsebxr phraecaxlefrdthrngepnkstriyaehngaesksntawntkphraxngkhaerk thithrngaesdngphraxngkhwaepnkstriyaehngchawaexngokl aesksn thrngepnphumikarsuksadi aelathrngsngesrimkarsuksaaelaprbprungthangdankdhmayinrachxanackraelarabbkarthhar phrarachprawtikhxngphraxngkhthukklawthunginnganekhiynkhxng Asser nkprachychawewlsemuxthrngphraeyawphraecaxlefrdmharach esdcphrarachsmphphpramanrahwangpi kh s 847 thung pi kh s 849 thiaewnethc inpccubnxyuinethsmlthlbarkechxrphraecaxlefrdepnphrarachoxrsxngkhthi 5 aelaxngkhelkkhxngphraecaexethlwulfaehngewsesks AEthelwulf aelaxxsebxrkaphrachayaxngkhaerk inpi kh s 868 phraecaxlefrdthrngesksmrskb exlswith Ealhswith thidakhxngexethlerd musillphupkkhrxngikni Gaini klawknwaemuxphraecaxlefrdphrachnmayuid 5 phrrsathrngthuksngtwipkrungorm aelacakbnthukehtukarnaexngokl aesksn kprakasyxmrbaela ecimwaepnkstriy nkekhiynsmywiktxeriytikhwamepnsyyanthungkarthicaidswmmngkutepnphraecaaephndinaehngewseskstxma aetxnthicringaelwkarthithanayehtukarnlwnghnaechnthiwaepnipidyakephraainkhnannphraecaxlefrdmiphraechsthasamphraxngkh cdhmaykhxngphrasntapapalioxthi 4 klawwaphraecaxlefrdidrbkaraetngtngihepn kngsul consul sungxaccaepnkarthaihekhaicphidimwacacngichruximtxma hruxxaccamisaehtumacakkarthiphraecaxlefrdesdctidtamphrarachbidaipaeswngbuythiormtxmaaelaprathbthirachsankkhxngphraecacharlphraesiyrlan Charles the Bald phraecaaephndinfrngessxyurayahnungrawpi kh s 854 hrux kh s 855 emuxesdcklbmacakorminpi kh s 856 phraecaexethlwulf thukokhnxanacodyexethlbald AEthelbald phraoxrs emuxphraecaexethlwulfswrrkhtemux kh s 858 ewseskscungpkkhrxngodyphraechsthasamphraxngkhkhxngphraecaxlefrdtxenuxngknma klawwaemuxphraecaxlefrdyngthrngphraeyawthrngidrbrangwlepnhnngsixokhlngklxnepnphasaxngkvscakphramardaaelaepnphraoxrsxngkhaerkthithrngcaokhlngklxncakhnngsuxelmnnidxyangaemnya sungxaccaepneruxngcringhruxxaccaepneruxngthielaephuxsrangesrimphrabarmiinkhwamthimichuxwaepnphurkkarsuksaelaeriynkidsmykarpkkhrxngkhxngphraecaexethlerdphranamkhxngphraecaxlefrdimpraktinhlkthanid inchwngrahwangrchsmykarpkkhrxngsn khxngphraechsthasxngphraxngkhkhxngphraxngkh exethlbxld Ethelbald of Wessex aela exethlebirth Ethelbert of Wessex aetemux phraecaexethlerdthi 1 khunkhrxngrachyinpi kh s 866 phraecaxlefrdkerimmibthbaththangkarpkkhrxng sungepnchwngthithwaytaaehnngthiepnexklksnihwa secundarius sungxaccaepntaaehnngethiybkbtaaehnng tanist khxngchawekhlt sunghmaythung phusubrachbllngk hruxphuthimikhwamiklchidkbphramhakstriyaelaepnphuthiyxmrbknwacaepnsubrachbllngktxip aelaxaccaepnipidwataaehnngniidrbkarxnumticaksphawiththn ephuxpxngknkhwamkhdaeyngwaphuidsmkhwrthicaepnphusubrachbllngkthixaccaekidkhunidinkrnithiphraecaexethlerdthi 1 esiychiwitinsngkhram praephnikaraetngtngphusubrachbllngkihepnecachayaelaaemthphepnpraephnithithakninbrrdachnchnpkkhrxngchawecxrmanikh echn Swedes aelachawaefrngk sungekiywdxngxyangiklchidkbchnchawaexngokl aesksxn tamhlkthanklawwainpi kh s 868 phraecaxlefrdthrngtxsurwmkbphraecaexethlerdinsngkhramtxtankarrukrankhxngchawednsinxanackremxresiyaetmiidprasbkhwamsaerc iwkingmiidrukranewsesks xyusxngpiephraaxlefrdthrngcangimihrukran aetinplaypi kh s 870 chawednskekhamarukranewsesksxikkhrng pitxmaepnpithiruckknwaepnpiaehngkartxsukhxngphraxngkh rahwangnnthrngekhasukekakhrngaephbangchnabang thibarkhechxr thrngidrbchychnain Battle of Englefield emuxwnthi 31 thnwakhm pi kh s 870 tamdwykhwamphayaephthi Battle of Reading emuxwnthi 5 mkrakhm pi kh s 871 siwntxmakthrngidrbchychnaxyangeddkhadthi Battle of Ashdown thibarkechxrdawnthixaccatngxyuimiklcakkhxmphtnhruxxldewirth hlngcaknnemuxwnthi 22 mkrakhm kthrngphayaephthiebssing aelaxikkhrngemuxwnthi 22 minakhm thi Battle of Merton xaccaepnmaredninmnthlwilthechxr hrux martininmnthldxresth sungepnsnamrbthiphraecaexethlerdthukplngphrachnmsmysngkhramineduxnminakhm kh s 871 phraecaexethlerdesdcswrrkht xlefrdkhunkhrxngrachbllngkewseskstxcakphraechsthaphumimiphraoxrskhxngphraxngkhexngthiyngthrngphraeyawsxngphraxngkh odyprascakkarprathwnginsiththikarsubrachbllngkkhxngphraxngkhephraathrngepnphumikhwamprichasamarththangkarthhar sungepnsingthibanemuxngtxngkarinkhnathibanemuxngxyuinsphaphthirxnepnif aetphraecaxlefrdkmiidthrnglaelyinkarpkpxngsiththiinxsngharimthrphykhxngphrandda khnathithrngyungkbphithithaphrasphkhxngphraechstha chawednskaexbocmtithaykhrw aelaocmtitxphraphktrthiwilttninaekhwnwilthechxrineduxnphvsphakhm hlngcaknnbanemuxngkmikhwamsngbsukhxyurawhapikhnathichawednsyudkhrxngswnxunkhxngxngkvs aetinpi kh s 876 phayit Guthrum the Old phunakhnihm chawednskaexbocmtikxngthphxngkvsxik aelaocmtiewerminaekhwndxresth txmainpi kh s 877 inkhnathiaesrngthakarecrcaednskklbipocmtiaelaphyayamyudkhrxng exksietxr inaekhwnedwxn aetphraecaxlefrdthrngsamarthpidthakhnathikxngeruxkhxngchnchawednsthukphayukrahnacncatxngphayaephaelathxythphipyngemxresiy aetineduxnmkrakhm pi kh s 878 chawednskklbmacuocmchiphephnnmthiepnthimnaelaepnthiprathbkhxngphraecaxlefrdrahwangkhristmasodyimrutw cntxngthrngthxyiptnghlkthiexethlniyemuxxisetxr phngsawdaraexngokl aesksn tananthiepnthiruckkndiklawwaemuxphraecaxlefrdesdchniipbriewn Somerset Levels kmihyingchawbanthwaythihlbphyihphraxngkhaelaodyimruwaphraxngkhepnikhrkichihefakhnmekhkinetaxb aetphraecaxlefrdthrnghmkmunxyukbsthanakarnbanemuxngkelythrngthaekhkihm emuxhyingchawbanthrabwaphraxngkhepnikhrkkhxphrarachthanxphyothsepnkarihyaetphraecaxlefrdklbthrngklawwaphraxngkhexngtanghakthikhwrcaepnphukhxoths khnathihlbphycakkhasukphraecaxlefrdthrngtngthimnepnthitxtanstruxyuthibriewnekaaelnikl North Petherton odyichkxngthharthxngthincakethssmemxrest wiltechxr aelaaehmpechxr tanankarplxmphraxngkhxikeruxnghnungkhuxemuxthrngplxmepnnkdntriephuxcaekhaipsubaephnkarocmtixngkvsinkhaykhxng phlcakkarkrathakhrngnithaihekid Battle of Edington iklewstbriinmnthlwilthechxr phraecaxlefrdthrngidrbchychnaxyangeddkhad tamkhaklawkhxng chnchawednsyxmrbxanackhxngphraecaxlefrd aelakuthrmkbphunaxik 29 khnyxmrbsillangbaphlngcaklngnamin Treaty of Wedmore hlngcakkarlngnamxngkvskthukaebngepnsxngswn danitxyuphayitkarpkkhrxngkhxngaesksxn aelabriewnthangehnuxrwmthnglxndxnthiruckkninnam briewnednlxw xyuphayitkarpkkhrxngkhxngiwking inpitxma kh s 879 thngrachxanackrewsesks aela rachxanackremxresiythangtawntkchxng kprascakphurukran Watling Street inchwngsxngsampitxmabanemuxngkmikhwamsngbsukhephraachnchawednsmwaetyungthasngkhrambnphunaephndinihyyuorp aetinpi kh s 884 hrux kh s 885 chnchawednskklbmakhunfngthirachxanackrekhntimiklcakphlkhsktetxr Plucks Gutter ephuxcayuyngihchnednsinrachxanackrxistxngekliyaekhngkhxtxphraecaxlefrdaetkimsaerc phraecaxlefrdcungthrngphyayamhyudyngkarrukranthixaccaekidkhunodythrngyudlxndxnin pi kh s 885 hrux kh s 886 kuthrmcungyxmlngnamrwmkbphraecaxlefrdin Treaty of Alfred and Guthrum sungthaihbanemuxngsngbsukhxyurayahnungaetkmasinsudlnginvduibimrwngpi kh s 892 hrux kh s 893 emuxxanacinyuorperimxxnaexlngchnchawednskhnmarukranxngkvs khrngnimakbkxngthpheruxthiprakxbdwyerux 330 la thiaebngepnsxngkxng ihy kxngihytngxyuthimnxyuthi Appledore aelakxngelkthi Milton phayitkarnakhxng Haesten kxngkalngrukrannakhrxbkhrwrwmthngphuhyingaelaedkmadwyephuxmatngthinthanaelayudxngkvsepnxananikhmthaidrbchychna inpi kh s 893 hrux kh s 894 phraecaxlefrdthrngtngthimntrngcudthithrngsamarthmxngehnkxngkalngkhxngstruthngsxngkxngidphrxmkn aetkhnathithrngthakarecrcakb kxngkalngthikaeyktwxxkipocmtithangdantawntkechiyngehnux aetkphayaephtxphraecaexdewirdphuxawuosphrarachoxrsxngkhotkhxngphraxngkh aelamaphayaephkhrngihythi Farnham inmnthlesxrri Surrey cntxngthxyiphlbxyubnekaainaemnaokhlnaetinthisudktxngyxmphayaeph aelathxyipthiexsesksaetkipaephxikkhrnghnungthiebnflith hlngcaknnkipthxyiprwmtwkbthi Shoebury khnathiphraecaxlefrdesdcnathphipyngthxrniyephuxipchwyphrarachoxrskthrngidrbkhawwachnchawednsinrachxanackrnxrththmebriyaelarachxanackrxistxngekliyekhalxmemuxng exksietxraelathangfngthaelthangdanehnuxkhxngaekhwnedwxn phraecaxlefrdcunghnthphklbipthangtawntkephuxiphyudyngkarrukranthiexksietxraetimmihlkthanbngthungsthanakarnthangehnuxkhxngaekhwnedwxn khnaediywknkxngkalngkhxngkedinthphkhunipyng Thames Valley ephuxxaccaipchwyphnthmitrthangdantawntkaetippathakbkxngkalngihykhxngklumexirlsamkhncakaekhwnemxresiy ethsmnthlwiltechxr aelaethsmnthlsmemxrest cntxngthxyipthangehnuxaelainthisudkipphayaephthi Buttington sungbangkwaxaccaepnbttingtn thmphthipak River Wye hrux xaccaepnbttingtn ikl Welshpool kid kxngthphednsphyayamhnicakaenwaetimsaerc phuthihniidkhniip hlngcakiprwbrwmkalngtngtwidkedinthphxyangrwderwkhamaephndinxngkvsipyudsakkaaephngormnthi echsetxr Chester kxngthphxngkvsmiidphyayamekhatxsunxkipcakthalaykxngesbiyng emuxtnpi kh s 894 hrux kh s 895 kxngthphednskthxythphklbipmnthlexsesksephraakhadesbiyng phxplaypi hruxtnpi kh s 895 hrux kh s 896 kxngkalngkhxngednsklxngkxngeruxkhunaemnaethmsaelaaelaiptngthimnxyuraw 32 kiolemtrehnuxtwemuxnglxndxn karocmtiaenwkxngthphkhxngednsodytrngprasphkhwamlmehlw aettxmainpiediywknphraecaxlefrdthrngehnthangthicabnthxnkalngkhxngchnchawednsodykarpidaemna emuxkxngthphednsehnwacaephliyngphlakthxyipthangtawntkechiyngehnuxiptnghlkrahwangvduhnawthi Bridgenorth pitxma kh s 896 hrux kh s 897 kxngthphednskthxytxipyngrachxanackrnxrthmebriyaelabangswnipyngrachxanackrxistxngekliy phuthiimmithinthaninxngkvskthxyklbipphunaephndinihyyuorpkarcdrabbkarpkkhrxngaephndinhlngcakthikacdkxngthphedns cakxngkvsaelwphraecaxlefrdkthrnghnkhwamsnphrathyipinkarprbprungrachnawi ephuxtxtankarrukraninbriewnfngthaelewsesksodychnchawednscakrachxanackrnxrthmebriyaelaaekhwnxistxngekliyaelakarkhunfngcakthangyuorpthixaccaekidkhunxik karprbprungthangnawikhrngnimiichkarerimkxtngrachnawixngkvstamthiekhaickn phraecaxlefrdthrngekharwmsngkhramthangthaelhlaykhrngkxnhnann echnthrngekharwmtxsukbphraecaexethlwulfaehngewsesksphrarachbidainpi kh s 851 aelakxnhnann inpi kh s 833 aela inpi kh s 840 phngsawdaraexngokl aesksxnsrresriywaphraxngkhepnphukxtngeruxaebbihmtamaebbthithrngxxkaebbexngsungepneruxthierwkwa mnkhngkwa aelasungkwaeruxaebbthiekhyichknma aeteruxaebbihmthiwanimiidprasbkhwamsaercethaidnknxkipcakwamikhawwatidelnhruxokhlngekhlngrahwangphayu aetcaxyangirktamthngrachnawixngkvsaelakxngthpheruxshrthykyxngihphraecaxlefrdepnphumibthbathsakhyinkarwangphunthanthangkxngthpherux bnthukehtukarnaexngokl aesksnbnthukwaphraecaxlefrdthrngaebngkxngthphthiinkartxsuepnsxngkxng thieriykwarabb Fyrd ephuxih kxnghnungpracaxyuinthitngmnaelaxikkxnghnungxxkrb karcdrabbsxngkxngthphechnniepnkarichkalngkhnepncanwnmak swnrabbkarbriharbanemuxngthisbsxncaehnidcakbnthukthiphxnacathuxid inpi kh s 892 thiklawthungtaaehnngtang echn thesaurius cellararius pincerna ecakrmkhlng nayesbiyng aelaphurbich aemwainpi kh s 893 cathrngphiorththikxngkalnghnungmayxmaephaekkxngthphednsesiykxnthithrngnakxngthphthisxngkhuniphnunthn aetodythwipaelwrabbkarpkkhrxngaelakarbriharkhxngphraxngkhkepnrabbthimismrrthphaphdi cudxxnthisudcudhnungkhxngrabbkarpxngknpraethskxnrchsmykhxngphraecaxlefrdkkhuxemuxyamimmisuksngkhrampxmprakartang swnihykthukthingrangiwodyimmithharpracakarsungthaihiwkingekhayudepnthimnaelatngepncudyuththsastrsakhyidxyangngayday phraecaxlefrdthrngprbprungepliynaeplngrabbkarpxngknewsesksxyangsinechingodykarkxsrangpxmprakarthwipinrachxanackr thieriykknwa barah hrux boroughs oborh rahwangkarkhudkhnthangobrankhdithi Wareham Cricklade Lydford aela Wallingford phbwasthanthithikhudaetlaaehngekhyepnpxmprakarhrux barah cakrchsmykhxngphraecaxlefrd hlkthanekiywkbkhwamrbphidchxbinkarpracakaraelakarduaelpxmodythharxachiphphbintnchbbkarbriharthibnthukiwphayinewlaephiyngyisibpihlngcakthiphraecaxlefrdesdcswrrkhtthieriykwa Burghal Hidage hruxxaccabnthukphayinsmykhxngphraxngkhexngdwysa bnthukthiwanithaiherathrabthungphrarachnoybaythangdankarbriharkhxngphraxngkh emuxepriybethiybrahwangphngemuxngkhxng aela kb winechsetxr aelwcaehnwaepnphngemuxngthiwangaebbediywkn wxrmald sungsnbsnunkhwamkhidthiwakarwangphngemuxngihmnxkcakcaepnkarwangphngemuxngsahrbepnthixyuxasyaelakarkhakhayaelwkyngkhanungthungkhwammnkhngaelakhwamplxdphykhxngphuxyuxasycakxntraycakphaynxkdwy sungepnkardungdudprachakrxngkvsihekhaiptnghlkthaninemuxngehlanimakkhunephraaepnthi plxdphycakiwking aelanxkcaknnkyngepnthitharayidihaekaephndinodykarekbphasiihaekphramhakstriy nxkcaknnaelwphraecaxlefrdyngthrngmibthbathsakhyinkarcdrabbchumchnodyechphaainbriewnthithukthalayodyedns aelathungaemwaeracaimyxmrbbnthukekiywkbphrarachkrniykicin Burghal Hidage erakptiesthimidwaemuxthrngyudaekhwnemxresiycakiwking rabbkarpkkhrxngaebb ichr epnrabbthierimkxtngepnkhrngaerk sungxaccaepnthimakhxngtananthiwaphraecaxlefrdthrngepnphukxtngrabb rabbichr thiprakxbdwycanwnthithidinthikahndiw aela Tithing khwammiphraprichasamarthinkarbriharaelarabbyutithrrmthaihphraxngkhidrbsmyanamwa phuphithkskhnyak aet sphawiththn miidklawthungphraxngkhethaidnkaetthiaenkhuxthrngyxmrbsiththikhxngsphaaetsphawkarninewlanncaennphrarachxanackhxngphramhakstriyepnihy kdhmaytang khxngphraecaxlefrdepnkdhmaythixxkinplayrchsmyhlngcakxntraycakednsldnxylng nxkcaknnkyngthrngmibthbaththangkarenginaetimmiraylaexiydmaknk karptirupthangnitibyyti phrarachkrniykicthisakhythisudkhxngphraecaxlefrdkhuxkdhmaythieriykwa Deemings hrux bnthukkdhmay Book of Dooms winstn echxrchillechuxwarakthankhxngkdhmaykhxngphraecaxlefrdmacakkarphsmphsankhxng aelawthnthrrmaelapraephnidngedimkhxngaexngokl aesksxn dxkhetxr exf exn liaesdngkhwamkhlaykhlungrahwangkdhmaykhxngphraecaxlefrdkb aet thxms ecfefxrsn sruphlngcaksuksaprawtikhxngkdhmayxngkvswa kdhmaymimatngaetchawaexngokl aesksnyngepnphunxkrit emuxyngimekhyidyinphranamkhxngphraeysuhruximruwaphraeysumitwtn winstn echxrchillklawwakdhmaykhxngphraecaxlefrdmakhyaykhwamodychnrunhlngcnklaymaepnkdhmaythiichinkarbriharaela rabbsalhnedrd The Hundred Courts sunginthisudknamasu Charter of Liberties phrarachthanodyphraecaehnrithi 1 aehngxngkvsemuxpi kh s 1100kartangpraethssrresriyphraecaxlefrdindankhwamsmphnthkbtangpraethsxyangeliselxaetkmihlkthanephiyngelknxysnbsnunphraprichasamarththangdanni twxyangkhxngkhwamsnphrathyindannikhuxthithrngaeplhnngsuxkhxng Orosius aelathiaenkhuxthrngekhiynphrasasntidtxkbphrasngkhrachxiilxsthi 3 phrasngkhrachxxrthxdxksaehngeyrusaelmaelaxaccathrngsngphuaethnippraethsxinediy nxkcaknnkyngthrngkartidtxkbkahlipthiaebkaedd sthanthutthiormbnthukthungthanthithrngsngmacakxngkvsmaihphrasntapapaxyangsmaesmx pramanpi kh s 890 Wulfstan of Haithabu edinthangcakihthabuthieliybfngthaelbxltikhipyngemuxngphanichyinprsesiyodythiphraecaxlefrdthrngkachbihsngrayngankaredinthangxyanglaexiydklbmathungphraxngkh hlkthandankhwamsmphnthrahwangphraecaxlefrdkbecachayekhltikhthangtawntkkhxngxngkvsehnidchdkwa emuxtnrchsmytamkhaklawkhxngecaphukhrxngbriewntang inewlstxnit aelaaekhwnemxresiy ekhaepnphnthmitrkbphraecaxlefrd txmainplayrchsmyecaphukhrxnginewlsthangtxnehnuxkthaechnediywknaelatxmaekharwmrbkbxngkvsinpi kh s 893 hrux pi kh s 894 nxkipcaknnkyngthrngsngthanipyngsanksngkhtang inixraelndaelayuorp sungxaccaepnephiyngkhxekhiynkhxngethann aetkarmaeyuxnkhxngnkaeswngbuyixrichsamkhninpi kh s 891 epneruxngcring tananthiwaphraxngkhthuksngipihnkbuymxdewnnarksathiixraelndxaccaepnsaehtuthithaihmikhwamphukphnkbekaanisasnaaelawthnthrrmhlkthanekiywkbphraecaxlefrdaelakhristsasnamiephiyngelknxy karrukrankhxngchnchawednsthakhwamesiyhayaekxaramepncanwnmak aemwacathrngsrangxaramsxngsamaehngaelaechiynkphrtcakyuorpmaxngkvskmiidthaihxaraminxngkvsfuntwkhunethaidnk nxkipcakkarthalaykhristckraelwkyngmiphlkrathbkraethuxntxkarsuksa odyechphaathaihxngkvskhadaekhlnphuruphasalatin sungxaccaepnaerngbndalicihphraecaxlefrdthrngerimkaraeplhnngsux phraecaxlefrdthrngkxtngsthansuksainrachsanktamrxyphrabathkhxng charelxmay odythrngnankprachycakyuorpmayngrachsankechn Grimbald aelacxhnaehngaeskstn John the Saxon aela Asser caktxnitkhxngewls nxkipcak Handboc hrux Encheiridion thisuyhayipthiepnhnngsuxthithrngepnecakhxngaelwnganaeplchinaerkthisudinrchsmykhux bthsnthnakhxngnkbuyekrkxri Dialogues of Gregory sungepnhnngsuxthiniymkninyukhklang phuaeplkhux Werferth bathhlwngaehngwusetxrphrashaysnithkhxngphraxngkh swnphraxngkhexngephiyngthrngpraphnthkhana nganchintxmakhux Pastoral Care aeplodyechphaasahrbnkbwchpracathxngthin hnngsuxaeplchbbniaepltrngkbtnchbbxyangiklchidaetthisakhykkhuxbthnathithrngpraphnththithuxknwaepnexksarthisakhythisudinrchsmyhruxsakhythisudchinhnungkhxngprawtisastrxngkvs nganxiksxngchintxma prawtisastrthwip khxng aela prawtisastrekiywkbsasnakhxngchnxngkvs Historia ecclesiastica gentis Anglorum odynkbuybid elmaerk prawtisastrthwip phraecaxlefrdthrngaekikhtxetimcaktnchbbmakcnekuxbcaeriykidwaepnnganchinihm aetnganaeplcakbnthukkhxngbidthrngyudtnchbbxyangiklekhiyngaelamiidthrngtxetimenuxhaid aetkhwamechuxthiwaphraecaxlefrdthrngepnphuaeplhnngsuxkhxngbidcringhruximyngepnthinaekhluxbaekhlng nganaeplkhxngphraxngkh prchyathwip The Consolation of Philosophy ody Anicius Manlius Severinus Boethius thuxknwaepnnganaeplkhumuxprchyachinthiniymknthisudinyukhklang nganaeplchbbniepnchbbthiimthrngaepltrngtamtnchbbthnghmdaetdxkhetxr ci echphsaesdngihehnwaswnthiaetktangipcaktnchbbmiidmacakkhaaeplkhxngphraxngkh aetmacakkhwamehnkhxnghnngsuxthithrngich aetxyangirktamphlngannikyngaesdngthungkhwammiphraprichasamarthkhxngphraxngkh hnngsuxthitkmathungpccubnepntnchbbsxngelm inelmhnung epnnganrxyaekwxikchbbhnungepnnganphsmrahwangrxyaekwaelarxykrxng nganchinhlngidrbkhwamesiyhaymakinkhriststwrrsthi 18 aela 19 aetphuaeplswnthiepnrxykrxngthiaethcringepnikhrkyngepnthithkethiyngknxyuaetechuxknwaepnngankhxngphraecaxlefrd inbthnathrngbnthukwathrngekhiynswnthiepnrxyaekwkxnaelaichepnthaninkarekhiynswnthiepnrxykrxng Lays of Boethius sungthuxwaepnnganthangwrrnkrrmthisakhythisudkhxngphraxngkh phraecaxlefrdthrngichkarekhiynhnngsuxepnkarphxnkhlayinyamthithrngekhriydkbsthanakarnbanemuxng nganchinsudthaykhxngphraecaxlefrdmichuxwa Blostman hrux Blooms hrux hnngsuxrwmbthpraphnth Anthology khrungaerkmiphunthanmacakkhxekhiynkhxngnkbuyxxkstinaehnghipop thiehluxmacakaehlngkhxmulxun aelaepnbthpraphnththibngbxkthunglksnaswnphraxngkhkhxngphraxngkhxyangednchd khxekhiynsudthaykhaklawthiehmaasmkbphuepnwirburusechnphraxngkh Therefore he seems to me a very foolish man and truly wretched who will not increase his understanding while he is in the world and ever wish and long to reach that endless life where all shall be made clear nxkcaknganthiklawmaaelwkyngthrngmiswninkarpraphnthbnthukehtukarnaexngokl aesksn aelathrngpraphnthhruxthrngmixiththiphlinkarekhiyn raychuxnkbuyphuphlichiphaesksxn Saxon Martyrology thiynghlngehluxaetephiyngelknxy bthrxyaekwkhxngephlngsdudihasibbthechuxknwaekhiynodyphraxngkh nxkcaknnphraecaxlefrdyngthrngpraktin The Owl and the Nightingale The Proverbs of Alfred kepnhnngsuxxikelmhnungthitkmathungpccubncakkhriststwrrsthi 13 sungenuxhanacamitntxbangswnmacakphraxngkh nkbuy nikayxisethirnxxrthxdxksnbthuxwaphraecaxlefrdepnnkbuyaelaepnwirburusin aexngklikhnkhxmmiweniyn Anglican Communion odymiwnsmophchntrngkbwnthi 26 tulakhm khrxbkhrw inpi kh s 868 phraecaxlefrdthrngesksmrskbexlswiththidakhxngexethlerd musillphupkkhrxngikni Gaini cakinbriewn aelaxaccaepnphranddakhxng phraecaxlefrdaelaphrachayathrngmioxrsthidadwyknhkphraxngkhrwmthngphraecaexdewirdphuxawuosphukhrxngrachbllngksubtxcakphraxngkh Ethelfleda phutxmaepnphrarachiniaehngrachxanackremxresiy aela AElfthryth Countess of Flanders phutxmaaetngngankb Baldwin II Count of Flanders xxsebxrkaphramardkhxngphraxngkhepnbutrikhxngxxslakhaehngekaaiwth sungklawiwinhnngsuxphrarachprawtiwaaesdngihehnwathrngsubechuxsaymacakchawcut Jutes aehngekaaiwth aetkhxsnnisthanniimnacaepnipidephraaklawwathuksngharodychawaesksniphmdphayitkarnakhxng Caedwalla aetechuxsaykhxngphraxngkhsubidwamacakrachwngsewseskscakphraecawihethrdaehngekhnthphumiphramardaepnphrakhnisthakhxngxarwxld Arwald phuepnphraecaaephndinxngkhsudthaykhxngekaaiwth phranam phrarachsmphph swrrkht hmayehtu AEthelflaed kh s 918 esksmrs kh s 889 exethlerd khunnangaehngemxresiy esiychiwit kh s 910 mioxrsthidadwyknexdewird kh s 870 17 krkdakhm kh s 924 esksmrs 1 exkwin 2 exlffaexd 3 kh s 919 xidkifuaehngekhnt Eadgifu of Kent exethlciwa AEthelgiva xthikarinixaramchafsbri AElfthryth kh s 929 esksmrs mioxrsthidadwykn AEthelwaerd 16 tulakhm kh s 922 esksmrsaelamioxrsthidadwyknrachtrakulphratrakulkhxngsmedcphraecaxlefrdmharach 16 8 4 exkebirtaehngewsesks 2 phraecaexethlwulfaehngewsesks 5 1 phraecaxlefrdmharach 6 xxsaelk 3 xxsebxr bnplayphrachnmchiphphraecaxlefrdesdcswrrkhtemuxwnthi 26 tulakhm aetcainpiidnkprawtisastrimthrabaennxn sungxaccaimich kh s 901 dngthiekhiyniwinbnthukehtukarnaexngokl aesksn aelacadwysaehtidkimepnthithrabaennxnechnkn aettlxdphrachnmchiph phraxngkhkprachwrdwyphraxakarhlayxyangsingxaccaepnorkhekiywkbrabbyxyxaharkid hlngcakesdcswrrkhtphrabrmsphthuknaipekbiwchwkhrawthiminsetxrekathiwinechsetxr txmakxyechiyipthiminsetxrihmsungxaccasrangsahrbbrrcuphrabrmsphodyechphaa emuxminsetxrihmyayiptngxyuthiihdthangdanehnuxkhxngtwemuxnginpi kh s 1110 phracakwdihmkyaytamipthidwyphrxmkbphrabrmsph inrchsmykhxngphraecaehnrithi 8 thifngphrasphkthukplnodyecakhxngwdihm olngphrasphthukhlxmexatakw phrasphthiehluxkthukfngxyangimmiphithiritxnginlanwd aethlumphrasphthukkhudkhunmaxikkhrngrahwangkarsrangkhukihminpi kh s 1788 thaihkradukkracdkracayiphmd aetkradukthiphbinbriewnkhlayekhiyngkninkhristthswrrs 1860 idrbkarprakaswaepnkradukkhxngphraxngkh inkarkhudkhnthangobrankhdiinpi kh s 1999 inhlumthiechuxwaepnhlumkhxngphraxngkh phrachayaaelaphraoxrsaethbcaimphbsakid inhlum sthabnkarsuksahlayaehnginxngkvsichphranamkhxngphraxngkhepnchuxsthabn sungidaek ichchux King Alfred s College Winchester rahwangpi kh s 1840 thungpi kh s 2004 aetmaepliynepn University College Winchester aela tngxyuthihmubanxlefrdthiniwyxrk ephuxepnekiyrtiihaekphraxngkhmhawithyalyliewxrphulkxtngtaaehnng King Alfred Chair of English Literature epnchuxorngeriynmthymthiaewnethcinxxkfxrdechxrthiekidkhxngxlefrd King s Lodge School thiin ehtuphlthiichchuxniephraaechuxknwaepnthithrngichlastw King Alfred School thi lxndxnehnuxhmayehtuaewnethcekhyxyuinekhtmnthlbarkechxr aetnbtngaet kh s 1974 xyuinekhtmnthl xxksfxrdechxrxangxingrachbnthitysthan saranukrmpraethsinthwipyuorp chbbrachbnthitysthan krungethph rachbnthitysthan 2550 hna 242 phraecaxlefrdepnphrarachoxrsxngkhelkthisudinbrrdaphraxnuchaaelakhnisthahaphraxngkh 1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 02 subkhnemux 2008 04 05 wxrmald aephththrikh xlefrd 848 9 899 phcnanukrmchiwprawtiaehngchatixxksfxrd sankphimphmhawithyalyxxkfxrd 2004 echxrchill winstn chnchatichawekaa The Island Race khxrki lxndxn 1964 2 hna 219 exf exn li phraecaxlefrdmharachaelakdhmay Common Law 2009 02 15 thi ewyaebkaemchchin khnaprawtisastrsasna sthabnfuknkbwchephrsibthieriynaehngkhwinsaelnd brisebn xxsetreliy singhakhm 2000 raynganekiywkbkrnithitdsinodysalthwip thxms ecfefxrsn kdbtrkhxngsthansuksainrachsankkhxngcharelxmay karkhdlxkphrawrsaraelakarpradisthhnngsuxwicitr hnngsuxchudkarsuksamhawithyalyyuorp chudthi 28 prawtisastrsilpa ISBN 3 8204 7283 5 Oxford Bodleian Library MS Bodley 180 British Library Cotton MS Otho A vi ekhwin exs ekhiyrnn Alfred the Great s Burnt Boethius inbxrnsitn cxrcaelaethrisa thingekhil brrnathikar hnasakhyinwthnthrrmtnchbb singphimph aeladicitl The Iconic Page in Manuscript Print and Digital Culture aexn xarebxr sankphimphmhawithyalymichiaekn 1998 okrs exxrni 1990 This Day In Religion niwyxrk sankphimphnil chu dxdsn ixdn 2004 thifngphrasphhlwnginshrachxanackr lxndxn dkhewirth brrnanukrmaephrth edwid khwamkhidehnthangkaremuxngkhxngphraecaxlefrdmharach chudkarsuksaekiywkbchiwitaelakhwamkhidinyukhklang ekhmbridc chudthi 4 kh s 2007 ISBN 978 0 521 80350 2 pharekhxr ocaexnn darathirkkhxngxngkvs lththibuchaphraecaxlefrdmharachinsmywiktxeriy kh s 2007 ISBN 978 0 7190 7356 4 phxllard cstin xlefrdmharach phusrangxngkvs kh s 2006 ISBN 0 7195 6666 5 fray efrd okhrngsrangkhxngxanac yuththkarthangkarthharkhxngxlefrdmharach kh s 2006 ISBN 978 1 905226 93 1 calys ec ex brrnathikar phrarachkrniykickhxngphraecaxlefrdmharach chbbcubili 3 elm xxkfxrdaelaekhmbridc kh s 1858 phrarachkrniykickhxngphraecaxlefrdmharach phrxmthngbthkhwamthiaesdngihehnthungprawtisastr silpa aela khwamepnxyuinkhriststwrrsthi 9 kh s 1969 OCLC 28387duephimrachxanackrxngkvs rachwngsewsesks briewnednlxw ecdxanackr prawtisastrkhristckrkhxngchnxngkvsaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecaxlefrdmharach phrarachprawtikhxngphraecaxlefrdaeplodydxkhetxr ec ex calys lxndxn 1847 2008 06 02 thi ewyaebkaemchchin prawtisastrbrithaneniy phrarachprawtikhxngphraecaxlefrdodybathhlwngaexsesxr sarkhdi karkxtngxngkvs phraecaxlefrd 2008 03 05 thi ewyaebkaemchchin phrarachprawtikhxngphraecaxlefrdphrxmphaphprakxb phraecaxlefrdmharach ewbistthangkarkhxngphrarachwngsxngkvs phraecaxlefrdmharach 2008 05 09 thi ewyaebkaemchchin xymnikhxngphraecaxlefrdmharach 2007 09 27 thi ewyaebkaemchchin prawtisastrbarkhechxr phraecaxlefrdmharach phrarachwngkhxngphraecaxlefrdmharach 2008 02 28 thi ewyaebkaemchchin kxnhna phraecaxlefrdmharach thdipphraecaexethlwulfaehngewsesks kstriyaehngewsesks rachwngsewsesks kh s 871 kh s 899 phraecaexdewirdphuxawuosphraxisriyyssthapnaihm phramhakstriyaehngxngkvs rachwngsewsesks kh s 878 kh s 899 phraecaexdewirdphuxawuos