เอากุสตุสแห่งปรีมาปอร์ตา (อังกฤษ: Augustus of Prima Porta; อิตาลี: Augusto di Prima Porta) เป็นประติมากรรมสูง 2.04 เมตรของจักรพรรดิเอากุสตุสที่พบเมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1863 ที่ที่ใกล้กรุงโรม ซึ่งเป็นที่ที่ภรรยาของเอากุสตุสออกไปพำนักหลังจากที่สามีเสียชีวิต ในปัจจุบันประติมากรรมชิ้นนี้ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วาติกันในกรุงโรม
งานประติมากรรม | ||
---|---|---|
เอากุสตุสแห่งปรีมาปอร์ตา | ||
Augusto di Prima Porta | ||
ไม่ทราบนามศิลปิน | ||
ประติมากรรมหินอ่อนขาว | ||
คริสต์ศตวรรษที่ 1 | ||
พิพิธภัณฑ์วาติกัน, นครรัฐวาติกัน, อิตาลี | ||
ที่มา
การระบุเวลาที่สร้างประติมากรรมเป็นวิธีที่เป็นที่คัดค้านกันอย่างกว้างขวาง เชื่อกันว่างานชิ้นนี้เป็นงานก๊อบปี้ของงานชิ้นต้นฉบับที่อาจจะเป็นงานหล่อสัมริด งานชิ้นต้นฉบับและเกียรติยศชั้นสูงอื่น ๆ อุทิศให้แก่เอากุสตุสโดยวุฒิสภาโรมันในปี 20 ก่อนคริสต์ศักราชและนำไปตั้งแสดงในสถานที่สาธารณะ ก่อนหน้านั้นเอากุสตุสใช้ชีวิตอย่างสมถะ แต่การที่มาพบประติมากรรมที่คฤหาสน์ของภรรยาทำให้เชื่อกันว่าเอากุสตุสคงจะพอใจกับผลงาน
นอกจากนั้นก็มีผู้ค้านว่าเป็นงานที่สร้างด้วยหินอ่อนจากงานชิ้นต้นฉบับที่อาจจะเป็นงานหล่อสัมริด ที่อาจจะเป็นของขวัญจากไทบีเรียส ซีซาร์แก่ลีวิอาผู้เป็นมารดา (เพราะเป็นงานที่พบในคฤหาสน์ของลีวิอา) หลังจากที่เอากุสตุสเสียชีวิตไปแล้วเพื่อเป็นการตอบแทนแก่สตรีผู้ทำการรณรงค์อยู่เป็นเวลานานให้ไทบีเรียสได้เป็นซีซาร์คนต่อมา ข้อหลังนี้เป็นการสนับสนุนลักษณะอันเป็นเทพของเอากุสตุสในงานชิ้นนี้ โดยเฉพาะในเมื่อไม่ได้สวมรองเท้า ซึ่งเป็นมาตรฐานในการสร้างงานที่เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าหรือวีรบุรุษของรูปสัญลักษณ์แบบคลาสสิก นอกจากนั้นบนเกราะหน้าอก (cuirass) ก็ยังมีภาพของธงที่ยึดได้โดยซึ่งเป็นเหตุการณ์ไทบีเรียสมี่ส่วนร่วมเมื่อยังมีอายุน้อย ที่มีหน้าที่เป็นคนกลางกับฝ่ายพาร์เธีย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แสดงบนตอนกลางของเกราะ และเป็นกิจการที่สำคัญที่สุดที่ไทบีเรียสได้ทำให้แก่เอากุสตุสบิดาเลี้ยง การที่ไทบีเรียสเสนอตนเองเป็นผู้ไปรับธงก็เท่ากับเป็นการสร้างความต่อเนื่องระหว่างไทบีเรียสเองกับเอากุสตุส ผู้เป็นจักรพรรดิและเทพองค์ใหม่ เช่นเดียวกับที่เอากุสตุสปฏิบัติก่อนหน้านั้นกับจูเลียส ซีซาร์ ฉะนั้นถ้ากล่าวตามสมมุติฐานข้อนี้แล้วประติมากรรมชิ้นนี้ก็คงจะสร้างระหว่างปีแรก ๆ ของรัชสมัยของไทบีเรียสระหว่างปี 42 ก่อนคริสต์ศักราช จนถึง ค.ศ. 37
ลักษณะ
เอากุสตุสเป็นรูปของ “Imperator” หรือแม่ทัพ, “thoracatus” หรือแม่ทัพเอกของกองทัพโรมัน ซึ่งหมายความว่าประติมากรรมน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งล่าสุด เอากุสตุสแต่งตัวอย่างทหาร, ถือคทากงสุล และ ยกมือขวาสูงขึ้นในท่า “adlocutio” หรือท่ากล่าวสุนทรพจน์ต่อกองทหาร ภาพนูนบนเกราะเป็นอุปมานิทัศน์ที่ค่อนข้างจะซับซ้อนและเป็นเนื้อหาทางการเมืองที่เป็นนัยยะถึงเทพโรมันต่าง ๆ รวมทั้งเทพมาร์สเทพเจ้าแห่งสงคราม และบุคลาธิษฐานของดินแดนต่างที่เอากุสตุสพิชิตที่รวมทั้งฮิสปาเนีย, กอล, , (ที่ทำให้คราสซัสเสียหน้า ที่ปรากฏเป็นภาพที่ต้องคืนธงที่ไปยึดมาได้) ตอนบนเป็นรถม้าแห่งสุรยเทพที่ส่องการภารกิจที่เอากุสตุสปฏิบัติ
ประติมากรรมเป็นงานที่มีลักษณะเป็นงานแบบอุดมคติที่มีพื้นฐานมาจากประติมากรรมคนถือหอก หรือ “” โดยประติมากรจากศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช
เปรียบเทียบกับ “Orator” ที่ ของ “” สร้างแนวทแยงระหว่างความตึงเครียดและความหย่อนของแขนขา ซึ่งเป็นลักษณะที่ใช้กันโดยทั่วไปของประติมากรรมแบบคลาสสิกก็นำมาใช้ในการสร้างประติมากรรมชิ้นนี้ การระบุ “” ผิดไปในสมัยโรมันว่าเป็นภาพของอคิลลีสก็ยิ่งทำให้เห็นคุณค่าของประติมากรรมชิ้นนี้เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าส่วนหัวจะเป็นอิทธิพลของรีพับลิกันแต่ลักษณะโดยทั่วไปแล้วใกล้เคียงกับงานแบบอุดมคติแบบเฮเลนนิสติคมากกว่าที่จะเป็นงานสัจนิยมของการสร้างภาพเหมือนแบบโรมัน
แม้ว่าความเที่ยงตรงต่อรูปร่างลักษณะของเอากุสตุสจะออกมาดูห่างเหินและแสดงสีหน้าสงบในลักษณะที่เป็นแบบอุดมคติ เช่นเดียวกันกับ แต่ลักษณะเครื่องแต่งกายเป็นแบบเครื่องแต่งกายของแม่ทัพที่ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันการที่เอากุสตุสมิได้สวมรองเท้าและการมีคิวปิดขี่โลมาเป็นฐานรับก็เป็นนัยยะถึงบรรพบุรุษที่เกี่ยวข้องกับเทพีวีนัสผู้เป็นแม่ของคิวปิดจากทางสายพ่อเลี้ยงจูเลียส ซีซาร์ อิทธิพลของลักษณะประติมากรรมแบบกรีกที่เห็นได้ชัดและสัญลักษณ์สำหรับประติมากรรมเหมือนอย่างเป็นทางการที่เมื่อใช้กับจักรพรรดิโรมันแล้วก็เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อโดยรัฐบาลซึ่งเป็นหัวใจของการรณรงค์ทางอุดมคติของเอากุสตุส ซึ่งหันเหมาจากรูปลักษณ์ในสมัยระบบสาธารณรัฐที่ความมีอาวุโสและความมีสติปัญญาถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีบุคลิกอันเป็นที่น่าเคารพ ฉะนั้นประติมากรรมปรีมาปอร์ตาจึงเป็นงานประติมากรรมที่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงแนวคิดของการสร้างรูปสัญลักษณ์ไปในทางตรงกันข้ามกับสมัยกรีก และสมัยเฮเลนนิสติค ซึ่งกลายมาเป็นสมัยที่ชื่นชมกับความเยาว์วัยและความแข็งแกร่งว่าเป็นคุณสมบัติของความเป็นผู้นำ การเลียนแบบวีรบุรุษ และ การชื่นชมวีรบุรุษเช่นอเล็กซานเดอร์มหาราช วัตถุประสงค์ทางการเมืองของประติมากรรมดังว่าเป็นที่เห็นได้ชัด เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าจักรพรรดิเอากุสตุสเป็นผู้ที่มีความสามารถเหนือผู้ใด ที่เทียบได้กับวีรบุรุษที่ควรค่าแก่การยกฐานะให้อยู่บนภูเขาโอลิมปัสได้ และเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำของโรม
พหุรงค์
แทบจะเป็นที่แน่นอนว่าประติมากรรมออกัสตัดเดิมทาสีเป็น (polychrome) แต่รอยสีถ้ามีก็แทบจะไม่มีเหลือหรออยู่ให้เห็น วินเซนซ์ บริงค์มันน์แห่งมิวนิกพยายามค้นคว้าการใช้สีบนงานประติมากรรมโบราณในคริสต์ทศวรรษ 1980 โดยใช้รังสีอัลตราไวโอเลตเพื่อที่จะพยายามหาร่องรอยสีบนประติมากรรม
รูปสัญลักษณ์
ภาพเหมือน
ทรงผมเป็นผมเส้นหนาและมีลักษณะเป็นผมม้าบนหน้าผาก จากทางซ้ายมีปอยผมสองปอยออกไปทางด้านหน้า และทางขวาสามปอย ซึ่งเป็นลักษณะทรงผมที่พบเป็นครั้งแรกบนประติมากรรมชิ้นนี้ ทรงผมนี้ใช้ในการเปรียบเทียบกับภาพเหมือนของเอากุสตุสบนเหรียญที่ทำให้สามารถบ่งเวลาที่สร้างหรือทำได้ ลักษณะทรงผมนี้ใช้ในการบ่งว่าเป็นประติมากรรมแบบปรีมาปอร์ตา แบบที่สองที่เป็นที่นิยมใช้ที่สุดในบรรดาสามแบบที่ใช้ ทรงผมแบบอื่น ๆ ของเอากุสตุสอาจจะพบบน (Ara Pacis Augustae) ประติมากรรมเต็มตัวของเอากุสตุสแบบปรีมาปอร์ตาอีกชิ้นหนึ่งก็ได้แก่เอากุสตุสเวียลาบิคานา ซึ่งเป็นภาพเอากุสตุสในบทของพอนติเฟ็กซ์แม็กซิมัสที่ปัจจุบันอยู่ที่
ใบหน้าของประติมากรรมเป็นใบหน้าแบบอุดมคติเช่นเดียวกับประติมากรรมของโพลิคลิตัส ศิลปะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสมัยการปกครองของเอากุสตุส การสร้างงานที่มีลักษณะเป็นสัจนิยมอย่างแท้จริงในสมัยสาธารณรัฐมาเปลี่ยนเป็นประติมากรรมที่มีอิทธิพลจากงานประติมากรรมของกรีก ที่จะเห็นได้จากงานประติมากรรมของจักรพรรดิหลายพระองค์ การสร้างงานแบบอุดมคติเป็นการรวบยอดคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ผู้ที่มีความสามารถเหนือผู้ใดผู้ควรค่าต่อการปกครองจักรวรรดิควรจะมี ประติมากรรมเหมือนในสมัยแรกของเอากุสตุสจะออกมาในรูปแบบของการเป็นพระราชา แต่ในสมัยต่อมารูปลักษณ์นี้ก็ค่อยกลายมาเป็นลักษณะที่อ่อนลงในรูปแบบที่เรียกว่า “ความเป็นเอกในบรรดาผู้เสมอภาค” (Primus inter pares) ศีรษะและคอสร้างจากหินอ่อนที่แยกจากกันและนำมาต่อกับลำตัวภายหลัง
ภาพนูนบนเกราะหน้าอก
รูปสัญลักษณ์ที่ใช้มักจะเปรียบเทียบกับรูปสัญลักษณ์ที่ใช้ใน “” (Carmen Saeculare) โดย และฉลองโอกาสที่เอากุสตุสก่อตั้ง “สันติภาพโรมัน” (Pax Romana) เป็นงานภาพนูนที่มีจุลรูปของการนำธงประจำกองทหารโรมันที่เสียให้กับพาร์เธียกลับคืนมาโดยมาร์ค แอนโทนีราวสี่สิบปีก่อนคริสต์ศักราช และ โดยในปี 53 ก่อนคริสต์ศักราชที่เป็นผลมาจากความสามารถทางการทูตของเอากุสตุส
จุลรูปตรงกลางเกราะหน้าอกตามการตีความหมายโดยทั่วไปเป็นภาพพระมหากษัตริย์พาร์เธียพระราชทานธงของคราสซัสคืนให้แก่ทหารโรมันสวมเกราะ (อาจจะเป็น) ภาพนี้เป็นหัวข้อที่นิยมกันในการสร้างเสริมชื่อเสียงของเอากุสตุสเพราะเป็นการแสดงความสำเร็จครั้งใหญ่ทางด้านการต่างประเทศของเอากุสตุส และเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเน้น เพราะเอากุสตุสใช้การเจรจาทางทูตแทนการเข้าสงครามกับพาร์เธียซึ่งมีอำนาจทางการทหารที่เหนือกว่า ทางด้านซ้ายและขวาเป็นภาพสตรีนั่งเศร้า จุลรูปทางด้านหนึ่งเป็นบุคคลาธิษฐานของชาวตะวันออกที่ถูกบังคับให้ส่งบรรณาการให้แก่โรม และอีกด้านหนึ่งเป็นดาบที่เป็นบุคคลาธิษฐานของชาวเมืองขึ้นของโรม (เคลต์) จากตอนบนตามเข็มนาฬิกา:
- - สุริยเทพกางเต้นท์เป็นท้องฟ้า
- เทพีออโรรา และ
- บุคคลาธิษฐานของพลเมืองที่อยู่ในเมืองขึ้น
- เทพีไดแอนนา
- แม่พระธรณีเทพีเซเรส - คล้ายกับที่ปรากฏบน
- อพอลโลเทพผู้พิทักษ์เอากุสตุส
- บุคคลาธิษฐานของพลเมืองผู้ส่งบรรณาการ
- อีกครั้ง
- สฟิงซ์บนไหล่สองข้างเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ต่อเอากุสตุสของคลีโอพัตรา
แต่ก็ไม่มีจุลรูปใดที่ไม่ได้รับการคัดค้าน เทพทั้งหมดอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องและความคงเส้นคงวาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการขึ้นการตกของพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ที่เกิดขึ้นทุกวันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นความสำเร็จของชาวโรมันจึงเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เกิดจากการช่วยเหลือของเทพ นอกจากนั้นความสำเร็จต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็มีความเกี่ยวข้องกับเอากุสตุสผู้ที่สวมเกราะด้วย บุคคลสำคัญคนเดียวบนเกราะที่ไม่ได้เป็นเทพคือพระมหากษัตริย์พาร์เธียน ซึ่งเป็นนัยยะว่าสิ่งอื่น ๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามความประสงค์ของเทพเบื้องบน หรือ สิ่งที่เทพเบื้องบนมีความเห็นด้วย
ฐานะความเป็นเทพ
เมื่อยังมีชีวิตอยู่เอากุสตุสไม่ต้องการที่จะแสดงตัวเป็นเทพ (ซึ่งไม่เหมือนจักรพรรดิองค์ต่อมาที่พยายามทำตนเป็นเทพ) แต่ประติมากรรมชิ้นนี้มีนัยยะหลายอย่างที่บ่งถึง “ความเป็นเทพ” (divine nature) ของเอากุสตุส เอากุสตุสที่ไม่สวมรองเท้าบ่งว่าเป็นวีรบุรุษและอาจจะเป็นเทพ และ อาจจะเป็นการสร้างรายละเอียดทางด้านการพลเรือนในภาพที่ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นภาพเกี่ยวกับทหารอย่างเต็มที่ การไม่สวมรองเท้าเดิมใช้กับงานที่เป็นภาพของเทพเท่านั้น แต่ก็อาจจะเป็นการนัยยะว่าเป็นงานประติมากรรมที่สร้างขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของเอากุสตุสที่เป็นงานก็อปปีของประติมากรรมชิ้นเดิมในเมือง ที่เอากุสตุสอาจจะสวมรองเท้า
คิวปิด (ลูกของวีนัส) ที่เท้าของเอากุสตุส (ขี่โลมา) เป็นการอ้างอิงของทั้งเอากุสตุสและบิดาเลี้ยงจูเลียส ซีซาร์ว่าสืบเชื้อสายมาจากเทพีวีนัส - การอ้างอิงว่าสืบเชื้อสายมาจากเทพโดยไม่ได้อ้างอิงว่ามีฐานะเป็นเทพซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในกรีซแต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับกันในโรม
ประเภท
ประติมากรรมแบบ “เอากุสตุสแห่งปรีมาปอร์ตา” กลายมาเป็นลักษณะที่เป็นที่นิยมกันมากของเอากุสตุส งานก็อปปีเต็มตัว และ ครึ่งตัว แบบต่าง ๆ ก็ทำกันทั่วไปในจักรวรรดิจนกระทั่งเมื่อเอากุสตุสเสียชีวิต แต่ไม่มีงานชิ้นใดที่แสดงภาพเอากุสตุสเมื่อมีอายุมากขึ้นซึ่งเป็นการสนับสนุนทฤษฎีของการสรรเสริญผู้มีความหนุ่มแน่นว่าเป็นผู้มีความสามารถ
อ้างอิง
- มะลิฉัตร เอื้ออานันท์. “พจนานุกรมศัพท์ศิลปะ” สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พ.ศ. 2545
- John Pollini, "The Augustus from Prima Porta and the Transformation of the Polykleitan Heroic Ideal", in Warren G. Moon (ed.), Polykleitos, the Doryphoros and Tradition. (Madison: The University of Wisconsin Press) 1995, analyses the cultural significance of unmistakable Polykleitan features in the Prima Porta Augustus, presented in aemulatio as the successor to heroic Polykleitan portrayals of Alexander the Great.
- Coins were one of the most effective ways of spreading propaganda, such as news of decisive battles and changes of ruler, because on such occasions new coins would be minted.
บรรณานุกรม
ภาษาเยอรมัน
- Heinz Kähler: Die Augustusstatue von Primaporta. Köln 1959.
- Erika Simon: Der Augustus von Prima Porta. Bremen, Dorn 1959. (Opus nobile 13)
- Hans Jucker: Dokumentationen zur Augustusstatue von Primaporta, in: Hefte des Archäologischen Seminars Bern 3 (1977) S. 16-37.
- Paul Zanker: Augustus und die Macht der Bilder. München, C. H. Beck 1987,
- Kaiser Augustus und die verlorene Republik, Ausstellung Berlin 1988. Mainz, Zabern 1988. S. 386 f. Nr. 215.
- Erika Simon: Altes und Neues zur Statue des Augustus von Primaporta, in: G. Binder (Hrsg.), Saeculum Augustum, Bd. 3, Darmstadt, WBG 1991, S. 204-233.
- Dietrich Boschung: Die Bildnisse des Augustus, Gebr. Mann Verlag, Berlin 1993 (Das römische Herrscherbild, Abt. 1, Bd. 2)
- Thomas Schäfer: Der Augustus von Primaporta im Wechsel der Medien, in: H. J. Wendel u.a. (Hrsg.), Wechsel des Mediums. Zur Interdependenz von Form und Inhalt, Rostock 2001, S. 37-58.
- Vinzenz Brinkmann und Raimund Wünsche (Hgg.): Bunte Götter. Die Farbigkeit antiker Skulptur. Eine Ausstellung der Staatlichen Antikensammlungen und Glyptothek München in Zusammenarbeit mit der Ny Carlsberg Glyptotek Kopenhagen und den Vatikanischen Museen, Rom, Staatliche Antikensammlungen und Glyptothek, München 2004
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เอากุสตุสแห่งปรีมาปอร์ตา
- Page on the statue, in German, with coloured reconstruction and close-up of breastplate
- Another coloured reconstruction, in German[]
- Description on VIAMUS
- Catalogue record on VIAMUS
- 360 degree computer reconstruction
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
exakustusaehngprimapxrta xngkvs Augustus of Prima Porta xitali Augusto di Prima Porta epnpratimakrrmsung 2 04 emtrkhxngckrphrrdiexakustusthiphbemuxwnthi 20 emsayn kh s 1863 thithiiklkrungorm sungepnthithiphrryakhxngexakustusxxkipphankhlngcakthisamiesiychiwit inpccubnpratimakrrmchinnitngaesdngxyuthiphiphithphnthwatikninkrungormnganpratimakrrmexakustusaehngprimapxrtaAugusto di Prima Portaimthrabnamsilpinpratimakrrmhinxxnkhawkhriststwrrsthi 1phiphithphnthwatikn nkhrrthwatikn xitalipratimakrrmormnobranthimakarrabuewlathisrangpratimakrrmepnwithithiepnthikhdkhanknxyangkwangkhwang echuxknwanganchinniepnngankxbpikhxngnganchintnchbbthixaccaepnnganhlxsmrid nganchintnchbbaelaekiyrtiyschnsungxun xuthisihaekexakustusodywuthisphaormninpi 20 kxnkhristskrachaelanaiptngaesdnginsthanthisatharna kxnhnannexakustusichchiwitxyangsmtha aetkarthimaphbpratimakrrmthikhvhasnkhxngphrryathaihechuxknwaexakustuskhngcaphxickbphlngan nxkcaknnkmiphukhanwaepnnganthisrangdwyhinxxncaknganchintnchbbthixaccaepnnganhlxsmrid thixaccaepnkhxngkhwycakithbieriys sisaraekliwixaphuepnmarda ephraaepnnganthiphbinkhvhasnkhxngliwixa hlngcakthiexakustusesiychiwitipaelwephuxepnkartxbaethnaekstriphuthakarrnrngkhxyuepnewlananihithbieriysidepnsisarkhntxma khxhlngniepnkarsnbsnunlksnaxnepnethphkhxngexakustusinnganchinni odyechphaainemuximidswmrxngetha sungepnmatrthaninkarsrangnganthiepnsylksnkhxngphraecahruxwirburuskhxngrupsylksnaebbkhlassik nxkcaknnbnekraahnaxk cuirass kyngmiphaphkhxngthngthiyudidodysungepnehtukarnithbieriysmiswnrwmemuxyngmixayunxy thimihnathiepnkhnklangkbfaypharethiy sungepnehtukarnthiaesdngbntxnklangkhxngekraa aelaepnkickarthisakhythisudthiithbieriysidthaihaekexakustusbidaeliyng karthiithbieriysesnxtnexngepnphuiprbthngkethakbepnkarsrangkhwamtxenuxngrahwangithbieriysexngkbexakustus phuepnckrphrrdiaelaethphxngkhihm echnediywkbthiexakustusptibtikxnhnannkbcueliys sisar channthaklawtamsmmutithankhxniaelwpratimakrrmchinnikkhngcasrangrahwangpiaerk khxngrchsmykhxngithbieriysrahwangpi 42 kxnkhristskrach cnthung kh s 37lksnaexakustusepnrupkhxng Imperator hruxaemthph thoracatus hruxaemthphexkkhxngkxngthphormn sunghmaykhwamwapratimakrrmnacaepnswnhnungkhxngxnusawriyephuxechlimchlxngchychnakhrnglasud exakustusaetngtwxyangthhar thuxkhthakngsul aela ykmuxkhwasungkhunintha adlocutio hruxthaklawsunthrphcntxkxngthhar phaphnunbnekraaepnxupmanithsnthikhxnkhangcasbsxnaelaepnenuxhathangkaremuxngthiepnnyyathungethphormntang rwmthngethphmarsethphecaaehngsngkhram aelabukhlathisthankhxngdinaedntangthiexakustusphichitthirwmthnghispaeniy kxl thithaihkhrasssesiyhna thipraktepnphaphthitxngkhunthngthiipyudmaid txnbnepnrthmaaehngsuryethphthisxngkarpharkicthiexakustusptibti pratimakrrmepnnganthimilksnaepnnganaebbxudmkhtithimiphunthanmacakpratimakrrmkhnthuxhxk hrux odypratimakrcakstwrrsthi 5 kxnkhristskrach epriybethiybkb Orator thi khxng srangaenwthaeyngrahwangkhwamtungekhriydaelakhwamhyxnkhxngaekhnkha sungepnlksnathiichknodythwipkhxngpratimakrrmaebbkhlassikknamaichinkarsrangpratimakrrmchinni karrabu phidipinsmyormnwaepnphaphkhxngxkhilliskyingthaihehnkhunkhakhxngpratimakrrmchinniephimmakkhun aemwaswnhwcaepnxiththiphlkhxngriphbliknaetlksnaodythwipaelwiklekhiyngkbnganaebbxudmkhtiaebbehelnnistikhmakkwathicaepnnganscniymkhxngkarsrangphaphehmuxnaebbormn aemwakhwamethiyngtrngtxrupranglksnakhxngexakustuscaxxkmaduhangehinaelaaesdngsihnasngbinlksnathiepnaebbxudmkhti echnediywknkb aetlksnaekhruxngaetngkayepnaebbekhruxngaetngkaykhxngaemthphthithuktxng aetinkhnaediywknkarthiexakustusmiidswmrxngethaaelakarmikhiwpidkhiolmaepnthanrbkepnnyyathungbrrphburusthiekiywkhxngkbethphiwinsphuepnaemkhxngkhiwpidcakthangsayphxeliyngcueliys sisar xiththiphlkhxnglksnapratimakrrmaebbkrikthiehnidchdaelasylksnsahrbpratimakrrmehmuxnxyangepnthangkarthiemuxichkbckrphrrdiormnaelwkepnekhruxngmuxokhsnachwnechuxodyrthbalsungepnhwickhxngkarrnrngkhthangxudmkhtikhxngexakustus sunghnehmacakruplksninsmyrabbsatharnrththikhwammixawuosaelakhwammistipyyathuxknwaepnsylksnkhxngkhwammibukhlikxnepnthinaekharph channpratimakrrmprimapxrtacungepnnganpratimakrrmthiepncudepliynaeplngaenwkhidkhxngkarsrangrupsylksnipinthangtrngknkhamkbsmykrik aelasmyehelnnistikh sungklaymaepnsmythichunchmkbkhwameyawwyaelakhwamaekhngaekrngwaepnkhunsmbtikhxngkhwamepnphuna kareliynaebbwirburus aela karchunchmwirburusechnxelksanedxrmharach wtthuprasngkhthangkaremuxngkhxngpratimakrrmdngwaepnthiehnidchd ephuxthicaaesdngihehnwackrphrrdiexakustusepnphuthimikhwamsamarthehnuxphuid thiethiybidkbwirburusthikhwrkhaaekkarykthanaihxyubnphuekhaoxlimpsid aelaepnbukhkhlthiehmaasmthisudthicaepnphunakhxngorm phhurngkh aethbcaepnthiaennxnwapratimakrrmxxkstdedimthasiepn polychrome aetrxysithamikaethbcaimmiehluxhrxxyuihehn winesns bringkhmnnaehngmiwnikphyayamkhnkhwakarichsibnnganpratimakrrmobraninkhristthswrrs 1980 odyichrngsixltraiwoxeltephuxthicaphyayamharxngrxysibnpratimakrrmrupsylksnphaphehmuxn sirsa thrngphmepnphmesnhnaaelamilksnaepnphmmabnhnaphak cakthangsaymipxyphmsxngpxyxxkipthangdanhna aelathangkhwasampxy sungepnlksnathrngphmthiphbepnkhrngaerkbnpratimakrrmchinni thrngphmniichinkarepriybethiybkbphaphehmuxnkhxngexakustusbnehriyythithaihsamarthbngewlathisranghruxthaid lksnathrngphmniichinkarbngwaepnpratimakrrmaebbprimapxrta aebbthisxngthiepnthiniymichthisudinbrrdasamaebbthiich thrngphmaebbxun khxngexakustusxaccaphbbn Ara Pacis Augustae pratimakrrmetmtwkhxngexakustusaebbprimapxrtaxikchinhnungkidaekexakustusewiylabikhana sungepnphaphexakustusinbthkhxngphxntiefksaemksimsthipccubnxyuthi ibhnakhxngpratimakrrmepnibhnaaebbxudmkhtiechnediywkbpratimakrrmkhxngophlikhlits silpaidrbkarepliynaeplngkhrngihyinsmykarpkkhrxngkhxngexakustus karsrangnganthimilksnaepnscniymxyangaethcringinsmysatharnrthmaepliynepnpratimakrrmthimixiththiphlcaknganpratimakrrmkhxngkrik thicaehnidcaknganpratimakrrmkhxngckrphrrdihlayphraxngkh karsrangnganaebbxudmkhtiepnkarrwbyxdkhunsmbtitang thiphuthimikhwamsamarthehnuxphuidphukhwrkhatxkarpkkhrxngckrwrrdikhwrcami pratimakrrmehmuxninsmyaerkkhxngexakustuscaxxkmainrupaebbkhxngkarepnphraracha aetinsmytxmaruplksnnikkhxyklaymaepnlksnathixxnlnginrupaebbthieriykwa khwamepnexkinbrrdaphuesmxphakh Primus inter pares sirsaaelakhxsrangcakhinxxnthiaeykcakknaelanamatxkblatwphayhlng phaphnunbnekraahnaxk rupsylksnthiichmkcaepriybethiybkbrupsylksnthiichin Carmen Saeculare ody aelachlxngoxkasthiexakustuskxtng sntiphaphormn Pax Romana epnnganphaphnunthimiculrupkhxngkarnathngpracakxngthharormnthiesiyihkbpharethiyklbkhunmaodymarkh aexnothnirawsisibpikxnkhristskrach aela odyinpi 53 kxnkhristskrachthiepnphlmacakkhwamsamarththangkarthutkhxngexakustus culruptrngklangekraahnaxktamkartikhwamhmayodythwipepnphaphphramhakstriypharethiyphrarachthanthngkhxngkhrassskhunihaekthharormnswmekraa xaccaepn phaphniepnhwkhxthiniymkninkarsrangesrimchuxesiyngkhxngexakustusephraaepnkaraesdngkhwamsaerckhrngihythangdankartangpraethskhxngexakustus aelaepnsingthicaepncatxngenn ephraaexakustusichkarecrcathangthutaethnkarekhasngkhramkbpharethiysungmixanacthangkarthharthiehnuxkwa thangdansayaelakhwaepnphaphstrinngesra culrupthangdanhnungepnbukhkhlathisthankhxngchawtawnxxkthithukbngkhbihsngbrrnakarihaekorm aelaxikdanhnungepndabthiepnbukhkhlathisthankhxngchawemuxngkhunkhxngorm ekhlt caktxnbntamekhmnalika suriyethphkangetnthepnthxngfa ethphixxorra aela bukhkhlathisthankhxngphlemuxngthixyuinemuxngkhun ethphiidaexnna aemphrathrniethphiesers khlaykbthipraktbn xphxlolethphphuphithksexakustus bukhkhlathisthankhxngphlemuxngphusngbrrnakar xikkhrng sfingsbnihlsxngkhangepnsylksnkhxngkhwamphayaephtxexakustuskhxngkhlioxphtra aetkimmiculrupidthiimidrbkarkhdkhan ethphthnghmdxaccaepnsylksnkhxngkhwamtxenuxngaelakhwamkhngesnkhngwakhxngehtukarntang thiekidkhunechnediywkbkarkhunkartkkhxngphraxathityhruxphracnthrthiekidkhunthukwnodyimmikarepliynaeplng channkhwamsaerckhxngchawormncungepnsingthiaennxnwaepnsingthiekidcakkarchwyehluxkhxngethph nxkcaknnkhwamsaerctang thiekidkhunkmikhwamekiywkhxngkbexakustusphuthiswmekraadwy bukhkhlsakhykhnediywbnekraathiimidepnethphkhuxphramhakstriypharethiyn sungepnnyyawasingxun epnsingthiekidkhuntamkhwamprasngkhkhxngethphebuxngbn hrux singthiethphebuxngbnmikhwamehndwy thanakhwamepnethph emuxyngmichiwitxyuexakustusimtxngkarthicaaesdngtwepnethph sungimehmuxnckrphrrdixngkhtxmathiphyayamthatnepnethph aetpratimakrrmchinniminyyahlayxyangthibngthung khwamepnethph divine nature khxngexakustus exakustusthiimswmrxngethabngwaepnwirburusaelaxaccaepnethph aela xaccaepnkarsrangraylaexiydthangdankarphleruxninphaphthiimechnnnkcaepnphaphekiywkbthharxyangetmthi karimswmrxngethaedimichkbnganthiepnphaphkhxngethphethann aetkxaccaepnkarnyyawaepnnganpratimakrrmthisrangkhunhlngcakkaresiychiwitkhxngexakustusthiepnngankxppikhxngpratimakrrmchinediminemuxng thiexakustusxaccaswmrxngetha khiwpid lukkhxngwins thiethakhxngexakustus khiolma epnkarxangxingkhxngthngexakustusaelabidaeliyngcueliys sisarwasubechuxsaymacakethphiwins karxangxingwasubechuxsaymacakethphodyimidxangxingwamithanaepnethphsungepnthiyxmrbkninkrisaetyngimepnthiyxmrbkninormpraephthexakustusinthana twxyangkhxngekhruxngaetngkay phiphithphnthlufr pratimakrrmaebb exakustusaehngprimapxrta klaymaepnlksnathiepnthiniymknmakkhxngexakustus ngankxppietmtw aela khrungtw aebbtang kthaknthwipinckrwrrdicnkrathngemuxexakustusesiychiwit aetimminganchinidthiaesdngphaphexakustusemuxmixayumakkhunsungepnkarsnbsnunthvsdikhxngkarsrresriyphumikhwamhnumaennwaepnphumikhwamsamarthxangxingmalichtr exuxxannth phcnanukrmsphthsilpa sankphimphaehngculalngkrnmhawithyaly ph s 2545 John Pollini The Augustus from Prima Porta and the Transformation of the Polykleitan Heroic Ideal in Warren G Moon ed Polykleitos the Doryphoros and Tradition Madison The University of Wisconsin Press 1995 analyses the cultural significance of unmistakable Polykleitan features in the Prima Porta Augustus presented in aemulatio as the successor to heroic Polykleitan portrayals of Alexander the Great Coins were one of the most effective ways of spreading propaganda such as news of decisive battles and changes of ruler because on such occasions new coins would be minted brrnanukrmphasaeyxrmn Heinz Kahler Die Augustusstatue von Primaporta Koln 1959 Erika Simon Der Augustus von Prima Porta Bremen Dorn 1959 Opus nobile 13 Hans Jucker Dokumentationen zur Augustusstatue von Primaporta in Hefte des Archaologischen Seminars Bern 3 1977 S 16 37 Paul Zanker Augustus und die Macht der Bilder Munchen C H Beck 1987 ISBN 3 406 32067 8 Kaiser Augustus und die verlorene Republik Ausstellung Berlin 1988 Mainz Zabern 1988 S 386 f Nr 215 Erika Simon Altes und Neues zur Statue des Augustus von Primaporta in G Binder Hrsg Saeculum Augustum Bd 3 Darmstadt WBG 1991 S 204 233 Dietrich Boschung Die Bildnisse des Augustus Gebr Mann Verlag Berlin 1993 Das romische Herrscherbild Abt 1 Bd 2 ISBN 3 7861 1695 4 Thomas Schafer Der Augustus von Primaporta im Wechsel der Medien in H J Wendel u a Hrsg Wechsel des Mediums Zur Interdependenz von Form und Inhalt Rostock 2001 S 37 58 Vinzenz Brinkmann und Raimund Wunsche Hgg Bunte Gotter Die Farbigkeit antiker Skulptur Eine Ausstellung der Staatlichen Antikensammlungen und Glyptothek Munchen in Zusammenarbeit mit der Ny Carlsberg Glyptotek Kopenhagen und den Vatikanischen Museen Rom Staatliche Antikensammlungen und Glyptothek Munchen 2004 ISBN 3 933200 08 3duephimpratimakrrm silpakhlassikaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb exakustusaehngprimapxrta Page on the statue in German with coloured reconstruction and close up of breastplate Another coloured reconstruction in German lingkesiy Description on VIAMUS Catalogue record on VIAMUS 360 degree computer reconstruction