หอไตร หมายถึงอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะเป็นหอสูงสำหรับเก็บคัมภีร์พระไตรปิฎกหรือหนังสือธรรมทางพุทธศาสนา เรียกว่าหอพระไตร ก็มี หอพระธรรม ก็มี หากเป็นหอไตรที่สร้างในเขตพระราชฐานจะเรียกว่า หอพระมณเฑียรธรรม
หอไตรใช้เป็นที่เก็บที่จารึกคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่เรียกว่าพระไตรปิฎก หรือจารึกความรู้เรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องตำรายาโบราณ วรรณคดีโบราณ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นของสูง เป็นของศักดิ์สิทธิ์ และหาได้ยาก และนิยมสร้างไว้กลางสระน้ำในวัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้มดปลวกและแมลงสาบขึ้นไปกัดแทะทำลายคัมภีร์เหล่านั้น ส่วนใหญ่นิยมสร้างเพื่อมุ่งบุญกุศลเป็นสำคัญ ด้วยถือคติว่าสร้างไว้เก็บรักษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ จึงนิยมสร้างอย่างวิจิตรงดงาม มีรูปทรงพิเศษแปลกตาด้วยฝีมือที่สุดยอดในยุคสมัยนั้น ๆ
ประวัติ
มูลเหตุและหลักฐานการสร้างที่เก็บพระไตรปิฎก
มูลเหตุการสร้างหอไตรมาจากการสังคายนาเพื่อรวบรวมพระธรรมวินัย โดยในครั้งแรก ๆ ยังไม่มีการเขียนเป็นตัวหนังสือเช่นในครั้งแรกสุดซึ่งทำกันครั้งแรกหลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานได้ 7 วัน เมื่อมีการสังคายนาเป็นครั้งที่ 2 ที่กรุงเวสาลี แคว้นมคธ ก็ยังไม่ปรากฏจดลงเป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับการสังคายครั้งที่ 3 มีการจารึกพระธรรมภาษามคธลงบนศิลา การจารึกบนศิลาก็เพื่อให้คนอ่านจึงไม่จำเป็นต้องสร้างที่เก็บพระธรรม จนล่วงมา พ.ศ. 433 ซึ่งถือเป็นการสังคายครั้งที่ 2 ในลังกา มีการเขียนพุทธวจนะลงในใบลาน แต่ก็ยังไม่พบการเก็บรักษาพระไตรปิฏกให้คงทนถาวร
การสร้างที่เก็บพระไตรปิฎกปรากฏครั้งแรกในอินเดียในการสังคายนาครั้งต่อมาซึ่งเป็นการสังคายนาในนิกายมหายาน พระเจ้ากนิษกะประสงค์ให้จารึกพระธรรมลงในแผ่นทองแดงแล้วบรรจุในหีบอย่างดี นำไปเก็บรักษาไว้ในปราสาท ได้สร้างที่เก็บคัมภีร์ไว้โดยเฉพาะ จึงอาจกล่าวได้ว่ามีการสร้างหอไตรขึ้นอย่างน้อยในสมัยพระเจ้ากนิษกะ แต่จะเรียกชื่ออย่างไรก็ไม่อาจทราบ อาจเป็นสถูปหรือเจดีย์ ในโบราณสถานของเขมรที่สร้างขึ้นเพื่อพระพุทธศาสนา มีการสร้างอาคารที่เรียกว่า หอสมุดหรือบรรณาถาร (Bibliothegue) เช่นที่พิมาย ในพม่าในสมัยพระเจ้าอโนรธามังช่อ (พ.ศ. 1557–1620) มีการสร้างหอไตรที่เรียกว่า Pitakataik
สยาม
ในประเทศไทยในสมัยสุโขทัย สถานที่ที่เหมาะสมในการเก็บพระไตรปิฎกคือพระราชมณเฑียรในพระราชวัง ส่วนที่วัดต่าง ๆ คงมีการสร้างอาคารเก็บไว้ทุกวัด แต่อาจสร้างด้วยวัสดุไม่คงทนจึงสูญหายไม่หลงเหลือถึงปัจจุบัน ในสมัยอยุธยามีธรรมเนียมการสร้างที่เก็บพระไตรปิฎกในพระราชวังเช่นเดียวกัน เรียกว่า หอพระมณเฑียรธรรม
การสร้างหอไตรปรากฏหลักฐานในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถเมื่อครั้งสร้างวัดวรเชษฐาราม ตามพงศาวดารระบุว่า
สร้างพระวรเชษฐารามรามมหาวิหารอันรจนาพระพุทธิปฏิมามหาเจดีย์ บรรจุพระสารีริกธาตุสำเร็จ กุฎีสถานปราการสมด้วยอรัญวาสี แล้วก็สร้างพระไตรปิฎกธรรมจบบริบูรณ์ทั้งพระบาลีอรรถกถาฏีกาคันถีวีวรณ์ทั้งปวง จึงแต่งหอพระสัทธรรมเสร็จ ก็นิมนต์พระสงฆ์อรัญวาสีผู้ทรงศีลาทิคุณอันวิเศษมาอยู่ครองพระวรเชษฐารามนั้นแล้ว ก็แต่งขุนหมื่นข้าหลวงไว้สำหรับอารามนั้น แล้วจำหน่ายพระราชทรัพย์ไว้ให้แต่งจตุปัจจัยไทยทาน ถวายแก่พระสงฆ์เป็นนิจกาล แล้วให้แต่งฉทานศาลา แล้วประสาทพระราชทรัพย์ให้แต่งโภชนาหารจังหันถวายแก่ภิกษุสงฆ์ เป็นนิตยภัตรรับมิได้ขาด
ในสมัยรัตนโกสินทร์ยังคงสืบทอดการสร้างหอพระมณเฑียรธรรม การสร้างหอไตรก็สืบต่อจากโบราณ
ล้านนา
ปรากฏร่องรอยการสร้างสถานที่เก็บคัมภีร์มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 สมัยหริภุญไชย เมื่อเข้าสู่สมัยราชวงศ์มังรายปกครองล้านนาจึงปรากฏหลักฐานการสร้างหอไตรครั้งแรกในสมัยพระเจ้าติโลกราช (พ.ศ. 1984–2030) คือ หอไตรวัดสวนดอก พ.ศ. 2011 และหอไตรวัดเจ็ดยอด พ.ศ. 2020
ลักษณะ
หอไตรมีทั้งที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ตั้งหรือที่เก็บพระไตรปิฎกสําหรับเคารพบูชาและหอไตรที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยเช่นเป็นที่สำหรับพระสงฆ์ได้นั่งอ่านหรือคัดลอกพระธรรมคำสอนเพิ่มขึ้นด้วย
หอไตรมักสร้างในเขตสังฆาวาสเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหอไตรประเภทที่สร้างขึ้นเพื่อนั่งศึกษาและคัดลอกพระไตรปิฎก แต่บางวัดก็สร้างในเขตพุทธาวาส ซึ่งอาจเป็นเพราะมีความมุ่งหมายเชิงสัญลักษณ์มากกว่าประโยชน์ใช้สอย โดยเฉพาะวัดในแถบล้านนา หรือสร้างในรอยต่อระหว่างเขตพุทธาวาสกับสังฆาวาส เช่น วัดพระสิงห์ วัดพระธาตุหริภุญชัย และวัดเชียงมั่น เป็นต้น
ส่วนตำแหน่งผังของหอไตรไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว อาจวางไว้หน้าวัด ข้างเจดีย์ ข้างศาลาการเปรียญ ฯลฯ จำนวนการสร้างหอไตรอาจขึ้นอยู่กับจำนวนพระราชาคณะของวัดนั้นด้วย เช่นหากมีพระราชาคณะ 2 รูป ก็สร้างหอไตร 2 หอ เช่น วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดชัยชนะสงคราม
หอไตรมีการสร้างในหลายรูปแบบด้วยวัสดุต่าง ๆ ทั้งเครื่องไม้ เครื่องก่อ และแบบผสม หากเป็นหอไตรเครื่องไม้ มักจะสร้างไว้กลางสระน้ำเพื่อป้องกันแมลงต่าง ๆ เช่นมด ปลวง ขึ้นไปกัดกินพระธรรมซึ่งเป็นกระดาษหรือใบลานใบข่อย สะพานที่พาดจากฝั่งก็ทำแบบชักเก็บได้ ส่วนหอไตรชนิดเครื่องก่อสามารถสร้างบนบกได้ หอไตรแบบผสมเครื่องไม้เครื่องก่อจะทำเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นเครื่องก่อ ชั้นบนเป็นเครื่องไม้ การป้องกันแมลงทําได้ง่ายเช่นกันจึงสร้างไว้บนบก
ระเบียงภาพ
- หอไตรในวังสวนผักกาด กรุงเทพมหานคร
- หอไตรวัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร กรุงเทพมหานคร
-
- หอไตรวัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี
- หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
- หอไตรวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน
- หอไตรวัดประตูป่า จังหวัดลำพูน
- หอไตรวัดราชบูรณะ จังหวัดพิษณุโลก
- หอไตรวัดบางปะกอก กรุงเทพมหานคร
-
- หอไตร วัดช่างฆ้อง จังหวัดเชียงใหม่
อ้างอิง
- บุบผา เจริญทรัพย์. "หอไตร" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
- "วัดวรเชษฐาราม".
- ศิริศักดิ์ อภิศักดิ์มนตรี, ธนิกานต์ วรธรรมานน์, สถาพร จันทร์เทศ,. "ไม่เห็นคุณค่าก็กลายเป็นถังขยะ: บทวิเคราะห์คุณค่าหอไตรล้านนา".
{{}}
: CS1 maint: extra punctuation () CS1 maint: multiple names: authors list () - "หอไตร" (PDF).
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hxitr hmaythungxakharhruxsingpluksrangthimilksnaepnhxsungsahrbekbkhmphirphraitrpidkhruxhnngsuxthrrmthangphuththsasna eriykwahxphraitr kmi hxphrathrrm kmi hakepnhxitrthisranginekhtphrarachthancaeriykwa hxphramnethiyrthrrmhxitrphayinwdphrasinghwrmhawihar hxitrichepnthiekbthicarukkhasxnthangphraphuththsasnathieriykwaphraitrpidk hruxcarukkhwamrueruxngxun echneruxngtarayaobran wrrnkhdiobran epntn sungthuxwaepnkhxngsung epnkhxngskdisiththi aelahaidyak aelaniymsrangiwklangsranainwd thngniephuxpxngknmiihmdplwkaelaaemlngsabkhunipkdaethathalaykhmphirehlann swnihyniymsrangephuxmungbuykuslepnsakhy dwythuxkhtiwasrangiwekbrksaphrathrrmkhasxnkhxngphraphuththecasungepnsingskdisiththisakhy cungniymsrangxyangwicitrngdngam mirupthrngphiessaeplktadwyfimuxthisudyxdinyukhsmynn prawtimulehtuaelahlkthankarsrangthiekbphraitrpidk Pitakataik inphukam mulehtukarsranghxitrmacakkarsngkhaynaephuxrwbrwmphrathrrmwiny odyinkhrngaerk yngimmikarekhiynepntwhnngsuxechninkhrngaerksudsungthaknkhrngaerkhlngphraphuththecaesdcpriniphphanid 7 wn emuxmikarsngkhaynaepnkhrngthi 2 thikrungewsali aekhwnmkhth kyngimpraktcdlngepnlaylksnxksr sahrbkarsngkhaykhrngthi 3 mikarcarukphrathrrmphasamkhthlngbnsila karcarukbnsilakephuxihkhnxancungimcaepntxngsrangthiekbphrathrrm cnlwngma ph s 433 sungthuxepnkarsngkhaykhrngthi 2 inlngka mikarekhiynphuththwcnalnginiblan aetkyngimphbkarekbrksaphraitrpitkihkhngthnthawr karsrangthiekbphraitrpidkpraktkhrngaerkinxinediyinkarsngkhaynakhrngtxmasungepnkarsngkhaynainnikaymhayan phraecakniskaprasngkhihcarukphrathrrmlnginaephnthxngaedngaelwbrrcuinhibxyangdi naipekbrksaiwinprasath idsrangthiekbkhmphiriwodyechphaa cungxacklawidwamikarsranghxitrkhunxyangnxyinsmyphraecakniska aetcaeriykchuxxyangirkimxacthrab xacepnsthuphruxecdiy inobransthankhxngekhmrthisrangkhunephuxphraphuththsasna mikarsrangxakharthieriykwa hxsmudhruxbrrnathar Bibliothegue echnthiphimay inphmainsmyphraecaxonrthamngchx ph s 1557 1620 mikarsranghxitrthieriykwa Pitakataik syam inpraethsithyinsmysuokhthy sthanthithiehmaasminkarekbphraitrpidkkhuxphrarachmnethiyrinphrarachwng swnthiwdtang khngmikarsrangxakharekbiwthukwd aetxacsrangdwywsduimkhngthncungsuyhayimhlngehluxthungpccubn insmyxyuthyamithrrmeniymkarsrangthiekbphraitrpidkinphrarachwngechnediywkn eriykwa hxphramnethiyrthrrm karsranghxitrprakthlkthaninsmysmedcphraexkathsrthemuxkhrngsrangwdwrechstharam tamphngsawdarrabuwa srangphrawrechstharamrammhawiharxnrcnaphraphuththiptimamhaecdiy brrcuphrasaririkthatusaerc kudisthanprakarsmdwyxrywasi aelwksrangphraitrpidkthrrmcbbriburnthngphrabalixrrthkthatikakhnthiwiwrnthngpwng cungaetnghxphrasththrrmesrc knimntphrasngkhxrywasiphuthrngsilathikhunxnwiessmaxyukhrxngphrawrechstharamnnaelw kaetngkhunhmunkhahlwngiwsahrbxaramnn aelwcahnayphrarachthrphyiwihaetngctupccyithythan thwayaekphrasngkhepnnickal aelwihaetngchthansala aelwprasathphrarachthrphyihaetngophchnaharcnghnthwayaekphiksusngkh epnnityphtrrbmiidkhad insmyrtnoksinthryngkhngsubthxdkarsranghxphramnethiyrthrrm karsranghxitrksubtxcakobranlanna praktrxngrxykarsrangsthanthiekbkhmphirmatngaetphuththstwrrsthi 17 smyhriphuyichy emuxekhasusmyrachwngsmngraypkkhrxnglannacungprakthlkthankarsranghxitrkhrngaerkinsmyphraecatiolkrach ph s 1984 2030 khux hxitrwdswndxk ph s 2011 aelahxitrwdecdyxd ph s 2020lksnahxitrmithngthisrangkhunephuxepnthitnghruxthiekbphraitrpidksahrbekharphbuchaaelahxitrthisrangkhunephuxpraoychnichsxyechnepnthisahrbphrasngkhidnngxanhruxkhdlxkphrathrrmkhasxnephimkhundwy hxitrmksranginekhtsngkhawasepnswnihy odyechphaahxitrpraephththisrangkhunephuxnngsuksaaelakhdlxkphraitrpidk aetbangwdksranginekhtphuththawas sungxacepnephraamikhwammunghmayechingsylksnmakkwapraoychnichsxy odyechphaawdinaethblanna hruxsranginrxytxrahwangekhtphuththawaskbsngkhawas echn wdphrasingh wdphrathatuhriphuychy aelawdechiyngmn epntn swntaaehnngphngkhxnghxitrimmikdeknthtaytw xacwangiwhnawd khangecdiy khangsalakarepriyy l canwnkarsranghxitrxackhunxyukbcanwnphrarachakhnakhxngwdnndwy echnhakmiphrarachakhna 2 rup ksranghxitr 2 hx echn wdxrunrachwraramrachwrmhawihar wdchychnasngkhram hxitrmikarsranginhlayrupaebbdwywsdutang thngekhruxngim ekhruxngkx aelaaebbphsm hakepnhxitrekhruxngim mkcasrangiwklangsranaephuxpxngknaemlngtang echnmd plwng khunipkdkinphrathrrmsungepnkradashruxiblanibkhxy saphanthiphadcakfngkthaaebbchkekbid swnhxitrchnidekhruxngkxsamarthsrangbnbkid hxitraebbphsmekhruxngimekhruxngkxcathaepn 2 chn chnlangepnekhruxngkx chnbnepnekhruxngim karpxngknaemlngthaidngayechnkncungsrangiwbnbkraebiyngphaphhxitrinwngswnphkkad krungethphmhankhr hxitrwdxpsrswrrkhwrwihar krungethphmhankhr hxitrwdmhathatu xaephxemuxngyosthr hxitrwdihysuwrrnaramwrwihar cnghwdephchrburi hxitrwdthungsriemuxng cnghwdxublrachthani hxitrwdphrathatuhriphuychywrmhawihar cnghwdlaphun hxitrwdpratupa cnghwdlaphun hxitrwdrachburna cnghwdphisnuolk hxitrwdbangpakxk krungethphmhankhr hxitr wdsraeksrachwrmhawihar krungethphmhankhr hxitr wdchangkhxng cnghwdechiyngihmxangxingbubpha ecriythrphy hxitr PDF mhawithyalysilpakr wdwrechstharam siriskdi xphiskdimntri thnikant wrthrrmann sthaphr cnthreths imehnkhunkhakklayepnthngkhya bthwiekhraahkhunkhahxitrlanna a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint extra punctuation CS1 maint multiple names authors list lingk hxitr PDF phrathrrmkittiwngs thxngdi suretoch p th 9 rachbnthit phcnanukrmephuxkarsuksaphuththsasn chud khawd wdrachoxrsaram krungethph ph s 2548bthkhwamsasnaphuththniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk