หนูเหม็น | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | |
วงศ์: | Erinaceidae |
วงศ์ย่อย: | Galericinae |
สกุล: | Echinosorex , 1838 |
สปีชีส์: | E. gymnura |
สปีชีส์ย่อย: | E. g. cadidus E. g. albus |
ชื่อทวินาม | |
Echinosorex gymnura (, 1821) | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
หนูเหม็น หรือ สาโท เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Echinosorex gymnurus จัดอยู่ในวงศ์ Erinaceidae ซึ่งจัดเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Echinosorex
หนูเหม็น มีรูปร่างลักษณะคล้ายหนูที่อยู่ในอันดับสัตว์ฟันแทะ แต่หนูเหม็นเป็นสัตว์ที่อยู่ในอันดับเฮดจ์ฮอกเช่นเดียวกับเฮดจ์ฮอก มีขนยาวปุกปุยรุงรังสีดำแซมขาว หัวมีขนสีขาวและมีแถบดำพาดผ่านตาเห็นได้ชัดเจน ปลายปากด้านบนและดั้งจมูกยาวเรียวยื่นออกไปมากกว่าปลายริมฝีปากล่าง หางมีเกล็ดเล็ก ๆ ปกคลุมคล้ายหางหนู มีสีดำและปลายหางสีขาว พบกระจายพันธุ์อยู่ในแถบเทือกเขาตะนาวศรีในเขตพม่า และภาคใต้ของไทยตั้งแต่คอคอดกระลงไปตลอดแหลมมลายู, เกาะสุมาตรา และเกาะบอร์เนียว
มีขนาดลำตัวยาว 26-45 เซนติเมตร หางยาว 20-21 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 0.5-1.1 กิโลกรัม ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์และอันดับนี้
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดย่อย คือ E.g.albus พบในตอนตะวันออกและตอนใต้ของเกาะบอร์เนียว และ E.g.cadidus พบในตอนตะวันตกของเกาะบอร์เนียว
เป็นสัตว์ที่มีกลิ่นตัวเหม็นรุนแรงจึงเป็นที่มาของชื่อ ซึ่งกลิ่นตัวนี้คล้ายกับกลิ่นระเหยของแอมโมเนีย สามารถส่งกลิ่นออกไปได้ไกลเป็นระยะหลายเมตร ใช้สำหรับติดต่อกับหนูเหม็นตัวอื่น มักอาศัยอยู่ตามลำพัง ชอบอาศัยอยู่ในที่ชื้นแฉะตามป่าดิบชื้น เช่น ป่าโกงกาง, ป่าตามพื้นที่ราบเชิงเขา โดยเฉพาะตามหุบเขาที่มีป่ารกทึบ ติดกับลำธารที่มีน้ำไหลผ่าน ซึ่งเหมาะเป็นแหล่งในการหาอาหารได้สะดวก เป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน อาหาร ได้แก่ , ด้วง และแมลงต่าง ๆ, ไส้เดือนดิน สามารถที่จะล่าสัตว์เล็ก ๆ กิน เช่น ลูกกบ,เขียด, กุ้ง, ปู, ปลา และหอย ได้ด้วย กลางวันจะพักอาศัยหลบซ่อนอยู่ในรูดิน โพรงไม้และตามซอกใตัรากไม้ในป่าทั่วไป มีฤดูผสมพันธุ์ตลอดทั้งปี ๆ ละ 2 ครอก มีลูกครอกละ 2 ตัว มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย
ปัจจุบันเป็นสัตว์ที่หายาก เนื่องจากสภาพพื้นที่ ๆ อยู่อาศัยถูกทำลาย และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม
หนูเหม็น มีความเชื่อมาแต่โบราณว่า หากเก็บกระดูกไว้จะสามารถแก้หรือมนต์ดำได้
อ้างอิง
- "Echinosorex". .
- Wroot, Andrew (1984). Macdonald, D.. ed. The Encyclopedia of Mammals. New York: Facts on File. pp. 750–757. .
- Echinosorex gymnurus (หนูเหม็น)
- พบสัตว์แปลกตัวคล้ายหนู หน้า-ปากเหมือนหมู จากสนุกดอตคอม
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Echinosorex gymnura ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hnuehmnsthanakarxnurks IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Mammaliaxndb wngs Erinaceidaewngsyxy Galericinaeskul Echinosorex 1838spichis E gymnuraspichisyxy E g cadidus E g albuschuxthwinamEchinosorex gymnura 1821 aephnthiaesdngkarkracayphnthuchuxphxngEchinosorex birmanica Trouessart 1879 Echinosorex borneotica Fitzinger 1868 Echinosorex candida Gunther 1876 Echinosorex minor Lyon 1909 Echinosorex rafflesii Lesson 1827 hnuehmn hrux saoth epnstweliynglukdwynmkhnadelk chnidhnung michuxwithyasastrwa Echinosorex gymnurus cdxyuinwngs Erinaceidae sungcdepnsingmichiwitephiyngchnidediywethannthixyuinskul Echinosorex hnuehmn mirupranglksnakhlayhnuthixyuinxndbstwfnaetha aethnuehmnepnstwthixyuinxndbehdchxkechnediywkbehdchxk mikhnyawpukpuyrungrngsidaaesmkhaw hwmikhnsikhawaelamiaethbdaphadphantaehnidchdecn playpakdanbnaeladngcmukyaweriywyunxxkipmakkwaplayrimfipaklang hangmiekldelk pkkhlumkhlayhanghnu misidaaelaplayhangsikhaw phbkracayphnthuxyuinaethbethuxkekhatanawsriinekhtphma aelaphakhitkhxngithytngaetkhxkhxdkralngiptlxdaehlmmlayu ekaasumatra aelaekaabxreniyw mikhnadlatwyaw 26 45 esntiemtr hangyaw 20 21 esntiemtr minahnk 0 5 1 1 kiolkrm thuxwaepnstwthimikhnadihythisudinwngsaelaxndbni samarthaebngxxkidepn 2 chnidyxy khuxE g albus phbintxntawnxxkaelatxnitkhxngekaabxreniyw aela E g cadidus phbintxntawntkkhxngekaabxreniyw epnstwthimiklintwehmnrunaerngcungepnthimakhxngchux sungklintwnikhlaykbklinraehykhxngaexmomeniy samarthsngklinxxkipidiklepnrayahlayemtr ichsahrbtidtxkbhnuehmntwxun mkxasyxyutamlaphng chxbxasyxyuinthichunaechatampadibchun echn paokngkang patamphunthirabechingekha odyechphaatamhubekhathimiparkthub tidkblatharthiminaihlphan sungehmaaepnaehlnginkarhaxaharidsadwk epnstwthixxkhakininewlaklangkhun xahar idaek dwng aelaaemlngtang iseduxndin samarththicalastwelk kin echn lukkb ekhiyd kung pu pla aelahxy iddwy klangwncaphkxasyhlbsxnxyuinrudin ophrngimaelatamsxkitrakiminpathwip mivduphsmphnthutlxdthngpi la 2 khrxk milukkhrxkla 2 tw minisykhxnkhangduray pccubnepnstwthihayak enuxngcaksphaphphunthi xyuxasythukthalay aelaepnstwpakhumkhrxngtam hnuehmn mikhwamechuxmaaetobranwa hakekbkradukiwcasamarthaekhruxmntdaidxangxing Echinosorex Wroot Andrew 1984 Macdonald D ed The Encyclopedia of Mammals New York Facts on File pp 750 757 ISBN 0 87196 871 1 Echinosorex gymnurus hnuehmn phbstwaeplktwkhlayhnu hna pakehmuxnhmu caksnukdxtkhxm wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Echinosorex gymnuraaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Echinosorex gymnura thiwikispichis