หนังสือเศคาริยาห์

หนังสือเศคาริยาห์ (อังกฤษ: Book of Zechariah) เป็นหนังสือในศาสนายูดาห์ที่ถือกันว่าเขียนโดย ผู้เผยพระวจนะชาวฮีบรูในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ในคัมภีร์ฮีบรู หนังสือเศคาริยาห์เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือสิบสองผู้เผยพระวจนะน้อยซึ่งอยู่ในของหนังสือฮีบรู ในพันธสัญญาเดิมของศาสนาคริสต์ หนังสือเศคาริยาห์ถือเป็นหนังสือที่แยกออกมาเป็นของตนเอง

บริบททางประวัติศาสตร์

เศคาริยาห์เป็นหนึ่งในสามผู้เผยพระวจนะในยุคหลังจาก คำเผยพระวจนะของเศคาริยาห์เกิดขึ้นในรัชสมัยของกษัตริย์ดาริอัสมหาราช บทที่ 1–8 ของหนังสือเศคาริยาห์อยู่ในสมัยเดียวกันกับคำเผยพระวจนะของ ส่วนบทที่ 9–14 (มักเรียกว่าเป็นเศคาริยาห์ที่สอง) เชื่อว่าเขียนในภายหลังคือในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลในช่วงปลายสมัยเปอร์เซียและต้นสมัยทอเลมี นักวิชาการเชื่อว่าเอเสเคียลผู้ผสมผสานระเบียบแบบแผนและนิมิตเข้าด้วยกัน มีอิมธิพลอย่างมากต่องานเขียนเชิงนิมิตของเศคาริยาห์ 1–8.

ในช่วงที่พลัดถิ่น ประชาชนจำนวนมากของถูกพาตัวไปยังบาบิโลน ซึ่งบรรดาผู้เผยพระวจนะบอกกับประชาชนในสร้างบ้านขึ้นที่นั่น บอกเป็นนัยว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตเป็นเวลายาวนานที่นั่น กษัตริย์ไซรัสมหาราชพิชิตได้เมื่อ 539 ปีก่อนคริสตกาล ในปีถัดมา พระองค์ออก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของครั้งแรกโดยการนำของเชชบัสซาร์

กษัตริย์ดาริอัสขึ้นครองราชย์เมื่อ 522 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์แบ่งอาณานิคมจำนวนมากในจักรวรรดิออกเป็นแคว้น แต่แคว้นมีผู้ว่าราชการกำกับดูแล เศรุบบาเบลได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการของยูดาห์ (ซึ่งเวลานั้นเปลี่ยนเป็นแคว้น แห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย) ในรัชสมัยของดาริอัส เศคาริยาห์ก็เริ่มเผยพระวจนะโดยเน้นไปที่การสร้างขึ้นใหม่ จักรวรรดิเปอร์เซียแตกต่างจากจักรวรรดิบาบิโลนตรงที่เปอร์เซียพยายามอย่างยิ่งที่รักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างเมืองขึ้นและเจ้านาย การสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์เปอร์เซียโดยหวังจะว่าจะทำให้ประชาชนท้องถิ่นมีความมั่นคง นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดีของชาวเปอร์เซีย และชาวยิวมองว่าเป็นพระพรจากพระเจ้า

ผู้เผยพระวจนะ

ชื่อ มีความหมายว่า "พระเจ้าทรงระลึกถึง" ไม่มีรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับประวัติของเศคาริยาห์นอกเหนือจากที่สิ่งที่อนุมานได้จากหนังสือเศคาริยาห์ คาดกันว่าที่เป็นปู่ของเศคาริยาห์เป็นหัวหน้าของครอบครัวปุโรหิตที่กลับมาพร้อมเศรุบบาเบล และเศคาริยาห์อาจเป็นทั้งปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ ข้อสันนิษฐานนี้ได้รับการสนับสนุนโดยความสนใจของเศคาริยาห์ในเรื่องพระวิหารและความเป็นปุโรหิต และจากการเทศนาของอิดโดในหนังสือพงศาวดาร

อ้างอิง

1. เศคาริยาห์ 1:1
2. Carol L. Meyers and Eric M. Meyers, Haggai, Zechariah 1–8: The Anchor Bible. Garden City, Doubleday and Company Inc., 1987. ISBN . Page 183.
3. (2014). Historical Roots of the Old Testament (1200–63 BCE). SBL Press. pp. 215–216. ISBN .
4. Meyers, p. 30.
5. Jeremiah 29
6. Meyers, pp. 31–2.
7. เนหะมีย์ 12:4

บรรณานุกรม

• Coogan, Michael David (2009). A brief introduction to the Old Testament : The Hebrew Bible in its context. Oxford: Oxford University Press. ISBN .
• , Dominion And Dynasty: A Theology Of The Hebrew Bible. Illinois: Intervarsity Press, 2003. ISBN 
• Guthrie, Donald (ed.), New Bible Commentary. [3d ed., completely rev. and reset]. Grand Rapids, Mich.: Eerdmans Publishing Company, 1970, ISBN .
• Stuhlmueller, Carroll, Haggai and Zechariah: Rebuilding With Hope. Edinburgh: The Handsel Press Ltd., 1988. ISBN .
• The Student Bible, NIV. Michigan: Zondervan Publishing House, 1992. ISBN .
•  บทความนี้รวมข้อความจากสิ่งพิมพ์ที่ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติ:  (1897). "Zechariah". (New and revised ed.). T. Nelson and Sons.

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:

หนังสือเศคาริยาห์

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ หนังสือเศคาริยาห์

คำแปล

• Zechariah (Judaica Press) translation [with 's commentary] at
• Online Bible at GospelHall.org (ESV, KJV, Darby, American Standard Version, Bible in Basic English)
• Zechariah หนังสือเสียงสาธารณสมบัติที่ Various versions
• หนังสือเศคาริยาห์ ที่ยูเวอร์ชัน

ก่อนหน้า ฮักกัย

หนังสือเศคาริยาห์ คัมภีร์ฮีบรูและ พันธสัญญาเดิมของศาสนาคริสต์ (หมวดผู้เผยพระวจนะน้อย)

ถัดไป มาลาคี