เจ้าหลวงเสือก่าฟ้า ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาหม สันนิษฐานกันว่า พระองค์เป็นเจ้าองค์หนึ่งใน ซึ่งก่อตั้งโดยกษัตริย์พระนามว่า ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพระองค์ เสือก่าฟ้าได้เกิดความขัดแย้งกับญาติพี่น้อง และในที่สุดจึงได้นำสมบัติประจำราชวงศ์ซึ่งเป็นเทวรูปนาม อพยพออกมาจากมาวหลวง
เจ้าหลวงเสือก่าฟ้า | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าหลวงแห่งอาณาจักรอาหม | |||||
ครองราชย์ | ค.ศ. 1228-1268 | ||||
ประสูติ | ประมาณปี ค.ศ. 1189 | ||||
สวรรคต | ประมาณปี ค.ศ. 1268 | ||||
พระมเหสี | พระมเหสี 3 พระองค์ | ||||
พระราชบุตร | พระโอรส 2 พระองค์ พระธิดา 1 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์อาหม | ||||
พระราชชนก | เจ้าช้างเญอ (บางแห่งเรียก เจ้าเงี้ยว) | ||||
พระราชชนนี | นางเมืองพลักคำแสน (บางแห่งเรียก นางเมืองพลักคำแสง) |
พระราชประวัติ
พระราชประวัติตอนต้นของเสือก่าฟ้านั้นมีอยู่หลายตำนาน โดยตำนานหนึ่งได้กล่าวถึงเสือก่าฟ้าเป็นพระราชโอรสใน (Chao Chang-Nyeu, ออกพระนามว่า Phu-Chang-Khang) กับ (Nang-Mong Blak-Kham-Sen) ซึ่งเป็นเจ้าใน (Mong Mao) ซึ่งปัจจุบันคือเมืองมาว หรือ (จีน:瑞麗市, พินอิน: Ruìlì Shì) โดยเจ้าช้างเญอเป็นเจ้ามาจาก และอาจเดินทางไปยังเมืองมาวหลวงด้วยความบังเอิญ ซึ่งขณะนั้น (Chao Tai Pung) ยังทรงครองราชย์สมบัติอยู่ โดยเจ้าช้างเญอทรงมีสัมพันธภาพที่ดีต่อ (Pao Meo Pung) พระราชโอรสของเจ้าเมืองมาวหลวง เขาจึงมอบพระขนิษฐาคือนางพลักคำแสนเป็นพระชายาของเจ้าช้างเญอ โดยเจ้าเสือก่าฟ้าทรงราชสมภพหลังการสมรสของพระชนกและชนนีประมาณ ค.ศ. 1189พระองค์จึงสืบเชื้อสายเจ้าเมืองมาวหลวงจากพระมารดา เมื่อปาวเมืองปุง เสด็จสวรรคต แล้วไม่มีพระโอรสสืบราชสมบัติต่อ เสือก่าฟ้าผู้มีศักดิ์เป็นพระราชภาคิไนยจึงครองราชย์เมืองมาวหลวงต่อจากพระมาตุลา
เสด็จสู่อัสสัม
เสือก่าฟ้าอพยพมาจากเมืองมาวหลวงในปี พ.ศ. 1758 ด้วยเชื่อว่าเสือก่าฟ้าได้เกิดความขัดแย้งกับญาติพี่น้อง และในที่สุดจึงได้นำสมบัติประจำราชวงศ์ซึ่งเป็นเทวรูปนาม สมเทวะ อพยพออกมาจากมาวหลวง พร้อมด้วยผู้ติดตามเป็นพระมเหสี 3 พระองค์ พระโอรส 2 พระองค์และพระธิดา รวมไปถึงขุนนางผู้ใหญ่ 5 คน ไพร่พล 9,000 คนรวมสตรีและเด็ก (อาจเป็นไปได้ว่าส่วนมากเป็นชายฉกรรจ์แต่ไม่มีการยืนยัน) เสือก่าฟ้าได้ร่อนเร่ตามท้องถิ่นของ (Patkai Hills) ถึง 13 ปี ในระหว่างนั้นได้โจมตีชุมชนชาวเป็นครั้งคราว และในที่สุด เสือก่าฟ้าก็ได้มาถึงคามช้างในปี พ.ศ. 1771
ขึ้นครองราชย์
เริ่มแผ่อิทธิพล
เสือก่าฟ้าข้ามแม่น้ำคามน้ำช้างด้วยแพ และมาถึง (พม่า:Nawng Yang, ความหมาย ทะเลสาบไม่หวนกลับ) ชาวนาคะบางพวกพยายามต้านทานการรุกรานของชาวอาหม แต่เสือก่าฟ้าก็เอาชนะได้ และยึดครองหมู่บ้านที่ได้มา ชาวนาคะมากมายถูกฆ่า ย่างไฟ และญาติพี่น้องถูกบังคับในกินเนื้อคนตาย ทำให้ชาวนาคะมาสวามิภักดิ์เป็นจำนวนมาก และเสือก่าฟ้าได้ตั้งขุนนางปกครองอาณาเขตที่ยึดได้
เสือก่าฟ้าก็ยกพลต่อไปยัง เมืองแดงเขารัง คำแหงปุง และนามรูป พระองค์ได้ทรงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเซสสามายังทิหิง แต่พบสถานที่ไม่เหมาะสมจึงมุ่งลงไปทางใต้จนถึงทิปาม ต่อจากนั้นก็มาถึง เมืองกลาง เจครุ (อภัยปุระ) ซึ่งเสือก่าฟ้าได้พำนักอยู่หลายปี จนใน พ.ศ. 1783 เกิดน้ำท่วมจึงทิ้งเมืองล่องมาตามแม่น้ำพรหมบุตรมายังฮาบุง และพำนักเป็นเวลา 2 ปี ชาวอาหมได้ทำการเพาะปลูกเนื่องจากเป็นที่ราบลุ่ม แต่ต่อมาเกิดน้ำท่วมในปี พ.ศ. 1787 ต้องอพยพอีกลงมาตามแม่น้ำพรหมบุตรจนถึงปากน้ำทิขุ
เสือก่าฟ้ามาถึงลิกิริกาออน ในปี พ.ศ. 1789 พระองค์เดินทางไปยังสีมาลุกุรี โดยทิ้งกองทหารกองเล็กๆ ไว้กองหนึ่ง พระองค์ประทับที่สีมาลุกุรี 5-6 ปี พระองค์พยายามโจมตีชุมชนในลุ่มน้ำแดง (แควหนึ่งของทิขุ) แต่ต้องล้มเลิก เนื่องจากมีกลุ่มชนอยู่มากมายเกินไป
ก่อตั้งราชธานี
ในปี พ.ศ. 1796 ทรงทิ้งสีมาลุกุรีเพื่อไปยังเจ้รายดอย และมีการเลี้ยงฉลอง สังเวยต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยม้า 2 ตัว และมีการสวดมนต์ถวายเทวไทใต้ต้นหม่อน(ชาวอาหมเรียกดินแดนอาณาจักรของตนว่า เมิงนุนสุนคำ หรือ เมืองดอนสวนคำ แปลว่า เมืองที่เต็มไปด้วยสวนทอง)
ชาวโมรานและโบราฮียอมสวามิภักดิ์
ในขณะนั้น อาณาเขตใกล้เคียงอยู่ในการปกครองของกษัตริย์โมรานพระนามว่า บาดันชา และกษัตริย์โบราฮีพระนามว่า ตาคุมตา ซึ่งทั้งสองอาณาจักรได้ยอมสวามิภักดิ์ต่อเสือก่าฟ้า ในภายใต้การปกครองของอาหม ชาวโมรานไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องส่งส่วยเป็นสินค้าป่า เช่น ช้าง สีย้อมผ้า น้ำผึ้ง และเสื่อ เป็นต้น ชาวโมรานจำนวนมากได้ยอมรับวัฒนธรรมอาหมมาใช้ แต่ยังคงใช้ภาษาโบโดพูดกันเช่นเดิม
พระราชกรณียกิจอื่น ๆ
เสือก่าฟ้าได้ทรงทำการต่อสู้จนได้ดินแดนหลายแห่งมาไว้ครอบครอง ซึ่งพระองค์ได้ทรงดำเนินการอย่างชาญฉลาด โดยการยกย่องฐานะของดินแดนเหล่านั้นให้เท่าเทียมกับชาวอาหม และสนับสนุนการสมรสระหว่างเผ่า ซึ่งในที่สุดก็จะทำให้กลายเป็นชาติเดียวกัน
และพระองค์ยังได้เจริญสัมพันธไมตรีกับดินแดนอื่นๆซึ่งเป็นเครือญาติในตระกูลเดียวกันกับพระองค์ ซึ่งได้ส่งของกำนัลเช่น ทอง และเงินไปถวาย ในรัชกาลนี้ยังได้ตั้งตำแหน่งขุนนางชั้นผู้ใหญ่แห่งรัฐขึ้น 2 ตำแหน่งคือ เถ้าเมืองหลวง และเจ้าพรองเมือง ซึ่งมีอำนาจสูงสุดถัดจากองค์กษัตริย์
สิ้นพระชนม์
เสือก่าฟ้าสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 1811 ทรงครองราชย์ได้ 40 ปี
อ้างอิง
- Phukan 1992:67
- Gogoi 1968
- Gogoi 1968:251
- Gait, Edward A. (1906), A History of Assam, Calcutta
- Gogoi, Padmeshwar (1968), The Tai and the Tai Kingdoms, Guwahati: Gauhati University
- Guha, Amalendu (December 1983), "The Ahom Political System: An Enquiry into the State Formation Process in Medieval Assam (1228-1714)", Social Scientist, Social Scientist, 11 (12): 3–34, doi:10.2307/3516963
{{}}
: CS1 maint: date and year () - Phukan, J. N. (1992), "The Tai-Ahom Power in Assam", ใน Barpujari, H. K. (บ.ก.), The Comprehensive History of Assam, vol. 2, Guwahati: Assam Publication Board, pp. 49–60
- วิจิตรวาทการ, พลตรี หลวง. งานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย. กรุงเทพฯ:สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2549. หน้า 233-236
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | เจ้าหลวงเสือก่าฟ้า | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ปฐมกษัตริย์ | กษัตริย์อาหม (พ.ศ. 1771 - พ.ศ. 1811) | เจ้าหลวงเสือใต้ฟ้า |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecahlwngesuxkafa thrngepnpthmkstriyaehngxanackrxahm snnisthanknwa phraxngkhepnecaxngkhhnungin sungkxtngodykstriyphranamwa sungepnbrrphburuskhxngphraxngkh esuxkafaidekidkhwamkhdaeyngkbyatiphinxng aelainthisudcungidnasmbtipracarachwngssungepnethwrupnam xphyphxxkmacakmawhlwngecahlwngesuxkafaecahlwngaehngxanackrxahmkhrxngrachykh s 1228 1268prasutipramanpi kh s 1189swrrkhtpramanpi kh s 1268phramehsiphramehsi 3 phraxngkhphrarachbutrphraoxrs 2 phraxngkh phrathida 1 phraxngkhphranametmecahlwngesuxkafarachwngsrachwngsxahmphrarachchnkecachangeyx bangaehngeriyk ecaengiyw phrarachchnninangemuxngphlkkhaaesn bangaehngeriyk nangemuxngphlkkhaaesng phrarachprawtiphrarachprawtitxntnkhxngesuxkafannmixyuhlaytanan odytananhnungidklawthungesuxkafaepnphrarachoxrsin Chao Chang Nyeu xxkphranamwa Phu Chang Khang kb Nang Mong Blak Kham Sen sungepnecain Mong Mao sungpccubnkhuxemuxngmaw hrux cin 瑞麗市 phinxin Ruili Shi odyecachangeyxepnecamacak aelaxacedinthangipyngemuxngmawhlwngdwykhwambngexiy sungkhnann Chao Tai Pung yngthrngkhrxngrachysmbtixyu odyecachangeyxthrngmismphnthphaphthiditx Pao Meo Pung phrarachoxrskhxngecaemuxngmawhlwng ekhacungmxbphrakhnisthakhuxnangphlkkhaaesnepnphrachayakhxngecachangeyx odyecaesuxkafathrngrachsmphphhlngkarsmrskhxngphrachnkaelachnnipraman kh s 1189phraxngkhcungsubechuxsayecaemuxngmawhlwngcakphramarda emuxpawemuxngpung esdcswrrkht aelwimmiphraoxrssubrachsmbtitx esuxkafaphumiskdiepnphrarachphakhiinycungkhrxngrachyemuxngmawhlwngtxcakphramatulaesdcsuxssmesuxkafaxphyphmacakemuxngmawhlwnginpi ph s 1758 dwyechuxwaesuxkafaidekidkhwamkhdaeyngkbyatiphinxng aelainthisudcungidnasmbtipracarachwngssungepnethwrupnam smethwa xphyphxxkmacakmawhlwng phrxmdwyphutidtamepnphramehsi 3 phraxngkh phraoxrs 2 phraxngkhaelaphrathida rwmipthungkhunnangphuihy 5 khn iphrphl 9 000 khnrwmstriaelaedk xacepnipidwaswnmakepnchaychkrrcaetimmikaryunyn esuxkafaidrxnertamthxngthinkhxng Patkai Hills thung 13 pi inrahwangnnidocmtichumchnchawepnkhrngkhraw aelainthisud esuxkafakidmathungkhamchanginpi ph s 1771khunkhrxngrachyerimaephxiththiphl esuxkafakhamaemnakhamnachangdwyaeph aelamathung phma Nawng Yang khwamhmay thaelsabimhwnklb chawnakhabangphwkphyayamtanthankarrukrankhxngchawxahm aetesuxkafakexachnaid aelayudkhrxnghmubanthiidma chawnakhamakmaythukkha yangif aelayatiphinxngthukbngkhbinkinenuxkhntay thaihchawnakhamaswamiphkdiepncanwnmak aelaesuxkafaidtngkhunnangpkkhrxngxanaekhtthiyudid esuxkafakykphltxipyng emuxngaedngekharng khaaehngpung aelanamrup phraxngkhidthrngsrangsaphankhamaemnaesssamayngthihing aetphbsthanthiimehmaasmcungmunglngipthangitcnthungthipam txcaknnkmathung emuxngklang eckhru xphypura sungesuxkafaidphankxyuhlaypi cnin ph s 1783 ekidnathwmcungthingemuxnglxngmatamaemnaphrhmbutrmaynghabung aelaphankepnewla 2 pi chawxahmidthakarephaaplukenuxngcakepnthirablum aettxmaekidnathwminpi ph s 1787 txngxphyphxiklngmatamaemnaphrhmbutrcnthungpaknathikhu esuxkafamathunglikirikaxxn inpi ph s 1789 phraxngkhedinthangipyngsimalukuri odythingkxngthharkxngelk iwkxnghnung phraxngkhprathbthisimalukuri 5 6 pi phraxngkhphyayamocmtichumchninlumnaaedng aekhwhnungkhxngthikhu aettxnglmelik enuxngcakmiklumchnxyumakmayekinip kxtngrachthani inpi ph s 1796 thrngthingsimalukuriephuxipyngecraydxy aelamikareliyngchlxng sngewytxsingskdisiththidwyma 2 tw aelamikarswdmntthwayethwithittnhmxn chawxahmeriykdinaednxanackrkhxngtnwa emingnunsunkha hrux emuxngdxnswnkha aeplwa emuxngthietmipdwyswnthxng chawomranaelaobrahiyxmswamiphkdi inkhnann xanaekhtiklekhiyngxyuinkarpkkhrxngkhxngkstriyomranphranamwa badncha aelakstriyobrahiphranamwa takhumta sungthngsxngxanackridyxmswamiphkditxesuxkafa inphayitkarpkkhrxngkhxngxahm chawomranimtxngesiyphasi aettxngsngswyepnsinkhapa echn chang siyxmpha naphung aelaesux epntn chawomrancanwnmakidyxmrbwthnthrrmxahmmaich aetyngkhngichphasaobodphudknechnedim phrarachkrniykicxun esuxkafaidthrngthakartxsucniddinaednhlayaehngmaiwkhrxbkhrxng sungphraxngkhidthrngdaeninkarxyangchaychlad odykarykyxngthanakhxngdinaednehlannihethaethiymkbchawxahm aelasnbsnunkarsmrsrahwangepha sunginthisudkcathaihklayepnchatiediywkn aelaphraxngkhyngidecriysmphnthimtrikbdinaednxunsungepnekhruxyatiintrakulediywknkbphraxngkh sungidsngkhxngkanlechn thxng aelaenginipthway inrchkalniyngidtngtaaehnngkhunnangchnphuihyaehngrthkhun 2 taaehnngkhux ethaemuxnghlwng aelaecaphrxngemuxng sungmixanacsungsudthdcakxngkhkstriysinphrachnmesuxkafasinphrachnminpi ph s 1811 thrngkhrxngrachyid 40 pixangxingPhukan 1992 67 Gogoi 1968 Gogoi 1968 251 Gait Edward A 1906 A History of Assam Calcutta Gogoi Padmeshwar 1968 The Tai and the Tai Kingdoms Guwahati Gauhati University Guha Amalendu December 1983 The Ahom Political System An Enquiry into the State Formation Process in Medieval Assam 1228 1714 Social Scientist Social Scientist 11 12 3 34 doi 10 2307 3516963 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a CS1 maint date and year lingk Phukan J N 1992 The Tai Ahom Power in Assam in Barpujari H K b k The Comprehensive History of Assam vol 2 Guwahati Assam Publication Board pp 49 60 wicitrwathkar phltri hlwng ngankhnkhwaeruxngchnchatiithy krungethph srangsrrkhbukhs 2549 hna 233 236duephimrachwngsxahmkxnhna ecahlwngesuxkafa thdippthmkstriy kstriyxahm ph s 1771 ph s 1811 ecahlwngesuxitfa