บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงของเรื่อง |
วันสารทจีน ตามปฏิทินทางจันทรคติ เทศกาลสารทจีนจะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน เทศกาลสารทจีนถือเป็นวันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยพิธีเซ่นไหว้ และยังถือเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญได้
วันสารทจีน | |
---|---|
เครื่องเซ่นไหว้ในประเทศไทย | |
จัดขึ้นโดย | ชาวจีนทั่วโลก |
ประเภท | ศาสนา, วัฒนธรรม |
ความสำคัญ | เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ |
การถือปฏิบัติ | ไหว้บรรพบุรุษ, ทำบุญอุทิศ, เผากระดาษ |
วันที่ | 15 เดือน 7 |
ความถี่ | ทุกปี |
ส่วนเกี่ยวข้อง | เทศกาลบง, มิลรยังแพ็กชุง, สารทญวน, ประชุมแบน, บุญข้าวประดับดิน, มาตากา ดาเนส, ประเพณีสารทเดือนสิบ |
ตำนาน
ตำนานที่ 1
ตำนานนี้กล่าวไว้ว่าวันสารทจีนเป็นวันที่เงี่ยมล้อเทียนจือ (ยมบาล) จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์และส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้ายจึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ดังนั้นเพื่อให้วิญญาณร้ายออกมารับกุศลผลบุญนี้จึงต้องมีการเปิดประตูนรกนั่นเอง
ตำนานที่ 2
มีชายหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า “มู่เหลียน” (พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เคยเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจนางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวว่ามารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียนแต่หาทราบไม่ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดาก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่ามารดาของตนกำลังอดอยากจึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดและเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสมู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ว่าตนขอรับโทษแทนมารดา
แต่ก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้นและพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่าง ๆ ได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดจึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการเซ่นไหว้ โดยจะนำอาหารทั้งคาวหวาน และกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก มีนัยว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน
จำนวนชุดที่ไหว้
การไหว้ในเทศกาลสารทจีนแบ่งออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
1. ชุดสำหรับไหว้เจ้าที่
จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวานกุยช่าย ส่วนขนมไหว้พิเศษที่ต้องมีซึ่งเป็นประเพณีของสารทจีนคือขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อที่ว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทอง
2. ชุดสำหรับไหว้บรรพบุรุษ
คล้ายของไหว้เจ้าที่พร้อมด้วยกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ ตามธรรมเนียมต้องมีน้ำแกงหรือขนมน้ำใส ๆ วางข้างชามข้าวสวย และน้ำชาจัดชุดตามจำนวนของบรรพบุรุษ ขาดไม่ได้ก็คือขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้และกระดาษเงินกระดาษทอง
3. ชุดสำหรับไหว้สัมภเวสี
วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า สัมภเวสี หรือ ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการสะท้อนความสุภาพและให้เกียรติของคนจีน เรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดีของเรา โดยการไหว้จะไหว้นอกบ้านของไหว้จะมีทั้งของคาวหวานและผลไม้ตามต้องการและที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ ปลานึ่ง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้
ขนมที่ใช้ไหว้
ในสมัยโบราณชาวจีนใช้ขนมไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า โหงวเปี้ย หรือเรียกชื่อเป็นชุดว่า ปัง เปี้ย หมี่ มั่ว กี
- ปัง คือขนมทึงปัง เป็นขนมที่ทำมาจากน้ำตาล
- เปี้ย คือขนมหนึงเปี้ย คล้ายขนมไข่
- หมี่ คือขนมหมี่เท้า ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าข้างในไส้เต้าซา
- มั่ว คือขนมทึกกี่ เป็นขนมข้าวพองสีแดงตรงกลางมีไส้เป็นแผ่นบาง
- กี คือขนมทึงกี ทำเป็นชิ้นใหญ่ยาวเวลาจะกินต้องตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ
แต่ชาวไทยเชื้อสายจีนใช้ขนมเทียน ขนมเข่งในการไหว้ โดยหลักของที่ไหว้ก็จะมีของคาว 3 หรือ 5 อย่าง เช่น ไก่ หมู เป็ด ไข่ หมึก ปลา เป็นต้น ของหวาน 3 หรือ 5 อย่าง เช่น ขนมเทียน ขนมมัดไต้ ขนมถ้วยฟู หรือขนมสาลี่ปุยฝ้าย ขนมเปี๊ยะ ส้ม หรือผลไม้ตามใจชอบ
แง่คิด
ประเพณีสารทจีนนอกจากจะเป็นประเพณีที่ลูกหลานจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษซึ่งล่วงลับไปแล้ว ยังเป็นประเพณีที่มีกุศโลบายในการสนับสนุนให้ทุกคนในครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันอย่างพร้อมหน้าและมีความสุข
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- บทความโดย วัชนี พุ่มโมรี กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
- วันสารทจีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul wnsarthcin khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir mummxngaelakrnitwxyanginbthkhwamnixacimidaesdngthungmummxngthiepnsaklkhxngeruxngkhunsamarthchwyaekikhbthkhwamni odyephimmummxngsaklihmakkhun hruxaeykpraednyxyipsrangepnbthkhwamihm eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir wnsarthcin tamptithinthangcnthrkhti ethskalsarthcincatrngkbwnthi 15 eduxn 7 tamptithincin ethskalsarthcinthuxepnwnsakhythilukhlanchawcincaaesdngkhwamktyyutxbrrphburus odyphithiesnihw aelayngthuxepneduxnthipratunrkepidihwiyyanthnghlaymarbkuslphlbuyidwnsarthcinekhruxngesnihwinpraethsithycdkhunodychawcinthwolkpraephthsasna wthnthrrmkhwamsakhyephuxaesdngkhwamktyyutxbrrphburuskarthuxptibtiihwbrrphburus thabuyxuthis ephakradaswnthi15 eduxn 7khwamthithukpiswnekiywkhxngethskalbng milryngaephkchung sarthywn prachumaebn buykhawpradbdin mataka daens praephnisartheduxnsibtanantananthi 1 tananniklawiwwawnsarthcinepnwnthiengiymlxethiyncux ymbal catrwcdubychiwiyyankhntay sngwiyyandikhunswrrkhaelasngwiyyanraylngnrk chawcinthnghlayrusuksngsarwiyyanraycungthabuyxuthisswnkuslih dngnnephuxihwiyyanrayxxkmarbkuslphlbuynicungtxngmikarepidpratunrknnexng kradasenginkradasthxng tananthi 2 michayhnumphuhnungminamwa muehliyn phramhaomkhkhllana epnkhnekhrngkhrdinphuththsasnamak phidkbmardathiepnkhnicbaphyabchaimekhyechuxeruxngnrk swrrkhmicring pihnunginchwngethskalkinecnangekidkhwamhmniskhnthinungkhawhmkhawthuxsilkinec nangcungihmuehliynipechiyphuthuxsilkinecehlannmakinxaharthibanodynangcathaxahareliynghnungmux phuthuxsilkinectangphlxyyindithithrabkhawwamardakhxngmuehliynekidsrththainbuykuslkhrngni cungphaknmakinxaharthibankhxngmuehliynaethathrabimwainnaaekngecnnminamnhmuecuxpnxyudwy karkrathakhxngmardamuehliynnnthuxwaepnkrrmhnk emuxtayipcungtknrkxewcimhanrkkhumthi 8 epnnrkkhumlukthisudidrbkhwamthukkhthrmanaesnsahs emuxmuehliynkhidthungmardakidthxdkaythiphylngipinnrkphumi cungidruwamardakhxngtnkalngxdxyakcungpxnxaharaekmarda aetidthukbrrdaphutphithixdxyakrumaeyngipkinhmdaelaemdkhawsukthipxnnnklbepnifephaihmrimfipakkhxngmardacnphxng aetdwykhwamktyyuaelasngsarmardathiidrbkhwamthukkhthrmanxyangsahsmuehliynidekhaipkhxphyaehngiymlxxxng ymbal watnkhxrbothsaethnmarda aetkxnthimuehliyncathuklngothsdwykarnaranglngiptminkrathathxngaedng phraphuththecaidesdclngmaoprdiwidthn odyklawwakrrmidikhrkxkyxmcaepnkrrmkhxngphunnaelaphraphuththecaidmxbkhmphirxiw hlnephin ihmuehliynthxngephuxeriykesiynthukthisthukthangmachwyphumiphrakhunihhludphncakkarxdxyakaelathukkhthrmantang id odythimuehliyncatxngswdkhmphirxiw hlnephinaelathwayxaharthukpiineduxnthipratunrkepidcungcasamarthchwymardakhxngekhaihphnothsid nbaetnnepntnma chawcincungidthuxepnpraephniptibtisubtxmaknodytlxddwykaresnihw odycanaxaharthngkhawhwan aelakradasenginkradasthxngipwangiwthihnabanhruxtamthangaeykthiimiklnk minywaepnkarebiyngebnkhwamsnickhxngbrrdawiyyanerrxnthikalngcaphanmaiklthiphkkhxngtncanwnchudthiihwkarihwinethskalsarthcinaebngxxkepn 3 chud dngni 1 chudsahrbihwecathi caihwintxnecha mixaharkhawhwankuychay swnkhnmihwphiessthitxngmisungepnpraephnikhxngsarthcinkhuxkhnmethiyn khnmekhng sungtxngaetmcudsiaedngiwtrngklang enuxngcakchawcinmikhwamechuxthiwasiaedngepnsiaehngkhwamepnsirimngkhl nxkcaknnkmiphlim nacha hruxehlacin aelakradasenginkradasthxng 2 chudsahrbihwbrrphburus khlaykhxngihwecathiphrxmdwykbkhawthibrrphburuschxb tamthrrmeniymtxngminaaeknghruxkhnmnais wangkhangchamkhawswy aelanachacdchudtamcanwnkhxngbrrphburus khadimidkkhuxkhnmethiyn khnmekhng phlimaelakradasenginkradasthxng 3 chudsahrbihwsmphewsi wiyyanerrxnhruxwiyyanimmiyati eriykwa smphewsi hrux iphxehiyti aeplwa ihwphinxngthidi epnkarsathxnkhwamsuphaphaelaihekiyrtikhxngkhncin eriykphiimmiyatiwaphinxngthidikhxngera odykarihwcaihwnxkbankhxngihwcamithngkhxngkhawhwanaelaphlimtamtxngkaraelathiphiesskhuxmikhawhxmaebbcinobran khxpung ephuxknungphasikepnesiywisthad esnhmihxihy planung ehla nacha aelakradasenginkradasthxngcdthukxyangwangxyudwyknsahrbesnihwkhnmthiichihwinsmyobranchawcinichkhnmihw 5 xyang eriykwa ohngwepiy hruxeriykchuxepnchudwa png epiy hmi mw ki png khuxkhnmthungpng epnkhnmthithamacaknatal epiy khuxkhnmhnungepiy khlaykhnmikh hmi khuxkhnmhmietha thamacakaepngkhawecakhanginisetasa mw khuxkhnmthukki epnkhnmkhawphxngsiaedngtrngklangmiisepnaephnbang ki khuxkhnmthungki thaepnchinihyyawewlacakintxngtdepnchinelk aetchawithyechuxsaycinichkhnmethiyn khnmekhnginkarihw odyhlkkhxngthiihwkcamikhxngkhaw 3 hrux 5 xyang echn ik hmu epd ikh hmuk pla epntn khxnghwan 3 hrux 5 xyang echn khnmethiyn khnmmdit khnmthwyfu hruxkhnmsalipuyfay khnmepiya sm hruxphlimtamicchxbaengkhidpraephnisarthcinnxkcakcaepnpraephnithilukhlancaaesdngkhwamktyyutxbrrphburussunglwnglbipaelw yngepnpraephnithimikusolbayinkarsnbsnunihthukkhninkhrxbkhrwthakickrrmrwmknxyangphrxmhnaaelamikhwamsukhduephimethskalphxtxxangxingbthkhwamody wchni phumomri klumprachasmphnth sanknganpldkrathrwngwthnthrrmwnsarthcin wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wnsarthcin