สะพานชุดเฉลิม เป็นสะพานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 42 พรรษา ใน พ.ศ. 2438 ถึง พ.ศ. 2453 อันเป็นปีสิ้นรัชกาลรวมทั้งสิ้น 17 สะพาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญของสะพานข้ามคลองในการสัญจรของประชาชน และเป็นเครื่องประดับพระนครให้สมบูรณ์งดงาม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์เท่าพระชนมวาร วันละ 1 สลึง เป็นค่าก่อสร้างสะพานชุดเฉลิมในแต่ละปี โดยมีกระทรวงโยธาธิการทำหน้าที่ออกแบบและดำเนินการก่อสร้าง และมีสถาปนิกและวิศวกรเป็นชาวต่างประเทศ ทุกสะพานมีแผ่นจารึกชื่อและตราพระปรมาภิไธยย่อ จปร.
รายชื่อสะพาน
สะพานชุดเฉลิมทั้ง 17 สะพาน เดิมกำหนดชื่อเป็นคำว่า เฉลิม ตามด้วยตัวเลขปีพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในแต่ละปีที่สร้าง แต่ต่อมามีพระราชปรารภว่าชื่อสะพานที่มีเพียงคำว่าเฉลิม และตัวเลขกำกับยากต่อการเรียก ใน พ.ศ. 2452 จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสะพานทั้ง 15 สะพาน ดังนี้
- สร้างข้ามคลองบางขุนพรหม ที่ถนนสามเสน เปิดใช้เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2438 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้ง แนวคลองที่ถูกถมในปัจจุบันคือซอยสามเสน 5 (วัดสามพระยา) และซอยสามเสน 8/1)
- สร้างข้ามคลองอรชร ที่ถนนหัวลำโพงนอก (ปัจจุบันคือ ถนนพระรามที่ 4) หรือบริเวณแยกอังรีดูนังต์ในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2439 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนอังรีดูนังต์)
- สร้างข้ามคลองหัวลำโพง ที่ปลายถนนสาทรเชื่อมถนนหัวลำโพง (ปัจจุบันคือถนนพระรามที่ 4) หรือบริเวณแยกวิทยุในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2440 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนพระรามที่ 4)
- สร้างข้ามคลองวัดพระพิเรนทร์ ที่ถนนวรจักร เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้ง แนวคลองที่ถูกถมในปัจจุบันคือถนนคลองถมวัดพระพิเรนทร์ (ทางเข้าวัดพระพิเรนทร์) และถนนเจ้าคำรบ)
- สร้างข้ามคลองตรอกเต๊า ที่ถนนเยาวราช เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้ง แนวคลองที่ถูกถมในปัจจุบันคือซอยเยาวราช 8 และซอยเยาวราช 15 (ตรอกเต๊า))
- สร้างข้ามคลองสะพานถ่าน หรือคลองหลอดวัดราชบพิธ ที่ถนนอุณากรรณ เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2443 (ปัจจุบันยังมีอยู่ โดยเป็นสะพานที่ถูกสร้างใหม่เนื่องจากการขยายถนน โดยสร้างให้ตัวสะพานอยู่ระดับเดียวกันกับพื้นผิวถนน แต่ไม่ปรากฏชื่อที่ราวสะพาน)
- สร้างข้ามคลองวัดจักรวรรดิ ที่ถนนเจริญกรุง เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้ง แนวคลองที่ถูกถมในปัจจุบันคือถนนมหาจักร (คลองถม))
- สร้างข้ามคลองสาทร ที่ หรือบริเวณแยกสาทร-สุรศักดิ์ในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2445 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากการขยายถนนสาทรเหนือและสาทรใต้เพื่อรองรับการก่อสร้างสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)
- สร้างข้ามคลองหัวลำโพง ที่ปลายถนนสุรวงศ์เชื่อมถนนหัวลำโพง (ปัจจุบันคือถนนพระรามที่ 4) หรือบริเวณแยกอังรีดูนังต์ในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2446 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนพระรามที่ 4)
- สร้างข้ามคลองสะพานถ่าน หรือคลองหลอดวัดราชบพิธ ที่ถนนเฟื่องนคร เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447 (ปัจจุบันยังมีอยู่ โดยเป็นสะพานที่ถูกสร้างใหม่เนื่องจากการขยายถนน โดยสร้างให้ตัวสะพานอยู่ระดับเดียวกันกับพื้นผิวถนน แต่ไม่ปรากฏชื่อที่ราวสะพาน)
- สะพานเฉลิมเผ่า 52 สร้างข้ามคลองอรชร ที่ถนนปทุมวัน (ปัจจุบันคือ ถนนพระรามที่ 1) หรือบริเวณแยกเฉลิมเผ่าในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนอังรีดูนังต์ แต่ยังปรากฏราวสะพานให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน)
- สร้างข้ามคลองสามจีน หรือคลองวัดไตรมิตรวิทยาราม ที่ถนนเจริญกรุง หรือบริเวณวงเวียนโอเดียนในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2449 ต่อมาเมื่อคลองสามจีนถูกถมเพื่อสร้างถนนตรีมิตร (รวมถึงแนวถนนมิตรภาพไทย-จีนด้วย) จึงได้มีการรื้อสะพานเดิมทิ้ง และย้ายชิ้นส่วนของสะพานเดิมไปสร้างใหม่เป็นสะพานข้ามคลองสาทร ที่ถนนเจริญกรุง หรือบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในปัจจุบัน
- สร้างข้ามคลองสีลม ที่ถนนเจริญกรุง หรือบริเวณในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนสีลม และแนวคลองที่ถูกถมในปัจจุบันส่วนหนึ่งคือซอยเจริญกรุง 42 (ซอยวัดสวนพลู))
- สะพานเฉลิมโลก 55 สร้างข้ามคลองแสนแสบ ที่ถนนราชดำริและถนนเพชรบุรี หรือบริเวณแยกประตูน้ำในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2451
- สะพานเฉลิมหล้า 56 สร้างข้ามคลองแสนแสบ ที่ถนนพญาไท หรือบริเวณแยกปทุมวันในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452
ต่อมาได้พระราชทานพระราชทรัพย์ไว้สำหรับสร้างสะพานใน 2 ปีข้างหน้า แต่ได้เสด็จสวรรคตเสียก่อน การสร้างสะพานที่ 16 และ 17 จึงมาสำเร็จในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 2 สะพานดังกล่าว ได้แก่
- สร้างข้ามคลองหัวลำโพง ที่ปลายถนนสี่พระยาเชื่อมถนนหัวลำโพง (ปัจจุบันคือ ถนนพระรามที่ 4) หรือบริเวณแยกสามย่านในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากคลองถูกถมทิ้งเพื่อขยายถนนพระรามที่ 4)
- สร้างข้ามคลองคูเมืองเดิม ที่ถนนพระอาทิตย์ หรือบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในปัจจุบัน เปิดใช้เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2455 (รื้อถอนแล้วเนื่องจากการก่อสร้างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า)
ปัจจุบัน
ปัจจุบันสะพานชุดเฉลิมทั้ง 17 สะพานนี้ ถูกรื้อถอนไปแล้ว 12 สะพาน และถูกดัดแปลงรูปแบบสะพานอีก 2 สะพาน เนื่องจากมีการขยายถนน และการถมคลองเพื่อสร้างถนนแทนที่
สำหรับสะพานชุดเฉลิมที่ถูกรื้อถอนไปแล้ว แต่ยังคงปรากฏร่องรอยให้เห็นอยู่ มี 1 สะพาน ได้แก่ สะพานเฉลิมเผ่า 52 ยังคงปรากฏเพียงส่วนของราวสะพานที่มีชื่อสะพานจารึกอยู่ในบริเวณริมทางเท้าแยกเฉลิมเผ่า ถนนพระรามที่ 1 หลังจากที่มีการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2506
ส่วนสะพานชุดเฉลิมที่ยังคงปรากฏอยู่และใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน มี 5 สะพาน ได้แก่
- สะพานเฉลิมวัง 47 (ไม่ปรากฏชื่อที่ราวสะพาน)
- สะพานเฉลิมพงษ์ 51 (ไม่ปรากฏชื่อที่ราวสะพาน)
- สะพานเฉลิมพันธุ์ 53
- สะพานเฉลิมโลก 55
- สะพานเฉลิมหล้า 56 โดยทั่วไปนิยมเรียกว่า สะพานหัวช้าง
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- โชติช่วง, บูรพา (2014-06-22). . สยามรัฐ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-16. สืบค้นเมื่อ 2018-02-25.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
saphanchudechlim epnsaphanthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihsrangkhunephuxbaephyphrarachkuslinoxkaswnechlimphrachnmphrrsaepnpracathukpi nbtngaetthrngecriyphrachnmphrrsa 42 phrrsa in ph s 2438 thung ph s 2453 xnepnpisinrchkalrwmthngsin 17 saphan phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngehnkhwamsakhykhxngsaphankhamkhlxnginkarsycrkhxngprachachn aelaepnekhruxngpradbphrankhrihsmburnngdngam cungthrngphrakrunaoprdekla phrarachthanphrarachthrphyethaphrachnmwar wnla 1 slung epnkhakxsrangsaphanchudechliminaetlapi odymikrathrwngoythathikarthahnathixxkaebbaeladaeninkarkxsrang aelamisthapnikaelawiswkrepnchawtangpraeths thuksaphanmiaephncarukchuxaelatraphraprmaphiithyyx cpr saphanechlimepha 52saphanechlimphnthu 53 briewnitsaphansmedcphraecataksinmharachsaphanechlimolk 55 yanpratunasaphanechlimhla 56 hruxsaphanhwchangsaphanechlimedch 57 khamkhlxnghwlaophngthiplaythnnsiphraya hruxaeyksamyaninpccubnraychuxsaphansaphanchudechlimthng 17 saphan edimkahndchuxepnkhawa echlim tamdwytwelkhpiphrachnmphrrsakhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwinaetlapithisrang aettxmamiphrarachprarphwachuxsaphanthimiephiyngkhawaechlim aelatwelkhkakbyaktxkareriyk in ph s 2452 cungoprdekla phrarachthanchuxsaphanthng 15 saphan dngni srangkhamkhlxngbangkhunphrhm thithnnsamesn epidichemuxwnthi 22 knyayn ph s 2438 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthing aenwkhlxngthithukthminpccubnkhuxsxysamesn 5 wdsamphraya aelasxysamesn 8 1 srangkhamkhlxngxrchr thithnnhwlaophngnxk pccubnkhux thnnphraramthi 4 hruxbriewnaeykxngridunngtinpccubn epidichemuxwnthi 22 knyayn ph s 2439 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnxngridunngt srangkhamkhlxnghwlaophng thiplaythnnsathrechuxmthnnhwlaophng pccubnkhuxthnnphraramthi 4 hruxbriewnaeykwithyuinpccubn epidichemuxwnthi 22 knyayn ph s 2440 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnphraramthi 4 srangkhamkhlxngwdphraphiernthr thithnnwrckr epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2441 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthing aenwkhlxngthithukthminpccubnkhuxthnnkhlxngthmwdphraphiernthr thangekhawdphraphiernthr aelathnnecakharb srangkhamkhlxngtrxketa thithnneyawrach epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2442 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthing aenwkhlxngthithukthminpccubnkhuxsxyeyawrach 8 aelasxyeyawrach 15 trxketa srangkhamkhlxngsaphanthan hruxkhlxnghlxdwdrachbphith thithnnxunakrrn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2443 pccubnyngmixyu odyepnsaphanthithuksrangihmenuxngcakkarkhyaythnn odysrangihtwsaphanxyuradbediywknkbphunphiwthnn aetimpraktchuxthirawsaphan srangkhamkhlxngwdckrwrrdi thithnnecriykrung epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2444 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthing aenwkhlxngthithukthminpccubnkhuxthnnmhackr khlxngthm srangkhamkhlxngsathr thi hruxbriewnaeyksathr surskdiinpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2445 ruxthxnaelwenuxngcakkarkhyaythnnsathrehnuxaelasathritephuxrxngrbkarkxsrangsaphansmedcphraecataksinmharach srangkhamkhlxnghwlaophng thiplaythnnsurwngsechuxmthnnhwlaophng pccubnkhuxthnnphraramthi 4 hruxbriewnaeykxngridunngtinpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2446 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnphraramthi 4 srangkhamkhlxngsaphanthan hruxkhlxnghlxdwdrachbphith thithnnefuxngnkhr epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2447 pccubnyngmixyu odyepnsaphanthithuksrangihmenuxngcakkarkhyaythnn odysrangihtwsaphanxyuradbediywknkbphunphiwthnn aetimpraktchuxthirawsaphan saphanechlimepha 52 srangkhamkhlxngxrchr thithnnpthumwn pccubnkhux thnnphraramthi 1 hruxbriewnaeykechlimephainpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2448 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnxngridunngt aetyngpraktrawsaphanihehnxyuinpccubn srangkhamkhlxngsamcin hruxkhlxngwditrmitrwithyaram thithnnecriykrung hruxbriewnwngewiynoxediyninpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2449 txmaemuxkhlxngsamcinthukthmephuxsrangthnntrimitr rwmthungaenwthnnmitrphaphithy cindwy cungidmikarruxsaphanedimthing aelayaychinswnkhxngsaphanedimipsrangihmepnsaphankhamkhlxngsathr thithnnecriykrung hruxbriewnitsaphansmedcphraecataksinmharachinpccubn srangkhamkhlxngsilm thithnnecriykrung hruxbriewninpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2450 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnsilm aelaaenwkhlxngthithukthminpccubnswnhnungkhuxsxyecriykrung 42 sxywdswnphlu saphanechlimolk 55 srangkhamkhlxngaesnaesb thithnnrachdariaelathnnephchrburi hruxbriewnaeykpratunainpccubn epidichemuxwnthi 12 phvscikayn ph s 2451 saphanechlimhla 56 srangkhamkhlxngaesnaesb thithnnphyaith hruxbriewnaeykpthumwninpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2452 txmaidphrarachthanphrarachthrphyiwsahrbsrangsaphanin 2 pikhanghna aetidesdcswrrkhtesiykxn karsrangsaphanthi 16 aela 17 cungmasaercinrchsmykhxngphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw 2 saphandngklaw idaek srangkhamkhlxnghwlaophng thiplaythnnsiphrayaechuxmthnnhwlaophng pccubnkhux thnnphraramthi 4 hruxbriewnaeyksamyaninpccubn epidichemuxwnthi 15 phvscikayn ph s 2453 ruxthxnaelwenuxngcakkhlxngthukthmthingephuxkhyaythnnphraramthi 4 srangkhamkhlxngkhuemuxngedim thithnnphraxathity hruxbriewnitsaphansmedcphrapineklainpccubn epidichemuxwnthi 23 tulakhm ph s 2455 ruxthxnaelwenuxngcakkarkxsrangsaphansmedcphrapinekla pccubnpccubnsaphanchudechlimthng 17 saphanni thukruxthxnipaelw 12 saphan aelathukddaeplngrupaebbsaphanxik 2 saphan enuxngcakmikarkhyaythnn aelakarthmkhlxngephuxsrangthnnaethnthi sahrbsaphanchudechlimthithukruxthxnipaelw aetyngkhngpraktrxngrxyihehnxyu mi 1 saphan idaek saphanechlimepha 52 yngkhngpraktephiyngswnkhxngrawsaphanthimichuxsaphancarukxyuinbriewnrimthangethaaeykechlimepha thnnphraramthi 1 hlngcakthimikarburnakhrnglasudemux ph s 2506 swnsaphanchudechlimthiyngkhngpraktxyuaelaichnganidcnthungpccubn mi 5 saphan idaek saphanechlimwng 47 impraktchuxthirawsaphan saphanechlimphngs 51 impraktchuxthirawsaphan saphanechlimphnthu 53 saphanechlimolk 55 saphanechlimhla 56 odythwipniymeriykwa saphanhwchangduephimsaphanchudecriyxangxingochtichwng burpha 2014 06 22 syamrth khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 04 16 subkhnemux 2018 02 25