สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ หรือ ราชอาณาจักรสหเนเธอร์แลนด์ (ดัตช์: Verenigd Koninkrijk der Nederlanden; ฝรั่งเศส: Royaume-Uni des Pays-Bas; อังกฤษ: United Kingdom of the Netherlands หรือ Kingdom of the United Netherlands; ค.ศ. 1815 - ค.ศ. 1830) เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการที่หมายถึงรัฐใหม่ของยุโรปที่เกิดขึ้นจากจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1 ระหว่างการประชุมแห่งเวียนนาใน ค.ศ. 1815 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์" ที่ประกอบด้วยอดีตสาธารณรัฐแห่งรัฐดัตช์ทั้งเจ็ดทางตอนเหนือ, อดีตเนเธอร์แลนด์ออสเตรียทางตอนใต้, และราชรัฐมุขนายกลีแยฌ โดยมีพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นาซอเป็นประมุขของราชอาณาจักรใหม่
สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1815–ค.ศ. 1839 | |||||||||||||||||||||
เพลงชาติ: "Those in whom Dutch blood" | |||||||||||||||||||||
ที่ตั้งของเนเธอร์แลนด์ใน ค.ศ. 1815 และราชรัฐลักเซมเบิร์ก | |||||||||||||||||||||
เมืองหลวง | เดอะเฮกและบรัสเซลส์ | ||||||||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ดัตช์ (ทางการ) และฝรั่งเศส (ทางการในวอลลูน) กลุ่มภาษาฟรีเชีย, , , ยิดดิชตะวันตกเฉียงเหนือ, | ||||||||||||||||||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||||||||||||||||||
เดมะนิม | ดัตช์ | ||||||||||||||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ | ||||||||||||||||||||
กษัตริย์ | |||||||||||||||||||||
• ค.ศ. 1815–1839 | วิลเลิมที่ 1 | ||||||||||||||||||||
สภานิติบัญญัติ | |||||||||||||||||||||
• สภาสูง | |||||||||||||||||||||
• สภาล่าง | |||||||||||||||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | (สมัยใหม่ตอนปลาย) | ||||||||||||||||||||
16 มีนาคม ค.ศ. 1815 | |||||||||||||||||||||
• | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1815 | ||||||||||||||||||||
25 สิงหาคม ค.ศ. 1830 | |||||||||||||||||||||
19 เมษายน ค.ศ. 1839 | |||||||||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||||||||
• 1815 | ป. 2,233,000 | ||||||||||||||||||||
• 1839 | ป. 3,500,000 | ||||||||||||||||||||
สกุลเงิน | กิลเดอร์ดัตช์ | ||||||||||||||||||||
รหัส ISO 3166 | |||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก |
สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ล่มสลายลงหลังจากการปฏิวัติเบลเยียมใน ค.ศ. 1830 พระเจ้าวิลเลิมที่ 1ปฏิเสธไม่ทรงยอมรับฐานะของเบลเยียมจนเมื่อทรงถูกกดดันให้ลงนามในสนธิสัญญาลอนดอนในปี ค.ศ. 1839 และทรงยอมให้จัดการเขตแดน รวมทั้งรับรองสถานะความเป็นเอกราชและความเป็นกลางของเบลเยียม
ประวัติ
ก่อนสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส (ค.ศ.1792-1802) กลุ่มประเทศต่ำได้กลายมาเป็นหน่วยการเมืองสำคัญอันเป็นผลมาจากสงครามแปดสิบปี (ค.ศ.1568-1648) โดยมีสาธารณรัฐดัตช์ซึ่งเป็นประเทศเอกราชตั้งอยู่ตอนเหนือ ในขณะที่ดินแดนทางใต้นั้นถูกแบ่งเป็นของออสเตรีย ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค และราชรัฐมุขนายกลีแยฌ ซึ่งทั้งสองส่วนนั้นขึ้นกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยภายหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ทำให้สงครามสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หนึ่งอุบัติขึ้นในปีค.ศ. 1792 ซึ่งฝรั่งเศสได้ถูกรุกรานโดยปรัสเซีย และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สงครามได้กินเวลาถึงสองปีจนกระทั่งดินแดนในเนเธอร์แลนด์ของออสเตรียและราชรัฐมุขนายกลีแยฌ ได้ถูกยึดครองโดยกองทัพฝรั่งเศสโดยราบคาบในปีค.ศ. 1794 และถูกผนวกดินแดนเข้ากับฝรั่งเศสในที่สุด ซึ่งทำให้สาธารณรัฐดัตช์ล่มสลายลงและกลายเป็นรัฐบริวารของสาธารณรัฐฝรั่งเศส
การปกครอง
รัฐธรรมนูญ และรัฐบาล
ถึงแม้ว่าสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์จะปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของรัฐ และหัวหน้ารัฐบาลยังมีไม่จำกัด โดยมีรัฐสภา (States General) แบบสองสภา ประกอบด้วยวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร
โดยการปกครองนั้นเป็นที่น่ากังขากันมากเนื่องจากสัดส่วนผู้แทนราษฎรรวมทั้งสิ้น 110 ที่นั่ง ถูกแบ่งเท่ากันสำหรับดินแดนเหนือ และดินแดนใต้ซึ่งมีจำนวนประชากรมากกว่า จึงทำให้ชาวเนเธอร์แลนด์ใต้ไม่พอใจเพราะสภานั้นถูกชี้นำโดยชาวเหนือ อีกทั้งพระราชอำนาจในพระมหากษัตริย์นั้นมีมากกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ในเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยนั้นทรงแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยตรง
มณฑล
สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์แบ่งเป็นมณฑลปกครองรวมทั้งสิ้น 17 มณฑล ซึ่งไม่รวมถึงราชรัฐลักเซมเบิร์กซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน ซึ่งมณฑลทั้งหมดนี้ส่วนมากถูกแบ่งมาก่อนแต่เดิมสมัยที่ถูกปกครองโดยฝรั่งเศสแล้ว
ความตึงเครียดในภูมิภาค
ความตึงเครียดในระหว่างดินแดนทางเหนือและใต้เริ่มต้นมาจากศาสนาเนื่องจากเนเธอร์แลนด์ใต้นั้นเป็นดินแดนที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกอย่างเคร่งครัด ในขณะที่เนเธอร์แลนด์เหนือนั้นนับถือเป็นหลัก โดยทางฝั่งคาทอลิกได้แสดงความไม่พอใจจากการถูกเบียดเบียนด้านสิทธิพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการศึกษา อีกทั้งการบังคับใช้ภาษาดัตช์ในเขตที่พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักทำให้เหล่าชนชั้นนำไม่พอใจ ชาวเบลเยียมส่วนใหญ่ไม่พอใจในรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นกลางและแบ่งแยกอย่างชัดเจน ในขณะที่จำนวนประชากรเบลเยียมนั้นมีมากถึง 62% แต่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนในวุฒิสภานั้นมีเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ โดยมีการจัดสรรงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรมโดยนำรายได้จากเบลเยียมที่มีมากกว่าไปชดเชยให้กับฝั่งเนเธอร์แลนด์ที่ยากจนกว่า ในช่วงกลางยุคค.ศ. 1820 ได้มีการจัดตั้งสหภาพฝ่ายค้านขึ้นในเบลเยียมที่รวมเอาทั้งกลุ่มเสรีนิยม และอนุรักษ์นิยมคาทอลิกไว้ด้วยกันเพื่อต่อต้านกับการปกครองของดัตช์
การปฏิวัติเบลเยียม
การปฏิวัติเบลเยียมได้อุบัติขึ้นเมื่อ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1830 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการปฏิวัติเดือนกรกฎาคมในฝรั่งเศส โดยการกองทัพก็ไม่สามารถหยุดการปฏิวัติในบรัสเซลส์ได้ ซึ่งต่อมาได้ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1830 โดยใช้การปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยพระเจ้าเลออปอลที่ 1 รับราชสมบัติเป็นปฐมกษัตริย์แห่งชาวเบลเยียม
พระเจ้าวิลเลิมที่ 1 ได้ปฏิเสธการรับรองเอกราชของเบลเยียม และในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1831 ได้ส่งกองทัพดัตช์เข้ายึดอำนาจในยุทธการสิบวัน ซึ่งเกือบจะมีชัยชนะในช่วงแรก แต่ด้วยความช่วยเหลือของกองทัพเหนือแห่งฝรั่งเศสการรุกรานครั้งนี้จึงต้องถูกยกเลิกในที่สุด สุดท้ายจึงได้ตกลงกันในสนธิสัญญาลอนดอน (ค.ศ. 1839) ซึ่งฝ่ายดัตช์ยอมรับในเอกราชของเบลเยียมอย่างสมบูรณ์เพื่อแลกเปลี่ยนกับดินแดนบางส่วน และได้มีการจัดการเรื่องเขตแดนกันโดยในปีค.ศ. 1843 ส่วนลักเซมเบิร์กนั้นได้เป็นรัฐอิสระโดยมีประมุขร่วมกับเนเธอร์แลนด์ แต่ยังต้องเสียดินแดนบางส่วนไปให้กับเบลเยียม
ดินแดน
- 1, 2 และ 3 - สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (จนกระทั่ง ค.ศ. 1830)
- 1 และ 2 - ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (หลังจาก ค.ศ. 1830)
- 2 - ดัชชีลิมเบิร์ก (ในสมาพันธรัฐเยอรมนีหลังจาก ค.ศ. 1839 เป็นการตอบแทนสำหรับ วาลส์-ลักเซมเบิร์ก)
- 3 และ 4 - ราชอาณาจักรเบลเยียม (หลังจาก 1830)
- 4 และ 5 - อาณาจักรแกรนด์ดยุคแห่งลักเซมเบิร์ก (จนกระทั่ง ค.ศ. 1830)
- 4 - จังหวัดลักเซมเบิร์ก (วาลส์-ลักเซมเบิร์ก, เสียให้แก่เบลเยียม ค.ศ. 1839)
- 5 - อาณาจักรแกรนด์ดยุคแห่งลักเซมเบิร์ก (ลักเซมเบิร์กเยอรมนี; จนกระทั่ง ค.ศ. 1839) ในบริเวณสีน้ำเงินเขตแดนของสมาพันธรัฐเยอรมัน
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- La parenthèse française et hollandaise (1795-1830), Encyclopædia Universalis. Retrieved on 4 July 2021.
- Demographics of the Netherlands 2011-12-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Jan Lahmeyer. Retrieved on 10 December 2013.
- Pieter Geyl, History of the Dutch-Speaking Peoples, 1555-1648. Phoenix Press, 2001
- S Marteel, The Intellectual Origins of the Belgian Revolution (2018) p. 23
- A W Ward, The Cambridge History of British Foreign Policy 1783-1919 Vol I (Cambridge 1922) p. 263
- S Marteel, The Intellectual Origins of the Belgian Revolution (2018) p. 4
- D Richards, Modern Europe (London 1964) p. 86-7
- D Richards, Modern Europe (London 1964) p. 88
- D Richards, Modern Europe (London 1964) p. 89
บรรณานุกรม
- (1988). The Low Countries, 1780-1940. Oxford: Clarendon. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
shrachxanackrenethxraelnd hrux rachxanackrshenethxraelnd dtch Verenigd Koninkrijk der Nederlanden frngess Royaume Uni des Pays Bas xngkvs United Kingdom of the Netherlands hrux Kingdom of the United Netherlands kh s 1815 kh s 1830 epnchuxxyangimepnthangkarthihmaythungrthihmkhxngyuorpthiekidkhuncakckrwrrdifrngessthi 1 rahwangkarprachumaehngewiynnain kh s 1815 thimichuxxyangepnthangkarwa rachxanackrenethxraelnd thiprakxbdwyxditsatharnrthaehngrthdtchthngecdthangtxnehnux xditenethxraelndxxsetriythangtxnit aelarachrthmukhnaykliaeych odymiphramhakstriyaehngrachwngsxxernc nasxepnpramukhkhxngrachxanackrihmshrachxanackrenethxraelnd Koninkrijk der Nederlanden dtch Royaume des Belgiques frngess kh s 1815 kh s 1839thngchati traaephndinkhakhwy Je maintiendrai frngess I will uphold ephlngchati source source Those in whom Dutch blood thitngkhxngenethxraelndin kh s 1815 aelarachrthlkesmebirkemuxnghlwngedxaehkaelabrseslsphasathwipdtch thangkar aelafrngess thangkarinwxllun klumphasafriechiy yiddichtawntkechiyngehnux sasnaormnkhathxlikedmanimdtchkarpkkhrxngrachathipityphayitrththrrmnuykstriy kh s 1815 1839wilelimthi 1sphanitibyyti sphasung sphalangyukhprawtisastrsmyihmtxnplay karprachumaehngewiynna16 minakhm kh s 1815 24 singhakhm kh s 1815 karptiwtiebleyiym25 singhakhm kh s 1830 snthisyyalxndxn19 emsayn kh s 1839prachakr 1815p 2 233 000 1839p 3 500 000skulenginkiledxrdtchrhs ISO 3166kxnhna thdipckrwrrdifrngessthi 1 rachxanackrenethxraelnddchchilimebirklkesmebirkebleyiympccubnepnswnhnungkhxngenethxraelnd ebleyiym lkesmebirkbthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha shrachxanackrenethxraelndlmslaylnghlngcakkarptiwtiebleyiymin kh s 1830 phraecawilelimthi 1ptiesthimthrngyxmrbthanakhxngebleyiymcnemuxthrngthukkddnihlngnaminsnthisyyalxndxninpi kh s 1839 aelathrngyxmihcdkarekhtaedn rwmthngrbrxngsthanakhwamepnexkrachaelakhwamepnklangkhxngebleyiymprawtikxnsngkhramptiwtifrngess kh s 1792 1802 klumpraethstaidklaymaepnhnwykaremuxngsakhyxnepnphlmacaksngkhramaepdsibpi kh s 1568 1648 odymisatharnrthdtchsungepnpraethsexkrachtngxyutxnehnux inkhnathidinaednthangitnnthukaebngepnkhxngxxsetriy sungxyuphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngshaphsbwrkh aelarachrthmukhnaykliaeych sungthngsxngswnnnkhunkbckrwrrdiormnxnskdisiththi odyphayhlngcakkarptiwtifrngess thaihsngkhramsngkhramshsmphnthmitrkhrngthihnungxubtikhuninpikh s 1792 sungfrngessidthukrukranodyprsesiy aelackrwrrdiormnxnskdisiththi sngkhramidkinewlathungsxngpicnkrathngdinaedninenethxraelndkhxngxxsetriyaelarachrthmukhnaykliaeych idthukyudkhrxngodykxngthphfrngessodyrabkhabinpikh s 1794 aelathukphnwkdinaednekhakbfrngessinthisud sungthaihsatharnrthdtchlmslaylngaelaklayepnrthbriwarkhxngsatharnrthfrngesskarpkkhrxngaephnthiihmkhxngrachxanackrenethxraelndaelarachrthlkesmebirk kh s 1815rththrrmnuy aelarthbal thungaemwashrachxanackrenethxraelndcapkkhrxngdwyrabxbrachathipityphayitrththrrmnuy aetphrarachxanackhxngphramhakstriyinthanapramukhkhxngrth aelahwhnarthbalyngmiimcakd odymirthspha States General aebbsxngspha prakxbdwywuthispha aelasphaphuaethnrasdr odykarpkkhrxngnnepnthinakngkhaknmakenuxngcaksdswnphuaethnrasdrrwmthngsin 110 thinng thukaebngethaknsahrbdinaednehnux aeladinaednitsungmicanwnprachakrmakkwa cungthaihchawenethxraelnditimphxicephraasphannthukchinaodychawehnux xikthngphrarachxanacinphramhakstriynnmimakkwasthabnphramhakstriyinenethxraelndaelaebleyiyminpccubn sunginsmynnthrngaetngtngrthmntriodytrng mnthl aephnthishrachxanackrenethxraelnd shrachxanackrenethxraelndaebngepnmnthlpkkhrxngrwmthngsin 17 mnthl sungimrwmthungrachrthlkesmebirksungimidxyuphayitrththrrmnuyediywkn sungmnthlthnghmdniswnmakthukaebngmakxnaetedimsmythithukpkkhrxngodyfrngessaelw aexntewirp edrnethx flanedxrtawnxxk frislnd ekledxrlnd okrningengin aexon hxlaelnd limburkh liaeych namur brabrntehnux oxefxirsesil yuethrkt flanedxrtawntk cnghwdeslndkhwamtungekhriydinphumiphakhkhwamtungekhriydinrahwangdinaednthangehnuxaelaiterimtnmacaksasnaenuxngcakenethxraelnditnnepndinaednthinbthuxnikayormnkhathxlikxyangekhrngkhrd inkhnathienethxraelndehnuxnnnbthuxepnhlk odythangfngkhathxlikidaesdngkhwamimphxiccakkarthukebiydebiyndansiththiphunthan odyechphaadankarsuksa xikthngkarbngkhbichphasadtchinekhtthiphudphasafrngessepnhlkthaihehlachnchnnaimphxic chawebleyiymswnihyimphxicinrththrrmnuythiimepnklangaelaaebngaeykxyangchdecn inkhnathicanwnprachakrebleyiymnnmimakthung 62 aetmithinnginsphaphuaethnrasdrephiyngkhrunghnungethann swninwuthisphannmiesiyngnxykwakunghnungdwysa odymikarcdsrrngbpramanxyangimepnthrrmodynarayidcakebleyiymthimimakkwaipchdechyihkbfngenethxraelndthiyakcnkwa inchwngklangyukhkh s 1820 idmikarcdtngshphaphfaykhankhuninebleyiymthirwmexathngklumesriniym aelaxnurksniymkhathxlikiwdwyknephuxtxtankbkarpkkhrxngkhxngdtch karptiwtiebleyiym karsurbrahwangkbdebleyiymkbkxngthhardtchthibrseslsineduxnknyayn kh s 1830 karptiwtiebleyiymidxubtikhunemux 25 singhakhm kh s 1830 odyidrbaerngbndalicmacakkarptiwtieduxnkrkdakhminfrngess odykarkxngthphkimsamarthhyudkarptiwtiinbrseslsid sungtxmaidprakasexkrachemuxwnthi 4 tulakhm kh s 1830 odyichkarpkkhrxnginrabxbrachathipityphayitrththrrmnuy odyphraecaelxxpxlthi 1 rbrachsmbtiepnpthmkstriyaehngchawebleyiym phraecawilelimthi 1 idptiesthkarrbrxngexkrachkhxngebleyiym aelaineduxnsinghakhm kh s 1831 idsngkxngthphdtchekhayudxanacinyuththkarsibwn sungekuxbcamichychnainchwngaerk aetdwykhwamchwyehluxkhxngkxngthphehnuxaehngfrngesskarrukrankhrngnicungtxngthukykelikinthisud sudthaycungidtklngkninsnthisyyalxndxn kh s 1839 sungfaydtchyxmrbinexkrachkhxngebleyiymxyangsmburnephuxaelkepliynkbdinaednbangswn aelaidmikarcdkareruxngekhtaednknodyinpikh s 1843 swnlkesmebirknnidepnrthxisraodymipramukhrwmkbenethxraelnd aetyngtxngesiydinaednbangswnipihkbebleyiymdinaednenethxraelnd ebleyiym lkesmebirk aela limbwrkin kh s 1839 1 2 aela 3 shrachxanackrenethxraelnd cnkrathng kh s 1830 1 aela 2 rachxanackrenethxraelnd hlngcak kh s 1830 2 dchchilimebirk insmaphnthrtheyxrmnihlngcak kh s 1839 epnkartxbaethnsahrb wals lkesmebirk 3 aela 4 rachxanackrebleyiym hlngcak 1830 4 aela 5 xanackraekrnddyukhaehnglkesmebirk cnkrathng kh s 1830 4 cnghwdlkesmebirk wals lkesmebirk esiyihaekebleyiym kh s 1839 5 xanackraekrnddyukhaehnglkesmebirk lkesmebirkeyxrmni cnkrathng kh s 1839 inbriewnsinaenginekhtaednkhxngsmaphnthrtheyxrmnduephimebenlks enethxraelnditxangxingLa parenthese francaise et hollandaise 1795 1830 Encyclopaedia Universalis Retrieved on 4 July 2021 Demographics of the Netherlands 2011 12 26 thi ewyaebkaemchchin Jan Lahmeyer Retrieved on 10 December 2013 Pieter Geyl History of the Dutch Speaking Peoples 1555 1648 Phoenix Press 2001 S Marteel The Intellectual Origins of the Belgian Revolution 2018 p 23 A W Ward The Cambridge History of British Foreign Policy 1783 1919 Vol I Cambridge 1922 p 263 S Marteel The Intellectual Origins of the Belgian Revolution 2018 p 4 D Richards Modern Europe London 1964 p 86 7 D Richards Modern Europe London 1964 p 88 D Richards Modern Europe London 1964 p 89 brrnanukrm 1988 The Low Countries 1780 1940 Oxford Clarendon ISBN 9780198221081 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb shrachxanackrenethxraelnd bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk