บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
จักรพรรดินีมย็องซ็อง หรือ พระราชินีมิน (เกาหลี: 명성황후, มย็องซ็องฮวังฮู; 19 ตุลาคม 1851 – 8 ตุลาคม 1895) เป็นพระอัครมเหสีของจักรพรรดิควางมูแห่งจักรวรรดิเกาหลี (พระเจ้าโกจง) พระจักรพรรดินีมย็องซ็องทรงมีบทบาทอย่างมากในการปกครองและปฏิรูปประเทศในช่วยปลายสมัยราชวงศ์โชซอน และเรื่องราวของพระนางยังคงเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญทั้งในด้านการต่อสู้ของวีรสตรีผู้รักชาติ และประวัติศาสตร์อันเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักประวัติศาสตร์และนักอาชญวิทยาต่าง ๆ ที่ต่างพยายามค้นหาหลักฐานการสวรรคตที่แท้จริงของพระนาง ซึ่งทั้งฝ่ายเกาหลีเองหรือฝ่ายญี่ปุ่นปิดบังตลอดมา
จักรพรรดินีมย็องซ็อง 명성황후 | |
---|---|
จักรพรรดินีแห่งเกาหลี (สถาปนาหลังสวรรคต) พระอัครมเหสีแห่งโชซ็อน | |
พระสาทิสลักษณ์ที่วาดขึ้นหลังสวรรคต (1898) | |
สมเด็จพระราชินีแห่งโชซอน | |
ระหว่าง | 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1873 – 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1894 (12 ปี) 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1894 – 10 ตุลาคม ค.ศ. 1895 (96 วัน) |
ก่อนหน้า | พระนางชอริน |
ถัดไป | จักรพรรดินีซุนมย็อง |
พระราชสมภพ | 19 ตุลาคม ค.ศ. 1851 จังหวัดคย็องกี อาณาจักรโชซ็อน |
สวรรคต | 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895 (พระชนมายุ 43 พรรษา) พระราชวังคย็องบก โซล อาณาจักรโชซ็อน |
คู่อภิเษก | จักรพรรดิโคจง |
พระราชบุตร | จักรพรรดิซุนจง |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์โชซ็อน |
พระราชบิดา | มิน ชี-รก |
พระราชมารดา | อีแห่งฮันชัง |
การก้าวขึ้นสู่อำนาจ
จักรพรรดินีมย็องซ็อง เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1851 ที่เมืองยอจู (เกาหลี: 여주) จังหวัดคย็องกีในปัจจุบัน เป็นธิดาของมินชีรก (เกาหลี: 민치록 閔致祿) ขุนนางชั้นผู้น้อยคนหนึ่ง จากตระกูลมินแห่งยอฮึง (เกาหลี: 여흥민씨 驪興閔氏 ตระกูลเดียวกันกับพระมเหสีอินฮยอน) เนื่องจากกฎหมายที่ห้ามการบันทึกพระนามเดิมของพระมเหสีของราชวงศ์โชซอน ทำให้นักประวัติศาสตร์ไม่ทราบว่าพระจักรพรรดินีมย็องซ็องนั้นมีพระนามเดิมว่าอย่างไร (พระนามที่ปรากฏในภาพยนตร์และบทละครนั้นเป็นสิ่งที่ถูกแต่งขึ้น) ค.ศ. 1858 เมื่อพระชนมายุ 7 พรรษา ทั้งบิดาและมารดาของนางมินได้เสียชีวิตลง เป็นเหตุให้ทรงต้องกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระองค์จึงไปเป็นธิดาบุญธรรมของมินชีกู (เกาหลี: 민치구 閔致久) ผู้เป็นญาติห่างๆ
ค.ศ. 1866 เมื่อพระเจ้าโกจงมีพระชนมพรรษา 15 พรรษาถึงเวลาอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชอัยยิกาจากตระกูลโจ (เกาหลี: 대왕대비조씨 大王大妃趙氏) ผู้สำเร็จราชการแทน และองค์ชายแทวอน ฮึงซอน (เกาหลี: 흥선대원군 興宣大院君) พระบิดาของพระเจ้าโกจงเป็นผู้คัดเลือกพระมเหสีองค์ใหม่ เนื่องจากพระมารดาของพระเจ้าโกจงคือ เจ้าหญิงยอฮึง (เกาหลี: 여흥부대부인 驪興府大夫人) นั้นเป็นธิดาของมินชีกู เจ้าหญิงยอฮึงจึงแนะนำบุตรสาวของมิชีรกซึ่งมินชีกูบิดาได้รับเลี้ยงไว้เป็นธิดาบุญธรรม ให้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าโกจง ซึ่งเจ้าชายแทวอนฮึงซอนนั้นก็เห็นด้วยเนื่องจากว่าเป็นตระกูลของพระชายาของเจ้าชายแทวอนเอง ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลและบทบาทในราชสำนักน้อย ไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามต่อเจ้าชายแทวอนในอนาคต พิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าโกจงพระชนมพรรษา 15 พรรษา และพระมเหสีจากตระกูลมินพระชนมายุ 16 พรรษา มีขึ้นเมื่อค.ศ. 1866 ที่พระราชวังอึนฮยอน (เกาหลี: 운현궁) ในโซล
ทรงเป็นสตรีที่ฉลาดและใฝ่การศึกษามาตั้งแต่เด็ก พระนางจึงมีบทบาทในการถวายคำปรึกษางานด้านต่าง ๆ ให้แก่ พระเจ้าโกจง และยังสามารถบริหารกิจบ้านเมืองได้ด้วยพระองค์เอง เช่นเดียวกับพระเจ้าโกจงอีกด้วย นอกจากนี้ พระนางยังสนใจในเรื่องการต่างประเทศเป็นพิเศษ ทรงศึกษาความเจริญของสังคมในประเทศต่าง ๆ พระนางยังมักเรียกเหล่าเสนาบดีที่คุ้นเคยเข้าปรึกษาราชการและโปรดให้ผู้รอบรู้สรรพวิชาต่าง ๆ อย่างเป็นพิเศษคอยถวายคำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ เสมอ ด้วยพระจริยาวัตรเช่นนี้ พระนางจึงมักเป็นที่ติฉินนินทากันในหมู่ชนชั้นสูงว่า พระนางพยายามจะทำตัวเสมือนบุรุษที่ชอบเข้าไปก้าวก่ายงานกิจการบ้านเมืองจนเกินงาม และด้วยความปราดเปรื่องของพระนางนี้เองจึงกลายเป็นความหวาดระแวงของพวกขุนนางผู้พยายามกุมอำนาจในวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสกุลโจ และ เจ้าชายแทวอน พระบิดาของพระเจ้าโกจง ซึ่งมีอำนาจปกครองประเทศในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนอยู่ในขณะนั้น
การดำรงตำแหน่งพระมเหสี ของพระมเหสีมิน ทำให้ขุนนางตระกูลมินขึ้นมามีอำนาจในราชสำนัก ค.ศ. 1868 พระสนมควีอินตระกูลลี (เกาหลี: 귀인이씨 貴人李氏) ประสูติพระโอรสองค์แรกแด่พระเจ้าโคจงพระนามว่า เจ้าชายวานฮวา (เกาหลี: 완화군 完和君) ซึ่งเจ้าชายแทวอนประสงค์จะแต่งตั้งเจ้าชายวานฮวาเป็นเจ้าชายรัชทายาท ทำให้สถานะของพระมเหสีมินไม่มั่นคง เมื่อค.ศ. 1871 พระมเหสีมินประสูติพระโอรสองค์แรกของพระองค์เองแต่ทว่าสิ้นพระชนม์ลงเมื่อพระชนมายุเพียงสามวัน เจ้าชายแทวอนตำหนิพระมเหสีมินว่าทรงไม่อาจทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีได้ ในขณะที่พระมเหสีมินตรัสโทษโสมของเจ้าชายแทวอนที่ประทานแก่พระโอรสว่าเป็นต้นเหตุการสิ้นพระชนม์ ในค.ศ. 1873 กลุ่มขุนนางตระกูลมินได้สนับสนุนให้ขุนนางชื่อว่า ชเวอิกฮยอน (เกาหลี: 최익현 崔益鉉) ถวายฏีกาตำหนิการปกครองของเจ้าชายแทวอนว่ามีการทุจริตฉ้อฉล และร้องขอให้พระเจ้าโคจงทรงปกครองประเทศด้วยพระองค์เองเนื่องจากมีพระชนมายุเกินยี่สิบชันษาแล้ว พระเจ้าโคจงจึงทรงประกาศว่าจะว่าราชการด้วยพระองค์เอง เป็นเหตุให้เจ้าชายแทวอนต้องทรงพ้นสภาพจากการเป็นผู้สำเร็จราชการแทนไปโดยปริยาย ค.ศ. 1874 พระมเหสีมินประสูติพระโอรสอีกองค์หนึ่ง พระนามว่าเจ้าชายลีชอก ซึ่งต่อมาภายหลังคือพระเจ้าซุนจง
ปกครองประเทศร่วมกับพระราชสวามี
เมื่อกำจัดเจ้าชายแทวอนผู้เป็นพระบิดาของพระสวามีคือพระเจ้าโคจงออกไปได้แล้ว พระมเหสีมินก็ทรงเข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ทรงเกรงกลัวข้อจำกัดของสตรีตามหลักของลัทธิขงจื้อแต่ประการใด พระมเหสีมินทรงแนะนำและมีอิทธิพลต่อการตัดสินพระทัยของพระเจ้าโคจงอย่างมาก ในค.ศ. 1875 รัฐบาลสมัยเมจิของจักรวรรดิญี่ปุ่นนำเรือรบชื่อว่า อุงโย (ญี่ปุ่น: 雲揚; โรมาจิ: Un'yō) เช้ามารุกรานเกาะคังฮวา อันเป็นดินแดนของอาณาจักรโชซอน เรียกร้องให้อาณาจักรโชซอนเปิดประเทศทำการติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่น หลังจากที่มีนโยบายปิดประเทศมาหลายร้อยปีจนได้ฉายาว่า อาณาจักรฤๅษี (Hermit Kingdom) ในที่สุดอาณาจักรโชซอนก็ยอมเปิดประเทศทำการติดต่อกับญี่ปุ่นเป็นชาติแรก เกิดเป็น (เกาหลี: 강화도 조약) ขึ้น โดยโชซอนต้องเปิดเมืองท่าสามแห่งได้แก่ ปูซาน อินชอน และให้เรือญี่ปุ่นได้เข้ามาเทียบท่า สนธิสัญญาคังฮวาเป็นสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียม โชซอนเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้แก่ญี่ปุ่น และราชสำนักโชซอนจะต้องยินยอมให้ชาวญี่ปุ่นเข้ามาทำการสำรวจและต้าขายในเกาหลีโดยปราศจากการขัดขวาง
การเปิดประเทศทำให้ราชสำนักเกาหลี โดยเฉพาะพระมเหสีมิน ได้มีโอกาสรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก การคุกคามจากชาติตะวันตก และเทคโนโลที่ทันสมัย พระมเหสีมินทรงตระหนักว่าอาณาจักรโชซอนจะอยู่รอดได้ต้องมีการพัฒนาปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยโดยการดูตัวอย่างจากญี่ปุ่น แต่ในทางการเมืองเนื่องจากทรงเห็นว่าญี่ปุ่นเป็นภัยคุกคามและอาณาจักรโชซอนเป็นประเทศราชของจักรวรรดิจีนมาช้านาน จึงทรงมีนโยบายสานความสัมพันธ์กับราชสำนักราชวงศ์ชิงอย่างแน่นแฟ้นเพื่อเป็นคานอำนาจกับอิทธิพลของญี่ปุ่นในเกาหลี การพัฒนาอย่างแรกคือการปรับปรุงกองกำลังทหารและกองทัพให้มีอาวุธที่ทันสมัย และได้รับการฝึกหัดอย่างตะวันตก โดยพระมเหสีมินทรงให้มินกยอมโฮ (เกาหลี: 민겸호 閔謙鎬) ผู้เป็นพระเชษฐาบุญธรรมเป็นแกนนำในการปรับปรุงกองกำลังทหาร และได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นในการจัดตั้งกองกำลังพิเศษซึ่งติดอาวุธแบบใหม่ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สร้างความไม่พอใจแก่ทหารกลุ่มดั้งเดิมที่ไม่ได้รับการพัฒนา และเนื่องจากราชสำนักโชซอนมีนโยบายต่อทหารสองกลุ่มนี้อย่างไม่เท่าเทียม ทหารกลุ่มเก่าจึงก่อการกบฏขึ้นในค.ศ. 1882 เรียกว่า (เกาหลี: 임오군란) กองกำลังทหารกลุ่มเก่าเข้าบุกยึดพระราชวังคย็องบกเข้าทำการสังหารทหารกลุ่มใหม่ รวมทั้งมินกยอมโฮและชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง เป็นเหตุให้พระเจ้าโคจงและพระมเหสีมินต้องเสด็จหลบหนีออกจากพระราชวังไปยังเมืองชองจู จังหวัดชุงช็องเหนือในปัจจุบัน กลุ่มทหารกบฏยกเจ้าชายแทวอนให้กลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง แต่ทว่าทางฝ่ายราชวงศ์ชิงได้เข้าช่วยเหลือพระมเหสีมินโดยการส่งกองทัพจำนวน 4,500 นำโดยหลี่หงจาง (จีน: 李鴻章 Lǐ Hóngzhāng) เข้ามายังโซลเพื่อทำการปราบกบฏลงได้สำเร็จ จับองค์เจ้าชายแทวอนกลับไปยังเมืองเทียนจิน พระมเหสีมินพร้อมพระสวามีจึงเสด็จนิวัติพระราชวังได้ในที่สุด
ในขณะนั้นขุนนางในราชสำนักโชซอนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายซาแด อันเป็นขุนนางที่สนับสนุนนโยบายของพระมเหสีมิน คือ การยึดความสัมพันธ์กับจีนราชวงศ์ชิงเป็นหลัก และมีการพัฒนาประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ฝ่ายก้าวหน้า ต้องการให้มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องการให้เกาหลีมีสิทธิเสรีภาพเฉกเช่นเดียวกับชาติตะวันตก และเห็นว่าเกาหลีควรที่จะสร้างความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นมากกว่า ในค.ศ. 1884 ขุนนางกลุ่มก้าวหน้าหรือกลุ่มแคฮวา (เกาหลี: 개화당) นำโดย คิมอ็กกยุน (เกาหลี: 김옥균) และพัคยองฮโย (เกาหลี: 박영효) นำกองกำลังเข้ายึดพระราชวังคยองบก เรียกว่า การยึดอำนาจปีคัปชิน (เกาหลี: 갑신정변) เข้าทำการสังหารขุนนางฝ่ายซาแดรวมทั้งมินแทโฮพระเชาฐา แต่ทว่าพระมเหสีมินทรงได้รับการสนับสนุนทางทหารจากราชวงศ์ชิงอยู่เดิม และทรงร้องขอให้ราชสำนักราชวงศ์ชิงเข้าช่วยเหลือ ราชวงศ์ชิงส่งหยวนซื่อไข่ (จีน: 袁世凱 Yuán Shìkǎi) นำกองทัพจีนจำนวน 1,500 คน เข้ามาทำการปราบกบฏได้สำเร็จเพียงสามวันหลังจากก่อการ
ในช่วงปลายราชวงศ์โชซอนการปกครองและสังคมของเกาหลีกำลังเสื่อมโทรม ลัทธิทงฮัก (เกาหลี: 동학) ได้ถือกำเนิดขึ้น อันเป็นลัทธิที่ต่อต้านการปกครองของราชสำนักโชซอน เรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมในสังคมและสิทธิมนุษยชน และได้รับอิทธิพลจากคริสต์ศาสนา ลัทธิทงฮักเป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวบ้านในทางตอนใต้ ค.ศ. 1894 ชาวบ้านในมณฑลช็อลลาซึ่งไม่พอใจการปกครองของขุนนางท้องถิ่นและตระกูลมินได้ก่อการกบฏขึ้น เรียกว่า กบฏชาวบ้านทงฮัก (เกาหลี: 동학 농민 운동) นำโดย ช็อนบงจุน (เกาหลี: 전봉준) เข้ายึดอำนาจจัดตั้งการปกครองตนเอง สามารถเข้ายึดเมืองช็อนจูได้ และยกทัพบุกนครฮันซอง พระมเหสีมินจึงทรงขอความช่วยเหลือไปยังราชสำนักต้าชิงเพื่อขอความช่วยเหลืออีกครั้ง ฝ่ายต้าชิงจึงส่งหลี่หงจางนำทัพจีนจำนวนประมาณ 2,500 คน เข้ามาในเกาหลีเพื่อทำการปราบกบฏทงฮักลงได้เป็นผลสำเร็จ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ในค.ศ. 1885 จักรวรรดิจีนและจักรวรรดิญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงเทียนจิน (Convention of Tienjin) ว่าแต่ละฝ่ายจะไม่ส่งกองกำลังทหารเข้าแทรกแซงการเมืองของเกาหลี เว้นแต่จะเป็นไปเพื่อพิทักษ์ทรัพส์สินและบุคคลของชาติตนเอง การที่จีนยกทัพเข้าปราบกบฏทงฮักนั้นจึงเป็นการละเมิดข้อตกลงเทียนจิน สร้างความไม่พอใจแก่ฝ่ายญี่ปุ่น จึงเกิดเป็นสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (First Sino-Japanese War) ผลคือความพ่ายแพ้ของฝ่ายจีน นำไปสู่สนธิสัญญาชิโมะโนะเซะกิ (Treaty of Shimonoseki) ในค.ศ. 1895 ให้จักรวรรดิจีนราชวงศ์ชิงยุติบทบาททุกประการในเกาหลี โดยที่เกาหลีพ้นจากการเป็นประเทศราชของราชวงศ์ชิง
ชัยชนะของญี่ปุ่นในสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่งทำให้ญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทแทนที่จีนในเกาหลี ฝ่ายพระมเหสีมินเมื่อขาดการสนับสนุนจากจีน จึงทรงค้นหามหาอำนาจใหม่เพื่อคานอำนาจกับญี่ปุ่น นั่นคือจักรวรรดิรัสเซีย
นโยบายการพัฒนาประเทศ
หลังจากทำสนธิสัญญากังฮวาแล้ว ราชินีมินจึงคิดที่จะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ถึงพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และรู้วิธีการที่ญี่ปุ่นปรับเปลี่ยนสังคมอย่างตะวันตกจากสังคมเดิมของเอเชียได้อย่างไร พระนางจึงได้ของความเห็นชอบจากพระเจ้าโกจงเพื่อที่จะส่งกลุ่มศึกษาวิจัยไปที่กรุงโตเกียว ในการศึกษาพัฒนาแบบก้าวกระโดดของญี่ปุ่น และได้มอบหมายให้ เป็นหัวหน้าทีมเดินทางไปญี่ปุ่น คณะทำงานของคิมกวางจิบชุดนี้เข้าไปทำการสำรวจและศึกษาเรื่องต่าง ๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากทูตจีนประจำกรุงโตเกียวชื่อ ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้คิมฉวายรายงานต่อพระเจ้าโกจง และ พระจักรพรรดินีมย็องซ็อง ในสิ่งที่เกาหลีจะต้องปรับเปลี่ยนลู่ทางไปตามกระแสโลกตะวันตกอย่างที่ญี่ปุ่นได้กระทำ รวมทั้งการปรับปรุงโครงสร้างทางสังคมและระบบการปกครองของประเทศตามสภาวะโลกที่เปลี่ยนไปอีกด้วยซึ่งจีนได้กระทำวิธีเดียวกันนี้อยู่เช่นกัน แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่ออกจากปากของที่ปรึกษาชาวจีนผู้นี้คือการมองโลกเชิงวิเคราะห์สถานการณ์ในอนาคต ที่ภาพต่าง ๆ ยังไม่ชัดเจนนัก เขามองว่าจีนกำลังสูญเสียอิทธิพลอย่างมาก และให้เลือกคบหากับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาให้แนบแน่น เพื่อเป็นการคานอำนาจของรัสเซียไว้ และให้เรียนรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ จากยุโรปให้มากขึ้น และเพื่อเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดด้วยการถ่วงดุลอำนาจระหว่างชาติต่าง ๆ หวง ยังบอกอีกด้วยว่าเกาหลีมีขนาดประเทศที่เล็กและเป็นรัฐกันชนระหว่างจีนกับญี่ปุ่น จึงน่าจะถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายได้ จึงน่าจะมีอนาคตกว่าถ้าเดินตามนโยบายที่เขาแนะนำ
เหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์
ฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เล็งเห็นแล้วว่า พระมเหสีมินทรงเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการแผ่ขยายอิทธิพลของญี่ปุ่นเข้าไปในเกาหลี ตราบใดที่พระมเหสีมินยังมีพระชนม์ชีพอยู่ญี่ปุ่นก็ไม่อาจเข้ายึดครองเกาหลีได้ มิอุระ โกโร (ญี่ปุ่น: 三浦梧楼; โรมาจิ: Miura Gorō) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเกาหลีในขณะนั้น จึงวางแผนการลอบปลงพระชนม์พระมเหสีมิน โดยให้ชื่อปฏิบัติการนี้ว่า การปฏิบัติการฟอกซ์ฮันท์ (Operation Fox Hunt) ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895 มิอุระ โกโร ได้นำทหารผสมชาวญี่ปุ่นและเกาหลีเข้าบุกพระราชวังคยองบก ควบคุมองค์พระเจ้าโคจงและองค์ชายรัชทายาทเอาไว้ และเข้าปลงพระชนม์พระมเหสีมินที่ตำหนักอ๊กโฮรู (เกาหลี: 옥호루) แต่ไม่เคยมีใครทราบหรือเห็นเหตุการณ์การลอบปลงพระชนม์หรือมีการบันทึกไว้แต่อย่างใด
ในพ.ศ. 2509 มีการค้นพบเอกสารบันทึกของนายอิชิซุกะ เอย์โจ (ญี่ปุ่น: 石塚英藏; โรมาจิ: Ishizuka Eijō) ผู้เป็นหนึ่งในผู้ก่อการลอบปลงพระชนม์พระมเหสีมิน โดยนายอิชิซุกะระบุว่าทูตมิอุระโกโรเป็นผู้วางแผนการณ์ โดยอาศัยความร่วมมือจากทหารญี่ปุ่นที่อารักขาพระราชวังคยองบกขณะนั้นในการเข้าถึงองค์พระมเหสี เมื่อทหารญี่ปุ่นบุกถึงองค์พระมเหสีแล้วจึงแทงพระมเหสีด้วยดาบหลายครั้งจนเสด็จสวรรคต จากนั้นปลดฉลองพระองค์ของพระมเหสีออกจนพระวรกายเปลือยเปล่า กระทำการลบหลู่พระเกียรติต่างๆ นำพระบรมศพไปแสดงให้แก่ข้าราชการชาวรัสเซียในพระราชวังได้เห็น จากนั้นจึงนำพระบรมศพไปยังป่าสนในพระราชวัง แล้วจึงจุดไฟเผาพระบรมศพของพระมเหสีมิน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงนำพระบรมอัฐิไปโปรยตามที่ต่างๆในพระราชวัง
ในพ.ศ. 2546 มีการค้นพบเอกสารบันทึกของสถาปนึกชาวรัสเซียชื่อว่า อะฟานาซี เซอเรอดิน-ซาบาติน (Afanasy Seredin-Sabatin) ผู้เห็นเหตุการณ์ลอบสังหารพระมเหสีมินโดยทหารญี่ปุ่น ในบริเวณพระตำหนักของพระมเหสีนั้นเต็มไปด้วยทหารญี่ปุ่นประมาณยี่สิบถึงยี่สิบห้าคน พวกเขาแต่งกายด้วยชุดประหลาดและมีดาบไว้ในครอบครองซึ่งดาบของทหารบางนายนั้นสามารถมองเห็นได้ชัด ในขณะที่ทหารญี่ปุ่นส่วนหนึ่งลาดตระเวณตรวจค้นทุกซอกมุมของพระราชวัง มีการทหารญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปในพระตำหนักของพระมเหสีและเข้าจับสตรีที่อยู่ในที่นั่นไว้ ข้าพเจ้ายังคงสังเกตการณ์ต่อไป พวกทหารนำสิ่งของต่างๆออกมาจากพระตำหนัก ทหารญี่ปุ่นสองคนลากนางในคนหนึ่งออกมาด้วยการดึงผม และลากนางในคนนั้นลงบันใดมา นอกจากนั้นทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งถามข้าพเจ้าเป็นภาษาอังกฤษซ้ำๆว่า "พระมเหสีอยู่ที่ไหน ชี้พระมเหสีเดี๋ยวนี้" ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินผ่านพระตำหนักใหญ่ ข้าพเจ้าสังเกตว่าพระตำหนักใหญ่นั้นถูกห้องล้อมด้วยทหารญี่ปุ่นและข้าราชการเกาหลี แต่ข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ว่าข้างในนั้นมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น
นักประวัติศาสตร์เกาหลีเรียกเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์พระมเหสีมินว่า เหตุการณ์ปีอึลมี (เกาหลี: 을미사변) หลังจากเหตุการณ์พระเจ้าโคจงและเจ้าชายรัชทายาทเสด็จลี้ภัยยังสถานกงสุลรัสเซียในโซล ทางฝ่ายรัฐบาลญี่ปุ่นมีการตั้งข้อกล่าวหาแก่ราชทูตมิอุระโกโรและผู้ร่วมก่อการทั้งหมด แต่ทว่าทั้งหมดพ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันการกระทำความผิด ต่อมาค.ศ. 1897 พระเจ้าโคจงทรงสถาปนาจักรวรรดิเกาหลี (Korean Empire) และจัดพิธีพระบรมศพให้แก่พระมเหสีมินอย่างสมพระเกียรติ โดยใช้ขบวนแห่พระบรมศพประกอบไปด้วยทหารกว่า 5,000 นาย แม้ว่าพระบรมศพที่หลงเหลืออยู่นั้นจะประกอบไปด้วยเพียงพระดัชนีหนึ่งเท่านั้น หลังสวรรคตไปแล้วพระมเหสีมินได้รับพระนามว่า สมเด็จพระราชินีมย็องซ็อง และต่อมาเมื่อพระเจ้าโคจงทรงปราบดาภิเษกเป็นพระจักรพรรดิควางมู พระมเหสีมย็องซ็องจึงได้รับการเลื่อนขึ้นเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีมย็องซ็องในที่สุด
การจากไปของจักรพรรดินีมย็องซ็องเป็นช่วงที่พระนางมีพระชนมายุ 43 พรรษาเท่านั้น
อ้างอิง
- Queen Min of Korea: Coming to Power http://www.gkn-la.net/history_resources/queen_min_tmsimbirtseva_1996.htm 2006-02-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- http://www.network54.com/Forum/371173/thread/1107606949/last-1107606949/Japanese+Raped+the+Last+Queen+of+Korea+Before+Burning+Her+Alive
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-01. สืบค้นเมื่อ 2014-03-14.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-02-17. สืบค้นเมื่อ 2009-12-20.
- Frederick Arthur Mackenzie, The Tragedy of Korea, (1st 1908, Reprinted 2006)
- Frederick Arthur Mackenzie, Korea's Fight for Freedom, (Revised 2006) (See also Project Gutenberg.)
- Isabella Bird, Korea and her Neighbours (1898, Reprinted 1987 )
- Martina Dechler, Culture and the State in Late Choson Korea (1999)
- Woo-Keun Han, The History of Korea (1996)
- James Bryant Lewis, Frontier Contact between Choson Korea and Tokugawa Japan (2003)
- Andrew C. Nahm, Introduction to Korean History and Culture (1997)
- Andrew C. Nahm, A History of the Korean People: Tradition & Transformation (1996)
- Hongjong Yu, The Last Empress of the Lost Empire: A Comprehensive Study of Empress Myeongseong Hwanghu (2003)
- Emperor of Japan: Meiji and His World, 1852-1912 Columbia University Press (2002)
- Andre Schmid, Korea Between Empires, 1895-1919, Columbia University Press (2002)
- Peter Duus, The Abacus and the Sword: The Japanese Penetration of Korea, 1895-1910, (1998)
- Han, Young-woo, Empress Myeongseong and Korean Empire (명성황후와 대한제국)(2001). Hyohyeong Publishing
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Making of an Asian hit: A Korean royal tragedy in the Broadway style 2006-03-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Ricardo Saludo, Asia Week (18 ธันวาคม ค.ศ. 1998)
- Characteristics of Queen of Corea, The New York Times, 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1895.
- Japanese Document Sheds New Light on Korean Queen's Murder 2005-01-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Yoo Seok-jae, The Chosun Ilbo (12 มกราคม ค.ศ. 2005)
- Empress Myeongseong OST Error:No page id specified ที่ยูทูบ
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีมย็องซ็อง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีชอริน | สมเด็จพระราชินีแห่งโชซอน (20 มีนาคม ค.ศ. 1866 – 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895) | สมเด็จพระจักรพรรดินีซุนจ็อง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul ckrphrrdinimyxngsxng khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ckrphrrdinimyxngsxng hrux phrarachinimin ekahli 명성황후 myxngsxnghwnghu 19 tulakhm 1851 8 tulakhm 1895 epnphraxkhrmehsikhxngckrphrrdikhwangmuaehngckrwrrdiekahli phraecaokcng phrackrphrrdinimyxngsxngthrngmibthbathxyangmakinkarpkkhrxngaelaptiruppraethsinchwyplaysmyrachwngsochsxn aelaeruxngrawkhxngphranangyngkhngepnprawtisastrhnasakhythngindankartxsukhxngwirstriphurkchati aelaprawtisastrxnepnthithkethiynginhmunkprawtisastraelankxachywithyatang thitangphyayamkhnhahlkthankarswrrkhtthiaethcringkhxngphranang sungthngfayekahliexnghruxfayyipunpidbngtlxdmackrphrrdinimyxngsxng 명성황후ckrphrrdiniaehngekahli sthapnahlngswrrkht phraxkhrmehsiaehngochsxnphrasathislksnthiwadkhunhlngswrrkht 1898 smedcphrarachiniaehngochsxnrahwang1 phvscikayn kh s 1873 1 krkdakhm kh s 1894 12 pi 6 krkdakhm kh s 1894 10 tulakhm kh s 1895 96 wn kxnhnaphranangchxrinthdipckrphrrdinisunmyxngphrarachsmphph19 tulakhm kh s 1851 cnghwdkhyxngki xanackrochsxnswrrkht8 tulakhm kh s 1895 phrachnmayu 43 phrrsa phrarachwngkhyxngbk osl xanackrochsxnkhuxphieskckrphrrdiokhcngphrarachbutrckrphrrdisuncngrachwngsrachwngsochsxnphrarachbidamin chi rkphrarachmardaxiaehnghnchngkarkawkhunsuxanacckrphrrdinimyxngsxng esdcphrarachsmphphemuxwnthi 19 tulakhm kh s 1851 thiemuxngyxcu ekahli 여주 cnghwdkhyxngkiinpccubn epnthidakhxngminchirk ekahli 민치록 閔致祿 khunnangchnphunxykhnhnung caktrakulminaehngyxhung ekahli 여흥민씨 驪興閔氏 trakulediywknkbphramehsixinhyxn enuxngcakkdhmaythihamkarbnthukphranamedimkhxngphramehsikhxngrachwngsochsxn thaihnkprawtisastrimthrabwaphrackrphrrdinimyxngsxngnnmiphranamedimwaxyangir phranamthipraktinphaphyntraelabthlakhrnnepnsingthithukaetngkhun kh s 1858 emuxphrachnmayu 7 phrrsa thngbidaaelamardakhxngnangminidesiychiwitlng epnehtuihthrngtxngkaphrabidamardatngaetyngthrngphraeyaw phraxngkhcungipepnthidabuythrrmkhxngminchiku ekahli 민치구 閔致久 phuepnyatihang kh s 1866 emuxphraecaokcngmiphrachnmphrrsa 15 phrrsathungewlaxphiesksmrs smedcphrarachxyyikacaktrakuloc ekahli 대왕대비조씨 大王大妃趙氏 phusaercrachkaraethn aelaxngkhchayaethwxn hungsxn ekahli 흥선대원군 興宣大院君 phrabidakhxngphraecaokcngepnphukhdeluxkphramehsixngkhihm enuxngcakphramardakhxngphraecaokcngkhux ecahyingyxhung ekahli 여흥부대부인 驪興府大夫人 nnepnthidakhxngminchiku ecahyingyxhungcungaenanabutrsawkhxngmichirksungminchikubidaidrbeliyngiwepnthidabuythrrm ihepnphramehsikhxngphraecaokcng sungecachayaethwxnhungsxnnnkehndwyenuxngcakwaepntrakulkhxngphrachayakhxngecachayaethwxnexng sungepntrakulthimixiththiphlaelabthbathinrachsanknxy imnacaepnphykhukkhamtxecachayaethwxninxnakht phithixphiesksmrsrahwangphraecaokcngphrachnmphrrsa 15 phrrsa aelaphramehsicaktrakulminphrachnmayu 16 phrrsa mikhunemuxkh s 1866 thiphrarachwngxunhyxn ekahli 운현궁 inosl thrngepnstrithichladaelaifkarsuksamatngaetedk phranangcungmibthbathinkarthwaykhapruksangandantang ihaek phraecaokcng aelayngsamarthbriharkicbanemuxngiddwyphraxngkhexng echnediywkbphraecaokcngxikdwy nxkcakni phranangyngsnicineruxngkartangpraethsepnphiess thrngsuksakhwamecriykhxngsngkhminpraethstang phranangyngmkeriykehlaesnabdithikhunekhyekhapruksarachkaraelaoprdihphurxbrusrrphwichatang xyangepnphiesskhxythwaykhapruksaineruxngtang esmx dwyphracriyawtrechnni phranangcungmkepnthitichinninthakninhmuchnchnsungwa phranangphyayamcathatwesmuxnburusthichxbekhaipkawkayngankickarbanemuxngcnekinngam aeladwykhwampradepruxngkhxngphranangniexngcungklayepnkhwamhwadraaewngkhxngphwkkhunnangphuphyayamkumxanacinwng odyechphaaxyangyingklumskuloc aela ecachayaethwxn phrabidakhxngphraecaokcng sungmixanacpkkhrxngpraethsinthanaphusaercrachkaraethnxyuinkhnann kardarngtaaehnngphramehsi khxngphramehsimin thaihkhunnangtrakulminkhunmamixanacinrachsank kh s 1868 phrasnmkhwixintrakulli ekahli 귀인이씨 貴人李氏 prasutiphraoxrsxngkhaerkaedphraecaokhcngphranamwa ecachaywanhwa ekahli 완화군 完和君 sungecachayaethwxnprasngkhcaaetngtngecachaywanhwaepnecachayrchthayath thaihsthanakhxngphramehsiminimmnkhng emuxkh s 1871 phramehsiminprasutiphraoxrsxngkhaerkkhxngphraxngkhexngaetthwasinphrachnmlngemuxphrachnmayuephiyngsamwn ecachayaethwxntahniphramehsiminwathrngimxacthahnathikhxngphrryathidiid inkhnathiphramehsimintrsothsosmkhxngecachayaethwxnthiprathanaekphraoxrswaepntnehtukarsinphrachnm inkh s 1873 klumkhunnangtrakulminidsnbsnunihkhunnangchuxwa chewxikhyxn ekahli 최익현 崔益鉉 thwaytikatahnikarpkkhrxngkhxngecachayaethwxnwamikarthucritchxchl aelarxngkhxihphraecaokhcngthrngpkkhrxngpraethsdwyphraxngkhexngenuxngcakmiphrachnmayuekinyisibchnsaaelw phraecaokhcngcungthrngprakaswacawarachkardwyphraxngkhexng epnehtuihecachayaethwxntxngthrngphnsphaphcakkarepnphusaercrachkaraethnipodypriyay kh s 1874 phramehsiminprasutiphraoxrsxikxngkhhnung phranamwaecachaylichxk sungtxmaphayhlngkhuxphraecasuncngpkkhrxngpraethsrwmkbphrarachswamiemuxkacdecachayaethwxnphuepnphrabidakhxngphraswamikhuxphraecaokhcngxxkipidaelw phramehsiminkthrngekhamamibthbathinkarpkkhrxngpraethsxyangetmthi odythiimthrngekrngklwkhxcakdkhxngstritamhlkkhxnglththikhngcuxaetprakarid phramehsiminthrngaenanaaelamixiththiphltxkartdsinphrathykhxngphraecaokhcngxyangmak inkh s 1875 rthbalsmyemcikhxngckrwrrdiyipunnaeruxrbchuxwa xungoy yipun 雲揚 ormaci Un yō echamarukranekaakhnghwa xnepndinaednkhxngxanackrochsxn eriykrxngihxanackrochsxnepidpraethsthakartidtxkhakhaykbyipun hlngcakthiminoybaypidpraethsmahlayrxypicnidchayawa xanackrvisi Hermit Kingdom inthisudxanackrochsxnkyxmepidpraethsthakartidtxkbyipunepnchatiaerk ekidepn ekahli 강화도 조약 khun odyochsxntxngepidemuxngthasamaehngidaek pusan xinchxn aelaiheruxyipunidekhamaethiybtha snthisyyakhnghwaepnsnthisyyathiimethaethiym ochsxnesiysiththisphaphnxkxanaekhtihaekyipun aelarachsankochsxncatxngyinyxmihchawyipunekhamathakarsarwcaelatakhayinekahliodyprascakkarkhdkhwang karepidpraethsthaihrachsankekahli odyechphaaphramehsimin idmioxkasrbruthungkhwamepliynaeplngkhxngolkphaynxk karkhukkhamcakchatitawntk aelaethkhonolthithnsmy phramehsiminthrngtrahnkwaxanackrochsxncaxyurxdidtxngmikarphthnaptiruppraethsihthnsmyodykardutwxyangcakyipun aetinthangkaremuxngenuxngcakthrngehnwayipunepnphykhukkhamaelaxanackrochsxnepnpraethsrachkhxngckrwrrdicinmachanan cungthrngminoybaysankhwamsmphnthkbrachsankrachwngschingxyangaennaefnephuxepnkhanxanackbxiththiphlkhxngyipuninekahli karphthnaxyangaerkkhuxkarprbprungkxngkalngthharaelakxngthphihmixawuththithnsmy aelaidrbkarfukhdxyangtawntk odyphramehsiminthrngihminkyxmoh ekahli 민겸호 閔謙鎬 phuepnphraechsthabuythrrmepnaeknnainkarprbprungkxngkalngthhar aelaidrbkhwamchwyehluxcakyipuninkarcdtngkxngkalngphiesssungtidxawuthaebbihm xyangirktamsingnisrangkhwamimphxicaekthharklumdngedimthiimidrbkarphthna aelaenuxngcakrachsankochsxnminoybaytxthharsxngklumnixyangimethaethiym thharklumekacungkxkarkbtkhuninkh s 1882 eriykwa ekahli 임오군란 kxngkalngthharklumekaekhabukyudphrarachwngkhyxngbkekhathakarsngharthharklumihm rwmthngminkyxmohaelachawyipuncanwnhnung epnehtuihphraecaokhcngaelaphramehsimintxngesdchlbhnixxkcakphrarachwngipyngemuxngchxngcu cnghwdchungchxngehnuxinpccubn klumthharkbtykecachayaethwxnihklbkhunmamixanacxikkhrng aetthwathangfayrachwngschingidekhachwyehluxphramehsiminodykarsngkxngthphcanwn 4 500 naodyhlihngcang cin 李鴻章 Lǐ Hongzhang ekhamayngoslephuxthakarprabkbtlngidsaerc cbxngkhecachayaethwxnklbipyngemuxngethiyncin phramehsiminphrxmphraswamicungesdcniwtiphrarachwngidinthisud inkhnannkhunnanginrachsankochsxnaebngxxkepnsxngfay idaek faysaaed xnepnkhunnangthisnbsnunnoybaykhxngphramehsimin khux karyudkhwamsmphnthkbcinrachwngschingepnhlk aelamikarphthnapraethsxyangkhxyepnkhxyip inkhnathifaykawhna txngkarihmikarptiwtiepliynaeplngxyangrwderw txngkarihekahlimisiththiesriphaphechkechnediywkbchatitawntk aelaehnwaekahlikhwrthicasrangkhwamsmphnthkbyipunmakkwa inkh s 1884 khunnangklumkawhnahruxklumaekhhwa ekahli 개화당 naody khimxkkyun ekahli 김옥균 aelaphkhyxnghoy ekahli 박영효 nakxngkalngekhayudphrarachwngkhyxngbk eriykwa karyudxanacpikhpchin ekahli 갑신정변 ekhathakarsngharkhunnangfaysaaedrwmthngminaethohphraechatha aetthwaphramehsiminthrngidrbkarsnbsnunthangthharcakrachwngschingxyuedim aelathrngrxngkhxihrachsankrachwngschingekhachwyehlux rachwngschingsnghywnsuxikh cin 袁世凱 Yuan Shikǎi nakxngthphcincanwn 1 500 khn ekhamathakarprabkbtidsaercephiyngsamwnhlngcakkxkar inchwngplayrachwngsochsxnkarpkkhrxngaelasngkhmkhxngekahlikalngesuxmothrm lththithnghk ekahli 동학 idthuxkaenidkhun xnepnlththithitxtankarpkkhrxngkhxngrachsankochsxn eriykrxngeruxngkhwamethaethiyminsngkhmaelasiththimnusychn aelaidrbxiththiphlcakkhristsasna lththithnghkepnthiaephrhlayinhmuchawbaninthangtxnit kh s 1894 chawbaninmnthlchxllasungimphxickarpkkhrxngkhxngkhunnangthxngthinaelatrakulminidkxkarkbtkhun eriykwa kbtchawbanthnghk ekahli 동학 농민 운동 naody chxnbngcun ekahli 전봉준 ekhayudxanaccdtngkarpkkhrxngtnexng samarthekhayudemuxngchxncuid aelaykthphbuknkhrhnsxng phramehsimincungthrngkhxkhwamchwyehluxipyngrachsanktachingephuxkhxkhwamchwyehluxxikkhrng faytachingcungsnghlihngcangnathphcincanwnpraman 2 500 khn ekhamainekahliephuxthakarprabkbtthnghklngidepnphlsaerc aetenuxngcakkxnhnaniinkh s 1885 ckrwrrdicinaelackrwrrdiyipunidbrrlukhxtklngethiyncin Convention of Tienjin waaetlafaycaimsngkxngkalngthharekhaaethrkaesngkaremuxngkhxngekahli ewnaetcaepnipephuxphithksthrphssinaelabukhkhlkhxngchatitnexng karthicinykthphekhaprabkbtthnghknncungepnkarlaemidkhxtklngethiyncin srangkhwamimphxicaekfayyipun cungekidepnsngkhramcin yipunkhrngthihnung First Sino Japanese War phlkhuxkhwamphayaephkhxngfaycin naipsusnthisyyachiomaonaesaki Treaty of Shimonoseki inkh s 1895 ihckrwrrdicinrachwngschingyutibthbaththukprakarinekahli odythiekahliphncakkarepnpraethsrachkhxngrachwngsching chychnakhxngyipuninsngkhramcin yipunkhrngthihnungthaihyipunekhamamibthbathaethnthicininekahli fayphramehsiminemuxkhadkarsnbsnuncakcin cungthrngkhnhamhaxanacihmephuxkhanxanackbyipun nnkhuxckrwrrdirsesiynoybaykarphthnapraethshlngcakthasnthisyyaknghwaaelw rachinimincungkhidthicaichwikvtihepnoxkasinkareriynruthungphthnakardantang khxngyipunxyangiklchid aelaruwithikarthiyipunprbepliynsngkhmxyangtawntkcaksngkhmedimkhxngexechiyidxyangir phranangcungidkhxngkhwamehnchxbcakphraecaokcngephuxthicasngklumsuksawicyipthikrungotekiyw inkarsuksaphthnaaebbkawkraoddkhxngyipun aelaidmxbhmayih epnhwhnathimedinthangipyipun khnathangankhxngkhimkwangcibchudniekhaipthakarsarwcaelasuksaeruxngtang odyidrbkhwamchwyehluxcakthutcinpracakrungotekiywchux sungepnphuaenanaihkhimchwayrayngantxphraecaokcng aela phrackrphrrdinimyxngsxng insingthiekahlicatxngprbepliynluthangiptamkraaesolktawntkxyangthiyipunidkratha rwmthngkarprbprungokhrngsrangthangsngkhmaelarabbkarpkkhrxngkhxngpraethstamsphawaolkthiepliynipxikdwysungcinidkrathawithiediywknnixyuechnkn aetsingthinaprahladicthixxkcakpakkhxngthipruksachawcinphunikhuxkarmxngolkechingwiekhraahsthankarninxnakht thiphaphtang yngimchdecnnk ekhamxngwacinkalngsuyesiyxiththiphlxyangmak aelaiheluxkkhbhakbyipunaelashrthxemrikaihaenbaenn ephuxepnkarkhanxanackhxngrsesiyiw aelaiheriynruethkhonolyitang cakyuorpihmakkhun aelaephuxeliyngtwexngihxyurxddwykarthwngdulxanacrahwangchatitang hwng yngbxkxikdwywaekahlimikhnadpraethsthielkaelaepnrthknchnrahwangcinkbyipun cungnacathwngdulxanacrahwangfayid cungnacamixnakhtkwathaedintamnoybaythiekhaaenanaehtukarnlxbplngphrachnmphaphwadehtukarnlxbplngphrachnmphramehsimincakkhabxkela tiphimphinhnngsuxphimphkhxngfrngess Le Journal Illustre kh s 1895khnraychawyipuninkhdilxbplngphrachnmphramehsiminriwkrabwninphrarachphithiphrabrmsphkhxngphramehsimin kh s 1897 fayckrwrrdiyipunidelngehnaelwwa phramehsiminthrngepnxupsrrkhthisakhythisudinkaraephkhyayxiththiphlkhxngyipunekhaipinekahli trabidthiphramehsiminyngmiphrachnmchiphxyuyipunkimxacekhayudkhrxngekahliid mixura okor yipun 三浦梧楼 ormaci Miura Gorō exkxkhrrachthutyipunpracaekahliinkhnann cungwangaephnkarlxbplngphrachnmphramehsimin odyihchuxptibtikarniwa karptibtikarfxkshnth Operation Fox Hunt inwnthi 8 tulakhm kh s 1895 mixura okor idnathharphsmchawyipunaelaekahliekhabukphrarachwngkhyxngbk khwbkhumxngkhphraecaokhcngaelaxngkhchayrchthayathexaiw aelaekhaplngphrachnmphramehsiminthitahnkxkohru ekahli 옥호루 aetimekhymiikhrthrabhruxehnehtukarnkarlxbplngphrachnmhruxmikarbnthukiwaetxyangid inph s 2509 mikarkhnphbexksarbnthukkhxngnayxichisuka exyoc yipun 石塚英藏 ormaci Ishizuka Eijō phuepnhnunginphukxkarlxbplngphrachnmphramehsimin odynayxichisukarabuwathutmixuraokorepnphuwangaephnkarn odyxasykhwamrwmmuxcakthharyipunthixarkkhaphrarachwngkhyxngbkkhnanninkarekhathungxngkhphramehsi emuxthharyipunbukthungxngkhphramehsiaelwcungaethngphramehsidwydabhlaykhrngcnesdcswrrkht caknnpldchlxngphraxngkhkhxngphramehsixxkcnphrawrkayepluxyepla krathakarlbhluphraekiyrtitang naphrabrmsphipaesdngihaekkharachkarchawrsesiyinphrarachwngidehn caknncungnaphrabrmsphipyngpasninphrarachwng aelwcungcudifephaphrabrmsphkhxngphramehsimin emuxesrcsinaelwcungnaphrabrmxthiipoprytamthitanginphrarachwng inph s 2546 mikarkhnphbexksarbnthukkhxngsthapnukchawrsesiychuxwa xafanasi esxerxdin sabatin Afanasy Seredin Sabatin phuehnehtukarnlxbsngharphramehsiminodythharyipun inbriewnphratahnkkhxngphramehsinnetmipdwythharyipunpramanyisibthungyisibhakhn phwkekhaaetngkaydwychudprahladaelamidabiwinkhrxbkhrxngsungdabkhxngthharbangnaynnsamarthmxngehnidchd inkhnathithharyipunswnhnungladtraewntrwckhnthuksxkmumkhxngphrarachwng mikarthharyipunklumhnungbukekhaipinphratahnkkhxngphramehsiaelaekhacbstrithixyuinthinniw khaphecayngkhngsngektkarntxip phwkthharnasingkhxngtangxxkmacakphratahnk thharyipunsxngkhnlaknanginkhnhnungxxkmadwykardungphm aelalaknanginkhnnnlngbnidma nxkcaknnthharyipunkhnhnungthamkhaphecaepnphasaxngkvssawa phramehsixyuthiihn chiphramehsiediywni khnathikhaphecakalngedinphanphratahnkihy khaphecasngektwaphratahnkihynnthukhxnglxmdwythharyipunaelakharachkarekahli aetkhaphecaimxacthrabidwakhanginnnmiehtukarnidekidkhun nkprawtisastrekahlieriykehtukarnlxbplngphrachnmphramehsiminwa ehtukarnpixulmi ekahli 을미사변 hlngcakehtukarnphraecaokhcngaelaecachayrchthayathesdcliphyyngsthankngsulrsesiyinosl thangfayrthbalyipunmikartngkhxklawhaaekrachthutmixuraokoraelaphurwmkxkarthnghmd aetthwathnghmdphnkhxklawhaenuxngcakimmihlkthanyunynkarkrathakhwamphid txmakh s 1897 phraecaokhcngthrngsthapnackrwrrdiekahli Korean Empire aelacdphithiphrabrmsphihaekphramehsiminxyangsmphraekiyrti odyichkhbwnaehphrabrmsphprakxbipdwythharkwa 5 000 nay aemwaphrabrmsphthihlngehluxxyunncaprakxbipdwyephiyngphradchnihnungethann hlngswrrkhtipaelwphramehsiminidrbphranamwa smedcphrarachinimyxngsxng aelatxmaemuxphraecaokhcngthrngprabdaphieskepnphrackrphrrdikhwangmu phramehsimyxngsxngcungidrbkareluxnkhunepn smedcphrackrphrrdinimyxngsxnginthisud karcakipkhxngckrphrrdinimyxngsxngepnchwngthiphranangmiphrachnmayu 43 phrrsaethannxangxingQueen Min of Korea Coming to Power http www gkn la net history resources queen min tmsimbirtseva 1996 htm 2006 02 17 thi ewyaebkaemchchin http www network54 com Forum 371173 thread 1107606949 last 1107606949 Japanese Raped the Last Queen of Korea Before Burning Her Alive khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 02 01 subkhnemux 2014 03 14 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2006 02 17 subkhnemux 2009 12 20 Frederick Arthur Mackenzie The Tragedy of Korea 1st 1908 Reprinted 2006 ISBN 1 901903 09 5 Frederick Arthur Mackenzie Korea s Fight for Freedom Revised 2006 ISBN 1 4280 1207 9 See also Project Gutenberg Isabella Bird Korea and her Neighbours 1898 Reprinted 1987 ISBN 0 8048 1489 9 Martina Dechler Culture and the State in Late Choson Korea 1999 ISBN 0 674 00774 3 Woo Keun Han The History of Korea 1996 ISBN 0824803345 James Bryant Lewis Frontier Contact between Choson Korea and Tokugawa Japan 2003 ISBN 0 7007 1301 8 Andrew C Nahm Introduction to Korean History and Culture 1997 ISBN 0 930878 08 6 Andrew C Nahm A History of the Korean People Tradition amp Transformation 1996 ISBN 0930878566 Hongjong Yu The Last Empress of the Lost Empire A Comprehensive Study of Empress Myeongseong Hwanghu 2003 Emperor of Japan Meiji and His World 1852 1912 Columbia University Press 2002 ISBN 023112340X Andre Schmid Korea Between Empires 1895 1919 Columbia University Press 2002 ISBN 0231125380 Peter Duus The Abacus and the Sword The Japanese Penetration of Korea 1895 1910 1998 ISBN 0520213610 Han Young woo Empress Myeongseong and Korean Empire 명성황후와 대한제국 2001 Hyohyeong Publishing ISBN 8986361574duephimemiyngsxng ckrphrrdinithiolklumaehlngkhxmulxunMaking of an Asian hit A Korean royal tragedy in the Broadway style 2006 03 22 thi ewyaebkaemchchin by Ricardo Saludo Asia Week 18 thnwakhm kh s 1998 Characteristics of Queen of Corea The New York Times 10 phvscikayn kh s 1895 Japanese Document Sheds New Light on Korean Queen s Murder 2005 01 13 thi ewyaebkaemchchin by Yoo Seok jae The Chosun Ilbo 12 mkrakhm kh s 2005 Empress Myeongseong OST Error No page id specified thiyuthubkxnhna ckrphrrdinimyxngsxng thdipsmedcphrarachinichxrin smedcphrarachiniaehngochsxn 20 minakhm kh s 1866 8 tulakhm kh s 1895 smedcphrackrphrrdinisuncxng