สตีเฟน จอห์น แนช (Stephen John Nash) หรือ สตีฟ แนช (Steve Nash) (เกิด 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2517 ที่โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้) เป็นอดีตนักบาสเกตบอลชาวแคนาดา
แนชในปี 2014 | |||||||||||||||||||||||
ข้อมูลส่วนบุคคล | |||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เกิด | โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1974||||||||||||||||||||||
สัญชาติ | แคนาดา | ||||||||||||||||||||||
ส่วนสูงที่ระบุ | 6 ft 3 in (1.91 m) | ||||||||||||||||||||||
น้ำหนักที่ระบุ | 178 lb (81 kg) | ||||||||||||||||||||||
ข้อมูลอาชีพ | |||||||||||||||||||||||
ไฮสกูล | () | ||||||||||||||||||||||
วิทยาลัย | (1992–1996) | ||||||||||||||||||||||
/ รอบ: 1 / เลือก: 15 โอเวอร์ออล | |||||||||||||||||||||||
เลือกโดย | |||||||||||||||||||||||
การเล่นอาชีพ | 1996–2015 | ||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | พอยท์การ์ด | ||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 13, 10 | ||||||||||||||||||||||
Coaching career | 2020–present | ||||||||||||||||||||||
ประวัติอาชีพ | |||||||||||||||||||||||
As player: | |||||||||||||||||||||||
– | |||||||||||||||||||||||
– | ดัลลัส แมฟเวอริกส์ | ||||||||||||||||||||||
– | ฟีนิกส์ ซันส์ | ||||||||||||||||||||||
– | ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ | ||||||||||||||||||||||
As coach: | |||||||||||||||||||||||
– | |||||||||||||||||||||||
สถิติอาชีพ | |||||||||||||||||||||||
แต้ม | 17,387 (14.3 แต้มต่อเกม) | ||||||||||||||||||||||
รีบาวด์ | 3,642 (3.0 รีบาวด์ต่อเกม) | ||||||||||||||||||||||
แอสซิสต์ | 10,335 (8.5 แอสซิสต์ต่อเกม) | ||||||||||||||||||||||
หอเกียรติยศบาสเกตบอลในฐานะผู้เล่น | |||||||||||||||||||||||
FIBA Hall of Fame as player | |||||||||||||||||||||||
Medals
|
ด้วยส่วนสูงประมาณ 6 ฟุต 3 นิ้ว แนชเป็นพอยท์การ์ดตัวจริงให้กับทีมในลีกเอ็นบีเอ ได้รับเลือกให้เล่นในเกมรวมดารา (All-Star Game) ในปี ค.ศ. 2005 และ 2006 และยังได้รับเลือกก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 2002 และ 2003 ขณะเล่นให้กับทีมดัลลัส แมฟเวอริกส์ ในปี ค.ศ. 2005 แนช ได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) โดยเฉือนเอาชนะแชคิล โอนีลจากทีม และยังได้รางวัลนี้อีกครั้งในปี ค.ศ. 2006
วัยเด็ก
แนช เกิดในประเทศแอฟริกาใต้เนื่องจากบิดาเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ครอบครัวก็ย้ายมาตั้งหลักในประเทศแคนาดาก่อนที่แนชจะมีอายุครบสองขวบ เหตุผลที่ย้ายเพราะครอบครัวของแนชไม่ต้องการเห็นลูก ๆ ของเขาเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่มี
แนชมาจากครอบครัวนักกีฬา จอห์น แนช (John Nash) บิดาของเขาเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในแอฟริกาใต้ มาร์ติน แนช (Martin Nash) น้องชายเขาได้เล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติแคนาดามากกว่า 30 ครั้ง โจแอน (Joann) น้องสาวเป็นกัปตันทีมฟุตบอลที่
แนชเติบโตขึ้นที่เมืองวิกตอเรีย บริติชโคลัมเบีย และเล่นบาสเกตบอลระดับไฮสกูลที่โรงเรียนเซนต์ไมเคิลยูนิเวอร์ซิตี (St. Michaels University School) ในปีสุดท้ายเขาทำได้เฉลี่ยเกือบเป็นทริปเปิล-ดับเบิลต่อเกม โดยได้เกิน 21 คะแนน 11 แอสซิสต์ และ 9 รีบาวด์ และพาทีมไปคว้าแชมป์ของรัฐบริติชโคลัมเบียในระดับ AAA และเป็นผู้เล่นแห่งปีประจำรัฐ แต่ไม่มีมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริการะดับเอ็นซีดับเบิลเอ (NCAA) ไหนที่เสนอทุนการศึกษาให้กับแนชเลย เอียน ไฮด์-เลย์ (Ian Hyde-Lay) โค้ชของเขาส่งจดหมายและเทปการเล่นของแนชไปยังมหาวิทยาลัยอเมริกันมากกว่า 30 แห่ง แต่ได้รับการปฏิเสธหรือไม่มีการตอบกลับมา
แต่หัวหน้าโค้ช (Santa Clara University) ดิก เดวี (Dick Davey) ได้รับคำแนะนำและขอเทปการเล่นถึงสองครั้งก่อนที่จะเดินทางจากแคลิฟอร์เนียไปพบแนชด้วยตัวเอง หลังจากชมการเล่นของแนชแล้ว แนชก็ได้รับทุนของมหาวิทยาลัยซานตาคลาราก่อนฤดูกาล 1992-93 ซึ่งต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นนักบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งใน (West Coast Conference, WCC) เลยทีเดียว
ระดับมหาวิทยาลัย
ตอนอยู่ปีหนึ่ง (ฤดูกาล 1992-93) แนชช่วยให้ซานตาคลารา หรือบรองโกส์ (Broncos) คว้าแชมป์ของทัวนาเมนต์เวสโคสต์คอนเฟอเรนซ์ และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในทัวนาเมนต์ของเอ็นซีดับเบิลเอโดยอัตโนมัติ แนชยังเป็นนักกีฬาปีหนึ่งคนแรกที่ได้ในทัวนาเมนต์ WCC ส่วนในรอบแรกของทัวนาเมนต์ NCAA เขาทำให้ทีมซึ่งจัดอยู่ในอันดับ 15 เอาชนะทีมอันดับสองของสายคือ ด้วยคะแนน 64-61 แนชชู้ตลูกโทษได้ติดต่อกัน 6 ลูกในช่วง 31 วินาทีสุดท้ายเพื่อเก็บชัยชนะ
ถึงแม้ว่าแนชจะเล่นได้ดีตอนอยู่ปีสอง (ฤดูกาล 1993-94) แต่ทีมกลับไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้และไม่เข้าไปเล่นในทัวนาเมนต์ NCAA แต่มหาวิทยาลัยก็สามารถกลับมารุ่งอีกครั้งในปีถัดมาจากการเล่นของแนช ปีนี้แนชทำคะแนน, แอสซิสต์ และเปอร์เซนต์การชู้ตสามคะแนนเป็นอันดับแรกในคอนเฟอเรนซ์ และเป็นผู้เล่นแห่งปีของ WCC แต่แนชและเพื่อนร่วมทีมก็ไม่สามารถเอาชนะในรอบแรก แนชเคยคิดที่จะเข้าดราฟในเอ็นบีเอหลังจากจบปีสาม แต่เปลี่ยนใจเมื่อรู้ว่าเขาจะไม่ถูกดราฟสูงกว่ารอบที่สอง จึงต้องอยู่พัฒนาฝีมือต่อในมหาวิทยาลัยอีกปี
แล้วแนชก็ทำเช่นนั้น โดยช่วงปิดฤดูร้อนได้ฝึกซ้อมกับผู้เล่นเอ็นบีเอ อย่าง (Jason Kidd) และ (Gary Payton) เนื่องจากตอนนั้นเขาเริ่มเป็นที่สนใจของสื่อ พอถึงฤดูกาล 1995-96 แนชพาทีมของเขาซึ่งจัดอยู่ในสายระดับปานกลางเอาชนะทีมอย่างยูซีแอลเอ และมิชิแกนสเตตในช่วงแรก ๆ ของฤดูกาล ซานตาคลาราเป็นแชมป์ WCC อีกสมัย และแนชก็เป็นผู้เล่นแห่งปีของ WCC สองสมัยติดต่อกัน เขาสิ้นสุดอาชีพการเล่นระดับมหาวิทยาลัย ด้วยสถิติแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาล คือ 510 แอสซิสต์ ชู้ตลูกโทษดีที่สุดที่ .862 (หรือ 86.2%) ชู้ตสามแต้มได้มากที่สุด (263 ครั้ง)
เมื่อกันยายน ค.ศ. 2006 มหาวิทยาลัยซานตาคลารา ก็ได้หมายเลข 11 ของเขา ถือเป็นนักกีฬาคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้
อาชีพการเล่นในเอ็นบีเอ
อยู่กับฟีนิกส์ในสมัยแรก
แนชได้รับเลือกเป็นคนที่ 15 ในการดราฟรอบแรกของเอ็นบีเอเมื่อปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996) โดยทีม ไม่เคยมีชาวแคนาดาคนไหนที่ถูกเลือกในอันดับสูงเช่นนี้ แต่สิ่งนี้กลับไม่มีความหมายกับแฟนของทีมซันส์และโห่ทีมที่เลือกแนช ถึงแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในระดับมหาวิทยาลัย แต่เขาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเพราะไม่ได้เล่นให้มหาวิทยาลัยในคอนเฟอเรนซ์ที่มีชื่อเสียง เขาเล่นสำรองให้กับดาราในเอ็นบีเอคือ (Jason Kidd) และ (Kevin Johnson) อยู่สองปี ในปีแรก คือฤดูกาล 1996-97 แนชทำเฉลี่ยเพียง 3.3 แต้ม และ 2.1 แอสซิสต์เนื่องจากได้เล่นน้อย แต่ด้วยความพยายามเขาได้ลงสนามมากขึ้นในฤดูกาล 1997-98 และทำเฉลี่ยเพิ่มเป็น 9.1 แต้ม 3.4 แอสซิสต์ แต่ปีนั้นก็เป็นปีสุดท้ายที่แนชจะเล่นให้ทีมซันส์ก่อนที่จะไปอยู่ทีมอื่นเป็นเวลาหกปี
ดัลลัส
แนชได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับผู้ช่วยโค้ชทีมดัลลัส แมฟเวอริกส์ ตอนที่แนชอยู่ที่ซานตาคลารา และแนลสันทำงานให้กับทีมซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ต่อมาเนลสันรับงานใหม่กับทีมซันส์ เขาเป็นคนแนะให้ทีมเลือกแนช หลังจากเขาย้ายไปดัลลัส เนลสันก็ได้เสนอให้บิดาของเขา ซึ่งในขณะนั้นเป็นโค้ชและผู้จัดการทั่วไปของทีมแมฟเวอริกส์ดึงตัวแนชมา ในวันดราฟ มิถุนายน พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) แนช ก็ถูกเทรดจากซันส์ไปแมฟเวอริกส์เพื่อแลกกับ Martin Müürsepp, บับบา เวลส์ (Bubba Wells), สิทธิ์ในการดราฟ แพท แกร์ริตี (Pat Garrity) และสิทธิ์การดราฟรอบแรกซึ่งซันส์ใช้การเลือก (Shawn Marion)
ปีแรกที่เล่นให้ดัลลัส เป็นฤดูกาลที่สั้นกว่าปกติเนื่องจากมีการประท้วงหยุดเล่น แนชไม่ได้ลงเล่น 10 เกมเพราะเจ็บหลัง และแฟนต่างโห่แนชตลอดทั้งฤดูกาลเพราะไม่พอใจการเทรดของทีม
ในฤดูกาล 1999-2000 ถึงแม้ว่าแนชจะพักไป 25 เกมจากการบาดเจ็บข้อเท้า เขากลับมาเล่นและทำดับเบิล-ดับเบิลหกครั้งในเดือนสุดท้ายของการเล่น และจบฤดูกาลทำเฉลี่ย 8.6 แต้ม 4.9 แอสซิสต์ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือแนช และเพื่อนร่วมทีม (Dirk Nowitzki) พัฒนาฝีมือไปสู่ระดับซูเปอร์สตาร์ ในขณะที่ผู้เล่นมากประสบการณ์ (Michael Finley) ก็สร้างผลงานในระดับออลสตาร์ รวมถึงเจ้าของทีมคนใหม่ (Mark Cuban) ก็นำเอาพลังและความเร้าใจมาใส่ในทีม เหล่านี้เสริมให้แนชพัฒนาเกมการเล่นขึ้นมาก
ในฤดูกาล 2000-01 แนชทำเฉลี่ยถึง 15.3 คะแนน 7.3 แอสซิสต์ต่อเกม ได้ตำแหน่ง Comeback Player of the Year จากนิตยสาร Basketball Digest จากการนำเกมการบุกของแนช และการเล่นในระดับสูงของโนวิตสกี และ ฟินลี รวมทั้งผู้เล่นออลสตาร์ ที่เข้าร่วมทีมมาเสริมการทำคะแนนของทั้งสาม แมฟเวอริกส์ได้เข้าเล่นในเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี ดัลลัสแพ้ในรอบที่สอง แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าเพลย์ออฟติดต่อกันหลายสมัยของแนชและแมฟเวอริกส์
ฤดูกาล 2001-02 แนชทำได้สูงสุดในอาชีพ ที่ 17.9 คะแนน 7.7 แอสซิสต์ และได้เข้าเล่นในเกมรวมดาราของเอ็นบีเอ และได้เลือกเป็น ออล-เอ็นบีเอ ทีมสาม ตอนนี้เขาเป็นออลสตาร์ เริ่มปรากฏในโฆษณาทางโทรทัศน์ และเป็นส่วนหนึ่งของ Big Three ร่วมกับฟินลี และ โนวิตสกี ทั้งสามยังปรากฏตัวร่วมกันในภาพยนตร์ Like Mike ดัลลัสได้เล่นเพลย์ออฟอีกครั้ง และตกรอบสอง แต่ทีมก็มีความหวังมากขึ้นในฤดูกาลต่อไป
แนชเกือบจะทำได้เหมือนฤดูกาลก่อนหน้านั้น ในปี 2002-03 เฉลี่ยได้ 17.7 แต้ม 7.3 แอสซิสต์ต่อเกม ได้เข้าเล่นในออลสตาร์และเลือกเป็น ออล-เอ็นบีเอ ทีมสาม อีกครั้ง แนชและโนวิตสกีเปิดฤดูกาลโดยการชนะติดต่อกัน 14 เกม ซึ่งนำไปสู่เพลย์ออฟรอบสุดท้ายของสายตะวันตก และแพ้ให้กับซานแอนโตนิโอ สเปอรส์ซึ่งคว้าแชมป์ในปีนั้น
แต่แนช และ Big Three ไปได้ไกลสุดเพียงแค่นี้ ฤดูกาล 2003-04 แนชทำคะแนนตกลงเหลือ 14.5 ต่อเกมและไม่ได้เล่นในออลสตาร์และไม่ติดทีม ออล-เอ็นบีเอ แต่เปอร์เซนต์การชู้ตสูงขึ้นจากฤดูกาลที่แล้ว 46.5 ไปเป็น 47% แอสซิสต์เฉลี่ย 8.8 และเปอร์เซนต์การชู้ตลูกโทษ 91.6% ถือเป็นค่าสูงสุดตลอดอาชีพการเล่น อย่างไรก็ตาม ดัลลัสไม่สามารถผ่านเพลย์ออฟรอบแรกได้ เป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1999-2000
และเมื่อสัญญาของแนชหมดอายุลง แนชพยายามเจรจาเซ็นสัญญาระยะยาวกับ มาร์ก คิวบัน แต่ก็ไม่สำเร็จ คิวบันไม่ต้องการสูญเสียแนชไป แต่ต้องการสร้างทีมของเขาจากโนวิตสกี และไม่อยากเสี่ยงเซ็นสัญญาระยะยาวกับแนชที่มีอายุมากแล้ว คิวบันจึงได้เสนอสัญญา 4 ปี มูลค่าประมาณ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และโอกาสสำหรับปีที่ 5 ถ้าเล่นดี คิวบันเขียนบันทึกไว้ว่าเป็นสัญญาที่ยุติธรรมและถ้าแนชได้ข้อเสนอที่ดีกว่า แนชก็ควรที่จะรับไว้และเขาก็จะยินดีด้วย แนชค้นหาข้อตกลงอื่นและสุดท้ายลงเอยกับฟีนิกส์ ซึ่งเขาก็ยังมีบ้านอยู่ ซันส์เสนอแนช ซึ่งขณะนั้นอายุ 30 ปีแล้ว ด้วยสัญญาระยะ 6 ปีรวมเป็นเงิน 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แนชลังเลที่จะออกจากดัลลัสและถามคิวบันว่าจะเสนอสัญญาระดับเดียวกันหรือไม่ ซึ่งคิวบันลังเลและแนชก็เซ็นกับซันส์ในที่สุด
อยู่กับฟีนิกส์สมัยที่สอง
ฟีนิกส์ซันส์มีผู้เล่นอายุน้อยแต่อยู่ระดับซูเปอร์สตาร์สองคน คือ ฟอร์เวิร์ด และฟอร์เวิร์ด-เซ็นเตอร์ (Amare Stoudemire) ซึ่งได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Rookie of the Year) ของฤดูกาล 2002-03 ถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นที่มีพรสวรรค์และอายุไม่มาก แต่ทีมก็ทำสถิติชนะเพียง 29 เกมแพ้ 53 เกมในฤดูกาล 2003-04 ทีมแทบไม่เปลี่ยนแปลงนอกจากแนชและสวิงแมน (Quentin Richardson) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าทีมจะได้ผลงานอยู่ระดับล่าง ๆ ของคอนเฟอเรนส์ตะวันตก
หัวหน้าโค้ช (Mike D'Antoni) ผู้เข้ามารับตำแหน่งกลางฤดูกาลที่ผ่านมา ปรับมาใช้แผนการเล่นแบบ (run and gun) ซึ่งเคยนิยมในสมัยคริสต์ทศวรรษ 1980 ใช้ผู้เล่นตัวเล็กและคล่องแคล่ว แดนโทนีให้แนชเล่นเกมบุกแบบฟาสต์เบรก (fastbreak) พยายามวิ่งแซงผู้เล่นทีมรับฝ่ายตรงข้ามไปเข้าทำคะแนนที่ห่วง ทุกคนได้สิทธิ์ในการชู้ตลูกตลอดเวลา ผลลัพธ์ที่ได้คือทีมที่ทำคะแนนได้สูงสุดในทศวรรษ โดยทำได้เฉลี่ย 110.4 คะแนนต่อเกมในฤดูกาลปกติ การส่งลูกที่แม่นยำของแนช ไปยัง สเตาเดอไมร์ แมริออน ริชาร์ดสัน และ (Joe Johnson) เพื่อยัดลงห่วงหรือที่เรียกว่า alley oop ปรากฏในทีวีเป็นเพลย์เด่น ๆ จำนวนมาก
ซันส์ทำสถิติชนะ 31 แพ้ 5 ก่อนที่แนชจะบาดเจ็บในเกมถัดไป ซันส์แพ้ติดต่อกันสามเกมที่แนชไม่ได้ลงเล่น หลังจากแนชกลับเข้าทีม ทีมก็ชนะ 4 ใน 5 เกม และ 8 ใน 9 เกมถัดไป ซันส์จบฤดูกาลด้วยสถิติที่ดีที่สุดของเอ็นบีเอ คือ ชนะ 62 แพ้ 20 ซึ่งชนะมากกว่าฤดูกาลก่อนถึง 33 เกม
แนช ในตำแหน่งพอยท์การ์ดตัวจริง เป็นคนที่นำทีมให้กลับมาเก่งอีกครั้ง แม้ว่าเขาทำคะแนนเฉลี่ยเพียง 15.5 แต้มต่อเกม แต่เปอร์เซนต์การชู้ตของเขาอยู่ที่ 50.2% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในอาชีพการเล่น และไม่ค่อยพบในตำแหน่งการ์ด สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือแอสซิสต์เฉลี่ยที่ 11.5 ต่อเกม ซึ่งสูงสุดในอาชีพการเล่น และดีที่สุดในเอ็นบีเอฤดูกาลนั้น ในขณะที่ผู้เล่นอื่นทำได้ไม่เกิน 9 แนชยังทำดับเบิล-ดับเบิลรวมมากเป็นอันดับสาม รองจากเควิน การ์เน็ตและ และทำทริปเปิล-ดับเบิลครั้งที่สองในอาชีพเมื่อ 30 มีนาคม โดยได้ 12 คะแนน 12 แอสซิสต์ และ 13 รีบาวด์ในเวลาเพียง 27 นาที แนชมีส่วนช่วยทีมมากที่สุดโดยการทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นดีขึ้น พวกเขาทำสถิติหลายอย่างดีที่สุดเท่าที่เคยเล่น ทั้งเพื่อนร่วมทีมและบุคคลภายนอกต่างยกความดีความชอบให้กับแนช ในปีนั้นแนชคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเมื่อจบฤดูกาลปกติโดยเฉือนเอาชนะแชคิล โอนีล ถือเป็นผู้เล่นชาวแคนาดาคนแรกที่ได้รางวัลนี้ และเป็นคนที่สามที่เกิดนอกสหรัฐอเมริกาที่ได้รางวัล (ต่อจาก และ ทิม ดังแคน)
ในเพลย์ออฟ ฟีนิกส์เอาชนะเมมฟิส กริซลีส์ในรอบแรกก่อนที่จะพบกับทีมเก่าของเขาในรอบที่สอง แนชนำทีมชนะดัลลัส แมฟเวอริกส์ 4 เกมต่อ 2 ในการเล่นรอบสุดท้ายของสายตะวันออก ซันส์แพ้ทีมซานแอนโตนิโอ สเปอรส์ ใน 5 เกม ถึงแม้ว่าจะแพ้แต่แนชและซันส์ก็ยินดีกับการพัฒนาการและแนวโน้มที่ดีในอนาคต
ฤดูกาล 2005-2006
ฤดูกาลนี้ซันส์ขาดผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่แท้จริง และ มีผู้เล่นที่ยังไม่ค่อยได้ลงเล่นหลายคน เนื่องจากการบาดเจ็บ โดยเฉพาะ ผู้เล่นคนสำคัญซึ่งทั้งฤดูกาลได้เล่นเพียง 3 เกม จึงไม่ได้คาดว่าซันส์จะประสบความสำเร็จเท่าฤดูกาลที่แล้ว แต่ด้วยการนำทีมของแนช และการเล่นที่โดดเด่นของแมริออน และ ดิออ ซันส์ยังเป็นทีมที่เก่งในเอ็นบีเอ ซันส์ยังทำคะแนนสูงสุดในเอ็นบีเอ เฉลี่ยเกิน 100 ต่อเกม แนชถูกเลือกให้เป็นตัวจริงในการแข่งออลสตาร์ ฤดูกาลนี้แนชร่วมกับแมริออนนำทีมซันส์ให้ชนะ 54 เกมเป็นแชมป์สายแปซิฟิก แนชยังได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าอีกครั้งเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน และถือเป็นการ์ดคนที่สองที่ได้รับรางวัลนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง (อีกคนคือ แมจิก จอห์นสัน) รอบเพลย์ออฟฤดูกาลนี้ ซันส์เข้าถึงรอบชิงคอนเฟอเรนซ์ตะวันตกเช่นเดียวกับฤดูกาลที่แล้วและแพ้ให้กับทีมดัลลัส แมฟเวอริกส์
ฤดูกาล 2006-2007
ฤดูกาลนี้ แนชยังมีผลงานดีมากเช่นเคย เล่นเฉลี่ย 18.6 คะแนนและ 11.6 แอสซิสต์ต่อเกม ซึ่งเป็นค่าแอสซิสต์เฉลี่ยสูงสุดตลอดอาชีพการเล่น อีกทั้งยังเป็นคนแรกที่ทำได้ 18 แต้ม 11 แอสซิสต์ตลอดฤดูกาลปกติต่อจาก แมจิก จอห์นสัน ซึ่งเคยทำได้ในฤดูกาล 1990-91 ได้รับเลือกเป็น ออล-เอ็นบีเอ ทีมแรก พร้อมกับ อามาเร สเตาเดอไมร์ เพื่อนร่วมทีม และเกือบได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าติดต่อกันสามปีซ้อน โดยเป็นรอง
สถิติตลอดอาชีพการเล่นในเอ็นบีเอ
- สถิติเมื่อ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007
ฤดูกาลปกติ | ทีม | เกม | นาที/เกม | สตีล/เกม | บล็อก/เกม | รีบาวด์/เกม | แอสซิสต์/เกม | คะแนน/เกม | %การชู้ต | %การชู้ตสามแต้ม | %ลูกโทษ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฟีนิกส์ | 65 | 10.5 | 0.3 | 0.0 | 1.0 | 2.1 | 3.3 | 0.423 | 0.418 | 0.824 | |
ฟีนิกส์ | 76 | 21.9 | 0.8 | 0.0 | 2.1 | 3.4 | 9.1 | 0.459 | 0.415 | 0.860 | |
ดัลลัส | 40 | 31.7 | 0.9 | 0.0 | 2.9 | 5.5 | 7.9 | 0.363 | 0.374 | 0.826 | |
ดัลลัส | 56 | 27.4 | 0.7 | 0.0 | 2.2 | 4.9 | 8.6 | 0.477 | 0.403 | 0.882 | |
ดัลลัส | 70 | 34.1 | 1.0 | 0.1 | 3.2 | 7.3 | 15.6 | 0.487 | 0.406 | 0.895 | |
ดัลลัส | 82 | 34.6 | 0.6 | 0.0 | 3.1 | 7.7 | 17.9 | 0.483 | 0.455 | 0.887 | |
ดัลลัส | 82 | 33.1 | 1.0 | 0.1 | 2.9 | 7.3 | 17.7 | 0.465 | 0.413 | 0.909 | |
ดัลลัส | 78 | 33.5 | 0.9 | 0.1 | 3.0 | 8.8 | 14.5 | 0.470 | 0.405 | 0.916 | |
ฟีนิกส์ | 75 | 34.3 | 1.0 | 0.1 | 3.3 | 11.5 | 15.5 | 0.502 | 0.431 | 0.887 | |
ฟีนิกส์ | 79 | 35.4 | 0.8 | 0.2 | 4.2 | 10.5 | 18.8 | 0.512 | 0.439 | 0.921 | |
ฟีนิกส์ | 76 | 35.3 | 0.8 | 0.1 | 3.5 | 11.6 | 18.6 | 0.532 | 0.455 | 0.899 | |
ฟีนิกส์ | 27 | 34.6 | 0.6 | 0.0 | 3.8 | 12.4 | 17.3 | 0.516 | 0.468 | 0.933 | |
เฉลี่ยตลอดอาชีพการเล่น | 30.6 | 0.8 | 0.0 | 2.9 | 7.7 | 14.1 | 0.484 | 0.427 | 0.898 | ||
รวมตลอดอาชีพการเล่น | 806 | 24,683 | 642 | 57 | 2,354 | 6,224 | 11,373 | 4,109-8,481 | 1,124-2,630 | 2,031-2,262 |
เพลย์ออฟ | ทีม | เกม | นาที/เกม | สตีล/เกม | บล็อก/เกม | รีบาวด์/เกม | แอสซิสต์/เกม | คะแนน/เกม | %การชู้ต | %การชู้ตสามแต้ม | %ลูกโทษ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฟีนิกส์ | 4 | 3.8 | 0.2 | 0.2 | 0.3 | 0.3 | 1.3 | 0.222 | 0.250 | 0.000 | |
ฟีนิกส์ | 4 | 12.8 | 0.5 | 0.0 | 2.5 | 1.8 | 5.5 | 0.444 | 0.200 | 0.625 | |
ดัลลัส | 10 | 37.0 | 0.6 | 0.1 | 3.2 | 6.4 | 13.6 | 0.417 | 0.410 | 0.882 | |
ดัลลัส | 8 | 40.4 | 0.5 | 0.0 | 4.0 | 8.8 | 19.5 | 0.432 | 0.444 | 0.971 | |
ดัลลัส | 20 | 36.5 | 0.8 | 0.0 | 3.5 | 7.3 | 16.1 | 0.447 | 0.487 | 0.873 | |
ดัลลัส | 5 | 39.4 | 0.8 | 0.0 | 5.2 | 9.0 | 13.6 | 0.386 | 0.375 | 0.889 | |
ฟีนิกส์ | 15 | 40.7 | 0.9 | 0.2 | 4.8 | 11.3 | 23.9 | 0.520 | 0.389 | 0.919 | |
ฟีนิกส์ | 20 | 39.9 | 0.4 | 0.2 | 3.7 | 10.2 | 20.4 | 0.502 | 0.368 | 0.912 | |
ฟีนิกส์ | 11 | 37.5 | 0.4 | 0.1 | 3.2 | 13.3 | 18.9 | 0.463 | 0.487 | 0.891 | |
เฉลี่ยตลอดอาชีพการเล่น | 97 | 36.1 | 0.6 | 0.1 | 3.6 | 8.8 | 17.3 | 0.468 | 0.419 | 0.899 |
การเล่นระหว่างประเทศ
ช่วงปิดภาคฤดูร้อนสมัยที่แนชเรียนอยู่ปีหนึ่ง แนชเป็นตัวแทนทีมบริติชโคลัมเบียในการแข่ง และเล่นทีมชาติแคนาดาในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก โดยแนชได้เหรียญทองแดงและเหรียญเงิน ตามลำดับ
แนชเป็นกัปตันทีมชาติแคนาดาในการแข่งกีฬาโอลิมปิกปี 2000 ที่ซิดนีย์ นักวิจารณ์กีฬาคาดว่าแคนาดาจะมีสิทธิ์ลุ้นเหรียญรางวัล เมื่อทีมสามารถผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองสุดท้าย ทีมแพ้ฝรั่งเศสไป 5 คะแนนแต่เอาชนะรัสเซีย ได้อันดับ 7 ของทั้งหมด
แนชนำทีมแคนาดาอีกครั้งในรอบคัดเลือกเพื่อแข่งในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2004 แนชผิดหวังที่ไม่สามารถพาทีมไปอยู่สามอันดับแรกได้ ทำให้พลาดโอกาสไปแข่งโอลิมปิกส์
ฟุตบอล
แนชยังมีความสนใจกีฬาฟุตบอล และเคยเล่นฟุตบอลสมัยเด็ก ก่อนที่จะหันมาเล่นบาสเกตบอลเมื่ออยู่เกรดแปด เคยได้แชมป์ระดับรัฐสมัยอยู่ไฮสคูลและได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า ซึ่งแนชกล่าวว่าเป็นความทรงจำที่ชอบที่สุดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับกีฬา (one of my fondest memories in sports.) เนื่องจากบิดาของเขาเป็นคนเมืองทางตอนเหนือของลอนดอน แนชเชียร์ทีมสโมสรทอตแนมฮ็อตสเปอร์ อีกทั้งเคยพูดว่าต้องการเป็นเจ้าของทีมฮ็อตสเปอร์อีกด้วย แนชเคยลงซ้อมกับทีม ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์เมืองนิวยอร์ก
นอกสนาม
แนชก่อตั้งมูลนิธิสตีฟ แนช เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาส เขาได้ปฏิเสธงานโฆษณาหลายงานหลังจากที่คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าและเลือกที่จะเดินทางเพื่อการกุศลในอเมริกากลาง แนชยังใช้เวลาเยี่ยมเด็กที่ป่วยตามโรงพยาบาล
แนชยังแตกต่างจากผู้เล่นเอ็นบีเอคนอื่นตรงที่เขาสนใจด้านศิลปะและการเมือง เขาเลือกที่จะใส่เสื้อยืดที่เขียนข้อความว่า "No war -- Shoot for peace" เพื่อต่อต้านการที่สหรัฐโจมตีอิรักในเกมเอ็นบีเอ ออลสตาร์ ปี 2003 เขาอธิบายกับสื่อว่าสหรัฐไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอิรักเป็นภัยคุกคามและควรปล่อยให้ผู้ตรวจสอบจากสหประชาชาติได้ทำหน้าที่จนเสร็จก่อน
เมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2547 แนชกับแฟนของเขา อะเลจานดรา อะแมริลลา (Alejandra Amarilla) ก็มีลูกสาวฝาแฝดชื่อ ลอลา (Lola) และ เบลลา (Bella) แนชและแฟนสาวแต่งงานกันในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548
สรุปผลงานการเล่น
- 2 ครั้ง: 2005, 2006
- เกมรวมดาราเอ็นบีเอ 5 ครั้ง: 2002, 2003, 2005, 2006, 2007
- ออล-เอ็นบีเอ 5 ครั้ง:
- ทีมแรก: 2005, 2006, 2007
- ทีมที่สาม: 2002, 2003
- แอสซิสต์ต่อเกมเป็นอันดับหนึ่ง ในเอ็นบีเอฤดูกาลปกติ 3 ครั้ง: 2005 (11.5), 2006 (10.5), 2007 (11.6)
- แอสซิสต์รวมเป็นอันดับหนึ่ง ในเอ็นบีเอฤดูกาลปกติ 3 ครั้ง: 2005 (861), 2006 (826), 2007 (884)
- เปอร์เซนต์การชู้ตลูกโทษเป็นอันดับหนึ่ง ในเอ็นบีเอฤดูกาลปกติ: 2006 (.921)
- แอสซิสต์ต่อการเล่น 48 นาทีเป็นอันดับหนึ่ง ในเอ็นบีเอฤดูกาลปกติ 4 ครั้ง: 2004 (12.6), 2005 (16.1), 2006 (14.2), 2007 (15.8)
อ้างอิง
- "Steve Nash". National Basketball Association. สืบค้นเมื่อ 28 March 2020.
- ประวัติผู้เล่นจาก NBA.com profile (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550)
- PROFILE: Steve Nash[], Canoe.ca, 27 กันยายน ค.ศ. 2000 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550)
- Steve Nash is NBA Most Valuable Player, InsideHoops.com, 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- ข้อมูล Martin Nash 2009-04-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Canada Soccor.com (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- Not to Get Too Mystical About It, New York Times, 28 ตุลาคม ค.ศ. 2007 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- The Canadian Kid, Fastbreak Magazine, กันยายน/ตุลาคม ค.ศ. 1996 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- Steve Nash 2016-06-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, jockbio.com (เรียกดูข้อมูล 30 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- Former SCU Basketball Star Steve Nash Honored by Alma Mater, scu.edu, 18 กันยายน ค.ศ. 2006 (เรียกดูข้อมูล 30 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- Steve Nash Career Stats, NBA.com (เรียกดูข้อมูล 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- Bryant, Nowitzki, Duncan also part of All-NBA team, ESPN, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550)
- Dirk Nowitzki Wins 2006-07 MVP Award, NBA.com, 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550)
- NBA's Nash gets his kicks with MLS, USAToday, 10 สิงหาคม ค.ศ. 2006 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- NBA's biggest star shows interest in Spurs, Guardian.co.uk, 31 ตุลาคม ค.ศ. 2007 (เรียกดูข้อมูล 22 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- NBA statistics for 2003-04 NBA season - Assists: Per 48 Minutes, ESPN (เรียกดูข้อมูล 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- NBA statistics for 2004-05 NBA season - Assists: Per 48 Minutes, ESPN (เรียกดูข้อมูล 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- NBA statistics for 2005-06 NBA season - Assists: Per 48 Minutes, ESPN (เรียกดูข้อมูล 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
- NBA statistics for 2006-07 NBA season - Assists: Per 48 Minutes, ESPN (เรียกดูข้อมูล 25 ธันวาคม ค.ศ. 2007)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลผู้เล่นจาก Basketball-Reference.com 2013-05-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
stiefn cxhn aench Stephen John Nash hrux stif aench Steve Nash ekid 7 kumphaphnth ph s 2517 thiochnensebirk praethsaexfrikait epnxditnkbasektbxlchawaekhnadastif aenchaenchinpi 2014khxmulswnbukhkhlekid 1974 02 07 7 kumphaphnth kh s 1974 50 pi ochnensebirk praethsaexfrikaitsychatiaekhnadaswnsungthirabu6 ft 3 in 1 91 m nahnkthirabu178 lb 81 kg khxmulxachiphihskul withyaly 1992 1996 rxb 1 eluxk 15 oxewxrxxleluxkodykarelnxachiph1996 2015taaehnngphxythkardhmayelkh13 10Coaching career2020 presentprawtixachiphAs player dlls aemfewxriks finiks sns lxsaexneclis elekxrsAs coach sthitixachiphaetm17 387 14 3 aetmtxekm ribawd3 642 3 0 ribawdtxekm aexssist10 335 8 5 aexssisttxekm hxekiyrtiysbasektbxlinthanaphuelnFIBA Hall of Fame as playerMedals twaethnkhxng Canada dwyswnsungpraman 6 fut 3 niw aenchepnphxythkardtwcringihkbthiminlikexnbiex idrbeluxkihelninekmrwmdara All Star Game inpi kh s 2005 aela 2006 aelayngidrbeluxkkxnhnanninpi kh s 2002 aela 2003 khnaelnihkbthimdlls aemfewxriks inpi kh s 2005 aench idrangwlphuelnthrngkhunkha MVP odyechuxnexachnaaechkhil oxnilcakthim aelayngidrangwlnixikkhrnginpi kh s 2006wyedkaench ekidinpraethsaexfrikaitenuxngcakbidaekhaepnnkfutbxlxachiph aetkhrxbkhrwkyaymatnghlkinpraethsaekhnadakxnthiaenchcamixayukhrbsxngkhwb ehtuphlthiyayephraakhrxbkhrwkhxngaenchimtxngkarehnluk khxngekhaetibotinsingaewdlxmthimi aenchmacakkhrxbkhrwnkkila cxhn aench John Nash bidakhxngekhaekhyepnnkfutbxlxachiphinaexfrikait martin aench Martin Nash nxngchayekhaidelnihkbfutbxlthimchatiaekhnadamakkwa 30 khrng ocaexn Joann nxngsawepnkptnthimfutbxlthi aenchetibotkhunthiemuxngwiktxeriy britichokhlmebiy aelaelnbasektbxlradbihskulthiorngeriynesntimekhilyuniewxrsiti St Michaels University School inpisudthayekhathaidechliyekuxbepnthripepil dbebiltxekm odyidekin 21 khaaenn 11 aexssist aela 9 ribawd aelaphathimipkhwaaechmpkhxngrthbritichokhlmebiyinradb AAA aelaepnphuelnaehngpipracarth aetimmimhawithyalykhxngshrthxemrikaradbexnsidbebilex NCAA ihnthiesnxthunkarsuksaihkbaenchely exiyn ihd ely Ian Hyde Lay okhchkhxngekhasngcdhmayaelaethpkarelnkhxngaenchipyngmhawithyalyxemriknmakkwa 30 aehng aetidrbkarptiesthhruximmikartxbklbma aethwhnaokhch Santa Clara University dik edwi Dick Davey idrbkhaaenanaaelakhxethpkarelnthungsxngkhrngkxnthicaedinthangcakaekhlifxreniyipphbaenchdwytwexng hlngcakchmkarelnkhxngaenchaelw aenchkidrbthunkhxngmhawithyalysantakhlarakxnvdukal 1992 93 sungtxmaekhakidklayepnnkbasektbxlthiyingihythisudkhnhnungin West Coast Conference WCC elythiediywradbmhawithyalytxnxyupihnung vdukal 1992 93 aenchchwyihsantakhlara hruxbrxngoks Broncos khwaaechmpkhxngthwnaemntewsokhstkhxnefxerns aelaidsiththiekhaipelninthwnaemntkhxngexnsidbebilexodyxtonmti aenchyngepnnkkilapihnungkhnaerkthiidinthwnaemnt WCC swninrxbaerkkhxngthwnaemnt NCAA ekhathaihthimsungcdxyuinxndb 15 exachnathimxndbsxngkhxngsaykhux dwykhaaenn 64 61 aenchchutlukothsidtidtxkn 6 lukinchwng 31 winathisudthayephuxekbchychna thungaemwaaenchcaelnidditxnxyupisxng vdukal 1993 94 aetthimklbimprasbkhwamsaerctamthihwngiwaelaimekhaipelninthwnaemnt NCAA aetmhawithyalyksamarthklbmarungxikkhrnginpithdmacakkarelnkhxngaench piniaenchthakhaaenn aexssist aelaepxresntkarchutsamkhaaennepnxndbaerkinkhxnefxerns aelaepnphuelnaehngpikhxng WCC aetaenchaelaephuxnrwmthimkimsamarthexachnainrxbaerk aenchekhykhidthicaekhadrafinexnbiexhlngcakcbpisam aetepliynicemuxruwaekhacaimthukdrafsungkwarxbthisxng cungtxngxyuphthnafimuxtxinmhawithyalyxikpi aelwaenchkthaechnnn odychwngpidvdurxnidfuksxmkbphuelnexnbiex xyang Jason Kidd aela Gary Payton enuxngcaktxnnnekhaerimepnthisnickhxngsux phxthungvdukal 1995 96 aenchphathimkhxngekhasungcdxyuinsayradbpanklangexachnathimxyangyusiaexlex aelamichiaeknsettinchwngaerk khxngvdukal santakhlaraepnaechmp WCC xiksmy aelaaenchkepnphuelnaehngpikhxng WCC sxngsmytidtxkn ekhasinsudxachiphkarelnradbmhawithyaly dwysthitiaexssistsungsudtlxdkal khux 510 aexssist chutlukothsdithisudthi 862 hrux 86 2 chutsamaetmidmakthisud 263 khrng emuxknyayn kh s 2006 mhawithyalysantakhlara kidhmayelkh 11 khxngekha thuxepnnkkilakhnaerkthiidrbekiyrtinixachiphkarelninexnbiexxyukbfiniksinsmyaerk aenchidrbeluxkepnkhnthi 15 inkardrafrxbaerkkhxngexnbiexemuxpi ph s 2539 kh s 1996 odythim imekhymichawaekhnadakhnihnthithukeluxkinxndbsungechnni aetsingniklbimmikhwamhmaykbaefnkhxngthimsnsaelaohthimthieluxkaench thungaemwaekhacaprasbkhwamsaercinradbmhawithyaly aetekhaimkhxyepnthiruckephraaimidelnihmhawithyalyinkhxnefxernsthimichuxesiyng ekhaelnsarxngihkbdarainexnbiexkhux Jason Kidd aela Kevin Johnson xyusxngpi inpiaerk khuxvdukal 1996 97 aenchthaechliyephiyng 3 3 aetm aela 2 1 aexssistenuxngcakidelnnxy aetdwykhwamphyayamekhaidlngsnammakkhuninvdukal 1997 98 aelathaechliyephimepn 9 1 aetm 3 4 aexssist aetpinnkepnpisudthaythiaenchcaelnihthimsnskxnthicaipxyuthimxunepnewlahkpi dlls aenchidruckaelaepnephuxnkbphuchwyokhchthimdlls aemfewxriks txnthiaenchxyuthisantakhlara aelaaenlsnthanganihkbthimsungxyuikl kn txmaenlsnrbnganihmkbthimsns ekhaepnkhnaenaihthimeluxkaench hlngcakekhayayipdlls enlsnkidesnxihbidakhxngekha sunginkhnannepnokhchaelaphucdkarthwipkhxngthimaemfewxriksdungtwaenchma inwndraf mithunayn ph s 2541 kh s 1998 aench kthukethrdcaksnsipaemfewxriksephuxaelkkb Martin Muursepp bbba ewls Bubba Wells siththiinkardraf aephth aekrriti Pat Garrity aelasiththikardrafrxbaerksungsnsichkareluxk Shawn Marion piaerkthielnihdlls epnvdukalthisnkwapktienuxngcakmikarprathwnghyudeln aenchimidlngeln 10 ekmephraaecbhlng aelaaefntangohaenchtlxdthngvdukalephraaimphxickarethrdkhxngthim invdukal 1999 2000 thungaemwaaenchcaphkip 25 ekmcakkarbadecbkhxetha ekhaklbmaelnaelathadbebil dbebilhkkhrngineduxnsudthaykhxngkareln aelacbvdukalthaechliy 8 6 aetm 4 9 aexssist singthisakhyyingkwannkhuxaench aelaephuxnrwmthim Dirk Nowitzki phthnafimuxipsuradbsuepxrstar inkhnathiphuelnmakprasbkarn Michael Finley ksrangphlnganinradbxxlstar rwmthungecakhxngthimkhnihm Mark Cuban knaexaphlngaelakhwameraicmaisinthim ehlaniesrimihaenchphthnaekmkarelnkhunmak invdukal 2000 01 aenchthaechliythung 15 3 khaaenn 7 3 aexssisttxekm idtaaehnng Comeback Player of the Year caknitysar Basketball Digest cakkarnaekmkarbukkhxngaench aelakarelninradbsungkhxngonwitski aela finli rwmthngphuelnxxlstar thiekharwmthimmaesrimkarthakhaaennkhxngthngsam aemfewxriksidekhaelninephlyxxfepnkhrngaerkinrxbsibpi dllsaephinrxbthisxng aetkepncuderimtnkhxngkarekhaephlyxxftidtxknhlaysmykhxngaenchaelaaemfewxriks vdukal 2001 02 aenchthaidsungsudinxachiph thi 17 9 khaaenn 7 7 aexssist aelaidekhaelninekmrwmdarakhxngexnbiex aelaideluxkepn xxl exnbiex thimsam txnniekhaepnxxlstar erimpraktinokhsnathangothrthsn aelaepnswnhnungkhxng Big Three rwmkbfinli aela onwitski thngsamyngprakttwrwmkninphaphyntr Like Mike dllsidelnephlyxxfxikkhrng aelatkrxbsxng aetthimkmikhwamhwngmakkhuninvdukaltxip aenchekuxbcathaidehmuxnvdukalkxnhnann inpi 2002 03 echliyid 17 7 aetm 7 3 aexssisttxekm idekhaelninxxlstaraelaeluxkepn xxl exnbiex thimsam xikkhrng aenchaelaonwitskiepidvdukalodykarchnatidtxkn 14 ekm sungnaipsuephlyxxfrxbsudthaykhxngsaytawntk aelaaephihkbsanaexnotniox sepxrssungkhwaaechmpinpinn aetaench aela Big Three ipidiklsudephiyngaekhni vdukal 2003 04 aenchthakhaaenntklngehlux 14 5 txekmaelaimidelninxxlstaraelaimtidthim xxl exnbiex aetepxresntkarchutsungkhuncakvdukalthiaelw 46 5 ipepn 47 aexssistechliy 8 8 aelaepxresntkarchutlukoths 91 6 thuxepnkhasungsudtlxdxachiphkareln xyangirktam dllsimsamarthphanephlyxxfrxbaerkid epnphlnganthiaeythisudnbtngaetvdukal 1999 2000 aelaemuxsyyakhxngaenchhmdxayulng aenchphyayamecrcaesnsyyarayayawkb mark khiwbn aetkimsaerc khiwbnimtxngkarsuyesiyaenchip aettxngkarsrangthimkhxngekhacakonwitski aelaimxyakesiyngesnsyyarayayawkbaenchthimixayumakaelw khiwbncungidesnxsyya 4 pi mulkhapraman 9 landxllarshrthtxpi aelaoxkassahrbpithi 5 thaelndi khiwbnekhiynbnthukiwwaepnsyyathiyutithrrmaelathaaenchidkhxesnxthidikwa aenchkkhwrthicarbiwaelaekhakcayindidwy aenchkhnhakhxtklngxunaelasudthaylngexykbfiniks sungekhakyngmibanxyu snsesnxaench sungkhnannxayu 30 piaelw dwysyyaraya 6 pirwmepnengin 63 landxllarshrth aenchlngelthicaxxkcakdllsaelathamkhiwbnwacaesnxsyyaradbediywknhruxim sungkhiwbnlngelaelaaenchkesnkbsnsinthisud xyukbfinikssmythisxng finikssnsmiphuelnxayunxyaetxyuradbsuepxrstarsxngkhn khux fxrewird aelafxrewird esnetxr Amare Stoudemire sungidrbrangwlphuelnhnaihmyxdeyiymaehngpi Rookie of the Year khxngvdukal 2002 03 thungaemwacamiphuelnthimiphrswrrkhaelaxayuimmak aetthimkthasthitichnaephiyng 29 ekmaeph 53 ekminvdukal 2003 04 thimaethbimepliynaeplngnxkcakaenchaelaswingaemn Quentin Richardson nkwiekhraahswnihykhadwathimcaidphlnganxyuradblang khxngkhxnefxernstawntk hwhnaokhch Mike D Antoni phuekhamarbtaaehnngklangvdukalthiphanma prbmaichaephnkarelnaebb run and gun sungekhyniyminsmykhristthswrrs 1980 ichphuelntwelkaelakhlxngaekhlw aednothniihaenchelnekmbukaebbfastebrk fastbreak phyayamwingaesngphuelnthimrbfaytrngkhamipekhathakhaaennthihwng thukkhnidsiththiinkarchutluktlxdewla phllphththiidkhuxthimthithakhaaennidsungsudinthswrrs odythaidechliy 110 4 khaaenntxekminvdukalpkti karsnglukthiaemnyakhxngaench ipyng setaedximr aemrixxn richardsn aela Joe Johnson ephuxydlnghwnghruxthieriykwa alley oop praktinthiwiepnephlyedn canwnmak snsthasthitichna 31 aeph 5 kxnthiaenchcabadecbinekmthdip snsaephtidtxknsamekmthiaenchimidlngeln hlngcakaenchklbekhathim thimkchna 4 in 5 ekm aela 8 in 9 ekmthdip snscbvdukaldwysthitithidithisudkhxngexnbiex khux chna 62 aeph 20 sungchnamakkwavdukalkxnthung 33 ekm aench intaaehnngphxythkardtwcring epnkhnthinathimihklbmaekngxikkhrng aemwaekhathakhaaennechliyephiyng 15 5 aetmtxekm aetepxresntkarchutkhxngekhaxyuthi 50 2 sungepnsthitisungsudinxachiphkareln aelaimkhxyphbintaaehnngkard singthinaprathbicxikxyangkhuxaexssistechliythi 11 5 txekm sungsungsudinxachiphkareln aeladithisudinexnbiexvdukalnn inkhnathiphuelnxunthaidimekin 9 aenchyngthadbebil dbebilrwmmakepnxndbsam rxngcakekhwin karentaela aelathathripepil dbebilkhrngthisxnginxachiphemux 30 minakhm odyid 12 khaaenn 12 aexssist aela 13 ribawdinewlaephiyng 27 nathi aenchmiswnchwythimmakthisudodykarthaihephuxnrwmthimelndikhun phwkekhathasthitihlayxyangdithisudethathiekhyeln thngephuxnrwmthimaelabukhkhlphaynxktangykkhwamdikhwamchxbihkbaench inpinnaenchkhwarangwlphuelnthrngkhunkhaemuxcbvdukalpktiodyechuxnexachnaaechkhil oxnil thuxepnphuelnchawaekhnadakhnaerkthiidrangwlni aelaepnkhnthisamthiekidnxkshrthxemrikathiidrangwl txcak aela thim dngaekhn inephlyxxf finiksexachnaemmfis krislisinrxbaerkkxnthicaphbkbthimekakhxngekhainrxbthisxng aenchnathimchnadlls aemfewxriks 4 ekmtx 2 inkarelnrxbsudthaykhxngsaytawnxxk snsaephthimsanaexnotniox sepxrs in 5 ekm thungaemwacaaephaetaenchaelasnskyindikbkarphthnakaraelaaenwonmthidiinxnakht vdukal 2005 2006 vdukalnisnskhadphuelntaaehnngesnetxrthiaethcring aela miphuelnthiyngimkhxyidlngelnhlaykhn enuxngcakkarbadecb odyechphaa phuelnkhnsakhysungthngvdukalidelnephiyng 3 ekm cungimidkhadwasnscaprasbkhwamsaercethavdukalthiaelw aetdwykarnathimkhxngaench aelakarelnthioddednkhxngaemrixxn aela dixx snsyngepnthimthieknginexnbiex snsyngthakhaaennsungsudinexnbiex echliyekin 100 txekm aenchthukeluxkihepntwcringinkaraekhngxxlstar vdukalniaenchrwmkbaemrixxnnathimsnsihchna 54 ekmepnaechmpsayaepsifik aenchyngidrangwlphuelnthrngkhunkhaxikkhrngepnsmythisxngtidtxkn aelathuxepnkardkhnthisxngthiidrbrangwlnimakkwahnungkhrng xikkhnkhux aemcik cxhnsn rxbephlyxxfvdukalni snsekhathungrxbchingkhxnefxernstawntkechnediywkbvdukalthiaelwaelaaephihkbthimdlls aemfewxriks vdukal 2006 2007 vdukalni aenchyngmiphlngandimakechnekhy elnechliy 18 6 khaaennaela 11 6 aexssisttxekm sungepnkhaaexssistechliysungsudtlxdxachiphkareln xikthngyngepnkhnaerkthithaid 18 aetm 11 aexssisttlxdvdukalpktitxcak aemcik cxhnsn sungekhythaidinvdukal 1990 91 idrbeluxkepn xxl exnbiex thimaerk phrxmkb xamaer setaedximr ephuxnrwmthim aelaekuxbidrangwlphuelnthrngkhunkhatidtxknsampisxn odyepnrxngsthititlxdxachiphkarelninexnbiexsthitiemux 25 thnwakhm kh s 2007vdukalpkti thim ekm nathi ekm stil ekm blxk ekm ribawd ekm aexssist ekm khaaenn ekm karchut karchutsamaetm lukothsfiniks 65 10 5 0 3 0 0 1 0 2 1 3 3 0 423 0 418 0 824finiks 76 21 9 0 8 0 0 2 1 3 4 9 1 0 459 0 415 0 860dlls 40 31 7 0 9 0 0 2 9 5 5 7 9 0 363 0 374 0 826dlls 56 27 4 0 7 0 0 2 2 4 9 8 6 0 477 0 403 0 882dlls 70 34 1 1 0 0 1 3 2 7 3 15 6 0 487 0 406 0 895dlls 82 34 6 0 6 0 0 3 1 7 7 17 9 0 483 0 455 0 887dlls 82 33 1 1 0 0 1 2 9 7 3 17 7 0 465 0 413 0 909dlls 78 33 5 0 9 0 1 3 0 8 8 14 5 0 470 0 405 0 916finiks 75 34 3 1 0 0 1 3 3 11 5 15 5 0 502 0 431 0 887finiks 79 35 4 0 8 0 2 4 2 10 5 18 8 0 512 0 439 0 921finiks 76 35 3 0 8 0 1 3 5 11 6 18 6 0 532 0 455 0 899finiks 27 34 6 0 6 0 0 3 8 12 4 17 3 0 516 0 468 0 933echliytlxdxachiphkareln 30 6 0 8 0 0 2 9 7 7 14 1 0 484 0 427 0 898rwmtlxdxachiphkareln 806 24 683 642 57 2 354 6 224 11 373 4 109 8 481 1 124 2 630 2 031 2 262ephlyxxf thim ekm nathi ekm stil ekm blxk ekm ribawd ekm aexssist ekm khaaenn ekm karchut karchutsamaetm lukothsfiniks 4 3 8 0 2 0 2 0 3 0 3 1 3 0 222 0 250 0 000finiks 4 12 8 0 5 0 0 2 5 1 8 5 5 0 444 0 200 0 625dlls 10 37 0 0 6 0 1 3 2 6 4 13 6 0 417 0 410 0 882dlls 8 40 4 0 5 0 0 4 0 8 8 19 5 0 432 0 444 0 971dlls 20 36 5 0 8 0 0 3 5 7 3 16 1 0 447 0 487 0 873dlls 5 39 4 0 8 0 0 5 2 9 0 13 6 0 386 0 375 0 889finiks 15 40 7 0 9 0 2 4 8 11 3 23 9 0 520 0 389 0 919finiks 20 39 9 0 4 0 2 3 7 10 2 20 4 0 502 0 368 0 912finiks 11 37 5 0 4 0 1 3 2 13 3 18 9 0 463 0 487 0 891echliytlxdxachiphkareln 97 36 1 0 6 0 1 3 6 8 8 17 3 0 468 0 419 0 899karelnrahwangpraethschwngpidphakhvdurxnsmythiaencheriynxyupihnung aenchepntwaethnthimbritichokhlmebiyinkaraekhng aelaelnthimchatiaekhnadainkaraekhngkhnkilamhawithyalyolk odyaenchidehriyythxngaedngaelaehriyyengin tamladb aenchepnkptnthimchatiaekhnadainkaraekhngkilaoxlimpikpi 2000 thisidniy nkwicarnkilakhadwaaekhnadacamisiththilunehriyyrangwl emuxthimsamarthphanekhasurxbkxnrxngsudthay thimaephfrngessip 5 khaaennaetexachnarsesiy idxndb 7 khxngthnghmd aenchnathimaekhnadaxikkhrnginrxbkhdeluxkephuxaekhnginoxlimpikvdurxnpi 2004 aenchphidhwngthiimsamarthphathimipxyusamxndbaerkid thaihphladoxkasipaekhngoxlimpiksfutbxlaenchyngmikhwamsnickilafutbxl aelaekhyelnfutbxlsmyedk kxnthicahnmaelnbasektbxlemuxxyuekrdaepd ekhyidaechmpradbrthsmyxyuihskhulaelaidrangwlphuelnthrngkhunkha sungaenchklawwaepnkhwamthrngcathichxbthisuderuxnghnungekiywkbkila one of my fondest memories in sports enuxngcakbidakhxngekhaepnkhnemuxngthangtxnehnuxkhxnglxndxn aenchechiyrthimsomsrthxtaenmhxtsepxr xikthngekhyphudwatxngkarepnecakhxngthimhxtsepxrxikdwy aenchekhylngsxmkbthim sungepnthimfutbxlinemecxrliksxkekxremuxngniwyxrknxksnamaenchkxtngmulnithistif aench ephuxchwyehluxedkthidxyoxkas ekhaidptiesthnganokhsnahlaynganhlngcakthikhwarangwlphuelnthrngkhunkhaaelaeluxkthicaedinthangephuxkarkuslinxemrikaklang aenchyngichewlaeyiymedkthipwytamorngphyabal aenchyngaetktangcakphuelnexnbiexkhnxuntrngthiekhasnicdansilpaaelakaremuxng ekhaeluxkthicaisesuxyudthiekhiynkhxkhwamwa No war Shoot for peace ephuxtxtankarthishrthocmtixirkinekmexnbiex xxlstar pi 2003 ekhaxthibaykbsuxwashrthimmihlkthanchdecnwaxirkepnphykhukkhamaelakhwrplxyihphutrwcsxbcakshprachachatiidthahnathicnesrckxn emux 14 tulakhm ph s 2547 aenchkbaefnkhxngekha xaelcandra xaaemrilla Alejandra Amarilla kmiluksawfaaefdchux lxla Lola aela eblla Bella aenchaelaaefnsawaetngnganknineduxnmithunayn ph s 2548srupphlngankareln2 khrng 2005 2006 ekmrwmdaraexnbiex 5 khrng 2002 2003 2005 2006 2007 xxl exnbiex 5 khrng thimaerk 2005 2006 2007 thimthisam 2002 2003aexssisttxekmepnxndbhnung inexnbiexvdukalpkti 3 khrng 2005 11 5 2006 10 5 2007 11 6 aexssistrwmepnxndbhnung inexnbiexvdukalpkti 3 khrng 2005 861 2006 826 2007 884 epxresntkarchutlukothsepnxndbhnung inexnbiexvdukalpkti 2006 921 aexssisttxkareln 48 nathiepnxndbhnung inexnbiexvdukalpkti 4 khrng 2004 12 6 2005 16 1 2006 14 2 2007 15 8 xangxing Steve Nash National Basketball Association subkhnemux 28 March 2020 prawtiphuelncak NBA com profile eriykdukhxmul 22 thnwakhm ph s 2550 PROFILE Steve Nash lingkesiy Canoe ca 27 knyayn kh s 2000 eriykdukhxmul 22 thnwakhm ph s 2550 Steve Nash is NBA Most Valuable Player InsideHoops com 5 phvsphakhm kh s 2005 eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 khxmul Martin Nash 2009 04 25 thi ewyaebkaemchchin Canada Soccor com eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 Not to Get Too Mystical About It New York Times 28 tulakhm kh s 2007 eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 The Canadian Kid Fastbreak Magazine knyayn tulakhm kh s 1996 eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 Steve Nash 2016 06 17 thi ewyaebkaemchchin jockbio com eriykdukhxmul 30 thnwakhm kh s 2007 Former SCU Basketball Star Steve Nash Honored by Alma Mater scu edu 18 knyayn kh s 2006 eriykdukhxmul 30 thnwakhm kh s 2007 Steve Nash Career Stats NBA com eriykdukhxmul 25 thnwakhm kh s 2007 Bryant Nowitzki Duncan also part of All NBA team ESPN 14 phvsphakhm ph s 2550 eriykdukhxmul 22 thnwakhm ph s 2550 Dirk Nowitzki Wins 2006 07 MVP Award NBA com 15 phvsphakhm ph s 2550 eriykdukhxmul 22 thnwakhm ph s 2550 NBA s Nash gets his kicks with MLS USAToday 10 singhakhm kh s 2006 eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 NBA s biggest star shows interest in Spurs Guardian co uk 31 tulakhm kh s 2007 eriykdukhxmul 22 thnwakhm kh s 2007 NBA statistics for 2003 04 NBA season Assists Per 48 Minutes ESPN eriykdukhxmul 25 thnwakhm kh s 2007 NBA statistics for 2004 05 NBA season Assists Per 48 Minutes ESPN eriykdukhxmul 25 thnwakhm kh s 2007 NBA statistics for 2005 06 NBA season Assists Per 48 Minutes ESPN eriykdukhxmul 25 thnwakhm kh s 2007 NBA statistics for 2006 07 NBA season Assists Per 48 Minutes ESPN eriykdukhxmul 25 thnwakhm kh s 2007 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb stif aench khxmulphuelncak Basketball Reference com 2013 05 12 thi ewyaebkaemchchin