สงครามหมู (อังกฤษ: Pig War) เป็นความขัดแย้งทางพรมแดนระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร ในบริเวณ ระหว่าง (ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศแคนาดา) และรัฐวอชิงตัน ใน ค.ศ. 1859 สาเหตุที่มีการเรียกชื่อเช่นนี้ เป็นเพราะความขัดแย้งดังกล่าวเกิดจากการที่หมูตัวหนึ่งถูกยิงตาย ความขัดแย้งครั้งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อุบัติการณ์หมู สงครามหมูและมันฝรั่ง ข้อขัดแย้งพรมแดนซานฮวน และ ข้อพิพาทพรมแดนนอร์ทเวสต์เทิร์น อนึ่ง แม้ความขัดแย้งครั้งนี้จะถูกเรียกว่าสงคราม แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีการสูญเสียในด้านใด ๆ ยกเว้นหมูตัวข้างต้นเท่านั้น
สงครามหมู | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ข้อเสนอแบ่งเส้นเขตแดน: เส้นแบ่งเขตโดยใช้ (Haro Strait) เป็นเกณฑ์ เสนอโดยฝ่ายสหรัฐ เส้นแบ่งเขตโดยใช้ (Rosario Strait) เป็นเกณฑ์ เสนอโดยฝ่ายบริเตน เส้นแบ่งเขตโดยใช้ช่องแคบซานฮวน (San Juan Channel) เป็นเกณฑ์ ซึ่งประณีประนีประนอมระหว่างทั้งสองฝั่ง เส้นดังกล่าววาดตามแผนที่ในเวลานั้น เขตแดนในปัจจุบันแบ่งออกเป็นเส้นตรงและมีความคล้ายคลึงกับข้อเสนอในเส้นสีนํ้าเงิน ในขณะที่เขตแดนฝั่งตะวันออกของ มีความคล้ายคลึงกับข้อเสนอในเส้นสีแดง | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
| | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
| | ||||||
กำลัง | |||||||
กำลังพล 461 นาย ปืนใหญ่ 14 กระบอก | กำลังพล 2,140 นาย เรือรบ 5 ลำ ปืนใหญ่ 70 กระบอก | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
หมู 1 ตัว |
มูลเหตุ
ความคลุมเครือด้านดินแดน
การลงนามเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1846 ได้แก้ด้วยการแบ่งพรมแดนของและ ระหว่างสหรัฐกับสหราชอาณาจักรตามแนวละติจูดเหนือ ถึงกึ่งกลางของช่องแคบ (Channel) ซึ่งแยกแผ่นดินบนพื้นทวีปออกจาก และตัดผ่านกึ่งกลางของช่องแคบข้างต้นและไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มีช่องแคบ (Strait) อยู่สองช่องแคบที่สามารถนับได้ว่าเป็นจุดกึ่งกลางของช่องแคบนั้น คือ ตามแนวฝั่งตะวันตกของ และ ตามแนวฝั่งตะวันออก
ในขณะนั้น (ค.ศ. 1846) ภูมิศาสตร์ของภูมิภาคดังกล่าวยังคงมีความคลุมเครืออยู่บ้าง แผนที่ที่แพร่หลายที่สุดในเวลานั้น คือ แผนที่ของ ซึ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1798 และของ ซึ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1845 แผนทั้งสองฉบับต่างก็มีความคลุมเครือเกี่ยวบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะแวนคูเวอร์และ ดังนั้น อาณาบริเวณของช่องแคบฮาโรก็ถือว่าคลุมเครือเช่นกัน
ใน ค.ศ. 1856 สหรัฐและบริเตนได้ตั้งคณะกรรมาธิการพรมแดนขึ้นเพื่อสะสางปัญหาหลายประการเกี่ยวกับพรมแดนระหว่างประเทศ รวมถึงอาณาเขตทางน้ำจากถึง ฝ่ายบริเตนแต่งตั้ง เป็นเป็นคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่ง เป็นคณะกรรมาธิการคนที่สอง และวิลเลียม เอ. จี. ยัง (William A. G. Young) เป็นเลขานุการ ส่วนฝ่ายสหรัฐแต่งตั้ง อาชิบาลด์ แคมป์เบลล์ (Archibald Campbell) เป็นคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่ง เป็นคณะกรรมาธิการคนที่สอง และวิลเลียม เจ. วอร์เรน (William J. Warren) เป็นเลขานุการ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่ายพบกันเป็นครั้งแรกบน ของสหราชอาณาจักรในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1857 ขณะที่เรือกำลังจอดเทียบท่าใน ทั้งสองฝ่ายพบปะกันอีกหลายครั้งในปีเดียวกันที่และ โดยในช่วงว่างเว้นจากการประชุม ทั้งสองฝ่ายจะใช้จดหมายเป็นสื่อกลางในการหารือ ปัญหาอาณาเขตทางน้ำถูกนำมาอภิปรายตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม พรีวอสต์ยืนกรานนับตั้งแต่การประชุมครั้งแรกว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ของช่องแคบโรซาริโอตรงตามเงื่อนไขของสนธิสัญญา และเจตนารมณ์ของผู้ร่างสนธิสัญญา แคมป์เบลล์เองก็มีแนวคิดเช่นเดียวกันนี้กับช่องแคบฮาโร[]
ตามความเห็นของพรีวอสต์ "ช่องแคบ" ที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาจะต้องมีคุณสมบัติสามประการดังต่อไปนี้ คือ:
- จะต้องเป็นตัวแบ่งเกาะแวนคูเวอร์ออกจากภาคพื้นทวีป
- ต้องมีแนวพรมแดนไปในทางทิศใต้ (Southerly) และ
- ต้องสะดวกต่อการคมนาคมทางเรือ
พรีวอสต์เขียนไว้ว่า มีแต่ช่องแคบโรซาริโอเท่านั้นที่เข้าข่ายเงื่อนไขสามข้อนี้ ในขณะแคมป์เบลล์แย้งว่า นิยาม "ทิศใต้" ในสนธิสัญญานี้ มีความหมายตามความเข้าใจทั่วไป ที่ว่าช่องแคบโรซาริโอมิได้เป็นตัวแบ่งแผ่นดินภาคพื้นทวีปออกจากเกาะแวนคูเวอร์ หากแต่เป็นหมู่เกาะซานฮวนออกจาก และเกาะอื่น ๆ แคมป์เบลล์ยังโต้อีกว่าการคมนาคมทางเรือไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ และถึงแม้จะนำปัจจัยนั้นมาพิจารณา ช่องแคบฮาโรก็ยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่า เพราะมีความกว้างและมีเส้นทางเป็นเส้นตรง (Direct passage) มากกว่าช่องแคบโรซาริโอ ท้ายที่สุดแล้ว เขาท้าทายให้พรีวอสต์นำหลักฐานทีเสนอว่าคณะผู้ร่างสนธิสัญญาต้องการให้ใช้ช่องแคบโรซาริโอเป็นตัวแบ่งพรมแดน พรีวอสต์ตอบโต้ด้วยการอ้างถึงบรรดาแผนที่ของฝ่ายสหรัฐที่แสดงว่าเส้นพรมแดนพาดผ่านช่องแคบโรซาริโอ รวมไปถึงแผนที่ของ ที่ได้รับการแจกจ่ายและจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในรัฐบาลสหรัฐ และแผนที่อีกฉบับที่จัดทำโดยจอหน์ บี. เพรสตัน (John B. Preston) (Surveyor General) ประจำรัฐออริกอนใน ค.ศ. 1852 สำหรับเหตุผลข้ออื่น ๆ พรีวอสต์ได้ทำการยกเหตุผลเกี่ยวกับความสะดวกต่อการคมนาคมทางเรือของช่องแคบโรซาริโอ ความไม่สะดวกสำหรับการคมนาคมของช่องแคบระหว่างเกาะลัมมิ เกาะไซเพรส และเกาะฟิเดลโก และการที่แนวพรมแดนที่พาดผ่านช่องแคบโรซาริโอจะเป็นในไปในทางทิศใต้ ในขณะที่แนวพรมแดนที่พาดผ่านช่องแคบฮาโรจะเป็นในไปในทางทิศตะวันตกขึ้นมาประกอบอีกครั้งด้วย ทั้งสองฝ่ายประชุมหารือปัญหาต่อไปจนถึงเดือนธันวาคม ค.ศ. 1857 เมื่อเป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่าต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่ายหนึ่ง ในวันที่ 3 ธันวาคม พรีวอสต์จึงยื่นข้อเสนอสุดท้ายในการประชุมครั้งที่หก โดยเขาเสนอเสนอเส้นพรมแดนแบบประนีประนอม ซึ่งทอดผ่านช่องแคบซานฮวน อันจะทำให้สหรัฐได้เกาะหลัก ๆ ทั้งหมด เว้นแต่เกาะซานฮวน ข้อเสนอนี้ถูกปัดตกไป และคณะกรรมาธิการก็มีอันต้องหยุดชะงักลง โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เห็นพ้องที่จะกลับไปรายงานผลให้รัฐบาลของตนรับทราบ ดังนั้นความคลุมเครือในด้านพรมแดนทางน้ำจึงยังคงอยู่เช่นเดิม
ด้วยความคลุมเครือนี้เอง ทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักรจึงต่างก็อ้างสิทธิ์อำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะซานฮวน โดยในระหว่างช่วงเวลาที่มีการถกเถียงเรื่องอำนาจอธิปไตยอยู่นี้ ของบริเตน ได้เข้ามาดำเนินกิจการบนตัวเกาะซานฮวน และใช้พื้นที่ของเกาะเป็นทุ่งเลี้ยงแกะ ขณะเดียวกัน เมื่อถึงกลางปี 1859 ก็มีผู้ตั้งรกรากชาวอเมริกันจำนวนยี่สิบห้าถึงยี่สิบเก้ารายเดินทางมาถึงเกาะซานฮวน
ความสำคัญของเกาะซานฮวนไม่ได้อยู่ที่ขนาด แต่เป็นในด้านการทหาร ในขณะที่ฝ่ายบริเตนมีตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะแวนคูเวอร์ ซึ่งสามารถมองเห็นช่องแคบฆวน เด ฟูกา ปากทางเข้าของช่องแคบฮาโร อันจะนำไปสู่ช่องแคบจอร์เจีย ชาติที่สามารถครอบครองหมู่เกาะซานฮวนจะสามารถครอบงำเหล่าช่องแคบต่าง ๆ ที่เป็นตัวเชื่อมช่องแคบฆวน เด ฟูกากับช่องแคบจอร์เจียได้
บริบททางการเมือง
นายทหารผู้เป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมชั้นของ เมื่อครั้งศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ อ้างว่าพลจัตวา (ต่อมาได้เลี่อนยศเป็นพลตรี) และพิคเก็ทสมคบคิดอย่างลับ ๆ กับคนกลุ่มหนึ่งเพื่อก่อสงครามกับบริเตน โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างศัตรูร่วม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่างรัฐทางเหนือและรัฐทางใต้ แต่พันตรี (ต่อมาได้เลี่อนยศเป็นพันเอก) กล่าวหักล้างทฤษฎีของแม็คเคลเลน โดยฮาลเลอร์เห็นว่านายทหารทั้งสองต้องการก่อสงครามจริง แต่เป็นไปเพื่อดึงความสนใจของรัฐทางเหนือ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐทางใต้ประกาศเอกราชได้
ทฤษฎีของเขาเริ่มดูมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อมีผู้สังเกตว่าพันโท (ต่อมาได้เลี่อนยศเป็นพลตรี) รองผู้บังคับบัญชาของ ถูกลดบทบาทลงให้ไปทำหน้าที่สนับสนุน ร้อยเอกจอร์จ พิคเก็ท ผู้ได้รับอำนาจควบคุมอย่างอิสระเหนือพื้นที่จำนวนมากจากฮาร์นี นอกจากนี้ ฮาร์นียังมองข้ามเขาไปขณะกำลังพิจารณาว่าควรมอบอำนาจเหนือพื้นที่อันกว้างขว้างดังกล่าวนั้นแก่ผู้ใดด้วย
ในอีกมุมมองหนึ่ง อาจจะกล่าวได้ว่าพันโทเคซีไม่ได้ถูกลดบทบาทลงแต่อย่างใด เพราะเขาได้มอบหมายให้ไปบังคับการเรือกลไฟ เคซียังได้รับคำสั่งจากพันตรีฮาลเลอร์ให้ไปป้องกันและตรวจตราน่านน้ำบริเวณ นอกจากนี้ เขาได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติการนอกเหนือคำสั่งได้ใช้โดยดุลยพินิจของตนเอง เพราะเขาเป็นนายทหารผู้มีประสบการณ์ (หนังสือเกี่ยวกับยุทธวิธีทหารราบที่เคซีเป็นผู้เขียน ได้ใช้เป็นหนังสือแบบเรียนที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ระหว่างช่วงสงครามกลางเมือง)
อุบัติการณ์หมู
ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1859 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 13 ปีที่สนธิสัญญาออริกอนมีผลบังคับใช้พอดี ความคลุมเครือดังกล่าวได้นำไปสู่ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร โดยมีสาเหตุมาจากการที่ ไลแมน คัตลาร์ (Lyman Cutlar) เกษตรกรชาวอเมริกัน ผู้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ โดยอ้างสิทธิ์ในการอยู่อาศัยตาม (Donation Land Claim Act) พบหมูตัวหนึ่งกำลังขุดคุ้ยและกินของพืชผักในสวนของตนเอง นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น นายไลแมนจึงบันดาลโทสะยิงหมูตัวนั้นจนถึงแก่ความตาย ปรากฎว่าหมูตัวนั้นเป็นของชาลส์ กริฟฟิน (Charles Griffin) ชาวไอริช ผู้ได้รับการว่าจ้างจาก ให้มาดูแลฟาร์มแกะบนเกาะ นายชาลส์ยังเป็นเจ้าของหมูอีกหลายตัว ซึ่งเขาล้วนแต่ปล่อยให้พวกมันเดินเพ่นพ่านได้อย่างอิสระ ทั้งสองฝ่ายไม่มีเรื่องวิวาทกันจนกระทั้งเกิดเหตุยิงหมูนี้ขึ้น นายไลแมนเสนอจะจ่ายเงินชดเชยให้นายชาลส์เป็นจำนวน 10 ดอลลาร์สหรัฐ แต่นายชาลส์ไม่พอใจในข้อเสนอนี้ และเรียกเงินเป็นจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากได้รับคำตอบดังกล่าว นายไลแมนจึงมองว่าตนไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่นายชาลส์แต่อย่างใด เพราะหมูของนายชาลส์รุกล้ำที่ดินของเขา เรื่องเล่าสำนวนหนึ่งที่ไม่มีแหล่งที่มาบอกว่านายไลแมนพูดกับนายชาลส์ว่า "มัน [หมายถึงหมูตัวที่ถูกยิงตาย] เข้ามากินมันฝรั่งของผม" โดยที่นายชาลส์ตอบกลับไปว่า "มันเป็นหน้าที่ของแกที่จะต้องเอามันฝรั่งออกไปไกล ๆ จากหมูของฉัน" เมื่อทางการบริติชขู่จะจับกุมตัวนายไลแมน ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอเมริกันบนเกาะจึงเรียกร้องให้มีการการส่งกองทัพเข้ามาคุ้มกันพวกตน[]
การเข้ามามีส่วนร่วมของกองทัพ
ในช่วงแรก ผู้บังคับบัญชาของ ได้มอบหมายให้ และทหารอเมริกันอีกจำนวน 66 นาย จาก ภายใต้การนำของเขานำกำลังไปตั้งไว้ในเกาะซานฮวน พร้อมคำสั่งให้กระทำทุกวิถีทางเพื่อมิให้ฝ่ายบริเตนสามารถขึ้นฝั่งได้ โดยมีเรือรบ ทำหน้าที่เป็นผู้พากองทหารของพิคเก็ทไปยังเกาะซานฮวน ฝ่ายบริเตนกังวลว่าประชากรอเมริกันที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานโดยไม่ได้รับอนุญาตนี้จะยึดครองเกาะซานฮวนเอาไว้เองหากไม่มีผู้ใดขัดขวาง ทางบริเตนจึงส่ง เรือรบจำนวนสามลำ ภายใต้การบังคับบัญชาของ ไปยังเกาะซานฮวนเพื่อเป็นการถ่วงดุลกับฝ่ายอเมริกัน ฮอร์นบีเรียกร้องให้พิคเก็ทถอนกำลังออกจากเกาะ แต่พิคเก็ทปฎิเสธ ฮอร์นบีจึงขู่ว่าจะนำทหารฝ่ายตนยกพลขึ้นบก มีการอ้างว่าพิคเก็ทได้บอกกับทหารในบังคับบัญชาของตนว่า "อย่ากลัวปืนใหญ่ของพวกนั้น" ("Don't be afraid of their big guns") และพูดถึงคำขู่ของฝ่ายบริเตนอย่างเย้ยหยันว่า "เราจะทำให้ที่นี้กลายเป็น" ทำให้เขามีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ในช่วงแรก พิคเก็ทกับกองร้อยทหารราบและทหารปืนใหญ่ตั่งมั่นอยู่ที่ฟาร์มแกะเบลล์วูของ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณในปัจจุบัน และอยู่ในระยะยิงของเของฝ่ายบริเตนพอดี เมื่อมีผู้ชี้ความผิดพลาดทางยุทธวิธีนี้ให้พิคเก็ททราบ เขาจึงสั่งให้กองร้อยปืนใหญ่เคลื่อนพลไปทางที่สูง (High ground) ที่อยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งสามารถมองเห็นอ่าวกริฟฟินเบย์และได้ และไม่ไกลจากที่ตั้งเดิมเท่าใดนัก จากนั้นจึงมีการเริ่มสร้างเพื่อใช้เป็นกำบังให้กับปืนใหญ่[]
พิคเก็ทตั้งค่ายทหารอเมริกันอยู่ใกล้ทางใต้สุดของเกาะซานฮวน ปัจจุบันค่ายทหารนี้ถือเป็นหนึ่งในสองสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์บนตัวเกาะ โดยอีกสถานที่หนึ่งคือค่ายของเหล่าแห่งราชนาวีบริติช ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะเดียวกัน ร้อยตรี ผู้พึ่งสำเร็จการศึกษาจาก ทำหน้าที่กำกับดูแลการก่อสร้างแนวป้องกันของค่ายทหารฝ่ายอเมริกัน ต่อมาเมื่อเกิดสงครามกลางเมืองอเมริกาขึ้น เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งในแม่ทัพของ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ประพันธ์หนังสือ ด้วย แนวป้องกันที่โรเบิร์ตเป็นผู้สร้างถือว่าเป็นแนวป้องกันที่สามารถรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างดีที่สุดในสหรัฐ (ห่างออกไปทางตะวันออกของแนวป้องกันดังกล่าว คือที่ตั้งของเจคิลส์ลากูน [Jackle's Lagoon] ซึ่งตั้งชื่อตามจอร์จ เจคิล [George Jackle] ทหารนายหนึ่งที่มาประจำการอยู่บนเกาะนี้)
สถานการณ์ยังคงบานปลายต่อไป เมื่อถึงวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1859 ก็ปรากฎว่ามีทหารอเมริกันจำนวน 461 นาย พร้อมกับ ปืนใหญ่ 14 กระบอก ภายใต้การบังคับบัญชาของพันโท ตั้งมั่นประจันหน้ากับเรือรบห้าลำของฝ่ายบริเตน โดยเรือแต่ละลำมีปืนใหญ่รวมกัน 70 กระบอก และบรรทุกทหารอีกกว่า 2,140 นาย
ผู้ว่าการ ได้สั่งการให้ นำ ขึ้นฝั่งที่เกาะซานฮวนและเข้าปะทะกับฝ่ายอเมริกันที่นำโดยพลจัตวาฮาร์นี (กองกำลังของฮาร์นีได้เข้ายึดครองเกาะมาตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1859 แล้ว) ทว่าไบแนสกลับปฎิเสธที่จะทำตามคำสั่ง เพราะเขามองว่า "การที่ชาติยิ่งใหญ่สองชาติจะทำสงครามกันเพราะเหตุทะเลาะวิวาทจากหมูตัวเดียว" เป็นเรื่องโง่เง่าสิ้นดี ผู้บัญชาการของทั้งสองฝ่ายได้รับคำสั่งที่โดยรวมแล้วมีใจความเหมือนกัน คือ "จงป้องกันตนเอง แต่อย่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนเด็ดขาด" ทั้งทหารของฝ่ายบริติชและอเมริกันพูดจาเยาะเย้ยกันไปมา เพื่อหวังยั่วยุให้อีกฝ่ายยิงก่อน แต่ทหารของทั้งสองฝ่ายต่างก็สามารถรักษาระเบียบวินัยไว้ได้ และไม่มีฝ่ายใดลั่นกระสุนออกมาเลย[]
บทสรุป
เมื่อรัฐบาลของทั้งสองชาติทราบข่าวของวิกฤตการณ์ครั้งนี้ก็มีท่าที่ตื่นตระหนกเป็นอันมาก และเริ่มดำเนินการเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ข้อพิพาทระหว่างประเทศนี้รุนแรงขึ้น
ประธานาธิบดีเจมส์ บูแคนัน ส่งพลเอกไปเจรจากับ ในเดือนกันยายนเพื่อสะสางวิกฤตการณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นนี้ การเจรจานี้เป็นผลดีต่อสหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐกำลังให้ความสนใจอยู่กับปัญหาที่กำลังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ซึ่งต่อมาจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง พลเอกวินฟิลด์เคยทำหน้าที่เป็นผู้สะสางปัญหาด้านพรมแดนของชาติทั้งสองในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1830 เขาเดินทางถึงซานฮวนในเดือนตุลาคม และเริ่มกระบวนการเจรจากับผู้ว่าการดักลาส
ตามข้อตกลงของการเจรจา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะคงกำลังพลไม่เกิน 100 คนไว้บนเกาะในฐานะกองกำลังยึดครองร่วม จนกว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ ค่ายของฝ่ายบริติชถูกตั้งขึ้นตามแนวชายฝั่งทางเหนือของเกาะซานฮวน เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางและส่งเสบียง ส่วนค่ายของฝ่ายอเมริกันถูกตั้งขึ้นที่ทิศใต้บนทุ่งหญ้าพื้นสูงที่อยู่เหนือลม ซึ่งเป็นชัยภูมิที่เหมาะกับการตั้งปืนใหญ่ไว้ยิงเรือที่เดินทางเข้ามา ในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสหรัฐยังคงเชิญธงยูเนียนแจ็กขึ้นและลงจากยอดเสาเหนือบริเวณค่ายของฝ่ายบริติชเป็นประจำ ทำให้เกาะซานฮวนเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่แม้จะไม่มีสถานะทางการทูต แต่ข้ารัฐการของสหรัฐต้องนำธงชาติของประเทศอื่นเชิญขึ้นในสถานที่นั้น แม้การกระทำนี้จะมีจุดประสงค์เพื่อการรำลึกอย่างเดียวก็ตาม[]
ในช่วงของร่วมกันระหว่างทั้งสองชาติ กองกำลังเล็ก ๆ ของฝ่ายบริติชและอเมริกันบนเกาะซานฮวนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มักไปเยือนค่ายค่ายของอีกฝั่งเสมอ ๆ เมื่อถึงวาระฉลองวันหยุดประจำชาติของแต่ละฝ่าย และยังมีการแข่งขันกีฬาระหว่างกันอีกด้วย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสหรัฐกล่าวว่าภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดต่อสันติภาพบนเกาะคือ "เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก"[]
สภาวการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลากว่า 12 ปี ท้ายที่สุดแล้วความขัดแย้งนี้ก็ได้รับการสะสางลงด้วยดีและไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด เว้นเสียแต่การเผชิญหน้า (Confrontation) และการแสดงแสนยานุภาพทางทหารเพียงเท่านั้น โดยในช่วงก่อนที่ความขัดแย้งนี้จะได้รับการสะสาง รัฐบาลอาณานิคมท้องถิ่นพยายามโน้มน้าวรัฐบาลประเทศแม่ที่ลอนดอนให้ทำการยึดทั้งหมดกลับคืนมา โดยอาศัยความชุลมุนของสงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นตัวช่วย ต่อมาใน ค.ศ. 1866 อาณานิคมเกาะแวนคูเวอร์ถูกผนวกเข้ากับ กลายเป็น ใน ค.ศ. 1871 อาณานิคมนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ (Dominion of Canada) ในปีเดียวกันนั้นเอง สหราชอาณาจักรและสหรัฐได้ลงนามใน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาในหลายด้านระหว่างชาติทั้งสอง ร่วมไปถึงปัญหาทางด้านพรมแดนด้วย หนึ่งในข้อสรุปของสนธิสัญญานี้คือสหรัฐและสหราชอาณาจักรตกลงที่จะสะสางปัญหาข้อพิพาทเกาะซานฮวนผ่านทาง โดยมีจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 1 แห่งเยอรมนีเป็นประธานคณะอนุญาโตตุลาการ จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มทรงมอบหมายคดีดังกล่าวให้สมาชิกคณะอนุญาโตตุลาการจำนวนสามคนวินิฉัย คดีนี้ได้รับการพิจารณาที่นครเจนีวาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็ม ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1872 คณะอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินให้สหรัฐเป็นฝ่ายชนะ โดยคณะอนุญาโตตุลาการได้มีมติยอมรับเส้นแบ่งเขตแดนทางน้ำโดยใช้ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นเกณฑ์ ซึ่งสหรัฐเป็นผู้เสนอ ส่วนข้อเสนอของฝ่ายบริเตนที่ให้ใช้ที่อยู่ทางตะวันออกเป็นเกณฑ์เป็นอันตกไป
สหราชอาณาจักรถอนกำลังออกจากเกาะในวันที่ 25 พฤศจิกายนของปีนั้น ส่วนฝ่ายอเมริกันถอนกำลังออกไปไม่เกินเดือนกรฎาคม ค.ศ. 1874
ปัจจุบันยังคงมีพิธีรำลึกสงครามหมูในเป็นประจำ
บุคคลสำคัญในเหตุการณ์สงครามหมู
- ผู้ประพันธ์หนังสือ ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับที่นิยมใช้ที่สุดในสหรัฐ ประจำการอยู่บนเกาะซานฮวนเกือบตลอดช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้
- ร้อยเอก ผู้ต่อมาจะเป็นที่รู้จักจากเหตุการณ์ในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้คุมการยกพลขึ้นบกของกองกำลังอเมริกันชุดแรก
- นาวาเอก ผู้บังคับบัญชาของกองกำลังบริติชในช่วงแรก ต่อมาได้เลื่อนยศเป็นจอมพลเรือ ซึ่งเป็นชั้นยศสูงสุดในราชนาวีบริติช และมีชื่อเสียงในฐานะนักกลยุทธ์และผู้บัญชาการกองเรืออันโดดเด่น[]
ระเบียงภาพ
- ภาพถ่ายจากมุมของแนวป้องกันโรเบิร์ตส์ ซึ่งสามารถมองเห็นด้านใต้ของเกาะซานฮวน น้ำจากทางอ่าวกริฟฟินเบย์กำลังกระทบทุ่งหญ้า (ซ้าย) และช่องแคบฆวน เด ฟูกา ได้อย่างชัดเจน
- ภาพวาดสีน้ำ แสดงภาพกองทัพสหรัฐขณะกำลังสร้างแนวป้องกันโรเบิร์ตส์บนเกาะซานฮวน
- ภาพวาดสีน้ำของค่ายฝ่ายอเมริกันบนเกาะซานฮวน
- ทิวทัศน์ของค่ายฝ่ายอเมริกัน
- ธงยูเนียนแจ็กบนยอดเสาที่บริเวณค่ายฝ่ายบริติชในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ เกาะซานฮวน
- ทหารบริติชถอนกำลังออกจากเกาะซานฮวน
ดูเพิ่ม
- หรือ "ข้อพิพาทพรมแดนนอร์ทอีสเทิร์น"
- การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจักรวรรดิบริติชในทศวรรษหลังจากเหตุการณ์นี้
- เหตุพิพาทระหว่างราชอาณาจักรบัลแกเรียและ ซึ่งมีเรื่องเล่าสำนวนหนึ่งกล่าวว่ามีชนวนมาจากการที่สุนัขทหารฝ่ายบัลแกเรียหลงเข้าไปในฝั่งกรีซ
อ้างอิง
- สนธิสัญญาออริกอน ที่วิกิซอร์ซ เข้าถึงแหล่งข้อมูลเมื่อ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2006
- Matthews, Todd. . The Tablet. www.wahmee.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-09. สืบค้นเมื่อ 2012-09-07.
- Hayes, Derek (1999). Historical Atlas of the Pacific Northwest: Maps of exploration and Discovery. Sasquatch Books. pp. 171–174. ISBN .
- Phil Dougherty (28 February 2010). "The International Boundary Commission first meets on June 27, 1857". HistoryLink.org. Online Encyclopedia of Washington State History. p. 9328. สืบค้นเมื่อ 19 July 2013.
- ; Scholefield, Ethelbert Olaf Stuart (1914). McBride, Richard (บ.ก.). (ภาษาอังกฤษ). Vol. II (1st ed.). Vancouver, Canada: S.J. Clarke Publishing Company. pp. 303–306. doi:10.14288/1.0388847. ISBN . OCLC 647473053. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 March 2020. สืบค้นเมื่อ 14 June 2021 – โดยทาง ().
- . National Park Service, U.S. Department of the Interior. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-10. สืบค้นเมื่อ 2012-09-07.
- Howay, Frederic William; (1914). McBride, Richard (บ.ก.). (ภาษาอังกฤษ). Vol. II (1st ed.). Vancouver, Canada: S.J. Clarke Publishing Company. doi:10.14288/1.0388847. ISBN . OCLC 647473053. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 March 2020. สืบค้นเมื่อ 14 June 2021 – โดยทาง ().
- Vouri, Michael (2013). Adams, Jim; Brockman, Lori (บ.ก.). The Pig War: Standoff at Griffin Bay (2nd ed.). Seattle, Washington, United States of America: Discover Your Northwest. pp. 174–176. ISBN .
- Vouri, Michael (2016). The Pig War. 164 S, Jackson, Seattle WA98104: Discover Your Northwest distributed by University of Washington. pp. 69–72. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: location () - Woodbury, Chuck (2000). . Out West #15. Out West Newspaper. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-06. สืบค้นเมื่อ 2006-10-16.
- Tagg, Larry (1998). . Savas Publishing. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 22, 2014. สืบค้นเมื่อ June 14, 2010.
- "Robert's Redoubt".
- "Belle Vue sheep farm".
- "Jackle's Lagoon".
- Vouri, Mike (2008). The Pig War. Charleston, S.C., Chicago,IL: Arcadia Publishing. ISBN .
- "The Pig War". San Juan Island National Historical Park. . สืบค้นเมื่อ 2009-06-19.
- Jewell, James Robbins (7 March 2015). (PDF). ใน Arenson, Adam; Graybill, Andrew W. (บ.ก.). Civil War Wests: Testing the Limits of the United States (PDF) (ภาษาอังกฤษ) (1st ed.). สหรัฐอเมริกา: . pp. 19–20. doi:10.1525/9780520959576-002. ISBN . JSTOR 10.1525/j.ctt13x1gqn. OCLC 881875924. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 13 April 2021.
- Slaughter, Jim; Ragsdale, Gaut; Ericson, Jon L. (2012). Notes and Comments on Robert's Rules (Fourth ed.). Carbondale and Edwardsville: Southern Illinois University Press. p. 160. ISBN .
- Vouri, Michael (1999). The Pig War: Standoff at Griffin Bay. Griffin Bay. pp. 273. ISBN .
อ่านเพิ่ม
- Baker, Betty (1969). The Pig War. HarperCollins Canada. ISBN .
- Coleman, E.C. (2009). The Pig War: The Most Perfect War in History. The History Press. ISBN .
- Holtzen, Mark (2012). The Pig War. CreateSpace. ISBN .
- Kaufman, Scott (2003). The Pig War. Lexington Books. ISBN .
- Neering, Rosemary (2011). The Pig War: The Last Canada–US Border Conflict. Heritage House Publishing Co. Ltd. ISBN .
- Victor, Frances Fuller (1891). . . J. B. Lippincott Co.
- Vouri, Michael (1999). The Pig War: Standoff at Griffin Bay. Griffin Bay Book Store. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- The Pig War, National Park Service
- San Juan Island Pig War – Part 1, HistoryLink.org
- Lyman Cutlar touches off Pig War between U.S. and Great Britain on June 15, 1859, HistoryLink.org
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramhmu xngkvs Pig War epnkhwamkhdaeyngthangphrmaednrahwangshrthaelashrachxanackr inbriewn rahwang pccubnxyuinekhtpraethsaekhnada aelarthwxchingtn in kh s 1859 saehtuthimikareriykchuxechnni epnephraakhwamkhdaeyngdngklawekidcakkarthihmutwhnungthukyingtay khwamkhdaeyngkhrngniyngepnthiruckkninchux xubtikarnhmu sngkhramhmuaelamnfrng khxkhdaeyngphrmaednsanhwn aela khxphiphathphrmaednnxrthewstethirn xnung aemkhwamkhdaeyngkhrngnicathukeriykwasngkhram aetthngsxngfaykimmikarsuyesiyindanid ykewnhmutwkhangtnethannsngkhramhmukhxesnxaebngesnekhtaedn esnaebngekhtodyich Haro Strait epneknth esnxodyfayshrth esnaebngekhtodyich Rosario Strait epneknth esnxodyfaybrietn esnaebngekhtodyichchxngaekhbsanhwn San Juan Channel epneknth sungpranipranipranxmrahwangthngsxngfng esndngklawwadtamaephnthiinewlann ekhtaedninpccubnaebngxxkepnesntrngaelamikhwamkhlaykhlungkbkhxesnxinesnsinaengin inkhnathiekhtaednfngtawnxxkkhxng mikhwamkhlaykhlungkbkhxesnxinesnsiaedngwnthi15 mithunayn tulakhm kh s 1859 mikxngthharippracakarthihmuekaasanhwn cnthung kh s 1874 sthanthiphlodyswnmakaelwepn ekaasanhwnthukmxbihshrth tamkrabwnkarxnuyaottulakarodymieyxrmniepnphutdsinkhusngkhram shrth shrachxanackrphubngkhbbychaaelaphunakalngkalngphl 461 nay punihy 14 krabxkkalngphl 2 140 nay eruxrb 5 la punihy 70 krabxkkhwamsuyesiyhmu 1 twaephnthipi 1798 khxngcxrc aewnkhuewxr aesdngthungkhwamkhlumekhruxinbriewnthangtawnxxkechiyngitkhxngekaaaewnkhuewxr hmuekaaklf aelachxngaekhbhaormulehtukhwamkhlumekhruxdandinaedn karlngnamemuxwnthi 15 mithunayn kh s 1846 idaekdwykaraebngphrmaednkhxngaela rahwangshrthkbshrachxanackrtamaenwlaticudehnux thungkungklangkhxngchxngaekhb Channel sungaeykaephndinbnphunthwipxxkcak aelatdphankungklangkhxngchxngaekhbkhangtnaelaipcnthungmhasmuthraepsifik thwainkhwamepncringaelw michxngaekhb Strait xyusxngchxngaekhbthisamarthnbidwaepncudkungklangkhxngchxngaekhbnn khux tamaenwfngtawntkkhxng aela tamaenwfngtawnxxk inkhnann kh s 1846 phumisastrkhxngphumiphakhdngklawyngkhngmikhwamkhlumekhruxxyubang aephnthithiaephrhlaythisudinewlann khux aephnthikhxng sungtiphimphin kh s 1798 aelakhxng sungtiphimphin kh s 1845 aephnthngsxngchbbtangkmikhwamkhlumekhruxekiywbriewnchayfngthangtawnxxkechiyngitkhxngekaaaewnkhuewxraela dngnn xanabriewnkhxngchxngaekhbhaorkthuxwakhlumekhruxechnkn in kh s 1856 shrthaelabrietnidtngkhnakrrmathikarphrmaednkhunephuxsasangpyhahlayprakarekiywkbphrmaednrahwangpraeths rwmthungxanaekhtthangnacakthung faybrietnaetngtng epnepnkhnakrrmathikarkhnthihnung epnkhnakrrmathikarkhnthisxng aelawileliym ex ci yng William A G Young epnelkhanukar swnfayshrthaetngtng xachibald aekhmpebll Archibald Campbell epnkhnakrrmathikarkhnthihnung epnkhnakrrmathikarkhnthisxng aelawileliym ec wxrern William J Warren epnelkhanukar khnakrrmathikarkhxngthngsxngfayphbknepnkhrngaerkbn khxngshrachxanackrinwnthi 27 mithunayn kh s 1857 khnathieruxkalngcxdethiybthain thngsxngfayphbpaknxikhlaykhrnginpiediywknthiaela odyinchwngwangewncakkarprachum thngsxngfaycaichcdhmayepnsuxklanginkarharux pyhaxanaekhtthangnathuknamaxphipraytngaeteduxntulakhmipcnthungeduxnthnwakhm phriwxstyunkrannbtngaetkarprachumkhrngaerkwalksnathangphumisastrkhxngchxngaekhborsarioxtrngtamenguxnikhkhxngsnthisyya aelaectnarmnkhxngphurangsnthisyya aekhmpebllexngkmiaenwkhidechnediywknnikbchxngaekhbhaor txngkarxangxing tamkhwamehnkhxngphriwxst chxngaekhb thirabuiwinsnthisyyacatxngmikhunsmbtisamprakardngtxipni khux catxngepntwaebngekaaaewnkhuewxrxxkcakphakhphunthwip txngmiaenwphrmaednipinthangthisit Southerly aela txngsadwktxkarkhmnakhmthangerux phriwxstekhiyniwwa miaetchxngaekhborsarioxethannthiekhakhayenguxnikhsamkhxni inkhnaaekhmpebllaeyngwa niyam thisit insnthisyyani mikhwamhmaytamkhwamekhaicthwip thiwachxngaekhborsarioxmiidepntwaebngaephndinphakhphunthwipxxkcakekaaaewnkhuewxr hakaetepnhmuekaasanhwnxxkcak aelaekaaxun aekhmpebllyngotxikwakarkhmnakhmthangeruximidmiekiywkhxngkbpyhani aelathungaemcanapccynnmaphicarna chxngaekhbhaorkyngmikhunsmbtithidikwa ephraamikhwamkwangaelamiesnthangepnesntrng Direct passage makkwachxngaekhborsariox thaythisudaelw ekhathathayihphriwxstnahlkthanthiesnxwakhnaphurangsnthisyyatxngkarihichchxngaekhborsarioxepntwaebngphrmaedn phriwxsttxbotdwykarxangthungbrrdaaephnthikhxngfayshrththiaesdngwaesnphrmaednphadphanchxngaekhborsariox rwmipthungaephnthikhxng thiidrbkaraeckcayaelacdthakhunephuxichinrthbalshrth aelaaephnthixikchbbthicdthaodycxhn bi ephrstn John B Preston Surveyor General pracarthxxrikxnin kh s 1852 sahrbehtuphlkhxxun phriwxstidthakarykehtuphlekiywkbkhwamsadwktxkarkhmnakhmthangeruxkhxngchxngaekhborsariox khwamimsadwksahrbkarkhmnakhmkhxngchxngaekhbrahwangekaalmmi ekaaisephrs aelaekaafiedlok aelakarthiaenwphrmaednthiphadphanchxngaekhborsarioxcaepninipinthangthisit inkhnathiaenwphrmaednthiphadphanchxngaekhbhaorcaepninipinthangthistawntkkhunmaprakxbxikkhrngdwy thngsxngfayprachumharuxpyhatxipcnthungeduxnthnwakhm kh s 1857 emuxepnthikracangchdaelwwatangfaytangkimyxmrbkhxesnxkhxngxikfayhnung inwnthi 3 thnwakhm phriwxstcungyunkhxesnxsudthayinkarprachumkhrngthihk odyekhaesnxesnxesnphrmaednaebbpranipranxm sungthxdphanchxngaekhbsanhwn xncathaihshrthidekaahlk thnghmd ewnaetekaasanhwn khxesnxnithukpdtkip aelakhnakrrmathikarkmixntxnghyudchangklng odythithngsxngfaytangkehnphxngthicaklbipraynganphlihrthbalkhxngtnrbthrab dngnnkhwamkhlumekhruxindanphrmaednthangnacungyngkhngxyuechnedim dwykhwamkhlumekhruxniexng thngshrthaelashrachxanackrcungtangkxangsiththixanacxthipityehnuxhmuekaasanhwn odyinrahwangchwngewlathimikarthkethiyngeruxngxanacxthipityxyuni khxngbrietn idekhamadaeninkickarbntwekaasanhwn aelaichphunthikhxngekaaepnthungeliyngaeka khnaediywkn emuxthungklangpi 1859 kmiphutngrkrakchawxemrikncanwnyisibhathungyisibekarayedinthangmathungekaasanhwn khwamsakhykhxngekaasanhwnimidxyuthikhnad aetepnindankarthhar inkhnathifaybrietnmitngxyuthangtawntkkhxngekaaaewnkhuewxr sungsamarthmxngehnchxngaekhbkhwn ed fuka pakthangekhakhxngchxngaekhbhaor xncanaipsuchxngaekhbcxreciy chatithisamarthkhrxbkhrxnghmuekaasanhwncasamarthkhrxbngaehlachxngaekhbtang thiepntwechuxmchxngaekhbkhwn ed fukakbchxngaekhbcxreciyid bribththangkaremuxng naythharphuepnephuxnsnithaelaephuxnrwmchnkhxng emuxkhrngsuksaxyuthiorngeriynnayrxyewstphxyt xangwaphlctwa txmaidelixnysepnphltri aelaphikhekthsmkhbkhidxyanglb kbkhnklumhnungephuxkxsngkhramkbbrietn odymicudprasngkhinkarsrangstrurwm ephuxebiyngebnkhwamsniccakpyhakhwamimlngrxyknrahwangrththangehnuxaelarththangit aetphntri txmaidelixnysepnphnexk klawhklangthvsdikhxngaemkhekhleln odyhalelxrehnwanaythharthngsxngtxngkarkxsngkhramcring aetepnipephuxdungkhwamsnickhxngrththangehnux ephuxepidoxkasihrththangitprakasexkrachid thvsdikhxngekhaerimduminahnkmakkhunemuxmiphusngektwaphnoth txmaidelixnysepnphltri rxngphubngkhbbychakhxng thukldbthbathlngihipthahnathisnbsnun rxyexkcxrc phikhekth phuidrbxanackhwbkhumxyangxisraehnuxphunthicanwnmakcakharni nxkcakni harniyngmxngkhamekhaipkhnakalngphicarnawakhwrmxbxanacehnuxphunthixnkwangkhwangdngklawnnaekphuiddwy inxikmummxnghnung xaccaklawidwaphnothekhsiimidthukldbthbathlngaetxyangid ephraaekhaidmxbhmayihipbngkhbkareruxklif ekhsiyngidrbkhasngcakphntrihalelxrihippxngknaelatrwctranannabriewn nxkcakni ekhaidrbxnuyatihptibtikarnxkehnuxkhasngidichodydulyphinickhxngtnexng ephraaekhaepnnaythharphumiprasbkarn hnngsuxekiywkbyuththwithithharrabthiekhsiepnphuekhiyn idichepnhnngsuxaebberiynthiorngeriynnayrxyewstphxytrahwangchwngsngkhramklangemuxng xubtikarnhmuphaphthaykhxngfarmaekaebllwu Belle Vue Sheep Farm bnekaasanhwn emuxeduxnknyayn kh s 1859 rahwangehtukarnsngkhramhmuphaphwadsinakhxngfarmaekaebllwurahwangchwngthiekidsngkhramhmuthiwthsninpccubnkhxngbriewnthiekhyepnthitngkhxngfarmaekaebllwu odymithiwekhaoxlimpikxyudanhlng inwnthi 15 mithunayn kh s 1859 sungepnwnkhrbrxb 13 pithisnthisyyaxxrikxnmiphlbngkhbichphxdi khwamkhlumekhruxdngklawidnaipsukhwamkhdaeyngodytrngrahwangshrthaelashrachxanackr odymisaehtumacakkarthi ilaemn khtlar Lyman Cutlar ekstrkrchawxemrikn phuyaymatngthinthanthi odyxangsiththiinkarxyuxasytam Donation Land Claim Act phbhmutwhnungkalngkhudkhuyaelakinkhxngphuchphkinswnkhxngtnexng niimichkhrngaerkthimiehtukarnechnniekidkhun nayilaemncungbndalothsayinghmutwnncnthungaekkhwamtay prakdwahmutwnnepnkhxngchals kriffin Charles Griffin chawixrich phuidrbkarwacangcak ihmaduaelfarmaekabnekaa naychalsyngepnecakhxnghmuxikhlaytw sungekhalwnaetplxyihphwkmnedinephnphanidxyangxisra thngsxngfayimmieruxngwiwathkncnkrathngekidehtuyinghmunikhun nayilaemnesnxcacayenginchdechyihnaychalsepncanwn 10 dxllarshrth aetnaychalsimphxicinkhxesnxni aelaeriykenginepncanwn 100 dxllarshrth hlngcakidrbkhatxbdngklaw nayilaemncungmxngwatnimcaepnthicatxngcayenginchdechyihaeknaychalsaetxyangid ephraahmukhxngnaychalsruklathidinkhxngekha eruxngelasanwnhnungthiimmiaehlngthimabxkwanayilaemnphudkbnaychalswa mn hmaythunghmutwthithukyingtay ekhamakinmnfrngkhxngphm odythinaychalstxbklbipwa mnepnhnathikhxngaekthicatxngexamnfrngxxkipikl cakhmukhxngchn emuxthangkarbritichkhucacbkumtwnayilaemn phutngthinthanchawxemriknbnekaacungeriykrxngihmikarkarsngkxngthphekhamakhumknphwktn txngkarxangxing karekhamamiswnrwmkhxngkxngthphphaphthaythangxakaskhxngaenwpxngknorebirts Roberts redoubt bnekaasanhwn inchwngaerk phubngkhbbychakhxng idmxbhmayih aelathharxemriknxikcanwn 66 nay cak phayitkarnakhxngekhanakalngiptngiwinekaasanhwn phrxmkhasngihkrathathukwithithangephuxmiihfaybrietnsamarthkhunfngid odymieruxrb thahnathiepnphuphakxngthharkhxngphikhekthipyngekaasanhwn faybrietnkngwlwaprachakrxemriknthiekhamatngthinthanodyimidrbxnuyatnicayudkhrxngekaasanhwnexaiwexnghakimmiphuidkhdkhwang thangbrietncungsng eruxrbcanwnsamla phayitkarbngkhbbychakhxng ipyngekaasanhwnephuxepnkarthwngdulkbfayxemrikn hxrnbieriykrxngihphikhekththxnkalngxxkcakekaa aetphikhekthpdiesth hxrnbicungkhuwacanathharfaytnykphlkhunbk mikarxangwaphikhekthidbxkkbthharinbngkhbbychakhxngtnwa xyaklwpunihykhxngphwknn Don t be afraid of their big guns aelaphudthungkhakhukhxngfaybrietnxyangeyyhynwa eracathaihthiniklayepn thaihekhamichuxesiyngipthwpraeths inchwngaerk phikhekthkbkxngrxythharrabaelathharpunihytngmnxyuthifarmaekaebllwukhxng sungtngxyuiklkbbriewninpccubn aelaxyuinrayayingkhxngekhxngfaybrietnphxdi emuxmiphuchikhwamphidphladthangyuththwithiniihphikhekththrab ekhacungsngihkxngrxypunihyekhluxnphlipthangthisung High ground thixyuthangthisehnux sungsamarthmxngehnxawkriffinebyaelaid aelaimiklcakthitngedimethaidnk caknncungmikarerimsrangephuxichepnkabngihkbpunihy txngkarxangxing phikhekthtngkhaythharxemriknxyuiklthangitsudkhxngekaasanhwn pccubnkhaythharnithuxepnhnunginsxngsthanthisakhythangprawtisastrbntwekaa odyxiksthanthihnungkhuxkhaykhxngehlaaehngrachnawibritich sungtngxyuthangehnuxkhxngekaaediywkn rxytri phuphungsaerckarsuksacak thahnathikakbduaelkarkxsrangaenwpxngknkhxngkhaythharfayxemrikn txmaemuxekidsngkhramklangemuxngxemrikakhun ekhaidrbkaraetngtngepnhnunginaemthphkhxng nxkcakniekhayngepnphupraphnthhnngsux dwy aenwpxngknthiorebirtepnphusrangthuxwaepnaenwpxngknthisamarthrksasphaphedimiwidxyangdithisudinshrth hangxxkipthangtawnxxkkhxngaenwpxngkndngklaw khuxthitngkhxngeckhilslakun Jackle s Lagoon sungtngchuxtamcxrc eckhil George Jackle thharnayhnungthimapracakarxyubnekaani sthankarnyngkhngbanplaytxip emuxthungwnthi 10 singhakhm kh s 1859 kprakdwamithharxemrikncanwn 461 nay phrxmkb punihy 14 krabxk phayitkarbngkhbbychakhxngphnoth tngmnpracnhnakberuxrbhalakhxngfaybrietn odyeruxaetlalamipunihyrwmkn 70 krabxk aelabrrthukthharxikkwa 2 140 nay phuwakar idsngkarih na khunfngthiekaasanhwnaelaekhapathakbfayxemriknthinaodyphlctwaharni kxngkalngkhxngharniidekhayudkhrxngekaamatngaetwnthi 27 krkdakhm kh s 1859 aelw thwaibaensklbpdiesththicathatamkhasng ephraaekhamxngwa karthichatiyingihysxngchaticathasngkhramknephraaehtuthaelaawiwathcakhmutwediyw epneruxngongengasindi phubychakarkhxngthngsxngfayidrbkhasngthiodyrwmaelwmiickhwamehmuxnkn khux cngpxngkntnexng aetxyaepnfayepidchakyingkxneddkhad thngthharkhxngfaybritichaelaxemriknphudcaeyaaeyyknipma ephuxhwngywyuihxikfayyingkxn aetthharkhxngthngsxngfaytangksamarthrksaraebiybwinyiwid aelaimmifayidlnkrasunxxkmaely txngkarxangxing bthsruppayraluksngkhramhmu thihnakhaythharbritich emuxrthbalkhxngthngsxngchatithrabkhawkhxngwikvtkarnkhrngnikmithathituntrahnkepnxnmak aelaerimdaeninkarephuxhyudyngimihkhxphiphathrahwangpraethsnirunaerngkhun prathanathibdiecms buaekhnn sngphlexkipecrcakb ineduxnknyaynephuxsasangwikvtkarnthikalngkxtwkhunni karecrcaniepnphlditxshrth enuxngcakrthbalshrthkalngihkhwamsnicxyukbpyhathikalngmiaenwonmrunaerngkhun sungtxmacanaipsusngkhramklangemuxng phlexkwinfildekhythahnathiepnphusasangpyhadanphrmaednkhxngchatithngsxnginchwngplaykhristthswrrsthi 1830 ekhaedinthangthungsanhwnineduxntulakhm aelaerimkrabwnkarecrcakbphuwakardklas tamkhxtklngkhxngkarecrca thngsxngfayehnphxngknthicakhngkalngphlimekin 100 khniwbnekaainthanakxngkalngyudkhrxngrwm cnkwacasamarthhakhxsrupid khaykhxngfaybritichthuktngkhuntamaenwchayfngthangehnuxkhxngekaasanhwn ephuxihngaytxkaredinthangaelasngesbiyng swnkhaykhxngfayxemriknthuktngkhunthithisitbnthunghyaphunsungthixyuehnuxlm sungepnchyphumithiehmaakbkartngpunihyiwyingeruxthiedinthangekhama inpccubn ecahnathikrmxuthyanshrthyngkhngechiythngyueniynaeckkhunaelalngcakyxdesaehnuxbriewnkhaykhxngfaybritichepnpraca thaihekaasanhwnepnhnunginimkisthanthithiaemcaimmisthanathangkarthut aetkharthkarkhxngshrthtxngnathngchatikhxngpraethsxunechiykhuninsthanthinn aemkarkrathanicamicudprasngkhephuxkarralukxyangediywktam txngkarxangxing inchwngkhxngrwmknrahwangthngsxngchati kxngkalngelk khxngfaybritichaelaxemriknbnekaasanhwntangxyurwmknxyangsngbsukh mkipeyuxnkhaykhaykhxngxikfngesmx emuxthungwarachlxngwnhyudpracachatikhxngaetlafay aelayngmikaraekhngkhnkilarahwangknxikdwy ecahnathikrmxuthyanshrthklawwaphyphibtithirayaerngthisudtxsntiphaphbnekaakhux ekhruxngdumaexlkxhxlthimixyuepncanwnmak txngkarxangxing sphawkarnechnnidaenintxipepnewlakwa 12 pi thaythisudaelwkhwamkhdaeyngnikidrbkarsasanglngdwydiaelaimmikarpathaknaetxyangid ewnesiyaetkarephchiyhna Confrontation aelakaraesdngaesnyanuphaphthangthharephiyngethann odyinchwngkxnthikhwamkhdaeyngnicaidrbkarsasang rthbalxananikhmthxngthinphyayamonmnawrthbalpraethsaemthilxndxnihthakaryudthnghmdklbkhunma odyxasykhwamchulmunkhxngsngkhramklangemuxngxemrikaepntwchwy txmain kh s 1866 xananikhmekaaaewnkhuewxrthukphnwkekhakb klayepn in kh s 1871 xananikhmniklayepnswnhnungkhxng Dominion of Canada inpiediywknnnexng shrachxanackraelashrthidlngnamin sungmienuxhaekiywkbaenwthangaekpyhainhlaydanrahwangchatithngsxng rwmipthungpyhathangdanphrmaedndwy hnunginkhxsrupkhxngsnthisyyanikhuxshrthaelashrachxanackrtklngthicasasangpyhakhxphiphathekaasanhwnphanthang odymickrphrrdiwilehlmthi 1 aehngeyxrmniepnprathankhnaxnuyaottulakar ckrphrrdiwilehlmthrngmxbhmaykhdidngklawihsmachikkhnaxnuyaottulakarcanwnsamkhnwinichy khdiniidrbkarphicarnathinkhrecniwaepnewlaekuxbhnungpietm inwnthi 21 tulakhm kh s 1872 khnaxnuyaottulakaridtdsinihshrthepnfaychna odykhnaxnuyaottulakaridmimtiyxmrbesnaebngekhtaednthangnaodyichthixyuthangfngtawntkkhxngekaaepneknth sungshrthepnphuesnx swnkhxesnxkhxngfaybrietnthiihichthixyuthangtawnxxkepneknthepnxntkip shrachxanackrthxnkalngxxkcakekaainwnthi 25 phvscikaynkhxngpinn swnfayxemriknthxnkalngxxkipimekineduxnkrdakhm kh s 1874 pccubnyngkhngmiphithiraluksngkhramhmuinepnpracabukhkhlsakhyinehtukarnsngkhramhmuphupraphnthhnngsux sungepnhnngsuxekiywkbthiniymichthisudinshrth pracakarxyubnekaasanhwnekuxbtlxdchwngthiekidehtukarnni rxyexk phutxmacaepnthiruckcakehtukarninchwngsngkhramklangemuxngxemrika idrbmxbhmayihepnphukhumkarykphlkhunbkkhxngkxngkalngxemriknchudaerk nawaexk phubngkhbbychakhxngkxngkalngbritichinchwngaerk txmaideluxnysepncxmphlerux sungepnchnyssungsudinrachnawibritich aelamichuxesiynginthanankklyuththaelaphubychakarkxngeruxxnoddedn txngkarxangxing raebiyngphaphphaphthaycakmumkhxngaenwpxngknorebirts sungsamarthmxngehndanitkhxngekaasanhwn nacakthangxawkriffinebykalngkrathbthunghya say aelachxngaekhbkhwn ed fuka idxyangchdecn phaphwadsina aesdngphaphkxngthphshrthkhnakalngsrangaenwpxngknorebirtsbnekaasanhwn phaphwadsinakhxngkhayfayxemriknbnekaasanhwn thiwthsnkhxngkhayfayxemrikn thngyueniynaeckbnyxdesathibriewnkhayfaybritichinxuthyanprawtisastraehngchati ekaasanhwn thharbritichthxnkalngxxkcakekaasanhwnduephimhrux khxphiphathphrmaednnxrthxisethirn karechuxmkhwamsmphnthrahwangshrthaelackrwrrdibritichinthswrrshlngcakehtukarnni ehtuphiphathrahwangrachxanackrblaekeriyaela sungmieruxngelasanwnhnungklawwamichnwnmacakkarthisunkhthharfayblaekeriyhlngekhaipinfngkrisxangxingsnthisyyaxxrikxn thiwikisxrs ekhathungaehlngkhxmulemux 16 tulakhm kh s 2006 Matthews Todd The Tablet www wahmee com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 07 09 subkhnemux 2012 09 07 Hayes Derek 1999 Historical Atlas of the Pacific Northwest Maps of exploration and Discovery Sasquatch Books pp 171 174 ISBN 1 57061 215 3 Phil Dougherty 28 February 2010 The International Boundary Commission first meets on June 27 1857 HistoryLink org Online Encyclopedia of Washington State History p 9328 subkhnemux 19 July 2013 Scholefield Ethelbert Olaf Stuart 1914 McBride Richard b k phasaxngkvs Vol II 1st ed Vancouver Canada S J Clarke Publishing Company pp 303 306 doi 10 14288 1 0388847 ISBN 9781340270537 OCLC 647473053 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 7 March 2020 subkhnemux 14 June 2021 odythang National Park Service U S Department of the Interior khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 01 10 subkhnemux 2012 09 07 Howay Frederic William 1914 McBride Richard b k phasaxngkvs Vol II 1st ed Vancouver Canada S J Clarke Publishing Company doi 10 14288 1 0388847 ISBN 9781340270537 OCLC 647473053 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 7 March 2020 subkhnemux 14 June 2021 odythang Vouri Michael 2013 Adams Jim Brockman Lori b k The Pig War Standoff at Griffin Bay 2nd ed Seattle Washington United States of America Discover Your Northwest pp 174 176 ISBN 9780914019626 Vouri Michael 2016 The Pig War 164 S Jackson Seattle WA98104 Discover Your Northwest distributed by University of Washington pp 69 72 ISBN 978 0 914019 62 6 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint location Woodbury Chuck 2000 Out West 15 Out West Newspaper khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 08 06 subkhnemux 2006 10 16 Tagg Larry 1998 Savas Publishing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 22 2014 subkhnemux June 14 2010 Robert s Redoubt Belle Vue sheep farm Jackle s Lagoon Vouri Mike 2008 The Pig War Charleston S C Chicago IL Arcadia Publishing ISBN 978 0 7385 5840 0 The Pig War San Juan Island National Historical Park subkhnemux 2009 06 19 Jewell James Robbins 7 March 2015 PDF in Arenson Adam Graybill Andrew W b k Civil War Wests Testing the Limits of the United States PDF phasaxngkvs 1st ed shrthxemrika pp 19 20 doi 10 1525 9780520959576 002 ISBN 9780520959576 JSTOR 10 1525 j ctt13x1gqn OCLC 881875924 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 13 April 2021 Slaughter Jim Ragsdale Gaut Ericson Jon L 2012 Notes and Comments on Robert s Rules Fourth ed Carbondale and Edwardsville Southern Illinois University Press p 160 ISBN 978 0 8093 3215 1 Vouri Michael 1999 The Pig War Standoff at Griffin Bay Griffin Bay pp 273 ISBN 978 0 9634562 5 0 xanephimBaker Betty 1969 The Pig War HarperCollins Canada ISBN 0060203331 Coleman E C 2009 The Pig War The Most Perfect War in History The History Press ISBN 978 0 7524 5227 2 Holtzen Mark 2012 The Pig War CreateSpace ISBN 978 1475051360 Kaufman Scott 2003 The Pig War Lexington Books ISBN 0739107291 Neering Rosemary 2011 The Pig War The Last Canada US Border Conflict Heritage House Publishing Co Ltd ISBN 978 1926936017 Victor Frances Fuller 1891 Ch 26 Atlantis Arisen J B Lippincott Co Vouri Michael 1999 The Pig War Standoff at Griffin Bay Griffin Bay Book Store ISBN 0963456253 aehlngkhxmulxunwikiphcnanukrmphasaxngkvs English mikhwamhmaykhxngkhawa Pig War wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhramhmu The Pig War National Park Service San Juan Island Pig War Part 1 HistoryLink org Lyman Cutlar touches off Pig War between U S and Great Britain on June 15 1859 HistoryLink org