บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
ว่านน้ำ เป็นพืชสมุนไพรที่มีพลังร้อน มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดินเป็นแท่งค่อนข้างแบน ใบมีลักษณะแข็งตั้งตรง ปลายใบจะแหลม ใบเรียงสลับกันซ้ายขวาเป็นแผง ดอกมีสีเขียวขนาดเล็กจะออกดอกเป็นช่อ มีจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งรูปทรงกระบอก ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง หรือที่ชื้นแฉะส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เช่น
- ราก ถ้านำมารับประทานมากๆ จะทำให้อาเจียน แต่ว่ามีกลิ่นหอม รับประทานน้อยๆ สามารถใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ทำให้ระงับอาการปวดท้องได้เพราะในว่านน้ำมีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า ที่มีรสขมและแอลคาลอยด์ เป็นยาแก้บิด เป็นยารักษาบิดของเด็ก (คือมูกเลือด) และหวัดลงคอ (หลอดลมอักเสบ) ได้เป็นอย่างดี เป็นยาขับเสมหะอย่างดี และรากยังใช้เป็นยาเบื่อแมลงต่างๆ เช่น แมลงวัน เป็นยาแก้เส้นกระตุก แก้หืด ขับเสมหะ แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดกล้ามและข้อ แก้โรคผิวหนัง
- เหง้า นำมาใช้ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคผิวหนัง เป็นยาหอมได้
- น้ำมันหอมระเหยจากต้น สามารถแก้ เป็นยาขมหอม ขับแก๊สในท้อง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยการย่อยอาหารได้ดี
ว่านน้ำ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | พืช |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง |
เคลด: | พืชดอก |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงเดี่ยว |
อันดับ: | |
วงศ์: | |
สกุล: | L., 1753 |
สปีชีส์: | Acorus calamus |
ชื่อทวินาม | |
Acorus calamus L., 1753 | |
ชื่อพ้อง | |
Calamus aromaticus Garsault |
นอกจากนี้ว่านน้ำยังมีสรรพคุณ ในการช่วยเสริมสร้างสติปัญญาและช่วยพัฒนาความจำให้มีความจำดี ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ อีกทั้งช่วยให้นมมารดาบริสุทธิ์ ในตำราของอินเดีย ใช้ว่านน้ำผสมกับยารักษาโรค รักษาเกี่ยวกับโรคสมอง ท้องร่วง โรคตา แก้หอบหืด โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
ว่านน้ำปลูกได้ดีในที่ชื้นแฉะ มีน้ำท่วม ริมบ่อน้ำ ปลูกโดยการตัดต้นพันธุ์หรือเหง้าให้มีข้ออย่างน้อย 1 ข้อ ปักชำในกระบะทรายก่อน พอเริ่มงอกจึงย้ายไปปลูก หรือนำท่อนพันธุ์ไปปักประมาณ 1 สัปดาห์ จะเป็นใบอ่อนแตกออกมา ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ
ส่วนการดูแลรักษา ว่านน้ำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร เจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน เมื่อเข้าปลายฤดูฝนเหง้าจะเริ่มมีใบแห้ง เริ่มจากเหง้าข้อที่ 1 ไปเรื่อยๆ ถ้าขาดน้ำในช่วงนี้เป็นเวลานาน เหง้าอาจจะแห้งตายได้แต่ถ้ามีน้ำอยู่ เหง้าก็ยังคงสดอยู่และแตกรากและใบใหม่ต่อไป
สรรพคุณ
- รักษาอาการปวดฟัน เลือดออกตามไรฟัน โดยใช้เหง้าแห้งนำไปบดให้เป็นผงละเอียด ใช้ทา
- รักษาอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย โดยใช้เหง้าแห้ง เมล็ดที่แก่ของหัวผักกาดขาว ซิ่งเข็ก และ หัวแห้วหมู นำมาผสมกันแล้วนำไปต้มน้ำกิน
- รักษาอาการโรคบิด ท้องเสียโดยใช้เหง้าแห้ง บดเป็นผงละเอียด ใช้กินกับน้ำสุกที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้ว
ข้อมูลทางคลินิก
- ใช้รักษาอาการกระจกตาอักเสบ โดยใช้น้ำที่ต้มจากรากแห้ง นำมาใช้หยอดตาหรือใช้ล้างตา
- รักษาอาการลำไส้อักเสบ ใช้รากสดนำไปตากแห้ง แล้วบรรจุเป็นแคปซูล
- รักษาอาการอักเสบเรื้อรัง ใช้ผงของราก นำไปบดแล้วบรรจุแคปซูล
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา
- มีฤทธิ์ในการรักษาอาการชัก
- มีฤทธิ์ต่อระบบกาย่อยอาหาร
- มีฤทธิ์ระงับอาการไอและขับเสมหะ
- มีฤทธิ์ต่อระบบการหมุนเวียนของโลหิต
ประโยชน์จากน้ำมันว่านน้ำ
แต่งกลิ่นเครื่องสำอางประเภทสบู่ น้ำหอม ครีม ผงซักฟอก และโลชั่นต่างๆ
ในทางวัฒนธรรม
ชาวจีนภาคใต้ (ตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี เช่น มณฑลเจ้อเจียง และเมืองเซึ่ยงไฮ้) ใช้กิ่งเฮียเฮียะกับใบว่านน้ำ แขวนประตูในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างเพื่อปัดเป่าวิญญาณร้าย
อ้างอิง
- Lansdown, R.V. (2014). "Acorus calamus". IUCN Red List of Threatened Species. 2014: e.T168639A43116307. doi:10.2305/IUCN.UK.2014-1.RLTS.T168639A43116307.en. สืบค้นเมื่อ 19 November 2021.
- "Acorus calamus L." Plants of the World Online. Board of Trustees of the Royal Botanic Gardens, Kew. 2017. สืบค้นเมื่อ 17 December 2020.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnihruxswnnikhxngbthkhwamtxngkarprbrupaebb sungxachmaythung txngkarcdrupaebbkhxkhwam cdhna aebnghwkhx cdlingkphayin aela hruxkarcdraebiybxun khunsamarthchwyaekikhpyhaniidodykarkdthipum aekikh danbn caknnprbprunghruxcdrupaebbxun inbthkhwamihehmaasm wanna epnphuchsmuniphrthimiphlngrxn milatnepnehngaxyuitdinepnaethngkhxnkhangaebn ibmilksnaaekhngtngtrng playibcaaehlm iberiyngslbknsaykhwaepnaephng dxkmisiekhiywkhnadelkcaxxkdxkepnchx micanwnmakxdknaennepnaethngrupthrngkrabxk chxbkhuntamthinakhng hruxthichunaechaswnthinamaichpraoychnidechnrak thanamarbprathanmak cathaihxaeciyn aetwamiklinhxm rbprathannxy samarthichepnyaaekpwdthxng barungthatu aekcuk khblminlais prunglnginyakhmtang thaihrangbxakarpwdthxngidephraainwannamisarchnidhnungeriykwa thimirskhmaelaaexlkhalxyd epnyaaekbid epnyarksabidkhxngedk khuxmukeluxd aelahwdlngkhx hlxdlmxkesb idepnxyangdi epnyakhbesmhaxyangdi aelarakyngichepnyaebuxaemlngtang echn aemlngwn epnyaaekesnkratuk aekhud khbesmha aekpwdsirsa aekpwdklamaelakhx aekorkhphiwhnng ehnga namaichkhblm aekthxngxud thxngefx aekorkhphiwhnng epnyahxmid namnhxmraehycaktn samarthaek epnyakhmhxm khbaeksinthxng thaihecriyxahar chwykaryxyxahariddiwannasthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr phuchekhld phuchmithxlaeliyngekhld phuchdxkekhld phuchibeliyngediywxndb wngs skul L 1753spichis Acorus calamuschuxthwinamAcorus calamus L 1753chuxphxngCalamus aromaticus Garsaultlksnadxkmikhnadelkepnchx nxkcakniwannayngmisrrphkhun inkarchwyesrimsrangstipyyaaelachwyphthnakhwamcaihmikhwamcadi ichepnyaxayuwthna xikthngchwyihnmmardabrisuththi intarakhxngxinediy ichwannaphsmkbyarksaorkh rksaekiywkborkhsmxng thxngrwng orkhta aekhxbhud orkhekiywkbrabbthangedinhayic epntnwithikarplukaeladuaelrksawannaplukiddiinthichunaecha minathwm rimbxna plukodykartdtnphnthuhruxehngaihmikhxxyangnxy 1 khx pkchainkrabathraykxn phxerimngxkcungyayippluk hruxnathxnphnthuippkpraman 1 spdah caepnibxxnaetkxxkma khyayphnthuodykaraetkhnx swnkarduaelrksa wannaepnphuchthichxbaesngaeddrair ecriyetibotiddiinvdufn emuxekhaplayvdufnehngacaerimmiibaehng erimcakehngakhxthi 1 iperuxy thakhadnainchwngniepnewlanan ehngaxaccaaehngtayidaetthaminaxyu ehngakyngkhngsdxyuaelaaetkrakaelaibihmtxipsrrphkhunrksaxakarpwdfn eluxdxxktamirfn odyichehngaaehngnaipbdihepnphnglaexiyd ichtha rksaxakarthxngxud xaharimyxy odyichehngaaehng emldthiaekkhxnghwphkkadkhaw singekhk aela hwaehwhmu namaphsmknaelwnaiptmnakin rksaxakarorkhbid thxngesiyodyichehngaaehng bdepnphnglaexiyd ichkinkbnasukthithingiwiheynaelwkhxmulthangkhlinikichrksaxakarkracktaxkesb odyichnathitmcakrakaehng namaichhyxdtahruxichlangta rksaxakarlaisxkesb ichraksdnaiptakaehng aelwbrrcuepnaekhpsul rksaxakarxkesberuxrng ichphngkhxngrak naipbdaelwbrrcuaekhpsulkhxmulthangephschwithyamivththiinkarrksaxakarchk mivththitxrabbkayxyxahar mivththirangbxakarixaelakhbesmha mivththitxrabbkarhmunewiynkhxngolhitpraoychncaknamnwannaaetngklinekhruxngsaxangpraephthsbu nahxm khrim phngskfxk aelaolchntanginthangwthnthrrmchawcinphakhit txnitkhxngaemnaaeyngsi echn mnthlecxeciyng aelaemuxngesuyngih ichkingehiyehiyakbibwanna aekhwnpratuinchwngethskalihwbacangephuxpdepawiyyanrayxangxingLansdown R V 2014 Acorus calamus IUCN Red List of Threatened Species 2014 e T168639A43116307 doi 10 2305 IUCN UK 2014 1 RLTS T168639A43116307 en subkhnemux 19 November 2021 Acorus calamus L Plants of the World Online Board of Trustees of the Royal Botanic Gardens Kew 2017 subkhnemux 17 December 2020 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wanna bthkhwamphichniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk