วิหารหินใหญ่แห่งมอลตา (มอลตา: It-Tempji Megalitiċi ta' Malta; อังกฤษ: Megalithic Temples of Malta) คือกลุ่มของวิหารยุคก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่งบนเกาะมอลตาและเกาะโกโซ ประเทศมอลตา สร้างขึ้นในช่วงเวลาสามช่วงที่แตกต่างกันประมาณตั้งแต่ 3,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึง 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช เคยมีการกล่าวอ้างว่าวิหารเหล่านี้เป็นโครงสร้างตั้งพื้นอิสระที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจนกระทั่งมีการค้นพบเกอเบ็กลีเทแพในประเทศตุรกี นักโบราณคดีเชื่อว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นผลมาจากนวัตกรรมท้องถิ่นในกระบวนการวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม ซึ่งนำไปสู่การสร้างวิหารหลายแห่งใน (3,600–3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช) และรุ่งเรืองถึงขีดสุดกับการสร้างหมู่วิหารฮัลตาร์ชีนซึ่งยังคงใช้งานมาจนกระทั่งเมื่อ 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช หลังจากนั้นวัฒนธรรมการสร้างวิหารก็สูญไป
วิหารหินใหญ่แห่งมอลตา * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
แท่นบูชาสำหรับการบูชายัญสัตว์ในจกันตียา | |
(ประเทศ) | มอลตา |
ภูมิภาค ** | ยุโรปและอเมริกาเหนือ |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
(เกณฑ์พิจารณา) | (iv) |
อ้างอิง | 132 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 1980 (คณะกรรมการสมัยที่ 4) |
เพิ่มเติม | 1992, 2015 |
พื้นที่ | 3.155 เฮกตาร์ (7.80 เอเคอร์) |
พื้นที่กันชน | 167 เฮกตาร์ (410 เอเคอร์) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าวิหารเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใดเป็นหลัก แต่การปฏิบัติทางความเชื่อที่พบในสมัยนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับการบูชาเหล่าเทพีแห่งการเจริญพันธุ์และความอุดมสมบูรณ์ซึ่งได้รับความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางทั่วภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน การค้นพบแท่นบูชาและซากสัตว์ในพื้นที่บ่งชี้ว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบูชายัญ
ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนหมู่วิหารจกันตียาเป็นแหล่งมรดกโลกใน ค.ศ. 1980 และขยายพื้นที่แหล่งมรดกโลกให้ครอบคลุมวิหารหินใหญ่อีก 5 แห่งใน ค.ศ. 1992 ได้แก่ ฮาจาร์อีม (ใน), ลิมนัยดรา (ในอิล-อเร็นดี), หมู่วิหารตาฮัจรัต (ใน), หมู่วิหารสกอร์บา (ใน) และหมู่วิหารฮัลตาร์ชีน (ใน) ปัจจุบันแหล่งมรดกโลกเหล่านี้มีเป็นผู้บริหารจัดการ ในขณะที่กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยรอบนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่ง นอกเหนือจากนี้ยังมีวิหารหินใหญ่อื่น ๆ ในมอลตาที่ไม่รวมอยู่ในรายการแหล่งมรดกโลกยูเนสโก
อ้างอิง
- "Megalithic Temples of Malta – UNESCO World Heritage Centre". Whc.unesco.org. สืบค้นเมื่อ 2011-10-09.
- "The Prehistoric Archaeology of the Temples of Malta". Bradshawfoundation.com. สืบค้นเมื่อ 2009-07-22.
- Blouet, The Story of Malta, p. 22
- "Prehistoric Temples of Malta". สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
- Blouet, The Story of Malta, p. 28
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-12-14. สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
- "The Mystery of Maltese Temples". Edinburgh University. 2021-10-17. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- "Megalithic Temples of Malta". สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
- "Malta Temples and The OTS Foundation". Otsf.org. สืบค้นเมื่อ 2009-07-22.
- David Trump et al., Malta Before History (2004: Miranda Publishers)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wiharhinihyaehngmxlta mxlta It Tempji Megalitiċi ta Malta xngkvs Megalithic Temples of Malta khuxklumkhxngwiharyukhkxnprawtisastrhlayaehngbnekaamxltaaelaekaaokos praethsmxlta srangkhuninchwngewlasamchwngthiaetktangknpramantngaet 3 600 pikxnkhristskrach thung 2 500 pikxnkhristskrach ekhymikarklawxangwawiharehlaniepnokhrngsrangtngphunxisrathiekaaekthisudinolkcnkrathngmikarkhnphbekxebkliethaephinpraethsturki nkobrankhdiechuxwasingkxsrangehlaniepnphlmacaknwtkrrmthxngthininkrabwnkarwiwthnakarthangwthnthrrm sungnaipsukarsrangwiharhlayaehngin 3 600 3 000 pikxnkhristskrach aelarungeruxngthungkhidsudkbkarsranghmuwiharhltarchinsungyngkhngichnganmacnkrathngemux 2 500 pikxnkhristskrach hlngcaknnwthnthrrmkarsrangwiharksuyipwiharhinihyaehngmxlta aehlngmrdkolkodyyuensokaethnbuchasahrbkarbuchayystwinckntiyapraeths mxltaphumiphakh yuorpaelaxemrikaehnuxpraephthmrdkthangwthnthrrmeknthphicarna iv xangxing132prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn1980 khnakrrmkarsmythi 4 ephimetim1992 2015phunthi3 155 ehktar 7 80 exekhxr phunthiknchn167 ehktar 410 exekhxr chuxtamthiidkhunthaebiyninbychiaehlngmrdkolk phumiphakhthicdaebngodyyuensokckntiyahacarximlimnydrasntaewrnaskxrbatahcrthltarchinthitngwiharhinihyaehngmxlta chuxthiphimphdwytwhnakhuxaehlngmrdkolkyuensok yngimepnthithrabaenchdwawiharehlanisrangkhunephuxwtthuprasngkhidepnhlk aetkarptibtithangkhwamechuxthiphbinsmynnmikhwamekiywenuxngkbkarbuchaehlaethphiaehngkarecriyphnthuaelakhwamxudmsmburnsungidrbkhwamekharphnbthuxxyangkwangkhwangthwphumiphakhemdietxrereniyn karkhnphbaethnbuchaaelasakstwinphunthibngchiwasingkxsrangehlaniekhyepnsthanthiprakxbphithikrrmthiekiywkhxngkbkarbuchayy yuensokidkhunthaebiynhmuwiharckntiyaepnaehlngmrdkolkin kh s 1980 aelakhyayphunthiaehlngmrdkolkihkhrxbkhlumwiharhinihyxik 5 aehngin kh s 1992 idaek hacarxim in limnydra inxil xerndi hmuwihartahcrt in hmuwiharskxrba in aelahmuwiharhltarchin in pccubnaehlngmrdkolkehlanimiepnphubriharcdkar inkhnathikrrmsiththiinthidinodyrxbnnaetktangknipinaetlaaehlng nxkehnuxcakniyngmiwiharhinihyxun inmxltathiimrwmxyuinraykaraehlngmrdkolkyuensokxangxing Megalithic Temples of Malta UNESCO World Heritage Centre Whc unesco org subkhnemux 2011 10 09 The Prehistoric Archaeology of the Temples of Malta Bradshawfoundation com subkhnemux 2009 07 22 Blouet The Story of Malta p 22 Prehistoric Temples of Malta subkhnemux 2008 09 16 Blouet The Story of Malta p 28 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2006 12 14 subkhnemux 2008 09 16 The Mystery of Maltese Temples Edinburgh University 2021 10 17 subkhnemux 2022 10 09 Megalithic Temples of Malta subkhnemux 2008 09 16 Malta Temples and The OTS Foundation Otsf org subkhnemux 2009 07 22 David Trump et al Malta Before History 2004 Miranda Publishers