วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ใน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม | |
---|---|
อุโบสถเก่า | |
ชื่อสามัญ | วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม, วัดทะเลน้อย |
ที่ตั้ง | อำเภอแกลง จังหวัดระยอง |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม หรือเรียกกันว่า วัดทะเลน้อย ตามชื่อหมู่บ้านเพราะบริเวณนี้กล่าวกันว่าเดิมเป็นทะเล สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่พระเจ้าตากสินให้ชาวบ้านสร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทหารที่เสียชีวิตจากวีรกรรมทุ่งเพลงบ้านทะเลน้อยเมื่อครั้งก่อนเข้าตีเมืองจันทบูรในช่วงกลาง พ.ศ. 2310 พระเจ้าตากทรงช้างพระที่นั่ง คีรีบัญชรพร้อมกำลังทหารยกทัพออกจากเมืองระยองมาตั้งค่ายพักที่วัดนี้จนสามารถตีเมืองจันทบูรได้
มีเรื่องเล่ากันว่ามีหลักฐานสำคัญคือ แท่นรองพระบาท ที่เชื่อกันว่าเป็นของที่อยู่คู่กับบัลลังก์ มีลวดลายแบบจีนผสมอยู่ทุกส่วน ลงรักปิดทองด้วยฝีมือช่างชั้นสูง
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2323 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร
เมื่อพระเจ้าตากปราบดาภิเษกแล้วโปรดเกล้าฯ ให้นำบัลลังก์ที่ประทับของพระองค์ พร้อมด้วยตู้ลายรดน้ำ และพระพุทธรูปที่มีโครงสานด้วยหวายฉาบปูนมาถวายที่วัดเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม" เพื่อเชิดชูเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ปัจจุบันบัลลังก์ หรือ พระแท่น จัดแสดงอยู่ที่ ห้องธนบุรี-รัตนโกสินทร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานคร
เสนาสนะและโบราณวัตถุ
อุโบสถหลังเก่า มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาเครื่องไม้ลดชั้น มุงกระเบื้องว่าวซ้อนกัน ด้านหน้าและด้านข้างมีปีกนกคลุม เครื่องลำยองไม้แกะสลัก เชิงชายประดับด้วยไม้ฉลุลาย หน้าบันไม้กระดาน อุดเรียบตีแนวตั้ง ด้านหน้ามีประตูเข้าออก 2 ช่อง กรอบประตูตกแต่งด้วยลายเส้นนูน ซุ้มประตูทรงโค้งประดับด้วยลวดลายพันธุ์พฤกษาปูนปั้นทาสี แบบลายใบเทศ ศิลปะจีนผสมผสานกับศิลปะตะวันตก ผนังด้านหลังทึบตันมีเสาประดับผนังตรงกึ่งกลางด้าน ด้านข้างมีเสาประดับผนังแบ่งออกเป็น 5 ห้อง ด้านหน้า 4 ห้อง เป็นช่องหน้าต่าง ห้องสุดท้ายเป็นผนังทึบ หน้าต่างช่องแรกและช่องสุดท้ายมีกรอบและซุ้มรูปสามเหลี่ยมประดับลายพันธุ์พฤกษาแบบลายใบเทศกึ่งกลางซุ้มเป็นรูปดอกไม้และเหรียญอีแปะจีน กรอบหน้าต่างและซุ้มโค้งคล้ายซุ้มหน้านางประดับลายพันธุ์พฤกษาแบบลายใบเทศ สันนิษฐานว่าอุโบสถหลังเก่านี้น่าจะสร้างขึ้นในราวสมัยรัชกาลที่ 4–5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เจดีย์ทรงระฆัง ตามประวัติกล่าวว่า เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2430 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2445 ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ก่ออิฐถือปูน ที่ฐานประทักษิณ มีบันไดทางขึ้น องค์ระฆังกลม ส่วนยอดเดิมชำรุดหักพัง และได้ซ่อมแซมขึ้นใหม่เป็นบัลลังก์สี่เหลี่ยมรองรับมาลัยเถาและปลียอด
นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุอีกมากมาย เช่น ตู้ลายรดน้ำ บัลลังก์ มีดดาบ และของเก่า
อ้างอิง
- "วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาวราราม". กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
- "ศรัทธา! สมเด็จพระเจ้าตากฯ วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม". ไทยรัฐ.
- "วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม". สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
- "กราบพระเจ้าตากสินที่วัดราชบัลลังก์". องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdrachbllngkpradistharam epnwdrasdrsngkdkhnasngkhfaymhanikay tngxyuin xaephxaeklng cnghwdrayxngwdrachbllngkpradistharamxuobsthekachuxsamywdrachbllngkpradistharam wdthaelnxythitngxaephxaeklng cnghwdrayxngpraephthwdrasdrnikaymhanikayswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtiwdrachbllngkpradistharam hruxeriykknwa wdthaelnxy tamchuxhmubanephraabriewnniklawknwaedimepnthael snnisthanwaepnwdthiphraecataksinihchawbansrangkhunephuxxuthisswnkuslihkbthharthiesiychiwitcakwirkrrmthungephlngbanthaelnxyemuxkhrngkxnekhatiemuxngcnthburinchwngklang ph s 2310 phraecatakthrngchangphrathinng khiribychrphrxmkalngthharykthphxxkcakemuxngrayxngmatngkhayphkthiwdnicnsamarthtiemuxngcnthburid mieruxngelaknwamihlkthansakhykhux aethnrxngphrabath thiechuxknwaepnkhxngthixyukhukbbllngk milwdlayaebbcinphsmxyuthukswn lngrkpidthxngdwyfimuxchangchnsung sanknganphraphuththsasnaaehngchatirabuwatngwdemux ph s 2323 idrbphrarachthanwisungkhamsimaemuxwnthi 1 phvscikayn ph s 2534 ekhtwisungkhamsima kwang 20 emtr yaw 40 emtr emuxphraecatakprabdaphieskaelwoprdekla ihnabllngkthiprathbkhxngphraxngkh phrxmdwytulayrdna aelaphraphuththrupthimiokhrngsandwyhwaychabpunmathwaythiwdephuxpradisthanepnphraprathaninxuobsth txmainsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw idepliynchuxihmepn wdrachbllngkpradistharam ephuxechidchuekiyrtiaedsmedcphraecataksinmharach pccubnbllngk hrux phraaethn cdaesdngxyuthi hxngthnburi rtnoksinthr phiphithphnthsthanaehngchatiphrankhr krungethphmhankhresnasnaaelaobranwtthuxuobsthhlngeka milksnaepnxakharkxxiththuxpun hlngkhaekhruxngimldchn mungkraebuxngwawsxnkn danhnaaeladankhangmipiknkkhlum ekhruxnglayxngimaekaslk echingchaypradbdwyimchlulay hnabnimkradan xuderiybtiaenwtng danhnamipratuekhaxxk 2 chxng krxbpratutkaetngdwylayesnnun sumpratuthrngokhngpradbdwylwdlayphnthuphvksapunpnthasi aebblayibeths silpacinphsmphsankbsilpatawntk phnngdanhlngthubtnmiesapradbphnngtrngkungklangdan dankhangmiesapradbphnngaebngxxkepn 5 hxng danhna 4 hxng epnchxnghnatang hxngsudthayepnphnngthub hnatangchxngaerkaelachxngsudthaymikrxbaelasumrupsamehliympradblayphnthuphvksaaebblayibethskungklangsumepnrupdxkimaelaehriyyxiaepacin krxbhnatangaelasumokhngkhlaysumhnanangpradblayphnthuphvksaaebblayibeths snnisthanwaxuobsthhlngekaninacasrangkhuninrawsmyrchkalthi 4 5 aehngkrungrtnoksinthr ecdiythrngrakhng tamprawtiklawwa erimkxsrangemux ph s 2430 aelwesrcemux ph s 2445 lksnaepnecdiythrngrakhng kxxiththuxpun thithanprathksin mibnidthangkhun xngkhrakhngklm swnyxdedimcharudhkphng aelaidsxmaesmkhunihmepnbllngksiehliymrxngrbmalyethaaelapliyxd nxkcakniyngmiobranwtthuxikmakmay echn tulayrdna bllngk middab aelakhxngekaxangxing wdrachbllngkpradisthawraram krathrwngkarthxngethiywaelakila srththa smedcphraecatak wdrachbllngkpradistharam ithyrth wdrachbllngkpradistharam sanknganphraphuththsasnaaehngchati krabphraecataksinthiwdrachbllngk xngkhkarbriharkarphthnaphunthiphiessephuxkarthxngethiywxyangyngyun xngkhkarmhachn