วัดพระยาไกร หรือ วัดโชตนาราม ในอดีตตั้งอยู่ในย่านแขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ก่อนมาเป็นที่ตั้งของท่าเรือและบริษัท อีสต์เอเชียติก บริษัทเดินเรือสัญชาติเดนมาร์ก ในสมัยรัชกาลที่ 5 และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนต์
วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนาราม มีประวัติทิ้งไว้เป็นชื่อ ต่าง ๆ ในนาม "วัดพระยาไกร" และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรก่อนที่จะถูกย้ายไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ต่อมาวัดถูกทิ้งร้างและถูกยุบตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม 2539 ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539สร้างในสมัยรัชกาลที่2-3
ประวัติ
วัดพระยาไกร เป็นชื่อดั้งเดิมของวัดโชตนาราม มีหลักฐานว่าสร้างก่อน พ.ศ. 2344 จนกระทั่งมี เจ้ากรมท่าซ้าย เป็นหัวหน้าคนจีน ควบคุมคนจีนในไทยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทำการ บูรณะปฏิสังขรณ์เสร็จแล้วได้น้อมถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับการสถาปนา ขึ้นเป็นพระอารามหลวงมีนามว่าวัดโชตนาราม ตามหลักฐานจดหมายเหตุ ต่อมา "วัดพระยาไกร" กลายสภาพเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาคงไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด หลักฐานที่ปรากฏว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดนี้ก็ไม่มีเจ้าอาวาสปกครองแล้ว เสนาสนะสงฆ์ปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมยากแก่การบูรณะรวมไปถึงพระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น (พระสุโขทัยไตรมิตร ก่อนย้ายไปวัดไตรมิตรวิทยาราม และหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ก่อนย้ายไปวัดไผ่เงิน) ก็ชำรุดทรุดโทรมลงตามลำดับ บริเวณภายในวัดก็กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเนื่องจากไม่มีผู้ดูแลรักษา จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในเวลานั้นเองทางบริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งทำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกยังต่างประเทศมองเห็นเป็นทำเลที่ดีสำหรับตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัทฯ (โรงเลื่อยจักรที่ใหญ่ที่สุดในสยามในช่วงเวลานั้น) จึงได้แสดงความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามจากทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วทางบริษัทฯ ก็ได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะสงฆ์ที่ปรักหักพังเสียคงเหลือไว้แต่เพียงพระอุโบสถ อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น 2 องค์ ไว้ภายในเท่านั้น พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม รวมทั้งพระประธานในอุโบสถวัดไผ่เงินโชตนาราม ที่หล่อด้วยโลหะสำริด สมัยอาณาจักรสุโขทัย]
ใน พ.ศ. 2478 สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแขวงล่างได้มีบัญชาให้วัดไตรมิตรวิทยาราม (ขณะนั้นยังใช้ชื่อวัดสามจีน มาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไตรมิตรวิทยาราม เมื่อปี พ.ศ. 2482) และวัดไผ่เงิน แถวบางคอแหลม (ภายหลังจากที่ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ (พระประธาน)ไปแล้วได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดไผ่เงินโชตนาราม) อัญเชิญพระพุทธรูป 2 องค์นี้ไปประดิษฐานเก็บรักษาไว้เพื่อความเหมาะสม พระมงคลสุธี (ศรี ยโสธโร) เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินในขณะนั้นได้เลือกพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย และเสนาสนะอื่น ๆ จึงได้ดำเนินการขนย้ายไปยังวัดไผ่เงิน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2483 โดยมีชื่อว่า “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” และเหตุนี้วัดไผ่เงิน จึงมีชื่อว่า "โชตนาราม" จากวัดโชตนาราม หรือวัดพระยาไกร ต่อท้ายเป็น "วัดไผ่เงินโชตนาราม" ปรากฏอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
ความสำคัญ
วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนาราม ในครั้งสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นวัดที่ได้รับการอุปถัมภ์ มีหลักฐานตามที่ปรากฏในจดหมายเหตุ สมัยรัชกาลที่ 3 จ.ศ.1213 บันทึกไว้ว่าวัดได้รับการ "ยกให้เป็นพระอารามหลวง" นอกจากนี้ยังพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ได้รับกิจนิมนต์ไปแสดงธรรมและฉันภัตตาหารในพระราชวังตลอดรัชกาล
การย้ายพระพุทธรูป
- หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงินโชตนาราม
ใน พ.ศ. 2482 กระทรวงเศรษฐการ ประสงค์เวนคืนที่ดินบริเวณคลองเตย เพื่อสร้างท่าเรือคลองเตย อันประกอบด้วยด้วยวัดเงิน วัดไก่เตี้ย วัดหน้าพระธาตุ ตั้งอยู่ในเขตตำบลพระโขนง ตำบลคลองเตย อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร วัดทั้งหมดจึงต้องถูกรื้อถอน โดยทางการได้ให้วัดเงินกับวัดไผ่ล้อมเดิม มารวมกันเป็นวัดไผ่เงิน พร้อมกันนั้นกรมการศาสนามีนโยบายแจกจ่ายพระพุทธรูปที่ตกค้างอยู่ที่วัดพระยาไกร ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่เป็นพุทธบรรณาการ พระมงคลสุธี (พระมหาศรี ยโสธโร) เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินโชตนาราม กรุงเทพฯ ได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาในพระอุโบสถมาประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนาราม โดยท่านและคณะกรรมการวัดได้ "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" เป็นพระพุทธปฏิมาที่หล่อด้วยสำริดและเป็นสำริดแก่เงินจัด ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอกเศษ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชำรุด ขณะที่องค์พระพุทธปฏิมาหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตรที่ถูกปูนหุ้มอยู่มีรอยร้าวจาก ไหล่ถึงเอวไปถึงรากฐานเป็นร่องเล็กๆ มองเห็นเนื้อสัมฤทธิ์สีเขียว ๆ ที่ยังประดิษฐานอยู่ " นำไปประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนาราม เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2483 โดยมีชื่อว่า “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” ตามวัตถุที่จัดสร้างเป็นทองสำริด
- พระสุโขทัยไตรมิตร วัดไตรมิตรวิทยาราม
วัดพระยาไกร ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง ไม่มีผู้ดูแล มีพระพุทธปฏิมาปูนปั้นสององค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถองค์หนึ่งและอยู่ในพระวิหารอีกองค์หนึ่ง ประกอบกับ ประสงค์ขอเช่าพื้นที่ของวัดเพื่อดำเนินกิจการของบริษัท ที่ประชุมคณะสงฆ์อันมีสมเด็จพระวันรัตน์ องค์สังฆนายก มีเถระบัญชาให้คณะกรรมการวัดสามจีน หรือวัดไตรมิตรวิทยาราม และวัดไผ่เงินโชตนาราม ไปอัญเชิญพระพุทธรูปสององค์นั้น ไปประดิษฐานไว้ตามสมควร ทางคณะของวัดไผ่เงินฯได้เดินทางไปถึงก่อน จึงเลือกอัญเชิญพระพุทธรูปสำริดไป เหลือพระพุทธรูปปูนปั้นไว้ให้วัดไตรมิตร
วัดไตรมิตรวิทยารามเมื่อได้พระมาแล้วมิได้ทำการใด ๆ กับพระพุทธรูป เพียงปลูกเพิงสักกะสีเพื่อป้องแดดกันฝน ไว้ริมถนนด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ เป็นเวลาถึง 20 ปี ด้วยยังหาที่จะประดิษฐานอันเหมาะสมมิได้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 จึงทำการสร้างวิหารใหม่ ด้วยตั้งใจจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้โดยเฉพาะ เพื่อจะได้ทำการประดิษฐานพระพุทธรูป ให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี แต่ในขณะเคลื่อนย้ายพระพุทธรูป เนื่องจากพระพุทธรูปมีน้ำหนักมาก สายเครื่องกว้านจึงขาดลง ทำให้พระพุทธรูปตกกระแทกพื้น ส่งผลให้ปูนที่หุ้มบริเวณพระอุระกระเทาะออก เผยให้เห็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ท่านเจ้าอาวาสจึงให้ลอกปูนออกทั้งองค์ แล้วนำขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิหารนั้น พร้อมกันนั้นได้มีการจัดสร้างพระมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปสุโขทัยมิตรเป็นการเฉพาะดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
ผังการยุบรวมวัด
"วัดเงิน" เป็นวัดที่ปรากฏหลักฐานว่าให้ถูกเวนคืนในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งดูจากหลักฐานที่ปรากฏชี้ชัดว่าเป็นวัดร้างและเหลือเพียงที่ธรณีสงฆ์และศาสนาสมบัติกลาง ทางการจึงเวนคืนเพื่อสร้างท่าเรือคลองเตย (ถูกยุบรวมกับวัดไผ่ล้อม เป็น "วัดไผ่เงิน") | "วัดไผ่ล้อม" (ถูกยุบรวมกับวัดเงิน เป็น "วัดไผ่เงิน") | ||||||||||||||||||||||||
"วัดพระยาไกร" หรือ "วัดโชตนาราม" ถูกยุบรวมกับวัดไผ่เงิน เป็น "วัดไผ่เงินโชตนาราม"(พระพุทธรูปสำริดถูกย้ายไปวัดไผ่เงินโชตนาราม พระทองคำ พระสุโขทัยไตรมิตรถูกย้ายไปวัดไตรมิตรวิทยาราม) | '"วัดไผ่เงินโชตนาราม" มาจากการรวม 3 วัดเข้าด้วยกันตั้งแต่ วัดเงิน วัดไผ่ล้อม วัดโชตนาราม (วัดพระยาไกร) ชื่อ "วัดไผ่เงินโชตนาราม" จึงถูกเรียกและใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2483 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน | ||||||||||||||||||||||||
ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อ
- วัดพระยาไกร ตั้งชื่อตามราชทินนามของผู้สร้างวัด โดยมีข้อมูลว่า "ในหนังสือเซอร์เซมสบรุก (Sir เจมส์ บรูก : 29 เมษายน พ.ศ. 2346 – 11 มิถุนายน พ.ศ. 2411) ทูตอังกฤษเข้ามาขอแก้ไขหนังสือสัญญาในรัชกาลที่ 3 เมื่อเดิอน 9 ปีจอ พ.ศ. 2393 ได้กล่าวถึงพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (บุญมา) และว่าต่อมาได้เป็นพระยาไกรโกษาในพระบรมราชวัง สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นผู้สร้างวัดโชตินาราม ซึ่งภายหลังเรียกกันว่าวัดพระยาไกร ตามราชทินนามของท่าน" การเรียกชื่อ "วัดพระยาไกร" ยังคงใช้อยู่อาจด้วยเนื่องเป็นภาษาปาก ที่ยังคงคำเรียกและเป็นที่นิยมใช้กันอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
- วัดโชตนาราม ที่แปลว่า "อารามแห่งความรุ่งเรื่อง" น่าจะมาจากคำว่า "โชดึก" เพราะคำว่า "โชดึกราชเศรษฐี" นี้ เข้าใจว่าจะตั้งขึ้นตามคำเก่าที่ไทยเราใช้เรียกมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัย คือในหนังสือไตรภูมิพระร่วงได้กล่าวถึงเศรษฐีผู้หนึ่งชื่อว่า โชติเศรษฐี ว่าเป็นเศรษฐีร่ำรวยมหาศาลทีเดียว คำว่าโชติ เป็นภาษาบาลี เป็นคำเดียวกับที่เราเอามาใช้ว่าโชดึก ในหนังสือเก่าเขียนว่าโชฎึกก็มี คำนี้แปลว่าผู้มีความรุ่งเรือง ผู้มีความสว่างไสว ดังนั้นชื่อ "วัดโชตนาราม" จึงมีที่มาจากผู้สร้างในตำแหน่งโชฎึกราชเศรษฐี เหมือนธรรมเนียมการสร้างวัดและนิยมใส่ชื่อผู้สร้างหรือผู้บูรณะ เช่น วัดประยูรวงศาวาส วัดพิชัยญาติการาม เป็นต้น ซึ่งมีผู้ให้ข้อมูลพร้อมทัศนะเสริมเรื่องชื่อไว้ว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระยาไกรโกษา (เจ๊สัวบุญมา) ( คนสมัยใหม่มักเรียกว่า "เจ้าสัว" ) ได้กระทำบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ตามธรรมเนียมนิยมของขุนนางผู้ใหญ่สมัยนั้น แล้วน้อมเกล้า ฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามจากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 ว่า "วัดโชตนาราม" แต่ผู้คนทั่วไปนิยมเรียกว่า "วัดพระยาไกร" ตามราชทินนามของท่านผู้กระทำบูรณะปฏิสังขรณ์
ข้อสันนิษฐานการร้างของวัด
- วัดโชตนาราม หรือที่ติดปากชาวบ้านว่า "วัดพระยาไกร" ก็มีสภาพกลายเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะท่านเจ๊สัวบุญมาคงไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด บริเวณภายในวัดก็กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า หลักฐานที่ปรากฏว่าในสมัยพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 วัดนี้ก็ไม่มีเจ้าอาวาสปกครองแล้ว เสนาสนะสงฆ์ปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมยากแก่การบูรณะรวมไปถึงพระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น (พระสุโขทัยไตรมิตร ก่อนย้ายไปวัดไตรมิตรวิทยาราม และหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ก่อนย้ายไปวัดไผ่เงิน) ก็ชำรุดทรุดโทรมลง ตามลำดับ บริเวณภายในวัดก็กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเนื่องจากไม่มีผู้ดูแลรักษา
- พื้นที่แถบนั้นสมัยก่อนเป็นชุมชนของชาวมุสลิม (อ้างอิง)
การยุบวัด
วัดพระยาไกรหรือวัดโชตนาราม เมื่อนานวันถูกทิ้งร้างจะด้วยเหตุผลในเรื่องของภูมิศาสตร์ของพื้นที่ที่อยู่ติดชายน้ำ ได้รับความเสียหายและยากแก่การบูรณะ จึงถูกทิ้งร้างไปในที่สุด เมื่อสภาพการณ์ถูกทิ้งร้าง จึงได้มีการย้ายเสนาสนะมารวมสร้างกับวัดไผ่เงิน และเปลี่ยนนามเป็นวัดไผ่เงินโชตนาราม แม้เสนาสนะจะไม่มี แต่ชื่อวัดและที่ดินอันเป็นที่ศาสนาสมบัติกลางยังมีอยู่ ชื่อวัดก็ยังปรากฏในทำเนียบวัดจนกระทั่ง พ.ศ. 2539 วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนารามได้ถูกหน่วยงานราชการที่ดูแล ประกาศยุบวัด (ร้าง) ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม 2539 ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539
ลำดับเหตุการณ์วัดพระยาไกร
- พ.ศ. 2344 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท อัญเชิญพระพุทธรูปมาจากเมืองเหนือซึ่งส่วนมากชำรุดจากศึกสงคราม เพื่อนำมาบูรณะและนำมาประดิษฐานยังวัดสำคัญในกรุงเทพฯ พระพุทธรูปที่อัญเชิญลงมามีจำนวนมาก รวมทั้งพระพุทธรูปสำริด และพระพุทธรูปทองคำ ซึ่งพอกปิดไว้ด้วยปูนโดยอัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้มาไว้ที่วัดพระยาไกร
- ในสมัยรัชกาลที่ 2 เจ้าสัวบุญมาเป็นผู้แต่งสำเภาและดูแลพระคลังของฝ่ายวังหน้า ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ย้ายมารับราชกาลสังกัดวังหลวงมีบรรดาศักดิ์ พระยาโชฏึกราชเศรษฐี (บุญมา) พ.ศ. 2384 เริ่มบูรณะวัดโชตินาราม เมื่อรัชกาลที่ 3 เสด็จสวรรคตก็ย้ายกลับไปรับราชกาลวังหน้าอีกครั้ง เป็นพระยาไกรโกษาธิบดี 1 ใน 4 จตุสดมภ์ในพระราชวังบวร การก่อสร้างวัดแล้วเสร็จ แต่ยังมิได้ทันมีการฉลองวัดก็ถึงแก่อนิจกรรมลงเสียก่อน และยังเป็นหนี้วังหน้าอยู่ 100 ชั่ง นางจัน ผู้เป็นภรรยาจึงยกที่ดินส่วนนี้ให้เป็นการชดใช้ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าโปรดเกล้าให้ใช้เป็นอู่ต่อเรือ
- พ.ศ. 2404 เริ่มตัดถนนเจริญกรุงทำให้ที่ดินถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าโปรดเกล้าให้บริษัท East Asiatic ของนาย H.N. Anderson ชาวเดนมาร์กเช่าที่ริมน้ำเพื่อทำโกดังซุง 7 มกราคม 2408 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าสวรรคต ล่วงมาถึงในรัชกาลที่ 5 วัดก็เริ่มชำรุดทรุดโทรมบันทึกกล่าวว่า หลังคาวิหารพังลง เป็นที่น่าติเตียนให้สืบหาบุตรหลานผู้สร้าง พบจมื่นเด็กชายในราชการ เรียกมาสอบถามแล้วเห็นเหลือกำลัง พระสงฆ์ก็เหลืออยู่เพียง 4-5 รูป เพราะว่าอยู่ในหมู่คนต่างประเทศ
- พ.ศ. 2437 มีคนซื้ออู่ต่อเรือนี้จากพระยาอิศรานุภาพ (เอี่ยม บุญนาค) ผู้ซึ่งอ้างว่าได้รับพระราชทานที่ดินจากสมเด็จพระปิ่นเกล้าแต่กระทรวงการคลังคัดค้านว่า ที่ดินดังกล่าวเดิมเป็นที่ธรณีสงฆ์ เมื่อเลื่อมสภาพย่อมต้องตกกลับเป็นของหลวง ซึ่งกรมอัยการเห็นชอบ
- พ.ศ. 2440 บริษัท East Asiaticประสงค์จะขอเช่าที่ต่อเพื่อทำอู่ต่อเรือ และโรงเลื่อยรัชกาลที่ 5 ทรงเห็นชอบให้บริษัททำการเช่าเป็นเวลา 20 ปี เพื่อนำค่าเช่าที่มาดูแลสถานที่ต่อไป พ.ศ. 2450 พบว่าบริษัทละเมิดสัญญาโดยการใช้โบสถ์และวิหารเป็นโกดังเก็บของ จึงทำการขึ้นราคาค่าเช่า
- พ.ศ. 2461 เจ้ากรมกัลปนา กระทรวงธรรมการ เจ้าของสัญญาเช่าพบว่าบริษัทใช้โบสถ์วิหารเป็นสถานที่บรรจุสุรา ผิดจากสัญญาที่ตกลงจึงทำการเปรียบเทียบปรับ และให้บริษัทย้ายอุปกรณ์โรงงานออกไปอดีตวัดที่เคยอาจจะเป็นได้ถึงพระอารามหลวง คงทรุดโทรมไปมาก
- พ.ศ. 2478 เมื่อวัดพระยาไกรกลายเป็นวัดร้าง ที่ประชุมคณะสงฆ์จึงให้วัดไตรมิตรวิทยารามและวัดไผ่เงินโชตนารามไปอัญเชิญพระพุทธรูปสององค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวัดพระยาไกรไปประดิษฐานไว้ตามสมควร
- พ.ศ. 2482 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 มีการรื้อที่วัดเงินบริเวณคลองเตยเพื่อสร้างท่าเรือคลองเตย จึงย้ายวัดเงินมารวมไว้ที่วัดไผ่ล้อมและกลายเป็น "วัดไผ่เงิน"
- พ.ศ. 2483 รวมวัดโชตนาราม (วัดพระยาไกร) เข้ากับวัดไผ่เงิน และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไผ่เงินโชตนาราม
- พ.ศ. 2539 ประกาศให้ยุบวัดโชตนาราม ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม 2539 ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 113 ตอนที่ 67 ง หน้า 20 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2539
ชื่อวัดกับประวัติศาสตร์ชุมชน
วัดพระยาไกร หรือวัดโชตนาราม แม้จะไม่หลงเหลือวัดให้เป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธ อาจเรียกได้ว่า "วัดที่เหลือแต่ชื่อ" ก็คงไม่ผิด ด้วยเหตุผลของเงื่อนเวลา แต่ในเวลาเดียวกันวัดพระยาไกร ยังถูกเรียกในฐานะเป็นสถานที่ ประหนึ่งมีวัดตั้งอยู่ ดังปรากฏชื่อเป็นเขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร "แขวงวัดพระยาไกร" เป็นชื่อของหน่วยงานราชการ เช่น สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร หรือไปรษณีย์วัดพระยาไกร ท่าเรือด่วนแม่น้ำเจ้าพระยาวัดพระยาไกร เป็นต้น
อ้างอิง
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/D/067/20.PDF ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ยุบวัดโชตนาราม (ร่าง) เมื่อ 7 สิงหาคม 2539
- สำนักหอสมุดแห่งชาติ (แผนกเอกสารโบราณ), จดหมายเหตุสมัยรัชกาลที่ 3 จ.ศ.1213 เอกสารที่ 7 /สืบค้นโดย ม.จิรัชฌา เปรมสุวรรณ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ บางรัก และประชุมหมายรับสั่งภาค 4 ตอนที่ 1 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จ.ศ. 1186 – 1203.กรุงเทพฯ : คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยและจัดพิมพ์เอกสาร ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี, 2536.
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/477.PDF พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ของวัดหน้าพระธาตุ วัดเงิน วัดไก่เตี้ย (ร้าง) และวัดทอง อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร ให้แก่กระทรวงเศรษฐการ พุทธศักราช 2481ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 56ตอนที่ 0กประกาศเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 หน้า 477
- ประวัติพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรหรือพระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร. กรุงเทพฯ : กราฟิคอาร์ตพริ้นติ้ง, 2549.
- หนังสือจดหมายเหตุ เรื่องเซอเชมสบรุกเข้ามาขอทำสัญญาในรัชกาลที่ 3
- http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2523/D/180/4119.PDF ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องตั้งที่ทำการสถานีไปรษณีและโทรเลขวัดพระยาไกร ฯ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ที่ 97 ตอนที่ 180 หน้า 4119 ประกาศเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2523
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdphrayaikr hrux wdochtnaram inxdittngxyuinyanaekhwngwdphrayaikr ekhtbangkhxaehlm krungethphmhankhr kxnmaepnthitngkhxngthaeruxaelabristh xistexechiytik bristhedineruxsychatiednmark insmyrchkalthi 5 aelapccubnepnthitngkhxngexechiythikh edxariewxrfrxnt wdphrayaikr hruxwdochtnaram miprawtithingiwepnchux tang innam wdphrayaikr aelaekhyepnthipradisthanphraphuththmhasuwrrnptimakrkxnthicathukyayipyngwditrmitrwithyaramwrwihar txmawdthukthingrangaelathukyubtamprakaskhxngkrathrwngsuksathikaremux 7 singhakhm 2539 tamthipraktinrachkiccanuebksa elmthi 113 txnthi 67 ng hna 20 lngwnthi 20 singhakhm 2539sranginsmyrchkalthi2 3prawtiphraphuththmhasuwrrnptimakr khnapradisthan n phrawiharhlngeka phayinwditrmitrwithyaramwrwihar wdphrayaikr epnchuxdngedimkhxngwdochtnaram mihlkthanwasrangkxn ph s 2344 cnkrathngmi ecakrmthasay epnhwhnakhncin khwbkhumkhncininithykhxngphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwidthakar burnaptisngkhrnesrcaelwidnxmthwayepnphraxaramhlwnginrchsmykhxngphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw aelaidrbkarsthapna khunepnphraxaramhlwngminamwawdochtnaram tamhlkthancdhmayehtu txma wdphrayaikr klaysphaphepnwdrang snnisthanwaxacepnephraathanecaswbuymakhngimmithayathsubsayskulthaihkhadphuduaelxupthmphwd hlkthanthipraktwainrchsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw wdnikimmiecaxawaspkkhrxngaelw esnasnasngkhprkhkphngcharudthrudothrmyakaekkarburnarwmipthungphraxuobsthxnepnthipradisthanphraphuththruppunpn phrasuokhthyitrmitr kxnyayipwditrmitrwithyaram aelahlwngphxsmvththi kxnyayipwdiphengin kcharudthrudothrmlngtamladb briewnphayinwdkklayepnthirkrangwangeplaenuxngcakimmiphuduaelrksa cnthungsmyrchkalthi 5 inewlannexngthangbristh xisth exechiytik cakd aehngpraethsednmark sungthathurkickhaimsksngxxkyngtangpraethsmxngehnepnthaelthidisahrbtngorngeluxyckrkhxngbristh orngeluxyckrthiihythisudinsyaminchwngewlann cungidaesdngkhwamprasngkhkhxechaphunthiwdochtnaramcakthangrachkar emuxidrbxnuyataelwthangbristh kidthakarruxthxnesnasnasngkhthiprkhkphngesiykhngehluxiwaetephiyngphraxuobsth xnepnthipradisthanphraphuththruppunpn 2 xngkh iwphayinethann phraphuththmhasuwrrnptimakr phraphuththrupthxngkha kxnthicaxyechiymapradisthan n wditrmitrwithyaram rwmthngphraprathaninxuobsthwdiphenginochtnaram thihlxdwyolhasarid smyxanackrsuokhthy in ph s 2478 smedcphrawnrt ehng ekhmcari khnanndarngtaaehnngepnecakhnaaekhwnglangidmibychaihwditrmitrwithyaram khnannyngichchuxwdsamcin maepliynchuxepnwditrmitrwithyaram emuxpi ph s 2482 aelawdiphengin aethwbangkhxaehlm phayhlngcakthiidxyechiyphraphuththrupthxngsmvththi phraprathan ipaelwidepliynchuxepn wdiphenginochtnaram xyechiyphraphuththrup 2 xngkhniippradisthanekbrksaiwephuxkhwamehmaasm phramngkhlsuthi sri yosthor ecaxawaswdiphengininkhnannideluxkphraphuththrupsmvththismysuokhthy aelaesnasnaxun cungiddaeninkarkhnyayipyngwdiphengin emuxwnthi 15 singhakhm ph s 2483 odymichuxwa hlwngphxsmvththi aelaehtuniwdiphengin cungmichuxwa ochtnaram cakwdochtnaram hruxwdphrayaikr txthayepn wdiphenginochtnaram praktxyucnkrathngpccubn khwamsakhy wdphrayaikr hruxwdochtnaram inkhrngsmyrchkalthi 3 epnwdthiidrbkarxupthmph mihlkthantamthipraktincdhmayehtu smyrchkalthi 3 c s 1213 bnthukiwwawdidrbkar ykihepnphraxaramhlwng nxkcakniyngphrasngkhthrngsmnskdi idrbkicnimntipaesdngthrrmaelachnphttaharinphrarachwngtlxdrchkal karyayphraphuththrup hlwngphxsmvththi wdiphenginochtnaram in ph s 2482 krathrwngesrsthkar prasngkhewnkhunthidinbriewnkhlxngety ephuxsrangthaeruxkhlxngety xnprakxbdwydwywdengin wdiketiy wdhnaphrathatu tngxyuinekhttablphraokhnng tablkhlxngety xaephxphraokhnng cnghwdphrankhr wdthnghmdcungtxngthukruxthxn odythangkaridihwdenginkbwdiphlxmedim marwmknepnwdiphengin phrxmknnnkrmkarsasnaminoybayaeckcayphraphuththrupthitkkhangxyuthiwdphrayaikr sungepnwdrangxyuepnphuththbrrnakar phramngkhlsuthi phramhasri yosthor ecaxawaswdiphenginochtnaram krungethph idxyechiyphraphuththptimainphraxuobsthmapradisthanthiwdiphenginochtnaram odythanaelakhnakrrmkarwdid hlwngphxsmvththi epnphraphuththptimathihlxdwysaridaelaepnsaridaekengincd pangmarwichy mikhnadhnatkkwang 4 sxkess dwyehtuphlthiwaimcharud khnathixngkhphraphuththptimahlwngphxsuokhthyitrmitrthithukpunhumxyumirxyrawcak ihlthungexwipthungrakthanepnrxngelk mxngehnenuxsmvththisiekhiyw thiyngpradisthanxyu naippradisthanthiwdiphenginochtnaram emuxwnthi 15 singhakhm ph s 2483 odymichuxwa hlwngphxsmvththi tamwtthuthicdsrangepnthxngsarid phrasuokhthyitrmitr wditrmitrwithyaram wdphrayaikr sungkhnannepnwdrang immiphuduael miphraphuththptimapunpnsxngxngkh sungpradisthanxyuinphraxuobsthxngkhhnungaelaxyuinphrawiharxikxngkhhnung prakxbkb prasngkhkhxechaphunthikhxngwdephuxdaeninkickarkhxngbristh thiprachumkhnasngkhxnmismedcphrawnrtn xngkhsngkhnayk miethrabychaihkhnakrrmkarwdsamcin hruxwditrmitrwithyaram aelawdiphenginochtnaram ipxyechiyphraphuththrupsxngxngkhnn ippradisthaniwtamsmkhwr thangkhnakhxngwdiphenginidedinthangipthungkxn cungeluxkxyechiyphraphuththrupsaridip ehluxphraphuththruppunpniwihwditrmitr wditrmitrwithyaramemuxidphramaaelwmiidthakarid kbphraphuththrup ephiyngplukephingskkasiephuxpxngaeddknfn iwrimthnndanthistawnxxkkhxngphraxuobsth epnewlathung 20 pi dwyynghathicapradisthanxnehmaasmmiid txmainpi ph s 2497 cungthakarsrangwiharihm dwytngiccapradisthanphraphuththrupxngkhniodyechphaa ephuxcaidthakarpradisthanphraphuththrup ihthuktxngtamobranrachpraephni aetinkhnaekhluxnyayphraphuththrup enuxngcakphraphuththrupminahnkmak sayekhruxngkwancungkhadlng thaihphraphuththruptkkraaethkphun sngphlihpunthihumbriewnphraxurakraethaaxxk ephyihehnenuxthxngkhabrisuththi thanecaxawascungihlxkpunxxkthngxngkh aelwnakhunpradisthan n phrawiharnn phrxmknnnidmikarcdsrangphramnthpephuxpradisthanphraphuththrupsuokhthymitrepnkarechphaadngthipraktinpccubn phngkaryubrwmwd wdengin epnwdthiprakthlkthanwaihthukewnkhuninpi ph s 2482 sungducakhlkthanthipraktchichdwaepnwdrangaelaehluxephiyngthithrnisngkhaelasasnasmbtiklang thangkarcungewnkhunephuxsrangthaeruxkhlxngety thukyubrwmkbwdiphlxm epn wdiphengin wdiphlxm thukyubrwmkbwdengin epn wdiphengin wdphrayaikr hrux wdochtnaram thukyubrwmkbwdiphengin epn wdiphenginochtnaram phraphuththrupsaridthukyayipwdiphenginochtnaram phrathxngkha phrasuokhthyitrmitrthukyayipwditrmitrwithyaram wdiphenginochtnaram macakkarrwm 3 wdekhadwykntngaet wdengin wdiphlxm wdochtnaram wdphrayaikr chux wdiphenginochtnaram cungthukeriykaelaichmatngaet ph s 2483 epntnmacnthungpccubnkhxsnnisthanekiywkbchux wdphrayaikr tngchuxtamrachthinnamkhxngphusrangwd odymikhxmulwa inhnngsuxesxresmsbruk Sir ecms bruk 29 emsayn ph s 2346 11 mithunayn ph s 2411 thutxngkvsekhamakhxaekikhhnngsuxsyyainrchkalthi 3 emuxedixn 9 picx ph s 2393 idklawthungphrayaochdukrachesrsthi buyma aelawatxmaidepnphrayaikroksainphrabrmrachwng smyrchkalthi 4 epnphusrangwdochtinaram sungphayhlngeriykknwawdphrayaikr tamrachthinnamkhxngthan kareriykchux wdphrayaikr yngkhngichxyuxacdwyenuxngepnphasapak thiyngkhngkhaeriykaelaepnthiniymichknxyucnkrathngpccubnwdochtnaram thiaeplwa xaramaehngkhwamrungeruxng nacamacakkhawa ochduk ephraakhawa ochdukrachesrsthi ni ekhaicwacatngkhuntamkhaekathiithyeraicheriykmaaetkhrngkrungsuokhthy khuxinhnngsuxitrphumiphrarwngidklawthungesrsthiphuhnungchuxwa ochtiesrsthi waepnesrsthirarwymhasalthiediyw khawaochti epnphasabali epnkhaediywkbthieraexamaichwaochduk inhnngsuxekaekhiynwaochdukkmi khaniaeplwaphumikhwamrungeruxng phumikhwamswangisw dngnnchux wdochtnaram cungmithimacakphusrangintaaehnngochdukrachesrsthi ehmuxnthrrmeniymkarsrangwdaelaniymischuxphusranghruxphuburna echn wdprayurwngsawas wdphichyyatikaram epntn sungmiphuihkhxmulphrxmthsnaesrimeruxngchuxiwwa inrchsmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw rchkalthi 3 phrayaikroksa ecswbuyma khnsmyihmmkeriykwa ecasw idkrathaburnaptisngkhrnkhunmaihm tamthrrmeniymniymkhxngkhunnangphuihysmynn aelwnxmekla thwayepnphraxaramhlwng idrbphrarachthannamcaklnekla rchkalthi 3 wa wdochtnaram aetphukhnthwipniymeriykwa wdphrayaikr tamrachthinnamkhxngthanphukrathaburnaptisngkhrnkhxsnnisthankarrangkhxngwd wdochtnaram hruxthitidpakchawbanwa wdphrayaikr kmisphaphklayepnwdrang snnisthanwaxacepnephraathanecswbuymakhngimmithayathsubsayskulthaihkhadphuduaelxupthmphwd briewnphayinwdkklayepnthirkrangwangepla hlkthanthipraktwainsmyphracxmekla rchkalthi 4 wdnikimmiecaxawaspkkhrxngaelw esnasnasngkhprkhkphngcharudthrudothrmyakaekkarburnarwmipthungphraxuobsthxnepnthipradisthanphraphuththruppunpn phrasuokhthyitrmitr kxnyayipwditrmitrwithyaram aelahlwngphxsmvththi kxnyayipwdiphengin kcharudthrudothrmlng tamladb briewnphayinwdkklayepnthirkrangwangeplaenuxngcakimmiphuduaelrksa phunthiaethbnnsmykxnepnchumchnkhxngchawmuslim xangxing karyubwd wdphrayaikrhruxwdochtnaram emuxnanwnthukthingrangcadwyehtuphlineruxngkhxngphumisastrkhxngphunthithixyutidchayna idrbkhwamesiyhayaelayakaekkarburna cungthukthingrangipinthisud emuxsphaphkarnthukthingrang cungidmikaryayesnasnamarwmsrangkbwdiphengin aelaepliynnamepnwdiphenginochtnaram aemesnasnacaimmi aetchuxwdaelathidinxnepnthisasnasmbtiklangyngmixyu chuxwdkyngpraktinthaeniybwdcnkrathng ph s 2539 wdphrayaikr hruxwdochtnaramidthukhnwynganrachkarthiduael prakasyubwd rang tamprakaskhxngkrathrwngsuksathikaremux 7 singhakhm 2539 tamthipraktinrachkiccanuebksa elmthi 113 txnthi 67 ng hna 20 lngwnthi 20 singhakhm 2539 ladbehtukarnwdphrayaikr ph s 2344 insmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk oprdihkrmphrarachwngbwrmhasursinghnath xyechiyphraphuththrupmacakemuxngehnuxsungswnmakcharudcaksuksngkhram ephuxnamaburnaaelanamapradisthanyngwdsakhyinkrungethph phraphuththrupthixyechiylngmamicanwnmak rwmthngphraphuththrupsarid aelaphraphuththrupthxngkha sungphxkpidiwdwypunodyxyechiyphraphuththrupthngsxngxngkhnimaiwthiwdphrayaikr insmyrchkalthi 2 ecaswbuymaepnphuaetngsaephaaeladuaelphrakhlngkhxngfaywnghna txmainsmyrchkalthi 3 yaymarbrachkalsngkdwnghlwngmibrrdaskdi phrayaochtukrachesrsthi buyma ph s 2384 erimburnawdochtinaram emuxrchkalthi 3 esdcswrrkhtkyayklbiprbrachkalwnghnaxikkhrng epnphrayaikroksathibdi 1 in 4 ctusdmphinphrarachwngbwr karkxsrangwdaelwesrc aetyngmiidthnmikarchlxngwdkthungaekxnickrrmlngesiykxn aelayngepnhniwnghnaxyu 100 chng nangcn phuepnphrryacungykthidinswnniihepnkarchdich phrabathsmedcphrapineklaoprdeklaihichepnxutxerux ph s 2404 erimtdthnnecriykrungthaihthidinthukaebngxxkepnsxngfng phrabathsmedcphrapineklaoprdeklaihbristh East Asiatic khxngnay H N Anderson chawednmarkechathirimnaephuxthaokdngsung 7 mkrakhm 2408 phrabathsmedcphrapineklaswrrkht lwngmathunginrchkalthi 5 wdkerimcharudthrudothrmbnthukklawwa hlngkhawiharphnglng epnthinatietiynihsubhabutrhlanphusrang phbcmunedkchayinrachkar eriykmasxbthamaelwehnehluxkalng phrasngkhkehluxxyuephiyng 4 5 rup ephraawaxyuinhmukhntangpraeths ph s 2437 mikhnsuxxutxeruxnicakphrayaxisranuphaph exiym buynakh phusungxangwaidrbphrarachthanthidincaksmedcphrapineklaaetkrathrwngkarkhlngkhdkhanwa thidindngklawedimepnthithrnisngkh emuxeluxmsphaphyxmtxngtkklbepnkhxnghlwng sungkrmxykarehnchxb ph s 2440 bristh East Asiaticprasngkhcakhxechathitxephuxthaxutxerux aelaorngeluxyrchkalthi 5 thrngehnchxbihbrisththakarechaepnewla 20 pi ephuxnakhaechathimaduaelsthanthitxip ph s 2450 phbwabristhlaemidsyyaodykarichobsthaelawiharepnokdngekbkhxng cungthakarkhunrakhakhaecha ph s 2461 ecakrmklpna krathrwngthrrmkar ecakhxngsyyaechaphbwabristhichobsthwiharepnsthanthibrrcusura phidcaksyyathitklngcungthakarepriybethiybprb aelaihbristhyayxupkrnorngnganxxkipxditwdthiekhyxaccaepnidthungphraxaramhlwng khngthrudothrmipmak ph s 2478 emuxwdphrayaikrklayepnwdrang thiprachumkhnasngkhcungihwditrmitrwithyaramaelawdiphenginochtnaramipxyechiyphraphuththrupsxngxngkhsungpradisthanxyuinwdphrayaikrippradisthaniwtamsmkhwr ph s 2482 trngkbsmyrchkalthi 8 mikarruxthiwdenginbriewnkhlxngetyephuxsrangthaeruxkhlxngety cungyaywdenginmarwmiwthiwdiphlxmaelaklayepn wdiphengin ph s 2483 rwmwdochtnaram wdphrayaikr ekhakbwdiphengin aelaepliynchuxepnwdiphenginochtnaram ph s 2539 prakasihyubwdochtnaram tamprakaskhxngkrathrwngsuksathikaremux 7 singhakhm 2539 tamthipraktinrachkiccanuebksa elmthi 113 txnthi 67 ng hna 20 lngwnthi 20 singhakhm 2539chuxwdkbprawtisastrchumchn wdphrayaikr hruxwdochtnaram aemcaimhlngehluxwdihepnthiekharphskkarakhxngchawphuthth xaceriykidwa wdthiehluxaetchux kkhngimphid dwyehtuphlkhxngenguxnewla aetinewlaediywknwdphrayaikr yngthukeriykinthanaepnsthanthi prahnungmiwdtngxyu dngpraktchuxepnekhtkarpkkhrxngkhxngkrungethphmhankhr aekhwngwdphrayaikr epnchuxkhxnghnwynganrachkar echn sthanitarwcnkhrbalwdphrayaikr hruxiprsniywdphrayaikr thaeruxdwnaemnaecaphrayawdphrayaikr epntnxangxinghttp www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2539 D 067 20 PDF prakaskrathrwngsuksathikar eruxng ihyubwdochtnaram rang emux 7 singhakhm 2539 sankhxsmudaehngchati aephnkexksarobran cdhmayehtusmyrchkalthi 3 c s 1213 exksarthi 7 subkhnody m circhcha eprmsuwrrn orngeriynxssmchykhxnaewnt bangrk aelaprachumhmayrbsngphakh 4 txnthi 1 smykrungrtnoksinthr rchkalphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw c s 1186 1203 krungethph khnakrrmkarcharaprawtisastrithyaelacdphimphexksar thangprawtisastraelaobrankhdi sankelkhathikarsanknaykrthmntri 2536 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2482 A 477 PDF phrarachbyytioxnkrrmsiththithiwdaelathithrnisngkhkhxngwdhnaphrathatu wdengin wdiketiy rang aelawdthxng xaephxphraokhnng cnghwdphrankhr ihaekkrathrwngesrsthkar phuththskrach 2481rachkiccanuebksa elmthi 56txnthi 0kprakasemux 26 emsayn ph s 2482 hna 477 prawtiphraphuththmhasuwrrnptimakrhruxphraphuththrupthxngkhasuokhthyitrmitr krungethph krafikhxartphrinting 2549 hnngsuxcdhmayehtu eruxngesxechmsbrukekhamakhxthasyyainrchkalthi 3 http www ratchakitcha soc go th DATA PDF 2523 D 180 4119 PDF prakaskrathrwngkhmnakhm eruxngtngthithakarsthaniiprsniaelaothrelkhwdphrayaikr rachkiccanuebksa elm thi 97 txnthi 180 hna 4119 prakasemux 24 phvscikayn 2523