อำเภอลับแล เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นชุมชนโบราณมีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย1 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เคยเสด็จมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2444 ความเป็นมาของคำว่า “ลับแล” นั้น ตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพว่า เดิมชาวเมืองแพร่ เมืองน่าน หนีข้าศึกและความเดือดร้อนมาซุ่มซ่อนตั้งชุมชนอยู่บริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่ป่ารก หลบซ่อนตัวง่ายและ ภูมิประเทศเป็นเมืองอยู่ในหุบเขามีที่เนินสลับกับที่ต่ำ คนต่างเมืองถ้าไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศจะหลงทางได้ง่าย
อำเภอลับแล | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Laplae |
ประตูสัญลักษณ์อำเภอลับแล | |
คำขวัญ: งามพระแท่นศิลาอาสน์ ถิ่นลางสาดรสดี เมืองพระศรีพนมมาศ แหล่งไม้กวาดตองกง ดงหอมแดงลือชื่อ งามระบือน้ำตกแม่พูล | |
แผนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เน้นอำเภอลับแล | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | อุตรดิตถ์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 448.8 ตร.กม. (173.3 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 54,530 คน |
• ความหนาแน่น | 121.50 คน/ตร.กม. (314.7 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 53130 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 5308 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอลับแล ถนนศรีพนมมาศ ตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ รหัสไปรษณีย์ 53130 |
ส่วนหนึ่งของ |
อำเภอลับแลนอกจากจะมีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองล้านนา เช่น ผ้าตีนจก ไม้กวาด เป็นแหล่งปลูกลางสาด และทุเรียนหลง-หลินลับแล ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัด
ประวัติเมืองลับแล
จากหลักฐานศิลาจารึกเจดีย์พิหาร ขุดได้ที่หน้าวิหารวัดเจดีย์คีรีวิหาร ซึ่งมหาอำมาตย์ตรี พระยานครพระราม ส่งเข้าหอสมุดวชิรญาณ กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2473 ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ให้ความเห็นว่าเนื้อหาจารึกน่าจะกล่าวตั้งแต่ครั้งเมื่อพระยาลิไทยขึ้นเสวยราชย์ เป็นหลักฐานหนึ่งที่ยืนยันว่าอาณาบริเวณเมืองลับแลปัจจุบัน เป็นชุมชนที่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย
นอกจากนี้ ทางด้านเหนือและตะวันตกของเมืองกัมโพช มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาสลับซับซ้อน มีบรรยากาศเยือกเย็นยามพลบค่ำแม้ตะวันจะยังไม่ตกดินก็จะมืดแล้ว เพราะมีดอยม่อนฤๅษีเป็นฉากกั้นแสงอาทิตย์ ป่านี้จึงได้ชื่อว่า "ป่าลับแลง" (แลง เป็นภาษาล้านนาแปลว่า เวลาเย็น) ต่อมาเพี้ยนเป็น "ลับแล" ซึ่งกลายมาเป็นชื่ออำเภอลับแลในสมัยปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี ที่ตั้งของลับแลได้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองทุ่งยั้งในอาณาจักรสุโขทัย จนในปี พ.ศ. 1981 เมืองทุ่งยั้ง ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรอยุธยา ที่ตั้งของลับแลก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองทุ่งยั้งมาโดยตลอด
ในด้านชาติพันธ์คนลับแลที่ใช้ภาษาถิ่นล้านนานั้น จากข้อสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้สันนิษฐานจากชาติพันธ์และภาษาของผู้คนในที่ตั้งเมืองลับแลในปัจจุบัน ว่าเดิมเป็นชาวเมืองแพร่ เมืองน่าน หนีข้าศึกและความเดือดร้อนมาซุ่มซ่อนตั้งชุมชนอยู่บริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่ป่ารก หลบซ่อนตัวง่ายและ ภูมิประเทศเป็นเมืองอยู่ในหุบเขามีที่เนินสลับกับที่ต่ำ คนต่างเมืองถ้าไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศจะหลงทางได้ง่าย ประกอบกับตำนานท้องถิ่น ระบุว่าได้มีผู้คนจากอาณาจักรโยนกเชียงแสน อพยพหลบภัยสงครามเข้ามาตั้งรกรากอยู่บริเวณที่ราบเขาแถบลับแล และตั้งชื่อว่า บ้านเชียงแสน ต่อมาคนกลุ่มนั้นก็แยกย้ายกันไปหักล้างถางดงสร้างบ้านเมือง ขึ้นกระจัดกระจายตามที่ราบและไหล่เขาต่าง ๆ ซึ่งปรากฏว่าได้มีตำนานการอัญเชิญ พระราชโอรสของพระเจ้าเรืองชัยธิราช จากอาณาจักรโยนกนาคนครเชียงแสน ถูกสร้างขึ้นอีกในช่วงหลัง ประกอบกับชุมชนลับแลมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังปรากฏหลักฐานการสร้างศาสนสถานวัดป่าสัก ซึ่งมีศิลปะเอกลักษณ์แบบอยุธยาผสมล้านนา ทำให้เมืองลับแล กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ที่มีผู้ใช้ภาษาถิ่นล้านนามาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ครั้นต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ในราว พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองอุตรดิตถ์ และได้เสด็จมาถึงเมืองลับแลในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2444 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายศาลากลางจังหวัดจากเมืองพิชัยมาตั้งที่บางโพ และยุบเมืองทุ่งยั้งรวมกับลับแล และสถาปนาเมืองลับแลขึ้นเป็นอำเภอ ส่วนอาคารที่ทำการยังตั้งอยู่ที่เมืองทุ่งยั้ง บริเวณใกล้เวียงเจ้าเงาะ
ต่อมาพระพิศาลคีรี ได้ย้ายอาคารที่ทำการไปตั้งที่ม่อนจำศีลในปีเดียวกันนี้ (ห่างจากที่ว่าการ อำเภอปัจจุบันไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร) ครั้นถึง พ.ศ. 2457 สมัย พระศรีพนมมาศ (เมื่อครั้งเป็นหลวงศรีพนมมาศ) เห็นว่าห่างไกลจากตัวเมืองลำบากแก่ราษฎรไปติดต่อ ประกอบกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะสงวนที่ ม่อนจำศีล เป็นที่ประดิษฐานพระเหลือ (พระพุทธรูปที่สร้างจากทองที่เหลือจากการหล่อพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก) เพราะทรงเห็นว่าทิวทัศน์ของม่อนจำศีลคล้ายกับเมืองชวา จึงได้ย้ายอาคารที่ทำการจากม่อนจำศีล มาอยู่ที่ ม่อนสยามินทร์ (ชาวบ้านเรียกม่อนสามินทร์) เพราะเคยเป็นที่ตั้งพลับพลารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอในปัจจุบัน
ศิลปะวัฒนธรรม
ชาวเมืองลับแลดั้งเดิม มีภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณ คือในชุมชนรอบพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตำบลทุ่งยั้ง ตำบลไผ่ล้อม ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ปรากฏหลักฐานในสมัยสุโขทัย และชุมชนเดิมในพื้นที่ตั้งตัวอำเภอลับแล ก่อนที่จะถูกทิ้งร้าง ปรากฏหลักฐานศิลาจารึกการสถาปนาพระธาตุเจดีย์พิหารในสมัยพระยาลิไทย สันนิษฐานว่าแถบที่ตั้งเมืองลับแลทั้งหมด เป็นชุมชนที่ใช้ภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณมาก่อนนับ ๗๐๐ ปี
ก่อนที่จะมีการอพยพชาวไทยวนจากอาณาจักรโยนกนาคนครเชียงแสนมาในสมัยหลัง ซึ่งปัจจุบันชาวไทยวนในอำเภอลับแลส่วนใหญ่อยู่ในเขตตอนเหนือของอำเภอ และที่ตั้งตัวอำเภอ ส่วนเขตทางใต้ของอำเภอลับแล ยังคงเป็นชุมชนภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณอยู่ ดังนั้นชาวลับแลจึงมีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ทั้ง 2 วัฒนธรรม คือชุมชนภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณ และชุมชนภาษาถิ่นล้านนา มีภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกาย อาหารการกิน เป็นแบบล้านนา ที่มีใช้อยู่ในแถบล้านนาตะวันออก เช่น แพร่ น่าน เชียงราย และพะเยา เป็นต้น
บุคคลสำคัญ
- เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร - วีรบุรุษในตำนานของลับแล ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจ้าชายมาจากเมืองโยนกเชียงแสน โดยท่านได้อพยพประชาชนส่วนหนึ่งมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านใหม่เชียงแสน ตำบลฝายหลวงในปัจจุบัน และทางองค์การบริหารส่วนตำบลฝายหลวง ได้ทำการสร้างอนุสาวรีย์ของท่าน ไว้ที่บริเวณหน้าทางเข้าวัดม่อนอารักษ์
- พระศรีพนมมาศ (ทองอิน แซ่ตัน) - อดีตนายอำเภอลับแลในสมัยรัชกาลที่ 5
ตำนานเมืองลับแล
เมืองลับแลนั้นเป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เดิมคงเป็นเมืองที่การเดินทางไปมาไม่สะดวก เส้นทางคดเคี้ยว ทำให้คนที่ไม่ชำนาญทางพลัดหลงได้ง่าย จนได้ชื่อว่าเมืองลับแล ซึ่งแปลว่า มองไม่เห็น มีเรื่องเล่ากันว่าคนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึงเมืองลับแล
ตำนานนี้เล่ากันสืบมาว่า ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่ง (น่าจะเป็นคนเมืองทุ่งยั้ง) เข้าไปในป่า ได้เห็นหญิงสาวสวยหลายคนเดินออกมา ครั้นมาถึงชายป่า นางเหล่านั้นก็เอาใบไม้ที่ถือมาไปซ่อนไว้ในที่ต่าง ๆ แล้วก็เข้าไปในเมือง ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงแอบหยิบใบไม้มาเก็บไว้ใบหนึ่ง ตกบ่ายหญิงสาวเหล่านั้นกลับมา ต่างก็หาใบไม้ที่ตนซ่อนไว้ ครั้นได้แล้วก็ถือใบไม้นั้นเดินหายลับไป มีหญิงสาวคนหนึ่งหาใบไม้ไม่พบ เพราะชายหนุ่มแอบหยิบมา นางวิตกเดือดร้อนมาก ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวให้เห็นและคืนใบไม้ให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ ขอติดตามนางไปด้วยเพราะปรารถนาจะได้เห็นเมืองลับแล หญิงสาวก็ยินยอม นางจึงพาชายหนุ่มเข้าไปยังเมืองซึ่งชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง นางอธิบายว่าคนในหมู่บ้านล้วนมีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดก็ต้องออกจากหมู่บ้านไป ผู้ชายส่วนมากมักไม่รักษาวาจาสัตย์จึงต้องออกจากหมู่บ้านกันไปหมด แล้วนางก็พาชายหนุ่มไปพบมารดาของนาง ชายหนุ่มเกิดความรักใคร่ในตัวนางจึงขออาศัยอยู่ด้วย มารดาของหญิงสาวก็ยินยอม แต่ให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะต้องอยู่ในศีลธรรม ไม่พูดเท็จ ชายหนุ่มได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวลับแลจนมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน
วันหนึ่งขณะที่ภรรยาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มผู้พ่อเลี้ยงบุตรอยู่ บุตรน้อยเกิดร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด ผู้เป็นพ่อจึงปลอบว่า "แม่มาแล้ว ๆ" มารดาของภรรยาได้ยินเข้าก็โกรธมากที่บุตรเขยพูดเท็จ เมื่อบุตรสาวกลับมาก็บอกให้รู้เรื่อง ฝ่ายภรรยาของชายหนุ่มเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ นางบอกให้เขาออกจากหมู่บ้านไปเสีย แล้วนางก็จัดหาย่ามใส่เสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้สามี พร้อมทั้งขุดหัวขมิ้นใส่ลงไปด้วยเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็พาสามีไปยังชายป่า ชี้ทางให้ แล้วนางก็กลับไปเมืองลับแล ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรก็จำต้องเดินทางกลับบ้านตามที่ภรรยาชี้ทางให้ ระหว่างทางที่เดินไปนั้น เขามีความรู้สึกว่าถุงย่ามที่ถือมาหนักขึ้นเรื่อย ๆ และหนทางก็ไกลมาก จึงหยิบเอาขมิ้นที่ภรรยาใส่มาให้ทิ้งเสียจนเกือบหมด ครั้นเดินทางกลับไปถึงหมู่บ้านเดิม บรรดาญาติมิตรต่างก็ซักถามว่าหายไปอยู่ที่ไหนมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มจึงเล่าให้ฟังโดยละเอียดรวมทั้งเรื่องขมิ้นที่ภรรยาใส่ย่ามมาให้แต่เขาทิ้งไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงแง่งเดียว พร้อมทั้งหยิบขมิ้นที่เหลืออยู่ออกมา ปรากฏว่าขมิ้นนั้นกลับกลายเป็นทองคำทั้งแท่ง ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจและเสียดาย จึงพยายามย้อนไปเพื่อหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ ปรากฏว่าขมิ้นเหล่านั้นได้งอกเป็นต้นไปหมดแล้ว และเมื่อขุดดูก็พบแต่แง่งขมิ้นธรรมดาที่มีสีเหลืองทอง แต่ไม่ใช่ทองเหมือนแง่งที่เขาได้ไป เขาพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแล แต่ก็หลงทางวกวนไปไม่ถูก จนในที่สุดก็ต้องละความพยายามกลับไปอยู่หมู่บ้านของตนตามเดิม
การตั้งตำบลต่างๆ
- วันที่ 10 ธันวาคม 2483 โอนพื้นที่ตำบลน้ำริด และตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอลับแล ไปขึ้นกับอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
- วันที่ 26 ธันวาคม 2487 จัดตั้งเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ในท้องที่ตำบลศรีพนมมาศ
- วันที่ 23 กันยายน 2490 โอนพื้นที่หมู่ 3,4,5 (ในขณะนั้น) ของตำบลศรีพนมมาศ ไปตั้งเป็นหมู่ 5,8,7 ของตำบลฝายหลวง ตามลำดับ
- วันที่ 19 ตุลาคม 2491 โอนพื้นที่ยางส่วนของหมู่ 4 บ้านตลิ่งต่ำ และบ้านนาพง (ในขณะนั้น) ของตำบลชัยจุมพล ไปขึ้นกับตำบลทุ่งยั้ง
- วันที่ 6 สิงหาคม 2517 ตั้งตำบลนานกกก แยกออกจากตำบลฝายหลวง
- วันที่ 5 พฤษภาคม 2524 ตั้งตำบลด่านแม่คำมัน แยกออกจากตำบลทุ่งยั้ง
- วันที่ 9 สิงหาคม 2526 จัดตั้งสุขาภิบาลหัวดง ในท้องที่บางส่วนของตำบลแม่พูล จัดตั้งสุขาภิบาลทุ่งยั้ง ในท้องที่บางส่วนของตำบลทุ่งยั้ง
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลหัวดง และสุขาภิบาลทุ่งยั้ง เป็นเทศบาลตำบลหัวดง และเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง ตามลำดับ ด้วยผลของกฎหมาย
- วันที่ 4 มิถุนายน 2545 แยกหมู่บ้านทุ่งเอี้ยง หมู่ที่ 5 ตำบลฝายหลวง จัดตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่อีก 1 หมู่บ้าน ชื่อหมู่บ้านทุ่งพัฒนา โดยตั้งเป็นหมู่ที่ 11 ตำบลฝายหลวง แยกหมู่บ้านท้องลับแล หมู่ที่ 7 ตำบลฝายหลวง จัดตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่อีก 1 หมู่บ้าน ชื่อหมู่บ้านท้องลับแลพัฒนา โดยตั้งเป็นหมู่ที่ 10 ตำบลฝายหลวง แยกหมู่บ้านต้นขาม หมู่ที่ 2 ตำบลชัยจุมพล จัดตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่อีก 1 หมู่บ้าน ชื่อหมู่บ้านปากทาง โดยตั้งเป็นหมู่ที่ 11 ตำบลชัยจุมพล
- วันที่ 24 สิงหาคม 2555 เปลี่ยนชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งยั้ง ไปเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสด็จ และยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสด็จ เป็นเทศบาลตำบลพระเสด็จ
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเด่นชัย (จังหวัดแพร่)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอตรอน และอำเภอศรีสัชนาลัย (จังหวัดสุโขทัย)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอศรีสัชนาลัย (จังหวัดสุโขทัย)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอลับแลแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 8 ตำบล 65 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ | อักษรไทย | อักษรโรมัน | จำนวนหมู่บ้าน | จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565) |
---|---|---|---|---|
1. | ศรีพนมมาศ | Si Phanom Mat | – | 2,883 |
2. | แม่พูล | Mae Phun | 11 | 9,071 |
3. | นานกกก | Na Nok Kok | 5 | 2,798 |
4. | ฝายหลวง | Fai Luang | 13 | 9,645 |
5. | ชัยจุมพล | Chai Chumphon | 11 | 8,739 |
6. | ไผ่ล้อม | Phai Lom | 7 | 6,204 |
7. | ทุ่งยั้ง | Thung Yang | 10 | 10,034 |
8. | ด่านแม่คำมัน | Dan Mae Kham Man | 8 | 4,920 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอลับแลประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีพนมมาศทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลหัวดง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลแม่พูล
- เทศบาลตำบลทุ่งยั้ง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลไผ่ล้อมและตำบลทุ่งยั้ง
- เทศบาลตำบลพระเสด็จ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งยั้ง (นอกเขตเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่พูล (นอกเขตเทศบาลตำบลหัวดง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลนานกกก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนานกกกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลฝายหลวง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลฝายหลวงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลชัยจุมพล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลชัยจุมพลทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ล้อม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไผ่ล้อม (นอกเขตเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลด่านแม่คำมัน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลด่านแม่คำมันทั้งตำบล
เชิงอรรถ
หมายเหตุ 1: เมืองลับแลเดิมนั้นสันนิษฐานว่าเป็นชุมชนในสมัยสุโขทัย ก่อนจะร้างลงในช่วงหลัง ดังการพบหลักฐานปฐมภูมิ คือศิลาจารึกซึ่งขุดได้ที่หน้าวิหารวัดเจดีย์คีรีวิหาร มหาอำมาตย์ตรี พระยานครพระราม ส่งเข้าหอสมุดวชิรญาณ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2473 ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ให้ความเห็นว่าเนื้อหาจารึกน่าจะกล่าวตั้งแต่ครั้งเมื่อพระยาลิไทยขึ้นเสวยราชย์ ประกอบกับเนื้อหาในศิลาจารึก การสถาปนาพระบรมธาตุโดยพระยาลิไทย สอดคล้องกับลักษณะของฐานพระเจดีย์วัดเจดีย์คีรีวิหาร ที่มีเค้าโครงของฐานเขียงสามชั้นแบบสุโขทัย ศิลาจารึกดังกล่าวจึงเป็นเครื่องยืนยันว่าที่ตั้งเมืองลับแลในปัจจุบัน เป็นชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ก่อนจะถูกทิ้งร้างและมีการอพยพเทครัวชาวเชียงแสนมาตั้งรกรากเพิ่มเติมในช่วงหลัง
อ้างอิง
- "ฟู บุญถึง และคณะ . ( ม.ป.ป.) . ลับแลหรือจะแลลับ , สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอลับแล". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-12. สืบค้นเมื่อ 2008-08-12.
- "ฟู บุญถึง และคณะ . ( ม.ป.ป.) . ลับแลหรือจะแลลับ , สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอลับแล". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-12. สืบค้นเมื่อ 2008-08-12.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-20. สืบค้นเมื่อ 2008-03-01.
- ข้อมูลอำเภอในจังหวัดอุตรดิตถ์.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์[]
- ศิลาจารึก . (๒๕๔๘). ประชุมจารึก ภาคที่ ๘ จารึกสุโขทัย. กรุงเทพ : กรมศิลปากร. หน้า ๙
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลและอำเภอในจังหวัดอุตตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 57 (0 ง): 3021. December 10, 1940.
- "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ จังหวัดอุตรดิตถ์ พุทธศักราช ๒๔๘๗" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 61 (77 ก): 1184–1187. December 26, 1944.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในเขตท้องที่จังหวัดอุตตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (45 ง): 2450–2451. September 23, 1947.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอต่าง ๆ จังหวัดอุตตรดิตถ์ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสมุทรสงคราม" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 65 (61 ง): 3422–3424. October 19, 1948.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 91 (133 ง): 3087–3089. August 6, 1974.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 98 (68 ง): 1287–1289. May 5, 1981.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลหัวดง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 100 (131 ง): 2690–2692. August 9, 1983.
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 100 (177 ง): 4139–4141. August 9, 1983.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 116 (9 ก): 1–4. February 24, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-08-08.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 119 (45 ง): 133–135. June 4, 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-08. สืบค้นเมื่อ 2021-08-08.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 119 (45 ง): 136–138. June 4, 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-08. สืบค้นเมื่อ 2021-08-08.
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 119 (45 ง): 139–141. June 4, 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-08. สืบค้นเมื่อ 2021-08-08.
- "เปลี่ยนชื่อ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งยั้ง ไปเป็น องค์การบริหารส่วนตำบลพระเสด็จ และเปลี่ยนฐานะจาก องค์การบริหารส่วนตำบลพระเสด็จ เป็น เทศบาลตำบลพระเสด็จ". August 24, 2012.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help)) - "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.
- ศิลาจารึก . (๒๕๔๘). ประชุมจารึก ภาคที่ ๘ จารึกสุโขทัย. กรุงเทพ : กรมศิลปากร. หน้า ๙
แหล่งข้อมูลอื่น
- แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอลับแล จากเว็บไซด์จังหวัดอุตรดิตถ์ 2008-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แหล่งท่องเที่ยวอำเภอลับแลจากแฟนเพจของเมืองลับแล
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xaephxlbael epnxaephxhnungincnghwdxutrditth epnchumchnobranmimatngaetsmykrungsuokhthy1 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idekhyesdcmaemux pi ph s 2444 khwamepnmakhxngkhawa lbael nn tamkhxsnnisthankhxngsmedckrmphrayadarngrachanuphaphwa edimchawemuxngaephr emuxngnan hnikhasukaelakhwameduxdrxnmasumsxntngchumchnxyubriewnni enuxngcakepnthipark hlbsxntwngayaela phumipraethsepnemuxngxyuinhubekhamithieninslbkbthita khntangemuxngthaimkhunekhykbphumipraethscahlngthangidngayxaephxlbaelxaephxkarthxdesiyngxksrormn xksrormnAmphoe Laplaepratusylksnxaephxlbaelkhakhwy ngamphraaethnsilaxasn thinlangsadrsdi emuxngphrasriphnmmas aehlngimkwadtxngkng dnghxmaedngluxchux ngamrabuxnatkaemphulaephnthicnghwdxutrditth ennxaephxlbaelpraeths ithycnghwdxutrditthphunthi thnghmd448 8 tr km 173 3 tr iml prachakr 2564 thnghmd54 530 khn khwamhnaaenn121 50 khn tr km 314 7 khn tr iml rhsiprsniy 53130rhsphumisastr5308thitngthiwakarthiwakarxaephxlbael thnnsriphnmmas tablsriphnmmas xaephxlbael cnghwdxutrditth rhsiprsniy 53130swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithy xaephxlbaelnxkcakcamiobransthanthinasnicmakmayaelw yngepnaehlngphlitsinkhahtthkrrmphunemuxnglanna echn phatinck imkwad epnaehlngpluklangsad aelathueriynhlng hlinlbael sungepnphlimthimichuxesiyngkhxngcnghwdprawtiemuxnglbaelkaraetngkaykhxngchawlbaelinsmyrchkalthi 5 caktananhlkthancungthaihthrabwaklumchnswnihythimaxyuinbriewnemuxnglbaelinpccubnnnxphyphmacakxanackrechiyngaesnobran oynknakhphnthu silacarukecdiyphihar khudidthihnawiharwdecdiykhiriwihar mhaxamatytri phrayankhrphraram sngekhahxsmudwchiryan krungethph emuxpi ph s 2473 sastracary dr praesrith n nkhr ihkhwamehnwaenuxhacaruknacaklawtngaetkhrngemuxphrayaliithykhuneswyrachy epnhlkthanhnungthiyunynwaxanabriewnemuxnglbaelpccubn epnchumchnthimikhwamekaaekmatngaetsmyxanackrsuokhthy cakhlkthansilacarukecdiyphihar khudidthihnawiharwdecdiykhiriwihar sungmhaxamatytri phrayankhrphraram sngekhahxsmudwchiryan krungethph emuxpi ph s 2473 sastracary dr praesrith n nkhr ihkhwamehnwaenuxhacaruknacaklawtngaetkhrngemuxphrayaliithykhuneswyrachy epnhlkthanhnungthiyunynwaxanabriewnemuxnglbaelpccubn epnchumchnthimikhwamekaaekmatngaetsmyxanackrsuokhthy smudithybychithuxsngkdmulnaypracaaekhwngemuxnglbaelinsmyrchkalthi 4 nxkcakni thangdanehnuxaelatawntkkhxngemuxngkmophch miphumipraethsepnpaekhaslbsbsxn mibrryakaseyuxkeynyamphlbkhaaemtawncayngimtkdinkcamudaelw ephraamidxymxnvisiepnchakknaesngxathity panicungidchuxwa palbaelng aelng epnphasalannaaeplwa ewlaeyn txmaephiynepn lbael sungklaymaepnchuxxaephxlbaelinsmypccubn xyangirkdi thitngkhxnglbaelidepnswnhnungkhxngemuxngthungynginxanackrsuokhthy cninpi ph s 1981 emuxngthungyng idecriyrungeruxngkhuninthanaepnemuxnghnadankhxngxanackrxyuthya thitngkhxnglbaelkidepnswnhnungkhxngemuxngthungyngmaodytlxd indanchatiphnthkhnlbaelthiichphasathinlannann cakkhxsnnisthankhxngsmedckrmphrayadarngrachanuphaph idsnnisthancakchatiphnthaelaphasakhxngphukhninthitngemuxnglbaelinpccubn waedimepnchawemuxngaephr emuxngnan hnikhasukaelakhwameduxdrxnmasumsxntngchumchnxyubriewnni enuxngcakepnthipark hlbsxntwngayaela phumipraethsepnemuxngxyuinhubekhamithieninslbkbthita khntangemuxngthaimkhunekhykbphumipraethscahlngthangidngay prakxbkbtananthxngthin rabuwaidmiphukhncakxanackroynkechiyngaesn xphyphhlbphysngkhramekhamatngrkrakxyubriewnthirabekhaaethblbael aelatngchuxwa banechiyngaesn txmakhnklumnnkaeykyaykniphklangthangdngsrangbanemuxng khunkracdkracaytamthirabaelaihlekhatang sungpraktwaidmitanankarxyechiy phrarachoxrskhxngphraecaeruxngchythirach cakxanackroynknakhnkhrechiyngaesn thuksrangkhunxikinchwnghlng prakxbkbchumchnlbaelmikarkhyaytwephimkhun dngprakthlkthankarsrangsasnsthanwdpask sungmisilpaexklksnaebbxyuthyaphsmlanna thaihemuxnglbael klayepnchumchnkhnadihy thimiphuichphasathinlannamatngaetsmytnkrungrtnoksinthr khrntxmainsmyrtnoksinthr inraw ph s 2444 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw esdcpraphasemuxngxutrditth aelaidesdcmathungemuxnglbaelinwnthi 24 tulakhm ph s 2444 idoprdekla ihyaysalaklangcnghwdcakemuxngphichymatngthibangoph aelayubemuxngthungyngrwmkblbael aelasthapnaemuxnglbaelkhunepnxaephx swnxakharthithakaryngtngxyuthiemuxngthungyng briewniklewiyngecaengaa xnusawriyphrasriphnmmas khndiemuxnglbael briewntwemuxnglbael txmaphraphisalkhiri idyayxakharthithakariptngthimxncasilinpiediywknni hangcakthiwakar xaephxpccubnipthangthisehnuxpraman 1 kiolemtr khrnthung ph s 2457 smy phrasriphnmmas emuxkhrngepnhlwngsriphnmmas ehnwahangiklcaktwemuxnglabakaekrasdriptidtx prakxbkbphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw miphrarachprasngkhcasngwnthi mxncasil epnthipradisthanphraehlux phraphuththrupthisrangcakthxngthiehluxcakkarhlxphraphuththchinrachthicnghwdphisnuolk ephraathrngehnwathiwthsnkhxngmxncasilkhlaykbemuxngchwa cungidyayxakharthithakarcakmxncasil maxyuthi mxnsyaminthr chawbaneriykmxnsaminthr ephraaekhyepnthitngphlbphlarbesdcphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw sungepnthitngthiwakarxaephxinpccubnsilpawthnthrrmchawemuxnglbaeldngedim miphasathinaebbsaeniyngsuokhthyobran khuxinchumchnrxbphrabrmthatuthungyng tablthungyng tabliphlxm sungepnemuxngobranthiprakthlkthaninsmysuokhthy aelachumchnediminphunthitngtwxaephxlbael kxnthicathukthingrang prakthlkthansilacarukkarsthapnaphrathatuecdiyphiharinsmyphrayaliithy snnisthanwaaethbthitngemuxnglbaelthnghmd epnchumchnthiichphasathinaebbsaeniyngsuokhthyobranmakxnnb 700 pi kxnthicamikarxphyphchawithywncakxanackroynknakhnkhrechiyngaesnmainsmyhlng sungpccubnchawithywninxaephxlbaelswnihyxyuinekhttxnehnuxkhxngxaephx aelathitngtwxaephx swnekhtthangitkhxngxaephxlbael yngkhngepnchumchnphasathinaebbsaeniyngsuokhthyobranxyu dngnnchawlbaelcungmikhnbthrrmeniympraephniaelawthnthrrm thng 2 wthnthrrm khuxchumchnphasathinaebbsaeniyngsuokhthyobran aelachumchnphasathinlanna miphasaphud phasaekhiyn karaetngkay xaharkarkin epnaebblanna thimiichxyuinaethblannatawnxxk echn aephr nan echiyngray aelaphaeya epntnbukhkhlsakhyecafahamkumar wirburusintanankhxnglbael sungechuxknwaepnecachaymacakemuxngoynkechiyngaesn odythanidxphyphprachachnswnhnungmatngthinthaninbriewnbanihmechiyngaesn tablfayhlwnginpccubn aelathangxngkhkarbriharswntablfayhlwng idthakarsrangxnusawriykhxngthan iwthibriewnhnathangekhawdmxnxarks phrasriphnmmas thxngxin aestn xditnayxaephxlbaelinsmyrchkalthi 5tananemuxnglbaelemuxnglbaelnnepnxaephxelk aehnghnungincnghwdxutrditth aetedimkhngepnemuxngthikaredinthangipmaimsadwk esnthangkhdekhiyw thaihkhnthiimchanaythangphldhlngidngay cnidchuxwaemuxnglbael sungaeplwa mxngimehn mieruxngelaknwakhnmibuyethanncungcaidekhaipthungemuxnglbael pratimakrrmaemmayemuxnglbael briewnpratuemuxnglbael ihm aesdngthungtananelakhankhxngemuxnglbaelxnepnthieluxngluxmachanan tanannielaknsubmawa khrnghnungmichaykhnhnung nacaepnkhnemuxngthungyng ekhaipinpa idehnhyingsawswyhlaykhnedinxxkma khrnmathungchaypa nangehlannkexaibimthithuxmaipsxniwinthitang aelwkekhaipinemuxng dwykhwamsngsychayhnumcungaexbhyibibimmaekbiwibhnung tkbayhyingsawehlannklbma tangkhaibimthitnsxniw khrnidaelwkthuxibimnnedinhaylbip mihyingsawkhnhnunghaibimimphb ephraachayhnumaexbhyibma nangwitkeduxdrxnmak chayhnumcungprakttwihehnaelakhunibimih odymikhxaelkepliynkhux khxtidtamnangipdwyephraaprarthnacaidehnemuxnglbael hyingsawkyinyxm nangcungphachayhnumekhaipyngemuxngsungchayhnumsngektehnwathngemuxngmiaetphuhying nangxthibaywakhninhmubanlwnmisilthrrm thuxwacasty ikhrpraphvtiphidktxngxxkcakhmubanip phuchayswnmakmkimrksawacastycungtxngxxkcakhmubankniphmd aelwnangkphachayhnumipphbmardakhxngnang chayhnumekidkhwamrkikhrintwnangcungkhxxasyxyudwy mardakhxnghyingsawkyinyxm aetihchayhnumsyyawacatxngxyuinsilthrrm imphudethc chayhnumidaetngngankbhyingsawchawlbaelcnmibutrchaydwykn 1 khn wnhnungkhnathiphrryaimxyuban chayhnumphuphxeliyngbutrxyu butrnxyekidrxngihhaaemimyxmhyud phuepnphxcungplxbwa aemmaaelw mardakhxngphrryaidyinekhakokrthmakthibutrekhyphudethc emuxbutrsawklbmakbxkihrueruxng fayphrryakhxngchayhnumesiyicmakthisamiimrksawacasty nangbxkihekhaxxkcakhmubanipesiy aelwnangkcdhayamisesbiyngxaharaelakhxngichthicaepnihsami phrxmthngkhudhwkhminislngipdwyepncanwnmak caknnkphasamiipyngchaypa chithangih aelwnangkklbipemuxnglbael chayhnumimrucathaxyangirkcatxngedinthangklbbantamthiphrryachithangih rahwangthangthiedinipnn ekhamikhwamrusukwathungyamthithuxmahnkkhuneruxy aelahnthangkiklmak cunghyibexakhminthiphrryaismaihthingesiycnekuxbhmd khrnedinthangklbipthunghmubanedim brrdayatimitrtangkskthamwahayipxyuthiihnmaepnewlanan chayhnumcungelaihfngodylaexiydrwmthngeruxngkhminthiphrryaisyammaihaetekhathingipekuxbhmd ehluxxyuephiyngaengngediyw phrxmthnghyibkhminthiehluxxyuxxkma praktwakhminnnklbklayepnthxngkhathngaethng chayhnumrusukaeplkicaelaesiyday cungphyayamyxnipephuxhakhminthithingiw praktwakhminehlannidngxkepntniphmdaelw aelaemuxkhuddukphbaetaengngkhminthrrmdathimisiehluxngthxng aetimichthxngehmuxnaengngthiekhaidip ekhaphyayamhathangklbipemuxnglbael aetkhlngthangwkwnipimthuk cninthisudktxnglakhwamphyayamklbipxyuhmubankhxngtntamedimkartngtabltangwnthi 10 thnwakhm 2483 oxnphunthitablnarid aelatablbandannakham xaephxlbael ipkhunkbxaephxemuxngxutrditth wnthi 26 thnwakhm 2487 cdtngethsbaltablsriphnmmas inthxngthitablsriphnmmas wnthi 23 knyayn 2490 oxnphunthihmu 3 4 5 inkhnann khxngtablsriphnmmas iptngepnhmu 5 8 7 khxngtablfayhlwng tamladb wnthi 19 tulakhm 2491 oxnphunthiyangswnkhxnghmu 4 bantlingta aelabannaphng inkhnann khxngtablchycumphl ipkhunkbtablthungyng wnthi 6 singhakhm 2517 tngtablnankkk aeykxxkcaktablfayhlwng wnthi 5 phvsphakhm 2524 tngtabldanaemkhamn aeykxxkcaktablthungyng wnthi 9 singhakhm 2526 cdtngsukhaphibalhwdng inthxngthibangswnkhxngtablaemphul cdtngsukhaphibalthungyng inthxngthibangswnkhxngtablthungyng wnthi 25 phvsphakhm 2542 ykthanacaksukhaphibalhwdng aelasukhaphibalthungyng epnethsbaltablhwdng aelaethsbaltablthungyng tamladb dwyphlkhxngkdhmay wnthi 4 mithunayn 2545 aeykhmubanthungexiyng hmuthi 5 tablfayhlwng cdtngepnhmubanihmxik 1 hmuban chuxhmubanthungphthna odytngepnhmuthi 11 tablfayhlwng aeykhmubanthxnglbael hmuthi 7 tablfayhlwng cdtngepnhmubanihmxik 1 hmuban chuxhmubanthxnglbaelphthna odytngepnhmuthi 10 tablfayhlwng aeykhmubantnkham hmuthi 2 tablchycumphl cdtngepnhmubanihmxik 1 hmuban chuxhmubanpakthang odytngepnhmuthi 11 tablchycumphl wnthi 24 singhakhm 2555 epliynchuxxngkhkarbriharswntablthungyng ipepnxngkhkarbriharswntablphraesdc aelaykthanacakxngkhkarbriharswntablphraesdc epnethsbaltablphraesdcxanaekhtthisehnux tidtxkbxaephxednchy cnghwdaephr thistawnxxk tidtxkbxaephxemuxngxutrditth thisit tidtxkbxaephxtrxn aelaxaephxsrischnaly cnghwdsuokhthy thistawntk tidtxkbxaephxsrischnaly cnghwdsuokhthy karaebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh xaephxlbaelaebngekhtkarpkkhrxngyxyxxkepn 8 tabl 65 hmuban idaek ladb xksrithy xksrormn canwnhmuban canwnprachakr thnwakhm 2565 1 sriphnmmas Si Phanom Mat 2 8832 aemphul Mae Phun 11 9 0713 nankkk Na Nok Kok 5 2 7984 fayhlwng Fai Luang 13 9 6455 chycumphl Chai Chumphon 11 8 7396 iphlxm Phai Lom 7 6 2047 thungyng Thung Yang 10 10 0348 danaemkhamn Dan Mae Kham Man 8 4 920karpkkhrxngswnthxngthin thxngthixaephxlbaelprakxbdwyxngkhkrpkkhrxngswnthxngthin 10 aehng idaek ethsbaltablsriphnmmas khrxbkhlumphunthitablsriphnmmasthngtabl ethsbaltablhwdng khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtablaemphul ethsbaltablthungyng khrxbkhlumphunthibangswnkhxngtabliphlxmaelatablthungyng ethsbaltablphraesdc khrxbkhlumphunthitablthungyng nxkekhtethsbaltablthungyng xngkhkarbriharswntablaemphul khrxbkhlumphunthitablaemphul nxkekhtethsbaltablhwdng xngkhkarbriharswntablnankkk khrxbkhlumphunthitablnankkkthngtabl xngkhkarbriharswntablfayhlwng khrxbkhlumphunthitablfayhlwngthngtabl xngkhkarbriharswntablchycumphl khrxbkhlumphunthitablchycumphlthngtabl xngkhkarbriharswntabliphlxm khrxbkhlumphunthitabliphlxm nxkekhtethsbaltablthungyng xngkhkarbriharswntabldanaemkhamn khrxbkhlumphunthitabldanaemkhamnthngtablechingxrrthhmayehtu 1 emuxnglbaeledimnnsnnisthanwaepnchumchninsmysuokhthy kxncaranglnginchwnghlng dngkarphbhlkthanpthmphumi khuxsilacaruksungkhudidthihnawiharwdecdiykhiriwihar mhaxamatytri phrayankhrphraram sngekhahxsmudwchiryan emuxwnthi 28 thnwakhm ph s 2473 sastracary dr praesrith n nkhr ihkhwamehnwaenuxhacaruknacaklawtngaetkhrngemuxphrayaliithykhuneswyrachy prakxbkbenuxhainsilacaruk karsthapnaphrabrmthatuodyphrayaliithy sxdkhlxngkblksnakhxngthanphraecdiywdecdiykhiriwihar thimiekhaokhrngkhxngthanekhiyngsamchnaebbsuokhthy silacarukdngklawcungepnekhruxngyunynwathitngemuxnglbaelinpccubn epnchumchnobranmatngaetsmysuokhthy kxncathukthingrangaelamikarxphyphethkhrwchawechiyngaesnmatngrkrakephimetiminchwnghlngxangxing fu buythung aelakhna m p p lbaelhruxcaaellb sankngankarprathmsuksaxaephxlbael cakaehlngedimemux 2008 08 12 subkhnemux 2008 08 12 fu buythung aelakhna m p p lbaelhruxcaaellb sankngankarprathmsuksaxaephxlbael cakaehlngedimemux 2008 08 12 subkhnemux 2008 08 12 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 20 subkhnemux 2008 03 01 khxmulxaephxincnghwdxutrditth sanknganphraphuththsasnacnghwdxutrditth lingkesiy silacaruk 2548 prachumcaruk phakhthi 8 caruksuokhthy krungethph krmsilpakr hna 9 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhttablaelaxaephxincnghwdxuttrditth PDF rachkiccanuebksa 57 0 ng 3021 December 10 1940 phrarachkvsdikacdtngethsbaltablsriphnmmas cnghwdxutrditth phuththskrach 2487 PDF rachkiccanuebksa 61 77 k 1184 1187 December 26 1944 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhttablinekhtthxngthicnghwdxuttrditth PDF rachkiccanuebksa 64 45 ng 2450 2451 September 23 1947 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngekhttablinthxngthixaephxtang cnghwdxuttrditth cnghwdnkhrrachsima aelacnghwdsmuthrsngkhram PDF rachkiccanuebksa 65 61 ng 3422 3424 October 19 1948 prakaskrathrwngmhadithy eruxng tngaelaepliynaeplngekhttablinthxngthixaephxlbael cnghwdxutrditth PDF rachkiccanuebksa 91 133 ng 3087 3089 August 6 1974 prakaskrathrwngmhadithy eruxng tngaelaepliynaeplngekhttablinthxngthixaephxlbael cnghwdxutrditth PDF rachkiccanuebksa 98 68 ng 1287 1289 May 5 1981 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibalhwdng xaephxlbael cnghwdxutrditth PDF rachkiccanuebksa 100 131 ng 2690 2692 August 9 1983 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngsukhaphibalthungyng xaephxlbael cnghwdxutrditth PDF rachkiccanuebksa 100 177 ng 4139 4141 August 9 1983 PDF rachkiccanuebksa 116 9 k 1 4 February 24 1999 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 04 09 subkhnemux 2021 08 08 PDF rachkiccanuebksa 119 45 ng 133 135 June 4 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 08 08 subkhnemux 2021 08 08 PDF rachkiccanuebksa 119 45 ng 136 138 June 4 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 08 08 subkhnemux 2021 08 08 PDF rachkiccanuebksa 119 45 ng 139 141 June 4 2002 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 08 08 subkhnemux 2021 08 08 epliynchux xngkhkarbriharswntablthungyng ipepn xngkhkarbriharswntablphraesdc aelaepliynthanacak xngkhkarbriharswntablphraesdc epn ethsbaltablphraesdc August 24 2012 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help rabbsarsnethsephuxkarbrihar stat bora dopa go th silacaruk 2548 prachumcaruk phakhthi 8 caruksuokhthy krungethph krmsilpakr hna 9aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb xaephxlbael aehlngthxngethiywinxaephxlbael cakewbisdcnghwdxutrditth 2008 03 08 thi ewyaebkaemchchin aehlngthxngethiywxaephxlbaelcakaefnephckhxngemuxnglbael