ละองละมั่ง | |
---|---|
เขาของละอง | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Artiodactyla |
วงศ์: | Cervidae |
วงศ์ย่อย: | Cervinae |
สกุล: | Panolia |
สปีชีส์: | P. eldii |
ชื่อทวินาม | |
Panolia eldii (, 1842) | |
ชนิดย่อย | |
ชื่อพ้อง | |
|
ละองละมั่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Panolia eldii) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์กีบคู่ชนิดหนึ่ง เป็นกวางขนาดกลาง ขนตามลำตัวสีน้ำตาลแดง แต่สีขนจะอ่อนลงเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ขนหยาบและยาว ในฤดูหนาวขนจะยาวมาก แต่จะร่วงหล่นจนดูสั้นลงมากในช่วงฤดูร้อน
ในตัวผู้จะเรียกว่า ละอง ตัวเมียซึ่งไม่มีเขาจะเรียกว่า ละมั่ง แต่จะนิยมเรียกคู่กัน สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากภาษาเขมรคำว่า "รมัง" (រមាំង) ละองตัวที่ยังโตไม่เต็มวัยจะมีขนแผงคอที่ยาว ลูกแรกเกิดจะมีจุดสีขาวกระจายอยู่รอบตัว และจุดนี้จะจางหายเมื่ออายุมากขึ้น ขอบตาและริมฝีปากล่างมีสีขาว มีความยาวลำตัวและหัว 150–170 เซนติเมตร ความยาวหาง 220–250 เซนติเมตร น้ำหนัก 95–150 กิโลกรัม
ถูกแบ่งออกเป็น 3 ชนิดย่อย ในประเทศไทยพบ 2 ชนิดได้แก่
- ละองละมั่งพันธุ์ไทย หรือ ละองละมั่งอินโดจีน (P. e. siamensis) มีลักษณะสีขนอย่างที่กล่าวข้างต้น เขาจะโค้งขึ้น กางออกแล้วโค้งไปข้างหน้าคล้ายตะขอ ปลายเขาจะแตกออกเป็นแขนงเล็ก ๆ มีการกระจายพันธุ์อยู่ที่ภาคอีสานตอนใต้ของไทย ลาว กัมพูชาและเวียดนาม สถานะปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้วจากธรรมชาติของไทย
- ละองละมั่งพันธุ์พม่า หรือ ทมิน ในภาษาพม่า (P. e. thamin) มีหน้าตาคล้ายละองละมั่งพันธุ์ไทย แต่สีขนจะออกสีน้ำตาลเหลือง กิ่งปลายเขาจะไม่แตกแขนงเท่าละองละมั่งพันธุ์ไทย พบกระจายพันธุ์อยู่ที่ตะเข็บชายแดนระหว่างไทยกับพม่า แถบเทือกเขาตะนาวศรี
- ซันไก (P. e. eldii) พบในรัฐมณีปุระทางตะวันออกของอินเดียติดกับพม่า ถือเป็นชนิดต้นแบบของละองละมั่ง
ละองละมั่ง จะอาศัยและหากินในทุ่งหญ้าโปร่ง ไม่สามารถอยู่ในป่ารกชัฏได้ เนื่องจากเขาจะไปติดกับกิ่งไม้เหมือนสมัน (Rucervus schomburgki) อาหารหลักได้แก่ หญ้า ยอดไม้ และผลไม้ป่าต่าง ๆ เป็นสัตว์ที่ชอบรวมฝูง ในอดีตอาจพบได้มากถึง 50 ตัว บางครั้งอาจเข้าไปหากินและรวมฝูงกับสัตว์ที่ใหญ่และแข็งแรงกว่า อย่าง วัวแดง (Bos javanicus) หรือ กระทิง (B. gaurus) เพื่อพึ่งสัตว์เหล่านี้ในความปลอดภัย มีฤดูผสมพันธุ์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์–เมษายน ตั้งท้องนาน 8 เดือน สถานภาพปัจจุบันเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว และเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ละองละมั่งที่พบในธรรมชาติ ปัจจุบันนี้ ส่วนมาก เกิดจากการเพาะขยายพันธุ์โดยมนุษย์
ในกลางปี พ.ศ. 2554 ในประเทศไทย โดยองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประสบความสำเร็จในการผลิตละองละมั่งในเป็นครั้งแรกในโลก โดยแม่ละมั่งที่รับอุ้มท้องได้ตกลูกออกมาเป็นเพศเมียเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ปีเดียวกัน ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี โดยเป็นละองละมั่งพันธุ์พม่า
ในปลายปี พ.ศ. 2557 ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ละองละมั่งพันธุ์พม่าได้ตกออกมาพร้อมกันทั้งหมด 10 ตัว ทำให้จากเดิมที่เคยมีละองละมั่งพันธุ์ไทย 62 ตัว เพิ่มเป็น 72 ตัว นับเป็นสถานที่ ๆ มีละองละมั่งพันธุ์ไทยมากที่สุด
คลังภาพ
- ละองละมั่งพันธุ์ไทยที่สวนสัตว์เชียงใหม่
- ละองละมั่งพันธุ์พม่า
- ซันไก
-
-
-
อ้างอิง
- Timmins, R.J. & Duckworth, J.W. (2008). "Rucervus eldii 2010-02-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2010.4. International Union for Conservation of Nature. Retrieved 10 March 2011.
- Pitraa, Fickela, Meijaard, Groves (2004). Evolution and phylogeny of old world deer. Molecular Phylogenetics and Evolution 33: 880–895.
- "ละอง หรือ ละมั่ง". สืบค้นเมื่อ 9 December 2014.
- หน้า 16 เกษตร-สัตว์เลี้ยง, สมาชิกใหม่ 'ละมุ่งพันธุ์ไทย' วันเดียวเพิ่ม 10 ตัวที่สวนสัตว์เชียงใหม่. คมชัดลึก ปีที่ 14 ฉบับที่ 4796: วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557
- [1] 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ละมั่งหลอดแก้ว จากข่าวสด
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-01. สืบค้นเมื่อ 2010-01-08.
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Panolia eldii ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
laxnglamngekhakhxnglaxngsthanakarxnurks IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Mammaliaxndb Artiodactylawngs Cervidaewngsyxy Cervinaeskul Panoliaspichis P eldiichuxthwinamPanolia eldii 1842 chnidyxyP e eldi M Clelland 1842 P e thamin Thomas 1918 P e siamensis Lydekker 1915 chuxphxngCervus eldii M Clelland 1842 Rucervus eldii M Clelland 1842 laxnglamng chuxwithyasastr Panolia eldii epnstweliynglukdwynminxndbstwkibkhuchnidhnung epnkwangkhnadklang khntamlatwsinatalaedng aetsikhncaxxnlngemuxekhasuvdurxn khnhyabaelayaw invduhnawkhncayawmak aetcarwnghlncndusnlngmakinchwngvdurxn intwphucaeriykwa laxng twemiysungimmiekhacaeriykwa lamng aetcaniymeriykkhukn snnisthanwaephiynmacakphasaekhmrkhawa rmng រម ង laxngtwthiyngotimetmwycamikhnaephngkhxthiyaw lukaerkekidcamicudsikhawkracayxyurxbtw aelacudnicacanghayemuxxayumakkhun khxbtaaelarimfipaklangmisikhaw mikhwamyawlatwaelahw 150 170 esntiemtr khwamyawhang 220 250 esntiemtr nahnk 95 150 kiolkrm thukaebngxxkepn 3 chnidyxy inpraethsithyphb 2 chnididaek laxnglamngphnthuithy hrux laxnglamngxinodcin P e siamensis milksnasikhnxyangthiklawkhangtn ekhacaokhngkhun kangxxkaelwokhngipkhanghnakhlaytakhx playekhacaaetkxxkepnaekhnngelk mikarkracayphnthuxyuthiphakhxisantxnitkhxngithy law kmphuchaaelaewiydnam sthanapccubnsuyphnthuipaelwcakthrrmchatikhxngithylaxnglamngphnthuphma hrux thmin inphasaphma P e thamin mihnatakhlaylaxnglamngphnthuithy aetsikhncaxxksinatalehluxng kingplayekhacaimaetkaekhnngethalaxnglamngphnthuithy phbkracayphnthuxyuthitaekhbchayaednrahwangithykbphma aethbethuxkekhatanawsrisnik P e eldii phbinrthmnipurathangtawnxxkkhxngxinediytidkbphma thuxepnchnidtnaebbkhxnglaxnglamng laxnglamng caxasyaelahakininthunghyaoprng imsamarthxyuinparkchtid enuxngcakekhacaiptidkbkingimehmuxnsmn Rucervus schomburgki xaharhlkidaek hya yxdim aelaphlimpatang epnstwthichxbrwmfung inxditxacphbidmakthung 50 tw bangkhrngxacekhaiphakinaelarwmfungkbstwthiihyaelaaekhngaerngkwa xyang wwaedng Bos javanicus hrux krathing B gaurus ephuxphungstwehlaniinkhwamplxdphy mivduphsmphnthuchwngeduxnkumphaphnth emsayn tngthxngnan 8 eduxn sthanphaphpccubnepnstwthiiklsuyphnthuaelw aelaepnstwpasngwntamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpa ph s 2535 laxnglamngthiphbinthrrmchati pccubnni swnmak ekidcakkarephaakhyayphnthuodymnusy inklangpi ph s 2554 inpraethsithy odyxngkhkarswnstw inphrabrmrachupthmph prasbkhwamsaercinkarphlitlaxnglamnginepnkhrngaerkinolk odyaemlamngthirbxumthxngidtklukxxkmaepnephsemiyemuxwnthi 17 tulakhm piediywkn thiswnstwepidekhaekhiyw cnghwdchlburi odyepnlaxnglamngphnthuphma inplaypi ph s 2557 thiswnstwechiyngihm laxnglamngphnthuphmaidtkxxkmaphrxmknthnghmd 10 tw thaihcakedimthiekhymilaxnglamngphnthuithy 62 tw ephimepn 72 tw nbepnsthanthi milaxnglamngphnthuithymakthisudkhlngphaphlaxnglamngphnthuithythiswnstwechiyngihm laxnglamngphnthuphma snikxangxingTimmins R J amp Duckworth J W 2008 Rucervus eldii 2010 02 26 thi ewyaebkaemchchin IUCN Red List of Threatened Species Version 2010 4 International Union for Conservation of Nature Retrieved 10 March 2011 Pitraa Fickela Meijaard Groves 2004 Evolution and phylogeny of old world deer Molecular Phylogenetics and Evolution 33 880 895 laxng hrux lamng subkhnemux 9 December 2014 hna 16 ekstr stweliyng smachikihm lamungphnthuithy wnediywephim 10 twthiswnstwechiyngihm khmchdluk pithi 14 chbbthi 4796 wnxathitythi 7 thnwakhm ph s 2557 1 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchinlamnghlxdaekw cak khawsd khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 06 01 subkhnemux 2010 01 08 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb laxnglamngaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Panolia eldii thiwikispichis