บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ต้องการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ โปรดเพิ่มพารามิเตอร์ reason หรือ talk ลงในแม่แบบนี้เพื่ออธิบายปัญหาของบทความ |
ราชวงศ์แสนทิพย์นาบัว หรือ สุวรรณปางคำ เป็นราชวงศ์เจ้านายฝ่ายอีสานที่ปกครองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน อุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช ยศสุนทรประเทศราช หนองคาย เขมราษฎร์ธานี อำนาจเจริญ บึงกาฬ ฯลฯ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เป็นต้นกำเนิดเมืองต่าง ๆ หลายเมือง ในภาคอีสานของประเทศไทย และต้นกำเนิดสายสกุล ณ อุบล, ณ หนองคาย ฯลฯ
พระราชอิสริยยศ | เจ้าอุปราชผู้ครองนคร เจ้าผู้ครองนคร เจ้าเมืองประเทศราช พระประเทศราช พระยาประเทศราช |
---|---|
ปกครอง | นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน อุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช ยศสุนทรประเทศราช เขมราษฎร์ธานี หนองคาย ไชยสุทธิ์อุตมบุรี อำนาจเจริญ |
สาขา | ณ อุบล ณ หนองคาย |
ประมุขพระองค์แรก | เจ้าอุปราชนอง (เจ้านอง) |
ประมุขพระองค์สุดท้าย | · · พระสุนทรราชวงศามหาขัติยชาติฯ (สุพรหม) · · พระยาวุฒาธิคุณ (เคน ณ หนองคาย) |
สถาปนา | พ.ศ. 2250 |
ล่มสลาย | พ.ศ. 2475 |
การสถาปนา
ราชวงศ์แสนทิพย์นาบัวหรือสุวรรณปางคำ ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2250 ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 2แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ โดยเจ้านอง ขุนนางลาวเชื้อสายไทพวน พระโอรสของแสนทิพย์นาบัวผู้มีเชื้อสายสามัญชนทางเชื้อสายไทพวนและไทดำจากบิดา และเชื้อสายสามัญชนทางเวียดนามจากมารดา ซึ่งเจ้านองเป็นพี่น้องร่วมมารดาแต่ต่างบิดากับพระเจ้าไชยองค์เว้ และเพื่อให้เป็นเกียรติแก่พระบิดาของตนจึงตั้งราชวงศ์ของตนเองขึ้นโดยใช้พระนามของพระบิดาแทนนามของตน ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯจากกษัตริย์อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอุปราชนอง และได้รับโปรดเกล้าให้ตั้งเมืองหนองบัวลุ่มภูจากพระมหากษัตริย์อาณาจักรล้านช้าง ให้เจ้าอุปราชนองทรงนำกำลังไพร่พลครัวลาวที่ติดตามมาไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองหนองบัวลุ่มภู ซึ่งพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ทรงนำไพร่พลหลวงพระบางและเวียงจันทน์มาก่อสร้างขึ้นครั้ง พ.ศ. 2106 ให้เมืองหน้าด่านของกรุงศรีสัตตนาคนหุต (เวียงจันทน์) เมื่อเจ้านองได้มาถึงเมืองหนองบัวลุ่มภู ทรงเลือกหน้าทำเลที่ตั้งบ้านเมืองใหม่ บริเวณริมหนองบัวอันมีปราการทางธรรมชาติคือ เทือกเขาภูพานสูงตระหง่าน สามารถป้องกันข้าศึกศัตรู พร้อมก่อสร้างค่ายคูประตูหอรบ กำแพงคูเมืองล้อมรอบพร้อมประตูเวียงอย่างแน่นหนา สถาปนาเวียงแห่งใหม่นี้ว่า "เวียงใหม่นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานด้วย
ต่อมาเจ้าอุปราชนองมีความพยายามที่จะแย่งชิงอำนาจจากเจ้าองค์ลอง กษัตริย์ล้านช้างเวียงจันทน์องค์ที่ 2 และสามารถยึดอำนาจได้เป็นผลสำเร็จ ในปี พ.ศ. 2283 แม้จะสามารถยึดอำนาจได้และสามารถครองนครหลวงเวียงจันทน์ได้แต่เนื่องจากเจ้านองไม่ได้มีเชื้อสายกษัตริย์แต่เป็นเพียงสามัญชน เหล่าบรรดาขุนนางจึงยอมรับท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้านครเพียงแค่เป็น เจ้าอุปราชนองตามเดิม หลังจากได้ครองนครเวียงจันทน์เจ้าอุปราชนองจึงแต่งตั้งให้โอรสคือ พระตา ปกครองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานแทน ภายหลัง เวลาผ่านไปสิบกว่าปี พระโอรสทั้งสอง คือ พระวอและพระตาร่วมมือกับเจ้าศิริบุญสาร พระราชโอรสของเจ้าองค์ลอง ยึดอำนาจคืนได้สำเร็จ หลังจากพ่ายแพ้ เจ้าอุปราชนองจึงถูกพระเจ้าศิริบุญสารซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพระโอรสทั้งสองของท่านนี้เองสำเร็จโทษจนถึงแก่พิราลัย ในปี พ.ศ. 2294
ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์
- แสนทิพย์นาบัว พระบิดาของเจ้าอุปราชนองหรือเจ้าปางคำ มีเชื้อสายทางไทพวนทางพระบิดา ส่วนพระมารดามีเชื้อสายทางไทดำ นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าทั้งบิดาและมารดาของแสนทิพย์นาบัวเป็นเพียงสามัญชนมิใช่เชื้อเจ้า
- พระมารดาของเจ้าอุปราชนองหรือเจ้าปางคำเป็นสามัญชนเชื้อสายทางเมืองเว้ (เวียดนาม) เจ้าปางคำจึงเป็นพระอนุชาร่วมมารดาของพระเจ้าไชยองค์เว้ กษัตริย์ล้านช้างเวียงจันทน์องค์ที่ 1
- พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 2 หรือ พระเจ้าไชยองค์เว้ พระเชษฐาร่วมมารดาแต่ต่างบิดาของเจ้าอุปราชนอง
ลำดับสายสกุลวงศ์
ชั้นที่ 1
เจ้าอุปราชนอง (เจ้านอง) ปฐมราชวงศ์แสนทิพย์นาบัว เจ้าผู้ครองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลุ่มภู) พระองค์ที่ 1
- เกิดแต่ภรรยาเอกชาวลาวเวียงจันทน์ มีพระโอรส 2 พระองค์ คือ
ชั้นที่ 2
พระวรราชปิตา (พระตา) เจ้าผู้ครองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน พระองค์ที่ 2
- พระนางบุสดีเทวี มีพระโอรส และพระธิดา 11 องค์ คือ
- เจ้านางอูสา
- ท้าวคำผง
- ท้าวฝ่ายหน้า
- เจ้านางมิ่ง
- ท้าวซุย
- พระศรีบริบาล
- เจ้านางเหมือนตา
- ต่อมาเป็นราชบุตรเมืองอุบลราชธานี และได้รับพระราชทานเป็นพระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานี องค์ที่ 3 แต่ถึงแก่อนิจกรรมที่กรุงเทพฯ ก่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมือง
พระวรราชภักดี (พระวอ) เจ้าผู้ครองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน พระองค์ที่ 3
- พระนางอรอินทร์เทวี มีพระโอรส และพระธิดา 9 องค์ คือ
- เจ้านางจันบุปผา
- ท้าวก่ำ พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 1
- เจ้านางทุมมา
- เจ้านางต่อนแก้ว
- ต่อมาเป็นราชบุตรเมืองยศสุนทร และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ เจ้าเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี องค์ที่ 1
- ท้าวเครือ
- ท้าวลาด
- เจ้านางปัดทำ
- ท้าวฮด
ชั้นที่ 3
พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) พระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ 1
- พระนางตุ่ย ไม่มีพระโอรส และพระธิดา
- พระนางสีดา มีพระโอรส และพระธิดา 10 องค์ คือ
- เจ้านางคำสิงห์
- เจ้านางสีดา
- ท้าวสุดตา ต่อมาเป็นอุปราชเมืองอุบลราชธานี
- ท้าวหมาแพง ต่อมาเป็นอุปราชเมืองยศสุนทร
- ท้าวหมาคำ
- ท้าวหำทอง
- เจ้านางสุ้ย
- ต่อมาเป็นที่พระพรหมราชวงศา พระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ 4
- เจ้านางจำปาคำ
- เจ้านางพิมพ์
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- ท้าวไชย
พระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช พระประเทศราช ผู้ครองนครจำปาสัก องค์ที่ 3 ภายใต้อาณาจักร์สยาม
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส และพระธิดา 6 องค์ คือ
- ท้าวคำสิงห์ ต่อมาเป็นที่พระสุนทรราชวงศา (ท้าวคำสิงห์) พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 1
- ท้าวฝ่ายบุต ต่อมาเป็นที่พระสุนทรราชวงศาฯ (ท้าวฝ่ายบุต) พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 3 และยังเป็นพระประเทศราชผู้ครองเมืองนครพนม
- ท้าวสุดตา
- ท้าวนางแดง
- เจ้านางไทย
- เจ้านางก้อนแก้ว
พระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ 2
- พระนางเหง้า มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- ต่อมาเป็นราชวงศ์เมืองอุบลราชธานี
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- ท้าวสีหาราช (พลสุข)
พระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ 3
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- ต่อเป็นราชบุตรเมืองอุบลราชธานี
พระเทพวงศา (ท้าวก่ำ) พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 1
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส และพระธิดา 4 องค์ คือ
- ท้าวบุญจันทร์ ต่อมาเป็นที่ พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 2
- ท้าวบุญเฮ้า ต่อมาเป็นที่ พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 3
- ท้าวแดง หรือ ท้าวชำนาญไพรสณฑ์ ต่อมาเป็นที่ เจ้าเมืองวารินทร์ชำราบ องค์ที่ 1
- เจ้านางหมาแพง
- ต้นสายสกุล
- ต้นสายสกุลอมรสิน
ผู้ครองเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี องค์ที่ 1
- หม่อมชาดา มีพระโอรส และพระธิดา 3 องค์ คือ
- เจ้านางผา สมรสกับท้าวจันทร์เพ็ง ต่อมาเป็นที่ ผู้ครองเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี องค์ที่ 3
- ท้าวขัตติยะ
- ท้าวศิลา ต่อมาเป็นที่ราชบุตรเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นที่ ผู้ครองเมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี องค์ที่ 2
- ต้นสายสกุล
ชั้นที่ 4
อุปราชเมืองอุบลราชธานี
- พระนางพิมพา แห่งนครจำปาศักดิ์ มีพระโอรส และพระธิดา 13 องค์ คือ
- เจ้านางพิมพ์
- เจ้านางจำปา
- ต่อมาเป็นอุปราชเมืองอุบลราชธานี
- ท้าวอินทิสาร
- ท้าวไชยสาร
- ท้าวคูณ
- เจ้านางทุมมา
- ท้าวสุวรรณแสน (ผู้เกิดเหตุวิวาทกับเมอสิเออร์ไซแง ทหารฝรั่งเศส)
- ท้าวอินทิจักร
- เจ้านางสิมมา
- เจ้านางหล้า
- เจ้านางบัวภา
อุปราชเมืองยศสุนทร
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 5 องค์ คือ
- ท้าวสุวอธรรมา (บุญมา) ต่อมาเป็นที่พระปทุมเทวาภิบาล (บุญมา ณ หนองคาย) เจ้าเมืองหนองคาย คนที่ 1 และเป็นต้นสายสกุล
- ท้าวสุริยะ (แข้) ต่อมาเป็นอุปราชเมืองยศสุนทร
- ท้าวกันยา ต่อมาเป็นราชวงศ์เมืองยศสุนทร
- หรือหลวงจุมพลภักดี ต่อมาเป็นที่ เจ้าเมืองเสลภูมินิคม คนที่ 1 และเป็นต้นสายสกุล
- ท้าวโพ
พระประเทศราชผู้ครองเมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช องค์ที่ 3
- พระนางหมาแพง มีพระโอรส และพระธิดา 4 องค์ คือ
- ท้าวโพธิสาราช (ท้าวเสือ) ต่อมาเป็นอุปราชเมืองพิบูลมังสาหาร
- ท้าวธรรมกิติกา (จูมมณี) เจ้าเมือง คนที่1
- เจ้านางคำซาว
- ท้าวสีฐาน (ท้าวสาง) ต่อมาเป็นราชวงศ์เมืองพิบูลมังสาหาร
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- เจ้าเมือง องค์ที่ 1 หากมีหลานคือ นายกองโทเก่ง เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
- ท้าวพรหมมา ต่อมาเป็นอุปราชเมืองตระการพืชผล
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- เจ้าเมืองพิบูลมังสาหาร องค์ที่ 2
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- เจ้าเมือง องค์ที่ 1 หากมีหลานคือ เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
- พระพรหมราชวงศา (ท้าวกุทอง) ถือเป็นต้นสายสกุล มีรองอำมาตย์ตรี ผู้หลาน เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
- ไม่ปรากฏชื่อภรรยา มีบุตร 1 คน คือ
- ต่อมาเป็นราชวงศ์เมืองอุบลราชธานี
พระสุนทรราชวงศา (ท้าวคำสิงห์) พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 1
- พระนางแก่นคำ มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- ท้าวบุตร ต่อมาเป็นที่อุปราชเมืองยศสุนทร และถูกเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สั่งให้ประหารชีวิตในคุกเพลิง กรณีกบฎเจ้าอนุวงศ์
- ท้าวคำ ต่อมาถูกเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สั่งให้ประหารชีวิตในคุกเพลิง กรณีกบฎเจ้าอนุวงศ์
พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 3 และยังเป็นพระประเทศราชผู้ครองเมืองนครพนม
- พระนางพรหมมา มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- ต่อมาเป็นที่พระสุนทรราชวงศา มหาขัติยชาติ ประเทศราชวาเวียง ดำรงรักษ์ศักดิยศไกร ศรีพิไชยสงคราม (เจ้าเหม็น) พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 4
- ท้าวพระเมือง
- หม่อมสุภา มีบุตร 2 คน คือ
- ท้าวสุ่ย ต่อมาเป็น
- ท้าวคำ ต่อมาเป็น
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส และพระธิดา 6 องค์ คือ
- เจ้านางทอง
- เจ้านางบัว
- เจ้านางจันที
- เจ้านางวันดี
- ท้าวมา
- เจ้านางสีทา
- เจ้านางแพงแสน
พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 2
- เจ้านางแตงอ่อน มีพระธิดา 1 องค์ คือ
- เจ้านางแท่ง ต่อมาสมรสกับท้าวธรรมกิติกา (พรหม) กรมการเมืองมุกดาหาร มีบุตร 1 คน คือ ขุนแสงพาณิชย์ (หยุย) ต้นสายสกุล
พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 3
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- ต่อมาเป็นที่ พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 4
- ท้าวบุญชัย ต่อมาเป็นอุปราชเมืองวารินทร์ชำราบ
ชั้นที่ 5
- หม่อมคำมะลุน บ้านชีทวน มีบุตร 2 คน คือ
- ท้าวจันทร์ (ท้าวจันทร์) ต่อมาเป็นที่
- ท้าวโพธิสาร (ท้าวเสือ) ต่อมาเป็นที่
- ถือเป็นต้นสายสกุล
- หม่อมบา มีบุตร 1 คน คือ
- ท้าวสิทธิกุมาร (ทองดี) ต่อมาเป็นที่ราชวงศ์เมืองยศสุนทร และได้รับพระราชทานยศเป็นที่ ยกบัตรเมืองยศสุนทร
- เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
พระปทุมเทวาภิบาล (บุญมา ณ หนองคาย) เจ้าเมืองหนองคาย องค์ที่ 1
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 1 องค์ คือ
- ท้าวเคน ต่อมาเป็นที่พระยาวุฒาธิคุณวิบุลยศักดิ์ อัครสุรินทรมหินทรภักดี เจ้าเมืองหนองคาย องค์ที่ 2
พระบำรุงราษฎร์ (จูมมณี) เจ้าเมืองพิบูลมังสาหาร องค์ที่ 1
- หม่อมขิง มีบุตร และบุตรี 10 คน คือ
- นางบัวไข
- ท้าวลอด
- นางม่วง
- ท้าวมิน
- ท้าวรัตน์
- เจ้านางจวง
- ท้าวฮง
- นางหยี
- ท้าวห่วน
- นางหล้า
- หม่อมทุม มีบุตร และบุตรี 4 คน คือ
- นางอมรา
- นางแก้ว
- ท้าวบุญเฮา
- นางเลื่อน
- หม่อมดา มีบุตร 1 คน คือ
- ท้าวหำทอง
ราชบุตรเมืองอุบลราชธานี
- หม่อมทอง บุตโรบล มีบุตร 2 คน คือ
- ท้าวหนูคำ ต่อมาเป็นราชบุตรเมืองอุบลราชธานี
ราชบุตรเมืองอุบลราชธานี
- ไม่ปรากฏชื่อภรรยา มีบุตร 1 คน คือ
- ท้าวบุญเพ็ง ต่อมาเป็น กรมการเมืองอุบลราชธานี เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลคือ
- ไม่ปรากฏชื่อภรรยา มีบุตร 1 คน คือ
- ท้าวบุญชู ต่อมาเป็น ผู้ว่าราชการเมืองอุบลราชธานี เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล คือ
พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 4
- เจ้านางคำ มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- ต่อมาเป็นที่ พระประเทศราชผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราช องค์ที่ 5
- กรมการเมืองยศสุนทร
- หม่อมพุ้ย มีบุตร และบุตรี 3 คน คือ
- ต่อเป็นที่ นายอำเภออุไทยยะโสธร คนที่ 2
- นางอำคา สมรสกับท้าวพรหมสวาท ท้าวไชยบัณฑิต (มี) และท้าวอึ่งตามลำดับ
- ท้าวโพธิสาร
- หม่อมสุนี มีบุตร และบุตรี 4 คน คือ
- ท้าวเล็ก ต่อมาเป็น เป็นผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล
- ท้าวสี
- พระภิกษุจำปาแดง
- เด็กหญิงบุญกว้าง
พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 4
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส 2 องค์ คือ
- หรือท้าวจันทบุฮม ต่อมาเป็นที่ เจ้าเมืองอำนาจเจริญ องค์ที่ 1 และเป็นต้นสายสกุลอมรสิน และอมรสิงห์
- ต่อมาเป็นที่ พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 5
ชั้นที่ 6
ยกบัตรเมืองยศสุนทร
- หม่อมแท่ง มีบุตร และบุตรี 6 คน คือ
- ขุนสุรินทร์ชมภู (สัมฤทธิ์ โพธิ์ศรี)
- นางสมนัส โพธิ์ศรี
- นางศรีทัศน์ โพธิ์ศรี
- นายรัศมี โพธิ์ศรี
- นางแก้วเกศจอมศรี โพธิ์ศรี
- นางบับพาวันดี โพธิ์ศรี
- หม่อมคูณ มีบุตร และบุตรี 2 คน คือ
- นางสร้อยสุนทร โพธิ์ศรี
- ขุนอุทานระบิล (คำสอน โพธิ์ศรี)
- หม่อมลุนลา มีบุตร และบุตรี 9 คน คือ
- นางเพ็ง โพธิ์ศรี
- นายเบ็ง โพธิ์ศรี
- นายใบ โพธิ์ศรี
- นางไตย โพธิ์ศรี
- นางไฮ โพธิ์ศรี
- นายมลัย โพธิ์ศรี
- นายมลุน โพธิ์ศรี
- นางยี่สุ่น โพธิ์ศรี
- นางสมบูรณ์ โพธิ์ศรี
- ถือเป็นต้นสายสกุล
พระยาวุฒาธิคุณ (เคน ณ หนองคาย) เจ้าเมืองหนองคาย องค์ที่ 2
- ไม่ปรากฏพระนามพระชายา มีพระโอรส และพระธิดา 8 องค์ คือ
- ต่อมาเป็นที่พระยาปทุมเทวาภิบาล (เสือ ณ หนองคาย) เจ้าเมืองหนองคาย องค์ที่ 3
- ท้าวแพ ต่อมาเป็นที่พระยาวุฒาธิคุณวิบุลยศักดิ์ อัครสุรินทร์มหินทรภักดี (แพ ณ หนองคาย) เจ้าเมืองหนองคาย องค์ที่ 4 เป็นผู้เข้าขอรับพระราชทานนามสกุล
- พระราชบุตร (สุพรหม ณ หนองคาย)
- พระบริบาลภูมิเขตร (หนูเถื่อน ณ หนองคาย)
- พระวิชิตภูมิกิจ (โพธิ์ ณ หนองคาย)
- ท้าวจันทกุมาร
- เจ้านางกุประดิษฐ์บดี (เปรี้ยง กุประดิษฐ์ ณ หนองคาย)
- เจ้านางราชามาตย์ (หนูพัน ณ หนองคาย)
- หม่อมดวงจันทร์ บุตโรบล มีบุตร และบุตรี 9 คน คือ
- นางก้อนคำ สมรสกับ ผู้ว่าราชการอุบลราชธานี
- นางอบมา สมรสกับท้าววรกิติกา (คูณ) กรมการเมืองอุบลราชธานี
- นางเหมือนตา
- นางบุญอ้ม สมรสกับท้าวอักษรสุวรรณ กรมการเมืองอุบลราชธานี
- นางหล้า
- นางดวงคำ สมรสกับรองอำมาตย์ตรี ขุนราชพิตรพิทักษ์ (ทองดี หิรัญภัทร์)
- ท่านคำม้าว โกณฺฑญฺโญ อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดสารพัดนึก จังหวัดอุบลราชธานี
- ไม่ปรากฏนาม (ถึงแก่กรรมเมื่อวัยเยาว์)
- เจ้านางเจียงคำ บุตโรบล ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
นายอำเภออุไทยยะโสธร คนที่ 2
- หม่อมชา มีบุตร และบุตรี 3 คน คือ
- ท้าวหลั่ง ไนยกุล
- นางออ ไนยกุล
- ท้าวสมกอ ไนยกุล
- ถือเป็นต้นสายสกุล
นางอำคา
- ท้าวพรหมสวาท มีบุตรี 2 คน คือ
- นางหิน
- นางตื้อ
- ท้าวไชยบัณฑิต (มี) มีบุตร 1 คน คือ
- ท้าวจิตร ต่อมาเป็นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี คนที่ 5
- ท้าวอึ่ง มีบุตร 2 คน คือ
- ท้าวชาลี
- ท้าวเอื้อ
- หม่อมทองคำ มีบุตรี 1 คน คือ
- นางน้อย
- หม่อมมั่น มีบุตร และบุตรี 2 คือ
- นางปาน
- ท้าวบิน
- ท้าวนา
- หม่อมหงส์ ณ เชียงใหม่ มีบุตร 1 คน คือ
- พระยาศิริกิจจาอุบลรักษ์ (หมาย ณ อุบล)
พระยาศิริกิจจาอุบลรักษ์ (หมาย ณ อุบล) สมรสกับ อำแดงอุ่น บุนนาค มีบุตรี 1 คน คือ
- อำแดงอบเชย ณ อุบล(หมายมั่น) สมรสกับ
- หม่อมคูณ พรหมวงศานนท์ มีบุตร 1 คน คือ
- ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์อีสาน และประวัติศาสตร์หัวเมืองลุ่มแม่น้ำโขง
พระประเทศราชผู้ครองเมืองเขมราษฎร์ธานี องค์ที่ 5
- หม่อมกองคำ มีบุตรี 3 คน คือ
- นางคำผุย สมรสกับขุนแสงพาณิชย์ (หยุย แสงสิงห์แก้ว)
- นางไกรสร สมรสกับนายวิชิต กุลสิงห์
- นางแตงอ่อน สมรสกับนายโทน ปิตินันท์
- หม่อมเขียวค่อม มีบุตรและบุตรี 4 คน คือ
- ท้าวลพ
- นางเลื่อน สมรสกับ และนายเหลี่ยม แสงสิงห์แก้ว ตามลำดับ
- ท้าวเหลี่ยม
- นางปิ่นแก้ว สมรสกับ
ชั้นที่ 7
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี คนที่ 5
- คุณหญิงหลวน มีบุตร และบุตรี 2 คน คือ
- นายจุรัช จิตตะยโศธร
- นายแพทย์เกษม จิตตะยโศธร
- นางเลื่อน มีบุตรี 1 คน คือ
- นางรวยพร จิตตะยโศธร
- นางทองสุข มีบุตร 2 คน คือ
- นายจรูญ จิตตะยโศธร
- นายจาริก จิตตะยโศธร
- คุณหญิงอุบล มีบุตร และบุตรี 8 คน คือ
- นางจิราภา จิตตะยโศธร
- นายจุทิศ จิตตะยโศธร
- นายกุลวัฒน์ จิตตะยโศธร
- นางจิตราภรณ์ จิตตะยโศธร
- นางจารุณี จิตตะยโศธร
- นางจริกา จิตตะยโศธร
- นายจิตตวัฒน์ จิตตะยโศธร
- นางเอื้องอุมา จิตตะยโศธร
- ถือเป็นต้นสายสกุล
พระยาศิริกิจจาอุบลรักษ์ (หมาย ณ อุบล)
- อำแดงอุ่น บุนนาค
มีธิดาชื่อ อำแดงอบเชย ณ อุบล (หมายมั่น สมรสกับ พระหมายมั่นราชกิจสุรฤทธิฤๅไชย (ชุ่ม หมายมั่น) มีบุตร-ธิดา 10 คน คือ
- นางบัว หมายมั่น
- นายชู หมายมั่น
- นายชอบ หมายมั่น
- นางชั้น จันทรประเสริฐ
- นายแช่ม หมายมั่น
- นายเชื้อ หมายมั่น
- นายชุบ หมายมั่น
- นางชา หมายมั่น
- นางช้อย หมายมั่น
- นายชาตรี หมายมั่น
นางคำผุย
- ขุนแสงพาณิชย์ (หยุย แสงสิงห์แก้ว) มีบุตร และบุตรี 11 คน คือ
- ขุนประเสริฐสรรพกิจ (เผย แสงสิงห์แก้ว)
- นางคำเบย ปลูกเจริญ
- นางชู วีระพัฒน์
- นายสวัสดิ์ แสงสิงห์แก้ว
- นายกาญจน์ แสงสิงห์แก้ว
- ศาสตราจารย์ นายแพทย์ฝน แสงสิงห์แก้ว
- นายเชาวน์ แสงสิงห์แก้ว
- นางสวาสดิ์ จันทรุกขา
- นายอุดม แสงสิงห์แก้ว
- นางนิตยา โชติดิลก
- นายอารมณ์ แสงสิงห์แก้ว
นางไกรสร
- นายวิชิต กุลสิงห์ มีบุตร และบุตรี 6 คน
- นายอุดร กุลสิงห์
- นายก้อน กุลสิงห์
- นางก้าน ยืนยาว สมรสกับ จ.ส.ต.บาล ยืนยาว
- นายก่าย กุลสิงห์
- นางหอม บุญญาจันทร์ สมรสกับนายรินทร์ บุญญาจันทร์
- นายประมัย กุลสิงห์
นางแตงอ่อน
- นายโทน ปิตินันท์ มีบุตร 1 คน คือ
- นายประทัง ปิตินันท์
นางเลื่อน
- มีบุตร 1 คน คือ
- เจ้าสิริบังอร ณ จัมปาศักดิ์ สมรสกับส.ส.ทองอินทร์ ภูริพัฒน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานีคนแรก และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
- นายเหลี่ยม แสงสิงห์แก้ว มีบุตร และบุตรี 4 คน คือ
- นายบรรลุ แสงสิงห์แก้ว
- นางสาวจตุพร แสงสิงห์แก้ว
- นายบัลลังก์ แสงสิงห์แก้ว
- นายเทอดธรรม แสงสิงห์แก้ว
นางปิ่นแก้ว
- มีบุตร และบุตรี 5 คน คือ
- ม.ล.เจรือง ปราโมช
- ม.ล.จุไร ปราโมช
- ม.ล.จงใจ ปราโมช
- ม.ล.จำนงค์ ปราโมช
- ม.ล.จตุพร ปราโมช
ยุคภายใต้การปกครองของราชวงศ์จักรี
อนึ่งราชวงศ์แสนทิพย์นาบัวได้อพยพหนีภัยสงครามมาหลายครั้งหลายหน และต้องสู้อดทนเพื่อความเป็นเอกวงศ์แห่งตน และความผาสุขร่มเย็นของนิกูลวงศ์อันสืบสายมาแต่เจ้าอุปราชนอง ก็ด้วยพระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แก่เหล่านิกูลแสนทิพย์นาบัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระประเทศราช พระยาประเทศราช ผู้ครองเมือง เจ้าเมือง อุปราช ราชวงศ์ ราชบุตร และดำรงชีพอยู่ภายใต้ขอบขัณฑสีมาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยความผาสุขสวัสดี เหล่านิกูลของแสนทิพย์นาบัวก็ได้จงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกรัชกาล รับราชการรับใช้ใต้พระยุคลบาทตราบเท่าจวบจนปัจจุบัน
การปกครองบ้านเมือง
ทายาทแห่งราชวงศ์สุวรรณปางคำที่ออกไปก่อตั้งและปกครองบ้านเมืองต่างๆ มีปรากฏดังนี้
- พ.ศ. 2314 บ้านสิงห์ท่า มีเจ้าพระศรีวรราช (คำสู) เป็นผู้ปกครองคนแรก
- พ.ศ. 2315 เวียงดอนกอง มีเจ้าพระวรราชภักดี (วอ) เป็นผู้ปกครองคนแรก
- พ.ศ. 2322 เมืองอุบล (ดอนมดแดง) มีพระปทุมสุรราช (คำผง) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2334 เมืองนครจำปาบาศักดิ์ประเทศราช (เมืองเก่าคันเกิง) มีเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (ฝ่ายหน้า) เป็นเจ้าผู้ครองนครองค์แรก
- พ.ศ. 2334 เมืองโขง (สีทันดอน) มีเจ้าราชวงศ์สิงห์ เป็นเจ้าเมือง
- พ.ศ. 2335 เมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลยประเทศราช (บ้านห้วยแจระแม) มีเจ้าพระประทุมววรราชสุริยวงษ (คำผง ณ อุบล) เป็นเจ้าผู้ครองเมืององค์แรก
- พ.ศ. 2357 เมืองยศสุนทรประเทศราช (บ้านสิงห์ท่า) มีพระสุนทรราชวงศา (คำสิงห์) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2357 เมืองเขมราษฎร์ธานี (บ้านโคกดงพะเนียง) มีพระเทพวงศา (ก่ำ) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2370 เมืองหนองคาย (บ้านไผ่) มีพระปทุมเทวาภิบาล (บุญมา ณ หนองคาย) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2371 เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี (บ้านปากน้ำสงคราม) มีพระไชยราชวงศา (เสน เสนจันทร์ฒิไชย) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2478 เมืองนครพนม มีพระสุนทรราชวงศามหาขัติยชาติฯ (ฝ่ายบุต) เป็นเจ้าเมืองยโสธรนครพนม
- พ.ศ. 2401 เมืองอำนาจเจริญ (บ้านค้อใหญ่) มีพระอมรอำนาจ (เสือ อมรสิงห์) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2406 เมืองพิมูลมังษาหาร (บ้านกว้างลำชะโด) มีพระบำรุงราษฎร (จูมมณี สุวรรณกูฏ) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2406 เมืองตระการพืชผล (บ้านสะพือ) มีพระอมรดลใจ (อ้ม อมรดลใจ) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2406 เมืองมหาชนะไชย (บ้านเวินไชย) มีพระเรืองไชยชำนะ (คำพูน สุวรรณกูฏ) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2422 เมืองเสลภูมินิคม (บ้านเขาดินบึงโดน) มีพระนิคมบริรักษ์ (เสน ประทุมทิพย์) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2422 เมืองพนานิคม (บ้านพระเหลา) มีพระจันทรวงศา (เพียเมืองจันทร์) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2423 เมืองวารินทร์ชำราบ (บ้านน้ำคำเอือดกอนจอ) มีพระกำจรจัตุรงค์ (แดง) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2425 เมืองเกษมสีมา (บ้านเมืองที) มีพระพิไชยชาญณรงค์ (จันดี) เป็นเจ้าเมืองคนแรก
- พ.ศ. 2445 เมืองอุไทยยะโสธร (บ้านลุมพุก) มีหลวงยศเยศสุรามฤทธิ์ (ตา ไนยกุล) เป็นเจ้าเมืองและนายอำเภอคนแรก
- พ.ศ. 2445 เมืองปจิมูปลนิคม (บ้านเขื่องใน) มีพระบริคุตคามเขตร์ (โหง่นคำ สุวรรณกูฏ) เป็นเจ้าเมืองและนายอำเภอคนแรก
สายสกุลราชวงศ์แสนทิพย์นาบัว
- ณ อุบล (พระราชทาน)
- ณ หนองคาย (พระราชทาน)
- จิตตะยโศธร (พระราชทาน)
- สุวรรณกูฏ (พระราชทาน)
- พรหมวงศานนท์ (พระราชทาน)
- โทนุบล (พระราชทาน)
- บุตโรบล (พระราชทาน)
- วิพาคย์พจนกิจ (พระราชทาน)
- รักขพันธ์ ณ หนองคาย (พระราชทาน)
- วุฒาธิวงศ์ ณ หนองคาย (พระราชทาน)
- กุประดิษฐ์ ณ หนองคาย (พระราชทาน)
- โพธิเสน ณ หนองคาย (พระราชทาน)
- วงศ์ปัดสา
- เสนจันทร์ฒิไชย
- ประทุมทิพย์
- อุปยโสธร
- ปทุมชาติ
- อมรสิงห์
- อมรสิน
- ทองพิทักษ์
- อมรดลใจ
- แสงสิงห์แก้ว
- สิงหัษฐิต
- โพธิ์ศรี
- ไนยกุล
- จารุเกษม (พระราชทาน)
อ้างอิง
- หม่อมอมรวงษ์วิจิตร (หม่อมราชวงศ์ปฐม คเนจร). พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอิสาณ. ตีพิมพ์ในประชุมพงศาวดาร ภาค 4
- และคณะ. อุบลราชธานี 200 ปี. กรุงเทพฯ : ชวนพิมพ์, 2535.
- เติม วิภาคย์พจนกิจ ประวัติศาสตร์อีสาน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2513
- คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี. เรื่องทรงตั้งเจ้าประเทศราชกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1. กรุงเทพฯ : สำนักธรรมเนียบนายกรัฐมนตรี, 2514.
- ราชวงศ์สุวรรณปางคำ 2017-10-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ราชวงศ์สุวรรณปางคำ 2010-06-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ราชวงศ์สุวรรณปางคำ 2019-05-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxngbthkhwamnitxngkartrwcsxbkhwamthuktxngcakphuechiywchayineruxngnn oprdephimpharamietxr reason hrux talk lnginaemaebbniephuxxthibaypyhakhxngbthkhwamemuxwangaethkni ihphicarnaechuxmoyngkhakhxnikbokhrngkarwiki rachwngsaesnthiphynabw hrux suwrrnpangkha epnrachwngsecanayfayxisanthipkkhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban xublrachthanisriwnailypraethsrach yssunthrpraethsrach hnxngkhay ekhmrasdrthani xanacecriy bungkal l hruxxaccaklawidwa epntnkaenidemuxngtang hlayemuxng inphakhxisankhxngpraethsithy aelatnkaenidsayskul n xubl n hnxngkhay lrachwngsaesnthiphynabwhruxsuwrrnpangkhaphrarachxisriyysecaxuprachphukhrxngnkhr ecaphukhrxngnkhr ecaemuxngpraethsrach phrapraethsrach phrayapraethsrachpkkhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban xublrachthanisriwnailypraethsrach yssunthrpraethsrach ekhmrasdrthani hnxngkhay ichysuththixutmburi xanacecriysakhan xubl n hnxngkhaypramukhphraxngkhaerkecaxuprachnxng ecanxng pramukhphraxngkhsudthay phrasunthrrachwngsamhakhtiychati suphrhm phrayawuthathikhun ekhn n hnxngkhay sthapnaph s 2250lmslayph s 2475dkhkkarsthapnarachwngsaesnthiphynabwhruxsuwrrnpangkha idrbkarsthapnakhunemux pi ph s 2250 insmyphraecaichyechsthathirachthi 2aehngxanackrlanchangewiyngcnthn odyecanxng khunnanglawechuxsayithphwn phraoxrskhxngaesnthiphynabwphumiechuxsaysamychnthangechuxsayithphwnaelaithdacakbida aelaechuxsaysamychnthangewiydnamcakmarda sungecanxngepnphinxngrwmmardaaettangbidakbphraecaichyxngkhew aelaephuxihepnekiyrtiaekphrabidakhxngtncungtngrachwngskhxngtnexngkhunodyichphranamkhxngphrabidaaethnnamkhxngtn phayhlngidrboprdeklacakkstriyxanackrlanchangewiyngcnthndarngtaaehnngepn ecaxuprachnxng aelaidrboprdeklaihtngemuxnghnxngbwlumphucakphramhakstriyxanackrlanchang ihecaxuprachnxngthrngnakalngiphrphlkhrwlawthitidtammaiptngbaneruxnxyuthiemuxnghnxngbwlumphu sungphraecaichyechsthathirach thrngnaiphrphlhlwngphrabangaelaewiyngcnthnmakxsrangkhunkhrng ph s 2106 ihemuxnghnadankhxngkrungsristtnakhnhut ewiyngcnthn emuxecanxngidmathungemuxnghnxngbwlumphu thrngeluxkhnathaelthitngbanemuxngihm briewnrimhnxngbwxnmiprakarthangthrrmchatikhux ethuxkekhaphuphansungtrahngan samarthpxngknkhasukstru phrxmkxsrangkhaykhupratuhxrb kaaephngkhuemuxnglxmrxbphrxmpratuewiyngxyangaennhna sthapnaewiyngaehngihmniwa ewiyngihmnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwbandwy txmaecaxuprachnxngmikhwamphyayamthicaaeyngchingxanaccakecaxngkhlxng kstriylanchangewiyngcnthnxngkhthi 2 aelasamarthyudxanacidepnphlsaerc inpi ph s 2283 aemcasamarthyudxanacidaelasamarthkhrxngnkhrhlwngewiyngcnthnidaetenuxngcakecanxngimidmiechuxsaykstriyaetepnephiyngsamychn ehlabrrdakhunnangcungyxmrbthanihdarngtaaehnngecankhrephiyngaekhepn ecaxuprachnxngtamedim hlngcakidkhrxngnkhrewiyngcnthnecaxuprachnxngcungaetngtngihoxrskhux phrata pkkhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwbanaethn phayhlng ewlaphanipsibkwapi phraoxrsthngsxng khux phrawxaelaphratarwmmuxkbecasiribuysar phrarachoxrskhxngecaxngkhlxng yudxanackhunidsaerc hlngcakphayaeph ecaxuprachnxngcungthukphraecasiribuysarsungidrbkarsnbsnuncakphraoxrsthngsxngkhxngthanniexngsaercothscnthungaekphiraly inpi ph s 2294khwamsmphnthrahwangrachwngsaesnthiphynabw phrabidakhxngecaxuprachnxnghruxecapangkha miechuxsaythangithphwnthangphrabida swnphramardamiechuxsaythangithda nkprawtisastrsnnisthanwathngbidaaelamardakhxngaesnthiphynabwepnephiyngsamychnmiichechuxeca phramardakhxngecaxuprachnxnghruxecapangkhaepnsamychnechuxsaythangemuxngew ewiydnam ecapangkhacungepnphraxnucharwmmardakhxngphraecaichyxngkhew kstriylanchangewiyngcnthnxngkhthi 1rachwngsckri hmxmeciyngkha chumphl n xyuthya inphraecabrmwngsethx krmhlwngsrrphsiththiprasngkhrachwngslanchangewiyngcnthn phraecaichyechsthathirachthi 2 hrux phraecaichyxngkhew phraechstharwmmardaaettangbidakhxngecaxuprachnxngrachwngslanchangcapaskladbsayskulwngschnthi 1 ecaxuprachnxng ecanxng pthmrachwngsaesnthiphynabw ecaphukhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban hnxngbwlumphu phraxngkhthi 1 ekidaetphrryaexkchawlawewiyngcnthn miphraoxrs 2 phraxngkh khuxphrawrrachpita phrawrrachphkdichnthi 2 phrawrrachpita phrata ecaphukhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban phraxngkhthi 2 phranangbusdiethwi miphraoxrs aelaphrathida 11 xngkh khuxecanangxusa thawkhaphng thawfayhna ecanangming thawsuy phrasribribal ecanangehmuxnta txmaepnrachbutremuxngxublrachthani aelaidrbphrarachthanepnphrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthani xngkhthi 3 aetthungaekxnickrrmthikrungethph kxnkhunmadarngtaaehnngecaphukhrxngemuxngphrawrrachphkdi phrawx ecaphukhrxngnkhrekhuxnkhnthkabaekwbwban phraxngkhthi 3 phranangxrxinthrethwi miphraoxrs aelaphrathida 9 xngkh khuxecanangcnbuppha thawka phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 1 ecanangthumma ecanangtxnaekw txmaepnrachbutremuxngyssunthr aelaidrbphrakrunaoprdekla ihepnthi ecaemuxngichysuththixutmburi xngkhthi 1 thawekhrux thawlad ecanangpdtha thawhdchnthi 3 phraprathumwrrachsuriywngs thawkhaphng phrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 1 phranangtuy immiphraoxrs aelaphrathida phranangsida miphraoxrs aelaphrathida 10 xngkh khuxecanangkhasingh ecanangsida thawsudta txmaepnxuprachemuxngxublrachthani thawhmaaephng txmaepnxuprachemuxngyssunthr thawhmakha thawhathxng ecanangsuy txmaepnthiphraphrhmrachwngsa phrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 4 ecanangcapakha ecanangphimphimpraktphranamphrachaya miphraoxrs 1 xngkh khuxthawichyphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach phrapraethsrach phukhrxngnkhrcapask xngkhthi 3 phayitxanackrsyam impraktphranamphrachaya miphraoxrs aelaphrathida 6 xngkh khuxthawkhasingh txmaepnthiphrasunthrrachwngsa thawkhasingh phrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 1 thawfaybut txmaepnthiphrasunthrrachwngsa thawfaybut phrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 3 aelayngepnphrapraethsrachphukhrxngemuxngnkhrphnm thawsudta thawnangaedng ecanangithy ecanangkxnaekwphrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 2 phranangehnga miphraoxrs 1 xngkh khuxtxmaepnrachwngsemuxngxublrachthani impraktphranamphrachaya miphraoxrs 1 xngkh khuxthawsiharach phlsukh phrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 3 impraktphranamphrachaya miphraoxrs 2 xngkh khuxtxepnrachbutremuxngxublrachthaniphraethphwngsa thawka phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 1 impraktphranamphrachaya miphraoxrs aelaphrathida 4 xngkh khuxthawbuycnthr txmaepnthi phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 2 thawbuyeha txmaepnthi phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 3 thawaedng hrux thawchanayiphrsnth txmaepnthi ecaemuxngwarinthrcharab xngkhthi 1 ecananghmaaephngtnsayskul tnsayskulxmrsinphukhrxngemuxngichysuththixutmburi xngkhthi 1 hmxmchada miphraoxrs aelaphrathida 3 xngkh khuxecanangpha smrskbthawcnthrephng txmaepnthi phukhrxngemuxngichysuththixutmburi xngkhthi 3 thawkhttiya thawsila txmaepnthirachbutremuxngichysuththixutmburi aelaidrbphrakrunaoprdekla epnthi phukhrxngemuxngichysuththixutmburi xngkhthi 2tnsayskulchnthi 4 xuprachemuxngxublrachthani phranangphimpha aehngnkhrcapaskdi miphraoxrs aelaphrathida 13 xngkh khuxecanangphimph ecanangcapa txmaepnxuprachemuxngxublrachthani thawxinthisar thawichysar thawkhun ecanangthumma thawsuwrrnaesn phuekidehtuwiwathkbemxsiexxrisaeng thharfrngess thawxinthickr ecanangsimma ecananghla ecanangbwphaxuprachemuxngyssunthr impraktphranamphrachaya miphraoxrs 5 xngkh khuxthawsuwxthrrma buyma txmaepnthiphrapthumethwaphibal buyma n hnxngkhay ecaemuxnghnxngkhay khnthi 1 aelaepntnsayskul thawsuriya aekh txmaepnxuprachemuxngyssunthr thawknya txmaepnrachwngsemuxngyssunthr hruxhlwngcumphlphkdi txmaepnthi ecaemuxngeslphuminikhm khnthi 1 aelaepntnsayskul thawophphrapraethsrachphukhrxngemuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach xngkhthi 3 phrananghmaaephng miphraoxrs aelaphrathida 4 xngkh khuxthawophthisarach thawesux txmaepnxuprachemuxngphibulmngsahar thawthrrmkitika cummni ecaemuxng khnthi1 ecanangkhasaw thawsithan thawsang txmaepnrachwngsemuxngphibulmngsaharimpraktphranamphrachaya miphraoxrs 2 xngkh khuxecaemuxng xngkhthi 1 hakmihlankhux naykxngothekng epnphukhxrbphrarachthannamskul thawphrhmma txmaepnxuprachemuxngtrakarphuchphlimpraktphranamphrachaya miphraoxrs 1 xngkh khuxecaemuxngphibulmngsahar xngkhthi 2impraktphranamphrachaya miphraoxrs 1 xngkh khuxecaemuxng xngkhthi 1 hakmihlankhux epnphukhxrbphrarachthannamskulphraphrhmrachwngsa thawkuthxng thuxepntnsayskul mirxngxamatytri phuhlan epnphukhxrbphrarachthannamskul impraktchuxphrrya mibutr 1 khn khuxtxmaepnrachwngsemuxngxublrachthaniphrasunthrrachwngsa thawkhasingh phrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 1 phranangaeknkha miphraoxrs 2 xngkh khuxthawbutr txmaepnthixuprachemuxngyssunthr aelathukecaphrayabdinthredcha singh singhesni sngihpraharchiwitinkhukephling krnikbdecaxnuwngs thawkha txmathukecaphrayabdinthredcha singh singhesni sngihpraharchiwitinkhukephling krnikbdecaxnuwngsphrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 3 aelayngepnphrapraethsrachphukhrxngemuxngnkhrphnm phranangphrhmma miphraoxrs 2 xngkh khuxtxmaepnthiphrasunthrrachwngsa mhakhtiychati praethsrachwaewiyng darngrksskdiysikr sriphiichysngkhram ecaehmn phrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 4 thawphraemuxng hmxmsupha mibutr 2 khn khuxthawsuy txmaepn thawkha txmaepn impraktphranamphrachaya miphraoxrs aelaphrathida 6 xngkh khuxecanangthxng ecanangbw ecanangcnthi ecanangwndi thawma ecanangsitha ecanangaephngaesnphrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 2 ecanangaetngxxn miphrathida 1 xngkh khuxecanangaethng txmasmrskbthawthrrmkitika phrhm krmkaremuxngmukdahar mibutr 1 khn khux khunaesngphanichy hyuy tnsayskulphrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 3 impraktphranamphrachaya miphraoxrs 2 xngkh khuxtxmaepnthi phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 4 thawbuychy txmaepnxuprachemuxngwarinthrcharabchnthi 5 hmxmkhamalun banchithwn mibutr 2 khn khuxthawcnthr thawcnthr txmaepnthi thawophthisar thawesux txmaepnthithuxepntnsayskul hmxmba mibutr 1 khn khuxthawsiththikumar thxngdi txmaepnthirachwngsemuxngyssunthr aelaidrbphrarachthanysepnthi ykbtremuxngyssunthrepnphukhxrbphrarachthannamskulphrapthumethwaphibal buyma n hnxngkhay ecaemuxnghnxngkhay xngkhthi 1 impraktphranamphrachaya miphraoxrs 1 xngkh khuxthawekhn txmaepnthiphrayawuthathikhunwibulyskdi xkhrsurinthrmhinthrphkdi ecaemuxnghnxngkhay xngkhthi 2phrabarungrasdr cummni ecaemuxngphibulmngsahar xngkhthi 1 hmxmkhing mibutr aelabutri 10 khn khuxnangbwikh thawlxd nangmwng thawmin thawrtn ecanangcwng thawhng nanghyi thawhwn nanghlahmxmthum mibutr aelabutri 4 khn khuxnangxmra nangaekw thawbuyeha nangeluxnhmxmda mibutr 1 khn khuxthawhathxngrachbutremuxngxublrachthani hmxmthxng butorbl mibutr 2 khn khuxthawhnukha txmaepnrachbutremuxngxublrachthanirachbutremuxngxublrachthani impraktchuxphrrya mibutr 1 khn khuxthawbuyephng txmaepn krmkaremuxngxublrachthani epnphukhxrbphrarachthannamskulkhux impraktchuxphrrya mibutr 1 khn khuxthawbuychu txmaepn phuwarachkaremuxngxublrachthani epnphukhxrbphrarachthannamskul khuxphrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 4 ecanangkha miphraoxrs 2 xngkh khuxtxmaepnthi phrapraethsrachphukhrxngemuxngyssunthrpraethsrach xngkhthi 5 krmkaremuxngyssunthr hmxmphuy mibutr aelabutri 3 khn khuxtxepnthi nayxaephxxuithyyaosthr khnthi 2 nangxakha smrskbthawphrhmswath thawichybnthit mi aelathawxungtamladb thawophthisar hmxmsuni mibutr aelabutri 4 khn khuxthawelk txmaepn epnphukhxrbphrarachthannamskul thawsi phraphiksucapaaedng edkhyingbuykwangphrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 4 impraktphranamphrachaya miphraoxrs 2 xngkh khuxhruxthawcnthbuhm txmaepnthi ecaemuxngxanacecriy xngkhthi 1 aelaepntnsayskulxmrsin aelaxmrsingh txmaepnthi phrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 5chnthi 6 ykbtremuxngyssunthr hmxmaethng mibutr aelabutri 6 khn khuxkhunsurinthrchmphu smvththi ophthisri nangsmns ophthisri nangsrithsn ophthisri nayrsmi ophthisri nangaekwekscxmsri ophthisri nangbbphawndi ophthisrihmxmkhun mibutr aelabutri 2 khn khuxnangsrxysunthr ophthisri khunxuthanrabil khasxn ophthisri hmxmlunla mibutr aelabutri 9 khn khuxnangephng ophthisri nayebng ophthisri nayib ophthisri nangity ophthisri nangih ophthisri naymly ophthisri naymlun ophthisri nangyisun ophthisri nangsmburn ophthisrithuxepntnsayskulphrayawuthathikhun ekhn n hnxngkhay ecaemuxnghnxngkhay xngkhthi 2 impraktphranamphrachaya miphraoxrs aelaphrathida 8 xngkh khuxtxmaepnthiphrayapthumethwaphibal esux n hnxngkhay ecaemuxnghnxngkhay xngkhthi 3 thawaeph txmaepnthiphrayawuthathikhunwibulyskdi xkhrsurinthrmhinthrphkdi aeph n hnxngkhay ecaemuxnghnxngkhay xngkhthi 4 epnphuekhakhxrbphrarachthannamskul phrarachbutr suphrhm n hnxngkhay phrabribalphumiekhtr hnuethuxn n hnxngkhay phrawichitphumikic ophthi n hnxngkhay thawcnthkumar ecanangkupradisthbdi epriyng kupradisth n hnxngkhay ecanangrachamaty hnuphn n hnxngkhay hmxmdwngcnthr butorbl mibutr aelabutri 9 khn khuxnangkxnkha smrskb phuwarachkarxublrachthani nangxbma smrskbthawwrkitika khun krmkaremuxngxublrachthani nangehmuxnta nangbuyxm smrskbthawxksrsuwrrn krmkaremuxngxublrachthani nanghla nangdwngkha smrskbrxngxamatytri khunrachphitrphithks thxngdi hiryphthr thankhamaw okn thy oy xditecaxawasrupaerkkhxngwdsarphdnuk cnghwdxublrachthani impraktnam thungaekkrrmemuxwyeyaw ecanangeciyngkha butorbl inphraecabrmwngsethx krmhlwngsrrphsiththiprasngkhnayxaephxxuithyyaosthr khnthi 2 hmxmcha mibutr aelabutri 3 khn khuxthawhlng inykul nangxx inykul thawsmkx inykulthuxepntnsayskulnangxakha thawphrhmswath mibutri 2 khn khuxnanghin nangtuxthawichybnthit mi mibutr 1 khn khuxthawcitr txmaepnthi phuwarachkarcnghwdxudrthani khnthi 5thawxung mibutr 2 khn khuxthawchali thawexux hmxmthxngkha mibutri 1 khn khuxnangnxyhmxmmn mibutr aelabutri 2 khuxnangpan thawbin thawna hmxmhngs n echiyngihm mibutr 1 khn khuxphrayasirikiccaxublrks hmay n xubl phrayasirikiccaxublrks hmay n xubl smrskb xaaedngxun bunnakh mibutri 1 khn khux xaaedngxbechy n xubl hmaymn smrskb hmxmkhun phrhmwngsannth mibutr 1 khn khuxsungepnphuekhiynhnngsuxprawtisastrxisan aelaprawtisastrhwemuxnglumaemnaokhngphrapraethsrachphukhrxngemuxngekhmrasdrthani xngkhthi 5 hmxmkxngkha mibutri 3 khn khuxnangkhaphuy smrskbkhunaesngphanichy hyuy aesngsinghaekw nangikrsr smrskbnaywichit kulsingh nangaetngxxn smrskbnayothn pitinnthhmxmekhiywkhxm mibutraelabutri 4 khn khuxthawlph nangeluxn smrskb aelanayehliym aesngsinghaekw tamladb thawehliym nangpinaekw smrskbchnthi 7 phuwarachkarcnghwdxudrthani khnthi 5 khunhyinghlwn mibutr aelabutri 2 khn khuxnaycurch cittayosthr nayaephthyeksm cittayosthrnangeluxn mibutri 1 khn khuxnangrwyphr cittayosthrnangthxngsukh mibutr 2 khn khuxnaycruy cittayosthr naycarik cittayosthrkhunhyingxubl mibutr aelabutri 8 khn khuxnangcirapha cittayosthr naycuthis cittayosthr naykulwthn cittayosthr nangcitraphrn cittayosthr nangcaruni cittayosthr nangcrika cittayosthr naycittwthn cittayosthr nangexuxngxuma cittayosthrthuxepntnsayskulphrayasirikiccaxublrks hmay n xubl xaaedngxun bunnakh mithidachux xaaedngxbechy n xubl hmaymn smrskb phrahmaymnrachkicsurvththiviichy chum hmaymn mibutr thida 10 khn khux nangbw hmaymn naychu hmaymn naychxb hmaymn nangchn cnthrpraesrith nayaechm hmaymn nayechux hmaymn naychub hmaymn nangcha hmaymn nangchxy hmaymn naychatri hmaymnnangkhaphuy khunaesngphanichy hyuy aesngsinghaekw mibutr aelabutri 11 khn khuxkhunpraesrithsrrphkic ephy aesngsinghaekw nangkhaeby plukecriy nangchu wiraphthn nayswsdi aesngsinghaekw naykaycn aesngsinghaekw sastracary nayaephthyfn aesngsinghaekw nayechawn aesngsinghaekw nangswasdi cnthrukkha nayxudm aesngsinghaekw nangnitya ochtidilk nayxarmn aesngsinghaekwnangikrsr naywichit kulsingh mibutr aelabutri 6 khnnayxudr kulsingh naykxn kulsingh nangkan yunyaw smrskb c s t bal yunyaw naykay kulsingh nanghxm buyyacnthr smrskbnayrinthr buyyacnthr naypramy kulsinghnangaetngxxn nayothn pitinnth mibutr 1 khn khuxnayprathng pitinnthnangeluxn mibutr 1 khn khuxecasiribngxr n cmpaskdi smrskbs s thxngxinthr phuriphthn xditsmachiksphaphuaethnrasdrcnghwdxublrachthanikhnaerk aelaxditrthmntriwakarkrathrwngxutsahkrrmnayehliym aesngsinghaekw mibutr aelabutri 4 khn khuxnaybrrlu aesngsinghaekw nangsawctuphr aesngsinghaekw naybllngk aesngsinghaekw nayethxdthrrm aesngsinghaekwnangpinaekw mibutr aelabutri 5 khn khuxm l ecruxng praomch m l cuir praomch m l cngic praomch m l canngkh praomch m l ctuphr praomchyukhphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngsckrixnungrachwngsaesnthiphynabwidxphyphhniphysngkhrammahlaykhrnghlayhn aelatxngsuxdthnephuxkhwamepnexkwngsaehngtn aelakhwamphasukhrmeynkhxngnikulwngsxnsubsaymaaetecaxuprachnxng kdwyphrabarmiaehngphramhakstriyaehngrachwngsckrithukphraxngkhthithrngmiphramhakrunathikhunxnhathisudmiidaekehlanikulaesnthiphynabw thrngphrakrunaoprdekla ihdarngtaaehnngepn phrapraethsrach phrayapraethsrach phukhrxngemuxng ecaemuxng xuprach rachwngs rachbutr aeladarngchiphxyuphayitkhxbkhnthsimaaehngkrungrtnoksinthrdwykhwamphasukhswsdi ehlanikulkhxngaesnthiphynabwkidcngrkphkditxitfalaxxngthuliphrabaththukrchkal rbrachkarrbichitphrayukhlbathtrabethacwbcnpccubnkarpkkhrxngbanemuxngthayathaehngrachwngssuwrrnpangkhathixxkipkxtngaelapkkhrxngbanemuxngtang mipraktdngni ph s 2314 bansinghtha miecaphrasriwrrach khasu epnphupkkhrxngkhnaerk ph s 2315 ewiyngdxnkxng miecaphrawrrachphkdi wx epnphupkkhrxngkhnaerk ph s 2322 emuxngxubl dxnmdaedng miphrapthumsurrach khaphng epnecaemuxngkhnaerk ph s 2334 emuxngnkhrcapabaskdipraethsrach emuxngekakhneking miecaphrawiichyrachsuriywngskhtiyrach fayhna epnecaphukhrxngnkhrxngkhaerk ph s 2334 emuxngokhng sithndxn miecarachwngssingh epnecaemuxng ph s 2335 emuxngxublrachthanisriwnailypraethsrach banhwyaecraaem miecaphraprathumwwrrachsuriywngs khaphng n xubl epnecaphukhrxngemuxngxngkhaerk ph s 2357 emuxngyssunthrpraethsrach bansinghtha miphrasunthrrachwngsa khasingh epnecaemuxngkhnaerk ph s 2357 emuxngekhmrasdrthani banokhkdngphaeniyng miphraethphwngsa ka epnecaemuxngkhnaerk ph s 2370 emuxnghnxngkhay baniph miphrapthumethwaphibal buyma n hnxngkhay epnecaemuxngkhnaerk ph s 2371 emuxngichysuththixutmburi banpaknasngkhram miphraichyrachwngsa esn esncnthrthiichy epnecaemuxngkhnaerk ph s 2478 emuxngnkhrphnm miphrasunthrrachwngsamhakhtiychati faybut epnecaemuxngyosthrnkhrphnm ph s 2401 emuxngxanacecriy bankhxihy miphraxmrxanac esux xmrsingh epnecaemuxngkhnaerk ph s 2406 emuxngphimulmngsahar bankwanglachaod miphrabarungrasdr cummni suwrrnkut epnecaemuxngkhnaerk ph s 2406 emuxngtrakarphuchphl bansaphux miphraxmrdlic xm xmrdlic epnecaemuxngkhnaerk ph s 2406 emuxngmhachnaichy banewinichy miphraeruxngichychana khaphun suwrrnkut epnecaemuxngkhnaerk ph s 2422 emuxngeslphuminikhm banekhadinbungodn miphranikhmbrirks esn prathumthiphy epnecaemuxngkhnaerk ph s 2422 emuxngphnanikhm banphraehla miphracnthrwngsa ephiyemuxngcnthr epnecaemuxngkhnaerk ph s 2423 emuxngwarinthrcharab bannakhaexuxdkxncx miphrakacrcturngkh aedng epnecaemuxngkhnaerk ph s 2425 emuxngeksmsima banemuxngthi miphraphiichychaynrngkh cndi epnecaemuxngkhnaerk ph s 2445 emuxngxuithyyaosthr banlumphuk mihlwngyseyssuramvththi ta inykul epnecaemuxngaelanayxaephxkhnaerk ph s 2445 emuxngpcimuplnikhm banekhuxngin miphrabrikhutkhamekhtr ohngnkha suwrrnkut epnecaemuxngaelanayxaephxkhnaerksayskulrachwngsaesnthiphynabwn xubl phrarachthan n hnxngkhay phrarachthan cittayosthr phrarachthan suwrrnkut phrarachthan phrhmwngsannth phrarachthan othnubl phrarachthan butorbl phrarachthan wiphakhyphcnkic phrarachthan rkkhphnth n hnxngkhay phrarachthan wuthathiwngs n hnxngkhay phrarachthan kupradisth n hnxngkhay phrarachthan ophthiesn n hnxngkhay phrarachthan wngspdsa esncnthrthiichy prathumthiphy xupyosthr pthumchati xmrsingh xmrsin thxngphithks xmrdlic aesngsinghaekw singhsthit ophthisri inykul carueksm phrarachthan xangxinghmxmxmrwngswicitr hmxmrachwngspthm khencr phngsawdarhwemuxngmnthlxisan tiphimphinprachumphngsawdar phakh 4 aelakhna xublrachthani 200 pi krungethph chwnphimph 2535 etim wiphakhyphcnkic prawtisastrxisan krungethph sankphimphsmakhmsngkhmsastraehngpraethsithy 2513 khnakrrmkarcdphimphexksarthangprawtisastr sanknaykrthmntri eruxngthrngtngecapraethsrachkrungrtnoksinthrrchkalthi 1 krungethph sankthrrmeniybnaykrthmntri 2514 rachwngssuwrrnpangkha 2017 10 15 thi ewyaebkaemchchin rachwngssuwrrnpangkha 2010 06 19 thi ewyaebkaemchchin rachwngssuwrrnpangkha 2019 05 29 thi ewyaebkaemchchin ol section