ยูโด (ญี่ปุ่น: 柔道; โรมาจิ: jūdō จูโด) เป็นศิลปะการป้องกันตัวประเภทหนึ่งที่ถือกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น โดย ยูโดมีชื่อเต็มว่า เดิมเรียกว่า ยูยิสสู ซึ่งเป็นวิชาที่สามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธด้วยมือเปล่า
(left) and (right) | |
มุ่งเน้น | |
---|---|
Hardness | |
ประเทศต้นกำเนิด | ญี่ปุ่น |
ผู้ให้กำเนิด | |
ผู้มีชื่อเสียง | See: |
ต้นตำรับ | Various schools, principally and |
Descendant arts | , , , , , , , ,, , |
กีฬาโอลิมปิก | ตั้งแต่ 1964 (men) and 1992 (women) |
เว็บไซต์ทางการ | International Judo Federation (IJF) The Kodokan |
ประวัติ
ยูยิสสู
ในประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ ซึ่งเชื่อว่าตนเองเป็นลูกพระอาทิตย์ มีถิ่นที่อยู่บนเกาะใหญ่น้อยทั้งหลาย ราวๆ 3,000-4,000 เกาะ ประชากรส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันและไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้ ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจ ผู้ที่ได้รับชัยชนะก็พยายามซ่องสุมเสริมสร้างกำลังพลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผู้ที่พ่ายแพ้ก็พยายามที่จะรวบรวมสมัครพรรคพวกที่พ่ายแพ้ขึ้นใหม่เพื่อรอจังหวะช่วงชิงอำนาจกลับคืนมา ในสมัยนั้นประเทศญี่ปุ่น มีแต่การทำสงคราม นักรบของแต่ละเมืองจะได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ในสงครามหลายชนิด เช่น การฟันดาบ การยิงธนู การใช้หอก ทวน หลาว การขี่ม้า และยูยิสสู ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าในระยะประชิดตัว ไม่สามารถที่จะใช้อาวุธได้ถนัด การต่อสู้แบบยูยิสสูมิได้มุ่งที่จะทำให้คู่ต่อสู้มีอันตรายถึงชีวิต แต่มีจุดประสงค์เพื่อให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บและยอมแพ้ ถ้าไม่ยอมแพ้ก็อาจทำให้พิการทุพพลภาพ โดยใช้วิธีจับมือหักข้อต่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย
นักรบญี่ปุ่นในสมัยนั้นจะต้องฝึกการต่อสู้วิชายูยิสสูทุกคน และต้องฝึกสมาธิควบคู่ไปด้วย ทุกคนจะต้องมีความตั้งใจในการฝึก มิฉะนั้นจะเป็นอันตรายได้ การทำร้ายคู่ต่อสู้ด้วยยูยิสสูไม่คำนึงถึงความเมตตาและศีลธรรม และใช้เทคนิคคอยหาโอกาสซ้ำเติมคู่ต่อสู้ตลอดเวลา จึงทำให้อาจารย์ที่ตั้งสถานที่ฝึกอบรมวิชานี้ พยายามคิดค้นประดิษฐ์ท่าทางกลวิธีแตกต่างกันออกไปอย่างอิสระ สถานที่เปิดฝึกสอนหรือที่เรียกว่าโรงเรียนสำหรับสอนวิชายิวยิตสูสมัยนั้นมีประมาณ 20 แห่ง
ส่วนการต่อสู้อีกประเภทหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาวิชายูโดคือ ซูโม่ ซึ่งเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งของญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมแพร่หลาย ซูโม่เป็นการต่อสู้ของคน 2 คน ใช้มือเปล่าและกำลังกายเข้าทำการต่อสู้กันมาแต่สมัยโบราณกว่า 2,500 ปีมาแล้ว นักประวัติศาสตร์ในวิชายิวยิตสูได้สนใจซูโม่มาก จากหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่รวบรวมขึ้นภายใต้พระบรมราชโองการของพระจักรพรรดิ ชื่อ "นิฮงโชะกิ" ในปี พ.ศ. 1263 กล่าวถึงการแข่งขันในสมัยของจักรพรรด์ซุยนิน ก่อนคริสต์ศักราช 230 ปี (พ.ศ. 313) ยืนยันว่าเป็นการเริ่มต้นของวิชาซูโม่ ซึ่งแปลว่าการต่อสู้โดยใช้กำลังเข้าประลองกัน การต่อสู้ตามหลักวิชาซูโม่ บางท่าจะตรงกับวิชายิวยิตสู เช่น การใช้สะโพกเป็นกำลังบังคับขากวาดเหวี่ยงคู่ต่อสู้ให้เสียหลักล้มลงซึ่งท่านี้วิชายูยิสสูเรียกว่า ฮาราย กุชิ (Harai Goshi) เป็นการยืนยันว่าวิชาซูโม่มีความสัมพันธ์กับวิชายิวยิตสู
การพัฒนาวิชายิวยิตสูเป็นวิชายูโด
ในตอนปลายยุคเซ็งโงะกุ วิชายิวยิตสูได้มีการรวบรวมไว้เป็นแบบแผน ต่อมาเมื่อ ตระกูลโทะกุงะวะ ได้ทำการปราบเจ้าแคว้นต่างๆ ให้สงบลงอย่างราบคาบและตั้งตนเป็น โชกุน ปกครองประเทศญี่ปุ่น ได้มีการปรับปรุงวิชาการรบของพวกซะมุไร นอกจากวิชาการรบแล้ว ซะมุไรต้องเรียนหนังสือเพื่อศึกษาวิชาการปกครอง การอบรมจิตใจให้มีศีลธรรม ยิวยิตสูเป็นวิชาป้องกันตัวชนิดหนึ่งในสมัยนั้น จึงต้องมีการปรับปรุงวิธีการต่อสู้จากการไร้ศีลธรรมมาเป็นการป้องกัน การต่อสู้ด้วยกำลังกาย และกำลังใจอันประกอบด้วยคุณธรรม มีจรรยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อยขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับคำว่า ยิวยิตสู ซึ่งหมายความถึง ศิลปะแห่งความสุภาพ
เมื่อมีการปรับปรุงบทบัญญัติทางศีลธรรมของนักรบให้รัดกุมนี้เอง ทำให้ช่วง 50 ปีของสมัยกาไน บันจิ และคันม่ง (Kanei Banji and Kanmon พ.ศ. 2167-2216) ได้มีผู้เชี่ยวชาญวิชายิวยิตสูขึ้นมามากมาย โดยมีวิชาที่เป็นแนวเดียวกับยิวยิตสูแต่ใช้ชื่อต่างกันจำนวนมาก เช่น ไทจุสึ , วะจุสึ, โคะงุโซะกุ หรือ เค็มโปะ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นการต่อสู้ที่ทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้โดยใช้มือเปล่า ทำให้วิชายิวยิตสูเป็นที่นิยมมาตลอดสมัยโทะกุงะวะ
ต่อมาในยุคเมจิ ญี่ปุ่นได้รับอารยธรรมตะวันตกเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้วัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นหลายอย่างกลายมาเป็นสิ่งล้าสมัยของต่างชาติ และชาวญี่ปุ่นสมัยใหม่ ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2414 จึงได้ออกกฎหมายห้ามนักรบใช้ซะมุไรเป็นอาวุธ ห้ามพกหรือสะพายดาบซะมุไร ยิวยิตสูซึ่งเป็นวิชาที่นิยมเล่นกับซะมุไร จึงถูกมองว่าเป็นสิ่งล้าสมัย เพราะทารุณ ป่าเถื่อน ฉะนั้นวิชายิวยิตสูจึงได้รับการปรับปรุงและแก้ไขพร้อมกันหลายอย่างในยุคเมจิ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศิลปะการต่อสู้นานาชนิดรวมทั้งยิวยิตสูต้องซบเซาลง สถาบันที่เปิดฝึกสอนยิวยิตสู ซึ่งมีอยู่แพร่หลายได้รับกระทบกระเทือนถึงกับเลิกกิจการไปเป็นอันมาก
การกำเนิดวิชายูโด
หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ปฏิวัติวัฒนธรรมในยุคเมจิ ทำให้วิชายิวยิตสูเสื่อมความนิยมลงจนหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2403 ชาวญี่ปุ่นชื่อ ชาวเมืองชิโรโกะซึ่งได้อพยพครอบครัวมาอยู่ในกรุงโตเกียว เมื่อปี พ.ศ. 2414 ขณะเมื่ออายุ 18 ปี ได้เข้าทำการศึกษาที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ในสาขาปรัชญาศาสตร์ จนสำเร็จการศึกษา เมื่ออายุ 23 ปี ท่านคะโน จิโงะโร เป็นมีความเห็นว่าวิชายิวยิตสูนอกจากจะเป็นกีฬาสำหรับร่างกายและจิตใจแล้ว ยังมีหลักปรัชญาที่ว่าด้วยหลักแห่งความเป็นจริง
เมื่อท่านคะโน จิโงะโรได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวิชายิวยิตสูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าผู้ฝึกวิชายิวยิตสูจนมีความชำนาญดีแล้ว จะสามารถสู้กับคนที่รูปร่างใหญ่โตได้ หรือสู้กับคนที่มีอาวุธด้วยมือเปล่าได้ จากการค้นพบทำให้บังเกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า ท่านจึงได้เข้าศึกษายิวยิตสูอย่างจริงจังจากอาจารย์ผู้สอนวิชายิวยิตสูหลายท่านจากโรงเรียนเท็นจิ ชินโย และโรงเรียนคิโตะ ในปี พ.ศ. 2425 ท่านคะโน จิโงะโร อายุได้ 29 ปี ได้ก่อตั้งโรงเรียนสำหรับวิชายูโดขึ้นเป็นครั้งแรกในบริเวณวัดพุทธศาสนา ชื่อวัดเอโชะจิ โดยตั้งชื่อสถาบันนี้ว่า "โคโดกัง ยูโด" โดยได้นำเอาศิลปะของการต่อสู้ด้วยการทุ่มจากสำนักเทนจิ ซิโย และการต่อสู้จากสำนักคิโตเข้ามาผสมผสานเป็นวิชายูโดและได้ปรับปรุงวิธีการยูโดให้เหมาะสม สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในระบอบการปกครองและสังคมในขณะนั้น ได้สอดแทรกวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ คณิตศาสตร์ประยุกต์ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และจริยศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยได้ตัดทอนยิวยิตสู ซึ่งไม่เหมาะสมออก แล้วพยายามรวบรวมวิชายิวยิตสูให้เป็นหมวดหมู่มีมาตรฐานเดียวกันตามความคิดของท่าน และได้ตั้งระบบใหม่เรียกว่า ยูโด (Judo)
ในยุคแรก ท่านคะโน จิโงะโร ต้องต่อสู้กับบุคคลหลายๆ ฝ่ายเพื่อให้เกิดการยอมรับในวิชายูโด โดยเฉพาะจากบุคคลที่นิยมอารยธรรมตะวันตกบุคคลพวกนี้ไม่ยอมรับว่ายูโดดีกว่ายิวยิตสู จนในปี พ.ศ. 2429 กรมตำรวจญี่ปุ่นได้จัดการแข่งขันระหว่างยูโดกับยิวยิตสูขึ้น โดยแบ่งเป็นฝ่ายละ 15 คน ผลการแข่งขันปรากฏว่ายูโดชนะ 13 คน เสมอ 2 คน เมื่อผลปรากฏเช่นนี้ ทำให้ประชาชนเริ่มสนใจยูโดมากขึ้น ทำให้สถานที่สอนเดิมคับแคบจึงต้องมีการขยายห้องเรียน เพื่อต้อนรับผู้ที่สนใจ จนถึงปี พ.ศ. 2476 จึงได้ย้ายสถานที่ฝึกไปที่ ซูอิโดบาชิ (Suidobashi) และสถานที่นี้ในที่สุดก็เป็นศูนย์กลางของนักยูโดของโลกในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2455 ได้ก่อตั้งสหพันธ์ยูโดระหว่างประเทศขึ้น โดยมีประเทศต่างๆ ที่ร่วมก่อตั้งครั้งแรกประมาณ 20 ประเทศ และได้มีการตั้ง The Kodokun Cultural Society ในปี พ.ศ. 2465 ขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2499 สหพันธ์ยูโดระหว่างชาติได้จัดให้มีการแข่งขันเพื่อความชนะเลิศยูโดระหว่างชาติขึ้น โดยอยู่ในการอำนวยการของสหพันธ์ยูโดระหว่างประเทศโคโดกัง และหนังสือพิมพ์อาซาอิซัมบุน
ลำดับเหตุการณ์
- 2425 คะโน จิโงะโร ก่อตั้งสถาบันโคโดกัง สำหรับใช้ฝึกอบรมวิชายูโดที่ศาลาในบริเวณวัด เออิโซ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน
- 2429 ตำรวจนครบาลแห่งโตเกียว จัดการแข่งขันระหว่างนักยูโดของโคโดกัง และนัก ยิวยิตสูของสำนักต่าง ๆ จากการแข่งขัน 15 ครั้ง นักยูโดของสำนักโคโดกัง ชนะถึง 13 ครั้ง จึงทำให้ยูโดของโคโดกังได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพมากกว่ายิวยิตสูของสำนักอื่น ๆ
- 2436 ย้ายสำนักโคโดกัง จากวัดเออิโซ ไปตั้งที่ ซิโมโทมิกาซา
- 2476 ย้ายจาก ซิโมโทมิกาซา ไปตั้งที่ถนนซุยโดมัดซีในกรุงโตเกียว
- 2485 ก่อตั้งสหพันธ์ยูโด (Judo Federation)
- 2499 ก่อตั้งสหพันธ์ยูโดระหว่างชาติ
- จัดการแข่งขันเพื่อความชนะเลิศยูโดระหว่างประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก
- สร้างภาพยนตร์เรื่อง
วิชายูโด
คะโน จิโงะโร พบว่าวิชายิวยิตสูแบบดั้งเดิมนั้นไม่สามารถที่จะฝึกอย่างเต็มกำลังได้เนื่องเพราะว่าเทคนิคอันตรายต่างๆ เช่น การจิ้มตา การเตะหว่างขา การดึงผม และอื่นๆ อาจทำให้คู่ฝึกซ้อมบาดเจ็บสาหัสจากการฝึกได้ รวมทั้งการฝึกที่เรียกว่า กะตะ (การฝึกแบบเข้าคู่โดยทั้งสองฝ่ายรู้กันและฝึกตามท่าโดยที่ไม่มีการขัดขืนกัน) แต่เพียงอย่างเดียวก็ยังไม่ได้ประสิทธิภาพที่เพียงพอ เพราะเราจะไม่สามารถคาดหวังได้ว่าศัตรูของเราจะให้ความร่วมมือในท่าที่เราฝึกมาโดยที่ไม่มีการขัดขืน
ท่านจึงปรับปรุงการฝึกส่วนใหญ่ในโรงเรียนของท่านให้เป็นแบบ รันโดริ (RANDORI) คือการฝึกซ้อมแบบจริง โดยใช้แนวความคิดว่า นักเรียนสองคนใช้เทคนิคต่างๆที่ตนเรียนรู้เพื่อการเอาชนะอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้นักเรียนจะคุ้นเคยกับความรู้สึกต่อต้าน ขัดขืนจากคู่ต่อสู้ การฝึกแบบนี้นักเรียนจะสามารถพัฒนา ร่างกาย จิตใจและความคล่องตัวได้ดีกว่า เพื่อทำให้การฝึกซ้อมแบบรันโดริมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่าน คะโน จิโงะโร่ จำเป็นต้องเอาเทคนิครุนแรงที่ก่อให้เกิดอันตรายบางส่วนเช่น การชก เตะ หัวโขก ในจูจิสสุออกไป การล็อกสามารถกระทำได้เพียงแค่ข้อศอก ซึ่งปลอดภัยกว่าการล็อกสันหลัง คอ ข้อมือ หรือหัวไหล่ เขาเรียกการฝึกซ้อมแบบนี้ว่า ยูโด
ยูโดในปัจจุบันเป็นกีฬาสากลประเภทบุคคล มีหลักการและวัตถุประสงค์คือ มุ่งบริหารร่างกายและจิตใจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้แรงให้น้อยที่สุด เพื่อสวัสดิภาพและประโยชน์สุขร่วมกัน การฝึกยูโดต้องมีการฝึกการต่อสู้และป้องกันตัว ก็เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกได้ออกแรง ซึ่งเป็นหนทางก่อให้เกิดสมรรถภาพทางกายตามอุดมคติของท่าน ผู้ให้กำเนิดกีฬาประเภทนี้ว่า "Maximum Efficiency with minimum Effort and Mutual Welfare and Benefit" คือยูโดใช้วิธีการโอนอ่อนผ่อนตาม หรือที่เรียกว่า "ทางแห่งความสุภาพ" "Gentleness or soft way" ทำให้ได้เปรียบแก่ผู้ที่มีกำลังมากกว่าเป็นวิธีการที่ทำให้คนตัวเล็กกว่าน้ำหนักน้อยกว่าและกำลังด้อยกว่า สามารถต่อสู้กับผู้ที่อยู่ในลักษณะเหนือกว่าได้
เทคนิคของวิชายูโด
เทคนิคของวิชายูโดแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มดังนี้
- นาเงวาซา (Nagewaza)เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการทุ่ม มีท่าทุ่มที่เป็นพื้นฐานอยู่ 12 ท่า และแยกออกเป็นประเภทตามส่วนของร่างกายที่ใช้ทุ่มนั้นๆซึ่งได้แก่การทุ่มด้วยมือ การทุ่มด้วยสะโพก การปัดขา การทุ่มด้วยไหล่ การทุ่มด้วยสีข้างและหลัง
- กะตะเมวาซา (Katamawaza) เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการกอดรัดเพื่อให้หายใจไม่ออก การจับยึดและการล็อกข้อต่อ เป็นเทคนิคที่ใช้ขณะอยู่กับพื้นเบาะ (tatami) เพื่อให้คู่ต้อสู้ยอมจำนน กะตะเมะวาซายังสามารถแยกย่อยออกได้อีก 3 ประเภท คือ โอไซโคมิวาซา (Osaekomiwaza) ซึ่งเป็นเทคนิคเกี่ยวกับการกดล็อกบนพื้น ชิเมวาซา (Shimewaza) ซึ่งเป็นเทคนิคการรัดคอหรือหลอดลม และคันเซทสึวาซา (Kansetsuwaza) ที่เป็นเทคนิคในการหักล็อกข้อต่อให้คู่ต่อสู้ยอมจำนน
- อาเตมิวาซา (Atemiwaza) เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการชกต่อย ทุบตี ถีบถอง ส่วนต่างๆของร่างกายให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือถึงแก่ชีวิต ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวเท่านั้น และไม่เคยจัดการแข่งขัน
ระดับความสามารถของนักยูโด
ขาว | |
เขียว | |
ฟ้า | |
น้ำตาล | |
ดำ | |
แดง |
ระดับความสามารถมาตรฐานของนักยูโดทั้งสองเพศ (ชาย-หญิง) ได้ถูกกำหนดขึ้นโดยมีสีของสายคาดเอวเป็นเครื่องหมาย ระดับความสามารถมาตรฐานดังกล่าวแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับใหญ่ คือ
- ระดับคิว (Kyu) คือระดับก่อนสายดำที่อาจเรียกว่า นักเรียน
- ระดับดั้ง (Dan) คือระดับที่เรียกว่า ผู้นำ เป็นผู้ซึ่งมีความสามารถสูง ทั้งระดับนักเรียนและระดับผู้นำนี้ยังแบ่งออกเป็นระดับย่อยๆลงอีก โดยมีสีประจำแต่ละระดับไว้ซึ่งแต่ละประเทศกำหนดไม่เหมือนกัน
การกำหนดระดับของนักยูโดในประเทศไทยกำหนดไว้ดังนี้
- รองสายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีขาว
- รองสายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีเขียว
- รองสายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีฟ้า
- รองสายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีน้ำตาล
- รองสายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีน้ำตาลปลายดำ
- สายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 6 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 7 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 8 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 9 สายคาดเอวสีแดง
- สายดำ ชั้น 10 สายคาดเอวสีแดง
สถานที่ฝึก (โดโจ)
สถานที่ฝึกยูโดจะต้องเป็นสถานที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ที่พื้นปูด้วยเบาะ (Tatami) วางอัดแน่นเป็นแผ่นเดียวกัน และมีผ้าคลุมให้ดึงอีกชั้นหนึ่ง โดยปกติเบาะยูโดหรือเสื้อยูโดแต่ละผืนจะมีขนาดยาว 6 ฟุต กว้าง 3 ฟุตและหนา 4 นิ้ว เบาะที่ใช้ฝึกนี้ต้องมีความยืดหยุ่นพอดีไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป ถ้าอ่อนเกินไปจะทำให้พื้นผิวไม่เรียบทำให้เท้าพลิกแพลงได้ง่าย และทำให้การเคลื่อนไหวลำบาก แต่ถ้าแข็งเกินไปเวลาล้มอาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย พื้นที่สำหรับปูเบาะยูโดที่เหมาะสมควรเป็นพื้นไม้ที่ยกสูงขึ้นโดยเฉพาะ ไม่ควรปูกับพื้นซีเมนต์หรือพื้นดินทีเดียว เพราะจะมีความยืดหยุ่นน้อยก่อให้เกิดการการบาดเจ็บได้ง่าย
เครื่องแต่งกาย (ยูโดงิ)
เครื่องแต่งกายในการฝึกยูโดต้องสวมชุดโดยเฉพาะที่เรียกว่า Judoji ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการแต่งกายของชาวญี่ปุ่นมีลักษณะดังนี้
- เสื้อ คล้ายเสื้อกิโมโน ถักด้วยด้ายดิบสีขาวหนาแข็งแรงทนทาน แต่อ่อนนิ่มไม่ลื่นมือ สามารถซักได้และใช้ได้นาน ส่วนแขนและลำตัวกว้างหลวม ตัวยาวคลุมก้น แขนยาวประมาณครึ่งแขนท่อนล่างเสื้อยูโดที่ดีต้องมีลักษณะเบาบางแต่แข็งแรง การเบาบางจะช่วยให้การระบายความร้อนในร่างกายดีขึ้น ประเทศญี่ปุ่นนับว่าเป็นประเทศผู้ผลิตเสื้อยูโดที่ดีที่สุดในโลก
- กางเกง มีลักษณะคล้ายกางเกงจีนเป็นผ้าดิบเช่นกัน ที่เอวมีร้อยเชือกรัดเอว กางเกงต้องหลวมพอสบายยาวประมาณครึ่งขาท่อนล่าง
- สายคาดเอว เป็นผ้าเย็บซ้อนกันหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาวให้คาดเอวได้ 2 รอบ เหลือชายไว้ผูกเงื่อนพิรอด (Reef Knot) แล้วเหลือชายข้างละ 15 เซนติเมตร สำหรับสายคาดเอวนี้เป็นเครื่องแสดงระดับความสามารถมาตรฐานของนักยูโดด้วย
มารยาทของนักยูโด
วิชายูโดเป็นวิชาแห่งความสุภาพอ่อนโยน และห้องฝึกยูโดนั้นเป็นที่รวมของผู้ที่สนใจต่อความสุภาพ นอกจากนั้นห้องฝึกยูโดยังเป็นที่สำรวมร่างกายและจิตใจ ผู้ที่เข้าไปในห้องฝึกยูโดจึงควรสำรวมกิริยาวาจาให้สุภาพและเหมาะแก่สถานที่ เช่น ไม่พูดเสียงดังเกินไป ไม่กล่าวคำหยาบคาย ไม่ตลกคะนอง ไม่สูบบุหรี่ ไม่สวมรองเท้าขึ้นไปบนเบาะยูโด เป็นต้น ระหว่างการฝึกซ้อม หรือฟังคำบรรยายจากครูอาจารย์ควรฟังด้วยความเคารพ นอกจากนั้นควรเคารพเชื่อฟังคำแนะนำของครูอาจารย์ และปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของห้องฝึกที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาไว้ซึ่งระเบียบประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม กับทั้งเป็นการอบรมนิสัย มารยาทและจิตใจของตนเอง
วิธีการแสดงความเคารพ
การแสดงความเคารพตามหลักการของวิชายูโดมีดังต่อไปนี้
- เมื่อถึงสถานที่ฝึก ต้องแสดงความเคารพสิ่งที่ตั้งบูชาประจำสถานที่ครั้งหนึ่งก่อน
- ก่อนเริ่มฝึก เมื่อขึ้นบนเบาะต้องแสดงความเคารพต่อที่บูชาอีกครั้งหนึ่ง
- ก่อนเริ่มฝึกซ้อมต้องแสดงความเคารพซึ่งกันและกัน และหลังจากยุติการฝึกซ้อมต้องเคารพกันอีกครั้งหนึ่ง
- ก่อนเลิกฝึกต้องแสดงความเคารพที่บูชา
- เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว ก่อนจะกลับต้องแสดงความเคารพที่บูชาอีกครั้งหนึ่ง
วิธีทำความเคารพมี 2 วิธี คือ นั่งและยืน ส่วนวิธีเคลื่อนไหวในการแสดงความเคารพ เช่น ยืนแล้วจะกลับเป็นนั่ง หรือนั่งแล้วกลับยืน ตามปกติใช้ขาขวาเป็นหลักในการทรงตัว การเล่นยูโดยังมีหลักการและศิลปอื่นๆอีกมากมายอาทิ การอบอุ่นร่างกายและศิลปการล้ม การทรงตัวและการเคลื่อนไหว การทุ่ม เป็นต้น
อ้างอิง
- Inman (2005) p. 10
- The first Olympic competition to award medals to women judoka was in 1992; in 1988, women competed as a demonstration sport. Inman (2005) p. 11
- Nagewaza KODOKAN 2006-12-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนNagewaza
- Atemiwaza NDAtemiwaza
- ประวัติยูโด เว็บไซต์สยามสปอร์ต
- ท่าทุ่มยูโด เว็บไซต์ ยูโดอินโฟ
- เว็บไซต์ โคโดกัง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ยูโด ที่เว็บไซต์ Curlie
- IJF International Judo Federation. The worldwide for judo
- Kodokan Judo Institute – Headquarters of judo (Kano Jigoro's school)
- กษิดิศ วงษ์ลิขิตธรรม. (2557). สุขภาพแข็งแรงแบบญี่ปุ่น: การส่งเสริมกายบริหารประกอบดนตรี (Radio Taiso) ของญี่ปุ่นในอินโดนีเซียช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา (ค.ศ. 1942-1945). วารสารประวัติศาสตร์ (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ), หน้า 112-133.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuod yipun 柔道 ormaci judō cuod epnsilpakarpxngkntwpraephthhnungthithuxkaenidcakpraethsyipun ody yuodmichuxetmwa edimeriykwa yuyissu sungepnwichathisamarthtxsukbkhutxsuthimixawuthdwymuxeplayuod left and right mungennHardnesspraethstnkaenid yipunphuihkaenidphumichuxesiyngSee tntarbVarious schools principally andDescendant arts kilaoxlimpiktngaet 1964 men and 1992 women ewbistthangkarInternational Judo Federation IJF The Kodokanprmacary khaon ciongaorthathuminyuodprawtiyuyissu inpraethsyipunsmyobran sungechuxwatnexngepnlukphraxathity mithinthixyubnekaaihynxythnghlay raw 3 000 4 000 ekaa prachakrswnihymikhwamkhidehnimtrngknaelaimsamarthrwmklumknid thaihekidkaraeyngchingxanac phuthiidrbchychnakphyayamsxngsumesrimsrangkalngphlihaekhngaekrngyingkhun phuthiphayaephkphyayamthicarwbrwmsmkhrphrrkhphwkthiphayaephkhunihmephuxrxcnghwachwngchingxanacklbkhunma insmynnpraethsyipun miaetkarthasngkhram nkrbkhxngaetlaemuxngcaidrbkarfukfnsilpakartxsuthiichinsngkhramhlaychnid echn karfndab karyingthnu karichhxk thwn hlaw karkhima aelayuyissu sungepnkartxsuthiichmuxeplainrayaprachidtw imsamarththicaichxawuthidthnd kartxsuaebbyuyissumiidmungthicathaihkhutxsumixntraythungchiwit aetmicudprasngkhephuxihkhutxsuidrbbadecbaelayxmaeph thaimyxmaephkxacthaihphikarthuphphlphaph odyichwithicbmuxhkkhxtxswntang khxngrangkay nkrbyipuninsmynncatxngfukkartxsuwichayuyissuthukkhn aelatxngfuksmathikhwbkhuipdwy thukkhncatxngmikhwamtngicinkarfuk michanncaepnxntrayid kartharaykhutxsudwyyuyissuimkhanungthungkhwamemttaaelasilthrrm aelaichethkhnikhkhxyhaoxkassaetimkhutxsutlxdewla cungthaihxacarythitngsthanthifukxbrmwichani phyayamkhidkhnpradisththathangklwithiaetktangknxxkipxyangxisra sthanthiepidfuksxnhruxthieriykwaorngeriynsahrbsxnwichayiwyitsusmynnmipraman 20 aehng swnkartxsuxikpraephthhnungsungekiywkhxngkbkarphthnawichayuodkhux suom sungepnkilaxikpraephthhnungkhxngyipunthiepnthiniymaephrhlay suomepnkartxsukhxngkhn 2 khn ichmuxeplaaelakalngkayekhathakartxsuknmaaetsmyobrankwa 2 500 pimaaelw nkprawtisastrinwichayiwyitsuidsnicsuommak cakhnngsuxekiywkbprawtisastryipun thirwbrwmkhunphayitphrabrmrachoxngkarkhxngphrackrphrrdi chux nihngochaki inpi ph s 1263 klawthungkaraekhngkhninsmykhxngckrphrrdsuynin kxnkhristskrach 230 pi ph s 313 yunynwaepnkarerimtnkhxngwichasuom sungaeplwakartxsuodyichkalngekhapralxngkn kartxsutamhlkwichasuom bangthacatrngkbwichayiwyitsu echn karichsaophkepnkalngbngkhbkhakwadehwiyngkhutxsuihesiyhlklmlngsungthaniwichayuyissueriykwa haray kuchi Harai Goshi epnkaryunynwawichasuommikhwamsmphnthkbwichayiwyitsu karphthnawichayiwyitsuepnwichayuod intxnplayyukhesngongaku wichayiwyitsuidmikarrwbrwmiwepnaebbaephn txmaemux trakulothakungawa idthakarprabecaaekhwntang ihsngblngxyangrabkhabaelatngtnepn ochkun pkkhrxngpraethsyipun idmikarprbprungwichakarrbkhxngphwksamuir nxkcakwichakarrbaelw samuirtxngeriynhnngsuxephuxsuksawichakarpkkhrxng karxbrmciticihmisilthrrm yiwyitsuepnwichapxngkntwchnidhnunginsmynn cungtxngmikarprbprungwithikartxsucakkarirsilthrrmmaepnkarpxngkn kartxsudwykalngkay aelakalngicxnprakxbdwykhunthrrm micrryamaryaththisuphapheriybrxykhun ephuxihehmaasmkbkhawa yiwyitsu sunghmaykhwamthung silpaaehngkhwamsuphaph emuxmikarprbprungbthbyytithangsilthrrmkhxngnkrbihrdkumniexng thaihchwng 50 pikhxngsmykain bnci aelakhnmng Kanei Banji and Kanmon ph s 2167 2216 idmiphuechiywchaywichayiwyitsukhunmamakmay odymiwichathiepnaenwediywkbyiwyitsuaetichchuxtangkncanwnmak echn ithcusu wacusu okhanguosaku hrux ekhmopa epntn sungthnghmdepnkartxsuthithaihkhutxsuphayaephodyichmuxepla thaihwichayiwyitsuepnthiniymmatlxdsmyothakungawa txmainyukhemci yipunidrbxarythrrmtawntkekhasupraethsyipun thaihwthnthrrmpraephnikhxngyipunhlayxyangklaymaepnsinglasmykhxngtangchati aelachawyipunsmyihm dngnn inpi ph s 2414 cungidxxkkdhmayhamnkrbichsamuirepnxawuth hamphkhruxsaphaydabsamuir yiwyitsusungepnwichathiniymelnkbsamuir cungthukmxngwaepnsinglasmy ephraatharun paethuxn channwichayiwyitsucungidrbkarprbprungaelaaekikhphrxmknhlayxyanginyukhemci dwyehtunicungthaihsilpakartxsunanachnidrwmthngyiwyitsutxngsbesalng sthabnthiepidfuksxnyiwyitsu sungmixyuaephrhlayidrbkrathbkraethuxnthungkbelikkickaripepnxnmak karkaenidwichayuod hlngcakthiyipunidptiwtiwthnthrrminyukhemci thaihwichayiwyitsuesuxmkhwamniymlngcnhmd txmaemuxwnthi 28 tulakhm ph s 2403 chawyipunchux chawemuxngchiorokasungidxphyphkhrxbkhrwmaxyuinkrungotekiyw emuxpi ph s 2414 khnaemuxxayu 18 pi idekhathakarsuksathimhawithyalyotekiyw insakhaprchyasastr cnsaerckarsuksa emuxxayu 23 pi thankhaon ciongaor epnmikhwamehnwawichayiwyitsunxkcakcaepnkilasahrbrangkayaelaciticaelw yngmihlkprchyathiwadwyhlkaehngkhwamepncring emuxthankhaon ciongaoridsuksakhnkhwaekiywkbwichayiwyitsuxyanglaexiydaelwkphbwaphufukwichayiwyitsucnmikhwamchanaydiaelw casamarthsukbkhnthiruprangihyotid hruxsukbkhnthimixawuthdwymuxeplaid cakkarkhnphbthaihbngekidkhwamsrththaxyangaerngkla thancungidekhasuksayiwyitsuxyangcringcngcakxacaryphusxnwichayiwyitsuhlaythancakorngeriynethnci chinoy aelaorngeriynkhiota inpi ph s 2425 thankhaon ciongaor xayuid 29 pi idkxtngorngeriynsahrbwichayuodkhunepnkhrngaerkinbriewnwdphuththsasna chuxwdexochaci odytngchuxsthabnniwa okhodkng yuod odyidnaexasilpakhxngkartxsudwykarthumcaksankethnci sioy aelakartxsucaksankkhiotekhamaphsmphsanepnwichayuodaelaidprbprungwithikaryuodihehmaasm sxdkhlxngkbkhwamepliynaeplnginrabxbkarpkkhrxngaelasngkhminkhnann idsxdaethrkwithyasastrihm khnitsastrprayuktthiekiywkbkarekhluxnihw aelacriysastrekhadwykn odyidtdthxnyiwyitsu sungimehmaasmxxk aelwphyayamrwbrwmwichayiwyitsuihepnhmwdhmumimatrthanediywkntamkhwamkhidkhxngthan aelaidtngrabbihmeriykwa yuod Judo inyukhaerk thankhaon ciongaor txngtxsukbbukhkhlhlay fayephuxihekidkaryxmrbinwichayuod odyechphaacakbukhkhlthiniymxarythrrmtawntkbukhkhlphwkniimyxmrbwayuoddikwayiwyitsu cninpi ph s 2429 krmtarwcyipunidcdkaraekhngkhnrahwangyuodkbyiwyitsukhun odyaebngepnfayla 15 khn phlkaraekhngkhnpraktwayuodchna 13 khn esmx 2 khn emuxphlpraktechnni thaihprachachnerimsnicyuodmakkhun thaihsthanthisxnedimkhbaekhbcungtxngmikarkhyayhxngeriyn ephuxtxnrbphuthisnic cnthungpi ph s 2476 cungidyaysthanthifukipthi suxiodbachi Suidobashi aelasthanthiniinthisudkepnsunyklangkhxngnkyuodkhxngolkinpccubn inpi ph s 2455 idkxtngshphnthyuodrahwangpraethskhun odymipraethstang thirwmkxtngkhrngaerkpraman 20 praeths aelaidmikartng The Kodokun Cultural Society inpi ph s 2465 khunhlngcaksngkhramolkkhrngthi 2 inpi ph s 2499 shphnthyuodrahwangchatiidcdihmikaraekhngkhnephuxkhwamchnaelisyuodrahwangchatikhun odyxyuinkarxanwykarkhxngshphnthyuodrahwangpraethsokhodkng aelahnngsuxphimphxasaxismbun ladbehtukarn 2425 khaon ciongaor kxtngsthabnokhodkng sahrbichfukxbrmwichayuodthisalainbriewnwd exxios krungotekiyw praethsyipunemuxeduxnmithunayn 2429 tarwcnkhrbalaehngotekiyw cdkaraekhngkhnrahwangnkyuodkhxngokhodkng aelank yiwyitsukhxngsanktang cakkaraekhngkhn 15 khrng nkyuodkhxngsankokhodkng chnathung 13 khrng cungthaihyuodkhxngokhodkngidrbkarrbrxngwamiprasiththiphaphmakkwayiwyitsukhxngsankxun 2436 yaysankokhodkng cakwdexxios iptngthi siomothmikasa 2476 yaycak siomothmikasa iptngthithnnsuyodmdsiinkrungotekiyw 2485 kxtngshphnthyuod Judo Federation 2499 kxtngshphnthyuodrahwangchati cdkaraekhngkhnephuxkhwamchnaelisyuodrahwangpraethskhunepnkhrngaerk srangphaphyntreruxngwichayuodkhaon ciongaor phbwawichayiwyitsuaebbdngedimnnimsamarththicafukxyangetmkalngidenuxngephraawaethkhnikhxntraytang echn karcimta karetahwangkha kardungphm aelaxun xacthaihkhufuksxmbadecbsahscakkarfukid rwmthngkarfukthieriykwa kata karfukaebbekhakhuodythngsxngfayruknaelafuktamthaodythiimmikarkhdkhunkn aetephiyngxyangediywkyngimidprasiththiphaphthiephiyngphx ephraaeracaimsamarthkhadhwngidwastrukhxngeracaihkhwamrwmmuxinthathierafukmaodythiimmikarkhdkhun thancungprbprungkarfukswnihyinorngeriynkhxngthanihepnaebb rnodri RANDORI khuxkarfuksxmaebbcring odyichaenwkhwamkhidwa nkeriynsxngkhnichethkhnikhtangthitneriynruephuxkarexachnaxyangetmkalng thngninkeriyncakhunekhykbkhwamrusuktxtan khdkhuncakkhutxsu karfukaebbninkeriyncasamarthphthna rangkay citicaelakhwamkhlxngtwiddikwa ephuxthaihkarfuksxmaebbrnodrimiprasiththiphaphmakkhun than khaon ciongaor caepntxngexaethkhnikhrunaerngthikxihekidxntraybangswnechn karchk eta hwokhk incucissuxxkip karlxksamarthkrathaidephiyngaekhkhxsxk sungplxdphykwakarlxksnhlng khx khxmux hruxhwihl ekhaeriykkarfuksxmaebbniwa yuod yuodinpccubnepnkilasaklpraephthbukhkhl mihlkkaraelawtthuprasngkhkhux mungbriharrangkayaelaciticihmiprasiththiphaphsungsud odyichaerngihnxythisud ephuxswsdiphaphaelapraoychnsukhrwmkn karfukyuodtxngmikarfukkartxsuaelapxngkntw kephuxihphuekharbkarfukidxxkaerng sungepnhnthangkxihekidsmrrthphaphthangkaytamxudmkhtikhxngthan phuihkaenidkilapraephthniwa Maximum Efficiency with minimum Effort and Mutual Welfare and Benefit khuxyuodichwithikaroxnxxnphxntam hruxthieriykwa thangaehngkhwamsuphaph Gentleness or soft way thaihidepriybaekphuthimikalngmakkwaepnwithikarthithaihkhntwelkkwanahnknxykwaaelakalngdxykwa samarthtxsukbphuthixyuinlksnaehnuxkwaidethkhnikhkhxngwichayuodethkhnikhkhxngwichayuodaebngxxkidepn 3 klumdngni naengwasa Nagewaza epnethkhnikhekiywkbkarthum mithathumthiepnphunthanxyu 12 tha aelaaeykxxkepnpraephthtamswnkhxngrangkaythiichthumnnsungidaekkarthumdwymux karthumdwysaophk karpdkha karthumdwyihl karthumdwysikhangaelahlng kataemwasa Katamawaza epnethkhnikhekiywkbkarkxdrdephuxihhayicimxxk karcbyudaelakarlxkkhxtx epnethkhnikhthiichkhnaxyukbphunebaa tatami ephuxihkhutxsuyxmcann kataemawasayngsamarthaeykyxyxxkidxik 3 praephth khux oxisokhmiwasa Osaekomiwaza sungepnethkhnikhekiywkbkarkdlxkbnphun chiemwasa Shimewaza sungepnethkhnikhkarrdkhxhruxhlxdlm aelakhnesthsuwasa Kansetsuwaza thiepnethkhnikhinkarhklxkkhxtxihkhutxsuyxmcann xaetmiwasa Atemiwaza epnethkhnikhekiywkbkarchktxy thubti thibthxng swntangkhxngrangkayihekidkarbadecb phikar hruxthungaekchiwit sungwithikarehlanicaichinkartxsupxngkntwethann aelaimekhycdkaraekhngkhnradbkhwamsamarthkhxngnkyuodsikhxngsaykhadexwaesdngradbkhxngnkyuod khaw ekhiyw fa natal da aedng radbkhwamsamarthmatrthankhxngnkyuodthngsxngephs chay hying idthukkahndkhunodymisikhxngsaykhadexwepnekhruxnghmay radbkhwamsamarthmatrthandngklawaebngxxkidepn 2 radbihy khux radbkhiw Kyu khuxradbkxnsaydathixaceriykwa nkeriyn radbdng Dan khuxradbthieriykwa phuna epnphusungmikhwamsamarthsung thngradbnkeriynaelaradbphunaniyngaebngxxkepnradbyxylngxik odymisipracaaetlaradbiwsungaetlapraethskahndimehmuxnkn karkahndradbkhxngnkyuodinpraethsithykahndiwdngni rxngsayda chn 5 saykhadexwsikhaw rxngsayda chn 4 saykhadexwsiekhiyw rxngsayda chn 3 saykhadexwsifa rxngsayda chn 2 saykhadexwsinatal rxngsayda chn 1 saykhadexwsinatalplayda sayda chn 1 saykhadexwsida sayda chn 2 saykhadexwsida sayda chn 3 saykhadexwsida sayda chn 4 saykhadexwsida sayda chn 5 saykhadexwsida sayda chn 6 saykhadexwsikhawslbaedng sayda chn 7 saykhadexwsikhawslbaedng sayda chn 8 saykhadexwsikhawslbaedng sayda chn 9 saykhadexwsiaedng sayda chn 10 saykhadexwsiaedngsthanthifuk odoc sthanthifukyuodcatxngepnsthanthikwangkhwang xakasthayethidsadwk thiphunpudwyebaa Tatami wangxdaennepnaephnediywkn aelamiphakhlumihdungxikchnhnung odypktiebaayuodhruxesuxyuodaetlaphuncamikhnadyaw 6 fut kwang 3 futaelahna 4 niw ebaathiichfuknitxngmikhwamyudhyunphxdiimxxnhruxaekhngekinip thaxxnekinipcathaihphunphiwimeriybthaihethaphlikaephlngidngay aelathaihkarekhluxnihwlabak aetthaaekhngekinipewlalmxacthaihekidxntrayidngay phunthisahrbpuebaayuodthiehmaasmkhwrepnphunimthiyksungkhunodyechphaa imkhwrpukbphunsiemnthruxphundinthiediyw ephraacamikhwamyudhyunnxykxihekidkarkarbadecbidngayekhruxngaetngkay yuodngi ekhruxngaetngkayinkarfukyuodtxngswmchudodyechphaathieriykwa Judoji sungmiphunthanmacakkaraetngkaykhxngchawyipunmilksnadngni esux khlayesuxkiomon thkdwydaydibsikhawhnaaekhngaerngthnthan aetxxnnimimlunmux samarthskidaelaichidnan swnaekhnaelalatwkwanghlwm twyawkhlumkn aekhnyawpramankhrungaekhnthxnlangesuxyuodthiditxngmilksnaebabangaetaekhngaerng karebabangcachwyihkarrabaykhwamrxninrangkaydikhun praethsyipunnbwaepnpraethsphuphlitesuxyuodthidithisudinolk kangekng milksnakhlaykangekngcinepnphadibechnkn thiexwmirxyechuxkrdexw kangekngtxnghlwmphxsbayyawpramankhrungkhathxnlang saykhadexw epnphaeybsxnknhnapraman 0 5 esntiemtr kwangpraman 2 niw yawihkhadexwid 2 rxb ehluxchayiwphukenguxnphirxd Reef Knot aelwehluxchaykhangla 15 esntiemtr sahrbsaykhadexwniepnekhruxngaesdngradbkhwamsamarthmatrthankhxngnkyuoddwymaryathkhxngnkyuodwichayuodepnwichaaehngkhwamsuphaphxxnoyn aelahxngfukyuodnnepnthirwmkhxngphuthisnictxkhwamsuphaph nxkcaknnhxngfukyuodyngepnthisarwmrangkayaelacitic phuthiekhaipinhxngfukyuodcungkhwrsarwmkiriyawacaihsuphaphaelaehmaaaeksthanthi echn imphudesiyngdngekinip imklawkhahyabkhay imtlkkhanxng imsubbuhri imswmrxngethakhunipbnebaayuod epntn rahwangkarfuksxm hruxfngkhabrryaycakkhruxacarykhwrfngdwykhwamekharph nxkcaknnkhwrekharphechuxfngkhaaenanakhxngkhruxacary aelaptibtitamraebiybaebbaephnkhxnghxngfukthikahndiwodyekhrngkhrd thngnikephuxrksaiwsungraebiybpraephniaelawthnthrrmxndingam kbthngepnkarxbrmnisy maryathaelacitickhxngtnexngwithikaraesdngkhwamekharphkaraesdngkhwamekharphtamhlkkarkhxngwichayuodmidngtxipni emuxthungsthanthifuk txngaesdngkhwamekharphsingthitngbuchapracasthanthikhrnghnungkxn kxnerimfuk emuxkhunbnebaatxngaesdngkhwamekharphtxthibuchaxikkhrnghnung kxnerimfuksxmtxngaesdngkhwamekharphsungknaelakn aelahlngcakyutikarfuksxmtxngekharphknxikkhrnghnung kxnelikfuktxngaesdngkhwamekharphthibucha emuxepliynekhruxngaetngtwaelw kxncaklbtxngaesdngkhwamekharphthibuchaxikkhrnghnung withithakhwamekharphmi 2 withi khux nngaelayun swnwithiekhluxnihwinkaraesdngkhwamekharph echn yunaelwcaklbepnnng hruxnngaelwklbyun tampktiichkhakhwaepnhlkinkarthrngtw karelnyuodyngmihlkkaraelasilpxunxikmakmayxathi karxbxunrangkayaelasilpkarlm karthrngtwaelakarekhluxnihw karthum epntnxangxingInman 2005 p 10 The first Olympic competition to award medals to women judoka was in 1992 in 1988 women competed as a demonstration sport Inman 2005 p 11 Nagewaza KODOKAN 2006 12 10 thi ewyaebkaemchchinNagewaza Atemiwaza NDAtemiwaza prawtiyuod ewbistsyamspxrt thathumyuod ewbist yuodxinof ewbist okhodkngaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb yuod yuod thiewbist Curlie IJF International Judo Federation The worldwide for judo Kodokan Judo Institute Headquarters of judo Kano Jigoro s school ksidis wngslikhitthrrm 2557 sukhphaphaekhngaerngaebbyipun karsngesrimkaybriharprakxbdntri Radio Taiso khxngyipuninxinodniesiychwngsngkhrammhaexechiyburpha kh s 1942 1945 warsarprawtisastr mhawithyalysrinkhrinthrwiorth hna 112 133