บทความนี้ไม่มีจาก |
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ยุทธนาวีที่ซามาร์ (ฟิลิปปินส์: Labanan sa may Samar) เป็นส่วนหนึ่งของยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เตซึ่งเป็นหนึ่งในสงครามทางเรือที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ ซึ่งเกิดเหตุการณืที่เกาะซามาร์ในประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1944 โดยที่กองทัพเรืออเมริกันยังไม่ได้เตรียมตัวไว้กับกองกำลังฝ่ายอักษะถือว่าเป็นยุทธการทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือ
ยุทธนาวีที่ซามาร์ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต สงครามแปซิฟิก (สงครามโลกครั้งที่ 2) | |||||||
The กำลังเกิดเพลิงไหม้และจมในเวลาต่อมา ในยุทธการซามาร์ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สหรัฐอเมริกา | ญี่ปุ่น | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
กำลัง | |||||||
แทฟฟี 3 6 ลำ เรือพิฆาต 3 ลำ 4 ลำ อากาศยาน 400 ลำ จากแทฟฟี 1, 2, 3 | กองกำลังกลางญี่ปุ่น เรือประจัญบาน 4 ลำ 6 ลำ 2 ลำ เรือพิฆาต 11 ลำ อากาศยาน 30 ลำ คะมิกะเซะ)) | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กถูกจม 2 ลำ เรือพิฆาตถูกจม 2 ลำ เรือพิฆาตคุ้มกันถูกจม 1 ลำ อากาศยานสูญหาย 23 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กเสียหาย 3 ลำ เรือพิฆาตเสียหาย 1 ลำ เรือพิฆาตคุ้มกันเสียหาย 2 ลำ ทหารที่เสียชีวิตและหายไปรวม 1,583 คน ทหารบาดเจ็บ 913 คน | เรือลาดตระเวนหนักถูกจม 3 ลำ ไม่ทราบจำนวนทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิต |
ภูมิหลัง
ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นพยายามตัดกำลังของฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะเดียวกัน จอมพลดักลาส แมคอาเธอร์ ได้ยกพลขึ้นบก 20,000 นายขึ้นฟิลิปปินส์ ทำให้ญี่ปุ่นเกิดตะหนักว่าหากสูญเสียฟิลิปปินส์ไปจะทำให้เส้นทางการขนส่งเสบียงไปยังกองทัพที่ประจำอยู่ในอินเดียตะวันออกจะถูกตัดไปและจะสูญเสียแหล่งน้ำมันไปด้วย ดังนั้นจึงคิดแผนการรบใหม่ที่ชื่อว่า แผน"โชโก" หรือ "แผนแห่งชัยชนะ" โดยมีเป้าหมายคือทำลายกองกำลังของแมคอาเธอร์บนชายหาดเลย์เต
แผนโชโก
เป็นแผนการดำเนินการรบของญี่ปุ่นโดยแบ่งออกเป็ย 3 กองกำลัง คือ กองกำลังทางเหนือ กองกำลังกลางและกองกำลังทางใต้ โดยมีขั้นตอนแผนดังนี้
1.กองกำลังกลาง นำโดย พลเรือเอก ทาเคโอะ คูริตะ จะมุ่งหน้าตรงไปยังเลย์เตผ่านทาง
2.กองกำลังทางใต้จะแล่นขึ้นเหนือไปหากองกำลังของแมคอาเธอร์ผ่าน
3.กองกำลังทางเหนือซึ่งมีแต่เรือลำเลียงปราศจากแสนยานุภาพทำหน้าที่เป็นนกต่อ โดยจะให้กองทัพเรือของ พลเรือเอก บูล ฮอลซีย์ ให้ผละออกไปเและให้กองกำลังกลางของญี่ปุ่นเข้า สู่เลย์เตได้อย่างสะดวก
ลำดับเหตุการณ์
เช้าตรู่ของวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1944 กองกำลังกลางญี่ปุ่นได้ปรากฏขึ้นนอกชายฝั่งเกาะซามาร์ประเทศฟิลิปปินส์ เวลา 6.35 น.กองกำลังกลางของญี่ปุ่นได้พบเสาเรือที่เส้นขอบฟ้า พวกเขาคาดว่าเรือที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้คือเรือส่วนหนึ่งของกองทัพเรือที่ 3 แต่พวกเขาเดาผิดถนัด แต่มันคือหน่วยปฏิบัติการเล็กของกองเรือที่ 7 ชื่อว่า"แทฟฟี 3" โดยมีเรือขนาดเล็กเพียงเพื่อสนับสนุนกองกำลังทางบกและสอดแนมเรือดำน้ำ เวลา 7.00 น.เรือประจัญบานยะมะโตะได้เปิดฉากยิงกองเรือย่อยแทฟฟี่3 พลเรือเอก ทาเคโอะ คูริตะ คิดว่าตนกำลังโจมตีกองทัพเรือที่ 3 จึงเร่งเรือเข้าประจัญบาน แต่เขากลับใจร้อนที่จะโจมตีกองทัพเรือที่ 3 ทำให้เรือของกองกำลังกลางกระจัดกระจายไปซึ่งเป็นความผิดพลาดกลยุทธ์ในการรบ ในขณะเดียวกัน พลเรือตรี คลิฟตัน ซิกกี้ สเปรค ผู้บังคับการกองเรือย่อยแทฟฟี 3 ได้รู้ว่าตนนั้นมีกำลังและอาวุธน้อยกว่า โดยให้เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็ก 6 ลำอยู่ภายในวงคุ้มกันของเรือพิฆาต 3 ลำและเรือคุ้มกันเรือพิฆาต 4 ลำ หลังจากน้นเขาบัญชาการให้กองเรือเลี้ยวไปทางตะวันออกเพื่อให้หลบพ้นจากการโจมตีของกองกำลังกลางขณะเดียวกันก็ได้ส่งอากาศยานทั้งหมดขึ้นไปบินโจมตี ขณะเดียวกันเรือพิฆาตกับเรือคุ้มกันเรือพิฆาตก็ได้ปล่อยควันเคมีสีดำออกมาเพื่อให้เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กได้หลีกออกไป
ในตอนนั้นเรือของแทฟฟี่3ที่อยู่ใกล้กับกองกำลังกลางของญี่ปุ่นมากที่สุดคือเรือพิฆาตโดยมีผู้การเรือลำนี้คือ นาวาโท ได้สั่งเข้ารุกกับกองกำลังกลางทำให้เรือลำนี้ผละออกจากขบวนป้องกัน กองกำลังกลางได้กระหน่ำยิงเรือจอห์นสตันที่กำลังเข้ามาแต่กระสุนกลับไม่โดนเรือจอห์นสตัน เวลา 7.10 น. เรือจอห์นสตันเริ่มยิง เวลา 7.15 น. เรือจอห์นสตันยิงปืนของเขาโดนหอบังคับการของเรือคุมาโน่แล้วในเวลาต่อมาเรือจอห์นสตันได้ยิงตอร์ปิโดไปยังเรือคุมาโน่ หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรงที่ส่วนหัวเรือคุมาโน่ ทำให้เรือคุมาโน่จมลงในที่สุด ในขณะเดียวกันอากาศยานจากกองเรือย่อยแทฟฟี 3 ได้โจมตีเรือของกองกำลังกลางเพื่อให้กองกำลังกลางได้ผละออกไป ต่อมาในไม่ช้าเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กจาก แทฟฟี 1 และ 2 ได้ส่งอากาศยานมาช่วยในการโจมตี จากการโจมตีของอากาศยานอเมริกันทำให้กองกำลังกลางต้องบีบให้เรือรบแปรขบวนตั้งรับได้สำเร็จ ในช่วงพักการโจมตีของกองกำลังกลางของญี่ปุ่นนี้เองเปิดช่องให้เรือพิฆาตโฮลและเฮียร์แมนยิงตอร์ปิโดออกไป ตอร์ปิโดของเรือพิฆาตเฮียร์แมนพลาดเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่กลับพุ่งตรงไปยังเรือประจัญบานยะมะโตะ หลังจากที่เรือประจัญบานยะมะโตะถูกโจมตีทั้งทางอากาศและตอร์ปิโดเรือประจัญบานยะมะโตะไม่เข้าร่วมรบอีกเลย แต่เรือรบที่เหลือของกองกำลังกลางยังคงยิงใส่กองเรือย่อยแทฟฟี 3 ต่อไป เวลา 7.30 น.ได้ยิงปินใหญ่จากเรือแล้วกระสุนของมันก็เข้าทะลุที่ห้องเครื่องของเรือจอห์นสตัน หลังจากนั้นอีก 1 นาทีต่อมาเรือประจัญบานยะมะโตะได้ยิงปืน 6 นิ้วเข้าถล่มส่วนหอบังคับการของเรือจอห์นสตัน ส่งผลให้ความเร็วของเรือจอห์นสตันเหลือครึ่งหนึ่งและยังทำให้ระบบไฟฟ้าป้อมปืนของเรือไม่ทำงาน ในเวลาต่อมาช่างของเรือสามารถกู้ไฟฟ้าให้กับป้อมปืนกลับมาใช้งานได้ นาวาโท เออร์เนส อีวานส์ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังยืนยันที่จะไม่สละเรือ เวลา 7.35 น.เรือคุ้มกันเรือพิฆาต ได้เข้าร่วมการรบ หลังจากนั้นเริ่มยิงกระสุนเข้าใส่เรือพิฆาตยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ต แต่เรือโรเบิร์ตเข้ามาใกล้มากแล้วจนเรือลาดตระเวนหนักโชคาอิไม่อาจจะกดปืนได้ต่ำพอกระสุนจึงลอยข้ามไป ต่อมาเรือโรเบิร์ตได้ยิงตอร์ปิโดจำนวนสามนัดไปยังเรือลาดตระเวนหนักโชคาอิและกระทบที่เรือโชคาอิอย่างจัง จากนั้นเรือโรเบิร์ตก็ยิงปืนจากเรือกระสุนได้โดนเข้าตรงส่วนหอบังคับการของเรือโชคาอิ แต่แล้วในเวลา 8.50 น. เรือโรเบิร์ตก็ถูกยิงจากเรือโชคาอิจนเหลือป้อมปืนที่ใช้งานได้เพียงป้อมเดียว ในการยืนหยัดต่อสู้อย่างดุเดือดครั้งสุดท้ายเรือโรเบิร์ตได้ยิงกระสุนของมันโดนส่วนหอบังคับการของจนลุกเป็นไฟและทำลายป้อมปืนใหญ่ส่วนหน้าเรือได้ ชั่วขณะต่อมาเรือประจัญบานคอนโกะได้ยิงปืนจากเรือแล้วโดนเรือโรเบิร์ตทำให้เรือโรเบิร์ตเกิดรูขนาดใหญ่ที่ข้างกราบเรือ เวลา 9.10 น.เรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์นสตัน กำลังถูกกระหน่ำด้วยกระสุนจากเรือรบของญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันได้นำเรือพิฆาต 4 ลำแล่นมาสู้กับเรือบรรทุกเคื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กของอเมริกันที่ถูกตัดกำลัง เรืออเมริกันที่อยู่ในตำแหน่งนั้นที่จะหยุดยั้งได้ก็คือเรือจอห์นสตันที่บอบช้ำ เรือจอห์นสตันยิงปืนจากเรือที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่กระบอกและได้นำเรือจอห์นสตันเข้าตัดแถวขบวนของเรือญี่ปุ่นที่กำลังเข้ามาโจมตีเรือบรรทุกเคื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กของอเมริกัน แต่ก่อนที่เรือจอห์นสตันจะเข้ามาตัดแถวขบวนเรือลาดตระเวนเบายาฮากิหักเลี้ยวกระทันหันแล้วเรือพิฆาตอีก 4 ลำก็หักเลี้ยวตาม จากนั้นเรือพิฆาตของญี่ปุ่นได้ยิงตอร์ปิโดไปยังเรือจอห์นสตันแต่ตอร์ปิโดกลับพลาดเป้าไป หลังจากนั้นเรือรบของญี่ปุ้นอีก 5 ลำก็กระหน่ำยิงเข้าใส่เรือจอห์นสตัน เรือจอห์นสตันได้แต่เพียงยิงปืนไปหาศัตรูแบบไร้ทิศทางอย่างสิ้นหวัง ต่อมากระสุนจากเรือรบของญี่ปุ่นยิงเข้ากลางลำเรือจอห์นสตันทำให้เรือหยุดนิ่งสนิท เรือพิฆาตของญี่ปุ่น 4 ลำตีวงล้อมเรือจอห์นสตันที่หมดกำลังแล้วยิงอย่างไม่หยุดหย่อน เวลา 9.45 น.ผู้การเรือจอห์นสตัน นาวาโท ได้ออกคำสั่งสละเรือ เวลา 10.05 น.เรือคุ้มกันเรือพิฆาตยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ต สุดยอดเรือที่เล่าขานกันในกองทัพเรือว่าเป็น"เรือคุ้มกันเรือพิฆาตที่ต่อสู้ราวกับเรือประจัญบาน"ก็ได้จมลงสู่ท้องทะเล ทหารเรือ 89 นายจมลงพร้อมกับเรือ เวลา 10.10 น. เรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์นสตันก็ได้จมลงสู่ทะเล ทหารเรือ 186 นายหายสาบสูญ เวลา 10.45 น.ฝูงบินคะมิกะเซะของญี่ปุ่นตรวจพบเจอเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กยูเอสเอส เซนต์โล (CVE-63)โดยไม่คาดหมาย เวลา 10.50 น. เครื่องบินญี่ปุ่นที่ขับโดยเรืออากาศโทเซกิได้ดำดิ่งลงไปยัง เครื่องบินของเขาถูกยิงด้วยปืนต่อสู้อากาศยานจากเรือไวท์เพลนส์ เขาจึงเปลี่ยนไปทางเรือเซนต์โล เวลา 10.53 น.เครื่องบินญี่ปุ่นของเรืออากาศโทเซกิก็ได้ดำดิ่งเข้าตรงดาดฟ้าของเรือเซนต์โล ส่งผลให้ชั้นดาดฟ้าเรือไฟไหม้อย่างหนักและใต้ท้องเรือก็เกิดระเบิดจากเครื่องบินในใต้ท้องเรือ เวลา 11.00 น. ผู้การเรือเซนต์โล ได้ออกคำสั่งสละเรือ เวลา 11.20 น.การระเบิดครั้งใหญ่จากเครื่องบินในใต้ท้องเรือทำให้เรือเซนต์โลฉีกเรือเซนต์โลแยกเป็นเสี่ยง ๆ เวลา 11.25 น.เรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกันขนาดเล็กยูเอสเอส เซนต์โลได้จมลงสู่ท้องทะเล ทหารเรือสูญหาย 114 คน ในเวลาต่อมา พลเรือเอก ทาเคโอะ คูริตะ ให้สัญญาณกับเรือในกองกำลังกลาง 20 ลำให้กลับฐาน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxng yuththnawithisamar filippins Labanan sa may Samar epnswnhnungkhxngyuththnawithixawelyetsungepnhnunginsngkhramthangeruxthiihythisudinprawtisastrthiekidkhuninfilippins sungekidehtukarnuthiekaasamarinpraethsfilippinsemuxwnthi 25 tulakhm 1944 odythikxngthpheruxxemriknyngimidetriymtwiwkbkxngkalngfayxksathuxwaepnyuththkarthangthharthiyingihythisudinprawtisastrkhxngkxngthpheruxyuththnawithisamarswnhnungkhxng yuththnawithixawelyet sngkhramaepsifik sngkhramolkkhrngthi 2 The kalngekidephlingihmaelacminewlatxma inyuththkarsamarwnthi25 tulakhm kh s 1944sthanthithangtawnxxkkhxng praethsfilippinsphlshrthxemrikachnakhusngkhram shrthxemrika yipunphubngkhbbychaaelaphunakalngaethffi 3 6 la eruxphikhat 3 la 4 la xakasyan 400 la cakaethffi 1 2 3kxngkalngklangyipun eruxpracyban 4 la 6 la 2 la eruxphikhat 11 la xakasyan 30 la khamikaesa khwamsuyesiyeruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkthukcm 2 la eruxphikhatthukcm 2 la eruxphikhatkhumknthukcm 1 la xakasyansuyhay 23 la eruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkesiyhay 3 la eruxphikhatesiyhay 1 la eruxphikhatkhumknesiyhay 2 la thharthiesiychiwitaelahayiprwm 1 583 khn thharbadecb 913 khneruxladtraewnhnkthukcm 3 la eruxladtraewnhnkesiyhay 3 la eruxphikhatesiyhay 1 la imthrabcanwnthharthibadecbaelaesiychiwitphumihlnginchwngplaysngkhramolkkhrngthi 2 kxngthphyipunphyayamtdkalngkhxngfaysmphnthmitr inkhnaediywkn cxmphldklas aemkhxaethxr idykphlkhunbk 20 000 naykhunfilippins thaihyipunekidtahnkwahaksuyesiyfilippinsipcathaihesnthangkarkhnsngesbiyngipyngkxngthphthipracaxyuinxinediytawnxxkcathuktdipaelacasuyesiyaehlngnamnipdwy dngnncungkhidaephnkarrbihmthichuxwa aephn ochok hrux aephnaehngchychna odymiepahmaykhuxthalaykxngkalngkhxngaemkhxaethxrbnchayhadelyetaephnochokepnaephnkardaeninkarrbkhxngyipunodyaebngxxkepy 3 kxngkalng khux kxngkalngthangehnux kxngkalngklangaelakxngkalngthangit odymikhntxnaephndngni 1 kxngkalngklang naody phleruxexk thaekhoxa khurita camunghnatrngipyngelyetphanthang 2 kxngkalngthangitcaaelnkhunehnuxiphakxngkalngkhxngaemkhxaethxrphan 3 kxngkalngthangehnuxsungmiaeteruxlaeliyngprascakaesnyanuphaphthahnathiepnnktx odycaihkxngthpheruxkhxng phleruxexk bul hxlsiy ihphlaxxkipeaelaihkxngkalngklangkhxngyipunekha suelyetidxyangsadwkladbehtukarnechatrukhxngwnthi 25 tulakhm kh s 1944 kxngkalngklangyipunidpraktkhunnxkchayfngekaasamarpraethsfilippins ewla 6 35 n kxngkalngklangkhxngyipunidphbesaeruxthiesnkhxbfa phwkekhakhadwaeruxthikalngmunghnamathangnikhuxeruxswnhnungkhxngkxngthpheruxthi 3 aetphwkekhaedaphidthnd aetmnkhuxhnwyptibtikarelkkhxngkxngeruxthi 7 chuxwa aethffi 3 odymieruxkhnadelkephiyngephuxsnbsnunkxngkalngthangbkaelasxdaenmeruxdana ewla 7 00 n eruxpracybanyamaotaidepidchakyingkxngeruxyxyaethffi3 phleruxexk thaekhoxa khurita khidwatnkalngocmtikxngthpheruxthi 3 cungerngeruxekhapracyban aetekhaklbicrxnthicaocmtikxngthpheruxthi 3 thaiheruxkhxngkxngkalngklangkracdkracayipsungepnkhwamphidphladklyuththinkarrb inkhnaediywkn phleruxtri khliftn sikki seprkh phubngkhbkarkxngeruxyxyaethffi 3 idruwatnnnmikalngaelaxawuthnxykwa odyiheruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelk 6 laxyuphayinwngkhumknkhxngeruxphikhat 3 laaelaeruxkhumkneruxphikhat 4 la hlngcaknnekhabychakarihkxngeruxeliywipthangtawnxxkephuxihhlbphncakkarocmtikhxngkxngkalngklangkhnaediywknkidsngxakasyanthnghmdkhunipbinocmti khnaediywkneruxphikhatkberuxkhumkneruxphikhatkidplxykhwnekhmisidaxxkmaephuxiheruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkidhlikxxkip intxnnneruxkhxngaethffi3thixyuiklkbkxngkalngklangkhxngyipunmakthisudkhuxeruxphikhatodymiphukareruxlanikhux nawaoth idsngekharukkbkxngkalngklangthaiheruxlaniphlaxxkcakkhbwnpxngkn kxngkalngklangidkrahnayingeruxcxhnstnthikalngekhamaaetkrasunklbimodneruxcxhnstn ewla 7 10 n eruxcxhnstnerimying ewla 7 15 n eruxcxhnstnyingpunkhxngekhaodnhxbngkhbkarkhxngeruxkhumaonaelwinewlatxmaeruxcxhnstnidyingtxrpiodipyngeruxkhumaon hlngcaknnkekidraebidxyangrunaerngthiswnhweruxkhumaon thaiheruxkhumaoncmlnginthisud inkhnaediywknxakasyancakkxngeruxyxyaethffi 3 idocmtieruxkhxngkxngkalngklangephuxihkxngkalngklangidphlaxxkip txmainimchaeruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkcak aethffi 1 aela 2 idsngxakasyanmachwyinkarocmti cakkarocmtikhxngxakasyanxemriknthaihkxngkalngklangtxngbibiheruxrbaeprkhbwntngrbidsaerc inchwngphkkarocmtikhxngkxngkalngklangkhxngyipunniexngepidchxngiheruxphikhatohlaelaehiyraemnyingtxrpiodxxkip txrpiodkhxngeruxphikhatehiyraemnphladepahmaythitngiciwaetklbphungtrngipyngeruxpracybanyamaota hlngcakthieruxpracybanyamaotathukocmtithngthangxakasaelatxrpioderuxpracybanyamaotaimekharwmrbxikely aeteruxrbthiehluxkhxngkxngkalngklangyngkhngyingiskxngeruxyxyaethffi 3 txip ewla 7 30 n idyingpinihycakeruxaelwkrasunkhxngmnkekhathaluthihxngekhruxngkhxngeruxcxhnstn hlngcaknnxik 1 nathitxmaeruxpracybanyamaotaidyingpun 6 niwekhathlmswnhxbngkhbkarkhxngeruxcxhnstn sngphlihkhwamerwkhxngeruxcxhnstnehluxkhrunghnungaelayngthaihrabbiffapxmpunkhxngeruximthangan inewlatxmachangkhxngeruxsamarthkuiffaihkbpxmpunklbmaichnganid nawaoth exxrens xiwans thiidrbbadecbsahsyngyunynthicaimslaerux ewla 7 35 n eruxkhumkneruxphikhat idekharwmkarrb hlngcaknnerimyingkrasunekhaiseruxphikhatyuexsexs samuexl bi orebirt aeteruxorebirtekhamaiklmakaelwcneruxladtraewnhnkochkhaxiimxaccakdpunidtaphxkrasuncunglxykhamip txmaeruxorebirtidyingtxrpiodcanwnsamndipyngeruxladtraewnhnkochkhaxiaelakrathbthieruxochkhaxixyangcng caknneruxorebirtkyingpuncakeruxkrasunidodnekhatrngswnhxbngkhbkarkhxngeruxochkhaxi aetaelwinewla 8 50 n eruxorebirtkthukyingcakeruxochkhaxicnehluxpxmpunthiichnganidephiyngpxmediyw inkaryunhydtxsuxyangdueduxdkhrngsudthayeruxorebirtidyingkrasunkhxngmnodnswnhxbngkhbkarkhxngcnlukepnifaelathalaypxmpunihyswnhnaeruxid chwkhnatxmaeruxpracybankhxnokaidyingpuncakeruxaelwodneruxorebirtthaiheruxorebirtekidrukhnadihythikhangkraberux ewla 9 10 n eruxphikhatyuexsexs cxhnstn kalngthukkrahnadwykrasuncakeruxrbkhxngyipun inkhnaediywknidnaeruxphikhat 4 laaelnmasukberuxbrrthukekhuxngbinkhumknkhnadelkkhxngxemriknthithuktdkalng eruxxemriknthixyuintaaehnngnnthicahyudyngidkkhuxeruxcxhnstnthibxbcha eruxcxhnstnyingpuncakeruxthiehluxxyuephiyngimkikrabxkaelaidnaeruxcxhnstnekhatdaethwkhbwnkhxngeruxyipunthikalngekhamaocmtieruxbrrthukekhuxngbinkhumknkhnadelkkhxngxemrikn aetkxnthieruxcxhnstncaekhamatdaethwkhbwneruxladtraewnebayahakihkeliywkrathnhnaelweruxphikhatxik 4 lakhkeliywtam caknneruxphikhatkhxngyipunidyingtxrpiodipyngeruxcxhnstnaettxrpiodklbphladepaip hlngcaknneruxrbkhxngyipunxik 5 lakkrahnayingekhaiseruxcxhnstn eruxcxhnstnidaetephiyngyingpuniphastruaebbirthisthangxyangsinhwng txmakrasuncakeruxrbkhxngyipunyingekhaklanglaeruxcxhnstnthaiheruxhyudningsnith eruxphikhatkhxngyipun 4 latiwnglxmeruxcxhnstnthihmdkalngaelwyingxyangimhyudhyxn ewla 9 45 n phukareruxcxhnstn nawaoth idxxkkhasngslaerux ewla 10 05 n eruxkhumkneruxphikhatyuexsexs samuexl bi orebirt sudyxderuxthielakhankninkxngthpheruxwaepn eruxkhumkneruxphikhatthitxsurawkberuxpracyban kidcmlngsuthxngthael thharerux 89 naycmlngphrxmkberux ewla 10 10 n eruxphikhatyuexsexs cxhnstnkidcmlngsuthael thharerux 186 nayhaysabsuy ewla 10 45 n fungbinkhamikaesakhxngyipuntrwcphbecxeruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkyuexsexs esntol CVE 63 odyimkhadhmay ewla 10 50 n ekhruxngbinyipunthikhbodyeruxxakasotheskiiddadinglngipyng ekhruxngbinkhxngekhathukyingdwypuntxsuxakasyancakeruxiwthephlns ekhacungepliynipthangeruxesntol ewla 10 53 n ekhruxngbinyipunkhxngeruxxakasotheskikiddadingekhatrngdadfakhxngeruxesntol sngphlihchndadfaeruxifihmxyanghnkaelaitthxngeruxkekidraebidcakekhruxngbininitthxngerux ewla 11 00 n phukareruxesntol idxxkkhasngslaerux ewla 11 20 n karraebidkhrngihycakekhruxngbininitthxngeruxthaiheruxesntolchikeruxesntolaeykepnesiyng ewla 11 25 n eruxbrrthukekhruxngbinkhumknkhnadelkyuexsexs esntolidcmlngsuthxngthael thhareruxsuyhay 114 khn inewlatxma phleruxexk thaekhoxa khurita ihsyyankberuxinkxngkalngklang 20 laihklbthan