ยุทธการที่เซอด็อง (อังกฤษ: Battle of Sedan) หรือ ยุทธการที่เซอด็องครั้งที่สอง (12-15 พฤษภาคม ค.ศ. 1940) เป็นการสู้รบของสงครามโลกครั้งที่สองในช่วงยุทธการที่ฝรั่งเศส การรบเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการของกองทัพเวร์มัคท์ในรหัสนามว่า ฟัลล์ เกลบ์(กรณีเหลือง)จากการรุกรานผ่านบริเวณเทือกเขาป่าหนาทึบอาร์แดนเพื่อทำการโอบล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในเบลเยียมและทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส กองทัพเยอรมันกลุ่มเอได้ข้ามแม่น้ำเมิซด้วยความมุ่งหมายที่จะเข้ายึดเซอด็อง และผลักดันไปยังชายหาดช่องแคบอังกฤษ เพื่อทำการดักล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่กำลังเคลื่อนทัพไปยังฝั่งตะวันออกในการเข้าสู่เบลเยียมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทางยุทธศาสตร์คือ
ยุทธการที่เซอด็อง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ยุทธการที่ฝรั่งเศส, แนวรบด้านตะวันตกของสงครามโลกครั้งที่สอง | |||||||
ทหารเยอรมันซึ่งมาพร้อมกับเชลยศึกฝรั่งเศสในการก้าวข้ามแม่น้ำเมิซ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ใกล้กับเซอด็อง | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร | เยอรมนี | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
มอริส กาเมแล็ง Pierre Lafontaine Marcel Têtu Colonel Poncelet † | แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท เอวัลท์ ฟ็อน ไคลสท์ ไฮนซ์ กูเดเรียน ว. ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน | ||||||
กำลัง | |||||||
20,000 men | 60,000 men 41,000 vehicles 771 tanks 1,470 aircraft 141 artillery pieces 96 rubber boats | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
manpower losses unknown artillery losses unknown tank losses unknown 167 aircraft | 120 killed 400 wounded (12–14 May) 647 killed or wounded (15–17 May) at least 81 rubber boats |
เมืองเซอด็องตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเมิซ การเข้ายึดครองนั้นจะทำให้เยอรมันใช้เป็นฐานทัพที่จะเข้ายึดสะพานเมิซและข้ามแม่น้ำ ถ้าหากทำสำเร็จ กองพลเยอรมันก็จะสามารถรุกก้าวข้ามเขตชนบทฝรั่งเศสที่เปิดและไร้การป้องกันนอกเหนือจากเซอด็องและช่องแคบอังกฤษ ในวันที่ 12 พฤษภาคม เซอด็องได้ถูกยึดครองโดยปราศจากการต่อต้าน ในวันรุ่งขึ้น เยอรมันได้เอาชนะฝ่ายป้องกันของฝรั่งเศสบริเวณรอบๆของเซอด็อง ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเมิซ นี่คือความสำเร็จของลุฟท์วัฟเฟอ ด้วยผลมาจากการทิ้งระเบิดของเยอรมันและขวัญกำลังใจตกต่ำลง ทำให้ฝ่ายป้องกันของฝรั่งเศสไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไป เยอรมันได้เข้ายึดสะพานข้ามแม่น้ำเมิซที่เซอด็อง ส่งผลให้กองทหารรวมทั้งยานเกราะเยอรมันสามารถก้าวข้ามแม่น้ำได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม กองทัพอากาศฝ่ายสัมพันธมิตร กองทัพอากาศหลวงอังกฤษ และกองทัพอากาศฝรั่งเศส พยายามทำลายสะพานและป้องกันไม่ให้มีการเสริมกำลังของเยอรมันไปยังฝั่งตะวันตก ลุฟท์วัฟเฟอได้ทำการป้องกันไม่ให้พวกเขาทำเช่นนั้น ในการรบทางอากาศขนาดใหญ่ ฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับความสูญเสียมากมายซึ่งส่งผลทำให้การทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของฝ่ายสัมพันธมิตรได้หมดลงในช่วงการทัพ
การก้าวข้ามแม่น้ำเมิซได้ช่วยทำให้เยอรมันสามารถทำลายยุทธศาสตร์เชิงลึก หรือแนวหลังไร้การป้องกัน แนวรบของฝ่ายสัมพันธมิตรและการรุกสู่ช่องแคบอังกฤษโดยไร้การต่อต้าน ฝรั่งเศสได้พยายามที่จะเปิดการโจมตีตอบโต้กลับต่อกรกับเยอรมันที่หัวสะพานที่ยึดครอง ตั้งแต่วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม แต่การรุกรานนั้นทำให้เกิดความล่าช้าและสับสน ห้าวันหลังจากการรวบรวมพลที่หัวสะพานที่เซอด็อง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม กองทัพเยอรมันสามารถเคลื่อนทัพมาถึงช่องแคบอังกฤษ ด้วยชัยชนะที่เซอด็องนั้นเป็นการบรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการฟัลล์ เกลบ์(กรณีเหลือง)และโอบล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด รวมทั้ง (British Expeditionary Forces หรือ B.E.F.) ผลลัพธ์การรบได้ทำลายส่วนที่เหลือของกองทัพฝรั่งเศสที่เป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพในการรบ,และได้ทำการขับไล่กองทัพอังกฤษออกจากทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่ ได้นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 การรบที่เซอด็องนั้นได้แสดงให้เห็นการล่มสลายของฝรั่งเศส
อ้างอิง
- Frieser 2005, p. 145.
- Mitcham 2000, p. 38.
- Frieser 2005, p. 158.
- Frieser 2005, p. 179.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHealy 2007, p. 56
- Frieser 2005, p. 157.
- Krause and Cody 2006, p. 171.
- Healy 2007, p. 44.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 181
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 196
- Frieser 2005, p. 210.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 168
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuththkarthiesxdxng xngkvs Battle of Sedan hrux yuththkarthiesxdxngkhrngthisxng 12 15 phvsphakhm kh s 1940 epnkarsurbkhxngsngkhramolkkhrngthisxnginchwngyuththkarthifrngess karrbepnswnhnungkhxngaephnptibtikarkhxngkxngthphewrmkhthinrhsnamwa fll eklb krniehluxng cakkarrukranphanbriewnethuxkekhapahnathubxaraednephuxthakaroxblxmkxngthphfaysmphnthmitrinebleyiymaelathangtawntkechiyngehnuxkhxngfrngess kxngthpheyxrmnklumexidkhamaemnaemisdwykhwammunghmaythicaekhayudesxdxng aelaphlkdnipyngchayhadchxngaekhbxngkvs ephuxthakardklxmkxngthphfaysmphnthmitrthikalngekhluxnthphipyngfngtawnxxkinkarekhasuebleyiymsungepnswnhnungkhxngaephnkarthangyuththsastrkhuxyuththkarthiesxdxngswnhnungkhxng yuththkarthifrngess aenwrbdantawntkkhxngsngkhramolkkhrngthisxngthhareyxrmnsungmaphrxmkbechlysukfrngessinkarkawkhamaemnaemis emuxwnthi 15 phvsphakhm kh s 1940 iklkbesxdxngwnthi12 15 phvsphakhm kh s 1940sthanthiesxdxngaelaphunthiiklekhiyng praethsfrngess49 42 9 N 4 56 33 E 49 70250 N 4 94250 E 49 70250 4 94250phleyxrmnidrbchychnaxyangkhadlxykhusngkhramfrngess shrachxanackreyxrmniphubngkhbbychaaelaphunamxris kaemaelng Pierre Lafontaine Marcel Tetu Colonel Poncelet aekrth fxn runthchetth exwlth fxn ikhlsth ihns kuederiyn w fxn richthohefinkalng20 000 men 300 tanks 174 artillery pieces 152 bombers 250 fighters60 000 men 41 000 vehicles 771 tanks 1 470 aircraft 141 artillery pieces 96 rubber boatskhwamsuyesiymanpower losses unknown artillery losses unknown tank losses unknown 167 aircraft120 killed 400 wounded 12 14 May 647 killed or wounded 15 17 May at least 81 rubber boats emuxngesxdxngtngxyubnfngtawnxxkkhxngaemnaemis karekhayudkhrxngnncathaiheyxrmnichepnthanthphthicaekhayudsaphanemisaelakhamaemna thahakthasaerc kxngphleyxrmnkcasamarthrukkawkhamekhtchnbthfrngessthiepidaelairkarpxngknnxkehnuxcakesxdxngaelachxngaekhbxngkvs inwnthi 12 phvsphakhm esxdxngidthukyudkhrxngodyprascakkartxtan inwnrungkhun eyxrmnidexachnafaypxngknkhxngfrngessbriewnrxbkhxngesxdxng fngtawnxxkkhxngaemnaemis nikhuxkhwamsaerckhxnglufthwfefx dwyphlmacakkarthingraebidkhxngeyxrmnaelakhwykalngictktalng thaihfaypxngknkhxngfrngessimsamarthpxngknidxiktxip eyxrmnidekhayudsaphankhamaemnaemisthiesxdxng sngphlihkxngthharrwmthngyanekraaeyxrmnsamarthkawkhamaemnaidsaerc emuxwnthi 14 phvsphakhm kxngthphxakasfaysmphnthmitr kxngthphxakashlwngxngkvs aelakxngthphxakasfrngess phyayamthalaysaphanaelapxngknimihmikaresrimkalngkhxngeyxrmnipyngfngtawntk lufthwfefxidthakarpxngknimihphwkekhathaechnnn inkarrbthangxakaskhnadihy faysmphnthmitridrbkhwamsuyesiymakmaysungsngphlthaihkarthingraebidthangyuththsastrkhxngfaysmphnthmitridhmdlnginchwngkarthph karkawkhamaemnaemisidchwythaiheyxrmnsamarththalayyuththsastrechingluk hruxaenwhlngirkarpxngkn aenwrbkhxngfaysmphnthmitraelakarruksuchxngaekhbxngkvsodyirkartxtan frngessidphyayamthicaepidkarocmtitxbotklbtxkrkbeyxrmnthihwsaphanthiyudkhrxng tngaetwnthi 15 17 phvsphakhm aetkarrukrannnthaihekidkhwamlachaaelasbsn hawnhlngcakkarrwbrwmphlthihwsaphanthiesxdxng emuxwnthi 20 phvsphakhm kxngthpheyxrmnsamarthekhluxnthphmathungchxngaekhbxngkvs dwychychnathiesxdxngnnepnkarbrrluepahmaykhxngptibtikarfll eklb krniehluxng aelaoxblxmkxngthphfaysmphnthmitrthiaekhngaekrngthisud rwmthng British Expeditionary Forces hrux B E F phllphthkarrbidthalayswnthiehluxkhxngkxngthphfrngessthiepnkxngthphthimiprasiththiphaphinkarrb aelaidthakarkhbilkxngthphxngkvsxxkcakthwipyuorpaephndinihy idnaipsukhwamphayaephkhxngfrngessineduxnmithunayn kh s 1940 karrbthiesxdxngnnidaesdngihehnkarlmslaykhxngfrngessxangxingFrieser 2005 p 145 Mitcham 2000 p 38 Frieser 2005 p 158 Frieser 2005 p 179 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Healy 2007 p 56 Frieser 2005 p 157 Krause and Cody 2006 p 171 Healy 2007 p 44 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Frieser 2005 p 181 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Frieser 2005 p 196 Frieser 2005 p 210 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Frieser 2005 p 168 bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk