มวยไชยา เป็นศิลปะมวยไทยประจำถิ่นอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเสียงมากสมัยรัชกาลที่ 5 - 6 จนมีนักมวยจากไชยาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมื่นมวยมีชื่อ
ประวัติ
กำเนิดมวยไชยา
มีวัดเก่าแก่อรัญญิกชื่อวัดทุ่งจับช้าง เป็นวัดรกร้างอยู่ในป่าริมทางด่านเดิมที่จะไปอำเภอไชยา วัดนี้มีชื่อเสียงเพราะสมภารซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “พ่อท่านมา” เป็นชาวกรุงเทพฯได้หลบหนีไปอยู่เมืองไชยาด้วยเรื่องใดไม่ปรากฏ “พ่อท่านมา”ได้ฝึกสอนวิชามวยไทยแก่ชาวไชยาจนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมวย แม้ทุกวันนี้นักมวยที่ปรารถนาความสวัสดีมีชัย ต้องร่ายรำมวยเป็นการถวายคารวะหน้าที่บรรจุศพก่อนที่จะผ่านไป มวยสุราษฎร์ฯหรือมวยไชยาจึงมีชื่อเสียงตลอดมา
มวยไทยไชยา จากหลักฐานและคำบอกเล่านั้นเริ่มต้นที่ พ่อท่านมา ไม่มีใครทราบว่าท่านมีชื่อจริงว่าอย่างไร ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็น ครูมวยใหญ่ จากพระนคร บ้างก็ว่าท่านเป็น ขุนศึก แม่ทัพแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชาวเมืองจึงเรียกเพียงว่า พ่อท่านมา ท่านได้เดินทางมาที่เมืองไชยา และได้ถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ไว้ให้แก่ชาวเมือง และศิษย์ที่ทำให้ มวยเมืองไชยา เป็นที่รู้จักมากที่สุดในยุค ร.5 คือ พระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย)
ปรมาจารย์ เขตร ศรียาภัย เคยกล่าวไว้ว่า ท่าย่างสามขุม ของหลวงวิศาลดรุณกร (อั้น สาริกบุตร) อาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบฯ พ.ศ. 2464 (ซึ่งเป็นศิษย์เอกของ ปรมาจารย์ พระไชยโชคชกชนะ (อ้น) เจ้ากรมทนายเลือกครูมวยและครูกระบี่กระบองผู้กระเดื่องนาม ในรัชสมัย ร.5) และปรมาจารย์ ขุนยี่สานสรรพยากร (ครูแสงดาบ) ครูมวยและครูกระบี่กระบอง ลือชื่อ ในสมัย ร.6 นั้นมีความกระชับรัดกุม ตรงตามแบบท่าย่างสามขุมของ ท่านมา (หลวงพ่อ) ครูมวยแห่งเมืองไชยา ท่านนับเป็นต้นสายของมวยไชยา มรดกอันล้ำค่าของคนไทย
ศาลาเก้าห้อง
หลังจากที่กำเนิดมวยไชยาขึ้นแล้ว กิจการด้านนี้ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับการชกมวยจึงเป็นกีฬาสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับเทศกาล, งานฉลองหรือสมโภชต่าง ๆ และมาเจริญสูงสุดครั้งหนึ่งคือสมัยศาลาเก้าห้อง
ศาลาเก้าห้องนี้ตั้งอยู่ในท้องที่ สร้างโดย สร้างขึ้นเป็นสาธารณสมบัติศาลานี้สร้างขนานกับทางเดิน (ทางด่าน) มีเสาไม้ตำเสา 30 ต้น เสาด้านหน้าเป็นเหลี่ยม แถวกลางและแถวหลังเป็นเสากลม ระหว่างเสาสองแถวหลังยกเป็นพื้นปูกระดานสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ส่วนระหว่างแถวหน้ากับแถวกลางเป็นพื้นดิน ยาวจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ยาวประมาณ 13 วา 2 ศอก ส่วนกว้างประมาณ 3 วา หลังคาลิลา มุงสังกะสี มีบ่อน้ำทางทิศตะวันตก 1 บ่อ
ปัจจุบันศาลาเก้าห้องเดิมได้ถูกรื้อถอนโดยนายจอน ศรียาภัย ลูกคนที่สามของพระยาวจีสัตยารักษ์ เมื่อออกจากราชการกรมราชทัณฑ์และกลับไปอยู่บ้านเดิมที่ไชยายังคงเหลือไว้แต่เพียงบ่อน้ำซึ่งแต่เดิมกรุด้วยไม้กระดาน และต่อมาราษฎรได้ช่วยกันสละทรัพย์หล่อซีเมนต์เสร็จ เมื่อปี 2471 และสร้างศาลาใหม่ขึ้นที่ด้านตะวันออกของศาลาเดิมแต่มีขนาดเล็กกว่ายังคงมีอยู่กระทั่งปัจจุบัน
นอกจากจะใช้เป็นที่พักคนเดินทางแล้ว ศาลาเก้าห้องแห่งนี้ยังใช้เป็นที่สมโภชพระพุทธรูป เนื่องในงานแห่พระพุทธทางบกในเดือน 11 ของทุกปีประจำเมืองไชยาอีกด้วย และในงานแห่พระพุทธรูปทางบกและงานสมโภชนี้ ที่ขาดไม่ได้คือการชกมวยเป็นการสมโภชเป็นประจำทุกปีด้วย
การชกมวยที่ศาลาเก้าห้อง
เมื่อถึงเทศกาลแห่พระบกประจำปี จะมีการแห่พระมาที่ศาลาเก้าห้องและทำการสมโภชที่นั่น ประชาชนทั่วไปรวมทั้งเจ้านายก็ไปพร้อมกันที่ศาลาเก้าห้องแห่งนี้ ในการนี้นักมวยของแต่ละแห่งก็จะเดินทางเพื่อจับคู่ชกกัน
เมื่อการแห่พระพุทธรูปมาถึงศาลาเก้าห้องก็เริ่มพิธีสมโภช ครั้นเวลานักมวยจะไปชุมนุมกันหน้าศาลา โยมีพระยาไชยาเป็นประธาน การจับคู่มวยในสมัยนั้นไม่มีการชั่งน้ำหนักเพียงแต่ให้รูปร่างพอฟัดพอเหวี่ยงกันก็เป็นการใช้ได้ หรือถ้ารูปร่างต่างกันมาก ก็ต้องแล้วแต่ความสมัครใจของคู่ต่อสู้ เพราะคนสมัยก่อนไม่เหมือนกับคนสมัยนี้ บางคนโกรธกันก็ถือเอาโอกาสนี้มาต่อสู้กันตัวต่อตัวต่อหน้าประธาน
การแต่งกายของนักมวย
- การพันหมัด ที่เรียกว่าหมัดถักนั้นเมื่อผู้ใดได้คู่ชก ทางฝ่ายจัดรายการ จะแจกด้ายขนาดโตคนละม้วน เมื่อได้ด้ายดิบแล้วนักมวยก็จะนำด้ายดิบนั้นเข้าพุ่มไปให้พรรคพวกช่วยกันจับเป็นจับ ๆ (หนึ่งจับเล็กกว่าปลายนิ้วก้อยเล็กน้อย) แล้วตัดออกเป็นท่อนๆยาวประมาณ 4-5 เมตร ชั้นแรกที่จะพันมือจะใช้ผ้าเรียบพันมือก่อน ชั้นที่สองซึ่งจะพันด้วยด้ายดิบซึ่งพรรคพวกจะขวั้นเป็นเกลียวจนเกิดเป็นปมอยู่ทั่วไป แล้วพันด้วยผ้าเรียบ แล้วพันด้วยด้ายที่ถูขวั้นเป็นเกลียวจนเกิดปม พันสลับกันเช่นนี้หลายชั้น การพันมือจะพันจนถึงข้อมือเท่านั้นส่วนปลายนิ้วมือจะพันขึ้นไปพอถึงข้อนิ้วแรก ให้กำหมัดได้สะดวก และขณะที่พันมืออยู่นั้น จะต้องใช้ปลายนิ้วมือคอยแหย่ไว้ตามช่องนิ้วมือระวังไม่ให้แน่นจนเกินไป เพราะถ้าแน่นจะทำให้กำหมัดไม่แน่นเวลาชก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายถึงนิ้วมือหักในขณะต่อสู้เมื่อชกโดนคู่ต่อสู้จัง ๆ โดยนักมวยไชยาจะคาดเชือกแค่บริเวณข้อมือ ส่วนนักมวยสายอื่น ๆ เช่น นักมวยโคราช จะคาดเชือกถึงบริเวณข้อศอกเพื่อใช้รับอวัยวุธต่างๆของคู่ต่อสู้ และ นักมวยสายลพบุรีหรือนักมวยภาคกลางอื่นๆเช่น มวยพระนคร จะคาดเชือกถึงบริเวณกลางแขน
- การพันลูกโปะ (กระจับ) ในการพันลูกโปะจะใช้ผ้าสองผืน ผืนแรกจะใช้ผ้าขาวม้าก็ได้ หรือผ้าชนิดอื่นที่ยาวพอสมควร ผืนที่สองจะใช้ผ้าอะไรก็ได้ วิธีพันจะใช้ผ้าผืนแรกต่างเข็มขัด ปล่อยชายข้างหนึ่งยาวปลายข้างหนึ่งจะผูกเป็นปมหมดชายผ้า ปล่อยข้างยาวลงไปข้างล่าง ส่วนผืนที่สองจะม้วนเป็นก้อนกลม (คล้ายม้วนทูนหรือผ้าที่ม้วนรองบนศีรษะขณะทูนของที่ก้นไม่เรียบ) ใช้ผ้าผืนนี้วางลงทับแทนกระจับ ใช้ชายผ้าที่ปล่อยให้ห้อยลงของผืนแรกคาดทับลงไป แล้วเต้าชายผ้าส่วนนั้นเข้าระหว่างขาดึงให้ตึงไปผูกชายที่เหลือเข้ากับส่วนที่ผูกแทนเข็มขัดที่ด้านหลัง
- ประเจียด เป็นเครื่องสวมศีรษะลักษณะเฉพาะของนักมวยไชยา ส่วนนักมวยภาคอื่นจะสวม"มงคล"แทน ประเจียดนั้นจะทำเป็นลักษณะแบนๆมากกว่าทำให้กลมมีการลงคาถาอาคม ลงเครื่องป้องกันต่าง ๆ ขณะชกถ้าประเจียดหลุดก็ยกมือขอเก็บมาสวมเสียใหม่ได้ วัตถุประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือการป้องกันมิให้เส้นผมลงปิดหน้าในขณะที่กำลังทำการต่อสู้
กติกา
สำหรับในการต่อสู้ใช้แม่ไม้มวยไทยได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น หมัด เท้า เข่า ศอกในการต่อสู้ใช้จำนวนยก 5 ยก และใช้ยกเวียน หมายความว่าวันนั้นจับมวยได้กี่คู่ (ส่วนใหญ่ 5 – 6 คู่) ก็จะชกกันคู่ละ หนึ่งยก โดยคู่ที่ 1 ชกยกที่ 1 ก็เข้าพุ่ม (ที่สำหรับพักนักมวย) คู่ที่ 2 ขึ้นชกยกที่ 1 และยกที่ 1 จนไปถึงคู่สุดท้าย คู่ที่ 1 จึงจะชกยกที่ 2 แล้วเวียนไปจนถึงคู่สุดท้าย คู่ที่ 1 จึงขึ้นชกยกที่ 3 การชกจะปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 5 ยก แต่ถ้ามีคู่ใดแพ้ชนะก่อนกันก็ตัดคู่นั้นไป ส่วนที่เหลือก็จะเวียนไปดังที่กล่าวมาแล้ว
กติกาการหมดยกมี 2 แบบคือ
ก. แบบที่ 1 เมื่อมีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ ไม่สามารถป้องกันตัวได้ ก็ยกมือขอบอกเวลาหมดยก เพื่อเข้าพุ่มแก้ไขอาการที่เพลี่ยงพล้ำนั้น และคำว่า “ยก”ที่ใช้กันในทุกวันนี้ก็น่าจะมีความเป็นมาจากอาการที่ยกมือดังกล่าวแล้วก็อาจเป็นได้
ข. แบบที่ 2 ในขณะชกเขาจะใช้ลูกลอยเจาะก้นลอยน้ำแบบที่ใช้ในการชนไก่แต่เดิม เมื่อลูกลอยจมน้ำเจ้าหน้าที่ก็จะตีกลองบอกหมดยก เพื่อให้คู่ต่อสู้ได้เข้าพุ่มเพื่อแก้ไข ให้น้ำและแนะนำการแก้ลูกไม้มวยส่วนคู่ต่อไปก็จะขึ้นชกกันต่อไป
ทุ่ม-ทับ-จับ-หัก ในมวยคาดเชือก
ทุ่ม ทับ จับ หัก ในมวยคาดเชือกนั้นเป็นกลมวยชั้นสูง ที่ผู้ฝึกจะต้องเรียนรู้พื้นฐาน การบริหารร่างกายเพื่อพาหุยุทธ์พร้อมฝึกฝนท่าย่างสามขุมตามแบบของแต่ละครู เรียก'ท่าครู'รวมทั้งแม่ไม้ต่าง ๆ เช่นการออกอาวุธ ป้องปัดปิดเปิด ป้องกัน ตอบโต้ให้เชี่ยวชาญดีแล้ว จึงจะสามารถแตกแม่ไม้กล ลูกไม้ กลรับ กลรุก ล่อหลอก หลบหลีก ทั้งยังต้องฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้ใช้ออกไป จึงจะเกิดความคม เด็ดขาด รุนแรง ท่วงท่าลีลางดงาม เข้มแข็งดังใจ
เช่นท่าครูมวยไชยา(ท่าย่างสามขุมคลุมแดนยักษ์)นั้นได้ชื่อว่ามีความรัดกุมเฉียบคม จนสามารถชนะการแข่งหน้าพระที่นั่งสมัย ร.5 เมื่อคราวจัดให้มีงาน ณ ทุ่งพระเมรุ ป้อมเผด็จดัสกร กรุงเทพฯ คือ นายปล่อง จำนงทอง ที่สามารถใช้ 'ท่าเสือลากหาง' โจนเข้าจับ ทุ่มทับจับหักปรปักษ์จนมีชัย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น 'หมื่นมวยมีชื่อ' ท่าที่ใช้จับทุ่มรับการจู่โจมด้วย เตะ ถีบ เข่า อย่าง 'ถอนยวง' นั้น สามารถทุ่มโยนปรปักษ์ออกไป หรีบจับกดหัวให้ปักพื้นแล้วทับด้วยก้นหรือเข่าได้ หากเป็นการรุกด้วยหมัดนั้นให้แก้ด้วย 'ขุนยักษ์พานาง' หรือ 'ขุนยักษ์จับลิง' ศอกแก้ด้วย 'พระรามหักศร' และยังมีท่าอื่น ๆ อีกมาก ที่ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านมิได้กำหนดชื่อเอาไว้ ทั้งหมดนี้ผู้ใช้จำต้องรู้เคล็ดป้องปัดปิดเปิด และกลประกบประกับจับรั้ง เป็นท่าร่วมเพื่อเข้าจับหักด้วยมือ หรือเกี้ยวกวัดด้วยท่อนแขน ฯลฯ
เวทีชกมวย
การชกมวยไชยา ในยุคแรกชกที่ โดยที่ศาลาเก้าห้องมีบริเวณที่ชกมวยก็คือสนามหน้าศาลา จะมีเจ้าหน้าที่ปักหลักสี่หลักแล้วใช้เชือกป่านขนาดใหญ่ (เชือกพวน) ขึงกับหลักสามสี่สาย โดยในศาลาจะมีเจ้านาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆของเมืองไชยาจะพักอยู่ในศาลาเพื่อชมการชกมวยทุกครั้งไป
เวทีมวยวัดพระบรมธาตุไชยา
เมื่อการชกมวยที่ศาลาเก้าห้องต้องมีอันล้มเลิก เนื่องมาจากศาลากลางถูกย้ายไปอยู่ที่บ้านดอน พระยาไชยาก็ไปเป็นเจ้าเมืองที่บ้านดอนดังที่กล่าวมาแล้วในตอนต้นรวมทั้งได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาไว้ที่อำเภอไชยาในปัจจุบันก็เกิดสนามมวยแห่งใหม่ขึ้นที่บริเวณสนามวัดพระบรมธาตุ เพราะในสมัยนั้นวัดพระบรมธาตุมีงานประจำปีในเดือน 6 ของทุกปี การจัดให้มีการชกมวยก็ขึ้นที่สนามแห่งนี้ด้วย โดยครั้งแรกชกบนลานดินเหมือนที่ศาลาเก้าห้อง ที่ตั้งสนามอยู่ระหว่างพระเวียนกับถนนที่ตัดผ่านหน้าวัด ซึ่งถนนที่ผ่านทุกวันนี้แต่สมัยนั้นยังไม่มีกำแพงแก้วเหมือนปัจจุบัน การชกและกติกาก็เหมือนที่ศาลาเก้าห้องทุกประการ จะต่างกันที่สนามวัดพระบรมธาตุมีการเก็บเงิน โดยใช้ปีกเหยี่ยว (ใบตาลโตนดผ่าซีกแล้วแล้วโน้มมาผูกติดกับก้านใบ) กั้นเป็นบริเวณสนามและเนื่องจากกีฬามวยเป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไป พระครุโสภณเจตสิการา (เอี่ยม) เห็นว่ามีหนทางที่จะเก็บเงินเป็นรายได้บำรุงวัด จึงดำริคิดสร้างเวทีมวยถาวรขึ้นที่สนามมวยแห่งนี้ โดยให้นายภักดิ์ ลำดับวงค์ เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง นายจอน แสงสิทธิ์ เป็นนายช่าง นายร่วง เชิงสมอ เป็นลูกมือช่าง และสร้างเสร็จในปี 2474 โดยท่านพระครูโสภณเจตสิการามเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ทั้งสิ้น ประมาณ 500 บาท
เวที่ใหม่แห่งนี้ใช้ทางเหนือของสถานที่เดิมไปเล็กน้อย โดยเลื่อนใกล้ถนนเข้าไปอีก ลักษณะของเวที เป็นเสาปูนซีเมนต์เสริมเหล็กหน้า 8 นิ้ว จำนวน 4 ต้นกว้างและยาวด้านละ 4 วา เทคอนกรีตเท่าหน้าเสาทั้ง 4 ด้าน สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ตรงกลางถมดิน เสาสูง 6 ศอก หลังคามุงสังกะสี ไม้ที่ใช้เป็นไม้หลุมพอโดยตลอดเฉพาะเครื่องทำหลังคา
สมัยเริ่มแรก
- การชกยกเลิกหมัดถักมาใช้นวม ยกเลิกยกเวียนมาเป็นยกตลอด คือแต่ละคู่ชกกันจนครบ 5 ยก แล้วจึงเป็นการชกของคู่ต่อไป กติกาการชกเหมือนปัจจุบัน
- การจัดสนามและเวที สนามจะกั้นด้วยผ้าขาว เวทีกั้นเชือกแบบปัจจุบัน รอบขอบเชือกด้านนอกจนติดขอบคอนกรีตมีต้นกล้วยวางเรียงโดยรอบเพื่อป้องกันอันตรายให้แก่นักมวย พื้นเวทีซึ่งถมดินไว้ถูกปูทับด้วยแกลบหรือฟางข้าวแล้วปูทับด้วยกระสอบป่าน ซึ่งต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาใช้ผ้าใบ
- การจับเวลา ใช้นาฬิกา การให้สัญญาณการชกและหมดเวลาใช้ระฆังของ
- เครื่องดนตรีใช้ปี่เป็นหลักและใช้กลองยาวช่วยในการประโคม
- เครื่องขยายเสียงไม่มีใช้ ต้องใช้โทรโข่งทั้งประกาศและพากย์มวย นายชม จุลกัลป์ เป็นผู้ประกาศประจำเวทีเป็นคนแรก
- กรรมการ กรรมการห้ามมวยคนแรกของเวที คือ นายอมโร อมรบุตร คนที่สอง คือ นายพันธ์ ทิพย์มณี สมัยดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอท่าฉาง คนต่อมาคือ นายชม จุลกัลป์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประจำแผนกอยู่ที่ว่าการอำเภอไชยา
สมัยสิ้นสุด
หลังจากพ้นยุคแรกมาการชกก็มีการเปลี่ยนแปลงจนเข้ารูปแบบของปัจจุบันทุกประการ แต่เมื่อสิ้นสมัยของพระครูโสภณเจตสิการาม (เอี่ยม) ท่านเจ้าคุณพุทธทาส (ในสมัยนั้น) ก็ให้ยกเลิกงานมหรสพและงานประจำปี คงรักษาไว้แต่พิธีทางศาสนา แต่ก็มีผู้คิดเปลี่ยนสถานที่ชกและสถานที่จัดงานไปไว้ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอไชยา แต่จัดได้ไม่กี่ปีก็ต้องมีอันล้มเลิกการจัดงานนั้นไป ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการชกมวยในงานต่างๆจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
นักมวยฝีมือเอกของไทยที่เคยผ่านการชกที่เวทีแห่งนี้มีหลายราย อาทิ จำเริญ ทรงกิตรัตน์, โกต๊อง แก้วอำไพ, กลยุทธ ลูกสุรินทร์, บุญธรรม แสงสุเทพ, ไสว แสงจันทร์ และ เชิด จุฑาเพชร
การรื้อถอนเวที่แห่งนี้
สาเหตุที่ต้องทำการรื้อถอนเวทีแห่งนี้ ก็เพื่อที่จะเตรียมสถานที่เพื่อรับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ในคราวยกพระสุวรรณฉัตรพระบรมธาตุไชยา เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2525 โดยทำการรื้อถอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2524 ผู้ควบคุมการรื้อถอนได้แก่ นายนุกูล บุญรักษา ครูใหญ่โรงเรียนวัดพระบรมธาตุ ซึ่งอดีตเคยเป็นนักมวยฝีมือดีที่เคยผ่านการชกที่เวทีแห่งนี้มาก่อน ท่านบอกว่าเสียดายของเก่าแต่จำเป็นที่ต้องรื้อถอน
รางวัล
ในการชกสมัยนั้น เป็นการชกเพื่อสมโภชพระที่แห่ทางบกเป็นประจำทุกปี แต่ฝ่ายผู้จัดให้มีมวยในครั้งนั้นซึ่งทุกคนจะกล่าวเช่นเดียวกันว่าเงินรางวัลที่ได้จะได้จากพระยาไชยา เพราะในสมัยนั้นการชกมวยไม่มีการเก็บเงิน ดังนั้นรางวัลที่ได้จะมีไม่มากนัก คนละบาทสองบาทหรือมากกว่านั้นก็ต้องแล้วแต่ฝีมือหรือการต่อสู้แต่ละคู่หรือความพอใจของเจ้านาย แต่ส่วนใหญ่จะได้เท่ากัน ครั้นเมืองไชยาถูกรวมกับและย้ายศาลากลางไปไว้ที่บ้านดอน พระยาไชยาได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นเจ้าเมืองที่บ้านดอน เมืองไชยาจึงไม่มีเจ้าเมืองตั้งแต่นั้นมา การชกมวยที่ศาลาเก้าห้องก็ต้องมีอันล้มเลิกไป แต่เนื่องจากไชยาเป็นเมืองมวย ก็ย่อมจะมีการชกมวยเกิดขึ้นที่แห่งใหม่ และสถานที่แห่งนั้นได้แก่สนามมวยวัดพระบรมธาตุไชยา
กองมวย
ตั้งแต่ที่มีการชกมวยที่ศาลาเก้าห้องแล้วนั้นเมืองไชยาได้เกิดมีกองมวยที่สำคัญเกิดขึ้น 4 กอง คือกองมวยบ้านเวียง กองมวยปากท่อ กองมวยบ้านทุ่ง กองมวยพุมเรียง แต่ละกองจะมีนายกอง 1 คน ถ้าเป็นปัจจุบันก็ได้แก่หัวหน้าคณะมวย และนายกองมีหน้าที่รับผิดชอบนักมวยในกอง เพราะนักมวยในกองจะได้รับสิทธิ์พิเศษต่างๆตามความสำคัญ ดังนี้
- เฉพาะกองมวยของหมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง) ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีรัชชูฯ จำนวน 25 คน ส่วนที่เหลือต้องเสียภาษีนี้คนละ 4 บาทเหมือนบุคลอื่นทั่วไป
- การใช้กำลังโยธา (การเกณฑ์ใช้แรงงาน) กล่าวคือในสมัยนั้นมีการเกณฑ์ใช้แรงงานเพื่อสร้างทางหรือสาธารณสมบัติอื่นๆ ทุกคนในเมืองไชยาย่อมถูกเกณฑ์แรงงานไปใช้โดยไม่มีค่าตอบแทนเป็นเงินทองหรือสิ่งของทุกคนจะต้องไปทำงานตามการเกณฑ์นั้น ยกเว้นบุคคลที่อยู่ใน “กองมวย” ซึ่งจะไม่ถูกเกณฑ์แรงงานเหมือนคนทั่วๆไป
- บุคคลในกองมวย มีหน้าที่ฟิตซ้อมมวย และเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะเดินทางไปชกทุกแห่งตามที่ทางราชการต้องการ อย่างเช่นงานเฉลิมฯที่บ้านดอน งานรับเสด็จรัชกาลที่ 6 ที่บน (พุนพิน) นายกองมวยจะต้องนำนักมวยของแต่ละกองไปชก แต่การไปนั้นได้รับการยืนยันว่า นักมวยที่ไปจะได้รับเบี้ยเลี้ยง ตามลำดับดังนี้ คือ 3 บาท 2 บาท 1 บาท และ 50 สตางค์ เช่นหมื่นมวยมีชื่อจะได้วันละ 3 บาท นายกองอื่น 2 บาท นักมวยสำคัญคนละ 1 บาท ส่วนนักมวยสำรองหรือลูกน้องจะได้คนละ 50 สตางค์ และจะได้รับเบี้ยเลี้ยงจนกว่างานนั้นจะเลิกหรือถึงวันกลับ
จะเห็นได้ว่านักมวยมีค่าและมีความหมายมากในสมัยนั้น เป็นบุคคลที่มีเกียรติ ดังนั้นในการเข้ากองมวย นายกองจะเป็นผู้พิจารณาจากรูปร่างของผู้ที่มาสมัครว่าพอจะเป็นนักมวยได้หรือไม่ และก็มีมากเหมือนกันที่เข้ากองมวยโดยหวังสิทธิ์พิเศษ แต่มีข้อแม้ที่น่าสังเกตคือบุคคลที่จะเข้ากองมวยได้ต้องซ้อมจริง ใครหลบหลีกนายกองมีสิทธิ์คัดชื่อออกทันที การคัดชื่อออกทำให้เสียสิทธิ์ที่กล่าวมาแล้วนั้นด้วย
ค่ายมวยที่สำคัญของไชยาและนักมวยเอกของค่าย
- ค่าย ศ.ปักษี เป็นค่ายมวยที่เก่าแก่มาก ผู้ให้กำเนิดค่ายนี้ได้แก่ นายนิล ปักษี นักมวยฝีมือเยี่ยมลูกศิษย์พระยาไชยา นักมวยเอกของค่ายนี้ได้แก่ นายเนียม ปักษี ลูกชายนายนิล ปักษี, นายพรหม ราชอักษร, ผู้เคยปะทะนักมวยฝีมือเยี่ยมจากเมืองกรุง เช่น สวย จุฑาเพชร, ไสว แสงจันทร์, เลื่อน ภู่ประเสริฐ และ ทองอยู่ ทวีสิน ปัจจุบันยังมีคนลูกหลานของสกุลปักษีบวชเป็นเจ้าอาวาสวัดพุมเรียง
- ค่ายชัยภิรมย์ ผู้ก่อตั้งค่ายมวยนี้ได้แก่ นายนุ้ย อักษรชื่น สาเหตุที่ตั้งค่ายมวยเพราะเห็นว่าขาดครูมวยทีจะฝึกหัดเด็กหนุ่มๆในหมู่บ้านและเห็นว่าวิชามวยจะสูญหายไป จึงตัดสินใจตั้งค่ายมวย โดยเฉพาะนายนุ้ยเองเป็นศิษย์คนหนึ่งซึ่งเคยฝึกมวยมาจากหมื่นมวยมีชื่อและสาเหตุที่ตั้งชื่อค่ายว่า “ชัยภิรมย์” ก็เพราะเป็นฉายาของนายนุ้ยที่ได้มาจากจังหวัดภูเก็ตคราวชกกับนายเปลื้อง นักชกจากกรุงเทพฯและได้รับชัยชนะเพราะเป็นคนใจเย็นชกด้วยความสุขุมรอบคอบ สำหรับนักมวยเอกของค่ายนี้ก็มีหลายคนเช่น นายหนูเคลือบ พันธุมาศ ผู้ใช้ชื่อในการชกมวยว่า สมจิต และเคยเดินทางเข้าชกในกรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อสมจิต ฉวีวงค์ (เท่ง) ปัจจุบันท่านผู้นี้บวชอยู่ ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา (บวชที่วัดหน้าเมืองปัจจุบันเป็นวัดร้าง)
- ค่ายวงค์ไชยา ผู้ตั้งค่าย วงค์ไชยา คือ นายจ้อย เหล็กแท้ เป็นศิษย์คนหนึ่งของนายนิล ปักษี เหตุที่ตั้งชื่อวงค์ไชยา เพราะตอนเดินทางเข้าชกมวยที่กรุงเทพฯ “แม่คุณ” (เป็นคำเรียกคุณนายชื่น ศรียาภัย ของนายจ้อย) เป็นผู้ตั้งชื่อชกมวยให้ว่า “เนียม วงค์ไชยา” และที่ให้ชื่อเช่นนั้นก็เพื่อให้เป็นที่ระลึกของบ้านเกิดของแม่คุณคือไชยา จึงถือเอา “วงค์ไชยา” เป็นมงคลนามมาตั้งเป็นค่ายเพื่อฝึกหัดศิษย์ ครูมวยของค่ายนี้นอกจากนายจ้อยเองแล้ว ยังมีผู้ช่วยอีกคน คือนายบุญ แห่งบ้านขนอน แต่ใช้ชื่อคณะว่า “ศ.วงค์ไชยา” นักมวยที่มีชื่อเสียงมากคือ นายปรีชา แห่งบ้านขนอน ตำบลทุ่ง อำเภอไชยา สำหรับคณะมวย “ศ.วงค์ไชยา” ตั้งอยู่ที่บ้านขนอน
- ค่ายบำรุงหิรัญ คณะบำรุงหิรัญตั้งค่ายอยู่ที่บ้านท่าโพธิ์ หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่ง อำเภอไชยา ผู้ตั้งคณะมวยนี้คือนาย นักมวยเสื้อสามารถเวทีวัดพระบรมธาตุ โดยฝึกมวยมาจากนายน้าว ซึ่งเคยเข้าชกโชว์ฝีมือในเมืองกรุงมาแล้วสมัยหนึ่ง และเคยรับพระราชทานหน้าเสือมาแล้ว สาเหตุที่ต้องตั้งค่ายมวย ก็เพื่อฝึกเด็กรุ่นหนุ่มบ้านท่าโพธิ์ และอีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะเวทีมวยวัดพระบรมธาตุได้ห้ามไม่ให้นักมวยที่ไม่มีชื่อคณะขึ้นชก นักมวยเอกของค่ายนี้มี
- ทักษิณ บำรุงหิรัญ (เพชรสุวรรณ) มีชีวิต
- เช่ บำรุงหิรัญ (อินทจักร) เสียชีวิตเล้ว
- ยี้ บำรุงหิรัญ (อินทจักร) ปัจจุบันมีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เที่ยง บำรุงหิรัญ (อินทจักร) ปัจจุบันมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดตรัง
- ปลอด บำรุงหิรัญ (มณีรัตน์) เจ้าของฉายาไอ้มนุษย์รถถัง ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 3 ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- วัชระ บำรุงหิรัญ (สินธวาชีวะ) ปัจจุบันอยู่บ้านปากท่อ ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- ประยงค์ บำรุงหิรัญ (ศรีสุวรรณ) ไอ้จอมทรหดของค่าย ปัจจุบันอยู่ที่บ้านทุ่ง ตำบลทุ่ง อำเภอไชยา
- คณะ ณ.ศรีวิชัย ผู้ก่อตั้งค่ายนี้ คือนายบุญส่ง เทพพิมล โดยเริ่มหัดมวยจากคุณตา อดีตนายกองมวยบ้านเวียง คือคุณตาเริก ส่วนคุณปู่ก็เป็นนักชกฝีมือเยี่ยม คือ ปู่นุช เหตุที่ตั้งค่ายมวยก็เหมือนกับค่ายบำรุงหิรัญ แต่ที่ตั้งชื่อเช่นนั้นเพราะบ้านเวียงเป็นที่ตั้งเมืองเก่าสมัยศรีวิชัย และลานฝึกซ้อมก็อยู่ในบริเวณกำแพงเมืองสำหรับนักมวยเอกของค่ายมี
- วีระ ณ ศรีวิชัย (ให้ บุญเหมือน) นักชกหมัดหนักของค่าย และยังเป็นคู่ต่อสู้ที่ประชาชนยังพูดถึงความสนุกสนานและดุเดือดทุกครั้งที่ชกกับ สุวรรณ (ริม) ศ.ยอดใจเพชรนักชกจอมทรหดของบ้านพุมเรียงโดยเฉพาะนักชกคนนี้เคยปะทะกับบุญธรรม วิถีชัย มาแล้ว ปัจจุบันตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านเวียง อำเภอไชยา
- ชิงชัย ณ ศรีวิชัย (เขียน คงทอง) ผู้เคยประหมัดกับ ศักดิ์ชัย นาคพยัคฆ์ ปัจจุบันรับราชการเป็นตำรวจอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต
- คล่อง ณ ศรีวิชัย (คล่อง เชื้อกลับ) ดาราศอกกลับเคยชกกับชาญ เลือดเมืองใต้ ปัจจุบันตั้งบ้านเรือนอยู่หน้าวัดธารน้ำไหล อ.ไชยา
- ยก, เทวิน (ไว้), ชาย (ให้) ณ ศรีวิชัย สามพี่น้องตระกูลเผือกสวัสดิ์
- นาค, ปรีดา ณ ศรีวิชัย (ศักดิ์เพชร) สองพี่น้องลูกชายคนหนึ่งของยอดมวยเมืองไชยา คือ นายสอน ศักดิ์เพชรโดยนายนาค มี ฉายา “ไอ้เป๋” เพราะขาพิการแต่ด้วยเลือดของมวยไชยาโดยแท้ จึงขึ้นเวที่ชกทั้งขาเป๋ และได้รับชัยชนะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้องชายคือนายปรีดา เป็นนักชกจอมมุทะลุ ปัจจุบันนายนาคเสียชีวิตแล้ว นายปรีดา ดำเนินธุรกิจส่วนตัว ดำเนินธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่บ้านสะพานจันทร์ หมู่ที่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา นายนุกูล ณ ศรีวิชัย (บุญรักษา) ไอ้เสือหมัดซ้ายผู้เคยต่อสู้กับสมใจ ลูกสุรินทร์
- คณะชัยสิทธิ์ ผู้ตั้งค่ายมวยแห่งนี้คือ นายกิมชุ้น ชัยสิทธิ์ ผู้ซึ่งได้รับการฝึกหัดวิชามวยมาจากอาจารย์แสง และนายนุ้ย อักษรชื่น ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วที่จังหวัดชุมพร ค่ายนี้มีสาขาแยกออกไป ทั้งตำบลทุ่งและตำบลป่าเว นักมวยเอกของค่ายนี้ที่พอจะรู้ได้ก็มี
- มา ใสสะอาด กำนันตำบลป่าเวในปัจจุบัน
- แพ ชัยอินทร์ กำนันตำบลตลาดไชยา
- พร้อม ไวทยินทร์ ปัจจุบันตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านปากด่าน ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- คณะ ศ.สิงห์ชัย เป็นคณะมวยที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่ก็มีนักชกที่มีชื่อเสียง เช่น
- นับ ศ.สิงห์ชัย (ทองสาลี) จอมศอกหน้าหยก ปัจจุบันตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านดอนโด ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา
- เบี้ยว ศ.สิงห์ชัย ไอ้กำแพงเมืองจีนของไชยา ผู้เป็นตัวยืนคนหนึ่งที่คอยรับมือนักชกจากต่างถิ่น โดยเฉพาะที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
นอกจากคณะที่กล่าวมาแล้วก็มีคณะมวยอื่นอีก เช่น ชัยประดิษฐ์ ศ.ยอดใจเพชร แต่ในปัจจุบันนี้นักมวยที่ขึ้นชกที่เป็นนักมวยไชยาแล้วจะใช้คณะอื่นเกือบทั้งหมด เพราะในช่วงนี้ใครที่เคยชกมวยชนะสักครั้งหรือสองครั้งก็สามารถตั้งคณะมวยได้ ซึ่งเป็นการยากที่จะค้นคว้า จึงมีเพียงแต่เฉพาะค่ายมวยที่มีมาแต่เดิม และมีชื่อเสียงมาก่อนมวยไชยายุคปัจจุบัน
หลังจากเวทีที่มวยวัดพระบรมธาตุสิ้นสุดลงวงการมวยไชยาก็เริ่มเสื่อมลงจนถึงทุกวันนี้ จนแทบได้กล่าวว่า มวยดังของไชยากำลังจะหมดไป เพราะขาดผู้สนับสนุนที่แท้จริง ทั้งๆที่คนไชยายังคงมีสายเลือดนักสู้อยู่เต็มตัว ความเป็นเมืองมวยกำลังสูญไปเพราะขาดผู้นำที่จริงจัง รวมทั้งปัญหาที่สำคัญที่ทำให้วงการมวยเสื่อมลงทุกวันนี้ที่เห็นได้เด่นชัดคือการพนันการต่อสู้ผลปรากฏจะอยู่ที่การพนันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่ฝีมือนักมวย มวยไชยาจึงเสื่อมถอยลง จึงมีผู้ปรารถนาที่จะปลุกวิญญาณของความเป็นนักสู้ของเมืองมวยในอดีตออกมาแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เพื่อที่จะได้นำชื่อเสียงมาสู่เมืองมวยเช่นในอดีต เหมือนที่ “หมื่นมวยมีชื่อ” เคยทำไว้แต่ก่อน
อดีตมวยฝีมือเยี่ยมเมืองไชยา
อดีตมวยฝีมือเยี่ยมเมืองไชยา ที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่
- หมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง)
- สอน ศักดิ์เพชร
- นิล ปักษี นักชกผู้พิการ
- เนียม ปักษี
- บุญส่ง เทพพิมล
- เต็ม กัณหา
- นุ้ย อักษรชื่น (ชัยภิรมย์)
- หมิก นิลจันทร์ ผู้ลบรอยแค้นให้นายสอน ศักดิ์เพชร เมื่อนายสอน ศักดิ์เพชร ต้องประสบความพ่ายแพ้ให้แก่ “หมัดลูกวัว”แห่งเมืองสงขลาจนถึงถิ่น นายสอนได้พกพาความแค้นกลับไชยา โดยหวังที่จะกลับไปแก้มือให้ได้ แต่เมื่อข่าวการพ่ายแพ้ของนายสอน รู้ถึงนายหมิก เพื่อนผู้เคยตะลุยเมืองกรุง และเป็นศิษย์ฝีมือเยี่ยมของหมื่นมวยมีชื่อ นายหมิกก็รีบเดินทางไปเมืองสงขลา และขอต่อสู้กับ “หมัดลูกวัว” ในการต่อสู้ครั้งนั้น นายหมิกได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย เมื่อได้รับชัยชนะก็กลายเป็นขวัญใจของผู้ชม และการชกครั้งนั้นเป็นการชกครั้งสุดท้ายของนายหมิก เพราะจากการเที่ยวเมืองสงขลาครั้งนี้เอง นายหมิกก็ได้รับโรคร้ายจนไม่สามารถขึ้นชกมวยได้อีกจนตลอดชีวิต
- จ้อย เหล็กแท้ นักชกผู้ไม่ต้องการรางวัล
นอกจากนักชกที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีนักมวยฝีมือเยี่ยมและได้รับการกล่าวขวัญถึงอีกหลายคน เช่น
- เวช จำนงทอง น้องชายหมื่นมวยมีชื่อ
- สงค์ ศักดิ์เพชร พี่ชายนายสอน ศักดิ์เพชร
- น้อย บุณยเกตุ หลานชายหมื่นมวยมีชื่อ ผู้เคยเข้าชกมวยคราวหาเงินซื้อปืนให้กองเสือป่า และได้รับ “หน้าเสือ”เป็นเครื่องเชิดชูเกียรติ
นอกจากนั้นยังมี นายเนิ่น คุ้มรักษ์, นายเวียง, นายนิตย์, นายจอน, นายจัน, นายทอง, นายกล่ำ, คนตำบลบ้านเลม็ด ลูกศิษย์หมื่นมวยมีชื่อ นายเหื้อย, นายหยอย, มวยตำบลบ้านเวียง ลูกศิษย์ นายนุช เทพพิมล และนักมวยที่กล่าวถึงนี้เป็นนักมวยที่เคยเดินทางเข้าเมืองกรุงเพื่อเก็บเงินซื้อปืนให้กองเสือป่าและถ้าใครได้รับชัยชนะก็จะได้ “หน้าเสือ” เป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติทุกคน
ปัจจุบันมีนักชกที่มีสายเลือด “กัณหา” เต็มตัวได้แก่ จรรยา ลูกกัณหา ซึ่งเป็นหลานชาย นายคล่องและนายเต็ม และได้กลายมาเป็นนักมวยมีชื่อเสียงของพุมเรียงมาระยะหนึ่ง
ครูมวยไชยาที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน
- ณปภพ ประมวญ (ครูแปรง)
- (ครูเล็ก)
นักมวยไชยาในยุคปัจจุบัน
หลังจากผ่านยุคยกเลิกการคาดเชือก นักมวยไชยาก็มีการขึ้นแข่งขันในเวทีต่างๆไม่มากนัก ทำให้คนในปัจจุบันมองว่า มวยไชยาเป็นเพียงมวยแสดง ใข้งานจริงไม่ได้ ในปัจจุบันก็มีนักมวยไชยา จากหลายๆสำนักขึ้นแข่งขันในรายการต่อสู้นอกเหนือจากเวทีมวยไทย เช่นการแข่งขัน MMA (Mixed Martial Art) รายการ Naksu, รายการ War in the cage, รายการ DARE, รายการ Cage War, รายการ Full Metal Dojo เป็นต้น
- สำนักศูนย์ศึกษาสยามยุทธ์บ้านครูแปรง ก่อตั้งและฝึกสอน โดยครูแปรง ณปภพ ประมวญ มีการส่งนักมวยเข้าร่วมการแข่งขันในหลายรายการ โดยมีนักมวยที่สามารถเป็นแชมป์และรองแชมป์ของรายการต่างๆได้ดังนี้
- สมิงวายุ - ลงแข่งรายการ KOF ชนะ มังกรฟ้า วีดีโอการแข่งขัน ชนะสุชาติ เป็นแชมป์รายการ Naksu ปี 2008 วีดีโอการแข่งขัน
- โชติ ยอดสมัย - ลงแข่งรายการ KOF ชนะ Bing และ แพ้อาจารย์วัชระ ได้รองแชมป์ Naksu 2008 วีดีโอการแข่งขัน
- EZ2DJ - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2009 ชนะการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ 3 รอบ / รอบที่ 1 / รอบที่ 2 / รอบที่ 3 ได้แชมป์รายการ Naksu 2009 ในรุ่น -57 กิโลกรัม และ เป็นนักสู้ในรายการ MMA อาชีพ DARE ปัจจุบันเป็นโค้ชของทีมนักสู้บ้านครูแปรง
- ลูกพระพาย - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2009 ชนะ สมิงดำ วีดีโอการแข่งขันและ แพ้ เมธัส ได้รองแชมป์ Naksu 2009 รุ่น -60 กิโลกรัม วีดีโอการแข่งขัน
- คีรีเดช - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2009 ชนะ Cherry Boy วีดีโอการแข่งขัน และ ชนะ นายอมยิ้ม ได้แชมป์ Naksu 2009 รุ่น -75 กิโลกรัม วีดีโอการแข่งขัน
- James Bond - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2010 ชนะ โอ๊ตตี้ วีดีโอการแข่งขัน และ ชนะ สมิงวายุ วีดีโอการแข่งขัน ได้แชมป์ Naksu 2010 รุ่น -60 กิโลกรัม
- เพชรสิงขร - ลงแข่งขันรายการ War in the Cage ครั้งที่ 3 และ 4 ได้แชมป์ War in the cage ครั้งที่ 4 ในรุ่น -61.2 กิโลกรัม วีดีโอไฮไลท์ และ แข่งขันในรายการ MMA อาชีพ Cage War เอาชนะ ฮีม วีดีโอการแข่งขัน และ ลงแข่งรายการ Full Metal Dojo เอาชนะ Lee O วีดีโอการแข่งขัน
- บ้านช่างไทย ก่อตั้งและดำเนินการสอนโดยครูเล็ก มีการส่งนักมวยเข้าแข่งขันในหลายรายการ โดยมีนักมวยที่ลงแข่งขันมีดังนี้
- เต้ ไชยา - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2009 ในรอบคัดเลือกเอาชนะ โยโย วีดีโอการแข่งขัน และ รอบ 8 คนเอาชนะ The Dragon วีดีโอการแข่งขัน
- อ๊อฟ - ลงแข่งขันรายการ Naksu 2009 ในรอบคัดเลือกเอาชนะ ขนมต้ม วีดีโอการแข่งขัน
- Eddie - ลงแข่งขันในรายการมวยไทยหลายรายการ อาทิ MBK FIGHT NIGHT วีดีโอการแข่งขัน / เวทีคลองสาน วีดีโอการแข่งขัน / เวทีอยุธยา วีดีโอการแข่งขัน
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- เปิดตำนานยุทธจักร 5 สำนักมวย - Daily News - Manager Online[]
- สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้ เล่ม 12. กทม. มูลนิธิสารานุกรมไทย ธนาคารไทยพานิชย์. 2542
แหล่งข้อมูลอื่น
- มูลนิธิมวยไทยไชยา MuayThaiChaiya (บ้านครูแปรง)
- บ้านช่างไทย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mwyichya epnsilpamwyithypracathinxaephxichya cnghwdsurasdrthani michuxesiyngmaksmyrchkalthi 5 6 cnminkmwycakichyaidrbphrarachthanbrrdaskdiepnhmunmwymichuxprawtikaenidmwyichya miwdekaaekxryyikchuxwdthungcbchang epnwdrkrangxyuinparimthangdanedimthicaipxaephxichya wdnimichuxesiyngephraasmpharsungchawbaneriykwa phxthanma epnchawkrungethphidhlbhniipxyuemuxngichyadwyeruxngidimprakt phxthanma idfuksxnwichamwyithyaekchawichyacnkhunchuxwaepnemuxngmwy aemthukwnninkmwythiprarthnakhwamswsdimichy txngrayramwyepnkarthwaykharwahnathibrrcusphkxnthicaphanip mwysurasdrhruxmwyichyacungmichuxesiyngtlxdma mwyithyichya cakhlkthanaelakhabxkelannerimtnthi phxthanma immiikhrthrabwathanmichuxcringwaxyangir thrabaetephiyngwathanepn khrumwyihy cakphrankhr bangkwathanepn khunsuk aemthphaehngkrungrtnoksinthr chawemuxngcungeriykephiyngwa phxthanma thanidedinthangmathiemuxngichya aelaidthaythxdwichakartxsuiwihaekchawemuxng aelasisythithaih mwyemuxngichya epnthiruckmakthisudinyukh r 5 khux phrayawcistyarks kha sriyaphy prmacary ekhtr sriyaphy ekhyklawiwwa thayangsamkhum khxnghlwngwisaldrunkr xn sarikbutr xacaryorngeriynswnkuhlab ph s 2464 sungepnsisyexkkhxng prmacary phraichyochkhchkchna xn ecakrmthnayeluxkkhrumwyaelakhrukrabikrabxngphukraeduxngnam inrchsmy r 5 aelaprmacary khunyisansrrphyakr khruaesngdab khrumwyaelakhrukrabikrabxng luxchux insmy r 6 nnmikhwamkrachbrdkum trngtamaebbthayangsamkhumkhxng thanma hlwngphx khrumwyaehngemuxngichya thannbepntnsaykhxngmwyichya mrdkxnlakhakhxngkhnithy salaekahxng hlngcakthikaenidmwyichyakhunaelw kickardannikecriyrungeruxngkhuntamladbkarchkmwycungepnkilasakhyxyanghnungsahrbethskal nganchlxnghruxsmophchtang aelamaecriysungsudkhrnghnungkhuxsmysalaekahxng salaekahxngnitngxyuinthxngthi srangody srangkhunepnsatharnsmbtisalanisrangkhnankbthangedin thangdan miesaimtaesa 30 tn esadanhnaepnehliym aethwklangaelaaethwhlngepnesaklm rahwangesasxngaethwhlngykepnphunpukradansungcakphunpraman 1 emtr swnrahwangaethwhnakbaethwklangepnphundin yawcakthistawnxxkipthistawntk yawpraman 13 wa 2 sxk swnkwangpraman 3 wa hlngkhalila mungsngkasi mibxnathangthistawntk 1 bx pccubnsalaekahxngedimidthukruxthxnodynaycxn sriyaphy lukkhnthisamkhxngphrayawcistyarks emuxxxkcakrachkarkrmrachthnthaelaklbipxyubanedimthiichyayngkhngehluxiwaetephiyngbxnasungaetedimkrudwyimkradan aelatxmarasdridchwyknslathrphyhlxsiemntesrc emuxpi 2471 aelasrangsalaihmkhunthidantawnxxkkhxngsalaedimaetmikhnadelkkwayngkhngmixyukrathngpccubn nxkcakcaichepnthiphkkhnedinthangaelw salaekahxngaehngniyngichepnthismophchphraphuththrup enuxnginnganaehphraphuthththangbkineduxn 11 khxngthukpipracaemuxngichyaxikdwy aelainnganaehphraphuththrupthangbkaelangansmophchni thikhadimidkhuxkarchkmwyepnkarsmophchepnpracathukpidwy karchkmwythisalaekahxng emuxthungethskalaehphrabkpracapi camikaraehphramathisalaekahxngaelathakarsmophchthinn prachachnthwiprwmthngecanaykipphrxmknthisalaekahxngaehngni inkarninkmwykhxngaetlaaehngkcaedinthangephuxcbkhuchkkn emuxkaraehphraphuththrupmathungsalaekahxngkerimphithismophch khrnewlankmwycaipchumnumknhnasala oymiphrayaichyaepnprathan karcbkhumwyinsmynnimmikarchngnahnkephiyngaetihruprangphxfdphxehwiyngknkepnkarichid hruxtharuprangtangknmak ktxngaelwaetkhwamsmkhrickhxngkhutxsu ephraakhnsmykxnimehmuxnkbkhnsmyni bangkhnokrthknkthuxexaoxkasnimatxsukntwtxtwtxhnaprathankaraetngkaykhxngnkmwykarphnhmd thieriykwahmdthknnemuxphuididkhuchk thangfaycdraykar caaeckdaykhnadotkhnlamwn emuxiddaydibaelwnkmwykcanadaydibnnekhaphumipihphrrkhphwkchwykncbepncb hnungcbelkkwaplayniwkxyelknxy aelwtdxxkepnthxnyawpraman 4 5 emtr chnaerkthicaphnmuxcaichphaeriybphnmuxkxn chnthisxngsungcaphndwydaydibsungphrrkhphwkcakhwnepnekliywcnekidepnpmxyuthwip aelwphndwyphaeriyb aelwphndwydaythithukhwnepnekliywcnekidpm phnslbknechnnihlaychn karphnmuxcaphncnthungkhxmuxethannswnplayniwmuxcaphnkhunipphxthungkhxniwaerk ihkahmdidsadwk aelakhnathiphnmuxxyunn catxngichplayniwmuxkhxyaehyiwtamchxngniwmuxrawngimihaenncnekinip ephraathaaenncathaihkahmdimaennewlachk sungxacthaihekidxntraythungniwmuxhkinkhnatxsuemuxchkodnkhutxsucng odynkmwyichyacakhadechuxkaekhbriewnkhxmux swnnkmwysayxun echn nkmwyokhrach cakhadechuxkthungbriewnkhxsxkephuxichrbxwywuthtangkhxngkhutxsu aela nkmwysaylphburihruxnkmwyphakhklangxunechn mwyphrankhr cakhadechuxkthungbriewnklangaekhnkarphnlukopa kracb inkarphnlukopacaichphasxngphun phunaerkcaichphakhawmakid hruxphachnidxunthiyawphxsmkhwr phunthisxngcaichphaxairkid withiphncaichphaphunaerktangekhmkhd plxychaykhanghnungyawplaykhanghnungcaphukepnpmhmdchaypha plxykhangyawlngipkhanglang swnphunthisxngcamwnepnkxnklm khlaymwnthunhruxphathimwnrxngbnsirsakhnathunkhxngthiknimeriyb ichphaphunniwanglngthbaethnkracb ichchayphathiplxyihhxylngkhxngphunaerkkhadthblngip aelwetachayphaswnnnekharahwangkhadungihtungipphukchaythiehluxekhakbswnthiphukaethnekhmkhdthidanhlngpraeciyd epnekhruxngswmsirsalksnaechphaakhxngnkmwyichya swnnkmwyphakhxuncaswm mngkhl aethn praeciydnncathaepnlksnaaebnmakkwathaihklmmikarlngkhathaxakhm lngekhruxngpxngkntang khnachkthapraeciydhludkykmuxkhxekbmaswmesiyihmid wtthuprasngkhthisakhyxikxyanghnung kkhuxkarpxngknmiihesnphmlngpidhnainkhnathikalngthakartxsuktikasahrbinkartxsuichaemimmwyithyidthukrupaebbimwacaepn hmd etha ekha sxkinkartxsuichcanwnyk 5 yk aelaichykewiyn hmaykhwamwawnnncbmwyidkikhu swnihy 5 6 khu kcachkknkhula hnungyk odykhuthi 1 chkykthi 1 kekhaphum thisahrbphknkmwy khuthi 2 khunchkykthi 1 aelaykthi 1 cnipthungkhusudthay khuthi 1 cungcachkykthi 2 aelwewiynipcnthungkhusudthay khuthi 1 cungkhunchkykthi 3 karchkcaptibtiechnnicnkhrb 5 yk aetthamikhuidaephchnakxnknktdkhunnip swnthiehluxkcaewiynipdngthiklawmaaelw ktikakarhmdykmi 2 aebbkhux k aebbthi 1 emuxmifayidephliyngphla imsamarthpxngkntwid kykmuxkhxbxkewlahmdyk ephuxekhaphumaekikhxakarthiephliyngphlann aelakhawa yk thiichkninthukwnniknacamikhwamepnmacakxakarthiykmuxdngklawaelwkxacepnid kh aebbthi 2 inkhnachkekhacaichluklxyecaaknlxynaaebbthiichinkarchnikaetedim emuxluklxycmnaecahnathikcatiklxngbxkhmdyk ephuxihkhutxsuidekhaphumephuxaekikh ihnaaelaaenanakaraeklukimmwyswnkhutxipkcakhunchkkntxip sahrbdntrithiichmipiaelaklxngyawpraokhmkxnaelakhnathakartxsuthum thb cb hk inmwykhadechuxkthum thb cb hk inmwykhadechuxknnepnklmwychnsung thiphufukcatxngeriynruphunthan karbriharrangkayephuxphahuyuththphrxmfukfnthayangsamkhumtamaebbkhxngaetlakhru eriyk thakhru rwmthngaemimtang echnkarxxkxawuth pxngpdpidepid pxngkn txbotihechiywchaydiaelw cungcasamarthaetkaemimkl lukim klrb klruk lxhlxk hlbhlik thngyngtxngfuksaaelwsaxikephuxihichxxkip cungcaekidkhwamkhm eddkhad runaerng thwngthalilangdngam ekhmaekhngdngic echnthakhrumwyichya thayangsamkhumkhlumaednyks nnidchuxwamikhwamrdkumechiybkhm cnsamarthchnakaraekhnghnaphrathinngsmy r 5 emuxkhrawcdihmingan n thungphraemru pxmephdcdskr krungethph khux nayplxng canngthxng thisamarthich thaesuxlakhang ocnekhacb thumthbcbhkprpkscnmichy idrbkaraetngtngihepn hmunmwymichux thathiichcbthumrbkarcuocmdwy eta thib ekha xyang thxnywng nn samarththumoynprpksxxkip hribcbkdhwihpkphunaelwthbdwyknhruxekhaid hakepnkarrukdwyhmdnnihaekdwy khunyksphanang hrux khunykscbling sxkaekdwy phraramhksr aelayngmithaxun xikmak thikhrubaxacaryaetobranthanmiidkahndchuxexaiw thnghmdniphuichcatxngruekhldpxngpdpidepid aelaklprakbprakbcbrng epntharwmephuxekhacbhkdwymux hruxekiywkwddwythxnaekhn lewthichkmwykarchkmwyichya inyukhaerkchkthi odythisalaekahxngmibriewnthichkmwykkhuxsnamhnasala camiecahnathipkhlksihlkaelwichechuxkpankhnadihy echuxkphwn khungkbhlksamsisay odyinsalacamiecanay aelaecahnathifaytangkhxngemuxngichyacaphkxyuinsalaephuxchmkarchkmwythukkhrngip ewthimwywdphrabrmthatuichya emuxkarchkmwythisalaekahxngtxngmixnlmelik enuxngmacaksalaklangthukyayipxyuthibandxn phrayaichyakipepnecaemuxngthibandxndngthiklawmaaelwintxntnrwmthngidyaythiwakarxaephxmaiwthixaephxichyainpccubnkekidsnammwyaehngihmkhunthibriewnsnamwdphrabrmthatu ephraainsmynnwdphrabrmthatuminganpracapiineduxn 6 khxngthukpi karcdihmikarchkmwykkhunthisnamaehngnidwy odykhrngaerkchkbnlandinehmuxnthisalaekahxng thitngsnamxyurahwangphraewiynkbthnnthitdphanhnawd sungthnnthiphanthukwnniaetsmynnyngimmikaaephngaekwehmuxnpccubn karchkaelaktikakehmuxnthisalaekahxngthukprakar catangknthisnamwdphrabrmthatumikarekbengin odyichpikehyiyw ibtalotndphasikaelwaelwonmmaphuktidkbkanib knepnbriewnsnamaelaenuxngcakkilamwyepnthisnickhxngprachachnodythwip phrakhruosphnectsikara exiym ehnwamihnthangthicaekbenginepnrayidbarungwd cungdarikhidsrangewthimwythawrkhunthisnammwyaehngni odyihnayphkdi ladbwngkh epnphuxxkaebbkxsrang naycxn aesngsiththi epnnaychang nayrwng echingsmx epnlukmuxchang aelasrangesrcinpi 2474 odythanphrakhruosphnectsikaramepnphuxxkkhaichcay thngsin praman 500 bath ewthiihmaehngniichthangehnuxkhxngsthanthiedimipelknxy odyeluxniklthnnekhaipxik lksnakhxngewthi epnesapunsiemntesrimehlkhna 8 niw canwn 4 tnkwangaelayawdanla 4 wa ethkhxnkritethahnaesathng 4 dan sungcakphundinpraman 1 emtr trngklangthmdin esasung 6 sxk hlngkhamungsngkasi imthiichepnimhlumphxodytlxdechphaaekhruxngthahlngkha smyerimaerk karchkykelikhmdthkmaichnwm ykelikykewiynmaepnyktlxd khuxaetlakhuchkkncnkhrb 5 yk aelwcungepnkarchkkhxngkhutxip ktikakarchkehmuxnpccubn karcdsnamaelaewthi snamcakndwyphakhaw ewthiknechuxkaebbpccubn rxbkhxbechuxkdannxkcntidkhxbkhxnkritmitnklwywangeriyngodyrxbephuxpxngknxntrayihaeknkmwy phunewthisungthmdiniwthukputhbdwyaeklbhruxfangkhawaelwputhbdwykrasxbpan sungtxmacungidepliynmaichphaib karcbewla ichnalika karihsyyankarchkaelahmdewlaichrakhngkhxng ekhruxngdntriichpiepnhlkaelaichklxngyawchwyinkarpraokhm ekhruxngkhyayesiyngimmiich txngichothrokhngthngprakasaelaphakymwy naychm culklp epnphuprakaspracaewthiepnkhnaerk krrmkar krrmkarhammwykhnaerkkhxngewthi khux nayxmor xmrbutr khnthisxng khux nayphnth thiphymni smydarngtaaehnngpldxaephxthachang khntxmakhux naychm culklp sungkhnanndarngtaaehnngpracaaephnkxyuthiwakarxaephxichyasmysinsud hlngcakphnyukhaerkmakarchkkmikarepliynaeplngcnekharupaebbkhxngpccubnthukprakar aetemuxsinsmykhxngphrakhruosphnectsikaram exiym thanecakhunphuthththas insmynn kihykeliknganmhrsphaelanganpracapi khngrksaiwaetphithithangsasna aetkmiphukhidepliynsthanthichkaelasthanthicdnganipiwthisnamhnathiwakarxaephxichya aetcdidimkipiktxngmixnlmelikkarcdngannnip sunghlngcaknnkmikarchkmwyinngantangcnkrathngthungthukwnni nkmwyfimuxexkkhxngithythiekhyphankarchkthiewthiaehngnimihlayray xathi caeriy thrngkitrtn oktxng aekwxaiph klyuthth luksurinthr buythrrm aesngsuethph isw aesngcnthr aela echid cuthaephchr karruxthxnewthiaehngni saehtuthitxngthakarruxthxnewthiaehngni kephuxthicaetriymsthanthiephuxrbesdc smedcphrabrmoxrsathirach inkhrawykphrasuwrrnchtrphrabrmthatuichya emuxwnthi 4 knyayn 2525 odythakarruxthxnemuxwnthi 12 tulakhm 2524 phukhwbkhumkarruxthxnidaek naynukul buyrksa khruihyorngeriynwdphrabrmthatu sungxditekhyepnnkmwyfimuxdithiekhyphankarchkthiewthiaehngnimakxn thanbxkwaesiydaykhxngekaaetcaepnthitxngruxthxnrangwlinkarchksmynn epnkarchkephuxsmophchphrathiaehthangbkepnpracathukpi aetfayphucdihmimwyinkhrngnnsungthukkhncaklawechnediywknwaenginrangwlthiidcaidcakphrayaichya ephraainsmynnkarchkmwyimmikarekbengin dngnnrangwlthiidcamiimmaknk khnlabathsxngbathhruxmakkwannktxngaelwaetfimuxhruxkartxsuaetlakhuhruxkhwamphxickhxngecanay aetswnihycaidethakn khrnemuxngichyathukrwmkbaelayaysalaklangipiwthibandxn phrayaichyaidrbkaroprdeklaihepnecaemuxngthibandxn emuxngichyacungimmiecaemuxngtngaetnnma karchkmwythisalaekahxngktxngmixnlmelikip aetenuxngcakichyaepnemuxngmwy kyxmcamikarchkmwyekidkhunthiaehngihm aelasthanthiaehngnnidaeksnammwywdphrabrmthatuichyakxngmwytngaetthimikarchkmwythisalaekahxngaelwnnemuxngichyaidekidmikxngmwythisakhyekidkhun 4 kxng khuxkxngmwybanewiyng kxngmwypakthx kxngmwybanthung kxngmwyphumeriyng aetlakxngcaminaykxng 1 khn thaepnpccubnkidaekhwhnakhnamwy aelanaykxngmihnathirbphidchxbnkmwyinkxng ephraankmwyinkxngcaidrbsiththiphiesstangtamkhwamsakhy dngni echphaakxngmwykhxnghmunmwymichux plxng canngthxng idrbkarykewnimtxngesiyphasirchchu canwn 25 khn swnthiehluxtxngesiyphasinikhnla 4 bathehmuxnbukhlxunthwip karichkalngoytha kareknthichaerngngan klawkhuxinsmynnmikareknthichaerngnganephuxsrangthanghruxsatharnsmbtixun thukkhninemuxngichyayxmthukeknthaerngnganipichodyimmikhatxbaethnepnenginthxnghruxsingkhxngthukkhncatxngipthangantamkareknthnn ykewnbukhkhlthixyuin kxngmwy sungcaimthukeknthaerngnganehmuxnkhnthwip bukhkhlinkxngmwy mihnathifitsxmmwy aelaetriymtwihphrxmephuxthicaedinthangipchkthukaehngtamthithangrachkartxngkar xyangechnnganechlimthibandxn nganrbesdcrchkalthi 6 thibn phunphin naykxngmwycatxngnankmwykhxngaetlakxngipchk aetkaripnnidrbkaryunynwa nkmwythiipcaidrbebiyeliyng tamladbdngni khux 3 bath 2 bath 1 bath aela 50 stangkh echnhmunmwymichuxcaidwnla 3 bath naykxngxun 2 bath nkmwysakhykhnla 1 bath swnnkmwysarxnghruxluknxngcaidkhnla 50 stangkh aelacaidrbebiyeliyngcnkwangannncaelikhruxthungwnklb caehnidwankmwymikhaaelamikhwamhmaymakinsmynn epnbukhkhlthimiekiyrti dngnninkarekhakxngmwy naykxngcaepnphuphicarnacakruprangkhxngphuthimasmkhrwaphxcaepnnkmwyidhruxim aelakmimakehmuxnknthiekhakxngmwyodyhwngsiththiphiess aetmikhxaemthinasngektkhuxbukhkhlthicaekhakxngmwyidtxngsxmcring ikhrhlbhliknaykxngmisiththikhdchuxxxkthnthi karkhdchuxxxkthaihesiysiththithiklawmaaelwnndwykhaymwythisakhykhxngichyaaelankmwyexkkhxngkhaykhay s pksi epnkhaymwythiekaaekmak phuihkaenidkhayniidaek naynil pksi nkmwyfimuxeyiymluksisyphrayaichya nkmwyexkkhxngkhayniidaek nayeniym pksi lukchaynaynil pksi nayphrhm rachxksr phuekhypathankmwyfimuxeyiymcakemuxngkrung echn swy cuthaephchr isw aesngcnthr eluxn phupraesrith aela thxngxyu thwisin pccubnyngmikhnlukhlankhxngskulpksibwchepnecaxawaswdphumeriyng khaychyphirmy phukxtngkhaymwyniidaek naynuy xksrchun saehtuthitngkhaymwyephraaehnwakhadkhrumwythicafukhdedkhnuminhmubanaelaehnwawichamwycasuyhayip cungtdsinictngkhaymwy odyechphaanaynuyexngepnsisykhnhnungsungekhyfukmwymacakhmunmwymichuxaelasaehtuthitngchuxkhaywa chyphirmy kephraaepnchayakhxngnaynuythiidmacakcnghwdphuektkhrawchkkbnayepluxng nkchkcakkrungethphaelaidrbchychnaephraaepnkhniceynchkdwykhwamsukhumrxbkhxb sahrbnkmwyexkkhxngkhaynikmihlaykhnechn nayhnuekhluxb phnthumas phuichchuxinkarchkmwywa smcit aelaekhyedinthangekhachkinkrungethph odyichchuxsmcit chwiwngkh ethng pccubnthanphunibwchxyu tablelmd xaephxichya bwchthiwdhnaemuxngpccubnepnwdrang khaywngkhichya phutngkhay wngkhichya khux naycxy ehlkaeth epnsisykhnhnungkhxngnaynil pksi ehtuthitngchuxwngkhichya ephraatxnedinthangekhachkmwythikrungethph aemkhun epnkhaeriykkhunnaychun sriyaphy khxngnaycxy epnphutngchuxchkmwyihwa eniym wngkhichya aelathiihchuxechnnnkephuxihepnthiralukkhxngbanekidkhxngaemkhunkhuxichya cungthuxexa wngkhichya epnmngkhlnammatngepnkhayephuxfukhdsisy khrumwykhxngkhayninxkcaknaycxyexngaelw yngmiphuchwyxikkhn khuxnaybuy aehngbankhnxn aetichchuxkhnawa s wngkhichya nkmwythimichuxesiyngmakkhux naypricha aehngbankhnxn tablthung xaephxichya sahrbkhnamwy s wngkhichya tngxyuthibankhnxnkhaybarunghiry khnabarunghirytngkhayxyuthibanthaophthi hmuthi 1 tablthung xaephxichya phutngkhnamwynikhuxnay nkmwyesuxsamarthewthiwdphrabrmthatu odyfukmwymacaknaynaw sungekhyekhachkochwfimuxinemuxngkrungmaaelwsmyhnung aelaekhyrbphrarachthanhnaesuxmaaelw saehtuthitxngtngkhaymwy kephuxfukedkrunhnumbanthaophthi aelaxiksaehtuhnungkephraaewthimwywdphrabrmthatuidhamimihnkmwythiimmichuxkhnakhunchk nkmwyexkkhxngkhaynimi thksin barunghiry ephchrsuwrrn michiwit ech barunghiry xinthckr esiychiwitelw yi barunghiry xinthckr pccubnmiphumilaenaxyuthixaephxbangsaphan cnghwdpracwbkhirikhnth ethiyng barunghiry xinthckr pccubnmiphumilaenaxyuthicnghwdtrng plxd barunghiry mnirtn ecakhxngchayaixmnusyrththng pccubnxyubanelkhthi 24 hmuthi 3 tablelmd xaephxichya wchra barunghiry sinthwachiwa pccubnxyubanpakthx tablelmd xaephxichya prayngkh barunghiry srisuwrrn ixcxmthrhdkhxngkhay pccubnxyuthibanthung tablthung xaephxichya khna n sriwichy phukxtngkhayni khuxnaybuysng ethphphiml odyerimhdmwycakkhunta xditnaykxngmwybanewiyng khuxkhuntaerik swnkhunpukepnnkchkfimuxeyiym khux punuch ehtuthitngkhaymwykehmuxnkbkhaybarunghiry aetthitngchuxechnnnephraabanewiyngepnthitngemuxngekasmysriwichy aelalanfuksxmkxyuinbriewnkaaephngemuxngsahrbnkmwyexkkhxngkhaymi wira n sriwichy ih buyehmuxn nkchkhmdhnkkhxngkhay aelayngepnkhutxsuthiprachachnyngphudthungkhwamsnuksnanaeladueduxdthukkhrngthichkkb suwrrn rim s yxdicephchrnkchkcxmthrhdkhxngbanphumeriyngodyechphaankchkkhnniekhypathakbbuythrrm withichy maaelw pccubntngbaneruxnxyuthibanewiyng xaephxichya chingchy n sriwichy ekhiyn khngthxng phuekhyprahmdkb skdichy nakhphykhkh pccubnrbrachkarepntarwcxyuthicnghwdphuekt khlxng n sriwichy khlxng echuxklb darasxkklbekhychkkbchay eluxdemuxngit pccubntngbaneruxnxyuhnawdtharnaihl x ichya yk ethwin iw chay ih n sriwichy samphinxngtrakulephuxkswsdi nakh prida n sriwichy skdiephchr sxngphinxnglukchaykhnhnungkhxngyxdmwyemuxngichya khux naysxn skdiephchrodynaynakh mi chaya ixep ephraakhaphikaraetdwyeluxdkhxngmwyichyaodyaeth cungkhunewthichkthngkhaep aelaidrbchychnaepnswnihy swnnxngchaykhuxnayprida epnnkchkcxmmuthalu pccubnnaynakhesiychiwitaelw nayprida daeninthurkicswntw daeninthurkicswntwxyuthibansaphancnthr hmuthi 3 tablewiyng xaephxichya naynukul n sriwichy buyrksa ixesuxhmdsayphuekhytxsukbsmic luksurinthr khnachysiththi phutngkhaymwyaehngnikhux naykimchun chysiththi phusungidrbkarfukhdwichamwymacakxacaryaesng aelanaynuy xksrchun pccubnesiychiwitaelwthicnghwdchumphr khaynimisakhaaeykxxkip thngtablthungaelatablpaew nkmwyexkkhxngkhaynithiphxcaruidkmi ma issaxad kanntablpaewinpccubn aeph chyxinthr kanntabltladichya phrxm iwthyinthr pccubntngbaneruxnxyubanpakdan tablelmd xaephxichya khna s singhchy epnkhnamwythiekidkhunphayhlng aetkminkchkthimichuxesiyng echn nb s singhchy thxngsali cxmsxkhnahyk pccubntngbaneruxnxyubandxnod tablelmd xaephxichya ebiyw s singhchy ixkaaephngemuxngcinkhxngichya phuepntwyunkhnhnungthikhxyrbmuxnkchkcaktangthin odyechphaathiedinthangmacakkrungethph pccubnesiychiwitaelw nxkcakkhnathiklawmaaelwkmikhnamwyxunxik echn chypradisth s yxdicephchr aetinpccubnninkmwythikhunchkthiepnnkmwyichyaaelwcaichkhnaxunekuxbthnghmd ephraainchwngniikhrthiekhychkmwychnaskkhrnghruxsxngkhrngksamarthtngkhnamwyid sungepnkaryakthicakhnkhwa cungmiephiyngaetechphaakhaymwythimimaaetedim aelamichuxesiyngmakxnmwyichyayukhpccubn hlngcakewthithimwywdphrabrmthatusinsudlngwngkarmwyichyakerimesuxmlngcnthungthukwnni cnaethbidklawwa mwydngkhxngichyakalngcahmdip ephraakhadphusnbsnunthiaethcring thngthikhnichyayngkhngmisayeluxdnksuxyuetmtw khwamepnemuxngmwykalngsuyipephraakhadphunathicringcng rwmthngpyhathisakhythithaihwngkarmwyesuxmlngthukwnnithiehnidednchdkhuxkarphnnkartxsuphlpraktcaxyuthikarphnnepnswnihy imidxyuthifimuxnkmwy mwyichyacungesuxmthxylng cungmiphuprarthnathicaplukwiyyankhxngkhwamepnnksukhxngemuxngmwyinxditxxkmaaesdngihehnepnthipracks ephuxthicaidnachuxesiyngmasuemuxngmwyechninxdit ehmuxnthi hmunmwymichux ekhythaiwaetkxnxditmwyfimuxeyiymemuxngichyaxditmwyfimuxeyiymemuxngichya thiepnthiruckkndiidaek hmunmwymichux plxng canngthxng sxn skdiephchr nil pksi nkchkphuphikar eniym pksi buysng ethphphiml etm knha nuy xksrchun chyphirmy hmik nilcnthr phulbrxyaekhnihnaysxn skdiephchr emuxnaysxn skdiephchr txngprasbkhwamphayaephihaek hmdlukww aehngemuxngsngkhlacnthungthin naysxnidphkphakhwamaekhnklbichya odyhwngthicaklbipaekmuxihid aetemuxkhawkarphayaephkhxngnaysxn ruthungnayhmik ephuxnphuekhytaluyemuxngkrung aelaepnsisyfimuxeyiymkhxnghmunmwymichux nayhmikkribedinthangipemuxngsngkhla aelakhxtxsukb hmdlukww inkartxsukhrngnn nayhmikidrbchychnaxyangngayday emuxidrbchychnakklayepnkhwyickhxngphuchm aelakarchkkhrngnnepnkarchkkhrngsudthaykhxngnayhmik ephraacakkarethiywemuxngsngkhlakhrngniexng nayhmikkidrborkhraycnimsamarthkhunchkmwyidxikcntlxdchiwit cxy ehlkaeth nkchkphuimtxngkarrangwl nxkcaknkchkthiidklawmaaelw yngminkmwyfimuxeyiymaelaidrbkarklawkhwythungxikhlaykhn echn ewch canngthxng nxngchayhmunmwymichux sngkh skdiephchr phichaynaysxn skdiephchr nxy bunyektu hlanchayhmunmwymichux phuekhyekhachkmwykhrawhaenginsuxpunihkxngesuxpa aelaidrb hnaesux epnekhruxngechidchuekiyrti nxkcaknnyngmi nayenin khumrks nayewiyng naynity naycxn naycn naythxng naykla khntablbanelmd luksisyhmunmwymichux nayehuxy nayhyxy mwytablbanewiyng luksisy naynuch ethphphiml aelankmwythiklawthungniepnnkmwythiekhyedinthangekhaemuxngkrungephuxekbenginsuxpunihkxngesuxpaaelathaikhridrbchychnakcaid hnaesux epnekhruxnghmayechidchuekiyrtithukkhn pccubnminkchkthimisayeluxd knha etmtwidaek crrya lukknha sungepnhlanchay naykhlxngaelanayetm aelaidklaymaepnnkmwymichuxesiyngkhxngphumeriyngmarayahnungkhrumwyichyathimichuxesiynginyukhpccubnnpphph pramwy khruaeprng khruelk nkmwyichyainyukhpccubnhlngcakphanyukhykelikkarkhadechuxk nkmwyichyakmikarkhunaekhngkhninewthitangimmaknk thaihkhninpccubnmxngwa mwyichyaepnephiyngmwyaesdng ikhngancringimid inpccubnkminkmwyichya cakhlaysankkhunaekhngkhninraykartxsunxkehnuxcakewthimwyithy echnkaraekhngkhn MMA Mixed Martial Art raykar Naksu raykar War in the cage raykar DARE raykar Cage War raykar Full Metal Dojo epntn sanksunysuksasyamyuththbankhruaeprng kxtngaelafuksxn odykhruaeprng npphph pramwy mikarsngnkmwyekharwmkaraekhngkhninhlayraykar odyminkmwythisamarthepnaechmpaelarxngaechmpkhxngraykartangiddngni smingwayu lngaekhngraykar KOF chna mngkrfa widioxkaraekhngkhn chnasuchati epnaechmpraykar Naksu pi 2008 widioxkaraekhngkhn ochti yxdsmy lngaekhngraykar KOF chna Bing aela aephxacarywchra idrxngaechmp Naksu 2008 widioxkaraekhngkhn EZ2DJ lngaekhngkhnraykar Naksu 2009 chnakaraekhngkhnthwrnaemnt 3 rxb rxbthi 1 rxbthi 2 rxbthi 3 idaechmpraykar Naksu 2009 inrun 57 kiolkrm aela epnnksuinraykar MMA xachiph DARE pccubnepnokhchkhxngthimnksubankhruaeprng lukphraphay lngaekhngkhnraykar Naksu 2009 chna smingda widioxkaraekhngkhnaela aeph emths idrxngaechmp Naksu 2009 run 60 kiolkrm widioxkaraekhngkhn khiriedch lngaekhngkhnraykar Naksu 2009 chna Cherry Boy widioxkaraekhngkhn aela chna nayxmyim idaechmp Naksu 2009 run 75 kiolkrm widioxkaraekhngkhn James Bond lngaekhngkhnraykar Naksu 2010 chna oxtti widioxkaraekhngkhn aela chna smingwayu widioxkaraekhngkhn idaechmp Naksu 2010 run 60 kiolkrm ephchrsingkhr lngaekhngkhnraykar War in the Cage khrngthi 3 aela 4 idaechmp War in the cage khrngthi 4 inrun 61 2 kiolkrm widioxihilth aela aekhngkhninraykar MMA xachiph Cage War exachna him widioxkaraekhngkhn aela lngaekhngraykar Full Metal Dojo exachna Lee O widioxkaraekhngkhnbanchangithy kxtngaeladaeninkarsxnodykhruelk mikarsngnkmwyekhaaekhngkhninhlayraykar odyminkmwythilngaekhngkhnmidngni et ichya lngaekhngkhnraykar Naksu 2009 inrxbkhdeluxkexachna oyoy widioxkaraekhngkhn aela rxb 8 khnexachna The Dragon widioxkaraekhngkhn xxf lngaekhngkhnraykar Naksu 2009 inrxbkhdeluxkexachna khnmtm widioxkaraekhngkhn Eddie lngaekhngkhninraykarmwyithyhlayraykar xathi MBK FIGHT NIGHT widioxkaraekhngkhn ewthikhlxngsan widioxkaraekhngkhn ewthixyuthya widioxkaraekhngkhnduephimxaephxichya cnghwdsurasdrthanixangxingepidtananyuththckr 5 sankmwy Daily News Manager Online lingkesiy saranukrmwthnthrrmithyphakhit elm 12 kthm mulnithisaranukrmithy thnakharithyphanichy 2542aehlngkhxmulxunmulnithimwyithyichya MuayThaiChaiya bankhruaeprng banchangithy